ตอนที่ 41 : บทที่ 37 เกล็ดย้อน
ว่ากันว่าสำหรับทุกคนแล้วการได้รับการยอมรับนั้นเปรียบเสมือนเส้นทางที่ได้ถูกจุดให้สว่างขึ้น จนคนคนหนึ่งสามารถที่จะก้าวเดินต่อไปข้างหน้าได้ โดยปกติแล้วมันมีน้อยมากที่คนทั่วๆ ไปจะสามารถใช้ชีวิตให้ก้าวหน้าจนผู้ล้วนอิจฉา และสิ่งสำคัญมากๆ ที่จะทำให้ใครคนใดคนหนึ่งสะมารถที่จะก้าวเดินไปข้างหน้าได้นั้นก็คือเป้าหมาย ซึ่งการได้รับความไว้วางใจให้ทำหน้าที่ใดๆ หรือความวางใจจากใครสักคนนั้นถือเป็นหนึ่งในแรงผลัดดันหลักที่ทำให้คนเราสามารถที่จะก้าวต่อไปได้อย่างมั่นคง
ไม่เว้นแม้แต่จักรพรรดิหนุ่มอย่างหยางชิงหลงเองก็เช่นกัน สำหรับเขาแล้วแม้มองดูภายนอกอาจจะไม่ได้จริงจังในเรื่องราชกิจมากนัก ทั้งยังใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการฝึกวรยุทธ์เสียมากกว่า แต่อันที่จริงๆ แล้วสิ่งที่เขาทำทั้งหมดนั้นก็เพื่อหยาซานแทบทั้งสิ้น
ก็จริงอยู่สำหรับชาวบ้านร้านตลาดทั่วๆ ไปนั้นการปกครองบ้านเมืองให้ผาสุก การที่ดูแลปากท้องของอานาประชาราชถือเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดสำหรับผู้ปกครองหรือจักรพรรดิอย่างเขา
แต่สำหรับคนที่ผ่านโลกมาพอสมควรอย่างเขา ได้พบเจอโลกภายนอกที่กว่างใหญ่กว่าหยาซานมาแล้ว เขารู้ดีกว่าการมีกำปั้นที่ใหญ่กว่าใครนั้นสำคัญมากแค่ไหน เพราะแม้ว่าหยาซานนั้นจะอยู่ห่างไกลจากแผ่นดินหลัก ทั้งยังไม่มีใครคิดที่จะสนใจดินแดนที่ขาดแคลนปราณฟ้าดินเช่นนี้เป็นแน่
แต่ไม่มีใครสามารถที่จะรู้อนาคตได้ว่ามันจะเป็นอย่างไร เขาจึงอยากที่จะมีพลังอำนาจพอที่จะปกป้องบ้านเมืองของเขา …บ้านเมืองที่บิดาของเขาฝากฝังเอาไว้
ทำให้ตลอดกว่าสิบปีที่ผ่านมาเขาพยายามพัฒนาทุกอย่างในหยาซานทั้งในที่ลับและที่แจ้ง เพื่อให้หยาซานกลายเป็นเมืองที่สงบสุขร่มเย็นอย่างเช่นทุกวันนี้
แต่หลังจากการมาของชิงอ๋องเมื่อไม่นานมานี้มันกลับทำลายความภาภูมิใจของเขาไปแทบสิ้น ไหนจะเรื่องที่เหลียนฮวาเกือบตาย เรื่องที่ถูกพ่อตาของเขาที่เป็นแม่ทัพรักษาแผ่นดินทุบตีจนแทบสิ้นสภาพจักรพรรดิในตอนนั้น
และในตอนนี้ตอนที่ความจริงเรื่องที่ว่าชิงอ๋องที่เขาเกลียดนักเกลียดหนาผู้นี้กลายมาเป็นหนึ่งในเบื้องของความสงบ่มเย็นของหยาซานที่แม้แต่คนของเขาที่เลี้ยงดูมากับมือยังไม่คิดที่จะปริปากบอกเขา หรือกระทั่งคนสนิทของเขาที่ดูแลเขามาตั้งแต่เด็กๆ อย่างจ้าวกงกงเองกลับเป็นผู้ที่รู้เรื่องราวดียิ่งกว่าใครๆ…แม้แต่ตัวเขาที่เป็นจักรพรรดิเสียอีก
โถ่โว๊ย!!
.
.
.
