ทะลุมิติไปขายน้ำพริกในยุค 80s

ลำดับตอนที่ #3 : เรื่องราวของสามี

มาพูดถึงเรื่องสามีของฉินไฉ่หงกันบ้างดีกว่า สามีของฉินไฉ่หงมีชื่อว่า ‘หยางเฟยหลิง’ ตอนนี้เขาก็อายุ 22 ปีแล้ว

อันที่จริงแล้ว สามีของฉินไฉ่หง เขาก็มีความรู้สึกดีกับเธออยู่บ้าง

เพราะเมื่อตอนเขายังเด็ก ตัวฉินไฉ่หงเคยแบ่งอาหารให้เขากิน และตัวเธอก็ไม่รังเกียจเขาด้วย ทั้ง ๆ ที่คนในหมู่บ้านก็ไม่มีใครกล้าเข้ามาใกล้ตัวเขาเลย

แล้วที่หยางเฟยหลิงได้ตัดขาดกับครอบครัวของเขาได้นั้น ก็เป็นเพราะว่า เมื่อตอนที่เขาอายุได้ 8 ปี และพี่สาวของเขาอายุ 11 ปี

แม่ของหยางเฟยหลิง เธอมีชื่อว่า ‘ฟางซิน’

เมื่อแม่ของเขาได้เสียชีวิตลง และพ่อของเขาก็ได้แต่งงานใหม่ และนี่เองที่ทำให้มีเรื่องราวเกิดขึ้นมาได้

เพราะแม่เลี้ยงที่ได้แต่งงานใหม่กับพ่อของเขา ชอบทำร้ายเขากับพี่สาวมาโดยตลอด ทั้งทุบตี ทั้งอดอาหาร และยังให้ทั้งเขาและพี่สาวทำงานกันตลอด จนแทบไม่มีเวลาพักผ่อนกันเลย

ทั้งพ่อของเขาและครอบครัวหยางคนอื่นๆ ก็รู้เรื่องนี้ แต่ก็ไม่มีใครช่วยพวกเขาสองคนพี่น้องเลย

เพราะทั้งครอบครัวหยางคิดว่าครอบครัวของเขาเกือบซวยที่ได้แต่งงานกับแม่ของหยางเฟยหลิง

เพราะแม่ของหยางเฟยหลิงเป็นลูกสาวของนายทุนที่ร่ำรวยที่ดิน แต่ดีที่ว่า แม่ของหยางเฟยหลิงได้แต่งงานออกมาจากบ้านของเธอมาก่อน ก็เลยทำให้ตัวเธอไม่ได้โดนปฏิรูปไปด้วย

ตอนแต่งเข้าครอบครัวหยางในตอนแรก แม่ของหยางเฟยหลิง ก็ยังคงเป็นที่ชื่นชอบของครอบครัวหยางอยู่

เพราะครอบครัวแม่ของหยางเฟยหลิงร่ำรวย ครอบครัวหยางเลยยังคงเอาใจใส่เธอดีอยู่มาก

แต่พอมีการปฏิรูปเกิดขึ้นมา ครอบครัวหยางก็คิดว่าฟางซินเป็นตัวซวย เลยทำให้ฟางซินต้องทำงานหนักที่สุดในบ้านหยาง จนทำให้ร่างกายของเธอทนไม่ไหว และในที่สุดก็เจ็บป่วยจนเสียชีวิตลง และได้จากลูกๆ ทั้งสองคนของเธอไป

พอหยางเฟยหลิง อายุได้ 10 ปี เขาก็ทนให้แม่เลี้ยงทุบตีเขาและพี่สาวต่อไปอีกไม่ไหวแล้ว

วันหนึ่งเขาได้หยิบมีดขึ้นมา ตัดไปที่ผมของแม่เลี้ยงและยังใช้มีดฟันเข้าที่แขนของแม่เลี้ยงอีกด้วย

แล้วพอเห็นว่าพ่อของเขาเข้ามาช่วยแม่เลี้ยง เขาก็ได้ใช้มีดฟันแขนพ่อของเขาไปด้วยอีกคน

