คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ❤รัก❤บรรทัดที่ 2 : RUNaway RUNoN
-บรรทัดที่ 2-
RUNaway
RUNoN
痛みから逃げないで
Dont run away from the pain
อย่าหลบลี้หนีห่างความเจ็บปวด
悲しみも受け止めて
Take the sorrow
เกี่ยวเก็บความรวดร้าว
いつか君とそんな話もしよう
One day, I’ll have such a conversation with you
แล้วสักวันผมจะไปหาคุณ
“ลูกขับรถล้ม! แม่บอกแล้วไงว่ามอเตอร์ไซค์น่ะมันเนื้อหุ้มเหล็ก! ชนไปก็เละสิ! ต่อไปนี้ห้ามเด็ดขา-“
น้ำเสียงแว้ดๆบาดหูถูกตัดขาดไม่ใยดีแค่กดปุ่มวางสายโทรศัพท์
ยัยแม่มดเอ๊ย..ยย..
เพิ่งงัวเงียตื่นขึ้นมาได้เอาใกล้เที่ยง เพราะดันแอบหนีไปฟาดปากพ่อชาวบ้านเล่น กลับมาก็เลยถูกหมอโรคจิตอัพยาเข้าเส้นจนหลับเป็นตาย พอเสียงโทรศัพท์ดังก็นึกว่าเจ้านายที่ทำงานพาร์ทไทม์โทรมา ที่ไหนได้... เฮอะ มารดาบังเกิดเกล้านั่นเอง
เสียงเรียกเข้าดังขึ้นอีกครั้งอย่างหลอกหลอน คิมฮีชอลปฏิเสธไม่รับสายและโทรหาคนที่คาดว่าน่าจะโทรมาจิกหัวตั้งแต่เมื่อวานแล้ว
เพลงรอสายแนวเมทัลน่าปวดหูดังขึ้นสักพัก เสียงทุ้มๆมีเสน่ห์ก็ลอดออกจากลำโพงมาแทน
“ฟื้นแล้วหรือครับ เจ้าหญิงนิทรา”
“แปลกใจ ควายไม่โทรหา นึกขึ้นได้ว่าคงจะเอากีบกดโทรศัพท์ไม่เป็น เลยโทรมา”
พอเจ้าหญิงกวนตีน เจ้าชายปลายสายก็หมดอารมณ์
“หยาบคาย เดี๋ยวควายหักเงินเดือนนะครับ”
“อย่าหักนะเว้ย! กำลังทำเรื่องออกจากโรงพยาบาล ยอมให้หักครึ่งวันแค่นั้นล่ะ!”
“ไม่หักหรอกครับเจ้าหญิง เห็นแก่ลูกกตัญญูอุ้มชูบุพการีมาทำงานให้แทน ว่าแต่ไปไข่ทิ้งไว้ที่ไหนวะ ลูกน่ารักกิ๊กขนาดนี้ แม่จะสวยวิ้งขนาดไหน”
โค้งคิ้วเรียวงามผูกกันเป็นโบว์ ...ไอ้ควายเจย์พูดเชี่ยไรวะ?
แปลกๆละ...
แต่ก็พอจะคิดออกนะว่าเรื่องแปลกๆระยะนี้มันเกี่ยวโยงกับอะไร
“หมายถึงเด็ก?”
“ใช่ๆ เด็กน่ารักๆ ลูกนายน่ะแหละ”
ยังย้ำแล้วย้ำอีกว่าน่ารัก ก็ของเขาน่ารักจริงๆนิ
“ถ้าเป็นเด็กที่เจ้าเนื้อหน่อยๆ ตัวขาวๆเนียนๆ ผมยาวประบ่า หน้าตาจิ้มลิ้มแก้มป่องๆ น่ะ ...... ไม่ใช่ลูกฉันหรอก”
“ใครวะ? ....... อะฮ้า!~ มึงเลี้ยงต้อยล่ะสิ”
เลี้ยงต้อย...
ก็น่าจะใช่ แต่ตัวกลมเนื้อแน่นขนาดนั้นคิมฮีชอลก็ยังไม่รู้เลยว่าจะมีปัญญาเลี้ยงไหวหรือเปล่า ตัวเองทำงานหาเงินพอมีกินมีใช้จ่ายค่าเล่าเรียนก็แค่พอถูไถให้ผ่านพ้นไปได้แค่นั้นแหละ
ปลายนิ้วเกลี่ยจุกนมฝังเพชรของหมั้นเล่น พอขยับประกายเพชรน้ำงามก็สว่างวาบเข้าตา
“เดาแบบควายๆนะมึง กูจะมีปัญญาเลี้ยงใครได้ล่ะ”
ท่าทางเด็กจะต้องเลี้ยงกูเสียมากกว่า!
