คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : [Special : Not+North] ฟ้าฝนไม่เป็นใจ ch.1
ณ เช้าอันแสนสงบสุขของบ้านนัดกับนัด
สองพี่น้องต่างสายเลือดพากันตื่นขึ้นมาแต่เช้าเพื่อทำกิจวัตรตามแบบอย่างของมนุษย์วัยหนุ่มไฟแรงที่ดีแต่หัววัน เริ่มจากการที่นัดหล่ออาบน้ำแต่งตัวแล้วลงมาทำอาหารเช้ารอ และนัดเท่ห์ที่พออาบน้ำเสร็จก็มาช่วยนัดหล่อจัดโต๊ะอาหารเตรียมรับประทาน บทสนทนาของคนในครอบครัวเดียวกัน เริ่มตั้งแต่เรื่องยุบยิบอย่างเช่นน้ำยาปรับผ้านุ่มหมด ไปจนถึงเรื่องชวนปวดหัวอย่างงานในธนาคารของนัดหล่อและงานร้องเพลงในร้านอาหารของนัดเท่ห์ ถูกหยิบยกมาพูดให้อีกฝ่ายรับรู้เรื่องราวของกันและกันไม่ขาดปาก เป็นภาพสองหนุ่มครอบครัวเดียวกันที่สนิทกันได้อย่างน่าเอ็นดู ไม่แปลกที่เพื่อนบ้านต่างพากันรักใคร่สองหนุ่มจนต้องแวะเวียนมาหาบ่อยๆ ให้กลายเป็นซอยครอบครัวอบอุ่นประจำหมู่บ้านเสียอย่างนั้น
และเช้าวันนี้ก็คงเป็นเช้าอันแสนสดใสเหมือนทุกวัน ถ้าไม่ใช่ว่า...
“เฮ้ยพี่! อย่าทำงี้ดิ! เฮ้ย! หนังสือผม! เอาคืนมา!”
“อย่าหวงไปหน่อยเลยน่า! ยืมมาตบแมลงสาบแค่นั้นแหละ เดี๋ยวคืนให้! เฮ้ย! อย่าหนีนะเว้ยไอ้กระจั๊วะ!”
เสียงร้องโหวกเหวกลั่นของสองสมาชิกใหม่ในบ้าน ที่ตามมาด้วยเสียงลงบันไดหนักๆดังตั้งๆๆๆ ทำให้ทั้งนัดหล่อและนัดเท่ห์ต้องหยุดการกระทำทุกอย่างแล้วหันไปมองที่บันไดของบ้านด้วยความฉงน ภาพของสจ๊วตหนุ่มหน้าหล่อตี๋ที่สวมเครื่องแบบเป็นชุดสูทสีเทาอย่างดีกำลังถือหนังสือเล่มหนาลงบันไดมาด้วยความรีบร้อน ดวงตาคมของชายหนุ่มส่อแววหงุดหงิดเอาเรื่องจนน่ากลัว ท่าทางนั่นดูเหมือนเจ้าหนี้ที่ตามล่าลูกหนี้อย่างเอาเป็นเอาตายไม่ผิด
“เฮ้ยพี่! หนังสือนั่นผมยืมมาจากห้องสมุดนะ เอาไปตบแมลงสาบมะ...เฮ้ย!!” ไม่ทันที่ขาสั้นๆของหนุ่มนักศึกษาแพทย์จะก้าวลงมาถึงบันไดขั้นต่อไป เขาก็สะดุดขาอีกข้างของตัวเองจนดิ่งลงมาตามแรงโน้มถ่วง ร้อนถึงพี่ชายใหญ่ของบ้านทั้งสองต้องร้องออกมาด้วยอารามตกใจพร้อมกัน
“เฮ้ย!/เฮ้ยไอ้นอร์ธ!!”
