ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    { Reborn | Durarara } The last Game | A day without you

    ลำดับตอนที่ #2 : Chapter Two

    • อัปเดตล่าสุด 13 ส.ค. 58


    Chapter Two

     

     

     

     

              เมืองอิเคบุคุโระยังคงเป็นเหมือนเดิม..

     

     

              เมืองที่มีแต่ความวุ่นวาย..เสียงรถ  เสียงพูดคุยของหนุ่มสาว  การไถ่เงินของพวกนักเลงข้างถนน  อ่า..แต่ว่านะ...เขารู้สึกได้ว่ามีอะไรบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงไป

     

     

              อ๋อ..ที่เมืองอิเคบุคุโระแห่งนี้ไม่มีแก๊งค์วัยรุ่นที่ผูกผ้าพันคอสีเหลืองอีกแล้วนี่เอง..

     

     

              กลุ่มวัยรุ่นที่แต่งกายสวมเครื่องประดับที่มีสีเดียวกัน..ใช่! หากเป็นเมื่อก่อนก็คงจะมีกันเกลื่อนถนน  แต่ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่ทุกอย่างมันกลับเปลี่ยนแปลงไป..ไม่มีอีกแล้ววัยรุ่นกลุ่มนั้น  ไม่มีอีกแล้วแก๊งค์ผ้าพันคอเหลือง..  คิดะ มาซาโอมิ ยกยิ้มสมเพชให้กับตัวเอง  ด้วยตาสีอำพันทอประกายเย้ยหยันเหยียดหยาม..ในความคิดของเขาในตอนนี้มีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้น 

     

     

              ตัวเขาในตอนนี้มันน่าสมเพช..

     

     

              “เหอะ..บ้าเอ้ย!” มาซาโอมิเตะกระป๋องที่วางอยู่บนเส้นทางเดินอย่างแรง..ในตอนนี้เขาต้องการระบายอารมณ์อย่างถึงที่สุด  ซากิทิ้งเขาไป..ใช่! คุณไม่ได้อ่านผิด..แต่ซากิทิ้งเขาไปแล้วจริงๆ!  และสาเหตุที่เขากลับมาที่อิเคบุคุโระ..ส่วนนึงนั่นก็เพราะต้องการกลับมาทำใจ  แต่อีกส่วนนึง..ก็แค่กลับมาเพื่อยืมไหล่ของใครซักคนมาเป็นที่พักพิงอีกซักครั้ง

     

     

              และชื่อเดียวที่ปรากฏอยู่ในก้นบึ้งส่วนลึกของจิตใจ  ก็คือ..

     

     

              ริวงามิเนะ มิคาโดะ

     

     

              “มิคาโดะ..นายอยู่ไหน..” ที่บ้านก็ไม่มี..หาตามเมืองแล้วก็ยังไม่เจอ  ส่วน โซโนฮาระ อันริ ก็ยังไม่สามารถติดต่อได้   นี่มันอะไรกัน! หรือว่าเขากำลังถูกทอดทิ้งให้อยู่คนเดียว...ไม่นะ!  ไม่เอา!  เขาไม่อยากอยู่คนเดียว..มิคาโดะ!  อยากเจอมิคาโดะ!!

     

     

              “เอ๊ะ! นั่น..คิดะคุง?  คิดะคุงจริงๆด้วย!

     

     

              “อ..อันริจัง!?” เด็กหนุ่มผมทองอำพันยิ้มร่าอย่างดีใจทันทีที่เพื่อนสาวคนสนิทเดินเข้ามาทัก  อ่า..ถ้าเจออันริเขาก็อาจจะเจอมิคาโดะ  หลายเดือนที่ไม่ได้เจอกันเขาก็อยากเล่าเรื่องราวมากมายของเขาให้เธอฟังเหลือเกิน  ทว่าดวงตากลมที่ดูเศร้าหมองของอีกฝ่ายนั้นทำให้ปากบางที่เคยพูดจอไม่หยุดกับเงียบสงัดไร้ซึ่งเสียงใดๆ 

     

     

              “ม..ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ! แล้ว..แล้วมิคาโดะล่ะ!? หมอนั่นอยู่ด้วยใช่มั้ย?” เมื่อสัมผัสได้ถึงบรรยากาศน่าอึดอัด..มาซาโอมิถึงพยายามกลบเกลื่อนบรรยากาศพร้อมกับถามถึงเพื่อนสนิทอีกคนนึงที่ควรจะอยู่ด้วยกัน  เพื่อนสนิทคนที่เขาต้องการเจอตัวมากที่สุดในตอนนี้..

