คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : 2
"มีอะไรครับพี่ฝน" ปูนปั้นถาม
"พอดีมีลูกค้ามาหลอกทานฟรีอีกแล้วค่ะ" น้ำฝนตอบ
"อีกแล้วเหรอครับ...แล้วครั้งนี้ยอดกี่พันล่ะครับ" ปูนปั้นถาม
"เห็นพี่เมย์บอกว่าเกือบสามหมื่นเลยค่ะ" น้ำฝนตก
"ฮะ!" ปูนปั้นร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจพร้อมกับลุกขึ้นยืนทันที
"แล้วเขาไปหรือยังครับ...ได้ขอบัตรประชาชนไว้ไหม...รู้หรือเปล่าว่าเขาชื่ออะไร...มีใครโทรแจ้งตำรวจแล้วหรือยัง...ก่อนหน้านี้ทุกคนทำอะไรกันอยู่ครับทำไมไม่เห็นมีใครมาบอกผมเลยล่ะครับ" ปูนปั้นรัวคำถามออกไปด้วยความตื่นตกใจโดยที่ไม่เว้นช่องไฟให้น้ำฝนได้ตอบเลย
"คือเราพยายามขอบัตรประชาชนจากเขาแล้วนะคะแต่ว่าเขาบอกว่ามันอยู่บนรถไม่ได้พกลงมาด้วย อ่อ! แต่เหมือนเขาจะบอกว่าชื่อ เทียน..." ทันทีที่ได้ยินชื่อเทียนหมิงก็หยุดนิ่งทันทีแล้วหันมามองน้ำฝนด้วยความสนใจ
"เทียน...อะไรนะ เทียน~" น้ำฝนพยายามจะพูดออกมาแต่ก็พูดไม่ได้ มันเหมือนติดอยู่ที่ปากแต่พูดออกมาไม่ถูกเฉยๆ ตอนนี้ทั้งปูนปั้นและหมิงก็ต่างยืนลุ้นว่าเธอจะพูดว่าอะไรออกมา
"อ่อ เทียน เมธัส สักอย่างเนี่ยแหละค่ะ" น้ำฝนพูดจบหมิงก็ถอดถุงมือสำหรับล้างจานออกแล้วรีบเดินผ่านทั้งสองคนออกจากห้องครัวไปเลย ปูนปั้นเห็นหมิงรีบผิดปกติจึงจะตามออกไปดู
หน้าร้าน
"พี่เมย์ครับ ที่ลานจอดรถไม่มีรถอยู่เลยสักคันครับ" เฟิร์สพูด
"น่านไง ฉันกะไว้แล้วเชียวว่านายต้องเป็นพวกหลอกกินฟรี" เมย์พูดพร้อมชี้นิ้วใส่หน้าเทียนและด้วยความโมโหที่ถูกคนคนนี้พูดจาไม่ดีใส่หลายครั้งเทียนจึงปัดมือของเมย์ที่ชี้หน้าเขาอยู่ออกอย่างแรงจนเธอเจ็บ
"โอ๊ย!" พอพนักงานคนอื่นได้ยินเสียงเมย์ร้องก็ต่างพากันหันมามองที่เทียนเป็นตาเดียวกันแต่เทียนหาได้สนไม่ เขาหันขวับไปมองที่เฟิร์สด้วยสายตาที่น่ากลัวสุดๆ จนเด็กเสิร์ฟตัวน้อยขนลุกซู่ไปทั้งตัว
"เวกัสไม่มีทางทิ้งฉันแล้วกลับไปก่อนแน่นอน...บอกมา! ว่าแกโกหกใช่ไหม" เทียนถามด้วยน้ำเสียงกระโชกโฮกฮาก
"ผมไม่ได้โกหกนะครับ" เฟิร์สตอบแล้วรีบถอยออกไปยืนอยู่ข้างหลังเมย์
"ยะ อย่ามาทำตัวเป็นอันธพาลแถวนี้นะ" เมย์พูดด้วยน้ำเสียงกล้าๆ กลัวๆ แล้วหันไปหาพนักงานสาวรุ่นน้องที่ยืนเกาะแขนเธออยู่
"ไปโทรแจ้งตำรวจเดี๋ยวนี้เลย" เมย์พูด
"ค่ะ" เธอตอบแล้วก็รีบวิ่งเข้าไปที่เคาน์เตอร์
