ตอนที่ 28 : บทที่ 24 อีกคนที่ข้าม(ภพ)มา
“ตอนนี้สถานการณ์ของทางหยาซานกำลังเป็นไปตามที่ทางเราต้องการแล้วขอรับ ที่เหลือก็เพียงแค่รอเวลาที่กำหนดมาถึงก็เท่านั้น....” ร่างของชายชราในชุดคลุมสีดำสนิทเช่นเดียวกันกับชายหนุ่มรูปงามที่กำลังทอดมองไปยังท้องฟ้ายามค่ำคืน “ทางสายของเราที่วางเอาไว้กำลังประจำตำแห่งเรียบร้อยแล้ว”
“อื่ม...”ชายวัยยี่สิบปลายๆ ที่มีใบหน้าคมคายตอบรับอย่างเงียบๆ
อันที่จริงสำหรับผู้สืบทอดของตำหนักวสันต์มืดมิดอย่างเขาแล้วดินแดนเล็กๆ อย่างหยาซานนั้นไม่ใช่อะไรที่เขาจะสนใจด้วยซ้ำ เพียงแต่บิดาบุญธรรมของเขาที่เป็นถึงเจ้าตำหนักค่อนข้างที่จะสนใจเคล็ดวิชาที่ทำให้ดินแดนรอบนอกที่ยากแค้นแบบนี้สามารถมีจอมยุทธ์ที่บรรลุขีดขั้นสุดท้ายของมนุษย์อย่างพลังยุทธ์สีม่วงอยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็นเคล็ดวิชาของราชวงก์หรือสายเลือดที่พิเศษอะไรเทือกนั้น และล่าสุดยังมีจวนแม่ทัพอะไรนั่นที่มีข่าวแว่วมาเมื่อไม่นานมานี้ว่ามีคนที่สามารถบรรลุพลังปราณเมฆม่วงได้อีกคน
ทำให้ตอนนี้ไม่ใช่แค่พวกเขาเท่านั้นแต่ยังมีหลากวังหลายตำหนักหรือแม้แต่เหล่าสำนักใหญ่เองต่างก็ให้ความสนใจอยู่ไม่น้อย ทำให้ตอนนี้หยาซานกลายมาเป็นชิ้นเนื้อที่หอมหวานชินหนึ่งท่ามกลางเหล่าเสือสิงค์ที่เฝ้ามองอยู่
และมันคงไม่ใช่แค่การเฝ้ามองธรรมดาๆ เป็นแน่ถ้าหากว่าดินแดนส่วนกลางไม่มีพันธะสัญญาร่วมกันว่าจะไม่ก้าวก่ายซึ่งกันและกัน รวมถึงการที่คนจากส่วนกลางจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับแผ่นดินรอบนอกหากไม่จำเป็นจริงๆ
มันจึงทำให้แม้ว่าตำหนักวสันต์มืดมิดจะเป็นผู้ปกครองที่อยู่เหนือหยาซานไปหลายช่วงชั้นเองก็ไม่สามารถที่จะเข้ามายุ่งเกี่ยวได้อย่างโจ่งแจ้ง เพราะถึงอย่างไรหน้าตาของตำหนักนั้นก็มีค่าสูงกว่าเคล็ดวิชาดาษๆ สำหรับคนภายนอก มันจึงทำให้พวกเขาต้องยุ่งยากขนาดนี้...
“ข้าไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมพ่อบุญธรรมถึงได้ต้องการเคล็ดวิชาอะไรนั้นจนต้องยุ่งยากขนาดนี้ ทั้งๆ ที่เราแค่ส่งคนไปเอามันมาเลยตรงๆ ก็ยังได้ วุ่นวายจริงๆ” เสียงราบเรียบที่เจือด้วยความรำคาญใจปะปนอยู่เอ่ยออกมากับชายชราผู้รับหน้าที่เป็นผู้คุ่มกันเขามาตั้งแต่ไหนแต่ไร
“มันคงทำเช่นนั้นไม่ได้หรอกขอรับ และอีกอย่างที่นายท่านสนใจไม่ใช่สิ่งที่เรียบง่ายปานนั้น แต่ความเป็นจริงแล้วสายเลือดของหยาซานและเคล็ดวิชาที่ตกทอดกันในวังหลวงของหยาซานนั้นว่ากันว่ามีความเป็นมายาวนานนับพันนับหมื่นปี”
“แล้วยังไง?”ชายหนุ่มหันกลับมาถามซ้ำด้วยความไม่เข้าใจ “ลำพังแค่ศิษย์สายนอกของพวกเรายังมีวิชาเหล่านั้นด้วยซ้ำ มันมีอะไรน่าสนใจนักหนา”
“นั่นเป็นแค่ความจริงที่คนทั่วไปรับรู้เท่านั้นขอรับ แต่ท่านเจ้าตำหนักได้ทราบมาว่าอันที่จริงแล้วสายเลือดหลักของหยาซานและเคล็ดวิชานั้นเป็นสายเลือดที่สืบทอดมาจากเชื้อสายของมังกร ทั้งเคล็ดวิชาเองก็เป็นหนึ่งส่วนของเคล็ดวิชามังกรโบราณที่ท่านเจ้าตำหนักตามหามาเนิ่นนานแล้วขอรับ...”
