ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    แย่แล้ว .. เผลอหลงรักคุณดาวเสาร์ (Yuri) - End

    ลำดับตอนที่ #20 : ดาวลูกไก่ของพี่หมอ | Rewrite

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 948
      110
      25 ก.ค. 62

     


    ร่างสูงในชุดเสื้อยืดตัวโคร่งสีขาวสวมทับเสื้อคลุมตัวยาวกับกางเกงวอร์มสีเทา แม้แต่ในความมืดสลัวที่มีเพียงแสงจากหลอดไฟสีส้มตามทางเดิน รอยยิ้มของพี่หมอกลับสว่างชัดเจน
    เสียงนกร้องตอนกลางคืนดังมาให้ได้ยินเป็นครั้งคราว ฉันยืนอยู่หน้าบ้านรอใครบางคน ใครบางคนที่เริ่มปรากฏกายให้เห็นชัดขึ้นเรื่อยๆตามทางลาดชันขึ้นมา
    “ทำไมไม่ใส่เสื้อคลุมออกมา ไม่หนาวหรือไง”
    “ไม่หนาวหรอก หนูชินแล้ว”
    ฉันไม่ได้ชินอะไรทั้งนั้น ความตื่นเต้นที่จะได้ไปนั่งดูดาวกับหมอทำให้ฉันรีบพาตัวเองออกมาจากห้องจนลืมไปเลยว่าอากาศในเวลานี้หนาวขนาดไหน เสื้อคลุมที่พี่หมอใส่อยู่คงอุ่นน่าดู
    เจ้าตัวอมยิ้มน้อยๆก่อนจะคว้ามือของฉันไปกุมไว้แล้วพาเดินไปตามทาง ฉันคงไม่มีวันชินกับสัมผัสของหมอ ครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ที่หมอจับมือฉัน ถ้าหากหมอช่างสังเกตสักหน่อย หมอคงได้เห็นอาการประหม่าของฉัน เหงื่อชื้นที่มือหรือแม้กระทั่งแรงสั่นไหวบางอย่าง
    เราต้องเดินผ่านบ้านพักของนักท่องเที่ยว หนึ่งในนั้นคือบ้านของกลุ่มลูกค้าผู้ชายที่แซวฉันเมื่อตอนเย็น ดูเหมือนกำลังตั้งวงสังสรรค์กันอยู่ รีสอร์ทของเราไม่มีกฎห้าม แค่ไม่ทำเสียงดัง หรือทิ้งขยะเรี่ยราดก็พอแล้ว 
    หนึ่งในนั้นที่เคยเดินมาคุยกับฉันเห็นเข้า ก็รีบลุกออกจากวงมาหยุดอยู่ตรงทางเดิน ใบหน้าขึ้นสีแดงคงเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ 
    “น้องเอย ยังไม่นอนเหรอครับ”
    ฉันสัมผัสได้ว่ามือของหมอที่จับฉันไว้กระชับแน่นขึ้น ดึงให้ฉันเข้ามาอยู่ใกล้ๆ ลอบมองสีหน้าเรียบนิ่งของหมอที่ดูไม่สบอารมณ์กับอะไรบางอย่าง ได้ยินเสียงผ่อนลมหายใจแรงจากคนข้างตัว 

    “นอนดึกจังเลย แล้วจะไปไหนกันเหรอครับ” 
    “ขอตัวก่อนนะคะ” 
    พี่หมอเป็นคนตอบ แล้วเจ้าตัวก็ออกแรงดึงฉันไปตามทางทันที น้ำเสียงเรียบนิ่ง ออกจะฉุนเฉียวเล็กน้อย ฉันว่าฉันไมได้คิดไปเองด้วย 
    เรามานั่งกันที่ม้านั่งตัวเดิมเหมือนเมื่อเช้า ถ้าจะมีอะไรต่างออกไปก็คงเป็นท้องฟ้ากับอารมณ์พี่หมอตอนนี้

    “กลุ่มนั้นเขาค้างกันกี่วัน” 
    “หนูจำไม่ได้” 
    น้ำเสียงพี่หมอที่ตอบฉัน ห้วนแบบที่ฉันไม่ได้ยินบ่อยนัก 

