ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    { Reborn | Durarara } The last Game | A day without you

    ลำดับตอนที่ #1 : Chapter One

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 551
      7
      7 มิ.ย. 58

    Chapter One

     

     

     

              “น่าเบื่อ..”

     

     

              เด็กหนุ่มมัธยมปลายวัย 17 ปีนั่งเท้าคางกับโต๊ะก่อนจะพึมพำเสียงเบา  ใบหน้าคมนิ่งสงบไร้ซึ่งรอยยิ้ม  ผิวขาวจนเกือบเรียกได้ว่าซีดตักกับผมสีดำสนิทและดวงตาสีนิลรัตติกาลคู่สวยที่ดูลึกลับ 

     

     

              “ห..ห้ะ? อะไรนะครับรุ่นพี่มิคาโดะ!?” รุ่นน้องที่โรงเรียนเจ้าของกลุ่มผมสีน้ำเงินเบิกตาโพลงก่อนจะรนรานตอบ  ในใจส่วนลึกกลัวว่าผู้เป็นบอสใหญ่ของดอลล่าส์และบอสใหญ่ของ  BLUE SQUARE จะสั่งอะไรมาแล้วเขาไม่ได้ยิน

     

     

              “ผมก็แค่บอกว่ามันน่าเบื่อ..” เด็กหนุ่มตอบโดยเพิ่มระดับเสียงให้ดังขึ้นพอที่อีกฝ่ายจะได้ยิน  ริมฝีปากของบอสใหญ่ของดอลล่าส์เม้มเล็กน้อยอย่างหงุดหงิด  ช่วงนี้อาจจะเป็นเพราะเขาและพวก BLUE SQUARE กวาดล้างพวกดอลล่าส์ปลายแถวที่ไม่ยอมเชื่อฟังแถมยังใช้ชื่อดอลล่าส์ไปทำเรื่องต่ำช้าไปหมดแล้ว  มันก็เลยว่าจนเกิดความรู้สึกที่เรียกว่า น่าเบื่อ ขึ้นมา..

     

     

              แล้วยิ่ง โอริฮาระ อิซายะ ผู้ที่ชอบสรรหาเรื่องสนุกๆมาให้ก็ดันหายตัวไปอย่างลึกลับตั้งแต่เมื่อ 2 อาทิตย์ก่อนเสียนี่..

     

     

              ให้ตายสิ..กลายเป็นว่าเมืองนี้มันน่าเบื่อไปเลย

     

     

              “แล้ว..ยังไม่เจอข่าวคราวของมาซาโอมิคุงอีกงั้นเหรอ?” คำถามที่บอสใหญ่ของดอลล่าห์และ BLUE SQUARE อย่าง  ริวงามิเนะ มิคาโดะ ถามมานั้นทำให้เด็กหนุ่มรุ่นน้องที่โรงเรียนซึ่งควบตำแหน่งลูกน้องที่สนิทด้วยที่สุดชะงักกึก   คุโรนุมะ อาโอบะ เหลือบตามองมิคาโดะด้วยแววตาที่สั่นไหว  นี่ก็ผ่านมาเกือบ 6 เดือนแล้วหลังจากที่เขาทั้งคู่ทำสัญญากัน  แต่ทำไมกัน?  เพราะอะไรคนตรงหน้าถึงยังไม่ลืม คิดะ มาซาโอมิ อีก.. 

     

     

              เจ็บ..

     

     

              “ย..ยังเลยครับรุ่นพี่มิคาโดะ” ใบหน้าของอาโอบะที่เคยมีแต่รอยยิ้มเจ้าเล่ห์เต็มไปด้วยอุบายเล่ห์เหลี่ยม  บัดนี้กลับมีแค่ใบหน้าซีดขาวและรอยยิ้มฝืนๆที่ปากเท่านั้น  หรือแม้แต่ดวงตาที่เคยเต็มไปด้วยความลึกลับซับซ้อนยากจะเดาว่ากำลังคิดอะไรอยู่  แต่ในตอนนี้มันก็ไม่เป็นเช่นนั้นอีกต่อไป..

