The Memory [YooSu] - The Memory [YooSu] นิยาย The Memory [YooSu] : Dek-D.com - Writer

    The Memory [YooSu]

    ฟิค แฮปปี้เบิร์ทเดย์ ปาร์คยูชอน ^^

    ผู้เข้าชมรวม

    651

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    651

    ความคิดเห็น


    4

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  5 มิ.ย. 52 / 20:34 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ความทรงจำ

    ที่ถูกเก็บเอาไว้

    เมื่อหวนกลับมานึกถึง ก็ทำให้เรามีความสุขได้อีกครั้ง

    ทุกๆเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น

    ก็จะกลายเป็นความทรงจำในไม่ช้า

    เรามาสร้างความทรงจำที่ดีๆด้วยกันอีกนะ

    รักนาย คิมจุนซู

    .....ปาร์คยูชอน.....
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

          นานเท่าไหร่แล้วนะที่เราได้มาอยู่เคียงข้างกัน  นานจนแทบจำไม่ได้ ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะที่ฉันรักนายได้ขนาดนี้ รู้สึกตัวอีกทีก็ขาดนายไม่ได้ซะแล้ว..........

       

          ผม ปาร์คยูชอน ผู้ชายธรรมดาๆคนนึงที่มีความฝันจะเป็นนักแต่งเพลงที่ยิ่งใหญ่  ผมเป็นคนมีโลกส่วนตัวสูง  ผมไม่เคยรู้จักคำว่าผิดชอบชั่วดีหรืออะไร ผมทำทุกอย่างที่ผมอยากจะทำ ผมมีความสุขที่ได้ตามใจตัวเอง......................แต่นั่นมันก็เมื่อนานมาแล้วแหละ

       

         ตั้งแต่วันนั้นที่คนๆนั้นเข้ามาในชีวิตก็ทำให้ผมเปลี่ยนไปจนกลายเป็นคนละคน  ผมใส่ใจตัวเองมากขึ้น ผมมีความสุขกับการที่ได้ทำให้ใครอีกคนมีความสุขร่วมไปกับผมด้วย ผมไม่ใช่คนดีนักหรอก  แต่ต่อหน้าเขาคนนั้น ผมเองก็ไม่อยากจะดูแย่นี่นา

       

         เพราะวันนี้เป็นวันหยุดงานของผม ข้าวของเครื่องใช้เก่าๆที่ถูกเก็บเข้ากรุไปนานจึงถูกรื้อค้นขึ้นมาอีกครั้งเพราะว่าอยากจะทำความสะอาดห้องเพื่อให้ใครอีกคนที่อาศัยอยู่ด้วยกันไม่ต้องคอยจามเพราะแพ้ฝุ่นอีกต่อไป

       

         การรื้อของออกจากกล่องก็เหมือนกับการรื้อฟื้นความทรงจำในชีวิตไปด้วย  ฝุ่นหนาที่เกาะตัวอยู่ตามข้าวของ เมื่อถูกปัดออกก็เหมือนกับมีใครเอาภาพวีดีโอมาฉายซ้ำข้างในหัว

       

         ผมอดที่จะยิ้มกับตัวเองอย่างมีความสุขไม่ได้ เมื่อเก็บของไปได้จนเกือบเสร็จ จะเหลือก็เพียงแค่กล่องสีครีมขนาดเหมาะมือใบสุดท้ายเท่านั้นที่รอให้ผมหยิบมันขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากที่ถูกทอดทิ้งเอาไว้ที่ซอกลึกของมุมห้องเป็นเวลานานเสียจนฝุ่นที่เกาะทำให้กล่องสีครีมกลายเป็นสีน้ำตาลอ่อนอย่างช่วยไม่ได้

       

         ผมจามออกมาเล็กน้อย มือทั้งสองข้างถูกเอามาใช้โบกพัดไปในอากาศเพื่อปกป้องลมหายใจของตัวเองจากกลุ่มฝุ่นที่คลุ้งขึ้นมาหลังจากที่เปิดแง้มกล่องออกมาเพียงเล็กน้อย

       

         ภายในกล่องมีของกระจุกกระจิกอยู่ไม่กี่อย่าง  ผมใช้สายตาที่อยู่ภายใต้กรอบแว่นไล่มองทีะชิ้นอย่างแปลกใจ  ผมเคยมีของแบบนี้อยู่ด้วยงั้นหรอ......?