    “พี่ไม่ชอบ น้องเอยไม่ต้องไปเข้าใกล้นะ ถ้าเขาเรียกก็ให้คนอื่นไปดูแทน” 
    “เขาก็แค่เดินเข้ามาถามเอง หนูว่าพี่หมอคิดมากเกินไปนะ”
    “น้องเอยไม่เห็นที่เขามองน้องเอยเหรอ”
    “เห็น แล้วก็ไม่เข้าใจด้วยว่าพี่หมอจะโกรธทำไม เขาก็มองปกติ”
    “มันไม่ปกติ”
    “แล้วพี่หมอรู้ได้ยังไงว่ามันไม่ปกติ พี่หมอดูออกได้ยังไงว่าเขาคิดอะไรอยู่”
    เป็นเหมือนเมื่อตอนเย็นอีกแล้ว แต่ตอนนั้นฉันเข้าใจได้ การแต่งตัวของฉันมันดูล่อตาโจรจริงๆ แต่ตอนนี้มันแทบไม่มีอะไรเลย ชุดนอนเป็ดน้อยปัญญาอ่อนสีเหลืองตามตลาดนัดมันดูเร้าใจตรงไหนถามจริง 
    “น้องเอย พี่ก็ชอบผู้หญิงนะ ทำไมพี่จะไม่รู้ว่าเวลาผู้ชายมองผู้หญิงแบบนี้ มันคิดอะไรอยู่”
    ประโยคสวนกลับรัวเร็วของหมอทำเอาฉันไปไม่เป็น ไม่กล้ามองหน้าหมอด้วย ฉันอยากดึงมือตัวเองออก เพราะมันเขินเกินกว่าจะให้หมอจับต่อได้แล้ว 
    ประโยคยอมรับที่มาพร้อมกับอารมณ์หงุดหงิดของหมอ ทำไมอาณุภาพของมันถึงรุนแรงนักก็ไม่รู้ ใจฉันเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะอีกครั้ง 
    มันใกล้เคียงกับคำว่าหึง แต่ฉันรู้ดีว่ามันไม่ใช่ พี่หมอก็แค่เป็นห่วงในฐานะน้องสาวคนหนึ่ง แต่แค่นั้นฉันก็รู้สึกดีมากเกินพอแล้ว 

    “พี่รู้นะว่ามันไม่ใช่ธุระของพี่ แล้วน้องเอยก็โตมากพอแล้วที่จะคิดชอบหรือรักใครสักคน แต่พี่อยากให้น้องเอยได้เจอคนดีดี คนที่เขาจะดูแลน้องเอยได้ ไม่ใช่เห็นครั้งแรกก็มองเหมือนอยากจะ..” 
    พี่หมอยั้งคำสุดท้ายไว้ได้ทัน เจ้าตัวพ่นลมหายใจออกมา เวลาหงุดหงิดก็ใช้ได้เหมือนกันนะหมอ 

    “เอาแบบนี้ไหม ถ้าหนูเกิดไปชอบใครขึ้นมา หนูจะมาถามพี่หมอก่อน ให้พี่หมอสแกนก่อน ถ้าพี่หมอไม่ชอบ หนูก็ไม่ชอบเหมือนกัน”
    พี่หมอชอบตัวเองไหม ถ้าคนแบบหนูไปชอบพี่หมอ พี่หมอจะยินดีไหม  
    “ไม่ต้องถึงขนาดนั้นหรอก พี่อาจจะคิดมากไปจริงๆ ไม่รู้ทำไมถึงหงุดหงิดขนาดนี้เหมือนกัน” 




    แต่ก็จะมีบางคนนะ บางคนที่พิเศษมากกว่าคนอื่น บางคนที่ปั้นใส่ใจ ดูแลมากกว่าทุกคน ข้อเสียของปั้นก็คือ .. ปั้นไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองเป็นแบบนี้