"เดี๋ยวก่อนครับ" หมิงเอ่ยห้ามทันทีที่เดินมาถึงทำให้ทุกคนหยุดนิ่งแล้วหันไปสนใจที่เขาแทน เทียนพอเห็นเพื่อนสนิทวิ่งออกมาจากห้องครัวก็อึ้งไปพักนึง
"ไอ้หมิง" เทียนอุทานออกมาเบาๆ ด้วยความตกใจและดีใจ หมิงรีบสาวเท้ายาวๆ มาหาเทียนแล้วจับแขนเพื่อนของเขาไว้ทันที
"เขาเป็นเพื่อนผมเอง...ไม่ต้องโทรแจ้งตำรวจหรอกครับ" หมิงพูด
"ฮะ!" ทุกคนร้องอุทานออกมาพร้อมกับด้วยสีหน้าที่ไม่เชื่อเท่าไหร่
"นี่เพื่อนพี่หมิงเหรอคะ" เมย์ถาม
"ครับ" หมิงตอบ
"ทำไมพี่หมิงถึงเลือกคบเพื่อนที่มีนิสัยเป็นพวกนักต้มตุ๋นแบบนี้ล่ะคะ" เมย์ถาม
"เธอว่าใคร ฮะ!" เทียนถามด้วยความไม่พอใจแต่หมิงก็รีบบีบแขนของเขาไว้เพื่อดึงสติ
"ไอ้เทียน!" หมิงดุเพื่อนทันทีที่เห็นว่าเขาเริ่มทำตัวไม่เหมาะสมกับผู้หญิงแล้ว
"มีอะไรกันครับ" พอเสียงนี้ดังขึ้นพนักงานทุกคนก็หยุดอยู่ในความสงบทันทีพร้อมกับแหวกทางให้เขาเดินออกมา ภาพของปูนปั้นที่กำลังเดินตรงมาหาเขาตัวเขาเองก็รู้สึกวูบวาบขึ้นมาแปลกๆ ใบหน้าขาวสวยบวกกับดวงตาสีฟ้ามันช่างทำให้เขาดูมีสเน่ห์มากจริงๆ
หัวใจของเทียนมันรู้สึกสั่นไหวอย่างบอกไม่ถูก ร่างกายมันรู้สึกร้อนผ่าวเนื่องจากหัวใจเต้นเร็วผิดปกติจนเหงื่อไหลออกมาเต็มไปหมด ปูนปั้นเดินมาหยุดอยู่ข้างหน้าเทียนแล้วมองดูเหตุการณ์รอบๆ ว่ามีอะไรผิดปกติไหม
"ไม่ทราบว่าคุณลูกค้าไม่พอใจกับการบริการของพนักงานตรงไหนหรือเปล่าครับ" ปูนปั้นถาม แต่ตอนนี้หูของเทียนมันอื้อจนไม่ได้ยินอะไรแล้ว
"คุณลูกค้าครับ...คุณลูกค้า" ปูนปั้นพยายามพูดคุยกับเขาแต่อีกฝ่ายก็ไม่ยอมตอบแถมยังจ้องมองหน้าเขาอยู่ตลอดเลยด้วย
"ไอ้เทียน~ไอ้เทียน!"
"ฮะ!" หมิงเห็นว่าเทียนเงียบไปก็เลยช่วยเรียกเขาให้
"อ่อ ครับ" เทียนหันกลับไปหาปูนปั้นอีกครั้งหลังได้สติ
"พอดีลูกค้าท่านนี้ทานอาหารแล้วไม่ยอมชำระเงินค่ะ" เมย์พูด
"ผมขอบิลด้วยครับ" ปูนปั้นหันไปพูดกับเมย์พร้อมกัับยื่นมือไปขอบิลค่าอาหารจากเธอมาดู
"อาหารของลูกค้าทั้งหมด 16 รายการรวมเป็นเงินทั้งสิน 27,864 บาท" ปูนปั้นพูดแล้วเงยหน้าขึ้นมาสบตากับเทียน
"ลูกค้าจะชำระเป็นเงินสดหรือบัตรเครดิตดีครับ" ปูนปั้นถามแล้วจ้องมองไปที่เทียนอย่างไม่มีความหวาดกลัวเลยสักนิด
"ผมก็อยากจ่ายนะครับแต่ตอนนี้ผมไม่มีเงินติดตัวเลยสักบาท" เทียนตอบ