และโชคดีที่เสียงนั่นกระตุ้นประสาทการรับรู้ของสจ๊วตผู้ล่าแมลงสาบจนต้องหันมามองข้างหลังด้วยความสงสัยระคนแปลกใจ จังหวะเดียวกับที่ร่างเล็กๆในชุดนักศึกษาโถมเข้าใส่เต็มรัก พากันกลิ้งล้มไปทั้งคู่...เสียงร้องโอดโอยเป็นสิ่งแรกที่ตามมาเมื่อเนื้อกระแทกเข้าพื้นอย่างจัง โดยเฉพาะนายน็อตที่ต้องแบกน้ำหนักร่างเล็กไว้อีกต่อดูจะปวดหนักจนเขาเองหงุดหงิด
“โว้ยไอ้เตี้ย! เมื่อไหร่จะเลิกซุ่มซ่ามซะทีวะ!?” ปากบ่นฉอดๆในขณะที่เจ้าตัวนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ ซึ่งพอนายนอร์ธที่หลับตาปี๋รู้สึกว่าตัวเองเจ็บน้อยกว่าที่ควรเป็น เลยลืมตามาเห็นว่าสจ๊วตหนุ่มเป็นเบาะรองให้ หนุ่มนักเรียนหมอเบิกตากว้างแล้วรีบลุกออกมาด้วยอาการลุกลี้ลุกลน
“กะ...ก็พี่นั่นแหละ ผมบอกว่า...” น้ำเสียงกระวนกระวายอย่างทำอะไรไม่ถูกของนอร์ธแสดงถึงอาการขัดกันเองในจิตใจ เขากำลังจะต่อว่าคนตรงหน้าตามความเคยชิน แต่พอเห็นแล้วว่าเจ้าตัวนิ่วหน้าด้วยความเจ็บเพราะเป็นเบาะรองรับให้ตัวเองก็ว่าต่อไปไม่ลง
“อะไรวะ ตัวเองล้มมาทับเองนะ ขอโทษสักคำก็ไม่มี แล้วนี่ยังจะมาว่ากันอีก เฮอะ!” น็อตมองอีกฝ่ายด้วงแววตาหงุดหงิดยิ่งกว่าเก่าก่อนเด้งตัวขึ้นลุกยืนอย่างไม่สนใจความเจ็บของตัวเองนัก อดีตนักเลงเก่านิ่วหน้าสักครู่ ริมฝีปากเม้มแน่นในขณะที่มือลูบกายส่วนที่สัมผัสพื้นอย่างแรง จนเมื่อเขาชินกับความเจ็บปวดแล้วจึงเดินจากอีกคนมา ดวงตาคมกริบไม่ลืมหันไปส่งซิกแนลให้ใครบางคนที่ยืนลุกลี้ลุกลนอยู่ตรงบันได ซิกแนลที่บอกว่า ‘จำไว้นะเว้ยไอ้เตี้ย’
“พี่ต้องขอโทษแทนไอ้นอร์ธมัน” เป็นนัดหล่อเสียเองที่เอ่ยคำขอโทษ น็อตเพียงพยักหน้ารับแล้วโบกมือปัดไปมา จึงค่อยหย่อนก้นลงบนเก้าอี้ไม้ข้างๆที่พี่ชายตัวเองนั่งอยู่
“ไม่เป็นไรครับพี่ แต่น่าเสียดายแทนนะครับ พี่ดีๆแบบนี้ต้องมีน้องเป็นคนแคระแถมนิสัยยังต่ำตามตัวแบบนี้อีก” คำเหน็บแนมนั่นปักเข้ากลางใจคนแคระที่กำลังเดินมาทานข้าวด้วยเข้าอย่างจังจนชะงัก นอร์ธหลบสายตาของนัดหล่อที่จ้องมองมาดุๆ ก่อนค่อยๆเดินมานั่งบนเก้าอี้ตรงข้ามคู่กรณีอย่างกล้าๆกลัวๆ
“จะไปว่าไอ้นอร์ธมันคนเดียวไม่ได้นา ต้องโทษไอ้น็อตมันด้วยที่ทำให้น้องเขาต้องเดินตามจนสะดุดบันได” เสียงของนัดเท่ห์ถึงกับทำให้น็อตหันขวับแล้วส่งเสียงแหว ในขณะที่นอร์ธใจชื้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัดแล้วดีดนิ้วแปะอย่างถูกใจ “ใช่เลยครับ! ทุกอย่างมันเริ่มตั้งแต่พี่น็อตเอาหนังสือผมไปตบแมลงสาบโดยไม่ขออนุญาต!!”
“อะไรนะไอ้เตี้ย!/อุ้ย!”
