ตอนที่ 40 : บทที่ 36 มังกรที่ถุกปลุกให้ตื่นขึ้น
ตลอดเวลาที่ผ่านมานั้นเขาคิดมาโดยตลอดว่าเขานั้นได้ทำหน้าที่ของตนเองในฐานะของจักรพรรดิแห่งแว่นแคว้นได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง แม้เขาอาจจะเริ่มจากการที่เป็นเพียงแค่เด็กหนุ่มผู้ไม่ประสีประสา แต่หลายปีมานี้จากหัวกะทิในสำนักอันยิ่งใหญ่เขาคิดว่าตัวเองนั้นได้กลายมาเป็นจักรพรรดิอย่างแท้จริง…
แม้ว่าลึกๆ แล้วเขาจะรู้แก่ใจดีว่าราชกิจส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่เป็นจ้าวกงกงผู้นี้ที่คอยตรวจตราดูแลมาโดยตลอด ทั้งตัวเขาเองก็ยังได้จัดตั้งหน่วยงานต่างๆ วางระบบอะไรใหม่ๆ ขึ้นมามากมาย ทั้งยังกวาดล้างเหล่าขุนนางโฉดชั่วไปไม่น้อย แต่พอมาลองคิดดูอีกทีแล้วทั้งหมดทั้งสิ้นนั้นล้วนแล้วแต่เป็นการชักนำและเสนอแนะจากคนรอบกายเสียส่วนใหญ่ เพราะสำหรับเขานั้นเวลาแทบทั้งหมดก็เอาไปใช้ฝึกฝนวรยุทธ์เสีย…
แล้วมันจะไปแปลกอะไรถ้าจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่อย่างเขาที่ใครๆ ต่างพากันสรรค์เสริญนั้นกลับกลายเป็นว่าไม่ต่างจากหุ่นเชิดที่ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรเอาเสียเลย เพราะขนาดคนของเขาที่เพิ่งจะตั้งขึ้นในยุคของเขายังรับรู้อะไรมากกว่าเขาเสียด้วยซ้ำ…
โดยเฉพาะตลอดหลายเดือนมานี้หลังจากที่เจ้ามอมแมมน้อยของเขาแทบจะดับสิ้นภายใต้จมูกของเขาเองแล้วด้วย อารมณ์และความรู้สึกของจักรีพรรดิหนุ่มก็ยิ่งแปรปรวนได้ง่ายดายนัก จะด้วยเหตุผลกลใดก็แล้วแต่ ปรากฎการณ์ในวันนี้ยิ่งทำให้เขาเข้าใจได้กระจ่างชัดที่สุดว่าตัวเขานั้นมันล้มเหลวแค่ไหน ไม่ว่าจะในฐานะจักรพรรดิคนนึง ฐานะพ่อของแผ่นดิน ในฐานะสามี หรือในฐานะคนรัก…เขาล้มเหลวไปแทบจะทั้งหมด
ขนาดในด้านวรยุทธ์ที่ตัวเขามันใจนักหนาว่าหลายเดือนมานี้ตัวเขานั้นต้องสามารถต่อสู้กำหราบพ่อตาของตัวเองได้อย่างแน่นอนแล้ว และคิดว่าตนเองนั้นจะไม่พ่ายแพ้ให้แก่ผู้ใดในหยาซานอีก
แต่กลับกลายเป็นว่าทั้งหมดที่ตนเองภาคภูมิใจมาตลอดกลับถุงทุบทำลายลงไปอย่างง่ายดายราวกับว่าสิ่งที่พยายามทำมันมาทั้งหมดนั้นมันแสนจะไร้ราคาด้อยค่าขนาดไหน…
