ตอนที่ 7 : บทที่ 4 ป่าหรรษา(?) 100เปอร์
บทที่ 4 ป่าหรรษา(?) & เควสสุขสันต์
แสงรำไลลอดผ่านใบไม้ลงมาพอให้บุรุษทั้งสองเห็นทาง เสียงฝีเท้าที่ย่ำเดินบนผืนดินดังกึกก้องเคล้าไปกันเสียงนกร้อง แม้นี่จะเป็นเวลาสายแล้วตาม ทว่าป่าแถบนี้เป็นส่วนที่เกือบลึกที่สุด จึงมีต้นไม้มากมายปกคลุม ผู้เล่นใหม่มักไม่นิยมเข้ามาลึกขนาดนี้ และผู้เล่นที่มีระดับขึ้นมาหน่อย ก็ไม่ค่อยเข้ามาพื้นที่แห่งนี้เช่นเดียวกัน เพราะมอนเตอร์ไม่ค่อยตกไอเท็มดี ๆ หรือให้ค่าประสบการณ์มากนัก จะมีเพียงแต่ไอ้บ้าบางคนที่ไล่มอนเตอร์จนหลงเข้ามาเท่านั้นล่ะ
“แน่ใจนะว่าเรามาถูกทางน่ะ” ดลยุทธ์เอ่ยทำลายความเงียบลง พวกเขาเดินมาราว ๆ ชั่วโมงเห็นจะได้ แต่ไม่เห็นทิวทัศน์รอบข้างจะเปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย ที่เขาเห็นมีเพียงต้นไม้ ต้นไม้ และต้นไม้! ดูท่ามันจะเป็นต้นไม้เดิม ๆ เสียด้วยที่เขาเห็นมาตลอดทาง เขารู้ได้ยังไงน่ะหรือ นั่นเพราะทุกครั้งที่เดินไปได้สักระยะ เขาจะทำสัญญลักษณ์เอาไว้ เช่นเดียวกับณัฐชนน ซึ่งสัญญลักษณ์ที่ว่า มันซ้ำมา...ห้ารอบแล้ว
“ก็น่าจะถูกนะ ในแผนที่มันบอกมาแบบนี้นี่นา” ณัฐชนนตอบไม่เต็มเสียงนัก
“อะไรคือ ‘น่าจะ’ วะครับ ไอ้คุณณัฐ สัญญลักษณ์บนต้นไม้นั่นมันซ้ำมาห้ารอบแล้วนะ” ดลยุทธ์ว่า พลางชี้ไปยังต้นไม้ที่เขาพูดถึง
“เออ ๆ ยอมรับก็ได้ว่าพาหลง ไอ้คุณเดย์สนใจจะนำทางแทนไหมล่ะคร้าบ” ณัฐชนนประชดกลับ
“ได้!” ดลยุทธ์ตอบกลับ พร้อมเดินขึ้นมานำหน้าณัฐชนนแทน
ผ่านไปสิบนาที...
“ไงครับไอ้คุณเดย์ เราวนมาเจอต้นไม้ต้นเดิมอีกแล้วนะครับ” ได้ทีณัฐชนนแขวะ
“ก็ไม่ต่างกันแหละน่า แล้วจะเอาไง” ดลยุทธ์ตวัดตาคมใส่
“...เดินวนอยู่อย่างนี้ทั้งวัน?”