"งั้นทางเราก็ต้องขออนุญาตเรียกตำรวจมานะครับ" ปูนปั้นพูดแล้วหันไปหาพนักงานที่ยืนอยู่ในเคาน์เตอร์เพื่อเป็นการส่งสัญญาณบอกให้เธอโทรแจ้งตำรวจได้เลย
"เดี๋ยวพี่จ่ายเอง" อยู่ดีๆ หมิงก็พูดขึ้นมาเพื่อห้ามไม่ให้พนักงานคนนั้นโทรแจ้งตำรวจเพราะถ้าเกิดปูนปั้นแจ้งความจับเทียนจริงๆ ร้านนี้คงได้เดือดร้อนแน่
"คุณเทียนครับ" เวกัสเดินเข้ามาในร้านแล้วเอ่ยเรียกเทียนทำให้้เจ้าตัวต้องรีบหันไปหาเขาทันที
"นี่คุณหายไปไหนมาเนี่ย!" เทียนเดินปรี่เข้ามาถามเอาความกับเวกัสจนเจ้าตัวต้องรีบก้มหัวสำนึกผิด
"ขอโทษครับ พอดีรถของเราจอดขวางทางเข้าออกอยู่ผมก็เลยต้องเอาไปจอดไว้อีกซอยนึง...ผมเห็นว่ามันดึกมากแล้วแต่คุณเทียนยังไม่กลับมาสักทีก็เลยออกมาดูที่ร้านน่ะครับว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่า" เวกัสตอบ
"เดี๋ยวคุณนั่นแหละจะได้มีปัญหาหาแน่" เทียนพูดแล้วยื่นมือไปขอกระเป๋าสตางค์จากเวกัส
"กระเป๋าสตางค์ของผมละ" เทียนถาม
"อยู่นี่ครับ" เวกัสตอบแล้วรีบล้วงเอากระเป๋าสตางค์สุดหรูของเทียนออกมา
"โอ๊ะ! คุณหมิงหนิครับ" เวกัสทักทายหมิงหลังจากที่เขามาตั้งนานแต่ไม่ทันได้สังเกตเห็นเขา หมิงพยักหน้าตอบเขาเพราะตอนนี้บรรยากาศไม่พร้อมพูดคุยสักเท่าไหร่
"ไปเอารถมาได้แล้วไป" เทียนพูด
"ครับ" เวกัสตอบแล้วก็รีบออกไปทันที เทียนค่อยๆ หันกลับมาหาทุกคนแล้วจ้องมองไปที่ปูนปั้นอีกครั้ง ปูนปั้นเองแม้ภายนอกจะดูสงบนิ่งแต่จริงๆ ในใจกลับรู้สึกไม่สบายใจกับผู้ชายคนนี้เท่าไหร่นัก เทียนเปิดกระเป๋าสตางค์หยิบแบล็คการ์ดออกมาแล้วยื่นไปให้ปูนปั้น
"คิดเงินสองเท่าได้เลยนะครับ ถือซะว่าเป็นคำขอโทษจากผมที่ทำให้พวกคุณต้องเสียเวลา" เทียนพูด
"ไม่เป็นไรครับ" ปูนปั้นตอบแล้วรับบัตรเครดิตจากเทียนส่งให้เมย์ไปจัดการต่อ หลังจากจบเรื่องค่าอาหารกันไปหมิงก็ขออนุญาตปูนปั้นออกไปคุยกับเทียนสักครู่แล้วจะรีบกลับเข้ามาทำงานต่อซึ่งปูนปั้นก็ไม่ได้ว่าอะไรแล้วก็บอกหมิงว่าไม่ต้องรีบคุยหรอกเพราะวันนี้เขานอกเหนือจากงานของตัวเองมาเยอะแล้ว
"สรุปที่มึงหายไปคือมึงมาทำงานที่นี่เหรอ" เทียนถาม ตอนนี้ทั้งคู่ยืนคุยกันอยู่หน้าประตูร้าน
"เออ แต่กูไม่ได้หายไปนะเว้ย" หมิงตอบ
"ไม่ได้หายไปเหี้ยอะไร! กูติดต่อมึงไม่ได้กี่วันแล้วมึงรู้ป่ะ" เทียนพูด
"ก็กูไม่มีโทรศัพท์นี่หว่าแล้วกูจะรู้ได้ไงว่ามึงติดต่อมาอ่ะ" หมิงตอบ
"อะไรนะ!" เทียนถามออกไปทั้งๆ ที่เขาก็ได้ยินมันชัดเจน