       

         ผมหยิบของชิ้นที่เล็้กที่สุดที่อยู่ด้านบนสุดขึ้นมาก่อนเป็นชิ้นแรก  กล่องสีชมพูขนาดที่ใส่ลูกอมได้สี่ห้าเม็ดก็เต็มพอดี มีรูปหมีแพนด้าหน้ากลมส่งยิ้มมาให้อย่างอารมณ์ดี

       

         ผมมองมันอย่างพิจารณา ด้านในของกล่องมีเศษลูกอมเก็บไว้จนเต็ม  ผมยิ้มออกมาน้อยๆเมื่อนึกถึงความหลังตอนที่ได้เจ้ากล่องใบจ้อยนี่มา

        “นี่ ยูชอนฉันมีของฝากจากเมืองไทยมาฝากหล่ะ  ผมเงยหน้าขึ้นจากหนังสือเล่มโปรดพลางมองคนรักที่ส่งยิ้มมาให้ผมพร้อมกับซ่อนอะไรบางอย่างไว้ที่ด้านหลัง

       

         ท่าทางของเขาตื่นเต้นมากกว่าผมที่เป็นคนรับเสียอีก  ผมขยี้หัวกลมๆนั่นอย่างหมันเขี้ยว อยากจะรู้เหมือนกันว่าช่วงปิดเทอมที่เจ้าตัวหนีไปเที่ยวเมืองไทยกับครอบครัวนั้นจะซื้ออะไรมาฝาก

       

         อะไรหล่ะ ผมยื่นมือข้างหนึ่งไปที่ด้านหน้า แบมือขอของฝากจากคนรัก ที่ตอนนี้ฉีกยิ้มกว้างอย่างคนอารมณ์ดี สายตาที่ส่อแววทะเล้นอยู่น้อยๆทำให้ผมอดจะหวั่นใจกับของฝากไม่ได้

       

         นี่ไง และแล้วเขาก็ยื่นกล่องสีชมพูสดใสขนาดเล็กใส่มือที่แบรออยู่ของผม  โล่งใจน้อยๆเมื่อเห็นว่าสิ่งที่คนรักของผมซื้อมาฝากนั้นไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ออกจะคิกขุเกินไปสำหรับผมด้วยซ้ำ แต่ก็อดจะแปลกใจไม่ได้ ผมเหลือบคิ้วข้างหนึ่งขึ้นพลางมองเจ้ากล่องใบจ้อยในมืออย่างพิจารณา เปิดฝากล่องดูก็แล้ว  ไม่เห็นจะมีอะไรพิเศษเลยนี่นา

       

         กล่องงั้นหรอ? ผมถามย้ำเพื่อความมั่นใจ หลังจากที่สำรวจจนทั่วแล้วก็ยังไม่พบอะไรนอกจากหน้าเจ้าแพนด้าตัวน้อยที่ติดอยู่ที่ฝากล่อง

       

         ไม่ใช่สักหน่อย นี่ไม่ใช่กล่องธรรมดานะ ผมเงยหน้าขึ้นจากล่องสบตากับคนตัวเล็กอย่าสงสัย ไม่ธรรมดาตรงไหน เกาหลีก็มีขายเกลื่อน หรือเพราะว่าซื้อจากไทยมันเลยพิเเศษ

       

         ไอ่นี่อ่ะ คือขี้หมีนะ ห๊ะ!  อะไรขี้หมี  หมีที่ไทยขี้ออกมาเป็นสีชมพูแถมยังเป็นกล่องๆอีกหรอเนี่ย  โอว ช่างไม่ธรรมดาเสียจริง

       

