ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic บารามอส] บทสรุปความรักของนักฆ่า

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 6 ต.ค. 53





      ซาเรส

    ในยามบ่ายยังมีชายหนุ่มสวมเสื้อเชิ้ตแขนกุดสีขาวดูสบายๆและกางเกงหลวมๆขาสั้นสีดำนอนพิงต้นไม้อยู่    ผมชายหนุ่มเป็นสีดำเข้มพลิวไหวไปตามสายลมที่พัดผ่านมา   ใบหน้ายามหลับดูผ่อนคลายจนทำให้สาวทุกคนๆที่ได้เห็นต้องละลาย    และในตอนนี้ได้มีหญิงสาวผมสีม่วงอะมิทิตส์ยาวถึงกลางหลังนั่งเท้าคางอยู่ข้างๆชายหนุ่ม   นัยน์ตาสีครามมองดูหน้าของคนที่กำลังนอนอย่างหลงใหล  ก่อนจะค่อยเอื้อมมือมาเพื่อสัมผัสใบหน้าของชายหนุ่ม   แต่แล้วก็ต้องชะงัก   เมื่อมีเสียงหนึ่งดัง

        

    "เจ้าจะทำอะไรนะ   ไอรีส"เสียงนั้นทำให้หญิงตกใจก่อนจะรีบชักมือกลับทันที

    "ข้าแค่อยากสัมผัสหน้าท่านเท่านั้นเอง  ไม่นึกว่าจะทำให้ตื่น??"หญิงสาวเอ่ย   ในขณะที่ชายหนุ่มบิดขี้เกียจช้าๆ  นัยน์ตาสีม่วงเข้มมองหญิงอย่างเบื่อหน่าย   ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบๆฟังดูกันเอง

    "ช่างมันเถอะนะ   ข้าไปละ"ชายหนุ่มเอ่ย   พร้อมลุกขึ้น  ในขณะที่ชายหนุ่มกำลังจะก้าวเท้าเดิน ไป   ก็ต้องชะงักเมื่อถูกหญิงสาวสวมกอดจากข้างหลัง 

    "เป็นข้าไม่ได้เหรอ??   ทั้งที่ข้ารักท่านมากขนาดนี้!!!    ทำไมท่านไม่รักข้าบ้างเลย?   คิล"หญิงสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงขอร้องปนเสียใจ      ก่อนที่ชายหนุ่มเอยด้วยน้ำเสียงตัดเยื่อใย

    "ข้าไม่เคยรักเจ้า  ไอรีส!!!  คนรักของข้ามีเพียงคนเดียว  ถึงแม้จะไม่ได้รับรักตอบ  แค่เห็นนางมีความสุขข้าก็พอใจแล้ว"ชายหนุ่มผู้มีนามว่า  คิลมัส  ฟีลมัส  หรือเจ้าของฉายานักฆ่าแห่งซาเรสเอ่ยโดยไม่หันกลับมามองหญิงสาวนามไอรีสเลยแม้แต่น้อย  ทำให้ไอรีสค่อยปล่อยมือที่กอดคิลลงพร้อมเอยด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ

    "ข้ารู้   แต่ถึงยังไงข้าก็จะพยายามต่อไป     อะ!!ลืมบอกไปอีกอย่าง    มีจดหมายจากคิงคาโนวาลมาถึงท่านด้วยนะ"คำพูดของไอรีสทำให้คิลรีบหันกลับมาทันที   ใบหน้าของชายหนุ่มตอนนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขเมื่อรู้ว่าเพื่อนรักส่งจดหมายมาถึงเขา   ก่อนที่ไอรีสจะเอื้อมมือล้วงไปในเสื้อของตนเพื่อหยิบซองจดหมายสีขาวให้กับคิล 

    เมื่อคิลได้รับจดหมายก็นั่งลงพิงกับต้นไม้อีกครั้ง    ชายหนุ่มยิ้มอย่างมีความสุข  นัยน์ตาสีม่วงเข้มมีประกายความสนุก    ตอนนี้คิลมีความสุขมาก   ในขณะที่ไอรีสมองดูคิลอยู่   ทำไมกัน??   แค่เพื่อนเก่าส่งจดหมายมาให้   ทำไมต้องดีใจขนาดนี้เลยเหรอ??    นักฆ่าไม่จำเป็นต้องมีเพื่อนก็ได้นี่   เพราะอะไรกัน??  หญิงสาวคิดก่อนที่ชายหนุ่มจะหันมามองเมื่อรู้ตัวว่า  ตนเองถูกมองอยู่