“ออนไลน์...” ดลยุทธ์เรียกAIที่เขาคิดว่าน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับตอนนี้
“ขอรับนายท่าน อย่างที่กระผมเคยบอกไป กระผลเป็นเพีย AI เลเวลต่ำ สามารถโชว์แผนที่ให้ได้เท่านั้น หรืออีกทางหนึ่งคือนายท่านยอมให้มอนเตอร์ฆ่าทิ้งจะได้ไปเกิดในวิหารนักเดินทาง แต่ต้องแลกกับเลเวลลดหนึ่งเลเวล” ออนไลน์ตอบทันที โดยที่เจ้านายยังไม่ต้องถาม
“ใครจะยอม เลเวลหนึ่งกว่าจะเก็บได้” ดลยุทธ์บ่นอุบอิบ
ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด
เสียงเบา ๆ ดังขึ้น พร้อมหน้าจอสีฟ้าโปร่งปรากฎขึ้นตรงหน้าณัฐชนน มันคือหน้าจอติดต่อสื่อสาร หรือว่าง่าย ๆ ก็โทรศัพท์ในเกมนั่นเอง ณัฐชนนมองชื่อผู้ที่ติดต่อมา ก่อนจะยิ้มกว้าง รีบกดรับสาย
“เพียง! เธออยู่ไหน ฉันหลงป่า” ไม่รอช้าเขารีบกรอกเสียงลงไปอย่างดีใจ แล้วกดลดเสียงลง ดลยุทธ์เลิกคิ้วสงสัยกับการกระทำนั้น แต่ก็ไม่ได้ซักถามอะไร
‘ห้ะ!!!’ ปฏิกริยาของพิมพิลาวัลย์ หรือ เพียงออ เพื่อนสมัยเด็ก ไม่ได้เกิดความคาดหมายของณัฐชนนนัก
“หลงป่ากับเพื่อนอีกคน ฉันรู้เธอเดินป่าที่นี่จนปรุแล้ว มารับเลย” ณัฐชนนย้ำอีกครั้ง
‘โธ่ เด็กน้อยเดินหลงป่า’ ชายหนุ่มกลอกตาไปมาแต่ก็เถียงอะไรไม่ได้
“เออน่า”
‘แล้วอยู่ส่วนไหน’ พิมพิลาวัลย์ถาม
“ไม่รู้สิ ป่าทึบ ๆ ล่าสุดAIบอกว่าอยู่เขตเจ็ด”
‘ลึกเหมือนกันนะเนี่ย อีกสักครึ่งชม.น่าจะถึง’
“อืม ขอบใจมาก” ณัฐชนนกล่าว แล้ววางสายไป เขาหันมาดลยุทธ์ที่ยืนฟังบทสนทนาทั้งหมดอยู่ ก่อนระบายยิ้มร่าตะโกนว่า
“รอดแล้วเว้ยไอ้เดย์ย์ย์” ณัฐชนนกระโดดโลดเต้นไปมาราวกับเด็ก ๆ ทำให้ดลยุทธ์มองการกระทำนั้นอย่างขำ ๆ เออวุ้ย ตอนเจอแรก ๆ ดูเป็นคนเงียบ ๆ แต่ตอนนี้... ดลยุทธ์ส่ายหน้าไปมาเบา ๆ กับความคิด
ครึ่งชั่วโมงต่อมาเสียงเครื่องมือสื่อสารดังขึ้นอีกครั้ง ณัฐชนนกดรับสาย แล้วคุยกับปลายสายอยู่ชั่วครู่ หญิงสาวคนหนึ่งก็เดินเข้ามา ใบหน้ารูปไข่ ผิวขาวอมชมพู ผมยาวประบ่าผูกเปียเล็ก ๆ ที่ด้านซ้าย สวมเดรสยาวเหนือเข่าผูกโบว์ที่เอว และรองเท้าบูทยาวเลยเข่าเล็กน้อย ทำให้เธอดูทะมัดทะแมงขึ้น
“เก่งนี่หว่า เดินหาจนมาเจอพวกฉัน” ณัฐชนนเอ่ยปากแซวเพื่อน
“เพียงออซะอย่าง” หญิงสาวยักไหล่ราวกำลังบอกว่า เรื่องแค่นี้ชิว ๆ
“จ้ะ แม่คนเก่ง” ณัฐชนนเอ่ยอย่างหมั่นไส้ ก่อนจะหันไปมองดลยุทธ์ที่ยืนอยู่ไม่ไกล
“เพียง นี่เดย์ เดย์ นี่เพียงออ” หลังการแนะนำสั้น ๆ จากณัฐชนน ดลยุทธ์กับพิมพิลาวัลย์ก็ยิ้มทักทายกันเล็กน้อย แม้ในใจทั้งคู่จะคิดเหมือนกันว่า สั้นไปป่ะ(วะ)
“เออเพียง ขอที่ให้ซื้อน่ะ ครบหรือยัง” ณัฐชนนหันไปถามเพื่อน
“ครบ แล้วสมาชิกล่ะ หาได้ยัง” พิมพิลาวัลย์ถามกลับ
“ได้ เดย์ไง” ณัฐชนนตอบพลางชี้ไปทางดลยุทธ์ที่ทำหน้าเผวอ งงงวยว่าตนไปตอบตกลงตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่สิ แม้แต่คำชวนเขายังไม่เคยได้เลยด้วยซ้ำ!