จนทำให้ในเวลานั้นทั้งพ่อและแม่เลี้ยงของเขา ก็ได้รับบาดเจ็บกันหนักมากอยู่เหมือนกัน

และหลังจากเกิดเหตุการณ์ในครั้งนั้นมา ครอบครัวหยางก็กลัวเขามาก เลยทำให้ ไม่กล้ามีใครทำร้ายหรืออดอาหารของทั้งสองคนพี่น้องอีกเลย

แล้วหลังจากที่เขาอายุได้ 13 ปี เขากับพี่สาวก็ได้ขอแยกบ้านและตัดขาดกับครอบครัวหยาง

โดยให้หัวหน้าหมู่บ้านเขียนบันทึกไว้ว่า เขาและพี่สาวจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับครอบครัวหยางอีกต่อไป ให้ต่างคนต่างอยู่ ให้แตกแยกกันออกไป อย่ามายุ่งวุ่นวายต่อกันอีก และถ้าจะให้ทำเป็นเหมือนคนแปลกหน้ากันเลย ก็ยิ่งดี

และหยางเฟยหลิงก็ได้พาพี่สาวของเขา มาอาศัยอยู่บ้านที่ตีนเขา ซึ่งเป็นบ้านเก่าของนายพรานที่เคยสอนเขาล่าสัตว์ แต่ตอนที่หยางเฟยหลิงกับพี่สาวได้ย้ายเข้ามาอยู่ นายพรานก็ได้เสียชีวิตลงไปแล้ว

แล้วพอเขาอายุ 15 ปี พี่สาวของเขาก็ได้แต่งงาน ตัวหยางเฟยหลิงเองก็เลยได้ไปสมัครเป็นทหาร และก็ได้เป็นมาจนถึงตอนนี้ตัวเขาก็อายุได้ 22 ปีแล้ว...

**********

หลังจากที่ฉินไฉ่หงได้ทำความเข้าใจกับเรื่องราวในนิยายแล้ว เธอก็ลุกขึ้นนั่งบนเตียง แล้วก็เดินออกจากห้องนอน เพื่อที่จะสำรวจบ้านที่เธออาศัยอยู่ในตอนนี้

บ้านของครอบครัวฉินหลังนี้ มีสี่ห้องนอน มีของพ่อกับแม่ของเธอหนึ่งห้อง

ของครอบครัวของพี่ใหญ่อยู่หนึ่งห้อง ของครอบครัวพี่รองหนึ่งห้อง และก็ของเธออีกหนึ่งห้อง แล้วก็มีห้องโถงไว้กินข้าว ไว้พูดคุยกันอีกหนึ่งห้อง

ส่วนห้องครัวแยกออกไปอยู่ด้านหลังของบ้าน เนื่องจากครอบครัวฉินยากจน และตอนนี้ก็ยังไม่ได้แยกครอบครัวกัน เช่นนั้นแล้วพวกเขาจึงอยู่รวมกันในบ้านหลังเดียว

ส่วนสวนด้านหลังบ้านก็ปลูกผัก มีพริก มะเขือเทศ แตงกวา ต้นหอม กะหล่ำ มีเล้าไก่ ที่เลี้ยงไก่ไว้อีก 3 ตัว

ส่วนหมูไม่ได้เลี้ยงเพราะไม่มีอาหารเหลือพอให้หมูกิน และเป็นไปไม่ได้เลยที่ครอบครัวฉินจะเลี้ยงหมูได้ในตอนนี้

เพราะว่าแค่คนในครอบครัวฉินในตอนนี้ ก็แทบยังจะไม่มีอาหารพอกินกันได้เลยในทุกวันนี้

ส่วนอื่นๆ ก็เหมือนบ้านดินในชนบททั่วไป แต่แค่ครอบครัวฉินจนมากแค่นั้นเอง

ถึงครอบครัวฉินจะจน แต่ตัวฉินไฉ่หงเอง ก็เป็นที่รักของครอบครัวมาก พ่อแม่และพี่ชายของเธอทั้งสองคนต่างก็ดูแลและตามใจ ไม่เคยปล่อยให้เธอได้ทำงานหนักเลย

