ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    LBU

    ลำดับตอนที่ #2 : Philos Lesson2 : Man is the only creature who refuses to be what he is.

    • อัปเดตล่าสุด 31 ส.ค. 56


    Lesson 2 : Man is the only creature who refuses to be what he is.
    มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตเดียวที่ปฏิเสธที่จะเป็นสิ่งที่เขาเป็น - Albert Camus

    ถึงคนที่ยืนตรงหน้าห้องจะไม่ใช่เคียร่าผู้โ่ด่งดังแต่ฉันยอมรับเลยว่าเขาสอนได้ดีทีเดียว อาจารย์ปรัชญาเนี่ยคุยรู้เรื่องก็น่าปลื้มแล้ว แถมกระแสตอบรับจากสาวๆ ในคลาสก็ดีมากถึงมากที่สุด ไม่เป็นอันเรียนกันเลยทีเดียว 

    อ่า ยัยผู้หญิงจากคณะฉันที่นั่งถัดไปสามเก้าอี้น้ำลายไหลตาลอยแล้ว เฮ้ เก็บอาการเสียบ้างนะ เป็นสาวเป็นนาง เหอะ!

    ส่วนพวกผู้ชายที่หวังมาหานางฟ้าแสนสวยนั่งกัดผ้าเช็ดหน้าเช็ดน้ำตากันทั้งคลาส นอกจากจะไม่ได้เจอเคียร่าแล้วยังโดนสาวๆเมินไปหาอาจารย์สุดฮอตนั่นอีก

    โอเค ใช่ เขาฮอต เชาหล่อ สมาร์ทชะมัดเลย ใบหน้าที่เหมือนยิ้มไม่เป็นกับคิ้วที่ขมวดตลอดเวลานั่นทำให้เขาดูไม่น่าเข้าใกล้แต่ก็ทำให้ดูมีเสน่ห์อย่างร้ายกาจในเวลาเดียวกัน 

    ถึงเขาจะสอนเก่งและฉันอยากเรียนแต่นาทีนี้ฉันไม่เป็นอันจะตั้งใจเรียนแล้ว เมื่อเช้าฉันทำตัวงี่เง่าสุดๆ คิดไปเองว่าเขาเป็นเด็กใหม่บ้างล่ะ บอกว่าเขาตื่นเต้นกับวันแรกของชีวิตมหาลัยบ้างล่ะ

    อ๊ากกก....



    "สำหรับวันนี้ แค่นี้ครับ" เสียงคุยกันเซ็งแซ่ดังขึ้นทันทีที่จบประโยค เหมือนความรู้สึกที่อัดอั้นมาตั้งแต่ต้นคาบของทุกคนพรั่งพรูออกมา เมาท์อาจารย์กันใหญ่เลยฮะ และเขาก็ประกาศขึ้นอีก

    "เจ้าของรถทะเบียน....มาพบผมด้วยครับ" 

    .....!

    "ฉันว่าทะเบียนรถคุ้นๆว่ะ" กาเบรียลหันมามองหน้าฉัน ทำหน้าแบบนึกอะไรสักอย่างไม่ออก

    คุ้นเคิ้นอะไร ก็นั่นมันทะเบียนรถฉัน!




    "ขอโทษที่เรียกเธอมาแบบนี้ แต่ผมไม่รู้ชื่อเธอจริงๆ"

    "แล้วมีอะไร....คะ" ฮึ่ยยย ก็คนมันเชื่อฝังใจไปแล้วว่าปีหนึ่งอ่ะเข้าใจปะ เลยพ่นคำไม่สุภาพโดยอัตโนมัติ

    ฉันพูดโดยที่ไม่ได้สบตาเขาด้วยซ้ำ มือไม้ก็ไม่รู้จะวางตรงไหน เรื่องเมื่อเช้ามันน่าอายสุดๆเลยนะเว้ย! กาเบรียลก็ใจร้ายกับฉัน ให้ฉันต้องมาเผชิญหน้ากับเขาคนเดียวแบบนี้เพราะติดงานถ่ายแบบเฮงซวยอะไรสักอย่าง อยากจะคลั่ง!