“เดย์ทำเควสกัน” ณัฐชนนหันไปชวนแบบมึน ๆ
“แต่ฉันเลเวลต่ำ...มาก” ชายหนุ่มบอก
“”ไม่เป็นไร ฉับกับณัฐเลเวลก็ไม่ได้สูง เลเวลนายเดี๋ยวพวกเราช่วยเอง” ดลยุทธ์นิ่งคิดไป หากเขาร่วมทำเควสกับณัฐชนน และพิมพลาวัลย์ข้อดีก็คือเขาจะได้ประสบการณ์ทำเควส และการเข้าร่วมปาร์ตี้ แต่ข้อเสียคือเขาจะไปเป็นตัวถ่วงให้สองคนนี้ ซึ่งเขาไม่ต้องการให้มันเป็นแบบนั้น
“แต่ฉันอาจเป็นตัวถ่วง”
“โธ่ เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง ฉันกับณัฐช่วยนายได้ น้า ๆ ๆ มาทำเควสกับพวกเราเถอะน้า” พิมพิลาวัลย์อ้อน
“...ถ้าไม่กลัวฉันเป็นตัวถ่วงก็ได้” ดลยุทธ์ตอบตกลงในที่สุด นั่นทำให้ณัฐชนนและพิมพิลาวัลย์ยิ้มกว้าง ก่อนจะร้องออกมาพร้อมกันว่า
“เยสสส!”
ทั้งสามเดินลัดเลาะมาเรื่อย ๆ โดยมีพิมพิลาวัลย์เป็นคนนำทาง บางครั้งก็หยุดสู้กับมอสเตอร์เลเวลต่ำข้างทาง ส่วนใหญ่จะเป็นพวกสไลม์ วุ้น หรือกระต่ายน้อย มอนเสอตร์หน้าตาน่ารักสุดบ้องแบ๊วนั่นเอง มอนเตอร์ที่ดลยุทธ์เจอมาทำเอาเขาล่ะอยากจะรู้จริง ๆ ว่าเหตุใดคนสร้างเกมถึงสร้างให้มอนเตอร์น่ารัก ๆ ต้องมาถูกฆ่า เขาเห็นดวงตากลมโตสุดแบ๊วยามกำลังตีทีไร ทำเอาใจอ่อน สงสารไม่อยากฆ่าเก็บเลเวลเสียดื้อ ๆ ก็ต้องยอมรับอีกเช่นเคยว่าตัวกราฟฟิกเกมนั้นทำออกมาได้ดี สมจริงมากเลยทีเดียว
“ที่นี่ล่ะ ที่รับเควส” พิมพิลาวัลย์ชี้ไปยังบ้านไม้หลังใหญ่ประดับด้วยกระโหลกสัตว์คล้ายบ้านนายพราน
“เราจะทำเควสอะไร” ดลยุทธ์ถาม พิมพิลาวัลย์ไม่ตอบในทันที ทว่ากลับเดินตรงเข้าไปในตัวบ้าน ทำให้ชายหนุ่มอีกสองคนเดินตามเข้าไป บรรยากาศภายในนั้นไม่ต่างจากด้านนอกเท่าไหร่ ของประดับในบ้านยังคงเป็นหัวกระโหลกสัตว์น้อยใหญ่ มีพรมหนังสัตว์สีน้ำตาลอยู่ที่พื้นใกล้ประตู และมอนเตอร์สตาฟอีกมากมายถูกวางโชว์ไว้ พิมพิลาวัลย์ที่เดินนำเข้ามาก่อนแล้ว ตรงไปดึงกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาจากบอร์ดประกาศ ก่อนจะเดินกลับมาหาพวกเขา
“เควสนี้” เธอยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งไปให้ดลยุทธ์ ชายหนุ่มกวาดตามองกระดาษแผ่นนั้นคร่าว ๆ
“ช่วยจัดการหมาป่าหนึ่งฝูง!?”
