ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Philos Lesson3 : A day without laughter is a day wasted.
Lesson3 : A day without laughter is a day wasted.
วันที่ไร้รอยยิ้มเสียงหัวเราะเป็นแค่วันที่สูญเปล่า - Nicolas Chamfort
วันที่ไร้รอยยิ้มเสียงหัวเราะเป็นแค่วันที่สูญเปล่า - Nicolas Chamfort
"ว้าว ฉันชอบเสื้อเธอจัง" กาเบรียลทักฉันเมื่อฉันเข้ามาในห้องเรียน ฉันตอบรับด้วยการยักคิ้วให้สองที แบบ'แน่นอน ระดับลูซี่คนนี้แล้ว'
ถึงฉันกับกาเบรียลจะเรียนคนละสาขาแต่นอกจากวิชาเอกแล้วลงเหมือนกันหมดเลยล่ะ เจอกันทุกวัน
"เหมือนแมลงอะไรสักอย่างเลย แล้วอย่าไปยืนกลางแดดล่ะ คงแสบตาน่าดู ฮ่าๆๆ"
"พูดแบบนี้อยากมีเรื่องรึไง! ฮึ่ยย!" มาบอกว่าผู้หญิงเหมือนแมลงได้ยังไงกัน
พูดไปอย่างนั้น ฉันชินกับการแซะของคนรอบข้างแล้วล่ะ(โดยเฉพาะหมอนี่) ฉันเรียนแฟชั่นดีไซน์นี่นะ แต่งตัวตามอารมณ์ศิลปินล้วนๆ เด็กที่เรียนแฟชั่นดีไซน์ก็ต้องแต่งตัวมีเอกลักษณ์สุดๆ อยู่แล้ว แบบว่าเดินมานี่รู้เลย ความจริงฉันนี่ใสๆเบาๆมาก ฉับชอบแต่งตัวแบบที่ไม่หวือหวามากแต่ก็ไม่เอาแบบน่าเบื่อนะ ในหนึ่งวันมีไอเทมที่ชอบอยู่บนตัวก็พอใจแล้ว ชอบออกแบบให้คนอื่นใส่มากกว่าน่ะ :)
"เฮ้ กาเบรียล บ่ายนี้นายไม่มีเรียนใช่ไหม ไปห้องสมุดด้วยกันนะ"
"ได้เลย อยากหาหนังสืออะไรอยู่พอดี"
หลังทานมื้อเที่ยงเสร็จ เราก็ไปห้องสมุดและแยกย้ายกันไปคนละมุม ฉันตรงไปที่หนังสือหมวดปรัชญาทันที เมื่อวันจันทร์บทเรียนที่เอ็ดเวิร์ดสอนน่าสนใจทีเดียว ฉันอยากศึกษาเพิ่มเติมนิดหน่อย
"เธอนั่นเอง ลูซี่ บาเรตต์" ฉันหันไปตามเสียงเรียกก็พบกับเจ้าของวิชาที่ตัวเองกำลังหาหนังสืออ่านเพิ่มเติม"น่าดีใจที่มีนักศึกษาในคลาสผมสนใจศึกษาเพิ่มเติมนอกจากที่สอนในห้องเรียน"
ถ้าเขาพูดพร้อมรอยยิ้มฉันจะเชื่อมากขึ้น30% ไอ้การขมวดคิ้วพูดประโยคแบบนี้มันอะไรกัน
"คุณคงไม่ได้ยืนเฝ้าชั้นหนังสือทั้งวันเพื่อดูว่ามีนักศึกษามาหาหนังสืออ่านเพิ่มเติมรึเปล่าหรอกใช่ไหม" ฉันถามติดตลก
"เปล่า ผมแค่มาหาหนังสือไว้อ่านฆ่าเวลาน่ะ" เหรอ หนังสือหมวดปรัชญานี่ไม่ใช่ว่าอ่านครบทุกเล่มแล้วรึไง
"พอดีเลย งั้น...อาจารย์..แนะนำหนังสือหน่อยสิคะ"
"ความจริงถ้าไม่ได้อยในคลาส ไม่ต้องเรียกผมอาจารย์ก็ได้นะ"