ราวกับสัตว์ร้ายโบราณที่กำลังคุ้มคลั่ง ปราณทั่วร่างของหยางชิงหลงค่อยๆ ก่อตัวจนกลายเป็นรูปร่างที่เสมือนจริงเข้าไปทุกขณะ เช่นเดียวกับพลังปราณจากผืนฟ้าและปฐพีที่กำลังไหลบ่ามายังสถานที่แห่งนี้ราวกับถูกปากขนานยักษ์กำลังสูบกลืนอยู่ ยิ่งเวลาผ่านล่วงเลยไปนานเท่าใดพลังในการดูดกลืนนั้นก็ยิ่งรุนแรงขั้นยิ่งบ้าคลั่งขึ้นเรื่อยๆ จนตอนนี้แม้แต่ปราณที่ถูกเก็บกักเอาไว้ในร่างของผู้คนโดยรอบเองก็เริ่มที่จะถูกดูดออกไปบ้างแล้ว เรื่องนี้ทำให้สามผู้ยิ่งใหญ่ที่เคยสนทนากันอย่างเปิดเผยหมายจะกลั่นแกล้งจักรพรรดิให้อับอายเองก็ต้องหลั่งเหงื่อเย็นขนลุกเกรียวกราว เพราะเรื่องนี้มันชักจะใหญ่เกินไปแล้ว!
“นี่มันบ้าอะไรกัน” หลี่เจี้ยนเทียนถึงกับกัดฟันกรอด มองเส้นสายพลังปราณค่อยๆ ไหลออกจากร่างของตนอย่างไม่อาจจะควบคุมได้ ถึงแม้ตอนนี้มันจะไม่ได้มากมายอันใดนัก แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็รับรู้ได้ว่าปริมาณที่ถูกดูดกลืนนั้นค่อยๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และหากยังเป็นอย่างนี้ต่อไปไม่ถึงครึ่งชั่วยามตัวเขาเองก็อาจจะตายได้เหมือนกัน “พวกเจ้าทั้งสองพอจะรู้อะไรบ้างหรือไม่ ตอนนี้เราต้องทำอย่างไรต่อไปดี”
“ข้าก็ไม่รู้” ชิงอ๋องเองก็แทบจะใบ้กินไปเช่นเดียวกัน เพราะสำหรับตัวเขาแล้ว แต่ไหนแต่ไรมาหลานชายคนนี้ของเขาก็เป็นแค่เด็กไม่เอาไหนคนนึงเท่านั้น ไหนเลยจะมีพลังที่พลิกฟ้าคว่ำแผ่นดินเช่นนี้ได้กัน แต่เมื่อหันไปทางขันทีเฒ่าที่รับใช้ราชวงมาตั้งแต่รัชกาลก่อนอีกฝ่ายก็กำลังทำหน้าราวกับเห็นผี “จ้าวกงกงเจ้ารู้อะไรอย่างนั้นหรือ…”
“เป็นไปไม่ได้….” เสียงที่แผ่วเบาราวกระซิบของยันทีเฒ่าที่กำลังพูดวกไปวนมาราวกับคนเสียสติขณะที่กำลังมองไปยังร่างของผู้เป็นเจ้าชีวิต “คำพูดของหมอดูคนนั้นเป็นจริงหรือนี่…”
“เจ้าพูดบ้าอะไรอยู่ ช่วยบอกให้พวกข้าเข้าใจด้วยได้หรือไม่!” ชิงอ๋องตะคอกออกมาอย่างเหลืออด เพราะยิ่งเวลาผ่านไปพลังในการสูบกลืนของหลานชายคนนี้ก็ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่องๆ จนตอนนี้อัตราการสูญเสียพลังของเขามากขึ้นไปเป็นทบเท่าทวีคูนเข้าไปแล้ว หากยังคงปล่อยเอาไว้แบบนี้ต้องแย่แน่ๆ
“ใช่ มีอะไรเจ้าก็รีบๆ เอ่ยออกมาเสีย อย่ามัวอมพะนำอยู่ ไม่งั้นเราทั้งหมดได้ตายจริงๆ แน่ ตอนนี้พวกเจ้าอาจจะยังไม่สังเกต แต่ร่างกายของพวกเราเองก็กำลังถูกดูดเข้าไปหาไอ้เด็กเวนนี้เรื่อยๆ แล้ว!!”
“หา!”
