ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    First Love ❤รัก❤ตัวบรรจงเต็มบรรทัด

    ลำดับตอนที่ #1 : ❤รัก❤บรรทัดที่ 1 : accIDENT…DEsTINy

    • อัปเดตล่าสุด 6 ก.พ. 53









    -บรรทัดที่ 1-

    accIDENT…DEsTINy

     

     

     

     

     

     

    この小さなこの約束

    This small promise
    คำมั่นสัญญาเล็กๆนี้

     

    変わらないこのまま
    without changing
    จะไม่เปลี่ยนไป

     

     

     

     

     

     

     

                ท้องฟ้าใสไร้ก้อนเมฆ 

     

    ภายใต้ร่มใบสีเขียวสดใสจนแสบตา  ตามลำต้นสูงในสวนสาธารณะ  จักจั่นหลายตัวเริ่มเก็บปีกเตรียมพร้อมจะเข้าสู่นิทรารมย์ 

     

    แสงอาทิตย์ลอดผ่านแมกไม้สาดส่องร่างอวบของเด็กน้อยทอดเป็นเงาไหวระริก

     

    ย้อน... 

     

    จุกนมปลอมซึ่งแทรกอยู่ในรอยแย้มของริมฝีปากอวบอิ่มขยับเคลื่อน  เปิดทางให้น้ำเสียงติดเอาแต่ใจลอดผ่านออกมา

     

    อูมมือนุ่มวาดพัดระหว่างพวงแก้มยุ้ยที่ขึ้นสีแดงระเรื่อทั้งสองข้างเพราะพิษไอร้อนอุ่นอัง

     

    สิ่งที่สะท้อนอยู่ในดวงตารีเรียวสุกใสไม่ใช่ทิวไม้ไหวลู่  และยิ่งไม่ใช่น้ำพุห้าสายซู่ซ่า  แต่เป็นป้ายโฆษณาที่สั่นพลิ้วไม่หยุดนิ่งตามแรงลมอบอ้าวในอีกฟากของถนนต่างหาก

     

    ภาพไอศกรีมราดวิปครีมแต่งท็อปปิ้งชวนชิมโบกสะบัดไปมาราวกับมีชีวิต  ลีฮงกีดูดจุกนมปลอมแล้วกลืนน้ำลายลงคอเอื๊อกใหญ่  ตาฝาดแน่ๆ!  เด็กน้อยเห็นเจ้าไอศกรีมกวักมือเรียกเขาหย็อยๆ!

     

    ซ้าย-ขวา-ซ้าย

     

    ขาสั้นป้อมก้าวฉับๆตามคำเชิญที่แสนเย้ายวนของเจ้าเกล็ดน้ำแข็งแสนหวาน  เหยียบย่างลงบนเศษใบไม้ดอกไม้ที่ร่วงหล่นลงปกคลุมถนน

     

    เฟี้ยว~

     

    สายลมคมกริบตวัดพัดผ่านเด็กน้อยไปอย่างรวดเร็วรุนแรง  กลีบดอกไม้ปลิวล่องลอยขึ้นจากพื้น

     

    ลีฮงกีเบือนดวงหน้าน่ารักน่าชังหันตามไปโดยสัญชาติญาณ

     

    เส้นดำเป็นสายพุ่งห่างออกไปเบื้องหน้า  ก่อนจะหมุนคว้างส่งเสียงครวญครางดังลั่น  ตามด้วยเสียงวัตถุหนักๆกระแทกพื้น

     

    มอเตอร์ไซค์นั่นเอง!  ยานพาหนะสุดเท่กระเด้งกระดอนราวกับติดสปริง  ชุดเกราะไฟเบอร์สีรัตติกาลปริแตกเป็นชิ้นเล็กๆ  กระจกมองข้างด้านหนึ่งถูกบดขยี้แหลกละเอียดกับผิวถนน!

     

    เค้าเงามืดหม่นลอยคว้างเคว้งล่องละลิ่วปลิวปลิดลงล้มกลิ้ง  จวบจนแรงผลักดันสงบลง  ร่างนั้นจึงค่อยๆถอดหมวกกันน็อคออกอย่างยากลำบาก

     

    กลุ่มเส้นผมมันเงาสะบัดยาวกรอมแผ่นหลังบอบบางลากไล้กับกลีบดอกไม้บนพื้นถนน  ห้อมล้อมความเจ็บปวดที่ปรากฏบนใบหน้าสะสวยชโลมโลหิตเป็นสาย

     

    เรียวแขนพาดริ้วรอยแผลเหวอะ  มองเห็นได้ชัดเพราะปลอกแขนยาวที่เชื่อมต่อกับตัวเสื้อด้วยสายโซ่เล็กๆสองเส้นขาดสะบั้นไม่มีชิ้นดี  พยายามดันเป็นฐานยันให้เรือนกายอ้อนแอ้นลุกขึ้นแต่ก็ไม่สำเร็จ

     

    ไอศกรีมไม่ได้กวักมือเรียกลีฮงกีอีกแล้ว  เป็นร่างที่นอนคว่ำปางตายอยู่กลางถนนนั่นต่างหาก  เด็กน้อยสาวเท้าสั้นป้อมเดินไปหาราวกับถูกแรงดึงดูดที่มองไม่เห็น

     

    ร่างเล็กทรุดลงนั่งเบื้องหน้าคนที่สวยราวกับเจ้าหญิง  ใช้ผ้าเช็ดหน้าซับลำธารโลหิตที่ไหลผ่านดวงตากลมโตราวกับไข่ไดโนเสาร์  คล้ายกับเจ้าหญิงในนิทานที่ถูกสาปให้น้ำตาเป็นสีเลือด

     

    เชี่ยเอ๊ย! 