“!!”
ชายหนุ่มถึงกับหน้าเปลี่ยนสีเมื่อได้ยินคำที่อีกฝ่ายกล่าวออกมา เพราะเพียงแค่ชื่อของสิ่งที่มีสัตว์เทวะอย่างมังกรเข้ามาเกี่ยวข้องก็ย่อมไม่ง่ายดายรวบรัดธรรมดาแล้ว ยิ่งได้ยินว่าเป็นหนึ่งในสายโลหิตรวมทั้งเคล็ดวิชาของมังกรโบราณแล้วด้วย ก็ยิ่งทำให้ชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะลอบแปลกใจไม่น้อย เพราะถึงอย่างไรตัวมันเองก็เป็นหนึ่งในผู้ฝึกฝนวิชาสายมังกรอย่าง “ปราณมังกรอเวจี” มันจึงรู้ดีถึงความร้ายกาจของเคล็ดวิชาของสัตว์เทวะเหล่านี้ดี
ขนาดตัวมันเองที่ได้เคล็ดวิชาที่ไม่สมบูรณ์มาเช่นเดียวกันก็ยังทรงพลังไม่น้อยเลยทีเดียว แล้วถ้าหากวันหนึ่งบิดาบุญธรรมของมันสามารถรวบรวมเคล็ดวิชามังกรสวรรค์สยบฟ้าได้สำเร็จแล้วล่ะก็ มันไม่อยากจะนึกเลยว่าวันนั้นยุทธภพจักมีสภาพเป็นอย่างไร
เพราะถึงอย่างไรแล้วแม้ว่ามันจะรักและเคารพบิดาของมันมาก ทั้งบิดาบุญธรรมเองก็ดีกับมันมากมายล้นฟ้า แต่ถึงอย่างไรบิดาของมันก็เป็นถึงผู้นำฝ่ายมารที่ไม่ใช่ตัวดีอันใด ชั่วชีวิตของมันนั้นสร้างความแค้นเอาไว้มากมาย ถ้าหากวันหนึ่งมันสามารถก้าวข้ามยอดฝีมือคนอื่นๆ ที่คอยค้ำคอมันอยู่ไม่รู้ว่ามันจะอาละวาดสักเท่าใด และมีผู้บริสุทธิ์สักเท่าไหร่ที่ต้องตาย
แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ได้คิดที่จะต่อต้านหรือห้ามปรามแต่อย่างใด เพราะมันเองก็ผ่านอะไรมาไม่น้อย ได้รู้และเข้าใจอะไรตั้งมากมาย...ถึงสองชีวิต
มันเข้าใจดีถึงความเคียดแค้นชิงชัง มันรู้ดีถึงความเจ็บปวดและความอัดอั้นของโทสะที่ไม่สามารถที่จะระบายออกได้ ว่ามันเป็นความรู้สึกเช่นไร
“สิบปีแล้วสินะ...” หลังจากที่ผ่านไปครู่หนึ่งชายหนุ่มก็เปรยออกมาเบาๆ
“ขอรับ?”