     

     

              มิคาโดะเหลือบมองมาที่รุ่นน้องคนสนิทซึ่งบัดนี้เสียงสั่นเล็กน้อย  ดวงตาคู่งามที่สั่นระริกเหมือนกับกำลังจะบ่อน้ำตาแตกได้ทุกเมื่อนั่นทำให้เด็กหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่  แน่นอนว่าหากเป็นปกติเขาคงจะละเลยมันไปและไม่คิดที่จะสนใจมันอีก

     

     

              “มานั่งนี่สิครับ อาโอบะคุง..” พูดด้วยน้ำเสียงที่แสร้งว่ากำลังอารมณ์ดีทั้งๆที่ในใจตอนนี้มันกำลังเครียดอย่างหนักเรื่องที่ยังไม่ได้ข่าวคราวเกี่ยวกับมาซาโอมิเพื่อนสนิทที่เขาแอบคิดไม่ซื่อด้วย  แน่นอนว่าเขาย่อมรู้ดีว่าการที่เขาถามถึงมาซาโอมิแบบนั้นกับอาโอบะมันทำให้อีกฝ่ายเจ็บปวดมากแค่ไหน  แต่จะให้ทำอย่างไร?  ต่อให้อาโอบะมอบความรักให้เขาเท่าไร..สุดท้ายมันก็มาแทนที่ความรักที่เขามีให้มาซาโอมิไม่ได้อยู่ดี    

     

     

              “ครับ..” อาโอบะลุกขึ้นจากพื้นก่อนจะก้าวขาไปที่โซฟาสีน้ำเงินเข้มซึ่งมีมิคาโดะกำลังนั่งอยู่  แน่นอนว่าเขาไม่คิดที่จะไปนั่งหรอก..เพราะจุดที่บอสใหญ่บอกให้เขานั่งนั้นไม่ใช่ที่โซฟา  เด็กหนุ่มหย่อนตัวนั่งลงบนตักของมิคาโดะอย่างเก้อเขินเล็กน้อย  ก่อนที่บอสของดอลล่าส์จะรวบเอวบางเอาไว้  จมูกโด่งซุกไซร้ไปตามซอกคอขาวของคนที่นั่งอยู่บนตัก  ก่อนที่ปากจะเม้มให้เกิดรอยแดงเป็นจ้ำๆบนลำคอขาว  มืออีกข้างสอดเข้าไปภายใต้เสื้อนักเรียนก่อนจะจัดการลูบไล้แผ่นอกขาว..

     

     

              ด้วยความเคยชินผสมกับความเสียวซ่านที่อีกฝ่ายมอบให้  ทำให้เด็กหนุ่มบนตักโอบคอของมิคาโดะอย่างลืมตัว  มิคาโดะปล่อยแขนข้างที่รวบเอวบางไว้ก่อนจะเชยคางของอาโอบะขึ้นแล้วประกบจูบอย่างรุนแรง  ลิ้นที่กำลังพัวพันกันจนเกิดเสียงไม่น่าฟังทำให้น้ำลายใสหยดลงข้างล่าง  แต่ถึงกระนั้นคนทั้ง 2 ก็ยังคงไม่เลิกจูบกันอย่างดูดดื่ม

     

     

              “อื้อ..ร รุ่นพี่ ม..มิคาโดะ อื้อ! แฮ่ก!” เด็กหนุ่มร่างโปร่งปล่อยให้ริมฝีปากของคนที่นั่งอยู่บนตักว่างทันที  อาโอบะจัดการหอบเอาอากาศเข้าอย่างรวดเร็ว  การจูบแบบเมื่อกี้แทบจะทำให้เขาละลายแล้วขาดอากาศหายใจตายอยู่รอมร่อ

     

     

              แต่เขาก็ยังหลงใหลในรสจูบเช่นนั้นอยู่ดี..

     

     

              “ผมไม่หยุดหรอกนะ..” มือของมิคาโดะจัดการปลดกระดุมกางเกงของร่างโปร่งบางออก  ก่อนจะลูบไล้ไปตามแก่นกายของคนที่นั่งอยู่บนตัก  เสียงครางหวานของร่างบอบบางบนตักนั้นทำให้เขาอยากจะแกล้งหนักมากกว่าเดิม

     

     

              บทเพลงรักอย่างคงดำเนินต่อไป..