         ขี้หมีแพนด้าด้วยหล่ะ เค้าเอาขี้หมีมาทำเป็นไอ่นี่แล้วก็ของอีกเยอะแยะเลย  มันน่ารักมากๆฉันก็เลยซื้อมาฝากน่ะ  คนตัวเล็กจ้องผมตาแป๋ว พลางฉีกยิ้มกว้างบรรยายถึงสรรพคุณของฝากให้ผมฟังเสียยกใหญ่

       

         นี่นายหนีฉันไปเที่ยวไทยตั้งเกือบเดือน แล้วซื้อขี้หมีแพนด้ามาฝากเนี่ยนะ ผมมองหน้าเขาอย่างเหลือเชื่อ ไปเที่ยวเมืองไทยแต่ไปซื้อขี้หมีแพนด้า  ไปจีนจะดีกว่ามั้ย = =

       

         ทำไมหล่ะ นายไม่ชอบงั้นหรอ ริมฝีปากบางเริ่มเบะออกน้อยๆอย่างน้อยใจ  ขี้หมีแพนด้าที่ไทยน่ารักออก ทำไมยูชอนถึงไม่ชอบหล่ะ

       

         เอ่อ ก็ป่าว  เพียงแต่คิดว่ามันแปลกไปหน่อยน่ะ  ที่ไทยมีหมีแพนด้าด้วยหรอ ฉันไม่เคยรู้เลยนะเนี่ย และแล้วผมก็ต้องแกล้งทำเป็นประทับใจไอ่กล่องขี้สีชมพูหวานจ๋อยเพื่อให้เจ้าตัวเล็กยิ้มออกจนได้สิหน่า  แต่จนแล้วจนรอดผมก็ไม่รู้ว่าจะเอาไอ่กล่องนี้ไปใช้ประโยชน์อะไรอีก เลยได้แต่ใส่เศษลูกอม(ขยะ = =) ที่เราแอบกินด้วยกันในคาบเรียนเท่านั้นเอง.........................

         ผมแอบหัวเราะกับตัวเองเบาๆ เมื่อนึกถึงตอนที่ได้ไอ่กล่องขี้สีหวานนี่มา  ผมวางมันลงที่ข้างๆตัวพลางหยิบของชิ้นต่อไปออกมา

       

         สมุดโน้ตสีแดงเข้ม ที่หน้าปกบุหนังอย่างดี เพียงแค่เห็นก็ทำให้ผมหลุดยิ้มออกมา  ผมพลิกเปิดอ่านผ่านๆไปทีละหน้าจนจบเล่ม  รายมือขยุกขยิกที่สลับกันไปทีละหน้าสองหน้าทำให้ผมนึกถึงตอนที่เราเรียนมัธยม


        

         เพราะว่าวันนี้เป็นวันวาเลนไทน์ คู่รักหลายๆคู่จึงออกมาเที่ยวกัน รวมทั้งผมเองก็ด้วย  เราเริ่มจากการออกไปเดินเล่นกันตั้งแต่เช้า ร้องคาราโอเกะ ดูหนัง จนกระทั่งไปช้อปปิ้ง  แต่มันคงจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอกถ้าหากว่าเราไม่ได้เข้าไปช้อปปิ้งที่ห้างสุดหรูชื่อดังอยู่ตั้งนานสองนานโดยที่ต่างคนต่างมีเงินติดตัวเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น

       

         เราทั้งคู่ได้แต่เดินตัวลีบๆอย่างสยดสยองกับราคาของแต่ละชิ้นที่วางขายอยู่  แต่ถึงอย่างนั้นพวกผมก็ยังเดินกันต่อไป

       

         พวกผมเดินสำรวจร้านกันจนทั่ว แต่ก็ยังไม่ได้ของติดตัวออกมาสักชิ้นจนพนักงานในร้านเริ่มมองมาที่พวกผมตาขวางๆ

       

         ผมกระซิบบอกจุนซูเบาๆว่าให้เลือกของอะไรไปสักอย่างจะได้รีบๆไปจากที่นี่กัน  รังสีอำมหิตของพนักงานในร้านแทบจะกลืนกินพวกผมจนมิดแล้ว