“ตั้งแต่ที่ท่านพ่อเก็บข้ามาก็เป็นเวลาสิบปีแล้วสินะ”
“ใช่แล้วขอรับ”
“...ทุกวันนี้ท่านก็ยังไม่ลืม”
“....” ชายชรามีสีหน้าอับจนหนทางเมื่อได้ยินคำกล่าวของชายหนุ่ม เพราะถึงอย่างไรมันก็ได้เฝ้าติดตามนายของมันมาตั้งแต่เริ่มออกเดินทางมาจากการเป็นแค่คนธรรมดามาจนถึงทุกวันนี้ มันรู้ดีว่าผู้เป็นนายของมันต้องผ่าทนอะไรมาบ้าง จนทำให้วันนี้นายของมันแทบจะหลงลืมทุกอย่างไปแล้ว มีเพียงแค่การฝึกฝนเพื่อที่จะแก้แค้น...และนายน้อยที่มีรูปร่างหน้าตาคล้ายคลึงกับบุตรชาย...ที่ตายไปแล้วของมันเท่านั้น
ชายชราถึงได้เคารพและดูแลเด็กชายคนนี้มาเป็นอย่างดี ทั้งเด็กชายเองก็ไม่ได้ทำให้มันต้องผิดหวัง เพราะตลอดสิบปีมานี้ไม่ว่าจะเป็นพลังฝีมือของชายหนุ่มที่รุดหน้าอย่างรวดเร็วจนน่าหวาดหวั่น ความรู้ความเข้าใจของมันที่มีต่อโลกก็ลึกล้ำสุดหยั่ง ทั้งไหวพริบเองก็เหนือล้ำยิ่งกว่าศิษย์คนใดที่ตำหนักวสันต์มืดมิดเคยมีมา
ที่สำคัญที่สุดชายหนุ่มผู้นี้คือสิ่งเดียวที่คอยเป็นหลักยึดเหนี่ยวผู้เป็นนายของมันเอาไว้จากนรกที่เรียกว่าความแค้น มิเช่นนั้นป่านนี้นายของมันคงได้กลายเป็นมารร้ายที่แท้จริงไปนานแล้วก็เป็นได้
“ช่างเถอะ” ชายหนุ่มระบายลมหายใจออกมาเบาๆ เขาก็แค่คนธรรมดาๆ คนนึง คงไม่สามารถที่จะทำอะไรได้มากมายเกินกว่าที่ตนจะทำได้ ทำได้เพียงแค่ทำในสิ่งที่ตนทำได้ให้สำเร็จเพียงเท่านั้นก็พอแล้ว และตอนนี้เขาก็ได้รับมอบหมายงานนี้มาจากผู้เป็นบิดา เขาก็จะทำมันให้เต็มที่ “แล้วทางนั้นจะเริ่มลงมือเมื่อไหร่...”
“ทางราชครูแห่งหยาซานได้แจ้งมาว่าในวันขึ้นปีใหม่มันจะลงมือจัดการทุกอย่าง และขอเวลาอย่างช้าที่สุดเจ็ดวันเพื่อที่จะนำส่งแก่นโลหิตของราชวงก์รวมถึงเคล็ดวิชามังกรเงินของจักรพรรดิชิงหลงมาขอรับ เพียงแต่...”
“เพียงแต่อะไร” ชายหนุ่มอดไม่ที่ได้ที่จะขมวดคิ้วน้อยๆ เพราะถึงอย่างไรตนเองก็ลงทุนลงแรงไปกับเจ้าเฒ่านี่ไปไม่น้อย แล้วยังจะมีหน้ามาเรียกร้องขอสิ่งใดอีก!
“มันแจ้งมาว่าตอนนี้นอกจากจักรพรรดิชิงหลงแล้ว ยังมีชิงอ๋องที่ลงมาจากแดนเหนือ รวมถึงแม่ทัพหลี่แห่งจวนตระกูลหลี่อีกคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะระแคะระคายแผ่นการของพวกเรา และดูเหมือนพวกมันจะจับมือกันอย่างลับๆ ทั้งยังส่งข่าวมาบอกว่ามีความเป็นไปได้สูงมากที่ตอนนี้พวกมันทั้งสามจะสำเร็จพลังปราณชั้นสีม่วงแล้ว จึงอยากจะร้องขอกำลังเสริมสักหน่อยขอรับ เพื่อป้องกันความผิดพลาด”
“อื่ม...ก็แค่ส่งศิษย์หลังไปช่วยสักคนสองคนก็พอแล้ว”
“ขอรับ”
“แล้วยังมีอะไรอีกไหม”
“เอ่อ...จริงๆ ก็มีเรื่องประหลาดเกิดขึ้นนิดหน่อยที่นั้นขอรับ”
“ยังไง”
“มีคนใช้วิธีการฝึกฝนคล้ายคลึงกับที่นายน้อยคิดค้นออกมาเพื่อฝึกพื้นฐานให้กับศิษย์สายนอกของสำนัก เพื่อฝึกฝนกองกำลังกลุ่มหนึ่งขึ้นมาในหยาซาน...”