"เออ~กูเอาไปฝากไว้แล้วอ่ะ" หมิงตอบ
(ฝากคือการเอาไปจำนำไว้)
"นี่มึงต้องใช้เงินมากขนาดนั้นเลยเหรอว่ะ ก็ไหนมึงเพิ่งขายคอนโดไปเองหนิ" เทียนถาม
"ก็ไม่ได้จำเป็นต้องใช้เงินมากหรอกแต่ตอนนี้กูจำเป็นต้องเตรียมเงินสำรองเอาไว้มากๆ เผื่อเกิดเหตุฉุนเฉินขึ้นมอีกจะได้ไม่ลำบากไปหาหยิบยืมใครเขา อีกอย่างนะเว้ย กูไม่จำเป็นต้องใช้โทรศัพท์เลยด้วยซ้ำ ชีวิตกูตอนนี้วันๆ นึงนอกจากดูแลแม่ มาทำงานก็มีแค่นอนพักผ่อนแค่นั้นแหละ" หมิงตอบ
"มึงมีอะไรทำไมไม่บอกกูว่ะ" เทียนถาม หมิงถอนหายใจแล้วเงียบไป
"มึงคิดว่ากูจะไม่ช่วยมึงงั้นหรอ" เทียนถาม
"กูรู้เทียน กูรู้ว่ามึงไม่มีทางทิ้งกูอยู่แล้ว...แต่ถ้ามึงลองคิดในมุมของกูอ่ะมึงก็จะเข้าใจเองว่าการที่เราต้องเป็นภาระของเพื่อนอยู่บ่อยๆ มันรู้สึกแย่แค่ไหน" หมิงตอบ
"ที่ผ่านมากูไม่เคยมองว่ามึงเป็นภาระกูเลยนะ" เทียนพูด
"แต่กูรู้สึกแบบนั้นว่ะ..." หมิงหันไปมองหน้าเทียนแล้วตอบออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นๆ
"มึงรู้ป่ะว่าตั้งแต่ที่เรารู้จักกันมาเกือบ 20 ปีเนี่ยกูแม่งเอาแต่พึ่งพามึงมาตลอดเลย" หมิงพูด
(รู้จักกันมาตั้งแต่ ม.4 จนปัจจุบันอายุ 35 ปีแล้ว)
"ขนาดจะจีบสาวสักคนกูยังต้องให้มึงช่วยเป็นพ่อสื่อให้เลย กูไม่อยากเป็นแบบนั้นแล้วว่ะเทียน กูอยากลองยืนและเดินด้วยตัวเองดูสักครั้งต่อให้กูจะสะดุดล้มจนแขนขาหักกูก็ยังอยากลองทำมันด้วยตัวเองดู...มึงเข้าใจกูใช่ไหมว่ะ" หมิงหันไปถามเทียนด้วยรอยยิ้มที่ดูยังไงก็ไม่มีความสุขเอาซะเลย
"แต่มึงไม่ลืมใช่ไหมว่าไม่ว่ายังไงกูก็จะอยู่ตรงนี้ข้างๆ มึงเสมอ" เทียนถาม
"ไม่ต้องห่วงหรอก เพราะถ้าวันไหนกูไปไม่รอดแล้วเดี๋ยวกูจะคลานเข่ากลับมาหามึงเอง โอเคป่ะ" หมิงตอบ
"ฮึ~ มึงนี่แม่งทำกูเป็นห่วงอยู่เรื่อยเลย" เทียนพูดแล้วต่อยเข้าไปที่หัวไหล่ของเพื่อนเบาๆ หนึ่งที
ทั้งสองคนพูดคุยกันอยู่นานแต่พวกเขากลับไม่รู้เลยว่าตลอดเวลาที่พวกเขาคุยกันอยู่นั้นปูนปั้นได้แอบมองดูพวกเขาจากข้างในร้านอยู่ตลอด
"เฮ้ย~ ว่าแต่น้องคนเมื่อกี้คือใครว่ะ" เทียนขยับเข้าไปใกล้หมิงแล้วกระซิบถามเบาๆ ทั้งที่ตรงนั้นมีพวกเขาอยู่กันแค่สองคน