       

         เจ้าตัวเล็กเองก็ไม่ขัด มือเรียวหยิบเอาสมุดโน้ตบนชั้นที่อยู่ใกล้ๆตัวขึ้นมาโดยไม่ได้ดูราคา จนถึงตอนที่ไปจ่ายเงินนั่นแหละ พวกผมจึงแทบช๊อคกับราคาของมัน

       

         จนสุดท้ายพวกเราก็ไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนต่อตามที่วางแผนกันไว้ เพราะสมุดเล่มนั้นเล่มเดียวแท้ๆ  ผมแอบงอนเจ้าตัวดีเล็กๆที่ไม่ยอมดูราคาให้ดีเสียก่อน พวกเราต่างก็นั่งเงียบกันอยู่ที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่งใกล้ๆบ้าน

       

         ดูเหมือนเขาเองก็เริ่มรู้สึกตัวว่าทำให้ผมอารมณ์เสียเล็กน้อย  ผมเห็นเขานั่งเขียนอะไรขยุกขยิกบนสมุดโน้ตเล่มใหม่ที่เพิ่งซื้อมา สักพักเขาก็ยื่นให้ผมอ่าน

         ข้อความที่เล่าเรื่องของวันนี้ถูกเขียนลงบนหน้ากระดาษอย่างย่อๆ  ผมไล่อ่านตัวหนังสือทีละตัวอย่างตั้งใจ  ข้อความที่เขียนเอาไว้ว่าเขามีความสุขแค่ไหนมันทำให้ผมนึกได้ ว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคืออะไรกันแน่

       

         ผมรู้สึกถึงแรงโอบรัดจากด้านข้าง จุนซูกอดผมแน่น เสียงอู้อี้ที่ดังเล็ดลอดจากปากของเขาทำเอาผมรู้สึกผิด  ผมกำลังทำเขาร้องไห้………..

       

         ฉันต่างหากที่ผิด ขอโทษนะ  ฉันตั้งใจจะพานายไปกินไอติมร้านนึงน่ะ แต่เพราะสมุดนี่เลยทำเราอดไปกัน  ฉันนี่โง่ชะมัดเลย  อารมณ์เสียกับเรื่องบ้าบอแบบนี้ได้ไงกันนะ  ผมดึงตัวจุนซูมาไว้ในอ้อมกอดพลางลูบหัวปลอบโยน  คนตัวเล็กเงยหน้ามองผมหลังจากที่ผมเงียบไปสักพัก

       

         ทั้งๆที่ฉันควรจะรู้ว่านายต่างหากที่สำคัญที่สุด  มือของผมที่วางอยู่บนหัวเจ้าตัวเล็กถูกเปลี่ยนเป็นจับเอาใบหน้าหวานให้อยู่นิ่งๆ  ใบหน้าของเราเคลื่อนตัวเข้าหากันเรื่อยๆ ก่อนที่ริมฝีปากของเราจะสัมผัสกัน...................จูบแรกของเรา

       

         สุดท้ายแล้วสมุดเล่มนั้นก็ถูกใช้เป็นไดอารี่ของเรา   สมุดโน้ตที่ถูกสลับกันเขียนทุกๆวันนั้นทำให้เราเข้าใจกันมากยิ่งขึ้น  ใกล้ชิดกันมากขึ้น ถึงมันจะแพงไปสักหน่อยแต่ก็คุ้มล่ะน่า

       

        

         ผมวางสมุดโน้ตเล่มนั้นเอาไว้ที่ข้างตัวอีกด้าน คืนนี้ผมอยากจะอ่านทบทวนความหลังของสองเราสักหน่อย  ไม่มีหน้าว่างเหลือพอที่จะเขียนเรื่องราวอะไรแล้ว  วันหลังคงต้องออกไปเดทพร้อมกับซื้อสมุดเล่มใหม่ได้แล้วมั้ง

       

