คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : รวี
เอกสารวางลงที่มุมโต๊ะ ชายหนุ่มยกข้อมือขึ้นมาดูเวลา ริมฝีปากได้รูปบนใบหน้าหมดจดระบายยิ้ม ก่อนจะคว้ามือถือและกุญแจรถเดินออกจากห้องทำงานประจำตำแหน่ง
"คุณจ๋า วันนี้ผมลางานครึ่งวันนะครับ งานด่วนบนโต๊ะผมเคลียร์เรียบร้อยแล้ว ส่วนที่เหลือของวันนี้ผมฝากคุณจัดการด้วย แต่ถ้ามีเรื่องด่วนก็ติดต่อผมได้เลยไม่ต้องรอ"
จบประโยคชายหนุ่มก็ทำราวกับจะวิ่งไปโดยไม่ทันได้ฟังคำตอบรับของหญิงสาวเสียอย่างนั้น แต่แล้วก็หันกลับมาหาเลขาหน้าห้องอีกครั้งจนได้
"แต่ถ้าไม่มีเรื่องด่วนอะไรตลอดทั้งบ่ายนี้ก็จะดีมากครับ"
ชายหนุ่มยิ้ม นั่นทำให้เลขาหน้าห้องถึงกับแปลกใจ
"เอ่อ ดะ ได้ค่ะท่าน" เธอตอบอย่างติด ๆ ขัด ๆ เล็กน้อย ก่อนที่หน้าเลขาสาวลูกสองจะร้อนเห่อขึ้นไปอีกเมื่อได้รับรอยยิ้มกว้างและคำขอบคุณจากรองประธานบริษัท
"ขอบคุณครับ"
เพียงเท่านั้นชายหนุ่มที่ปกติมีมาดสุขุมภูมิฐานก็แทบจะวิ่งลงจากตึกที่สูงกว่าสามสิบชั้นแทนการใช้ลิฟท์เพื่อไปยังรถที่เขาเลือกที่จะขับมาเอง ไม่ใช่นั่งรถที่มีคนขับให้เหมือนทุกวัน
"มีอะไรเฮีย"
เพียงแค่เขาบึ่งรถออกจากบริษัทได้ไม่นานสายเรียกเข้าที่คุ้นเคยก็โทรเข้ามาแทบจะทันที
'นั่นแกจะรีบไปไหนวี'
รถหรูจอดเทียบหน้าร้านขายดอกไม้ที่เขาโทรมาสั่งด้วยตัวเองเมื่อเช้า ไม่ได้สนใจจะตอบคนในสายให้หายข้องใจไปมากกว่าช่อดอกไม้ในมือ
"ขอบคุณครับ"ชายหนุมเอ่ยกับเจ้าของร้านและจ่ายเงิน
'เฮ้ นี่แกฟังฉันอยู่มั้ยวะเนี่ย'
พอปลายสายเริ่มที่จะโวยวาย เขาก็เดินเข้ามาในรถพอดี ก่อนจะบรรจงวางช่อดอกกุหลาบสีขาวที่ใครบางคนชอบอย่างเบามือไว้ข้าง ๆ เบาะคนขับ
"ใจเย็นสิเฮีย ผมก็ฟังอยู่เนี่ย"
'ฟังบ้าอะไร ถามไปก็ไม่ตอบ แล้วนั่นแกซื้อดอกไม้ไปให้ใคร'
คำถามถูกยิงรัวเร็วพอ ๆ กับรถที่กำลังหักเลี้ยวออกจากหน้าร้านดอกไม้ และพุ่งตรงไปสนามบินด้วยความเร็ว
"เฮียลืมไปแล้วเหรอว่าวันนี้วันอะไร"
เสียงปลายสายเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบน้องชายกลับมาด้วยน้ำเสียงที่ทำให้คนฟังต้องกลอกตามองบน
'วันพุธ ทำไม มีอะไร เฮ้ยแกช่วยตอบให้ตรงคำถามหน่อยได้มั้ยวะไอ้วี'
นั่นจึงทำให้คนที่ขับรถด้วยความเร็วที่มากกว่าปกติโดยนิสัยต้องถอนหายใจระอา
"วันนี้น้องศิกลับไทยไงเฮีย"
พอตอบคำถามพี่ชายจบ ปลายสายก็ร้องอ๋อเสียเสียงยาว
'อ๋ออออออ มิน่า แกถึงได้วิ่งเหมือนจะรีบไปตามเมียที่ไหน ผิดวิสัยคุณรวี รองประธานบริษัทผู้หล่อเท่สุขุมสุภาพจนพนักงานทั้งบริษัทแตกตื่น'
เสียงแซวจากพี่ชายไม่ได้ทำให้รวีหัวเสีย แต่มันกลับทำให้รอยยิ้มของชายหนุ่มที่กว้างอยู่แล้ว กว้างขึ้นไปอีก