ท่าทางของสองคนที่เกิดขึ้นตามๆกัน ทำให้นัดหล่อและนัดเท่ห์นึกขำ อยู่ด้วยกันมาสักพักแล้วก็ไม่มีทีท่าว่าน้องชายทั้งสองคนจะเข้ากันได้เลยสักที มีแต่เรื่องกัดกันนั่นแหละที่เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย
“โอเค! เอาเป็นว่าผมขอโทษที่ล้มมาทับพี่ พอใจยังครับ!?” หนุ่มนักศึกษาแพทย์กล่าวอย่างเหลืออดเมื่อตนกับคู่กัดต้องมานั่งทำสงครามน้ำลายกันอีกระลอก ดวงตาหวานเป็นประกายจ้องมองอีกฝ่ายอย่างขุ่นมัว ไม่เข้าใจว่าทั้งๆที่ตัวเองก็มีส่วนผิดแล้วทำไมถึงเรียกร้องให้เขาขอโทษอยู่ฝ่ายเดียว ซึ่งทันทีที่คำขอโทษดังเข้าหู หนุ่มสจ๊วตก็เลิกคิ้วขึ้นพลางแบะปากกวนตีนอย่างน่าหมั่นไส้
“เฮอะ! ขอโทษห้วนๆงี้น่ะเหรอ”
นอร์ธถอนหายใจอย่างเสียไม่ได้ ก่อนค่อยๆลุกจากเก้าอี้ เดินไปนั่งย่อลงกับพื้นข้างๆคนตัวสูง เอาสองมืออุ่นประคองใบหน้าหล่อเหลาแล้วโยกไปมา
“โอ๋...ไม่โกรธกันนะครับพี่น็อต น้องนอร์ธขอโทษ น้องนอร์ธผิดไปแล้ว น้องนอร์ธไม่ได้ตั้งใจ พี่น็อตเลิกโกรธน้องนอร์ธนะครับ ดีกันเนาะๆๆ” น้ำเสียงโคตรเฟค ใบหน้ายิ้มเยาะ กับนิ้วเรียวที่พยายามแบะปากออกให้ยิ้มทำให้เส้นอารมณ์ตึงๆขาดผึง
“เว้ย!!! ใช่เพื่อนกันมั้ย!” พริบตาเดียวกับที่มือแกร่งคว้าเอวไอ้เตี้ยข้างหน้าที่กำลังจะหนีแต่หนีไม่ทันไว้แน่น นอร์ธดิ้นขลุกขลัก ยิ่งเมื่อโดนจี้เอวอย่างรู้จุดแล้วยิ่งดิ้นพล่านพลางหัวเราะก๊าก
ภาพตรงหน้าทำให้พี่ใหญ่ทั้งสองขำขันปนระอา น้องชายของพวกเขามักทะเลาะกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องเสมอจนเหมือนเด็กๆ ทั้งที่คนหนึ่งก็อยู่ในวัยทำงานแถมเป็นสจ๊วตหนุ่มรูปหล่อท่าทางดี ส่วนอีกคนก็เพิ่งบรรลุนิติภาวะทั้งยังมีดีกรีนักศึกษาแพทย์ แต่ประเด็นการทะเลาะกันก็หนีไม่พ้นเรื่องประเภทว่า ‘พี่มาก่อน/ผมมาก่อน’ ‘พี่อย่าหยิบของผมไปเล่นงี้ดิ/ไม่สนเว้ย ใครจะทำไม’ และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งทุกครั้งจะลงท้ายด้วยไม่ใครก็ใครจะถูกอีกฝ่ายทำร้ายร่างกายเสมอ (แน่นอนว่าส่วนมากแล้วนอร์ธจะเป็นคนหนี น็อตจะเป็นคนไล่)
“ฮ้า...พี่น็อต...พอ...กร๊ากกกกกกกกกกกก!!” หนุ่มนักศึกษาแพทย์ยังคงดิ้นขลุกขลักทั้งที่เริ่มหอบและเสื้อผ้าหลุดลุ่ย ผิดกับคนแกล้งที่ยังคงยิ้มสะใจและจี้เอวบางต่อไปด้วยความสนุก
นัดหล่อมองหน้านัดเท่ห์ นัดเท่ห์มองตานัดหล่อ
เมื่อไหร่ไอ้สองตัวนี้มันจะดีกันได้ซักทีวะ!?