         แต่ก่อนหน้านั้นผมก็ต้องเคลียร์กับของพวกนี้ให้เสร็จก่อน ถึงจะไปวางแผนเดทครั้งหน้าของพวกเราได้  ผมหยิบเอาของชิ้นที่สามขึ้นมาจากกล่องสีครีมใบเดิม

       

         ถุงพลาสติกใบเล็กสีขาวสะอาดถูกพับเก็บไว้อย่างเรียบร้อย ดูเผินๆแล้วก็ไม่ได้ต่างอะไรจากถุงเปล่าที่ถูกพับไว้ใบนึง  แต่ถ้าหากเปิดดูก็จะรูว่าที่ข้างในนั้น มีกางเกงในอยู่  (=[]=!?)

       

         กางเกงในลูกไม้สีแดงสดที่แสนจะวาบหวิวถูกกยิบออกมานอกถุง  ผมรู้สึกว่าหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาเสียดื้อๆเมื่อนึกถึงความสำคัญของเจ้ากางเกงในแสนหวาบหวามตัวนี้


         

         แฮบปี้เบิร์ทเดย์นะจุนซู  เป็นรอบที่ล้านของวันนี้แล้วที่มีคนเดินเอาของขวัญมาให้กับเจ้าตัวเล็กพร้อมทั้งอวยพรวันเกิด  ยูชอนมองคนตัวเล็กพลางถอนหายใจออกมาน้อยๆ  ของขวัญที่ได้มาเป็นกระบุงนั่น  บางอันก็เป็นของแฮนด์เมด  บางอันก็เป็นของแพงสุดหรู  บางอันก็เป็นขนมธรรมดาๆที่จุนซูชอบ

       

          ไม่ใช่ว่าไม่ได้เตรียมของขวัญไว้ให้หรอกนะ  แต่เตรียมไว้เยอะเกินไม่รู้จะให้อะไรดี  ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา เวลาที่เขาไปไหนโดยไม่มีจุนซูแล้วเจอของน่ารักๆหรือของที่คิดว่าจุนซูจะชอบก็จะซื้อเก็บไว้ทันที  พอถึงวันเกิดคนตัวเล็กขึ้นมาจริงๆปรากฎว่าของขวัญที่เขาเตรียมไว้นั้นมีมากกว่ายี่สิบชิ้น  เลยเลือกไม่ถูกว่าจะให้อะไรดี

       

         เวลาทั้งวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว  ยูชอนก็ยังคงตัดสินใจไม่ได้ว่าจะให้อะไรจุนซูดี  อะไรที่จะทำให้จุนซูประทับใจมากที่สุด  และคนตัวเล็กจะชอบของขวัญของเขามากที่สุด

       

         ทางเดินขากลับบ้านของพวกเขาวันนี้ทุลักทุเลอยู่ไม่น้อย  เพราะของขวัญที่จุนซูได้รับมานั้นไม่ใช่น้อยๆ แต่ยูชอนเองก็ไม่ยอมให้จุนซูถือของหนัก  สุดท้ายแล้วกระเป๋านักเรียนทั้งสองใบก็ถูกจุนซูยื้อแย่งมาถือไว้เองได้  ส่วนยูชอนนั้นก็รับภาระกับถุงขนาดใหญ่ที่บรรจุของขวัญอีกสามถุงไปเต็มๆ

       

         จุนซูถือกระเป๋าทั้งสองใบไว้ด้วยมือเพียงข้างเดียว ส่วนอีกข้างก็คล้องควงกับคนรักอย่างออดอ้อน  ถึงแม้จะมีถุงคอยเกะกะอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหากับคนขี้อ้อนเลยแม้แต่น้อย

       

         หัวเล็กเอนซบกับบ่ากว้างไปตลอดทาง  ไม่มีเสียงพูดคุยอะไรดังขึ้น จนกระทั่งทั้งคู่เดินมาถึงบ้านของคนตัวเล็กที่ตั้งอยู่ไม่ห่างจากบ้านของอีกคนมากนัก

       