เหมือนตอนนั้นเลย....'เวลาที่เรสอยู่นอกคลาส...เราเป็นเพื่อนกันได้ใช่ไหม' น่ารักจริงๆ นายเป็นหนุ่มน้อยขาดความอบอุ่นรึไง
"เยี่ยมเลย เอ็ดเวิร์ด" ฉันไม่รีรอหรือปฏิเสใดๆทั้งสิ้น ก็คนมันเกิดความเชื่อฝังหัวว่าเป็นนักศึกษา(ปี1)ตั้งแต่เจอกันครั้งแรกแล้วนี่ แล้วความจริงเขาก็อายุน้อยกว่าชั้นจริงๆด้วย
"หึ" ยิ้มแบบนี้อีกแล้ว แบบว่าหัวเราะทั้งที่คิ้วยุ่งๆน่ะ เท่ห์ตายล่ะ ......โอเค ก็เท่ห์จริงๆ นั่นแหละ
"ลองเล่มนี้สิ เป็นเล่มที่ผมอ่านสมัยที่ผมเรียนวิชานี้น่ะ ตอนที่ยังไม่ได้เป็นคนสอน" เชายื่นหนังสือเล่มหนึ่งให้ฉัน อืม หน้าปกสวยน่าอ่าน
"ว้าว นายจบจากที่นี่เหรอ"
"ใช่ อ้อ เล่มนี้ก็ดีนะ" และหนังสือปกแดงเล่มพอีดมืออีกหนึ่ง
"ได้อ่านหนังสือที่อาจารย์ประจำวิชาแนะนำเองแบบนี้ ฉันคงคะแนนสูงสุดในคลาสแน่ๆ"
"หวังอย่างนั้นครับ"
ฉันประชดหรอก อาจจะยืมไปทับกระดาษเฉยๆก็ได้ ไม่รู้จะหยิบมาอ่านรึเปล่า
"ได้หนังสือรึยังลูซี่ อ้าว อาจารย์สวัสดีครับ"
เอ็ดเวิร์ดพยักหน้ารับคำทักทาย จริงสิ กาเบรียลยังไม่รู้นี่ว่าเขาอยุ20 แต่ฉันเดาว่าเอ็ดเวิร์ดคงชินกับการถูกคนอายุมากกว่าเคารพแล้วล่ะ
"เรียบร้อยแล้ว นายมีอะไรรึเปล่า"
"ฉันได้ที่ต้องการแล้วน่ะ จะไปเลยไหม" กาเบรียลมองไปทางเอ็ดเวิร์ดหน่อยๆ เป็นเชิ่งถามว่าจะคุยอะไรกันต่อรึเปล่า
"ได้ ขอบคุณที่แนะนำหนังสือนะ เจอกันในคลาสค่ะ"
"ครับ"
"นี่ เย็นนี้เราไปไหนกันไหม วันนี้วันศุกร์แห่งชาติเชียวนะ" ฉันเอ่ยชวนเพื่อนสนิท
"เอ่อ...โทษทีนะลูซี่ ฉัน..มีนัดแล้ว"
"ช่วงนี้นายทำตัวมีความลับกับฉันเหลือเกินนะ" ไอ้เพื่อนเลว นี่ติดสาวที่ไหนกัน ปกติแล้วสุดสัปดาห์มันต้องปาร์ตี้สิ
"โอเคๆ ฉันจะเล่าให้เธอฟัง แต่ไม่ใช่ตอนนี้นะ"
"จ๊ะๆ พ่อนายแบบสุดฮอต"
"หนุ่มหล่อดีกรีนายแบบสุดฮอตหน้าใหม่ผู้รักการถ่ายรูปและเล่นกีตาร์ ต่างหากล่ะ"
"...." ฉันไม่ได้ตอบโต้เพียงแค่ทำหน้าเบื่อหน่ายใส่เขาเท่านั้น ไอ้วลียาวเหยียดนั่นให้ฉันฟังกี่ครั้งก็จำไม่ได้หรอกนะ ถึงจำได้ฉันก็ไม่พูดมันออกมาหรอก หึ!
เฮ้อออ สุดสัปดาห์นี้ก็ไม่มีแพลนน่ะสิ...ทำอะไรดีนะ
เมื่อเลิกเรียนฉันก็แยกกับกาเบรียลทันที แต่ก็ไม่ได้ตรงกลับบ้าน อย่างที่ว่าแหละนะ น่าเบื่อจะตาย ฉันตัดสินใจขับรถไปเรื่อยๆ...