หมิงรู้ได้ทันทีว่าเพื่อนตัวดีกำลังถามถึงใครอยู่และใช่แล้วเทียนชอบผู้ชาย เทียนคบกับผู้ชายมาตลอดและเมื่อกี้ตรงนั้นนอกจากตัวเขาเองกับเทียนก็มีผู้ชายอยู่อีกแค่สองคน จะบอกว่าเป็นเฟิร์สมันก็คงไม่ใช่เพราะเฟิร์สไม่ใช่ไทป์ของเทียนเลยสักนิดแต่สิ่งที่ทำให้หมิงรู้สึกประหลาดใจไม่น้อยก็คือเทียนสนใจปูนปั้นซึ่งปูนปั้นเองก็อายุแค่ 23 ปีเท่านั้น เขาไม่ได้คิดว่าปูนปั้นปูนปั้นเด็กไปหรอกนะแต่เพราะปกติแล้วเทียนไม่ค่อยชอบยุ่งกับคนที่อายุน้อยกว่าเขามากเท่าไหร่นักยิ่งถ้าเกินห้าปีไปแล้วเขายิ่งไม่เอาเลยแต่นี่เขากับสนใจคนที่อายุห่างกันเป็นสิบปีเลยนะ
"น้องเขาชื่อปูนปั้นเป็นเจ้าของร้านที่นี่" หมิงตอบ
"ฮะ! เชี่ย~ยังดูเด็กอยู่เลย...เห็นทุกคนเกรงใจกูก็นึกว่าเป็นผู้จัดการที่ไหนได้เป็นเจ้าของร้านเลยหรอว่ะ" เทียนพูด
"เออ แต่จริงๆ เจ้าของร้านคนปัจจุบันคือพี่สาวน้องเขาอ่ะแต่เห็นว่าไม่ค่อยสบายก็เลยให้น้องเขามาดูแลแทนก่อน" หมิงตอบ
"เหรอว่ะ" เทียนพูดแล้วหันเข้าไปมองในร้าน
"เอาจริงดิ เด็กมากเลยนะเว้ย" หมิงพูด
"เอาจริงไรงว่ะกูก็แค่ถามดูเฉยๆ" เทียนตอบ
"ปูนปั้นเป็นเด็กดีคนนึงเลยนะเว้ย ถ้ามึงไม่ได้ชอบเขาจริงจังล่ะกูว่าอย่าเริ่มเลยดีกว่า" หมิงพูด
อะไรเนี่ย~ นี่ไม่ใช่สเปคมึงไม่ใช่เหรอ" เทียนถามเพราะเห็นว่าเพื่อนดูเป็นใส่ใจเด็กคนนี้มากเป็นพิเศษ
"ก็ไม่ได้ชอบน้องเขาแค่สงสารเฉยๆ" หมิงตอบ
"สงสาร...สงสารอะไรว่ะ" เทียนถาม หมิงมองตาเทียนแล้วถอนหายใจออกมา
"เอ่อ~คุณเทียนครับ" เวกัสเดินเข้ามาตามหลังจากที่รอเทียนอยู่บนรถมาสักพักแล้ว
"ว่าไง" เทียนหันไปถาม
"เมื่อกี้คุณซ่งโทรมาบอกว่าอยากให้ผมพาคุณเทียนไปพบเดี๋ยวนี้เลยครับ" เวกัสตอบ
"คุณปู่โทรมาเหรอ" เทียนถาม
"ครับ" เวกัสตอบ
"คุณปู่โทรมาเองเลยเหรอ" เทียนถามย้ำอีกครั้งเพราะเวลานี้ปู่ของเขาควรหลับไปแล้วแต่ทำไมถึงได้โทรมาหาเขาล่ะ เทียนยกแขนขึ้นมาเพื่อดูเวลา
"คุณปู่โทรมาตอนตี 1 เนี่ยนะ" เทียนพูดออกมาลอยๆ
"เป็นคุณซ่งจริงๆ ครับ" เวกัสตอบ
"มึงรีบกลับไปเถอะเดี๋ยวกูก็ต้องเข้าไปทำงานต่อแล้วเหมือนกัน" หมิงพูดแล้วเดินเข้ามาตบไหล่เพื่อนรักเบาๆ
"ก็ได้ งั้นเดี๋ยวไว้ว่างๆ กูมาหาใหม่นะ" เทียนตอบ
"เออ" หมิงตอบ
"เชิญครับคุณเทียน" เวกัสพูดแล้วเดินไปเปิดประตูรถให้เทียน
"กูไปแล้วนะ" เทียนหันไปบอกกับหมิงก่อนจะเดินตามเวกัสไป
"โชคดีเว้ย" หมิงตอบแล้วโบกมือลาเทียน เขายืนส่งจนรถของเทียนขับออกไปก่อนจะถอนหายใจออกมาอีกครั้งแล้วเดินกลับเข้าไปในร้าน
ความคิดเห็น