“ช่าย ไปทำกันนะ” สองเพื่อนซี้พูดออกมาพร้อมกัน ดวงตาเปล่งประกายวิบวับราวเด็กน้อยอ้อนคุณพ่อให้ซื้อของเล่นให้
“เอาจริง?” ดลยุทธ์ถามเพื่อความมั่นใจ เขาไม่เคยเล่นเกม ไม่เคยทำเควส แค่หมาป่าเมื่อวานเขาก็แทบตายแล้ว
“นายท่าน อย่าป๊อดสิขอรับ” AIตัวป่วนยุอีกคน เขาก็ไม่มั่นใจว่าสรุปAIสุดที่รัก(?)อยากจะชวนเขาเล่นเกมจริง ๆ หรืออยากเห็นเขาเกมโอเวอร์กันแน่ เขาลังเลอยู่เล็กน้อยอย่างไรเขาก็ยังห่วงว่าจะเป็นตัวถ่วง
“กำลังคิดว่าตัวเองจะเป็นตัวถ่วงอยู่ใช่ไหม” พิมพิลาวัลย์ยืนหน้าเขามาใกล้เขาคล้ายกำลังจบผิด ดลยุทธ์นิ่งเงียบเป็นคำตอบ
“อย่าคิดมาก อยู่กับพวกฉันทำตัวไร้สาระเข้าไว้ ไร้สาระคือพวกฉัน” ณัฐชนนว่า ใช้มือแตะไหล่ดลยุทธ์เบา ๆ
“ณัฐไร้สาระคนเดียว ฉันไม่เกี่ยว” พิมพิลาวัลย์รีบปัดอย่างไม่จริงจังนัก
“เหรอออ” ณัฐชนนค้อนเพื่อน ดลยุทธ์ยิ้มขำกับเพื่อนใหม่ทั้งสองคน ดูท่า อยู่กับสองคนนี้ชักจะน่าสนุกแล้วสิ
“เดย์ ตกลงเควสนี้นะ” เมื่อเห็นเพื่อนใหม่ยิ้มขำออกมาพิมพิลาวัลย์รีบถามอีกครั้ง
“อื้อ” เขาตอบอย่างไม่ลังเล เรียกรอยยิ้มบนใบหน้าเพื่อนใหม่ทั้งสองได้อย่างดี
“เอาล่ะ จะรอช้าอยู่ใย ไปทำเรื่องรับเควสซะสิ” ณัฐชนนเร่งเพื่อน จึงได้รับค้อนงาม ๆ จากมาหนึ่งที แม้พิมพิลาวัลย์จะค้อน แต่ก็ทำตามที่เพื่อนบอกแต่โดยดี เธอนำกระดาษเก่า ๆ แผ่นนั้นไปหาชายร่างใหญ่ที่กำลังเช็ดกะโหลกกวางมูสอย่างทะนุทะนอม ทั้งสองคุยอะไรกันอยู่ชั่วครู่ก่อนหน้าต่างเล็ก ๆ จะปรากฎขึ้นตรงหน้าดลยุทธ์
‘PimmyPimpilawan ชวนคุณเข้าปาร์ตี้จุดจุดจุด’
ตกลง ปฎิเสธ
เมื่อชายหนุ่มกดตกลง ก็มีเสียงเพลงดังขึ้นมา พร้อมกับเสียงAIกล่าวว่า “ยินดีด้วย คุณได้เข้าปาร์ตี้เป็นครั้งแรก ได้รับค่าประสบการณ์150 หน่วย”
‘เควส : จัดการฝูงหมาป่าที่หมู่บ้านเอเอล’
ตกลง ปฎิเสธ
ชายหนุ่มกดตกลงอีกครั้ง และเสียงดนตรีกับAIก็ดังตามมาอีกครั้งเช่นกัน “ยินดีด้วย คุณรับเควสครั้งแรก ได้รับค่าประสบการณ์120หน่วย”
“ระหว่างทางก็เก็บเลเวลไปด้วยละกันนะ” ณัฐชนนหันมาบอก แล้วหันกลับไปมองเพื่อนที่เดินกลับมารวมกลุ่มอีกครั้ง