เห็นชัดว่าดวงอาทิตย์ร้อนแรงแขวนสูงอยู่กลางท้องฟ้า ทว่าเด็กน้อยที่ตากแดดตากลมจนพวงแก้มยุ้ยแดงจัดกลับไม่ย่อท้อ ก้มหน้าก้มตาง่วนอยู่กับการล้างรถจนงามเงาวาววาม
คิมเจย์เจ้าของร้านประดับยนต์และคาร์แคร์หรูตามประสาหนุ่มไฮโซไม่อยากรับช่วงต่อบริษัท นั่งไขว่ห้างวางท่าคนมีเงินพอจะเปิดกิจการเป็นของตัวเอง มองของเล่นชิ้นใหม่ดวงตาเป็นประกาย
ยิ่งตอนลีฮงกีก้มลงเช็ดซี่ล้อจนเนี้ยบนิ้งนี่... โหว~ไอ้แขนขาใบหน้าที่ว่าขาวๆ ชิดซ้ายไปเลยพอเห็นแผ่นอกภายใต้คอเสื้อที่ทิ้งตัวลงตามแรงโน้มถ่วงเผยผิวสวยใสราวกับกระเบื้องชั้นดี ดูนุ่มนิ่มยิ่งกว่าสำลี กำลังลุ้นให้ก้มต่ำอีกนิด เผื่อจะโชคดีเห็นอัญมนีพลอยชมพูที่ประดับไว้ทั้งสองด้านเสียหน่อย เจ้าหญิงตาแมวเครือญาติที่มาบังคับขู่เข็ญของานพาร์ทไทม์ทำก็ทรงประทานพระหัตถ์โฟร์แฮนด์เข้าเต็มๆเรียวหน้าคมสุดหล่อเมพขิงๆของเขา
คิมฮีช้อลลล นี่กูเป็นลูกพี่ลูกน้องมึงนะ ไม่ใช่ลูกเทนนิส หวดมายังกะหวังจะเสิร์ฟลูกเอชเชียว!!
“มึงมองอะไร!?”
คนอะไรวะ? หน้าแมวๆแต่ดุยังกะหมา แต่ไม่เป็นไรคนหน้าตาดีคิมเจย์ให้อภัย
“อะร้าย! นมเนิมก็ไม่มี! กูไม่สนเด็กตัวแค่นั้นหรอก!”
ยกเว้นว่าน่ารักขนาดนี้ล่ะก็นะ...คึคึ
คนสวยก้าวฉับๆไปหาคู่หมั้นตัวเล็กที่เปียกโชกไปหมด เอาแขนเสื้อของตัวเองเช็ดซับหยาดน้ำที่เกาะตามหน้าผากมน และพอเห็นฮงกีชัดๆก็อดหัวเราะคิกออกมาไม่ได้
ไอ้เด็กนี่! ผมเปียกแล้วลีบติดหนังหัวเชียว หน้ากลมเป็นขนมไหว้พระจันทร์เลยวุ้ย!
“ง่า~ หัวเราะอะไรล่ะฮะ?”
ตาเรียวใสช้อนมองฮีชอลอย่างไร้เดียงสา แก้มที่ว่าแดงอยู่แล้วยังสามารถแดงก่ำได้อีกจนน่ากลัวจะช้ำไปหมดแล้ว
“งานของฉันแค่รับลูกค้าแล้วจดบัญชีแค่นั้นล่ะ ไม่ต้องลงมาล้างรถเองหรอก อย่าไปเชื่อไอ้แก่หื่นกามนี่มาก”
แย่งฟองน้ำสกปรกที่เด็กน้อยยังถือติดมือมาปาใส่ไอ้แก่หื่นกามที่ว่า ชำระแค้นที่ใช้งานคู่หมั้นเขาซะเปียกปอนเป็นลูกแมวน้อยตกน้ำขนาดนี้
“กูไม่ได้ใช้น้องนะเว้ย! น้องเค้าอยากล้างรถให้มึงตะหาก!”