    ดวงดาวนับร้อยนับพันลอยเคว้งอยู่บนท้องฟ้ามืดสนิท ต่างแข่งกันส่องแสงพราวระยับอย่างกับภาพวาด หมอกำลังเพลิดเพลินกับดาวบนท้องฟ้าอยู่  ดูเหมือนเริ่มอารมณ์ดีขึ้นบ้างแล้ว 
    ฉันประสานมือตัวเองเข้าด้วยกัน ไม่รู้ว่าสั่นเพราะอากาศที่หนาวเย็นหรือเพราะอะไร 
    ฉันเห็นภาพนี้มาตั้งแต่เกิด ดาวไม่เคยสวยขนาดนี้มาก่อนเลย แอบลอบมองเสี้ยวหน้าของหมอที่กำลังแหงนมองดาวบนท้องฟ้า ไม่มีคำพูดใดระหว่างเรา มีเพียงลมเย็นพัดผ่าน และนั่นทำให้ฉันเริ่มรู้สึกหนาวขึ้นมานิดหน่อยแล้ว
    ไหล่ฉันห่อลงอัตโนมัติ รู้สึกเย็นจนต้องใช้สองมือโอบตัวเองไว้ ออกแรงถูแขนเพื่อเรียกไออุ่น คนข้างตัวละสายตามามองฉันก่อนคลี่ยิ้มบาง

    “ไหนบอกว่าชินแล้วไง”
    “ก็คืนนี้มันหนาวกว่าทุกคืน” 
    จะว่าไป นี่มันเหมือนฉากในนิยายที่ฉันเคยอ่านเปี๊ยบเลย พระเอกมานั่งดูดาวกับนางเอก อากาศหนาวเย็นยะเยือก พระเอกถอดเสื้อคลุมของตัวเอง บรรจงคลุมเสื้อลงบนตัวนางเอก ส่งมอบรอยยิ้มแสนห่วงใย .. โรแมนติกสุดสุด

    ฉันออกแรงกระตุกชายเสื้อคลุมพี่หมอ จนเจ้าตัวต้องละสายตาจากดาวบนท้องฟ้าหันมามองฉันอีกครั้ง 
    “หนูหนาว”
    “ก็แล้วทำไมน้องเอยไม่ใส่เสื้อคลุมออกมาล่ะ” 
    หมอ พระเอกเขาจะไม่บ่นนางเอกแบบนี้นะ หมอเข้าบทผิดแล้ว ไม่เป็นไร ฉันจะให้โอกาสพี่หมออีกรอบ

    “หนูขอเสื้อหนาวพี่หมอได้ไหม” 
    ฉันออกแรงกระตุกชายเสื้อคลุมหมออีกครั้ง ส่งแววตาอ้อนวอน สายตาที่คิดว่าน่าสงสารที่สุดแล้ว 

    “ถ้าพี่ให้น้องเอยแล้วพี่จะใส่อะไรล่ะ พี่ไม่ให้หรอก พี่หนาว”
    จบข่าว ฉันสะบัดชายเสื้อคลุมหมอทิ้งทันที คนพิเศษอะไรของพี่หมอ ฉันไม่ใช่ทั้งนั้นล่ะ เจ้าตัวไม่ได้แค่พูดอย่างเดียว แต่ยังดึงเสื้อตัวเองมากอดแน่นอย่างกับกลัวว่าจะโดนฉันกระชากออกจากตัว 
    “ไม่เอาก็ได้ ไม่ได้หนาวขนาดนั้นสักหน่อย” 
    ฉันขยับตัวออกห่างหมอ นิสัยไม่ดี แล้วดูเอาแล้วกัน ฉันทำขนาดนี้แล้วหมอยังหัวเราะ หันกลับไปดูดาวหน้าตาเฉย ไม่นึกห่วงกันบ้างเลย ฉันไม่อยากมองหน้าหมอให้ต้องรู้สึกเสียหน้าเลยแหงนมองดาวบนท้องฟ้าบ้าง .. หนาวชะมัด 

    “น้องเอยรู้จักดาวอะไรบ้าง”
    “หนูรู้จักแค่ดาวเสาร์ เพราะว่ามันมีวงแหวน มันไม่เหมือนเพื่อนหนูเลยจำได้”
    “แปลกเนอะว่าไหม ที่ดาวเสาร์เป็นดาวดวงเดียวที่มีวงแหวนเป็นของตัวเอง ดวงอื่นคงอิจฉาน่าดู” 