     

    เจ้าหญิงจำแลงสบถในใจ  ให้ออกเสียงก็คงไม่ไหวต้องช้ำในตายก่อนแน่ๆ  เพราะเป็นทางโค้งเลยไม่เห็นว่ามีเด็กกำลังเดินข้ามถนน

     

    เรียวมืองดงามดังประติมากรรมชั้นเลิศยื่นออกมา

     

    เลือดไหลเลอะดวงตากลมสวยเสียจนพร่ามัวมองไม่เห็นว่าเด็กคนนั้นโดนเฉี่ยวชนได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า?

     

    ฮงกีใช้มือเล็กๆคว้ามือที่กำลังเอื้อมคว้ามาหาเขาจับไว้มั่น  ราวกับจะเป็นที่พึ่งพิงให้  ทั้งที่มือน้อยๆนั้นสั่นเทา  หยดเหลวสีใสเม็ดโตร่วงลงบนพื้นถนนเผาะๆ

     

    เขารู้...

     

    ว่าเมื่อกี้ถ้าอีกฝ่ายไม่หักคอรถหลบ  คงเป็นตัวเองที่ต้องลงไปนอนจมกองเลือดแบบนี้แทน

     

    จะตายไหม?

     

    ถามตรงไปตรงมาเสียจนคนเจ็บที่อยากจะพริ้มตาสลบหนีความเจ็บปวดปลาบร้ายกาจให้พ้นๆ  ต้องสะดุ้งเบิกตามองใบหน้าน้อยๆที่เปื้อนน้ำตาอีกครั้ง

     

    นี่ถามจริงๆหรือกวนตีนวะ!?

     

    หากเมื่อได้ยินเสียงสะอื้นพร้อมกับความรู้สึกเปียกชื้นที่หลั่งหล่นรดบนผิวขาวผุดผาดก็รู้คำตอบ

     

    ยกมือที่สั่นเทาเปรอะโลหิตขึ้นเช็ดซับน้ำตาให้เด็กขี้แยอย่างเอ็นดู

     

    แต่ก่อนหลงคิดว่าตัวเองเกลียดเด็ก...

     

    ที่ไหนได้  เพราะไม่อยากอยู่ใกล้เห็นเด็กร้องไห้ตะหาก  เลยหลีกเลี่ยงมาตลอด

     

    เพิ่งรู้นะว่าภูมิต้านทานน้ำตาของสิ่งมีชีวิตตัวจ้อยในร่างกายมันต่ำ

     

    ไม่รู้สิ...ไม่อยากเห็นคนตรงหน้าร้องไห้เลย  ไม่ว่าจะเพราะเขาเป็นต้นเหตุก็ตาม

     

    ฉันญานะฮะ  ต้องรอดมาแต่งงานกับผมนะ

     

    ความไร้ตัวตนอันหนักอึ้งกดทับที่เปลือกตาจนมิอาจต้านทานไหวอีกต่อไป  หากแต่หูยังแว่วได้ยินเสียงเจื้อยแจ้วของเจ้าเด็กนั่นอยู่บ้าง

     

    เจ้าบ้าเอ๊ย  คำว่าสัญญายังพูดไม่ชัดเลย  แล้วว่าแต่ว่ามันเกี่ยวอะไรกับแต่งงานกันเล่า

     

    นะฮะ

     

    นิ้วก้อยรับรู้สัมผัสเกี่ยวพันของนิ้วเล็กๆอีกนิ้ว  เขากัดฟันออกแรงขยับตอบรับสัมผัสเบาๆ  พร้อมกับปล่อยเสียงหลุดลอดออกจากลำคอเป็นเชิงตกลง

     

    สติสัมปชัญญะค่อยๆเลือนราง  สิ่งที่รับรู้สุดท้ายคือการขยับไหวของสร้อยเส้นยาวที่สวมอยู่ 

     

    เกิดอะไรขึ้นนะ...  เจ้าเด็กนั่นมันจะกระชากสร้อยฉันเหรอ?  เฮ้ๆๆ  ถึงมันจะไม่ใช่ของแท้ที่มีราคาค่างวดมากมาย  แต่ก็เป็นน้ำพักน้ำแรงของฉันเพียวๆนะเว้ย  อือออ...  ไม่ไหวแล้วว่ะ  อะไรก็ช่างเถอะ  ขอนอนก่อนดีกว่า...