    "มีอะไรเหรอ  ไอรีส"คิลเอ่ยด้วยน้ำเสียงสบายๆ  เพราะถ้าหญิงสาวไม่พูดเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับความรักกับเขาละก็   คิลก็พูดจาดีๆกับเธอ  หญิงสาวชะงักไปแปปนึง    ก่อนจะเอ่ยพร้อมยิ้ม

    "ไม่มีอะไรหรอกค่ะ   ขอตัวก่อนนะ  คิล"ไอรีสเอ่ยก่อนเดินจะเดินจากไป  โดยมีเสียงคิลตะโกนไล่หลังมาว่า

    "ขอบใจมากนะ   ไอรีส"  หญิงสาวยิ้มก่อนจะเดินจากไป  

    เมื่อเห็นว่า  ไอรีสไปแล้ว     คิลจึงค่อยๆแกะซองจดหมายออกอย่างทะนุถนอม   ก่อนจะดึงกระดาษจดหมายที่อยู่ข้างในออกมาอ่าน



     

                ถึง   คิลมัส    ฟีสมัส   นักฆ่าแห่งซาเรส

    สวัสดีคิล    ไม่ได้พบกันซะนาน   นี้ก็ผ่านมา 5 ปีแล้ว  หลังจากที่พวกเราเรียนจบก็ไม่ได้เจอกันอีก   หวังว่า   นายคงสบายดี   ที่ฉันเขียนจดหมายมาในวันนี้ก็เพื่อเชิญนายไปงานเลี้ยงรุ่นของพวกเราชาวป้อมอัศวิน   เนื่องจากช่วงนี้ทางโรงเรียนเอดิเบริ์กปิดเทอมอยู่    จึงใช้ที่นั้นเป็นสถานที่จัดงาน     ฉันได้ส่งจดหมายไปบอกคนอื่นหมดแล้ว  ก็เลยส่งมาหานายเป็นคนสุดท้าย    งานจะเริ่มขึ้นในอีก  2   วันตอนหัวค่ำ  หลังจากที่นายได้รับจดหมายฉบับนี้แล้ว    จะมาก่อนหรือหลังเวลาก็ได้  งานนี้จัด  3  วัน  2 คืน   เอาแค่เสื้อผ้ามาอย่างเดียว   เพราะทางนี้เตรียมห้องพักและทุกอย่างไว้หมดแล้ว    



     

    ปล.  หวังว่านายคงจะมานะ

                                        จาก

    คาโล   วาเนบลี  คิงแห่งคาโนวาล  



     

                เมื่ออ่านจดหมายจบ   คิลก็ยิ้มน้อยคิดใหญ่    เอาละไปคืนนี้เลยดีกว่า   น่าจะไปถึงที่นั้นประมาณบ่ายๆของวันงานพอดี   ยิ่งเร็วได้ยิ่งดี     คิลคิดในใจพร้อมลุกขึ้น  ก่อนจะมองจดหมายมาอีกครั้ง    แต่แล้วสายตาของนักฆ่าก็เหลือบไปเห็นตัวอักษรอะไรบ้างอย่างที่ด้านหลังของกระดาษจดหมายที่เขาพึ่งอ่านไปเมื่อกี้นี้

                "ลึกลับจริงๆเลยนะ  คาโล"คิลบ่นพึมพำ   ก่อนจะพลิกด้านหลังขึ้นมาอ่าน


           โทษทีที่ฉันลึกลับไปหน่อย    แต่ฉันมีอะไรจะบอกนาย    ในซองจดหมายนั้นมีจดหมายอีกฉบับนึง   นายต้องอ่านนะ    ขอย้ำว่า  นายต้องอ่าน  เพราะมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับ
    เรนอนโดยตรง



                   
    เมื่ออ่านจบคิลก็รีบหาจดหมายที่อยู่ในซองอีกฉบับนึงและรีบอ่านทันที   ก่อนจะเอยด้วยน้ำเสียงกังวลและตกใจสุดๆ

                    "นี่ มันอะไรกันเนี่ย!!!!!!!!!"  

                                   

                    ---------------------------------------------------------------------------

    ลองแต่งเป็นเรื่องที่สองครับ   ช่วยอ่านและโพสแสดงความคิดเห็นด้วย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×