    ดาวเสาร์ .. 
    ดาวดวงเดียวที่ฉันจำได้แม้เห็นเพียงแค่ครั้งเดียว ดาวดวงเดียวที่โดดเด่นท่ามกลางดาวดวงอื่น ท่ามกลางดาวนับล้านดวงที่ฉันเห็นอยู่ตอนนี้ จะมีดาวเสาร์รวมอยู่บนนั้นไหมนะ 

    “แล้วพี่หมอรู้จักดาวอะไรบ้าง”
    “ดาวลูกไก่” 
    “อันนั้นหนูก็รู้จัก มันจะอยู่กันเป็นกลุ่มๆใช่ไหม” 
    “นู่นไง”
    พี่หมอชี้ให้ฉันดูกลุ่มดาวลูกไก่ กลุ่มดาวที่เรียงร้อยอยู่ใกล้กัน ไม่รู้ว่าพี่หมอรู้จริงหรือชี้มั่วไปเรื่อย แต่ยังไงฉันก็ยังเชื่อหมออยู่ดี 

    สิบห้าปีที่หมอหายไปจากชีวิตฉัน สิบห้าปีที่ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีคนที่อบอุ่นขนาดนี้อยู่บนโลก แล้ววันนี้เขาก็กลับมา ใช้เวลาเพียงแค่เดือนกว่าๆทำให้ฉันได้รู้สึกถึงสายใยบางๆระหว่างเรา ทำให้ฉันได้สัมผัสถึงความอบอุ่นที่ฉันเคยได้รับ 
    เหมือนกับดาวเสาร์ที่ฉันเคยได้เห็นในครั้งแรก หลงลืมมันไป จนกระทั่งดาวเสาร์ดวงนั้นโคจรกลับมาหาอีกครั้ง 
    ใครคนนั้นกำลังจะพาดาวเสาร์ของฉันกลับไปอีกแล้ว 

    “พี่หมอรู้ไหมว่า พี่หมอเหมือนดาวเสาร์” 
    ถ้าคนข้างตัวจะต้องกลับไปในสักวัน อย่างน้อยเขาควรได้รู้ ถ้าหมอไม่รู้ตัวว่าตัวเองน่ารัก อบอุ่นขนาดไหน ฉันจะเป็นคนบอกเอง  .. เจ้าตัวละสายตาหันมามองฉัน ส่งรอยยิ้มกว้าง กอดอกเอียงคอเล็กน้อย รอคำอธิบายเพิ่มจากฉัน
    ฉันไม่กล้ามองหน้าหมอตรงตรง เลยแสร้งทำเป็นแหงนมองดาวบนท้องฟ้าแทน ถึงอย่างนั้น หางตาฉันก็ยังคงเพ่งความสนใจอยู่ที่หมอ คนที่กำลังมองฉันอยู่ตอนนี้ 

    “พี่หมอไม่เหมือนคนอื่น พี่หมออบอุ่น อยู่ใกล้ใครก็ชอบดูแลคนนั้น ไปที่ไหนก็มีแต่คนรัก มีแต่คนอยากอยู่ใกล้ ..เป็นเหมือนดาวเสาร์ที่มีวงแหวนรายล้อม..”

    พี่หมอฉีกยิ้มกว้าง ยังคงมองฉันอยู่ ให้ตายสิ พูดออกไปแล้ว ฉันพูดมันออกไปแล้ว มันไม่เหมือนประโยคสารภาพรักหรอกใช่ไหม จนถึงตอนนี้ฉันก็ยังไม่กล้าหันกลับมามองหน้าหมอ ชักจะเริ่มเมื่อยคอแล้วด้วยสิ 
    “พี่ไม่อยากเป็นดาวเสาร์หรอก พี่ให้น้องเอยเป็นดาวเสาร์ แล้วพี่เป็นวงแหวนดีกว่า” 
    “คนอะไรอยากเป็นวงแหวน”
    ฉันไม่รู้ว่าหมอกำลังจะสื่ออะไร ความลืมตัวทำให้ฉันหันมามองหน้าหมอที่กำลังยิ้มให้ฉัน มองตาฉันอยู่ 
    แล้วพระเอกก็ทำหน้าที่ของพระเอกเสียที พี่หมอถอดเสื้อคลุมตัวเองออก ก่อนจะค่อยค่อยคลุมลงบนตัวฉัน มอบอ้อมกอดแม้เพียงเสี้ยววินาทีก่อนผละออก 

    “จะได้ดูแลดาวเสาร์ได้ไง” 
    พี่หมอ ..

