คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ความในใจของเจ้าหญิง
“ฉันก็มาในฐานะคู่หมั้นของเรนอนยังไงละ”ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงเจ้าเลห์พร้อมแสยะยิ้มเยาะอย่างน่าขนลุกท่ามกลางความตกใจของบรรดาผู้คนในงาน แม้กระทั่งเฟรินเองก็ยังตกใจเพราะไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนเลย ส่วนคาโลกับเรนอนได้แต่ก้มหน้านิ่ง เพราะพวกเขาทั้ง 2 รู้สาเหตุเป็นอย่างดีอยู่แล้ว
เนื่องจากมันเป็นคำสั่งของอดีตคิงปีศาจแห่งคาโนวาล บาโร วาเนบลี ก่อนที่คิงบาโรจะยกบัลลังก์ให้คาโลนั้นได้ตรัสไว้ว่า
‘หากเจ้าไม่แต่งงานกับหญิงสาวที่เราหมั้นหมายไว้ เราจะไม่ยกบัลลังก์ให้และจะเนรเทศเจ้าออกจากคาโนวาลด้วย’น้ำเสียงตัดเยื่อใยของผู้เป็นบิดา ทำให้ผู้เป็นลูกถึงกับก้มหน้านิ่งไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี อันที่จริงตัวเขาก็ไม่อยากจะขึ้นครองราชย์แทนพระบิดาหรอก เขาอยากจะไปใช้ชีวิตอยู่กับคนที่เขารักมากกว่า แต่เนื่องจากพระมารดาเคยขอร้องตนเองเอาไว้ว่า เจ้าอย่าทิ้งพ่อเขาไปนะ ถึงแม้ว่า เขาจะทำตัวห่างเหินกับเจ้า แต่เขาก็รักเจ้ามากมิใช่น้อย แม่ขอร้องละ ลูกรัก จงอยู่เป็นเพื่อนพ่อ แทนแม่คนนี้ด้วย นี้เป็นคำสั่งลาครั้งสุดท้ายของพระมารดาก่อนจะกลับไปทำหน้าที่ของตนเอง ณ ดินแดนแห่งความหนาวเย็น ในขณะที่ชายหนุ่มกำลังครุ่นคิดอยู่นั้นเอง ก็มีเสียงระฆังดังขึ้นมาช่วย
‘ได้โปรดอย่าทำอย่างนั้นเลยนะเพค่ะ คิงบาโร’เจ้าของเสียงนั้นหาใช่ใครอื่นไม่ นอกจากเจ้าหญิงคนงามแห่งคาโนวาล เรนอน ธีน็อต
‘ถ้าเช่นนั้นแล้วจะให้เราทำอย่างไรหือ? เรนอน’ คิงบาโรเริ่มเอ่ยถามอย่างสงสัย ก่อนที่เรนอนจะเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงเรียๆ
‘ในเมื่อเจ้าชายคาโลก็มีเจ้าหญิงเฟลิโอน่าเป็นคู่ครองอยู่แล้ว หม่อมฉันคิดว่า พระองค์ไม่น่าไปพรากพวกเขาให้จากกันเลยนะเพค่ะ’
‘แต่ข้าอยากให้คาโลแต่งงานกับคนที่ข้าให้ เพราะข้ามั่นใจว่า นางจะต้องเป็นคู่ครองที่ดีแน่’บาโรยังคงคัดค้านต่อไปทำให้นางก้มหน้านิ่งไปสักพักนิ่ง ก่อนที่จะยิ้มตอบ