“ไปตลาดอีกรอบไหม?” พิมพิลาวัลย์เงยมองหน้าสองหนุ่มถามความเห็น
“ไหนบอกของครบแล้ว” ณัฐชนนมองหน้าเพื่อนด้วยความฉงน
“ครบตามที่นายบอกน่ะมันก็ครบ แต่ตอนเดินออกจากป่าน่ะของที่ซื้อมาก็ใช้ไปนิด ๆ หน่อย ๆ แล้ว” พิมพิลาวัลย์อธิบาย
“ฉันยังไงก็ได้ ไปไหมเดย์” ณัฐชนนถามดลยุทธ์อีกรอบ
“ไปสิ เข้าเกมมายังไม่ได้ไปเดินตลาดเลย ว่าแต่ตลาดอยู่ไกลจากที่นี่มากไหม” ดลยุทธ์พยักหน้าเบา ๆ ในหัวเริ่มจินตนาการภาพตลาดในหัว
“ก็ไม่มากนะ ไปตลาดที่อยู่แถว ๆ วิหารนักเดินทางน่ะ เดย์น่าจะเคยเดินผ่าน ๆ แถวนั้น ไปกัน” พิมพิลาวัลย์ตอบ แล้วเดินนำสองหนุ่มออกไป
เดินลัดเลาะป่ามาอีกไม่เกินสิบนาทีหมู่ไม้ก็แหวกให้เห็นผู้เล่นมากมายเดินขวักไขว่กันอยู่ ก็เหมือนตลาดในโลกจริงที่มีคนตะโกนขายของ ถือป้ายขายสินค้าตนอย่างเต็มที่ จะต่างหน่อยก็ตรงที่ว่าของที่ขายไม่ได้มีแต่ผักผลไม้ ของสด ทว่ามีอาวุธต่าง ๆ ด้วย
“อืม...เดย์เล่นวันนี้วันแรกเลยใช่ไหม” หญิงสาวคนเดียวในกลุ่มถาม
“ใช่” เขาตอบ ทว่าสายตามิได้มองที่คนถามแม้แต่น้อย กลับมองสำรวจไปรอบตัว พยายามจดจำบรรยากาศให้ได้มากที่สุด
“เปิดกระเป๋าสำภาระให้ดูหน่อยสิ” ชายหนุ่มทำตามแต่โดยดี หน้าจอสีใสปารกฎขึ้นให้เห็นเป็นช่อง ๆ ของบางอย่างก็ตัวเลขห้อยอยู่ด้านหลังบ่งบอกถึงจำนวนที่มีอยู่
“ก็มีเท่าได้ตอนเริ่มต้นกับที่ได้จากพวกวุ้น สไลม์ แล้วก็กระต่ายน่ะ” ชายหนุ่มพูดระหว่างหญิงสาวกวาดตามองของในกระเป๋า เธนิ่งเงียบไปสักพักคล้ายคิดอะไรอยู่ในหัวมากกว่าเหม่อก่อนเอ่ยออกมาในที่สุด
“ไปดูยาเพิ่มเลือดก่อนละกัน” ไม่ทันที่จะเริ่มออกเดินณัฐชนนก็เอ่ยขึ้นเสียก่อน
“เอ้อ ทั้งสองคน ฉันไปดูของฝั่งนู้นแป๊บนะ มีอะไรเรียกแล้วกัน” ณัฐชนนบอก วิ่งไปอีกฝั่งอย่างรวดเร็ว ดวงตาเป็นประกายของเขามองไอเท็มหน้าร้านอย่างสนอกสนใจ ส่งผลให้พิมพิลาวัลย์ส่ายหัวเอือมระอากับนิสัยเพื่อนเล็กน้อย แล้วจึงหันไปชวนคนที่ยังเหลืออยู่
“เดินไปร้านกัน” และเช่นคยที่หญิงสาวเดินนำออกไป...