ความเกรี้ยวโกรธที่ปะทุขึ้นเรื่อยๆ อยู่ภายในยังให้โทสะที่อัดอั้นมานานแสนนานได้ปะทุออกมาในร่างที่กำลังกดดันจนถึงขีดสุด และในตอนนั้นเองโดยที่จักรพรรดิหนุ่มไม่รู้ตัว ปราณบริสุทธิ์ใสสอาดที่เคยเยียวยารักษาเขาเมื่อครั้งก่อนหน้านี้ที่เพิ่งจะถูกทำร้ายมาหยกๆ ก็ค่อยๆ ชักนำปราณมังกรในร่างให้ไหลเวียนไปตามจุดชีพจรต่างๆ อย่างช้าๆ ชักนำและหลอมรวมทั้งเลือดเนื้อและปราณทั้งสองเข้าด้วยกัน จนกระทั้งปราณทั้งสองไหลไปยังหัวใจ หนึ่งในจุดชีพจรหลักของร่างกายมนุษย์ ทั้งยังเป็นจุดที่ยังกักเก็บแก่นชีวิตมังกรที่หยางชิงหลงได้เก็บมันมานานแสนนานตั้งแต่ครั้งได้รับถ่ายทอดมันมาจากผู้เป็นบิดา…
บึบ…
เสียงบางอย่างที่ระเบิดขึ้นในหัวของจักรพรรดิหนุ่มราวกับว่าอะไรบางอย่างนั้นกำลังจะปะทุออกมา จนความรู้สึกทั่วร่างของเขาได้เปลี่ยนไปเป็นคนละคน…
ปราณ หากว่ากันตามหลักการแล้วมันก็คือคำที่ใช้เรียกลมหายใจของสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปราณฟ้าปราณปฐพีในตำนาน ปราณชีวิต ปราณหยิน ปราณแห่งความตาย หรือจะอะไรก็แล้วแต่ แต่ท้ายที่สุดแล้วก็คือการเรียกลมหายใจที่ถูกนับให้เป็นพลังชนิดหนึ่ง ที่มนุษย์นำมาเรียกขานหรือฝึกฝน
สำหรับลมหายใจมังกรหรือปราณมังกรที่ถูกเรียกขานและสืบทอดกันมาในตระกูลหยางของหยาซานนั้น มันเป็นหนึ่งในร่องรอยของหนึ่งในห้ามหาสัตว์เทวะโบราณที่ว่ากันว่าเป็นผู้ปกป้องแผ่นดินนี้มาอย่างเน่นนาน และได้ทิ้งเอาส่วนหนึ่งของตนเองเอาไว้เพื่อปกปักแผ่นดินในกาลข้างหน้า
แม้ว่ามันจะเป็นหนึ่งในเรื่องเล่าแต่ปัจจุบันมีหลายฝ่ายที่คนพบร่องรอยหรือแม้แต่เคล็ดวิชาในตำนานเหล่านั้น และวังวสันต์มืดมิดเองก็เป็นอีกหนึ่งในขั่วอำนาจหนึ่งที่ค้นพบเรื่องราวเกี่ยวกับหนึ่งในห้าตำนานที่สาบสูญ…มังกร
และการที่เคยถูกส่งมาเพื่อที่จะค้นหาและนำเคล็ดวิชาและแก่นโลหิตมังกรกลับไปนั้นไม่ใช่แค่ฝ่ายเดียวที่ทำ แต่ขุมอำนาจมากมายทั่วทั้งสามพันแคว้นเองก็เริ่มที่จะออกล่าและตามหาร่องรอยเหล่านี้มากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว เพราะตามปกติไม่มีขุมอำนาจใดที่ไม่ส่งสายลับไปแฝงไว้ในกลุ่มอหริ และไม่มีกลุ่มอำนาจใดที่ไม่มีหนอนบ่อนไส้ ….