‘หม่อมฉันก็คิดว่า เจ้าชายคาโลกับเจ้าหญิงเฟลิโอน่าเหมาะสมกันดีแล้วเพค่ะ แต่ถ้าพระองค์ยังอยากจะหาคู่ครองให้เจ้าชายคาโลละก็...’ เรนอนพูดเว้นระยะ ก่อนจะเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงที่มุ่งมั่น
‘ถ้างั้น....ดะ.... ได้โปรดให้คู่ครองให้กับหม่อมฉันแทนเถอะนะเพค่ะ พระองค์’คำพูดของเรนอนทำให้บาโรกับคาโลหันมามองหญิงสาวอย่างตกใจ เจ้ารู้ตัวหรือว่าพูดอะไรออกมานะ เรนอน ชายหนุ่มคิดในใจ ก่อนที่คิงแห่งคาโนวาลจะหัวเราะอย่างชอบอกชอบใจ
‘ ฮ่าๆๆ เจ้านี้ช่างกล้าดีแท้ เรนอน เอาละ คาโล ข้าจะไม่ยุ่งเรื่องคนรักของเจ้าอีก แล้วก็จะยกบัลลังให้เจ้าปกครองแทน ส่วนเรนอน เจ้าไม่ต้องห่วงนะ เดียวข้าจะหาคู่ครองที่ดีที่สุดให้เอง ฮ่าๆๆ หมดธุระแล้วพวกเจ้าทั้งสองออกไปได้!!’เมื่อสิ้นเสียงบาโร คาโลกับเรนอนก็ออกมาจากห้อง นางยิ้มให้กับคาโลอย่างจริงใจ ก่อนจะเดินจากไป ท่ามกลางความสงสัยของชายหนุ่มว่า ทำไมกัน ? นางถึงได้ทำเพื่อเขาขนาดนี้??
หลังจากนั้น 2 วัน คาโลก็ได้ขึ้นครองคาโนวาลแทนคิงบาโรและได้แต่งงานกับคนที่เขารัก ในขณะเดียวกันเรนอนนั้นก็มักจะถูกบาโรเรียกตัวให้ไปพบอยู่เสมอ และหลังจากนั้นอีกไม่กี่วัน นางก็ได้รู้ว่า คู่หมั้นของนางก็คือ คิงอาเธอร์แห่งซาเรสนั้นเอง ความจริงแล้วนางก็ไม่อยากทำอย่างนี้หรอก แต่นางสัญญากับตัวเองไว้ว่า นางจะไม่เสียใจ เพราะเรื่องนี้ทำให้คนที่นางรักมีความสุข
ในขณะที่เรนอนกำลังครุ่นคิดเรื่องในอดีตอยู่นั่นเอง
พลั่ก!! โครม!!
ร่างทั้งร่างของคิงซาเรสก็ล่วงลงไปกองกับพื้น อันเนื่องมาจากแรงหมัดของเจ้าหนุ่มนักฆ่าจากตระกูลฟีลมัส
“ต่อให้รุ่นพี่เป็นคู่หมั้นของเรนอน รุ่นพี่ก็ควรให้เกียรตินางบ้างซิ อย่ามาทำอะไรลุ่มล่ามกับนางอย่างนี้!!”นักฆ่าหนุ่มเลือดร้อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเดือดสุดๆ ในขณะที่อาเธอร์กำลังปาดเลือดที่มุมปากออก พร้อมจับแก้มที่เริ่มเขียวช้ำเพราะโดนหมัดลุ้นๆของนักฆ่าหนุ่มเลือดร้อนอย่างอารมณ์ดี ทั้งๆที่เขายังคงนั่งอยู่กับพื้น
“ฉันรู้ คิล แต่นี้นายทำอย่างนี้เท่ากับทำร้ายกษัตริย์ มีโทษติดคุกหรือไม่ก็..... ประหารชีวิต!!”คิลใจหายวูบก่อนจะมองหน้าอาเธอร์อย่างไม่กลัวเกรง โดยหารู้ไม่ว่านั้นยิ่งทำให้อาเธอร์เริ่มจะฉุนขาด ก่อนจะมีเสียงหนึ่งดังขึ้น