------------------------------------------------------------------
เสียงจ้อกแจ้กจอแจของเหล่าผู้คนมากมายดังไปทั่วอากาศยานเหมือนวันอื่นๆ วงจรชีวิตของสถานที่แห่งนี้วนเวียนกันไปทุกวันอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยและไม่มีวันหยุดราวกับเซเว่นอีเลฟเว่น ทั้งวันจะมีผู้คนจำนวนมากพากันเข้ามาด้วยจุดประสงค์หลากหลาย ทั้งมาเพื่อโดยสาร มาเพื่อร่ำลา มาเพื่อต้อนรับ และอื่นๆอีกมากมาย และผู้คนเหล่านี้จะทำอะไรไม่ได้เลยถ้าหากขาดคนคอยบริการ ตั้งแต่พนักงานขายบัตร ตรวจบัตร จนถึงสจ๊วต แอร์โอสเตส และนักบิน แต่มาแล้วก็ต้องมีวันไป พวกเขาจะผลัดกันเข้ามาเปลี่ยนกะเปลี่ยนเวรกันเรื่อยๆ ไม่มีใครที่ต้องเหนื่อยเกินกำลัง ทุกคนมีเวลาพักผ่อน
และนายน็อตที่เป็นสจ๊วตเองก็ต้องการกลับไปพักผ่อนที่บ้านหลังจากคิวงานของเขาหมดแล้วและจะมีอีกวันมะรืน เขาเข็นกระเป๋าลากใบโตออกมาจากที่ทำการเพื่อขึ้นแท็กซี่จากสนามบินกลับไปยังบ้าน(ซึ่งก็คือบ้านของพี่และเพื่อนพี่) วันนี้เป็นอีกวันที่ชายหนุ่มได้ออกแรงทำงานอย่างเต็มที่จนคุ้มค่าเงินเดือน แม้นายน็อตจะเป็นคนใจร้อน แต่กับเรื่องงานเขาจะใจเย็นให้ได้มากที่สุดทั้งยังปั้นลุคน่าคบหาให้ลูกค้าเปิดใจ ไม่แปลกที่นายน็อตจะเป็นสจ๊วตหนุ่มไฟแรงคนหนึ่งที่ฮ็อทฮิตติดชาร์ท
ชายหนุ่มจัดการยกกระเป๋าขึ้นรถที่เบาะหลัง รีบก้าวเข้ามาข้างในแล้วปิดประตูดังปังด้วยความรีบร้อน เวลางานเขาจะใจเย็นกว่าปกติก็จริง แต่ในเวลาปกติเขาก็เป็นผู้ชายใจร้อนธรรมดาๆคนหนึ่ง เขาเหนื่อยและล้าแล้วสำหรับวันนี้ หากถึงบ้านเร็วก็จะได้นอนพักผ่อนเร็ว
หนุ่มหน้าตี๋คิดถึงโปรแกรมวันนี้ที่จะทำหลังกลับถึงบ้านไป ถึงเสร็จ กินข้าว อาบน้ำ ดูซีรีส์เกาหลีตอนสี่ทุ่ม จากนั้นก็นอน...หมดเรื่องจะคิดแล้วเจ้าตัวก็ได้แต่มองออกนอกหน้าต่างเพื่อชมวิวข้างนอก เคล้าเสียงเพลงหมอลำจากวิทยุชวนให้คิดถึงบ้านเกิด ระหว่างนั้นลุงคนขับแท็กซี่ก็ชวนคุยไปพลาง ส่วนมากจะเป็นเรื่องจตุคามรามเทพที่ชายหนุ่มไม่ใคร่จะสนใจเท่าใดนัก จึงได้แต่ส่งเสียงตอบอือๆอาๆครับๆไปตามน้ำ
อันว่าอากาศประเทศไทยช่างพิศวงและน่าค้นหา เมื่อตอนที่เขาออกมาจากสนามบินใหม่ๆยังแดดจ้าๆ แต่ไปๆมาๆเมฆครึ้มก็เริ่มตั้งเค้า เม็ดฝนเล็กๆหยดลงมาบนหน้าต่างเป็นสัญญาณว่าจะเกิดอะไรขึ้น และต่อจากนั้นไม่นาน ห่าฝนชุดใหญ่ก็ถล่มลงมาสร้างความสดชื่นชุ่มฉ่ำให้แก่เมืองฟ้าเมืองอมร ฝนตกหนักจนเขาได้กลิ่นฝนลอยผ่านเข้ามา พร้อมกับเสียงดังกระหึ่มขณะเม็ดฝนจำนวนมากตกกระทบพื้นดิน ดังจนกลบเสียงหมอลำลูกนกอุไรพรให้ได้ยินแต่เสียงพิณเสียงแคน