     

     

              “คือฉันก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ..ช่วงนี้ริวงามิเนะคุงขาดเรียนบ่อยมาก  จึงไม่ค่อยได้เจอกันซักเท่าไหร่  ก็เลย..” เสียงของเด็กสาวขาดช่วงไปก่อนจะกลายเป็นความเงียบ  สิ่งที่หน้าแปลกใจสำหรับมาซาโอมิคือการที่เด็กสาวเบิกตากว้างคล้ายกับกำลังตกใจ  ดวงตากลมของอีกฝ่ายดูสั่นระริก..ไม่รอช้าให้ใครมาสั่งมาซาโอมิก็หันไปในทิศทางเดียวกันทันที  อ่า..ใช่แล้ว..ภาพของคนๆนั้นทำให้สมองขาวโพลนไปหมด  ไม่รู้เลยว่าต้องทำยังไง..ไม่รู้เลยว่าต้องทำตัวแบบไหน  เพียงแค่ทันทีที่พบกับเพื่อนรักที่ไม่ได้พบกันมานานหัวใจก็เต้นถี่รัวขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์

     

     

              “ม..มิคาโดะ..มิคาโดะ!” ไม่รอช้าสมองก็สั่งการให้เขาวิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อที่จะเข้าไปสวมกอดเพื่อนรัก  ร่างสูงโปร่งของมิคาโดะหันมาตามเสียง..ก่อนที่ดวงตาคมจะเบิกกว้างอย่างตกใจ  ความคิดทั้งหลายตีกันไปมาจนเขาไม่สามารถเรียบเรียงออกมาเป็นคำพูดได้เลย  ทำได้แค่เพียงมองบุคคลตรงหน้าด้วยสายตาที่ไม่อยากจะเชื่อและเผยอปากเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง  แต่เสียงที่ควรจะมีกลับหายไปในชั่วพริบตา!!

     

     

              “มิคาโดะ! คิดถึงนายสุดไปเลย!!” ทันทีที่วิ่งเข้ามาประชิดตัวร่างบางก็กระโจนเข้าไปสวมกอดเพื่อนร่างสูงโปร่งทันที!  มิคาโดะชะงักกึก..มาซาโอมิ..?  นี่มาซาโอมิจริงๆงั้นเหรอ..?  เขาไม่ได้ฝันไปใช่มั้ย..? 

     

     

              “อ..อ่า! นี่มาซาโอมิจริงๆเหรอเนี่ย!?” ร่างสูงโปร่งปรับสีหน้าให้ยิ้มแย้มดั่งเช่นปกติในทันทีพลางเกาท้ายทอยแก้เก้อ  อืม..โซโนฮาระ อันริ ดูออกว่านั่นไม่ได้ออกมาจากใจจริงของมิคาโดะเลยซักนิดเดียว  เธอที่รับรู้การเปลี่ยนแปลงของมาคาโดะมาตลอดหลายเดือนจะสังเกตได้คงไม่แปลกเท่าไหร่นัก..และการที่มาซาโอมิไม่สังเกตเห็นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเช่นกัน  อย่างไรก็ตามเธอก็รู้สึกไม่สบายใจเลยหากมิคาโดะเปลี่ยนไป..และคนเพียงคนเดียวที่จะทำให้มิคาโดะกลับมาเป็นดั่งเช่นเมื่อก่อนก็คงไม่พ้นหนุ่มร่างบางคนนี้  แต่บางทีเธออาจจะคิดผิด..

     

     

              ไม่สิ..มันผิดไปเสียทุกอย่าง..

     

     

              “โซโนฮาระซัง..เดี๋ยวผมมีเรื่องจะคุยกับมาซาโอมิ  เพราะฉะนั้นขอตัวก่อนนะครับ” ส่งยิ้มให้กับเด็กสาว..ทว่าดวงตากลับแข็งกร้าวจนน่ากลัว  อันริส่งยิ้มให้เช่นเคย..ถึงแม้จะเปลี่ยนไปแค่ไหนแต่เพื่อนก็คือเพื่อน  เธอกับร่างสูงโปร่งคนนั้นเป็นเพื่อนกัน..และบางทีในซักวัน..เธออาจจะยอมรับในตัวตนที่แสนจะบิดเบี้ยวของอีกฝ่ายได้

     

     

              ใช่..มันจะต้องมีซักวันที่เธอสามารถทำได้..