วันเรียนในสัปดาห์แรกผ่านไปอย่างรวดเร็วและสบาย ไม่มีงาน ไม่มีควิซ เรื่องน่าสนใจมากคือเด็กใหม่ปี1 สาขาแฟชั่นดีไซน์ของฉันมีแต่เด็ดๆทั้งนั้น ปีสูงเองเปิดเทอมใหม่นี้ก็นุ่งห่มอวดพรอพกันสนุกใหญ่เลย ฉันมีความสุขกับการดูสไตล์การแต่งตัวของนักเรียนสาขานี้มากเลย มันแสดงความเป็นตัวเองความยากลึกหยั่งถึงจิตใจมนุษย์ได้ดีเสียจริง
และแล้วก็เหลือบไปเห็นร่างคุ้นตา...เอ็ดเวิร์ด ฮามิลตัน?
ฉันจอดรถเทียบฟุตบาทที่เขาเดินอยู่ และเลื่อนกกระจกลงทักเขา
"เฮ้ เอ็ดเวิร์ด" ฉันรู้สึกว่าตอนนี้ฉันชักจะเหมือนเพื่อนเขาจริงๆแล้ว ไม่เหลือความเคารพในฐานะอาจารย์แต่อย่างใด หะหะ
"เฮ้ ลูซี่" ลูซีจ้องเขาสักพักและพบว่าเขาถือข้าวของเต็มไม้เต็มมือที่ทำให้เขาดูบ้าหอบฟาง"ไปซุปเปอร์มาเก็ตมาน่ะ ซื้อของสดเข้าบ้านนิดหน่อย"
อ้อ ก็รถของเขาคงอยู่ในอู่ไหนสักแห่งในเมืองสินะ
"ฉันไปส่งได้นะ"
"งั้น...ผมไม่เกรงใจนะ"
นี่เป็นครั้งแรกที่เราเจอกันโดยเขาไม่ได้อยู่ในชุดสูททางการอะไรแล้ว เสื้อผ้าธรรมดาแบบนี้ทำให้เขาดูเหมือนเด็กอายุ20จริงๆ เฮอะ พูดไปก็เซงเปล่าๆ 'น้องเอ็ดเวิร์ด'เหรอ ให้ตายเถอะ
เฮ้ย เสื้อยืดสีขาวสรีนรูปแมวตรงกระเป๋านี่มันโดนในฉันอย่างจังเลย ฮ่าๆ เอ็ดเวิร์ด ฮามิลตัน นิวลุคล่ะ ฉันนึกขำแล้วแอบยิ้มมุมปากคนเดียว ฉันถามเขาดีไหมนะว่าซื้อเสื้อนั่นที่ไหน อยากได้บ้างจัง
"เธอมาทำอะไรแถวนี้เหรอ" เขาเปิดบทสนทนาขึ้นมา นึกว่าจะนั่งเงียบกันตลอดทางเสียอีก
"ก็ขับรถเรื่อยเปื่อย"
"งั้นเย็นนี้ก็ว่างสินะ"
"ใช่ คงงั้น"
"วันนี้ผมจะทำอาหารเย็นทานที่บ้านนะ มาทานด้วยกันไหม" เขาพยักพะเยิดไปทางของสดที่กองอยู่เบาะหลัง
ฉันตาลุกวาว หูผึ่งทันที สิ่งที่ฉันถนัดนอกจากออกแบบก็คือทำอาหารและกินเท่านั้นแหละ
เอ็ดเวิร์ด ฮามิลตันชวนฉันไปทานข้าวเย็นที่บ้านล่ะ สาวๆคงอิจฉากันทั้งมหาลัยแน่ หึ เป็นคนที่นิสัยตรงข้ามกับหน้าตาจริงๆ
"เมนูคือ?"
"ก็อาหารง่ายๆ พวกพาสต้าน่ะครับ ผมยังไม่ได้ขอบตุณเรื่องเมื่อวันจันทร์เลย ถ้าเธอทวงเป็นAทีหลังผมจะลำบาก" ประโยคหลังเขาพูดติดตลก
".....ตกลง ฉันจะไปทานมื้อเย็นบ้านนาย"
ฉันไม่รู้ว่าทำไมฉันถึงจอดรถทักเขา ทำไมฉันถึงอาสามาส่งเขา ทำไมฉันถึงตกลงไปทานอาหารบ้านเขา คงเพราะเบื่อๆ ไม่มีอะไรทำจริงๆนั่นแหละ
ฉันไม่อยากให้วันนี้ของฉันสูญเปล่า อยากมีเรื่องให้ยิ้มบ้าง
และ....ปล่อยให้เด็กน้อยขาดความอบอุ่นทานข้าวคนเดียวคงไม่ดีเท่าไหร่ คิก
Talk
เป็นยังไงบ้าง
เอ็ดเวิร์ดกับลูซี่านิทกันขึ้นอีกขั้นแล้วเนอะ
ลุ้นกันต่อไป
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น