    กลิ่นหอมประหลาดลอยฟุ้งออกมาจากเสื้อคลุมของหมอ คล้ายกับหมอกอดฉันไว้อยู่ ความหนาวเย็นก่อนหน้านี้หายไปทันที แทนที่ด้วยความอบอุ่นที่คงไม่มีเสื้อตัวไหนในโลกทำได้มากขนาดนี้

    “อ้าว ดาวลูกไก่ของพี่หายไปไหนแล้ว”  เสียงทุ้มงอแงเล็กน้อยเมื่อเงยหน้าขึ้นไปแล้วไม่เห็นดาวที่ตัวเองเคยมองอยู่ ท่าทางที่เหมือนเด็กน้อยนั้นน่ารักจนฉันเผลอหัวเราะออกมา
    “สงสัยแม่มันมาตามกลับบ้านไปแล้วมั้ง” 
    พี่หมอหัวเราะตาม เจ้าตัวกอดอกแน่น ออกแรงถูแขนเหมือนกับที่ฉันทำก่อนหน้านี้ คงหนาวเหมือนกันล่ะสิ ฉันขยับตัวเข้าไปใกล้หมอเหมือนครั้งแรก อยู่ใกล้ใกล้กัน จะได้อุ่นขึ้นไง ไม่ได้คิดอะไรเลยนะ ไม่ได้อยากอยู่ใกล้เลยจริงๆ 
    ลมเย็นที่พัดผ่านอีกระลอกทำให้ฉันชักรู้สึกเริ่มง่วงขึ้นมาบ้างแล้ว เผลอหาวออกมาจนรีบยกมือปิดปาก แต่ก็ไม่พ้นสายตาจากคนข้างตัว 

    “ง่วงแล้วเหรอน้องเอย”
    “นิดหน่อย”
    “ถ้าคืนไหนนอนไม่หลับอีก เรามานั่งดูดาวแบบนี้กันดีไหม” 
    “ทำไมต้องรอให้นอนไม่หลับแล้วค่อยมาดูด้วย เรามาดูด้วยกันทุกคืนไม่ได้เหรอ” 
    เจ้าตัวดูชะงักไปเล็กน้อย เอียงคอหันหน้าไปอีกด้าน หรือว่าหมอแอบหันไปยิ้มคนเดียวอีกแล้ว หมออย่าทำแบบนี้บ่อยบ่อยได้ไหม คนที่มันชอบคิดเข้าข้างตัวเองเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว มันจะกู่ไม่กลับเอานะหมอ

    “ทำไมวันนี้พูดอะไรน่ารักจัง”  
    หมอ ฉัน .. เจอรอยยิ้ม เจอสายตาของหมอแบบนี้เข้าไป ทำไมถึงเริ่มร้อนวูบวาบ ก่อนหน้านี้ยังหนาวอยู่เลยนี่นา 
    “ถ้าอย่างนั้น พรุ่งนี้เรามาดูดาวด้วยกันอีกนะ” 
    ฉันยังเขินอยู่ พูดไม่ออก เลยพยักหน้าตอบรับคำชวนนั้น หมอเห็นแบบนั้นก็ยิ้มกว้างดีใจ ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ก่อนจะยื่นมือออกมาหาฉัน มือที่ฉันเริ่มติดใจ อยากจับไปตลอด ไม่อยากปล่อย .. ไม่อยากให้ใครได้จับด้วย 
    มือของหมอกำลังกุมมือฉันไว้ ส่วนอีกข้างที่ว่าง หมอเอื้อมไปจับหมวกฮูดของเสื้อคลุมขึ้นปิดหัวของฉันพร้อมยิ้มละมุน 
    “กลางคืนน้ำค้างมันเยอะ ปิดเอาไว้ .. เดี๋ยวจะไม่สบายเอา” 
    เคยมีพระเอกเรื่องไหนทำกับนางเอกแบบนี้ไหม เคยมีนางเอกคนไหนถูกพระเอกดูแลขนาดนี้ไหม 
    ฉันเผลอเงยหน้าสบตาหมอ สบตากับคนที่อบอุ่นที่สุดในโลก ฉันทำได้แค่คิดในใจ ใช้สายตาของตัวเองคุยกับหมอ บอกกับหมอ อ้อนวอนหมอ
    ไม่ไปได้ไหม .. อยู่กับฉันแบบนี้ไปตลอดได้ไหม 