“อธิบายมา...” ชายหนุ่มขมวดคิ้วทันทีที่ได้ยินประโยคดังกล่าว เพราะวิธีการฝึกพื้นฐานที่ว่ามันมีเพียงแค่เขาและไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้เกี่ยวกับมัน...และทั้งหมดล้วนไม่ใช่คนของโลกนี้ทั้งสิ้น!!
“เท่าที่สายของเราส่งมันมันเป็นวิธีการฝึกที่มีทั้งการพัฒนาพื้นฐานการต่อสู้ ยกระดับร่างกาย ประสาทสัมผัส ตลอดจนวิธีการหายใจที่ช่วยให้ผู้ฝึกสามารถที่จะสำเร็จการก่อลมปราณได้ง่ายขึ้น...”
“เป็นไปไม่ได้!” ชายหนุ่มที่ยืนอย่างสงบอยู่จู่ๆ ก็โผลงออกมาอย่างไม่อาจจะห้ามได้ “แล้วพวกมันเรียกตัวเองว่าอะไร!!”
“...เอ่อ รู้สึกว่าพวกมันจะเรียกตัวเองว่า” ชายชราถึงกับใบ้กินเมื่อจู้ๆ นายน้อยผู้เยือกเย็นก็หลุดมาดจนกลายมาเป็นร้อนรนเช่นนี้ “ข้าน้อยก็ไม่แน่ใจนัก แต่รู้สึกว่าพวกมันจะเรียกตนเองว่า...แก๊งค์ดอกบัวหรืออะไรสักอย่างนี่แหละขอรับ”
“อาเจ้!!”
ฉับๆๆๆๆๆๆ
...............................................
กลับมาแล้วครับ หลังจากนี้จะไม่ขอพูดเรื่องเครียดๆ แล้วกันเนาะ ช่วงนี้ยังไงทุกคนก็เครียดมากอยู่แล้ว เรามาอ่านนิยายกันดีกว่า
แต่ถึงยังไงก็ขอขอบคุณทุกๆ กำลังใจนะครับ อยากให้รู้ไว้ว่าทุกกำลังใจ ทุกคมเม้นต์ ทุกยอดบริจาคเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมข้ามผ่านมันมาได้ ขอขอบคุณจริงๆ ครับ...ขอบคุณจริงๆ
ตอนนี้หลายๆ อย่างน่าจะลงตัวแล้ว ถ้าไม่มีอะไรจะพยายามรีบมาต่อให้ทุกวันอย่างน้อยวันละตอนนะ (หรืออาจจะมากกว่า) นี่เป็นสิ่งเดียวที่ผมจะตอบแทนน้ำใจและทุกๆ กำลังใจจากพวกคุนที่รักของผมได้...
ส่วนถ้าใครอยากสมทบทุนช่วยเหลือนักเขียนสามารถบริจากมาได้ที่ช่องทางเดิมนะ แต่ยังไงก็เถอะ ช่วงนี้ผมว่าคนส่วนใหญ่ก็คงแย่ไม่ต่างกัน ถ้ามันทำให้ลำบากก็ขอรับไว้แค่ใจก็พอครับ
ขอบคุณทุกคนจริงๆ และอยากให้รู้ว่าพวกคุณคืออีกกลุ่มคนที่ได้รับใจจากผมไป...รักนักอ่านทุกคนนะครับ ผมรักพวกคุณจริงๆ นะ
ถ้าไม่มีอะไรวันนี้เดี๋ยวเจอกันครับ
อ้วน
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

691 ความคิดเห็น
-
#530 PPnLpn (จากตอนที่ 28)วันที่ 4 มกราคม 2563 / 12:54รออ่านนน#5300
-
#529 EyeriEpp (จากตอนที่ 28)วันที่ 3 มกราคม 2563 / 18:48รอๆจร้า#5290
-
#217 Eark Ja (จากตอนที่ 28)วันที่ 10 พฤศจิกายน 2562 / 14:30ทำตามที่ไรท์สบายใจเลยค่ะ พักผ่อนมาก ๆ อย่าเครียด หายไว ๆ แล้วกลับมาต่อไว ๆ นะคะ รอเสมอค่ะ#2170
-
#216 mydear26 (จากตอนที่ 28)วันที่ 10 พฤศจิกายน 2562 / 14:20รักษาสุขภาพด้วยจร้าาา รออออออ#2160