ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic บารามอส] บทสรุปความรักของนักฆ่า

    ลำดับตอนที่ #2 : การพบกัน

    • อัปเดตล่าสุด 15 มิ.ย. 50







             “
    นี่ มันอะไรกันเนี่ย!!!!!!!!!”ชายหนุ่มร้องตะโกนลั่น  เมื่อเห็นความผิดปกติของสัมภาระบนเกวียน   เท่าที่เขาจำได้มันก็มีแค่กระเป๋าเขาหนึ่งใบ  แต่พอมาดูอีกทีมันก็มีตั้งสามใบ  แล้วอีกสองใบที่เหลือละ  เป็นของใคร ?    

     

    ในขณะที่ชายหนุ่มกำลังคิดอยู่นั้นเอง  ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นทำให้เขารู้ถึงที่มาของกระเป๋าอีกสองใบที่เหลือ

     

    เอ้าๆ!!  ยังไม่รีบไปอีก   เดียวก็ไม่ทันหรอกนะค่ะไอรีสเอ่ยก่อนจะเดินขึ้นไปบนเกวียน   ทำให้ชายหนุ่มงงมากก่อนจะได้สติแล้วลากหญิงสาวลงมาจากเกวียนพร้อมเอ่ยด้วยน้ำเสียงดุว่า.....

     

    หยุดเลย  ไอรีส!!!   ใครบอกว่าจะให้เจ้าไปด้วยมิทราบหา!!”คิลพูดตวาดใส่หญิงสาว  ทำให้นางก้มเงียบไปสักพักนึงก่อนจะเงยหน้าขึ้น   ยิ้มเจ้าเลห์ปรากฏอยู่บนใบหน้าสวยๆของหญิงสาว  มือเรียวหยิบกระดาษในกระเป๋าเสื้อให้คิล  

     

    เมื่อชายหนุ่มได้รับกระดาษมาก็เปิดอ่านอย่างงงๆ   


     

     

     

    ถึง  คิล  ฟีลมัส

     

     

                                                                                                    

                                    ได้ยินว่า  เจ้าไปงานเลี้ยงรุ่นของเพื่อนเก่า  งั้นเจ้าก็พาไอรีสไปด้วยซิ

    เพราะอีกไม่นานเจ้าทั้งสองคนก็จะได้แต่งกันแล้ว   เอาว่าที่คู่หมั้นไปแนะนำเพื่อนหน่อยจะเป็นไรไป  ฮ่าๆๆ     เอาเป็นว่า  เจ้าต้องพาไอรีสไปงานนี้กับเจ้าด้วย

                                                                                                              

     

     

    ปล.  หากไม่พาไอรีสไปด้วย  จะโดนตัดเงินเดือนแน่ๆ  จำไว้เลย

    จาก
    เวส     ฟีลมัส

     

     

               

    ข้อความในจดหมายนั้นทำให้คิลแทบคลั่ง   ทำไมเขาต้องพายัยนี่ไปด้วย  เขาแค่อยากไปเจอเพื่อนเท่านั้น   ไม่ได้จะพาใครไปอวดซักหน่อยแล้วคิดเหรอว่า  เขาจะยอมแต่งกับยัยนี่??       เฮ้อ..  ฝันไปเถอะ  พ่อ!!  แต่ถึงยังไงเขาก็ต้องพายัยไอรีสไปด้วยแล้ว   ไม่งั้นชวดเงินเดือนแน่  คิลคิดในใจ  ก่อนจะมีเสียงหนึ่งดังขึ้นทำให้ความคิดของเขาต้องหยุดลง

     

    เป็นไงละ !!  ที่นี้จะพาไอรีสไปด้วยหรือยังค่ะ??หญิงสาวเอ่ยพร้อมยิ้มอย่างผู้ชนะ     แล้วเดินขึ้นไปนั่งบนเกวียน  ในขณะที่นัยน์สีม่วงมองตามหลังหญิงสาวไปอย่างเซ็งๆ   ก่อนจะพึมพำเบาอย่างหมดอาลัยตายอยาก

     

    ชิ!!!!   ให้มันได้อย่างนี้ซิคุณเธอ..!!”ก่อนที่ชายหนุ่มจะเดินขึ้นไปที่นั่งคนขับแล้วขับเกวียนไปอย่างเซ็งๆ

     

     

     

     

    //////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

     

     

     

     

    ในที่สุดก็ถึงซะที!!!