         ยูชอนช่วยจุนซูขนของทั้งหมดขึ้นไปไว้บนห้องนอน ของเจ้าตัว  ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนบนเตียงของอีกคนอย่างคุ้นเคย  เพราะว่าเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กๆจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะเคยมานอนค้างอ้างแรมทที่นี่อยู่บ่อยๆ

       

          จุนซูยกถาดน้ำและขนมที่คุณแม่เตรียมๆไว้ให้ขึ้นตามมาพลางเรียกให้ยูชอนลุกขึ้นมาทานด้วยกัน แต่กลับถูกคนตัวโตฉุดให้ลงไปนอนด้วยกัน  ยูชอยสวมกอดจุนซูเอาไว้แน่น  จุนซูเองก็ไดแต่ตัวแข็งทื่อด้วยความเขิน

       

         ฉันไม่รู้จะให้อะไรนายเป็นของขวัญ ยูชอนสารภาพกับจุนซูตรงๆ พลางลุกขึ้นนั่งมองหน้าคนตัวเล็กที่กำลังมองมาทางเขาเช่นเดียวกัน

       

         ยูชอนให้อะไรฉันก็ชอบทั้งนั้นแหละ คนตัวเล็กตอบพลางฉีกยิ้มกว้างแถมให้  ยูชอนจึงหยิบกระเป๋าเป้ของตนขึ้นมา  เทของลงบนเตียงทั้งหมด

       

         เห๋?” จุนซูได้แต่มองอย่างอึ้งๆ  ของมากกว่ายี่สิบชิ้นถูกเทกระจัดกระจายบนเตียงสีฟ้าน้ำทะเลของเขา ทั้งของกระจุกกระจิก  ตุ๊กตา  และอีกสารพัดอย่าง

       

         หมดนี่เลยหรอ จุนซูไล่สายตามองของทีละชิ้นพลางอมยิ้มออกมาน้อยๆ  คนตัวเล็กค่อยๆหยิบของทีละชิ้นขึ้นมาสำรวจอย่างชอบใจ เมื่อเห็นว่ายูชอนพยักหน้า

       

         พอฉันเห็นว่าอะไรมันน่ารัก คิดว่าจุนซูอาจจะชอบหรือเหมาะกับจุนซูก็เลยซื้อๆมา  พอดูอีกทีมันก็เยอะขนาดนี้แล้วอ่ะ  ยูชอนเกาท้ายทอยแก้เก้อพลางอธิบายให้คนรักตัวเล็กฟัง

       

         ขอบคุณนะ ยูชอน  จุนซูกระโจนเข้าหอมแก้มพร้อมทั้งไถหน้าไปกับอกกว้างของยูชอนอย่างอ้อนๆ   ยูชอนเองก็หน้าแดงน้อยๆด้วยความเขิน  ไม่บ่อยนักหรอกที่จุนซูจะเป็นฝ่ายจู่โจมเขาก่อน

       

         ทั้งคู่ตัดสินใจไปเดินเล่นด้วยกันที่ลานขายของในตอนกลางคืนหลังจากที่ครอบครัวของจุนซูและยูชอนจัดงานฉลองวันเกิดให้กับจุนซูอย่างอบอุ่น

       

         ที่ลานขายของเต็มไปด้วยของนานาชนิด  ผมเหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างก็จุดประกายยิ้มที่มุมปากขึ้นมาเมื่อนึกแผนที่จะแกล้งคนรักได้ แน่นอนว่าไอ่ของที่ว่านั่นก็คือกางเกงในสีแดงลายลูกไม้

       

         ผมเดินเข้าซื้อโดยไม่อายเพราะความอยากแกล้งมันมีมากกว่า  ผมยื่นของขวัญอีกชิ้นให้จุนซูที่ทำหน้างง พลางเปิดดูก่อนที่ใบหน้ากลมๆนั่นจะค่อยเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มขึ้นเรื่อยๆ

       