หากกล่าวถึงในโลกเบื้อหน้าแล้วปราณสัตว์เทวะในตำนานจะเป็นเพียงแค่เรื่องเพ้อฝัน แต่สำหรับโลกเบื้องหลังของเหล่าคนผู้ทรงอำนาจแล้วล่ะก็ สำหรับบางกลุ่มนั้นมันไม่ใช่เรื่องใหญ่หรือแปลกใหม่อะไรเลย
และสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่กับจักรพรรดิหนุ่มแห่งหยาซานอยู่ในตอนนี้ก็คือหนึ่งในเรื่องราวที่ยังคงเป็นตำนานโบร่ำโบราณ และกำลังกลายเป็นหนึ่งในเรื่องราวที่กำลังถูกสานต่อให้กำเนิดใหม่อีกครั้ง หนึ่งในห้าสมบัติเทพเจ้าที่สาบสูญ ปราณมังกรเขียวกลืนตะวัน
ตู้มมมม
ขณะที่สามหัวเรี่ยวหัวแรงหลักที่ปกป้องหยาซานมาเนินนานนับสิบปีอยู่เบื้องหลัง กำลังถกกันถึงปัญหาเรื่องที่คนภายนอกราชสำนักและทั้งยังเป็นของคนในยุทธภพซึ่งน้อยครั้งนักที่จะยื่นมือเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องราวของเมืองเล็กๆ เช่นนี้อยู่นั่นเอง ก็ปรากฏแรงกดดันอันมหาศาลที่จู่ๆ ก็กดทับลงมาบนร่างของคนทั้งสาม…ไม่ใช่สิถ้าหากไม่ได้ม่านพลังของบุรุษหนุ่มทั้งสองที่เดินทางกลับมาตามคำบอกกล่าวของน้องสาวแล้วล่ะก็ ป่านนี้แรงกดดันที่ว่าคงทำให้ทั้งหยาซานต้องตกอยู่ในความโกลาหลเป็นแน่แท้
อั๊กก
ทั้งสามที่วรยุทธ์มิใช่ชั่วถึงกับทรุดเข่าลงกระอักลิ่มเลือดออกมาเป็นกองทั้งทีที่แรงกดดันนั้นถูกกดทับลงมา โดยเฉพาะขันทีเฒ่าที่ตอนนี้อยู่ในสภาพย่ำแย่ที่สุดเพราะด้วยวรยุทธ์ที่อ่อนด้อยที่สุด
“!!”
“!!”
“!!”
แทบจะในเวลาเดียวกัน ที่แม้จะอยู่ในสภาวะที่ไม่ได้สู้ดีนัก แต่ทั้งสามก็ยังมองไปยังต้นทางของแรงกดดัน และนั่นก็ยิ่งทำให้ทั้งสามยิ่งตกใจเข้าไปอีกหลายสิบหลายร้อยเท่า เพราะกลับเป็นคนที่ทั้งสามไม่คาดคิดถึงที่สุดที่กลับเป็นคนปลดปล่อยแรงกดดันราวกับจอมปีศาจโบราณออกมาอย่างไรอย่างนั้น
‘มังกร’
และทันทีที่ทั้งสามกำลังเฝ้ามองอยู่นั้น มวลพลังปราณที่กำลังแตกซ่านกระเซ็นก็ค่อยๆ ก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างในที่สุด และกลายเป็นร่างของสัตว์ในตำนานที่ปัจจุบันกลายเป็นแค่ลายปักอยู่บนเครื่องทรงของจักรพรรดิ…มังกร
โฮ๊กกกกกกกกกกกกกกกกกก
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

686 ความคิดเห็น
-
#660 puphaa (จากตอนที่ 40)วันที่ 7 ตุลาคม 2563 / 00:48เริ่มล่ะ#6600
-
#578 PrissyTop (จากตอนที่ 40)วันที่ 26 มีนาคม 2563 / 10:13เป็นกำลังใจให้ค่ะ สู้ๆ นะ#5780
-
#365 galaxy_6188 (จากตอนที่ 40)วันที่ 21 พฤศจิกายน 2562 / 17:07พักผ่อนบ้างนะไรท์ ว่างแล้วเจอกันค่ะ#3650