ด้านพี่สะใภ้ทั้งสองคน ก็ดีกับเธอเช่นกัน แต่ตัวฉินไฉ่หงก็เป็นเด็กดี เชื่อฟังครอบครัวมาก ถึงครอบครัวจะห้ามไม่ให้เธอทำงานหนัก แต่เธอก็จะคอยช่วยเหลือทำงานตลอด ไม่ว่าจะงานทุ่งนาหรืองานที่บ้านเธอก็ทำได้ ไม่เคยบ่นว่าเหนื่อยหรือลำบากเลย

หลังจากเดินสำรวจรอบบ้านเสร็จแล้ว ฉินไฉ่หงก็มาสำรวจดู รูปร่างหน้าตาของเธอบ้าง ว่าร่างที่เธอได้ทะลุมิติมาเกิดใหม่นั้น มีหน้าตาเป็นแบบไหน

‘โอ้วแม่เจ้า! หุ่นน่าจะสูงสักประมาณ 168 ซม. ได้มั้ง ส่วนหน้าตาก็สวยมาก ถึงผิวจะดำคล้ำจากการตากแดดบ้างก็เถอะ แต่ถึงยังไงก็ดูเป็นคนที่ดูดีมากอยู่ดี ไม่น่าล่ะ? ทำไมตัวพระเอกถึงได้มาชอบเธอได้ในทันที เมื่อเธอเข้าไปทำงานในโรงงานทอผ้า นั้นก็เป็นเพราะว่าตัวฉินไฉ่หง ดูดีมากนั้นเอง’

หลังจากที่เห็นหน้าตาของฉินไฉ่หงในยุคนี้ จากกระจกบานเก่าๆ ที่มีอยู่ในบ้านแล้ว เธอก็ได้รู้ว่าตัวฉินไฉ่หงเป็นคนที่สวยมาก ถ้าบำรุงให้ดีๆ หน่อย จะต้องสวยมากกว่านี้ได้แน่นอน

ด้วยใบหน้าที่เป็นรูปไข่ ผมดำยาว ถึงจะแห้งแตกจากการขาดการบำรุงบ้างก็เถอะ ไหนดวงตาที่กลมโต ขนตาที่งอนยาว จมูกอันเล็กๆ ที่รับเข้ากับใบหน้าพอดีอีก ไหนจะริมฝีปากบางสีอมชมพูระเรื่อ ถึงจะมีแตกลอกบ้างแต่รวมๆ ก็ดูสวยอยู่ดี ส่วนหุ่นถึงจะผอมบางแทบจะหักได้ แต่ส่วนที่ผู้หญิงควรมีก็มีครบ ไม่ว่าจะเป็น อก เอว สะโพก ตัวฉินไฉ่หงเองก็มีครบด้วยเช่นกัน

‘อืม...นี่ถ้าได้บำรุงด้วยน้ำพุวิเศษอีกหน่อย ก็จะต้องสวยมากกว่านี้แน่เลย เฮ้อ! ใครจะคิดว่าจากคนที่หน้าตาธรรมดาๆ อายุ 35 ปี จะได้ทะลุมิติมาเกิดใหม่ เป็นสาวน้อยอายุ 18 ปี ที่ทั้งสาว สวย และแถมยังมีสามีตั้งแต่ยังเด็กแบบนี้อีก เฮ้อ! ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีหรือเปล่า ที่ทำให้เธอได้มาอยู่ในร่างนี้ได้ แต่ไม่ว่าจะยังไง ตอนนี้เธอก็คือฉินไฉ่หงในยุคนี้แล้ว นับตั้งแต่จากนี้เป็นต้นไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสามีหรือครอบครัวฉิน ก็จะเป็นคนที่เธอต้องเกี่ยวข้องด้วยเหมือนกัน และจากนี้ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น ต่อจากนี้ไป เธอคือฉินไฉ่หงคนใหม่ในร่างนี้แล้ว เอาล่ะ สู้ๆ โว้ย!!...’