“ตลกละ”
รถเขาที่ไหนกัน ซิ่งแหกโค้งหลบหมา เอ๊ย เด็ก จนพังเละไม่เป็นท่าแล้ว จะสวยเฉียบอย่างกับรถงานมอเตอร์โชว์แบบนี้ได้ไงเล่า
“จริงจังว่ะ น้องฮงกีเค้าซ่อมให้มึงหมดแล้ว พอดีกูเล่าให้ฟังว่ามึงกำลังเก็บเงินซื้อของแต่งนู่นนี่ น้องก็เลยจัดการบัญชาให้ช่างใส่หมดเลย”
คิมฮีชอลเบิกตาแมวจนโตที่สุดในชีวิตก็ครั้งนี้ล่ะมั้ง ชายหนุ่มเดินพินิจสำรวจตรวจตราสภาพรถของตัวเองที่แปลงโฉมโมดิฟายด์ใหม่แทบจะทั้งคัน แถมยังขัดล้างจนเอี่ยมอ่องลออตา กระทั่งดูหมายเลขทะเบียนซ้ำแล้วซ้ำอีกจนแน่ใจว่าเป็นรถเขาจริงๆนั่นล่ะ ท่อนแขนยาวก็สอดเข้าที่รักแร้ของลีฮงกียกขึ้นหมุนเหวี่ยงไปรอบๆ ก่อนจะกอดร่างเล็กไว้แนบอก
และยิ่งมั่นใจว่า งานนี้กูโดนเด็กเลี้ยงจริงๆด้วยว่ะ!
“น้องฮงกี ล้างรถเสร็จก็ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ เดี๋ยวจะไม่สบายเอา”
คิมเจย์บอกเหมือนเอ็นดูเด็ก แต่ความจริงแล้วเขาแค่อยากขัดคอเจ้าหญิงตาแมวเสียมากกว่า
ศรีษะเล็กๆที่เอาคางเกยสันบ่าของฮีชอล ผละออกมามองวงหน้าสวย ซึ่งวาดรอยยิ้มหวานฉ่ำส่งให้เด็กน้อยตอบ ชายหนุ่มที่โตกว่าอุ้มเด็กน้อยตรงเข้าไปในบ้านและหายลับไปหลังประตูห้องน้ำด้วยกัน ท่ามกลางสายตาตกตะลึงของเจ้าของสถานที่
ไอ้คิมฮี้!! คุกนะเว้ย!!
น้องฮงกีน่ะ ดูยังไงก็ไม่เกิน ป.4 อย่าดึงลูกพี่ลูกน้องหน้าตาดีนิสัยงามอย่างเขาเข้าไปเกี่ยวข้องกับข้อหาล่อลวง กักขังหน่วงเหนี่ยว พรากผู้เยาว์ กระทำชำเราอะไรพรรค์นั้นสิวะ!!
และในขณะที่คิมเจย์กำลังสติแตกดึงทึ้งหัวตัวเองจนยุ่ง อีฮงกีก็วิ่งออกมาในสภาพแต่งตัวไม่เรียบร้อยอย่างกับนางเอกที่กำลังหนีโจรปล้นสวาทกระเซอะกระเซิงยังไงยังงั้น
คิมเจย์รีบคว้าคอเสื้อของร่างโปร่งที่วิ่งตามมาติดๆ ตะคอกอย่างไม่ไว้หน้า
“มึงทำอะไรน้อง!?”
ฮีชอลสะบัดตัวจนหลุดจากมือเจย์ สีหน้ายุ่งๆแต้มเลือดฝาดระเรื่อขึ้นมา
“กูนี่แหละโดนทำ มาคว้าแหนมเกาหลีของกูหมับ ตะโกนเสียงแหลมว่ากูเป็นผู้ชาย แล้ววิ่งออกจากห้องน้ำซะงั้น”
“หมายความว่า น้องเขานึกว่ามึงเป็นผู้หญิงล่ะสิ ก๊ากกก~~”
ริมฝีปากอิ่มเบ้เบี้ยว ไม่ชอบเลยกับความรู้สึกว่าถูกทิ้ง
แม่ง! แล้วมาสัญญาทำเชี่ยไรวะ!