     

     

              “อ๊า!~ ร..รุ่นพี่มิคาโดะ! อ..อึก! อ้ะ..อ๊า!

     

     

            “อืม..อ่า มาซาโอมิอ่า..”

     

     

               

     

     

     

     

              “ฮึก! ” ร่างโปร่งบางของอาโอบะพยายามกลั้นเสียงสะอื้นไว้อย่างสุดความสามารถ  มือขาวซีดยกขึ้นมาปิดปากเพื่อไม่ให้เสียงสะอื้นของตนดังรบกวนร่างสูงโปร่งซึ่งกำลังหลับใหลอยู่บนโซฟา  แม้ว่าจะอ่อนเพลียมากจนอยากจะหลับจากกิจกรรมรักเมื่อซักครู่  แต่เพราะชื่อที่ร่างสูงโปร่งหลุดออกมาจากปากนั่นทำให้ตาสีน้ำเงินไม่สามารถหลับลงอีกต่อไป..

     

     

              สุดท้ายคุณก็นึกว่าผมเป็นเขาอยู่ดี..

     

     

              มือซีดทั้งสองข้างพยายามติดกระดุมเสื้อของตัวเองอย่างหนัก  แต่เพราะว่าในตอนนี้จิตใจของเขามันกำลังสั่นไหวอย่างรุนแรง  แน่นอนว่ามันพลอยทำให้ร่างกายทุกส่วนสั่นไปหมด  ไหนจะความเจ็บปวดที่สะโพกนั่นก็ทำเอาแข้งขาสั่นไปหมด  หากจะให้พูดแล้วแรงจะยืนยังไม่มีเลยด้วยซ้ำ  ก็อีกฝ่ายรุนแรงซะขนาดนั้น..

     

     

              คิดที่จุดนี้ไปหน้าหวานก็ขึ้นสีแดงระเรื่อ  แต่เมื่อคิดถึงความเป็นจริงแล้วว่าคนที่หลับใหลอยู่บนโซฟานั้นรักใคร  จิตใจก็ห่อเหี่ยวลงดั่งเช่นทุกที..

     

     

              แต่ถึงจะอยากลุกหนีจากบ่วงพันธนาการรักที่อีกฝ่ายสร้างขึ้นซักเท่าไร

     

     

              สุดท้ายก็หนีไปไม่ได้อยู่ดี..

     

     

              แต่ก่อนที่ร่างโปร่งบางจะจัดการใส่กางเกงแล้วเดินออกไป  มือซีดพยายามเอาของเหลวสีขาวขุ่นที่อยู่ในช่องทางหลังออกอย่างกล้าๆกลัวๆ  ปกติแล้วคนที่เอาออกให้เขาก็คือมิคาโดะ  แต่เพราะในตอนนี้คนๆนั้นหลับไปแล้วเขาเลยต้องมาเอามันออกด้วยตัวเอง  เมื่อสวมใส่กางเกงและจัดการปกปิดรอยจ้ำแดงบนคอเรียบร้อย  อาโอบะก็พยายามก้าวขาเดินออกจากประตูไป  แต่ถึงกระนั้นความคิดคำนึงก็ยังคงคิดถึงบอสใหญ่ของดอลล่าส์อยู่ดี..

     

     

            ผมอิจฉาคุณ  คิดะ มาซาโอมิ..

     

     

             

     

     

     

     

     

     

              หลังจากที่อาโอบะก้าวขาเดินออกไปจากโกดังร้างได้ไม่นาน  ดวงตาสีนิลของผู้ที่อีกฝ่ายนึกว่าหลับอยู่ก็ลืมตาตื่นขึ้นมาทันที  มิคาโดะรับรู้ทุกอย่าง..ทั้งเสียงสะอื้นร่ำไห้ของอาโอบะ  ทั้งเรื่องที่อาโอบะพยายามเอาของเหลวสีขาวขุ่นนั่นออกด้วยตัวเอง  และเรื่องที่เด็กหนุ่มคนนั้นเจ็บปวดเป็นอย่างมากที่เขาเผลอครางเรียกชื่อของคิดะออกมา