     

     

              เด็กสาวบอกกับตัวเองก่อนจะเดินหันหลังกลับไป..

     

     

              “เฮ้! นี่นายสูงกว่าฉันไปแล้วงั้นเหรอ!” มาซาโอมิสบถอย่างไม่สบอารมณ์นัก  ก่อนที่เขาจะไปเขายังสูงกว่ามิคาโดะอยู่เลยนะ!!..เอ๊ะ?  ก่อนที่เขาจะไป..อ่า  ใช่แล้ว..มิคาโดะจะโกรธเขาอยู่รึเปล่านะ  มิคาโดะจะยังต้องการเขาอยู่รึเปล่า..

     

     

              ในวันนั้นเขาหนีมิคาโดะไปอยู่กับซากิ..

     

     

              ในวันที่มิคาโดะร้องไห้เสียใจเขาก็ไม่ได้อยู่กับหมอนั่น..

     

     

              นี่เขา..เห็นแก่ตัวจังเลยแฮะ  อยากจะชดเชยให้..อยากจะอยู่เคียงข้างคอยปลอบใจหมอนั่นเพื่อชดเชยกับความเห็นแก่ตัวที่เขาได้ทำลงไป 

     

     

              “ก็นะ..” ร่างสูงโปร่งยกยิ้มบางๆบนใบหน้าให้กับคำถามของเพื่อนสนิท  ทว่าเพียงชั่วพริบตาที่ดวงตาสีนิลกลับทอประกายความเศร้าหมอง..และมาซาโอมิก็หาได้สังเกตเห็นมัน 

     

     

              “นายดูไม่ดีเลยนะมาซาโอมิ..เป็นอะ..เอ๋!?” ไม่ทันที่จะถามจบร่างบางของมาซาโอมิก็กระโดดกอดร่างสูงโปร่งแทบจะในทันที  ใบหน้าหวานซุกลงไปกับแผงอกของอีกฝ่าย ร่างบางกอดแน่นราวกับกลัวว่า ริวงามิเนะ มิคาโดะ จะหายไปเสียอย่างงั้น

     

     

              “ซากิทิ้งฉันล่ะมิคาโดะ..ซากิทิ้งฉัน..ฮึก!

     

     

              .....

     

     

              อา..เขาคิดไว้แล้วว่ามันจะต้องเป็นแบบนี้..

     

     

              ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งยกยิ้มมุมปากอย่างร้ายกาจโดยที่อีกฝ่ายไม่ทันสังเกตเห็น  ดวงตาสีนิลพราวระยับอย่างสนุกสนาน  ก่อนที่วินาทีต่อมาจะกลับมาเป็นเช่นเดิม  อา..ใช่แล้ว  ถ้ามาซาโอมิเลิกกับยัยซากิอะไรนั่น..มาซาโอมิก็จะกลายเป็นของเขา  เป็นของเขาคนเดียว..!

     

     

              “ไม่เป็นไรนะ..มาซาโอมิ..” ร่างสูงโปร่งปรับน้ำเสียงให้อ่อนโยนเพื่อปลอบประโลมคนตรงหน้า  ดวงตาสีดำทมิฬทอประกายความเป็นห่วง  มือหนาลูบเส้นผมสีทองเบาๆราวกับกำลังให้กำลังใจ  อา..อบอุ่น  ไม่รู้ทำไมแต่เวลาที่มิคาโดะลูบหัวเขาแบบนี้น้ำตามันก็ไม่ไหลอีกแล้ว  อาจจะเพราะว่าความอบอุ่นจากฝ่ามือของเพื่อนสนิทคนนี้..หรือบางทีอาจจะเป็นเพราะ...