    คิลตะโกนในใจ   เพราะเขาเซ็งมากกับการที่ต้องมานั่งบนเกวียนสองต่อสองกับยัยไอรีส   พูดอยู่ได้น่ารำคาญ  ชายหนุ่มคิดก่อนจะนำรถเกวียนของเขาไปเก็บ   ในขณะที่เขากำลังลงจากเกวียนก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น  ทำให้ชายหนุ่มถึงกับชะงักเล็กน้อยก่อนที่จะหันไปมองต้นเสียงที่ดังมาจากข้างหลัง

     

    มาสายเชียว??    เจ้าคิล   นี่จะค่ำอยู่แล้วนาเสียงฟังดูกวนประสาทนั้นทำให้คิลรีบหันหลังกลับไปมองก็พบกับเพื่อนคนสำคัญทั้งสองคนของเขา  คนที่ยืนอยู่ทางขวามือเป็นหญิงสาวผมสีน้ำตาลไหม้ยาวสยายไปถึงกลางหลัง   ผิวขาวราวน้ำนม   สวมชุดราตรีฟูฟ่องสีขาวบริสุทธิ์มีขนนกประดับเล็กน้อย  นัยน์ตาสีน้ำตาลประกายสดใสมองมาที่คิล   พร้อมโบกไม้โกมือให้เขา  หญิงสาวคนนี้จัดว่าสวยมากๆราวกับนางฟ้า  แม้แต่เขาก็ยังอึ้ง  เว้นแต่ท่าทีที่ไม่สมเป็นหญิงของมันจะแก้ยังไงก็ไม่หายสักที   ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีก็ตาม    สมแล้วที่เป็นเจ้าหัวขโมยตัวดีเพื่อนซี้ของเขาที่กลายเป็นเจ้าหญิงคนสองดินแดน     แถมในตอนก็กลายเป็นราชินีของคาโนวาลอีก    ส่วนคนที่ยืนกอดอกอยู่ทางด้านซ้าย   ก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเจ้าชายคนสำคัญของคาโนวาล   ที่บัดนี้กลายเป็นคิงไปเรียบร้อยแล้ว   ชายหนุ่มหน้าตาดีจัด   ร่างสูงสง่างาม  ผิวสีขาวราวหิมะ   ผมสีเงินยาวระต้นคอ   สวมชุดทางการสีเดียวกับหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างๆ   นัยน์ตาสีเงินมองไปยังหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างอย่างดุๆ   ใบหน้าที่แสนจะเย็นชาน้อยลงกว่าเมื่อก่อนสมกับที่เคยได้ฉายาเจ้าชายน้ำแข็งของป้อมอัศวิน   แม้ภายนอกจะดูเป็นคนเย็นชา  แต่ความจริงแล้วถ้าได้รู้จักกันก็จะรู้ว่าเป็นคนที่อบอุ่นยิ่งกว่าเขาซะอีก    นอกจากนี้ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีก็ยังเป็นที่นิยมของบรรดาสาวๆอีก   ผิดกับเขาลิบลับ   แต่รักเดียวใจเดียวกับเจ้าตัวยุ่งเสมอ   สมกับที่เป็นเจ้าชายของคาโนวาล   ชายหนุ่มคิดก่อนจะตัดสินใจเดินไปหาทั้งสอง

     

    ฉันนึกว่านายจะไม่มาซะอีกนะ   เจ้าคิล!! แกรู้ไหมว่า  ฉันเกือบจะหนาวตายเพราะท่านคิงแห่งคาโนวาลอยู่แล้วเจ้าตัวดีเริ่มออกอาการทันทีหลังจากที่ได้เจอเพื่อนซี้เก่าอีกครั้ง    ในขณะที่กษัตริย์แห่งคาโนวาลส่งสายตาดุมาให้ราชินีตัวดีของเขา  ทำให้คิลหัวเราะลั่น  ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงกวนๆตามแบบฉบับของตน

     