     

     

              ความจริงในแง่ของอาโอบะก็สมควรจะเจ็บปวดอยู่หรอก  ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายรู้สึกอย่างไรกับเขา  แน่นอนว่าเขารู้..และอีกฝ่ายก็รู้ว่าเขารู้  ความสัมพันธ์ของเขาและอาโอบะไม่ใช่คนรักและไม่ใช่แฟน  มันก็แค่เป็นความสัมพันธ์ที่เมื่อไหร่ที่เขาเบื่อก็เรียกอีกฝ่ายมาและทุกครั้งอีกฝ่ายก็เต็มใจ  มันก็แค่เป็นความสัมพันธ์ที่อีกฝ่ายยอมทำทุกอย่างเพื่อเขา

     

     

            ..ก็แค่นั้นเอง

     

     

              “มาซาโอมิ..” เด็กหนุ่มพึมพำชื่อของคนที่อยู่ในใจตลอดมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา..  อีกฝ่ายมีแฟนแล้วเขารู้ดี  อีกฝ่ายรักแฟนมากเขารู้ดี  และอีกฝ่ายหนีหายไปที่ไหนไม่รู้แล้ว..เขาก็รู้ดี

     

     

              และเขายังรักอีกฝ่ายหมดหัวใจ..เรื่องนั้นเขาก็รู้ตัวเองดี

     

     

              “แค่นี้ยังไม่พอ..”  ใช่..ถึงแม้ว่าการที่ทำอะไรแบบนั้นกับอาโอบะจะช่วยฆ่าเวลาที่สุดแสนจะน่าเบื่อนี้ไปได้บ้าง  แต่สุดท้ายเมืองนี้ก็ยังคงน่าเบื่ออยู่ดี..แต่ถึงกระนั้นเขาก็ย่อมรู้ดีที่สุด  เมืองอิเคบุคุโระกำลังมีปัญหา..กลุ่ม Red Sin หรือก็คือกลุ่มบาปสีแดงซึ่งมีมาเฟียระดับสูงหนุนหลังอยู่ต้องการที่จะครองอิเคบุคุโระที่ดอลล่าส์เป็นเจ้าถิ่น 

     

     

              บางทีการปะทะกันครั้งที่ใกล้จะถึงนี้อาจจะทำให้เขาพบกับมาซาโอมิอีกครั้ง..

     

     

              “ยังต้องการพลังมากกว่านี้..” แต่การที่จะจัดการกับแก๊งค์ที่มีมาเฟียระดับสูงหนุนหลังอยู่นี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย  อีกทั้งนั่นยังหมายถึงว่ามันไม่ใช่แค่การต่อสู้ที่เอาไม้เบสบอลไปฟาดหัวอีกฝ่ายเหมือนการมีเรื่องกันของเด็กมัธยม  แต่นี่มันหมายถึงฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทั้ง 2 ฝ่ายจะต้องมีคนตาย  และแนวโน้มที่จะมีคนตายมากก็คือฝ่ายเขาเอง..

     

     

              “ยังต้องการอำนาจมากกว่านี้..” เด็กหนุ่มพึมพำเสียงเบา  ทว่าการที่ติดอยู่ในห้วงความคิดของตัวเองนั้นทำให้เขาไม่รู้ว่าใครบางคนกำลังเดินตรงมาที่เขา

     

     

              “ก็ไปแสวงหาซะสิ..ฉันมีกลุ่มมาเฟียที่อยากจะแนะนำ  สนใจมั้ยล่ะ?” เสียงของบุคคลหนึ่งที่สุดแสนจะคุ้นเคยดังขึ้นใกล้ๆหู  เด็กหนุ่มบนโซฟาเบิกตากว้างก่อนจะหันไปมองผู้มาเยือนที่บัดนี้กำลังยิ้มแป้นอย่างมีความสุข

     

     

              “มาเฟียเหรอครับ..คุณอิซายะ?”

     

     

              “วองโกเล่แฟมิลี่..มาเฟียที่ยิ่งใหญ่และมีอำนาจที่สุดในโลก  ทีนี้เธอสนใจรึยังล่ะ  มิคาโดะคุง..”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    © themy  butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×