“คุณคิลเขาคงไม่ได้ตั้งใจหรอกค่ะ คิงอาเธอร์ เดียวเรนอนจะพาไปทำแผลนะค่ะ”เรนอนก็เข้ามาพยุงอาเธอร์ให้ลุกขึ้นแล้วเดินออกไป ท่ามกลางความตกใจของทุกคนในงาน ก่อนที่เฟรินจะเอ่ยขึ้นเสียงดัง
“เอาละ ตอนนี้ขอเชิญแขกทุกท่านตามสบายเลยนะฮะ พวกผมขอตัวก่อน” เมื่อพูดจบเฟริน คาโล คิล และไอรีสก็เดินออกจากงานไปทันที
“โอ๊ย!! เจ็บ... เบาๆหน่อยซิ เรนอน” เสียงร้องโอดครวญของชายหนุ่มดังขึ้น เมื่อหญิงสาวเอาลูกประคบมาประคบแก้มที่โดนชกไว้
“โทษทีนะค่ะ แต่รุ่นพี่อาเธอร์อยู่เฉยๆซิ!!”เรนอนเอ่ยเรียบๆ แต่เมื่อเห็นท่าทีของอาเธอร์ที่ร้องเหมือนเด็ก ทำให้หญิงสาวอดยิ้มไม่ได้กับการกระทำของคิงผู้ยิ่งใหญ่แห่งซาเรส โดยที่หารู้ไม่ว่ามีคนแอบมองรอยยิ้มนั้นอยู่
“ยิ้มอย่างนี้ เดียวข้าก็อดใจไม่ไหวหรอกนะ เรนอน”คำพูดของอาเธอร์ทำให้เรนอนชะงักไปเล็กน้อย ใบหน้าคมคายค่อยๆโน้มเข้ามาใกล้ขึ้นทุกทีๆจนกระทั่งเรนอนทนไม่ไหวรีบแปะกอเอี๊ยะที่แก้มของอาเธอร์แล้วลุกขึ้นเอ่ยลา
“ในเมื่อไม่มีอะไรแล้วเรนอนขอตัวก่อนนะค่ะ”ในขณะที่เรนอนกำลังเอื้อมมือไปจับลุกบิดประตู มือหนาก็มาคว้าลูกบิดประตูไว้ ส่วนมืออีกข้างก็รั้งเอวหญิงสาวให้เข้ามากอดจากข้างหลัง ก่อนจะกระซิบข้างหูของนาง
“ไม่ต้องเขินอายหรอกนะ เพราะถึงอย่างไงเจ้าก็ต้องแต่งงานและเป็นของข้าอยู่ดี เจ้าหญิงเรนอน”อาเธอร์พูดด้วยน้ำเสียงเจ้าเลห์ ใบหน้าคายคมซุกไซร้ไปที่ซอกคองามระหง พลางสูดดมกลิ่นกายสาว ก่อนหอมแก้มนางหนึ่งทีพร้อมเปิดประตูให้ ทำให้หญิงสาวรีบวิ่งออกไปทันที โดยมีสายตาของชายหนุ่มมองตามหลังเธอไป....
ตอนนี้เรนอนได้วิ่งไปเรื่อยๆโดยไร้จุดมุ่งหมาย น้ำใสไหลล้นออกมาจากดวงตาคู่สวยเป็นจำนวนมาก ก่อนที่เท้าจะมาหยุดอยู่ที่ดาดฟ้าของป้อมอัศวิน หญิงสาวมองดูขึ้นไปบนท้องฟ้า ปล่อยให้น้ำตาไหลอาบแก้ม ในคืนไม่มีดาวเลยแม้แต่น้อยทำให้รู้สึกเหงาใจยิ่งนัก
“เป็นอะไรไป เรนอน??”คาโลเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใย เมื่อเห็นสภาพคนตรงหน้า
“ฮือๆๆ เจ้าพี่ค่ะ!!”เรนอนโผเข้ากอดคาโลแน่น แล้วร้องไห้หนักกว่าเดิม ทำให้ชายหนุ่มสงสัยก่อนจะลูบผมหญิงสาวเบาๆ เพื่อเป็นการปลอบ