    "หึ เรื่องเมื่อเช้าผมไม่โทษที่เธอเข้าใจผิดหรอก ผมแค่มีเรื่องรบกวน"

    รบกวน? แล้วไอ้เสียงหัวเราะ หึ นั่นมันอะไรกัน!

    "ผมหากุญแจรถไม่เจอ คาดว่าอาจจะตกอยู่บนรถเธอ...เมื่อเช้า"

    "หา? เอ่อ ค่ะ เดี๋ยวรอสักครู่ค่ะ เดี๋ยวฉันไปหาให้" ฉันรีบเดินออกมาทันทีที่พูดจบ โซนแดง นั่นมันโซนแดงชัดๆ

    ฉันเดินมาถึงลานจอดรถหลังคณะแล้วรีบหากุญแจรถของเอ็ดเวิร์ด เอ่อ..อาจารย์ฮามิลตันทันที คุณแม่ฉันบอกว่ายังไงเราก็ไม่ควรให้ผู้ใหญ่รอนาน 

    อืม...ถ้ามีมันก็น่าจะหล่นอยู่แถว....นี้ เจอแล้ว!

    Benz? รถคันที่เกิดอุบัติเหตุเมื่อเช้าก็..ก็Benz โอเค โลกใบนี้มีไม่รู้ตั้งกี่คัน มันอาจแค่บังเอิญ แล้วทำไมฉันรู้สึกว่า มัน...มันเป็นกุญแจของคันที่เป็นซากอยู่ข้างถนนเมื่อเช้าวะ!!???!! 

    ฮือ! นอกจากฉันจะว่าเขาเป็นเด็กปีหนึ่ง ฉันยังมองสมเพชไปที่รถเขาด้วยเหรอเนี่ย 

    มันจบแล้วล่ะ ความฝันที่จะได้Aมาครอง...


    ฉันเคาะประตูและขออนุญาตเข้าห้องพักอาจารย์ พบว่าเค้านั่งรออยู่ที่เดิม ท่าเดิม คิ้วขมวดเหมือนเดิม 

    "นี่ค่ะ กุญแจของคุณ"

    "ขอบใจมาก" 

    "เอ่อ...ฉันเสียใจด้วย เรื่อง...รถของคุณ"

    ขอเลิกคิ้วแบบ อ้อ เธอรู้แล้วสินะ และตอบรับสั้นๆ 

    "ครับ"

    "และเมื่อเช้าก็ขอโทษที่เข้าใจผิด....ค่ะ" ยังกระดากปากกับการพูดสุภาพ บอกตามตรง

    "ไม่เป็นไร ผมไม่ถือสา ผมก็ไม่ได้บอกเธอตั้งแต่แรก"

    ฉันคิดว่าตอนลงจากรถตอนนั้นเขาพยายามบอกแล้วล่ะ ฉันงี่เง่าเองที่คิดเองเออเอง แต่..ก็ดีแล้ว เขาใจดีกว่าที่คิดแฮะ แบบนี้Aฉันยังมีลุ้นสินะ :)

    "แต่ผมให้Aเป็นของตอบแทนที่เธอช่วยผมไว้ไม่ได้หรอกนะ"

    "ฉันเปล่า...." เห็นฉันเป็นคนยังไงกันเนี่ย ฉันอ้าปากจะพ่นไฟใส่หน้าเขา..

    "แต่ถ้าเย็นนี้เธอให้ผมติดรถไปด้วยอีก ฉันจะคิดดูอีกที"

    "...." เอ็ดเวิร์ด ฮามิลตัน...เขานี่มัน!

    รู้อะไรไหม เขามีสเน่ห์เกินไปแล้ว! เขาอ้อนฉัน เขาใช้สายตาอ้อนฉันทั้งที่คิ้วขมวด โอเค มันอาจจะไม่ถูกที่ใช้คำว่าอ้อน แต่สายตานั่นมัน... นะครับ นะ ชัดๆ


    เมื่อตกลงกันได้ฉันก็เดินนำเขามาถึงรถโฟล์คน้อย 

    "เธอชื่ออะไร ผมยังไม่รู้เลย" อาจารย์ถามขึ้นขณะที่รถออกจากรั้วมหาวิทยาลัยพอดี

    "ลูซี่...ลูซี่ บาร์เร็ต"

    "โอเค ลูซี่ ความจริงแล้วเธอทำตัวตามสบายได้นะเพราะฉันอายุ20 และฉันมาสอนแทนเคียร่าชั่วคราวเท่านั้น"

    เอี๊ยดดดด!