แต่เสียงใดๆก็ไม่ขลังเท่าเสียงโทรศัพท์ เพียงมันดังขึ้นและสั่นไปมาเท่านั้น หนุ่มสจ๊วตถึงกับต้องลนลานเพื่อที่จะรับให้ทัน ชื่อที่ปรากฏอยู่ในหน้าจอคือชื่อของพี่ชายร่วมสายเลือดซึ่งเป็นผู้อุการะให้ที่อยู่ที่อาศัย (หรือจริงๆแล้วก็คือนายน็อตเป็นคนมัดมือชกมาอยู่แล้วตู่ว่าพี่เขาอนุญาต) แม้จะสงสัยระคนแปลกใจ กระนั้นชายหนุ่มก็ตัดสินใจรับสายโดยไม่ปล่อยให้เสียเวลามากไปกว่านี้
“ครับพี่นัด?”
‘เอ้อ ไอ้น็อตเหรอ รบกวนอย่างหนึ่งดิ’ ออกจะแปลกอยู่หน่อย เพราะนัดเท่ห์ไม่ใคร่จะมีเรื่องให้น้องช่วยเท่าใดนัก ส่วนมากก็เขาเองนี่แหละที่มีปัญหาหลังการชกต่อยให้พี่ชายมาช่วยเคลียร์ให้ประจำ
“หา?”
‘ไปรับไอ้นอร์ธอยู่มหา’ลัยหน่อยดิ วันนี้มันต้องแบกหนังสือหนักกลับบ้านแต่ไม่มีเงินขึ้นรถ พี่กับไอ้นัดไม่ว่างเลยตอนนี้ ฝนก็ตกอีก เป็นห่วงมัน’
“เหอะ...” ชายหนุ่มเบะปากด้วยความเกียจคร้าน ที่จริงเขาจะไม่ทำอย่างนั้นเลยถ้าหากเรื่องขอให้ช่วยที่ว่าไม่ใช่เรื่องของไอ้เตี้ยนอร์ธ คู่กัดแรกพบที่ดันเจือกมาอยู่บ้านเดียวกันอีก
ให้ไปรับมันเนี่ย... ต่อยใครสักคนแถวนี้ยังง่ายกว่า
“โหพี่นัดครับ...” ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะได้โวยวายอะไรต่อ เสียงปลายสายก็ขัดขึ้นอย่างเสียไม่ได้
“ไม่ต้องเลยไอ้น็อต ไอ้นัดบอกมาแล้วนะว่าถ้าวันนี้เอ็งไม่ไปรับไอ้นอร์ธให้มัน หนี้ 500 จะเพิ่มเป็น
คำขู่ที่โคตรได้ผล จนในที่สุดน็อตก็ได้แต่ถอนหายใจอย่างปลงอนิจจังและตอบรับไปอย่างอ้อมแอ้ม เป้าหมายเปลี่ยนจากบ้านไปเป็นมหาวิทยาลัยของไอ้เตี้ยที่ไหนก็ไม่รู้ ฝนยังพรำตกเรื่อยๆไม่ขาดสาย ทั้งยังหนักขึ้นด้วยความเร่งคงที่ ค่าแท็กซี่บนพารามิเตอร์ยิ่งทำให้ชายหนุ่มชักหงุดหงิด เสร็จกิจครั้งนี้เขาจะทวงหนี้จากไอ้เตี้ยให้อ่วมเลยทีเดียว
รถแท็กซี่จอดลงที่หน้าคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ไม่น่าเชื่อว่าคนแคระอย่างไอ้เตี้ยจะอยู่คณะแพทยศาสตร์ของมหา’ลัยนี้ ได้ แต่นั่นหาใช่เรื่องที่เขาสนใจ ชายหนุ่มไล่สายตาหาคนที่บอกว่าจะมายืนรออยู่ตรงศาลาหน้าคณะ ดวงตาตี่เล็กพยายามที่จะมองผ่านกลุ่มม่านหมอกของละอองฝนจัด จนเมื่อเห็นร่างเตี้ยๆที่คุ้นเคยยืนสมอยก๋อยอยู่ตรงศาลาอีกฟาก เขาจึงได้บอกให้แท็กซี่เคลื่อนตัวไปอีกเพราะง่ายต่อการรับส่ง