“ฉันขอโทษนะที่ให้เธอต้องไปเจอเรื่องร้ายๆแบบนี้ เป็นความผิดของฉันเอง ทั้งเรื่องที่เธอช่วยให้ฉันได้แต่งงานกับเฟริน แถมตัวเองยังโดนบังคับให้แต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักอีก ขอโทษนะ”คาโลเอ่ยด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ อย่างน้อยเขาก็ยังเป็นห่วงความรู้สึกของเธอบ้างละ เรนอนคิดก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ
“เจ้าพี่ค่ะ..”คำพูดของหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มชะงัก ก่อนล้มลงมองดูร่างบางที่กำลังสั่นเทาในอ้อมแขนเขา พลางนึกถึงเรื่องเมื่อครั้งวัยเยาว์
“ได้ยินอย่างนี้ แล้วนึกถึงตอนเด็กเลยนะ”คาโลเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบๆพลางนึกถึงวันแรกที่เขาได้เจอกับเจ้าหญิงตัวน้อยที่กำลังเดินเข้ามาในวัง
ผมสีชมพูพลิ้วไหวไปตามสายลมทำให้นางดูโดนเด่น ผิวสีขาวราวน้ำนมเนียนละเอียดจนทำให้พวกขุนนางชั้นสูงที่นั่งอยู่ถึงกับตะลึงในความงดงามของนาง ซึ่งเรียกได้ว่า ตอนนั้นยังไม่ถึงวัยแรกรุ่น หากแต่เป็นเด็กอายุ 7 ขวบ ไม่น่าเชื่อว่า เจ้าหญิงแห่งคาโนวาลจะงดงามถึงเพียงนี้ อีกทั้งกริยามารยาทสมกับเป็นสตรีผู้สูงศักดิ์ ทุกท่วงท่าที่ก้าวเดินล้วนงดงามอ่อนช้อย ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็ดูสวยสดงดงามรามกับนางฟ้าลงมาจุติ
‘ถวายบังคมเพค่ะ คิงบาโร ’เด็กน้อยคนนั้นกล่าว พร้อมถอนสายบัวต่อหน้าบัลลังก์ใหญ่ซึ่งเป็นที่ประทับของกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งคาโนวาล
‘อืม เจ้าคงจะเป็น เจ้าหญิงเรนอน ธีน็อต ธิดาของน้องสาวข้าซินะ??’ราชาหนุ่มเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ทรงอำนาจและน่าเกรงขาม จนทำให้พวกขุนนางหลายๆคนล้มหน้าหนี หากแต่เด็กน้อยกลับตอบด้วยน้ำเสียงที่มั่นคง
‘เพค่ะ คิงบาโร หม่อมฉัน คือ เจ้าหญิงเรนอน ธีน็อต ’ ตอนนั้นเขาที่นั่งอยู่ข้างๆเสด็จพ่อมองในตัวนางอย่างชื่นชม แม้แต่ผู้ใหญ่บ้างคนแค่ยืนอยู่ต่อหน้าคิงผู้ใหญ่คนนี้ก็แทบจะสั่นเป็นเจ้าเข้าแล้ว แต่เด็กน้อยตรงหน้ากลับไม่สะทกสะท้านอะไรเลย สมแล้วที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของเขา!!