สวัสดีค่ะนักอ่านทุกท่านนน ตอนนี้เอาไปแค่นี้ก่อนละกันนะคะ เดี๋ยววินเรียนพิเศษเสร็จจะแต่งต่อ แล้วเอามาลง
คราวนี้ที่สินหายไป วินเคยแจ้งไปในเพจรอบนึงแล้วว่าที่หายไปเพราะอยากส่งนักเขียนหน้าใสปีเจ็ด ซึ่งผลออกมาแล้วว่าวินไม่ติดค่ะ ก็ส่งปีแรกล่ะเนอะ ตามนั้นล่ะค่ะ แอบมีเสียใจนิดหน่อยแต่วินยังเหลือเวลาส่งโครงการนี้ได้อีกหลายปี ถึงปีนี้พลาดปีหน้าก็เอาใหม่ละกัน ตอนนี้ก็กลับมาแต่งเดลต้าได้ต่อแล้วล่ะค่ะ ถ้าคราวนี้จะติดอะไรก็คงมีแต่กองการบ้านเท่านั้น Orz จะพยายามอัพให้เร็วที่สุดนะคะ
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านค่ะ
-The Black twin-
20/09/14
ฮัลโหลลล นักอ่านที่น่ารักทุกท่าน ยังมีใครรอเรื่องนี้อยู่ไหมคะ? ขออภัยที่มาช้าเหลือเกิน
อีกไม่กี่วันจะครบรอบหนึ่งปีของเดลต้าออนไลน์แล้วค่า แต่จำนวนบท...Orz อันที่จริงเรื่องนี้เป็นเรื่องที่จำนวนบทเยอะที่สุดตั้งแต่แต่งมาแล้ว สี่บทนี่ล่ะค่ะเยอะสุดตั้งแต่แต่งมา สาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้ดองคือเห็นความไม่สมเหตุสมผลของเรื่อง ที่ทำให้วินอยากแก้ แต่พอแก้ไปแก้มา มันต้องแก้พล็อตทั้งหมดตั้งแต่ต้นยันจบ พอมานั่งแก้ก็รู้สึกตัน ๆ พอมาเขียนต่อ ก็ตัน ไม่รู้ว่าควรจะให้ตัวละครพูดอะไรดีถึงจะไม่ดูประดิษฐ์ ทำให้คาเร็กเตอร์ตัวละครคงที่ยังไง เพราะจากที่วินอ่าน ๆ มา วินว่าคาเร็กเตอร์ไม่ค่อยจะเป็นไปตามที่วินคิดเสียเท่าไหร่ ขาดรายละเอียดหลายอย่าง และบรรยายยังไง ให้เรื่องดำเนินไปแบบไหน เขียนตัวละครยังไงถึงจะมีเสน่ห์ เหมือนคนจริง ๆ จะทำให้เนื้อเรื่องสมจริงขึ้น ทำให้นักอ่านอินกับเรื่องยังไงดี มีความกังวลร้อยแปด จนลบ ๆ เขียน ๆ อยู่อย่างนั้น เพราะคิดว่ายังดีไม่พอ...ยังไงวันที่ 18 พฤศจิกายน วันครบรอบหนึ่งปี วินจะพยายามลงให้เร็วขึ้น ชดเชยที่หนึ่งปีนี้ลงได้นิดเดียวเอง...จะพยายามนะคะ สัญญาวินจะเข็นเรื่องนี้จนจบให้ได้ค่ะ!