หนุ่มนักศึกษาแพทย์ตัวเล็กยืนรออยู่ตรงนี้แทบจะชั่วโมงได้แล้ว หลังจากที่เขาโทรหาพี่นัดให้มารับเพราะต้องแบกหนังสือหนักจำนวนมาก ทั้งยังลืมเอากระเป๋าสตางค์มา ไอ้ครั้นจะรบกวนเพื่อนให้ไปส่งที่บ้านก็เกรงใจ สุดท้ายก็ได้แต่ยืนแกร่วอยู่ตรงนี้ รอใครสักคนที่พี่นัดว่าจะส่งให้มารับแทน แม้เขาจะยืนรออยู่ในศาลาก็ตามที แต่ละอองฝนก็ซัดสาดเข้ามาตามแรงลมผ่านช่องว่าง จนตอนนี้เสื้อขาวๆเริ่มเปียกปอน ความหนาวที่เริ่มคืบคลานทำให้คนตัวเล็กสั่นน้อยๆ ร้อนถึงอีกคนที่รออยู่ด้วยต้องส่ายหน้าอย่างระอาใจ
“ไอ้นอร์ธ เชื่อเหอะ กลับกับกู” นอร์ธหันไปมองเจ้าเพื่อนคนข้างๆที่มายืนรอกับเขาตั้งแต่เริ่มจนปัจจุบัน ทั้งที่มันบอกว่ามีนัดกับสาวแต่ก็ไม่ยอมไปจนเลยเวลามาแล้ว
“มึงเหอะไอ้กฤษณ์ นัดไว้กับน้องสาแล้วทำไมไม่รีบไป”
“น้องสารอกูได้”
“แล้วมึงจะปล่อยให้น้องเขารออีกนานแค่ไหนวะ แบบนี้หลายครั้งแล้วนะเว้ย”
อย่างที่พูด นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่กฤษณ์ยอมผิดนัดเพื่อที่จะอยู่ดูว่าเพื่อนจะกลับไปได้อย่างปลอดภัย ทั้งที่ก็รู้ๆว่าโตๆกันแล้ว จะอะไรของมันนัก
“มึงก็กลับกับกูซักทีซี่ กูจะได้ไปรับน้องสาต่อไง ส่งมึงแค่นี้ไม่ต้องมาเกรงใจกันหรอก มา!” ไม่รอให้ได้คำตอบ ชายหนุ่มร่างสูงหุ่นล่ำก็จัดการยกตั้งหนังสือในถุงพลาสติกพร้อมกัน 2 ถุงเตรียมใส่ขึ้นรถที่จอดตากฝนอยู่ใกล้ๆ แต่ยังไม่ทันจะได้ทำอะไร...
“เฮ้ยไอ้เตี้ย...” เสียงผู้ชายที่ไม่คุ้นเคยดังขึ้นจากข้างหลัง สองหนุ่มนักศึกษารีบหันไปมองด้วยความแปลกใจ ปรากฏร่างของชายหนุ่มร่างสูงหน้าตาหล่อเหลาในชุดสูทสีเทา ผมที่เคยเป็นทรงลู่ลงเพราะเปียกน้ำ เช่นเดียวกับเสื้อและใบหน้าที่มีน้ำซึมประปราย อย่างไรก็ตาม เมื่อนอร์ธมองเห็นว่าใครมารับก็อยากกระโจนขึ้นรถของกฤษณ์ให้รู้แล้วรู้รอด
แล้วทันทีที่คิดอย่างนั้น มือใหญ่ของน็อตก็ตะปบลงที่ไหล่ของคนอายุน้อยกว่าอย่างรู้ทัน
“ไม่ต้องเลยไอ้เตี้ย อุตส่าห์นั่งรถมารับ ค่ารถตั้งแพง ไม่ใช่บาทสองบาทนะเว้ย”
“โหย พูดเป็นคุ้งเป็นแคว ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะครับพี่ตาหยี...” กล่าวพร้อมยื่นหน้าเข้าไปใกล้อย่างต้องการยียวน เข้าทางหนุ่มสจ๊วตที่ยิ่งยื่นหน้าเข้าไปใกล้อีกฝ่ายเข้าไปอีกจนรู้สึกได้ถึงลมหายใจ อยากรู้ว่าเกมแบบนี้เขากับไอ้เตี้ยนี่ใครจะชนะ “อ๋อเหรอครับพี่สูงชะลูด... แล้วเพื่อนพี่ที่ถือหนังสือเตรียมขึ้นรถอยู่รอมร่อนี่หมายความว่าไงครับ?”