         ของขวัญนี่ไว้คืนให้ฉันตอนวันเกิดแล้วกันนะ แต่แบบไม่ต้องใส่ถุงแล้ว ใส่มากับนายเลยอ่ะ 55+”แต่ใครจะรู้เล่าว่าจากเรื่องล้อเล่น แฟนของผมดันทำจริงๆซะได้  และนั่นก็เป็นเหตุการณ์ครั้งแรกของเรา เหอๆ =////=


        

         ผมรีบเก็บกางเกงในเข้าไปในถุงแล้งพับให้เหมือนเดิมทันทีก่อนที่จะคิดถึงอะไรต่อมิอะไรและพาให้เกิดอารมณ์เปลี่ยวไปมากกว่านี้ = =

       

         ผมหยิบเอาของหนึ่งในสองชิ้นสุดท้ายขึ้นมาจากกล่อง  สร้อยข้อมือลูกปัดเส้นเล็กๆที่ตอนนี้มันล็กเกินกว่าที่จะใส่กับข้อมือของผมได้แล้ว

       

         สีน้ำเงินสลับขาวที่เคยดุแวววับและสดใสเมื่อนานมาแล้ว บัดนี้กลายเป็นสีหม่นๆดูมอมแมมไม่น่าดูเหมือนเก่า  แต่ผมยังจำได้ดีถึงวันแรกที่ได้เจ้าสร้อยข้อมือเส้นนี้มา  เป็นวันเดียวกับที่ผมเพิ่งจะได้รู้จักกับความรักครั้งแรก

        

         วันหยุดของเด็กประถมส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นวันที่ได้ไปเที่ยวกับครอบครัว แต่ไม่ใช่กับครอบครัวของยูชอน อาจเป็นเพราะว่างานของคุณพ่อและคุณแม่ที่ทั้งยุ่งและต้องไปทำงานต่างถิ่นอยู่เรื่อยๆ  ยูชอนมักจะถูกฝากเอาไว้กับครอบครัวแถวๆบ้าน แต่นานๆเข้ายูชอนก็เริ่มสนุกกับการใช้ชีวิตอยู่คนเดียว

       

         ซีดีซีรี่ย์มากมายถูกเปิดดูจนหมด  น้ำตาของยูชอนไหลออกมาไม่ขาดสายเมื่อทราบซึ้งกับหนังรักเรื่องล่าสุดที่ดูไป  ยูชอนปาดน้ำตาออกจากใบหน้าจนช้ำไปทั้งตา

       

         แต่แล้วเสียงออดก็ดังขึ้นเรียกสติให้เด็กประถมตัวน้อยวิ่งไปเปิดประตูรับแขก   เป็นจุนซูเด็กข้างบ้านที่เขามักจะถูกฝากไว้ด้วยนั่นเอง

       

         ทันทีที่จุนซูเห็นหน้าของยูชอนเต็มไปด้วยคราบน้ำตาก็เข้าสวมกอดทันที  มือน้อยๆเอื้อมลูบหัวลูบหลังอีกคนเลียนแบบเหมือนกับเวลาที่เขาร้องไห้แล้วมีคุณแท่คอยปลอบ

       

         ยูชอนเป็นอะไรไปหรอ  โอ๋ ไม่เอาไม่ร้องน้า  ยูชอนได้แต่ยืนอึ่งอยู่กับที่  หัวใจดวงน้อยเต้นแรงกระหน่ำเมื่อถูกสวมกอดจากผู้ที่ไม่คุ้นเคย  แต่ความคิดอันเกินเด็กของเขาทำให้คิดถึงฉากรักในหนังที่เพิ่งดูไป  หัวใจเต้นแรง..............หรือว่านี่จะเป็นความรัก?