เมื่อได้ยินคำกล่าวของหลี่เจี้ยนเทียนทั้งสองถึงกับตาเบิกโผลงมองไปยังร่างที่กำลังร้องคำรามด้วยน้ำเสียงที่แทบจะไม่เหมือนมนุษย์เข้าไปทุกที
“จ้าวหลิงบอกมาสักทีว่านี่มันเรื่องบ้าอะไรกันแน่ ทำไมทุกอย่างถึงเป็นแบบนี้” หยางชิงอ๋องเองก็อดรนทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว
“มันคือคำทำนายของหมอดูเฒ่าผู้หนึ่งที่พี่ชายท่านเคยได้รับเมื่อเขายังหนุ่ม ซึ่งตรงกับตำนานเก่าแก่ของราชวงก์หยางของเราที่กล่าวถึงหนึ่งในสัตว์เทวะที่คอยปกปักโลก…”
“ข้าคิดว่าเราไม่มีเวลาจะมาฟังเจ้าพล่ามอะไรไร้สาระหรอกนะ ตอนนี้เจ้าช่วยเข้าเรื่องสักทีจะได้ไหมว่าเรากำลังเจอกับอะไรและต้องแก้ไขอย่างไร”
“เมื่อยามที่โทสะแห่งมังกรถูกจุดขึ้นด้วยการแตะเกล็ดย้อน จงนำดวงใจแห่งมังกรมาสยบ” วาจาอันเลื่อนลอยดังออกมาจากร่างของขันทีเฒ่า ราวกับว่านั้นไม่ใช่เสียงของมันเองเสียด้วยซ้ำ แต่นั่นไม่เท่ากับความงงงันที่ยิ่งพอกพูนขึ้นมาต่อคนทั้งสองที่ได้ฟัง…
“นี่เจ้าพล่ามบ้าอะไรของเจ้า แล้วถ้าไอ้ตรงหน้าเราคือมังกรที่ถูกปลุกขึ้น แล้วเราจะไปหาดวงใขมังกรมาจากที่ใดกันเล่า” หลี่เจี้ยนเทียนสบถออกมาอย่างหงุดหงิด ลำพังแค่พยายามที่จะควบคุมพลังปราณในร่างไม่ให้ไหลออกไปหาเด็กเหลือขอที่ตอนนี้ดูท่าว่าไม่ได้สติเสียแล้ว ดูจากดวงตาที่แดงก่ำราวกับโลหิตกับปราณมังกรที่กำลังค่อยๆ ก่อรูปร่างจนคอยๆ เหมือนจริงเข้าไปทุกที ทั้งยังโก่งคออ้าปากสูบกลืนพลังปราณจากผืนฟ้าและปฐพีอย่างบ้าคลั่งโดยไม่สนใจเลยว่าตอนนี้คนรับใช้ที่อ่อนแอหลายคนในจวนแม่ทัพของเขากำลังหายใจรวยรินเข้าไปทุกทีแล้ว ถ้าขืนยังเป็นอย่างนี้อีกต่อไปไม่นานอาจจะต้องมีหลายสิบคนที่อาจจะต้องตายไปจริงๆ
และไม่เพียงเท่านั้น เพราะไม่มีใครรู้เลยว่าเจ้ามังกรบ้าตัวนี้จะดูดกลืนพลังไปจนถึงเมื่อไหร่และมันสามารถเติบโตได้อีกแค่ไหน
…ในตอนนี้มันแค่ขนาดตัวใหญ่กว่าท่อนแขนเพียงเล็กน้อยแต่กลับทรงพลังขนาดนี้ แล้วถ้าเกิดมันใหญ่โตขึ้นเท่ากับมังกรในตำนานเล่า…
………….
มาช้าแต่มานะ
จะไม่รับปากนะแต่จะพยายามมาให้ไวที่สุดครับ ขอโทษคนรอจริงๆ
เผื่อสำหรับคนที่ยังไม่รู้ ตอนนี้พ่อของผู้แต่งนั้นเป็นผู้ป่วยติดเตียงมาปีกว่าแล้ว
ทำให้ตัวผู้แต่งนั้นทั้งต้องออกไปทำงานทั้งต้องกลับมาเฝ้าพ่อที่บ้าน รายได้งานที่ไม่เป็นเวล่ำเวลาเลยได้แค่พอถูไถให้มีชีวิตอยู่ต่อไปก็เต็มกลืนแล้ว…ขออภัยจริงๆ ที่อาจจะช้าไปบ้าง จะพยายามแบ่งเวลากลับมาแต่ให้บ่อยขึ้นครับ
ขอบคุณที่ยังไม่ทิ้งกันไปไหน แล้วเจอกันครับ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

สู้ๆๆค่ะ
ขอการคลายปม
ขอเหลียนฮวาออกเที่ยวยุทธภพ
และหาผู้มาใหม่แทนเต้จะดีมาก
จางฮองเฮาเล่นเล่ห์แน่ๆนางไม่ได้ท้องจริงหรอก แต่พระเอกอ่อนแอไปนะคะแนะนำเพิ่มสกิลให้หน่อยถ้ายังจะให้เป็นพระเอกต่อ
คนไม่รักษาสัญญานี่ใช้ไม่ได้อ่ะ ถ้าลองเคยผิดสัญญามาแล้วครั้งหนึ่งครั้งต่อๆไปก็ผิดอีก แถมผิดสัญญาหลายข้อด้วย