ฉับพลัน นอร์ธหันไปมองกฤษณ์ที่ยืนแบกหนังสือไว้อยู่จริงๆ
“เฮ้ย! ไม่ต้องแล้วไอ้กฤษณ์ กูมีเบ๊มารับแล้ว มึงวางไว้ตรงนั้นแหละ โอ๊ย!” ไม่ต้องสงสัย ฝ่ามือของน็อตได้มะเหงกหนักๆเข้าไปทันทีที่ได้ยินอีกฝ่ายเรียกเขาว่าเบ๊ ดวงตากลมโตเบือนมามองเขาด้วยอารามหงุดหงิด ริมฝีปากอิ่มสีแดงอมชมพูอย่างคนสุขภาพดีจิ๊ปากอย่างเสียไม่ได้ กระนั้นพอน็อตส่งสายตาเอาเรื่องอย่างนักเลงไป ไอ้คนมาดกล้าเมื่อครู่ก็เปลี่ยนทีท่าเป็นหมาหงอย
“มึงแน่ใจว่าจะไปกับไอ้หน้าเจ๊กนี่?”
คำถามเสียงกร้าวของกฤษณ์ที่โคตรจะโดนใจนอร์ธ แต่แทงใจอีกคนเข้าอย่างจังเสียจนอยากจะมีเรื่องกับไอ้ล่ำนี่รำไร ดวงตาตี่สบเข้ากับดวงตาของผู้อ่อนวัยกว่าอย่างไม่มีใครมีทีท่าว่าจะลดละล่าถอย ฉับพลันนั้น สมองของน็อตก็เริ่มคิดอะไรออก วิเคราะห์จากสายตาท่าทางของไอ้เด็กเมื่อวานซืนนี่แล้วมันหวงไอ้เตี้ยนี่ยังกับหมาหวงก้าง ชะรอยว่าจะมีซัมทิงรอง...
ขอแกล้งสักหน่อยเถอะน่า...
“ต้องแน่ใจอยู่แล้ว...” ชั่วขณะนั้นเอง มือแกร่งของน็อตก็โอบเข้าที่เอวบางของนอร์ธเข้าอย่างจัง หนุ่มนักศึกษาแพทย์สะดุ้ง แล้วยิ่งอาการหนักเข้าไปอีกเมื่อมือนั่นยิ่งกระชับร่างเขาให้แนบชิดกับคนตัวสูงมากขึ้น จนเมื่อส่วนหนึ่งของแผ่นหลังบางชนเข้ากับอกของใครบางคน ความหนาวเย็นจากเสื้อผ้าที่เปียกปอนของทั้งคู่ก็ยิ่งทำให้ชัดเจนในความหนาวเหน็บ
“เฮ้ยพี่..!” กำลังจะอ้าปากโวยวาย ถ้าไม่ติดว่าการกระทำถัดไปยิ่งทำให้บุรุษร่างเล็กแทบจุก
หัวเปียกๆเอนซบไหล่แคบต่ำกว่ามาตรฐานชายไทย ด้วยความที่นอร์ธบ้าจี้อยู่แล้ว เพียงอุณหภูมิที่สูงขึ้นในบริเวณจุดไวสัมผัสยิ่งทำให้เขาอยากผลักไอ้คุณพี่คนนี้ออกห่าง แต่มีหรือที่แรงจะสู้กันได้ น็อตมองสีหน้าของไอ้ล่ำปากจัดตรงหน้า พบว่าเจ้าตัวมองมาด้วยสายตาวาวโรจน์ เห็นแค่นั้นมุมปากของน็อตแสยะยิ้มด้วยความสะใจ
“...ก็ผมกับนอร์ธ เราอยู่บ้านหลังเดียวกัน”
ทำอะไรของแม่งวะ!?