     

     

     

     

     

     

    ฮงกีเอียงคอยกมือขึ้นไล้ใบหน้าที่พริ้มหลับ  ใช้นิ้ววาดไปตามโค้งคิ้วดำเรียว  จากนั้นลากลงมายังสันจมูก  ลมหายใจผะแผ่วเป็นจังหวะสม่ำเสมอกระทบถูกปลายนิ้วที่เคลื่อนไหวไม่หยุดของเด็กมือบอน  และสะดุดลงฉับพลัน

     

    อือ..ออ..ออ~~”

     

    เปลือกตาสีน้ำนมย่นยู่  เรียวหน้าสวยส่ายไปมายังผลให้เส้นผมยาวระยับสะบัดพลิ้วอยู่บนผืนผ้าขาวบริสุทธิ์  ก่อนที่แพขนตางอนงามจะกระพริบเปิดเผยดวงตาคู่งามล้ำ

     

    เรือนร่างเพรียวบางกระตุกลุกภายในทันที  ท่อนแขนเรียวขาวภายใต้ชุดผู้ป่วยของโรงพยาบาลวาดฉับแหวกอากาศสับสันมือลงบนกระหม่อมทุยๆของคนที่นั่งข้างๆเตียงอย่างแรง

     

    โอ๊ยโหยว!”

     

    เหยื่อประทุษร้ายตัวเล็กหวีดร้องเสียงแหลมออกจากปากยื่นๆ  ใช่ว่าคนตัวโตกว่าจะยอมอ่อนข้อให้ 

     

    เรื่องอะไรมาบีบจมูกเขาจนหายใจไม่ออกต้องตื่นขึ้นมาด้วยเล่า!!

     

    สมมติตัวเองเป็นวงร็อคใช้หัวเด็กต่างกลอง  ฟาดให้หนำใจ  ให้สาสมกับการรบกวนนิทรากาลของท่านคิมฮีชอลผู้นี้

     

    อย่าลงมือลงไม้กับคู่หมั้นอย่างนี้สิฮะ!  ไม่น่ารักเลย!”

     

    คู่หมั้น?  ฮีชอลยั้งมือไว้ไมตรีกลอกตาขบคิดถ้วนถี่ในเวลาไม่ถึงวิ  แล้วตวัดมือตบอีกครั้ง

     

    ผัวะ!!~

     

    เพื่อนเล่นเรอะ!?”

     

    อะไรล้าววว?  คนขี้ตู่!  ไหนว่าจะแต่งงานกับผมไงฮะ!?”

     

    จะว่าไปแล้ว... 

     

    เรื่องราวบ้าๆที่เลือนรางก็ค่อยๆชัดเจนขึ้นมาในหัว 

     

    แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ...  ใครจะถือเอาจริงเอาจังกับเรื่องแบบนี้กันล่ะ  เฮอะ!

     

    เห็นคู่หมั้นของตัวเองเงียบไป  เจ้าตัวเล็กก็กระตุกดึงชายแขนเสื้อหลวมโคร่งของคนสวยเบาๆ  ช้อนใบหน้ากลมขึ้นสบมองด้วยดวงตาสุกใสเว้าวอน  ไม่อยากให้เป็นเรื่องที่เข้าใจผิดไปเองคนเดียว

     

    สัญญาแล้วนะฮะ 

     

    คำว่า  สัญญา  พุ่งตรงเข้าไปกระแทกที่หัวใจของคิมฮีชอลอย่างจัง 

     

    เขาลืมไปได้ยังไงกันนะ...  คนที่จริงจังกับคำมั่นสัญญามากที่สุด  ก็คือเด็กไร้เดียงสาไงล่ะ

     

    อย่างที่เขาเคยพูดแบบนี้  สัญญาแล้วนะ  ด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ  แต่คนหน้าตาสวยๆคนนั้นก็เพียงวาดยิ้มหวานพร้อมกับเอ่ยถ้อยคำหลอกลวงกับเขาไปเรื่อยๆ

     

    แล้วไงล่ะ?  เพียงเพราะไม่อยากจะผิดสัญญาทำร้ายจิตใจผู้อื่นเหมือนคนๆนั้น  ถึงกับขนาดต้องดึงเด็กคนนี้เข้ามาในชีวิตเชียวเหรอ...

     

    ไปได้แล้ว  ไอ้แสบ

     

    ร่างสูงร่างหนึ่งยืนอยู่หน้าประตูเมื่อไรไม่รู้เอ่ยปาก  ฮีชอลตกใจกับการที่จู่ๆก็มีตัวตนของเขามากอยู่หรอก  แต่ก็ไม่มากเท่าตอนที่ลีฮงกีหันไปตามเสียงเรียก

     

    เห็นปื้นแดงจัดเป็นรอยฝ่ามือบนพวงแก้มใสของเด็กน้อย!

     

    ใครตบหน้านาย?

     

    คว้าข้อมือเล็กดึงความสนใจให้หันเหมาที่เขา  ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรแม้แต่ชื่อก็ยังไม่รู้จัก  หากชายหนุ่มก็ไม่อาจห้ามความห่วงใยลึกซึ้งซึ่งสะท้อนออกมาทางสีหน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×