    “น้องเอย มีอะไรหรือเปล่า”
    “พี่หมอไม่ไปได้ไหม อย่าไปเลยนะ” 
    “หืมม พี่จะไปไหน”

    “มะ ไม่มีอะไร กลับกันเถอะ หนูง่วงแล้ว”
    ราวกับตกอยู่ในภวังค์ไปชั่วขณะ ฉันออกแรงจูงหมอให้เดินไปตามทาง สภาวะจิตใจไม่ค่อยคงที่ ขอเดินนำหน้าดีกว่า 

    “พี่ขอเสื้อคลุมคืนได้ไหม เริ่มหนาวแล้ว”
    “ไม่ได้ จะบ้าเหรอ ให้แล้วให้เลยสิ” 
    “ก็มันหนาว ถ้าอย่างนั้น แบ่งกันใส่ไหม คนละสองนาที” 
    “ตลกและ” 

    ฉันชอบคืนนี้ คงเพราะคนข้างตัว เปลี่ยนโลกทั้งใบของฉันยังไม่พอ ยังเปลี่ยนดาวทั้งท้องฟ้าให้สวยยิ่งกว่าเดิม เราเดินกลับขึ้นมาตามทาง ไม่รู้ทำไมถึงอยากให้ทางเดินยาวกว่านี้ น่าเสียดายที่อีกไม่กี่ก้าว เราก็ต้องแยกกันแล้ว 

    “กลับขึ้นไปบนห้องแล้วต้องนอนเลยนะรู้ไหม มันดึกแล้ว”
    “พี่หมอก็เหมือนกัน ห้ามเล่นเกมส์ต่อนะ” 
    ฉันชี้นิ้ว แสร้งทำเสียงดุใส่หมอ สงสัยฉันจะพูดความจริงออกไป เพราะหมอหัวเราะใหญ่เลย 
    “ไม่เล่นแล้วก็ได้ เดี๋ยวมีคนดุ” 
    พี่หมอกำลังปล่อยมือจากฉัน มือที่แสนอบอุ่นนี้ เสียงทุ้มละมุนเอ่ยประโยคสุดท้ายกับฉัน ประโยคสุดท้ายในค่ำคืนนี้ 
    “ฝันดีนะน้องเอย” 



    “ปั้น” 


    คำอวยพรของฉันที่กำลังจะเปล่งออกมา มีอันต้องกลืนมันลงไป เราทั้งคู่หันมองตามเสียง แฟนเก่าของหมอมายืนอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ หญิงสาวเดินเข้ามาใกล้ ออกแรงดึงพี่หมอออกห่าง สองมือคล้องแขนพี่หมอไว้ 
    รู้สึกหายใจไม่ออกอีกแล้ว 

    “เรานึกว่าปั้นยังนั่งอ่านหนังสืออยู่ พอเดินออกมาไม่เจอ เราเลยออกมาดูข้างนอก .. ไปไหนกันมาเหรอ”
    พี่หมอมองฉันสลับกับที่มองคนข้างตัว พี่หมอเป็นคนที่ตอบออกไป