“สัญญากับแม่นะว่าต่อไปนี้จะไม่ขี่มอเตอร์ไซค์อีก”
หญิงสาววัยกลางคนหากใบหน้ากลับยังงดงามเยาว์วัยราวกับดอกไม้แรกบาน บอกกับลูกชายบนโต๊ะอาหารเช้า เธอก็ไม่อยากจะก้าวก่ายชีวิตของเขานักหรอก ถ้าไม่เพราะดวงใจของแม่จะไม่เกิดอุบัติเหตุขึ้นเมื่อวาน เขาก็นั่งกินอาหารเงียบๆไม่พูดไม่จา และไม่รู้ว่าพูดจาผิดหูคำใด จู่ๆดวงหน้าสวยถอดรูปมาจากเธอแทบจะพิมพ์เดียวกัน จึงได้ฉาบเคลือบไปด้วยความโกรธเกรี้ยวเช่นนั้น
“ผมจะขับ! ถ้ามันตายๆไปเพราะเรื่องแค่นี้ก็ดีสิ!”
“คิมฮีชอล!”
“ยัยแม่มด!”
ร่างสูงโปร่งเดินลิ่วมาที่รถ ตวัดขาขึ้นคร่อมยานพาหนะเจ้าปัญหา สตาร์ทเครื่องยนต์และจงใจบิดเร่งน้ำมันเสียงดังลั่น พุ่งตัวออกไปด้วยความเร็วสูง
ถึงโรงเรียนอารมณ์เดือดของเขายังพลุ่งพล่านปุดๆอยู่ในร่างกาย โชคดีที่ท่าทางกวนส้นเท้าของเขายังดึงดูดให้คนมาหาเรื่องเหมือนทุกๆวัน ได้ลงมือลงไม้ออกกำลังหนักๆจึงพอเบาตัวบ้าง แม้เรื่องจะไม่ไปถึงห้องปกครองที่จะคอยโทรไปฟ้องยัยแม่มดให้เต้นเป็นเจ้าเข้าก็ตาม เพราะโมโหจนซัดอีกฝ่ายปางตายสลบกลางอากาศภายในหมัดเดียว
เขานั่งเรียนลำพังไม่สุงสิงกับใครจนฟ้ามืดและชั่วโมงเรียนหมดลง ทันทีที่ได้เวลาถึงผู้สอนจะเพิ่งเดินออกไปเห็นหลังไวๆ ข้อนิ้วก็งอหมุนกลไกไฟแช็กต่อมวนขาวที่คาบอยู่ในปากจนปลายแดงวาบ แล้วพ่นควันขาวขุ่นออกมา เดินไปที่ลานจอดรถท่ามกลางสายตาหมิ่นแคลนของนักเรียนคนอื่น ยิ่งเห็นรถตัวเองยิ่งนึกถึงเหตุการณ์ต่างๆ
...ทุกอย่างมันช่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเสียเหลือเกิน
เข้ามาให้รู้จักโดยที่ไม่รู้ตัว แล้วก็หายไปลับตาโดยที่เอื้อมคว้าเอาไว้ไม่ได้
สูดเสพนิโคตินจนหมด ทิ้งก้นบุหรี่ลงกับพื้น แค่มวนเดียวไม่สามารถทำให้จิตใจสงบลงได้ โครงหน้าสะสวยมีแต่ความหงุดหงิด ออกรถกระชากรุนแรงจนหวิดจะเฉี่ยวชนคนอื่น
ร้านของคิมเจย์ยังเปิดบริการอยู่ เพราะลูกค้าบางรายก็ไม่มีเวลาต้องเอารถมาใช้บริการในตอนค่ำ ชายหนุ่มเอนน้ำหนักไปด้านข้างเพื่อนส่งแรงเลี้ยวรถเข้าไปด้านใน หางตาพลันสะดุดบางสิ่งที่ทำให้เขาต้องหันหน้ากลับไปมอง
...บางสิ่งที่ท้วมๆกลมๆขาวๆ แต่น่ารักจับใจ
ฮงกีนั่งอยู่บนตักของเจ้าของสถานที่ซึ่งป้อนขนมเขาด้วยตาวาวๆ ทันทีที่ได้ยินเสียงรถเด็กน้อยก็หันไปมองพอเห็นว่าเป็นคู่หมั้นคนสวย พลันกระโดดแผล็วลงจากเก้าอี้มนุษย์อย่างรวดเร็ว วิ่งทึ่กทั่กไปหา
ฮีชอลเองก็รีบวิ่งมาหาคนตัวเล็กทั้งๆที่ยังไม่ถอดหมวกกันน็อค เขาทรุดตัวลงคุกเข่ากับพื้น มือที่ยังไม่ถอดถุงมือหนังสำหรับขับรถแตะที่แก้มแดงของเด็กน้อยเบาๆราวกับไม่อยากจะเชื่อว่ามีคนยืนอยู่ตรงนี้จริง
“ฮีชอล ผมไปศึกษามาแล้วนะ”
ถุงใหญ่ในมือชูขึ้นอวด แต่เพราะมันหนักอึ้งจึงชูสูงได้แค่นั้น ข้างในเต็มไปด้วยหนังสือการ์ตูนบอยเลิฟและแผ่นวีซีดีหลายแผ่น บอกเหตุผลที่หายไปกับชายหนุ่มที่กำลังตกใจ...