     

     

              อา..เหตุผลข้อสุดท้ายเขาไม่ค่อยอยากจะนึกถึงมันซักเท่าไหร่

     

     

              “เจ็บมากรึเปล่า..หืม?” มือที่ลูบหัวหยุดชะงักก่อนจะเลื่อนมาประคองใบหน้าของ คิดะ มาซาโอมิ เอาไว้..ดวงตาสีดำทมิฬจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาของอีกฝ่าย  ราวกับกำลังจะค้นหาความจริงที่ซ่อนอยู่ภายในดวงตาคู่สวยคู่นั้น  ใบหน้าคมเคลื่อนเข้าไปใกล้ก่อนจะบรรจงประกบริมฝีปากอย่างแผ่วเบา  ลิ้นร้อนเลียไปตามริมฝีปากบางของอีกฝ่ายก่อนจะสอดแทรกเข้าไปหาความหวานภายในโพรงปาก  ไม่มีความรุนแรงใดๆ..ที่มาซาโอมิรู้สึกมีเพียงอย่างเดียวคือความอ่อนหวานและความอ่อนโยนที่แสดงให้เห็นว่าอีกฝ่ายทะนุถนอมตนขนาดไหน  แต่เรื่องแบบนี้มันไม่ควรที่จะเกิดขึ้น..เขากับมิคาโดะเป็นเพื่อนรักกัน  ไม่ควรที่จะทำแบบนี้เลยซักนิด  อ่า..ทั้งๆที่คิดแบบนั้นแต่ร่างกายกลับไม่ยอมขยับ  มือไม้ขาอ่อนจนแทบจะทรุดลงไปกองกับพื้นหาอีกฝ่ายไม่รั้งตัวเอาไว้  ความละมุนที่ได้รับยังคงมีอย่างต่อเนื่อง..  ต่อจากนี้จะเป็นเช่นไร..ความสัมพันธ์ของมิคาโดะกับเขาจะเปลี่ยนแปลงไปใช่มั้ย?  ไม่..มันไม่ควรที่จะเป็นแบบนั้น  แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยจริงๆ..ว่าแท้จริงแล้วสิ่งที่เขาต้องการมาโดยตลอด..

     

     

              ก็คือ มิคาโดะ ที่ยืนอยู่ตรงหน้านี้เอง..

     

     

              รักนายรึเปล่าไม่รู้..

     

     

              แต่ฉันก็แค่ต้องการนาย..ต้องการความอบอุ่นจากนาย

     

     

              แค่นั้นเอง..จริงๆ..

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

              “รุ่นที่ 10 ครับ..มีจดหมายส่งมาถึงท่านครับ..”

     

     

              ร่างสูงของชายหนุ่มเจ้าของกลุ่มผมสีควันบุหรี่พูดขึ้นพลางยื่นซองจดหมายสีดำสนิทที่ถึงไม่ต้องบอกว่าใครเป็นคนส่งมา  บุคคลที่นั่งอยู่บนโซฟาราคาแพงตัวนี้ก็คงจะต้องรู้แน่ๆ  ร่างโปร่งบนโซฟาถอนหายใจอย่างหน่ายๆ  ไม่ว่าจะผ่านไปกี่วันกี่เดือน โอริฮาระ อิซายะ คนนั้นก็ยังคงเป็นคนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอยู่เสมอเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน  มือขาวจัดการเปิดซองจดหมายก่อนที่ดวงตาคู่งามสีน้ำตาลอ่อนจะไล่อ่านตัวอักษรสีขาวที่ตัดกับแผ่นกระดาษสีดำอย่างรวดเร็ว  ใบหน้าหวานราวกับหญิงสาวที่นิ่งสนิทเปลี่ยนแปลงไป..รอยยิ้มมุมปากมาดร้ายถูกแต่งแต้มบนใบหน้า  ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนทอประกายความสนุกสนาน  อา..ในที่สุดเกมที่เขารอคอยมาโดยตลอดก็ถึงเวลาเริ่มเดินจนได้  ร่างโปร่งผุดลุกขึ้นยืน..ก่อนจะจัดการยื่นจดหมายไปให้มือขวาของตนผู้ที่ยืนอยู่ขนาบข้าง 

     

     

              “เอาล่ะ..ถึงเวลาที่วองโกเล่ของพวกเราจะต้องเข้าไปมีส่วนร่วมในเกมนี้แล้ว J

     

     

     

     

     

     

     

     

     

      

    B E R L I N ❀
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×