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านค่ะ
-The Black Twin-
10/11/14
มาแล้วค่า ขออภัยลงช้ากว่าที่คิดไว้21ชม. กับอีก 24นาที ไข้เพิ่งลดเมื่อวานค่ะ โอเค ถึงบทนี้วินนึกได้ว่าลืมใส่รายละเอียดเรื่องค่าประสบการณ์...ไว้แก้ตอนรีไรท์ละกันนะคะ ขออภัยลืมรายละเอียดเยอะเหลือเกิน เพิ่งสำนึกได้ว่าแต่งนิยายเกมออนไลน์มันยาก (จริง ๆ จะแต่งแนวไหนก็ยากทั้งนั้น) รายละเอียดวินตกหล่นเยอะมากมาย แต่อย่างที่เคยบอกไป รีไรท์แก้ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องบทบรรยายกับเพิ่มรายะเอียดพวกนี้เท่านั้นแหละค่ะ เนื้อต่าง ๆ คาดว่าไม่มีแก้แล้ว นอกจากบทนำ หากมีแก้อีกทีอาจจะป็นตอนรีไรท์หลังบเรื่อง ซึ่งอีกนาน...
บทนี้เป็นบทที่วินตันมาก มันไม่ง่ายเลยที่จะแต่งตัวละครที่คิดมาก คิดเยอะ มีบุคลิกนิ่ง ๆ แต่ติดตลกเช่นดลยุทธ์ ช่วงนี้ก็ปล่อยหนูเพียง กับณัฐชนนเด่นไปก่อนละกันนะคะ วินเชื่อว่าเวลาเรารู้จักเพื่อนใหม่ที่มีเพื่อนอีกคนสนิทก่อนอยู่แล้วคงไม่ได้คุยกันมากมายนักนอกจากเป็นคนเฟรนลี่ เห็นได้ชัดว่าดลยุทธ์ไม่ใช่คนประเภทนั้น...เป็นบทที่สั้นไปนิด (ที่ดูแล้วรู้สึกว่ายาวเป็นเพราะที่วินบ่นล้วน ๆ //รู้สึกผิด) ทั้งที่จริงวางไว้ให้ยาวกว่านี้ แต่ติดตรงที่ว่าพอไปยาวแล้ววินหาที่ตัดบทไม่ได้ เลยตัดตรงนี้ แล้วที่เหลือไว้บทหน้านะคะ
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านค่ะ
-The Black Twin-
23/11/14
ป.ล. นักอ่านบางท่านอาจจะเคยเห็นในเพจแล้วแต่ขอลงอีกที แม้จะเลยวันครบรอบหนึ่งปีไปห้าวันแล้วก็ตาม...มีอะไรเยอะแยะมากมายที่วินอยากบอกนักอ่านทุกท่าน แต่ขอสรุปสั้น ๆ แค่ว่า ขอบคุณทุกท่านจากใจที่ยังอ่าน ยังอยู่กับนักเขียนมือใหม่คนนี้ ทุกท่านนคือกำลังใจ คือคนสำคัญของวินค่ะ มีอะไรสามารถติชมได้เต็มที่นะคะ วินพร้อมปรับปรุง
ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณรูปจากท่านแบงค์ B 13 s.t ค่ะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

43 ความคิดเห็น
-
#41 senwish(เซนวิช) (จากตอนที่ 7)วันที่ 25 พฤศจิกายน 2557 / 20:19ไม่เหมือนเกมส์ออนไลน์ที่เราเคยเจอเท่าไรนักนะคะ แถมมีหลงป่ากันด้วย ปกติเกมส์ออนไลน์มันจะมีใบวาปกลับจุดเซฟ หรือยันต์เวทกลับวิหารนักเดินทาง เพื่อความสะดวกสิคะ แต่บางเกมส์มันมีใบวาปประจำเมืองด้วยนะ (เข้าใจว่ามือใหม่คงไม่มีเงินซื้อละมั้งถึงไม่มีใบวาปใช้)#410