ตกใจที่เห็นฮงกี...จนลืมด่าที่บังอาจปีนเกลียวเทียบรุ่นมาเรียกชื่อเขาห้วนๆ
ดีใจที่เห็นฮงกี...จนลืมว่าตัวเองยังไม่ถอดหมวกกันน็อค
จมูกโด่งที่หวังจะฝังปลายลงกับหน้าผากมน จึงกลายเป็นทำร้ายเด็กน้อยเข้าเต็มๆ!
“โอ๊ยโยว!! เอาหมวกกันน็อคมาโขกหัวผมทำไมอ้า!?”
คนตัวโตกว่าจึงได้หายจากอาการเลอะเลือน ถอดหมวกกันน็อคออกเสียที
“นายมาหาฉัน”
เครื่องหน้าสวยสดภายใต้กรอบผมยาวที่ปล่อยสยายลงมาหลังจากถอดหมวกกันน็อคยังตกตะลึง ดึงแก้มยุ้ยจนคนตัวเล็กร้องโอดโอยอีกครั้ง
“เจ็บ? ไม่ใช่ฝันจริงๆด้วยแฮะ”
“ดึงแก้มตัวเองสิฮะ!!”
เรียวมือสีน้ำนมจึงจับมือสั้นป้อมมาดึงแก้มตัวเองเอาคืน หากฮงกีก็ไม่อาจหักใจทำร้ายคู่หมั้นคนสวยได้ เด็กน้อยแตะมือเบาๆที่แก้มทั้งสองข้างเกลี่ยไล้เบาๆราวกับกลัวเกรงจะสร้างรอยขีดข่วน ก่อนจะดึงคนตัวโตกว่าที่ยังทำหน้าเศร้าๆราวกับเด็กถูกทิ้งเข้ามาปลอบโยนในอ้อมกอดเล็กๆ
“คิดว่าผมจะหายไปไหนไม่กลับมาเหรอ?”
“อื้อ”
“จะไปไหนได้ล่ะฮะ สัญญาแล้วนี่นา”
ระหว่างจันทราทองนวลอร่าม ละอองดาวพราวฟากฟ้า อีฮงกีคิดว่ารอยยิ้มของคิมฮีชอลนั้นงดงามที่สุด
ไม่อยากให้ลับขอบฟ้าไปเหมือนดวงจันทรา ไม่อยากให้ดับแสงลับหายเหมือนดวงดารา
...เด็กน้อยอยากเห็นรอยยิ้มสวยๆนี้ตลอดไป
พวกเขาเดินจูงมือเข้าไปในร้านของคิมเจย์ด้วยกัน เอาหนังสือบอยเลิฟที่ฮงกีหิ้วมาอ่าน จะว่าไปเขาก็ต้องศึกษาเหมือนกันล่ะนะ คิมฮีชอลเองก็ไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้นักหรอก พออ่านไปได้สักพักก็ต้องสั่งห้ามฮงกีไม่ให้อ่านการ์ตูนเลิฟซีนโจ๋งครึ่มพวกนี้อีกเด็ดขาด
...ไม่ได้เอะใจค้นวีซีดีมาเปิดดูเลยว่าทั้งหมดนั้นน่ะ หนังเอวีล้วนๆ!!!!
우리가만나게된날을축복하는이밤은
รัตติกาลอวยพรแด่วันที่พวกเราได้พบกัน
하늘엔달이펴있고별들은미소짓죠
พระจันทร์ค่อยๆแบ่งบานบนฟากฟ้า เหล่าดวงดาวก็ส่งยิ้มมา
그대의미소가지워지지않길바래요
ขอให้รอยยิ้มของเธอ อย่าได้ลบเลือนหายไป
언제나행복한날들이계속되길빌며
ขอให้มีวันคืนแห่งความสุขเหล่านี้ต่อไปเรื่อยๆ
ความคิดเห็น