       

        ยูชอนดันตัวออกจากอ้อมกอดของคนตัวเล็กกว่าพลางมองอย่างสำรวจ  ดูๆไปหมอนี่ก็น่ารักแหะ  ก่อนหน้านี้ไม่เคยสังเกตุมาก่อนเลย

       

         จุนซู..... ยูชอนได้แต่เอ่ยออกมาอย่างเลื่อนลอยเมื่อตกอยู่ในภวังค์แห่งรัก  ฝ่ายจุนซูก็เข้าใจผิดคิดว่ายูชอนยังคงเศร้าเพราะดวงตาที่เลื่อนลอยดูไม่มีสติอยู่กับเนื้อกับตัวนั่น

       

         ยูชอนไม่ต้องร้องแล้วนะ  อ่ะนี่จุนซูให้ แม่ของจุนซูเป็นคนทำให้เองเลยนะ จุนซูถอดเอาสร้อยลูกปัดออกจากข้อมือของตนเอง ก่อนจะยื่นให้อีกคน พลางส่งยิ้มหวานให้

       

         และตั้งแต่ตอนนั้นความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ  จากที่เคยเป็นแค่เด็กขข้างบ้านก็กลายมาเป็นเพื่อนสนิท  และสุดท้ายก็กลายมาเป็นคนรัก

        

         ยูชอนวางสร้อยลูกปัดลงก่อนที่จะหยิบขจองชิ้นสุดท้ายจากกล่องขึ้นมา  แต่ยังไม่ทันที่จะได้เปิดดู ก็รู้สึกได้ถึงมือเล็กๆที่เอื้อมมาปิดดวงตาของเขาจากทางด้านหลัง

       

         ทายซิใครเอ่ย  เสียงแหบหวานเป็นเอกลักษณ์เอ่ยขึ้นอย่างน่ารัก  ยูชอนหยิบเอามือเล็กออกจากดวงตาของตนอย่างง่ายดาย ก่อนที่จะฉุดเอาคนตัวเล็กขึ้นมาอยู่บนหน้าตัก

       

         ก็คนที่น่ารักที่สุดในโลกไง ยูชอนตอบอย่างเอาใจพลางหอมไล่หอมแก้มซ้ายขวาคนตัวเล็กที่นั่งหัวเราะคิกคักอยู่บนตัก  จุนซูได้แต่ทุบคนขี้แกล้งแก้เขิน

       

         ยูชอนทำอะไรอยู่เนี่ย จัดของหรอ  คนตัวเล็กมองซ้ายมองขวา สำรวจไปทั่วอย่างสนอกสนใจ  ก่อนที่มือเล็กจะหยิบเอาของชิ้นสุดท้ายที่วางอยู่ภายในกล่องสีครีมขึ้นมา

       

         คนตัวเล็กจามออกมาเสียงดังเพราะว่าไรฝุ่นที่เกาะอยู่  ยูชอนจึงหยิบเอาของไปถือซะเอง  อัลบั้มรูปเล่มหนาที่ไม่ได้ดูมานานค่อยๆถูกเปิดทีละหน้า

       

         จุนซูเอนหลังไปวบกับอกของยูชอนไปพลางมองอัลบั้มรูปที่ถูกเปิดไปเรื่อยๆด้วย   ความทรงจำมากมายที่ไม่ได้นึกถึงมานานถูกรื้อฟื้นไปพร้อมๆกัน  เสียงหัวเราะดังขึ้นเป็นพักๆเมื่อเจอรูปที่ชวนขำ

       

         สุดท้ายแล้วร่างสองร่างก็ช่วยกันเก็บของทั้งหมดเข้าที่ให้เรียบร้อย   เมื่อรู้สึกตัวอีกทีก็เป็นเวลาหัวค่ำแล้ว  เสียงท้องร้องของคนทั้งคู่ดังแข่งกันไม่ขาดสาย

       

         ออกไปกินข้างนอกกันนะ ยูชอน ร่างเล็กเอ่ยออดอ้อนคนตัวโตพลางทำตาปริบๆอย่างน่ารัก  เรียกรอยยิ้มหมันไส้จากอีกคนได้เป็นอย่างดี

       

         ขาสองคู่ก้าวเดินออกไปจากห้องที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นบ้านของพวกเขา  เวลาที่ไม่หยุดนิ่งทำให้เกิดเหตุการณ์มากมายที่ผ่านมาและผ่านไป กลายเป็นความทรงจำครั้งใหม่ที่จะถูกเก็บเพิ่มไว้ในลิ้นชักแห่งความทรงจำ


      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×