‘อืม ถ้างั้นเจ้าก็คงจะรู้แล้วซิว่า ตอนนี้ข้าได้ไหว้วานให้แม่เจ้าไปทำธุระให้ข้าหน่อย เขาเลยส่งเจ้าให้มาอยู่กับข้าแทน’น้ำเสียงทรงอำนาจเอ่ย ก่อนจะมองเด็กน้อยที่ยังคงยืนอย่างสง่างามอยู่ที่เดิม
‘เพค่ะ คิงบาโร’เด็กน้อยเอ่ยตอบ ใบหน้านวลเต็มไปด้วยความอ่อนโยน นางแย้มยิ้มเล็กน้อยพอเป็นพิธีก่อนจะมองราชาแห่งคาโนวาลอีกครั้ง
‘เดียวข้าจะให้เจ้าชายคาโลพาเจ้าไปดูรอบปราสาทแห่งนี้ เอาละ!! พวกเจ้าทั้งสองไปได้แล้ว’คาโลลุกขึ้นพร้อมโค้งให้กับคิงบาโรก่อนจะเดินนำออกไป เด็กน้อยถอนสายบัวก่อนจะเดินตามเด็กชายคนนั้นออกไป
‘เจ้าชายคาโลเพค่ะ!!’เสียงของเด็กน้อยทำให้เขาต้องหันหลังกลับมามอง ก็พบว่า นางกำลังทำหน้าสงสัยอะไรบ้างอย่างอยู่
‘ทำไมเจ้าชายคาโลถึงไม่ยิ้มละเพค่ะ ทำหน้าบึ้งอย่างงั้นไม่เมื่อยเหรอ??’คำถามเดียงไร้สาจากเจ้าหญิงองค์น้อยๆ ทำให้คาโลอดหัวเราะในใจไม่ได้
‘หรือว่าเจ้าชายคาโลจะเกลียดหม่อมฉัน’เด็กน้อยพูดอย่างเศร้าใจ ตอนนี้นางชักจะน้ำตาคลอเบ้าทำให้เด็กชายชะงักอย่างตกใจ นี่ เขาทำอะไรผิดไปงั้นเหรอ?? ในขณะนั้นคาโลก็พยายามปลอบเด็กน้อยให้หยุดร้องไห้
‘ใครว่า ผมเกลียดเรนอนละ ก็เรนอนเป็นลูกพี่ลูกน้องกับผมนะ อย่าร้องเลย ’ตอนนั้นเขาพยายามปลอบอย่างสุดความสามารถ จนในที่สุดนางก็หยุดร้อง ก่อนจะมองเด็กชายด้วยสายตาที่ไร้เดียงสา
‘ถ้างั้นหม่อมฉันขอเรียกเจ้าชายคาโลว่า เจ้าพี่ ได้ไหมเพค่ะ’เด็กน้อยพูดพลางมองหน้าคาโลอย่างคาดหวังคำตอบ ทำให้เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่
‘ได้ซิ ’คำเพียงไม่กี่คำ กลับทำให้เด็กสาวแย้มยิ้มออกมาได้อย่างน่าประหลาดใจ ก่อนที่นางจะโผเข้ากอดเด็กชายแน่น
‘ขอบคุณนะค่ะ เจ้าพี่’
“เจ้าพี่เพค่ะ...”เสียงของหญิงสาวเรียกสติของชายหนุ่มให้กลับมาอยู่ในห้วงแห่งความจริงอีกครั้ง
“มีอะไรหรือ??”ชายหนุ่มเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสงสัย ก่อนที่หญิงสาวตรงหน้าจะผละออกจากตน แล้วค่อยๆก้มใบหน้างามๆลงมองพื้น เพราะในตอนนี้ใบหน้าของนางขึ้นสีระเรื่อจัด
...อาจไม่มั่นใจที่จะเอ่ย...
...แต่ถ้าไม่พูดตอนนี้...
...ก็คงจะไม่มีโอกาสอีกแล้วซินะ...
ตอนนี้ฉันได้ตัดสินใจแล้วว่า ถึงเวลาสมควรแล้วที่จะเอ่ยออกไป ไม่งั้นฉันก็คงต้องอึดอัดใจตายเป็นแน่แท้ หญิงสาวคิดในใจพลางกัดฟันแน่น มือทั้งสองข้างกำแน่นด้วยความเกร็ง ทำให้ชายหนุ่มตรงหน้าอดสงสัยไม่ได้
“เออ.. เรนอน??”
“
เรนอนรักเจ้าพี่คาโลนะค่ะ
”
ขอบคุณหลายๆท่านที่ติดตามอ่านผลงานผมนะคับ ในที่สุดก็อัพจบซักที(ฟู่!! ตอนนี้เกือบไม่ได้มาอัพซะแล้ว เนื่องจากงานเข้าเยอะมากจนไม่มีเวลาอัพ)
ความคิดเห็น