ชั่วพริบตานั้น หนุ่มนักศึกษาแพทย์ก็ผลักร่างของสจ๊วตหนุ่มออกโดยพลัน แล้วคว้าหนังสือจากมือของเพื่อนทั้งสองถุงขึ้นรถแท็กซี่ข้างหน้าด้วยความไว น็อตมองภาพที่เกิดขึ้นในชั่ววินาทีนั่นอย่างผู้มีชัยชนะ อะไรจะไปเด็ดเท่าการที่ทำครั้งเดียวแล้วได้แกล้งทั้งไอ้เตี้ยและไอ้เด็กวอนทีนนี่พร้อมกัน
...แต่เขาคงจะลืมไป ว่าสมัยนี้กรรมตามทันไวยิ่งกว่าจรวด
รถแท็กซี่ที่เคยจอดอยู่กับที่ บัดนี้เคลื่อนตัวไปข้างหน้าช้าๆ เพียงครู่นั่นเองดวงตาตี่ก็เบิกกว้างอย่างคาดไม่ถึง ต่อเมื่อรถเคลื่อนจนลับตาไปนั่นแหละ สติถึงได้เข้าที่เข้าทางจนได้ยินแม้กระทั่งเสียงหัวเราะในใจของไอ้ล่ำข้างๆ
“อยู่บ้านเดียวกัน...แต่นอร์ธไปก่อนแล้วนะครับพี่” คำยิ้มเยาะจากผู้หัวเราะที่หลังย่อมดังกว่าเสมอ น็อตมองตอบกลับไปด้วยสีหน้าเอาเรื่อง เท่านั้นใบหน้าสะใจของอีกคนก็ฝ่อ...
เสียงโทรศัพท์ของกฤษณ์ดังขึ้นกู้สถานการณ์ เขารับโทรศัพท์ด้วยอารมณ์ลิงโลด อะไรคงไม่ดีไปกว่าการที่น้องสาโทรมาถูกที่ถูกเวลาอย่างนี้
“ครับๆน้องสา รออีกแป๊บนะ เนี่ย รถติดมากเลย”
“รถติดบ้านป้า...” หนุ่มสจ๊วตที่เพิ่งถูกทิ้งสบถ สายตาจับจ้องที่ถนนโชกฝน โคตรโล่งยิ่งกว่าอะไร ร้อนถึงกฤษณ์ต้องแก้ตัวพัลวันเมื่อน้องสาในโทรศัพท์ได้ยินเสียงอะไรก็ไม่รู้เบาๆ ชายหนุ่มนักศึกษาเนียน คุยโทรศัพท์ไปเดินขึ้นรถตัวเองไป ใช่ว่าน็อตจะไม่รู้...สุดท้ายแล้วเขาก็ถูกทิ้งไว้อย่างโดดเดียวทั้งที่ก่อนหน้านี้ยังเป็นฝ่ายนำอยู่หยกๆ
ไอ้เตี้ยนะไอ้เตี้ย...กลับบ้านจะเอาคืนให้เข็ด!
------------------------------------------------------------------
สวัสดีค่า เจอกันรอบดึกเนาะวันนี้
พอมาดูอีกทีก็ไป 15 ตอนแล้วฟิค (ฮา) ขอบคุณคนอ่านทุกท่านและคอมเมนท์ทุกคอมเมนท์นะคะ
ตอนนี้เป็นตอนพิเศษ เป็นฟิคกับน็อตกับนอร์ธ มีอยู่ด้วยกัน 3 part (แต่พาร์ทสุดท้ายยาวมาก ดูท่าว่าเราคงต้องตัดออกเป็น 4 part ซะแล้วล่ะ) แต่งช่วงฤดูฝนพอดีเลย หวังว่าอ่านแล้วจะยิ้มแก้มปริกันนะคะ (เมื่อไหร่นัดกับนัดในทีวีจะเอาพี่น็อตกับน้องนอร์ธมาออกด้วยกันอีกล่ะ คิดถึงงงงง แอร๊ยยยย)
ความคิดเห็น