    "เฮ้! ใจเย็น ผมรู้ว่ามันน่าตกใจ แต่ผมเรียนจบแล้วนะ มีใบประกาศคุณวุฒิ สอนได้"

    "ปะ...ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่สอนได้ ไม่ได้ คุณสอนได้ดีมาก"

    "จริงเหรอ งั้น...เธอตกใจอะไรล่ะ"

    เด็กกว่าฉัน! คุณ..แก...นายเอายุ20 แต่ฉัน...ลูซี่คนนี้อายุ21แล้ว ถึงจะแค่ปีเดียวแต่มัน...!

    "เปล่า ไม่มีอะไร" 

    "เวลาที่เราอยู่นอกคลาส...เราเป็นเพื่อนกันได้ใช่ไหม"

    ...หืม?

    "แน่นอน" ฉันยิ้มรับแห้งๆ และออกรถไปตามทางที่เขาบอกจนถึงบ้านน่ารักๆ หลังหนึ่ง ไม่ได้น่ารักแบบนั้นนะ คือเป็นหลังที่ไม่เล็กไม่ใหญ่และถูกตกแต่งได้อย่างมีสไตล์สุดๆเลย ฉันชอบจัง

    "จะเข้าไปดื่มน้ำก่อนไหม"

    "ไม่ค่ะ ขอบคุณ"

    "ขอบคุณเช่นกัน" แม้แต่นาทีแบบนี้นายก็ไม่ยิ้มจริงๆเหรอเนี่ย เฮอะ!



    ฉันสลัดเรื่องคนที่เพิ่งรู้จักกันวันแรกนั่นออกจากหัวไม่ได้เลย ผู้ชายที่ขมวดคิ้วแทบตลอดเวลา สีหน้าไม่เคยแสดงอารมณ์ แต่สายตากลับบอกทุกอย่าง วิธีการพูดที่ดูสุขุมเป็นผู้ใหญ่แต่ก็ไม่ใช่

    ฉันคิดดูแล้ว ข้อสันนิษฐานของฉันคือการที่เขาทำหน้ายุ่งตลอดเวลาเพราะความจริงเขาเป็นแค่เด็กอายุ20 แต่ต้องทำทุกอย่างที่ผู้ใหญ่ทำได้ ต้องให้คุณอื่นเกรง ไม่ให้คนอื่นดูถูกได้...สินะ 

    '...เราเป็นเพื่อนกันได้ใช่ไหม'

    แต่เขาก็แค่เด็กคนหนึ่งนี่ 

    ไม่รู้ว่าจะมีใครคิดแบบฉันรึเปล่า แต่ฉันคิดว่าฉันไม่น่าจะมองพลาด ความสุขุมเป็นผู้ใหญ่นั่นของจริง แต่ความเป็นเด็กนั่นก็ของจริงเหมือนกัน นายปฏิเสธสิ่งที่นายเป็นไม่ได้หรอกนะ 

    คิก! คงใช้คำว่า มีสเน่ห์ กับเขาไม่ได้แล้วล่ะ 

    นายน่ารักกว่าที่ตัวเองคิดนะ เอ็ดเวิร์ด ฮามิลตัน :) 






    Talk

    ถ้าใครสังเกตุ ไม่สิไม่ต้องสังเกตุก็จะรู้สึกแปลกๆ รึเปล่า
    ที่เราให้เอ็ดเวิร์ดใช้สรรพนาม ผม กับ เธอ 
    อิอิอิอิอิ เราว่าดูสุภาพและน่ารักดีออกเนอะ
    ชอบทุกอย่างของตัวละครตัวนี้มากมาย
    ลูซี่ก็รักกก สวยและแต่งตัวสไตล์ที่เราชอบเลย <3
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×