    เหรอ??  ฉันคิดว่า  นายน่าจะชินแล้วนะ  เฟลิโอน่า   วาเนบลี   เดอะควีน   ออฟ คาโนวาลคำพูดของคิลทำให้เฟรินหน้าขึ้นสีระเรื่อ   ก่อนที่จะแก้เขินด้วยการวิ่งไล่เตะเจ้านักฆ่าเพื่อนซี้   ทำให้กษัตริย์แห่งคาโนวาลถึงกับกุมขมับกับพฤติกรรมของราชินีตนเอง    ในขณะที่ทุกคนกำลังสนุกสนานกับการที่ได้พบกันอีก   ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อมีเสียงหนึ่งดังขึ้น

     

    คิลค่ะ  รอด้วยซิเสียงนั้นทำให้คิลถึงกับกุมขมับ   ส่วนคาโลกับเฟรินก็ได้แต่ยืนงงและอึ้ง  เมื่อมีหญิงสาวผมสีอะเมทิตส์คนหนึ่งสวมชุดกำมะหยี่สีม่วงอมดำเดินมาควงแขนคิล

     

    โอ้โห!!!  เจ้าคิล  แกนี้ร้ายไม่เบาเลยนะเนี่ย     พาภรรยาสาวสวยมาออกงานซะด้วยเจ้าตัวดีพูดก่อนที่นักฆ่าเพื่อนซี้จะถอนหายใจและเอยด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจสุดๆ

     

    ไม่ใช่โว้ย !!  เฟริน   นี่  ไอรีส   รีโมเซีย   แม่มดแห่งซาเรส  คนรู้จักที่พ่อให้ตามมาด้วย   หวังว่าจะไม่เป็นไรนะคาโลคิลพูดพลางเหลือบมองใบหน้าของคาโล  ก่อนที่ชายหนุ่มจะพยักหน้าเชิงบอกว่า ตามสบาย

     

    หวัดดี  ไอรีส   ฉันชื่อ   เฟลิโอน่า  เรียกว่า  เฟรินจะดีกว่านะ  ส่วนเจ้าก้อนน้ำแข็งที่ยืนอยู่ข้างๆ  ชื่อ คาโล  วาเนบลี  โทษทีนะเจ้านี่มันเป็นคนยิ้มยากอย่าไปสนใจมันเลยเมื่อเจ้าตัวดีเริ่มออกอาการอีก   ทำให้ชายหนุ่มเริ่มส่งสายตาอาฆาตมาให้   ก่อนที่จะเอยด้วยน้ำเสียงดุๆ

     

    เฟริน!!!”

     

    จ้า~~~~~~ ”เจ้าตัวดีรีบขานรับทันที  ก่อนที่ท่านคิงแห่งคาโนวาลจะออกคำสั่ง...

     

    พาไอรีสเข้าไปในงานไปที!”คาโลเอยน้ำเสียงเรียบ ก่อนที่เจ้าตัวดีจะถามอย่างงงๆ

     

    แล้วพวกนายละ  ทำไมไม่เข้าไปด้วยกันหืม??คำพูดของเฟรินดูเหมือนว่าจะไปกระตุ้นจุดเดือดของคาโล 

     

    รีบพาไปเดียวนี้!! คำพูดของคาโลทำให้เฟรินถึงกับกลืนน้ำลายดัง เฮือก!  ก่อนจะรีบพาไอรีสเข้าไปในงานทันทีทิ้งให้ชายหนุ่มทั้งสองคนอยู่ด้วยกันตามลำพัง  ก่อนที่ท่านคิงคาโนวาลจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

     

    ตามมาซิคาโลเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบก่อนจะเริ่มก้าวเท้าโดยมีคิลเดินตามหลังไปเรื่อยๆ   จนกระทั่งทั้งคู่มาหยุดอยู่ที่สวนหลังโรงเรียนซึ่งในตอนนี้ปลอดผู้คน   ความเงียบเข้าปกคลุมพร้อมๆกับสายลมเย็นเยือกแข็งที่พัดผ่านร่างทั้งคู่   ทำให้นักฆ่าหนุ่มเริ่มรู้สึกว่าบรรยากาศชักไม่ค่อยดีแล้ว   ก่อนที่จะมีเสียงหนึ่งดังทำลายความเงียบ

     

    นายอ่านแล้วใช่มั้ย  คิล??คำพูดของกษัตริย์แห่งคาโลวาล   ทำให้นักฆ่าหนุ่มแห่งซาเรสทำหน้าสงสัย  คิ้วขมวดเข้าหากันอย่างงงๆ   มือกอดอกพร้อมคิดว่าชายหนุ่มตรงหน้าพูดถึงเรื่องอะไร  ก่อนที่เจ้าตัวจะดีดนิ้วดัง ป๊อก!! พร้อมเอ่ยตอบ