"เฮียก็พูดเกินไป"
'วะ! ไม่ปฏิเสธซะด้วย สรุปแกเอาจริงเหรอวะ เรื่องน้องศิน่ะ'
รถสปอร์ตราคาหลายสิบล้านหักเลี้ยวเข้าจอดในพื้นที่สำหรับจอดรถ ก่อนจะสำรวจตัวเองอีกครั้งราวกับจะหาข้อผิดพลาด
"ผมชอบน้องมาตั้งนานแล้ว เฮียก็รู้"
'แต่น้องก็ไปอยู่เมืองนอกนานแล้วนะ แกแน่ใจเหรอว่าน้องศิของแกจะไม่มีแฟนเป็นฝรั่งไปซะก่อน'
"ทำไมเฮียพูดหมา ๆ แบบนี้วะ"
'อ้าว ไอ้วี กูพี่มึงนะ'
รวีถอนหายใจก่อนจะตอบพี่ชายกลับด้วยเสียงที่ไร้ความกังวลใด
"ผมคุยกับน้องทุกอาทิตย์ น้องไม่มีใครหรอก ถ้ามีป่านนี้ผมรู้แล้ว อีกอย่างเราก็สัญญากันไว้แล้วว่าจะแต่งงานกัน"
'เฮ้ย ตอนไหนวะ ทำไมเฮียไม่เห็นรู้ อย่าว่าแต่แต่งเลย พวกแกไปเป็นแฟนกันตอนไหนก่อน คนอย่างฉันเนี่ยนะจะตกข่าว'
รวีมองดอกไม้แล้วยิ้มบาง ๆ ภาพในอดีตเมื่อครั้งเป็นเด็กผุดขึ้นมาในความทรงจำ
"ยังไม่ได้เป็นแฟน โอ้ย! ขี้เกียจคุยกับเฮียว่ะ แค่นี้แหละ ผมจะรีบลงไปรับน้อง"
'เดี๋ยว ๆ น้องถึงแล้วเหรอ'
รวียกนาฬิกาขึ้นดูเวลาก่อนจะตอบพี่ชาย "ยัง อีกสามชั่วโมง"
'อีกสามชั่วโมง โอยน้องกู ไม่ค่อยจะตื่นเต้นเล้ย'
ชายหนุ่มผู้ถูกพี่ซักถามตั้งแต่ขับรถออกมาจากบริษัทจนถึงสนามบินก็อดที่จะยิ้มไม่ได้
"ว่าแต่เฮียเถอะ นี่มันเวลางานนะ ไม่ทำงานเหรอถึงได้มีเวลามาใส่ใจเรื่องของผมเนี่ย"
'นี่แกหาว่าพี่ชายเสือกเหรอไอ้วี เดี่ยวเถอะมึง แกเองก็เอาเวลางานมาตามหาเมียในอนาคตเหมือนกันนั่นแหละ'
และคำคาดโทษนั้นก็ทำให้รองประธานบริษัทผลิตชิ้นส่วนรถยนต์และนำเข้ารถยนต์ซุปเปอร์คาร์หัวเราะอออกมาทันที
"อะไร ผมลางานแล้วครับท่านประธาน"
'ใบลาอยู่ไหน ฉันยังไม่ได้เซ็นอนุมัติ'
รวีหัวเราะให้พี่ชายที่ชอบแหย่
'แล้วใครไปรับน้องบ้างล่ะ ไม่ใช่ว่ามีแต่แกหรอกนะที่เสนอหน้าไปรับน้องก่อนใคร'
พอพี่ชายถาม รวีก็อดไม่ได้ที่จะยิ้ม "ก็ครอบครัวน้องนั่นแหละ"
'ครอบครัวน้อง งั้นน้องรันก็ไปด้วยเหรอวะ' มือที่จับผมอยู่ชะงักไป ก่อนจะเซ็ตผมให้เข้าที่เข้าทางต่อ
"อืม เห็นคุณอาว่าก็ชวนอยู่" รวีหันไปมองที่ช่อดอกไม้ก่อนจะเอ่ยต่อ "แต่ถ้าไม่มาก็จะดีมาก บรรยากาศจะได้ไม่เสีย แต่ก็นะ คนแบบนั้นก็คงไม่มาหรอก ก็เป็นคนประเภทที่ไม่สนใจใครอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ"
เพียงเท่านั้นปลายสายก็ได้ถอนหายใจยาว ๆ มาให้เขาได้ยิน
'เฮ้ออออ แกเป็นอะไรของแกวะ พอพูดถึงน้องรันหน่อยแกก็น้ำเสียงเน่าเหม็นตลอด ไม่เห็นเหมือนตอนที่แกพูดถึงน้องชายเค้าเลย เกลียดอะไรเค้านักวะ'
"ผมไม่ได้เกลียด" รวีตอบแม้จะไม่เต็มเสียงนัก "ผมแค่ไม่ชอบ"
แล้วภาพในอดีตก็วนเข้ามาในความคิดชายหนุ่มอีกครั้ง
ความคิดเห็น