    “ไปนั่งดูดาวกัน พอดีน้องเอยนอนไม่หลับ เราก็นอนไม่หลับ”
    “แล้วทำไมถึงไม่ชวนครีมออกมาด้วย” 
    “เรานึกว่าครีมหลับไปแล้ว” 
    หญิงสาวมองมาที่ฉัน ดวงตาเรียวรีคู่นั้นไล่สำรวจฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนที่แววตาคู่นั้นจะวูบไหว และฉันเองก็เพิ่งรู้ตัวว่าเสื้อคลุมของหมอกำลังคลุมตัวฉันอยู่ 
    เพราะสิ่งนี้หรือเปล่า 
    “ครีมว่าครีมเปลี่ยนใจแล้ว ครีมจะอยู่ต่ออีกวันหนึ่ง”
    “อ้าว แล้วงานที่โรงพยาบาลล่ะ”
    “ครีมสลับเวรกับเพื่อนแล้ว ขึ้นมาถึงบนนี้แท้แท้ แต่ครีมยังไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลย”
    “แต่พรุ่งนี้เราก็ไม่ว่างอยู่ดีนะ”
    “น้องเอยไง .. ปั้นก็ไปทำงาน เดี๋ยวครีมให้น้องเอยพาเที่ยวก็ได้ .. ดีไหมน้องเอย” 

    ฉันควรต้องตอบว่าอะไรดี พี่หมอมองมาที่ฉัน ท่าทางที่ดูลำบากใจ ดูกังวลเหลือเกิน

    “ได้ค่ะ เดี๋ยวหนูพาพี่ครีมเที่ยวก็ได้” 
    “น่ารักจัง” 

    ฉันไม่อยากให้พี่หมอไม่สบายใจ ก็แค่อีกวันเดียวเอง แค่พาไปเที่ยว คงไม่มีอะไรหรอก แฟนเก่าพี่หมอเริ่มอ้อนให้พี่หมอพาเดินกลับบ้านเพราะอากาศข้างนอกที่เริ่มหนาว ฉันกระชับเสื้อคลุมแน่น กลัวว่าพี่หมอจะขอเสื้อคืน แล้วคลุมให้กับอีกคน 
    แววตาสุดท้ายของหมอเดายากเหลือเกิน พี่หมอจะดูออกไหมว่าแฟนเก่าพี่หมอคิดอะไรอยู่  

    พี่หมอเดินกลับไปแล้ว ..  ทิ้งเพียงเสื้อคลุมของตัวเองไว้กับฉัน หลักฐานชิ้นเดียวที่ทำให้รู้ว่าฉันไม่ได้ฝันไป 





    อุ่นดีจัง 
    ทำไมเตียงของฉันวันนี้ถึงได้อุ่นนัก หมอนข้างของฉันก็ดูนุ่มกว่าปกติ แถมยังอุ่นเหมือนมีไอร้อนแผ่ออกมา 
    สัมผัสประหลาดไม่คุ้นชิน ทำให้ฉันต้องจำยอมเปิดเปลือกตาอย่างเลือกไม่ได้ วงแขนที่ฉันวาดออกไปกอดไว้ สัมผัสจากหมอนข้างที่ไม่เหมือนทุกครั้ง 

    “พี่หมอ”
    “ตกใจอะไรขนาดนั้น” 

    ฉัน ฉันฝันไปเหรอ ฉันยังไม่ตื่นใช่ไหม แต่ทำไมมันถึงเหมือนจริงขนาดนี้ ฉันขยับตัวออกห่างหมอทันที พี่หมอมานั่งพิงอยู่ตรงหัวเตียงฉันได้ยังไง ขายาวๆที่พาดออกขนาบกับฉัน เจ้าตัวฉีกยิ้มกว้าง กอดอกนิ่งมองฉัน 
    ฉันยังช็อคอยู่ 