     

    อ๋อ~~  เรื่องนั้นนะเหรอ  อ่านแล้วละ   ว่าแตเป็นเรื่องจริงเหรอ??  คาโล  ที่นายบอกว่า  มีกษัตริย์หรือเจ้าชายมาสู่ขอเรนอนนะ คิลเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงกังวล

     

    ใช่!”คำตอบสั้นดังมาจากปากของคิงแห่งคาโนวาล  จนทำให้นักฆ่าหนุ่มเป็นกังวลมากขึ้น  เพราะเขาอยากให้เธอได้คนดีๆเป็นคู่ชีวิต

     

    แล้วเขาเป็นใครเหรอ  คาโล??คำพูดของคิลทำให้คาโลถอนหายเฮือกใหญ่  พร้อมกับหันหน้าไปมองท้องฟ้า   ก่อนจะเอยด้วยน้ำเสียงเรียบๆเพื่อถามความมั่นใจของคนอยากรู้อีกครั้ง

     

    นายแน่ใจ??คำถามสั้นๆถูกส่งมาที่นักฆ่าหนุ่มซึ่งกำลังสับสนอย่างมาก  นัยน์ตาสีม่วงมีประกายความกังวล และเป็นห่วงหญิงสาวที่เขาหลงรักอย่างสุดหัวใจ  ก่อนที่จะเอ่ยด้วยน้ำเสียงมั่นใจว่า

     

    แน่นอน!!  ฉันอยากรู้ว่า  ผู้ชายคนนั้นจะเหมาะสมกับคนที่ฉันรักจริงๆหรือเปล่า!!”คำพูดที่หนักแน่นแฝงไปด้วยความจริงใจ  ทำให้คาโลรู้สึกว่า  คนตรงหน้านั้นเปลี่ยนไปมากจนไม่น่าเชื่อเลย!! ก่อนที่ชายหนุ่มจะเริ่มคิดหนักมากขึ้น  นัยน์ตาสีเงินเหลือบไปมองคิลที่จ้องหน้าเขาอยู่    ดูเหมือนว่าเขาคงต้องบอกแล้วซินะ  

     

    ก็ได้  คิล  ฉันจะบอกนายคาโลเอ่ย  ก่อนจะถอนหายใจอีกครั้ง  พร้อมกับสายลมเย็นๆที่พัดผ่านร่างทั้งสอง

     

    คนที่มาสู่ขอเรนอนก็คือ....ในขณะที่คาโลกำลังจะพูด   ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น  ทำให้ทั้งสองชะงักก่อนจะหันหลังกลับไปมองบุคคลที่มาขัดจังหวะการสนทนาของพวกเขา   และนัยน์ตาสีม่วงของนักฆ่าหนุ่มต้องเบิกกว้าง  เมื่อเห็น.....

     

    หญิงสาวเจ้าของเรือนผมสีชมพูยาวจรดกลางหลัง   ดวงตาคู่สวยได้รูปซึ่งมีสีเดียวกับสีผมของเธอ  ผิวสีขาวราวหิมะที่นวลเนียน  รูปร่างสูงโปร่ง   ริมฝีปากแดงระเรื่อราวกลีบกุหลาบชวนให้หลงใหล  จมูกโด่งได้รูปและใบหน้าเรียวยาว   สวมชุดราตรีเปิดไหล่สีชมพูอ่อน  เผยให้เห็นไหล่ขาวเนียนจนน่าสัมผัส   เวลาที่หญิงสาวก้าวเดินผ้าก็จะพลิ้วไหวตามไปด้วย   ทั้งหมดนี้ผสมผสานกันได้อย่างลงตัวจนทำให้นางผู้นี้ดูงดงามอย่างไร้ที่ติ   และทำให้ชายหนุ่มทั้งสองต่างอึ้งไปตามๆกัน  ก่อนที่นักฆ่าหนุ่มจะเผลอเรียกชื่อของหญิงสาวที่งดงามราวกับนางฟ้า...

     

    “…เรนอน…” 

     

     

    เป็นไงก็บอกกันบ้างน่า  และขอโทษที่มาอัพช้านะครับ  ท่านผู้อ่านทุกท่าน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×