    “ทีแบบนี้มาทำเป็นตกใจ ก่อนหน้านี้เห็นกอดซะแน่น” 
    “พะ พี่หมอมานั่งในห้องหนูตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วมาได้ยังไง แล้วเข้ามาทำไม มีอะไร” 
    ฉันดึงผ้าห่มขึ้นปิดจนมิดคอ ก็จะไม่ให้ปิดได้ยังไงเล่า ฉันใส่แค่เสื้อนอนตัวเดียว แล้วก่อนหน้านี้ที่ฉันเข้าใจว่าเป็นหมอนข้างแล้วกอด หมอเห็นอะไรไหม โอ้ย 
    “เข้ามาได้สักพักแล้ว เดินเข้ามา ว่าจะเข้ามาคุยอะไรด้วยหน่อยก่อนไปทำงาน แต่เห็นน้องเอยกำลังนอนหลับสบายก็เลยไม่กล้าปลุก” 
    “จะคุยอะไร”
    พี่หมอหัวเราะร่วน คงขำกับท่าทางลอกแลกลนลานของฉัน โธ่หมอ .. เล่นจู่โจมกันถึงบนที่นอน แบบนี้ฉันก็ตายสิ 
    พี่หมอเริ่มหัวเราะเบาลงก่อนจะปรับน้ำเสียงให้จริงจังขึ้น ดวงตาคมดุมองมาที่ฉัน 
    “ที่ครีมขอให้น้องเอยพาไปเที่ยว น้องเอยโอเคหรือเปล่า” 
    “โอเคสิ ไม่เห็นเป็นอะไรเลย” ที่แท้ก็เป็นห่วงเรื่องนี้
    “พี่อธิบายเขาไปแล้วนะ แต่เหมือนเขาจะไม่ฟัง” 
    “เขาคิดว่าพี่หมอชอบหนูเหรอ”
    “เปล่า เขาคิดว่าน้องเอยชอบพี่” 

    พี่หมอ เขาไม่ได้มองผิดเลย เขามองถูกแล้ว 

    “ปกติเขาไม่เป็นแบบนี้นะ เขาเคยมีเหตุผลมากกว่านี้ พี่ไม่สบายใจเลย ไม่รู้ว่าเขาจะพูดหรือทำอะไรอีก .. พี่เป็นห่วงน้องเอย” 
    พี่หมอ ..

    “ไม่ต้องห่วงหรอก หนูเก่ง สบายมาก”
    “ถ้าน้องเอยไม่อยากทำ ไม่ต้องฝืนนะ เดี๋ยวพี่ไปคุยกับเขาเอง”
    “ถ้าพี่หมอไปคุย เขาก็ต้องคิดว่า หนูชอบพี่หมอจริงๆ ก็เลยไม่อยากอยู่ใกล้เขา ไปกันใหญ่อีก”  
    “แต่..”
    “ไม่มีอะไรหรอกพี่หมอ อีกอย่างหนึ่ง  หนูก็ไม่ได้ .. เอ่อ …. คิดกับพี่หมอแบบนั้น ดีซะอีก เขาจะได้หายเข้าใจผิดไง”
    ฉันจะผ่านวันนี้ไปได้ยังไงกัน ยังคิดไม่ออกเลย อยู่กับแฟนเก่าพี่หมอตามลำพังสองคน แค่ยืนล้างจานด้วยกันแค่ไม่ถึงชั่วโมงก็แทบแย่แล้ว  แต่ฉันไม่อยากทำให้หมอไม่สบายใจ พยายามฝืนปั้นยิ้มตัวเองออกมา 

    “ไปทำงานได้แล้วพี่หมอ สายแล้ว” 
    คนข้างตัวอาบน้ำใส่ชุดทำงานเรียบร้อย แววตาพี่หมอยังดูเป็นกังวลอยู่ มองฉัน เหมือนต้องการความแน่ใจว่าฉันไม่เป็นอะไรจริงๆ พี่หมอโน้มตัวมาใกล้ฉัน นั่นทำให้ฉันยิ่งดึงผ้าห่มขึ้นสูงกว่าเดิม มือหนาของหมอเอื้อมมาลูบหัวฉัน คลี่ยิ้มแสนอบอุ่น 
    “พี่จะรีบกลับมานะ” 
    พี่หมอ .. ฉันไม่อยากอยู่กับความรู้สึกกลัวแบบนี้  
    รีบกลับมานะ มาอยู่ข้างฉัน มาทำให้ฉันแน่ใจว่าพี่หมอจะไม่ไปไหน จะอยู่กับฉันแบบนี้ไปตลอด 



    วงแหวนดาวเสาร์.

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×