ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My little boy | ปูนปั้นน้อยของเฮีย

    ลำดับตอนที่ #10 : 9

    • อัปเดตล่าสุด 30 มิ.ย. 67


    เมื่อมาถึงร้านเทียนก็รีบเดินไปที่รถของเขาทันที

    "ซี๊ด!..." เขาร้องออกมาทันทีที่ใช้มือแตะหลังคารถพร้อมกับรีบชักมือกลับเพราะตอนนี้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนนอนตากแดดมาหลายชั่วโมงแล้ว

    "โธ่~ตัวร้อนจี๋เลยลูกไว้กลับบ้ทนพ่อเปิดแอร์ให้นอนฉ่ำๆ เลยนะ" เทียนพูดกับรถเบาๆ ปูนปั้นเดินตามมาทีหลังก็ถึงกับส่ายหัวให้ความโอเว่อร์ของเทียนทันที เขาเดินล้วงหากุญแจเปิดร้านในกระเป๋าจนมาหยุดอยู่หน้าประตูร้านทันที

    "เจอแล้ว" ปูนปั้นพูดแล้วเงยหน้าขึ้นมามองร้านของตัวเองแต่เขาก็ต้องตกใจ

    "เฮ้ย!" ทันทีที่เทียนได้ยินเสียงของปูนปั้นเขาก็รีบหันไปหาปูนปั้นด้วยความเป็นห่วงแต่ภาพที่เขาเห็นตรงหน้าคือร้านของปูนปั้นถูกพ่นสีสเปรย์เขียนคำหยาบคายไว้เต็มไปหมด ตอนนี้ปูนปั้นเองก็ช็อคไม่ต่างกันเงยหน้ามองแล้วอ่านคำด้าท่อพวกนี้ทั้งหมดด้วยความโมโหและสับสน เทียนเดินเข้าไปหาปูนปั้นใกล้ๆ เพื่อดูปฏิกิริยาของเขาว่าโอเคหรือเปล่า

    "รู้ไหมว่าใครทำ" เทียนถาม ปูนปั้นส่ายหน้าตอบว่าไม่รู้ 

    "เข้าไปตรวจดูข้างในก่อนเถอะว่ามีอะไรหายไปไหม" เทียนพูด ปูนปั้นหันมามองหน้าเขาด้วยความรู้สึกอบอุ่นใจที่เขายังอยู่เป็นเพื่อน จากนั้นเขาก็ไขกุญแจเปิดร้านทันทีซึ่งสภาพภายในร้านยังปกติดีทุกอย่างไม่มีอะไรเสียหายเลย

    "ดูท่าคงไม่ได้เข้ามา" เทียนพูดแล้วเดินดูรอบๆ สถานการณ์แบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับปูนปั้นเขาเลยรู้สึกกลัวนิดหน่อยและทำตัวไม่ถูก เทียนรู้สึกว่าปูนปั้นเงียบไปเลยหันไปดูเขาซึ่งตอนนี้ปูนปั้นยืนกำกุญแจร้านไว้แน่นแล้วมีสีหน้าที่ตกใจไม่น้อยเขาจึงรีบเดินเข้าไปหา

    "กลัวเหรอ" เทียนถาม

    "นิดน่อยครับ" ปูนปั้นตอบ เทียนยกมือขึ้นมาแล้วลูบหลังปูนปั้นเบาๆ 

    "ไม่เป็นไร~" เทียนพูดแล้วมองหน้าเขาด้วยสายที่อ่อนโยน ปูนปั้นเหมือนถูกมนต์สะกดจากเทียนเลยเพราะแม้จะไม่รู้จักกันดีแต่เขากลับรู้สึกไว้ใจและเชื่อใจเทียนอย่างมาก ทั้งคู่สบตากันอยู่พักนึงก่อนปูนปั้นจะก้มหน้าลงไปหาโทรศัพท์ในกระเป๋าด้วยความร้อนรน

    "เป็นอะไร" เทียนถามด้วยความเป็นห่วง

    "จะให้พนักงานมาเห็นร้านในสภาพนี้ไม่ได้ พวกเขายิ่งใจคอไม่ดีกับสถานการณ์ของร้านอยู่ดังนั้นผมต้องแจ้งเข้าไปในแชทกลุ่มว่าวันนี้ร้านปิดพวกเขาจะได้ไม่ต้องมาทำงาน" ปูนปั้นตอบ ท่าทางตื่นตกใจของปูนปั้นทำเอาเทียนรู้สึกไม่ว่างใจเลย

    หลังจากที่ปูนปั้นแจ้งพนักงานทุกคนแล้วเทียนก็พาเขาไปแจ้งความที่สถานีตำรวจทันทีจากนั้นก็พากลับมาส่งที่ร้าน

    "จะเอายังไงต่อ" เทียนถาม

    "ไม่รู้สิแต่สภาพร้านแบบนี้ผมเปิดขายไม่ได้แน่นอน" ปูนปั้นตอบ

    "หน้าร้านมีกล้องวงจรปิดไม่ใช่เหรอทำไมถึงไม่เอาหลักฐานไปให้ตำรวจล่ะ" เทียนถาม

    "กล้องหน้าร้านมันเสียมาหลายเดือนแล้วอ่ะ ผมเห็นว่ามันไม่จำเป็นก็เลยยังไมาได้เรียกช่างมาดู" ปูนปั้นตอบ เทียนแทบอยากจะเขกกระโหลกปูนปั้นสักทีที่เจ้าตัวทำอะไรไม่รอบคอบแบบนี้

    "แล้วเป็นไง...ตอนนี้จำเป็นพอยัง" เทียนถามเชิงประชดประชัน

    "รู้แล้วหน่า~" ปูนปั้นตอบ เทียนเดินไปนั่งลงข้างหน้าเขาด้วยสายตาเรียบนิ่ง ปูนปั้นเองก็หันมามองเทียน

    "ลุงมารอเจอพี่หมิงใช่ไหม วันนี้พี่หมิงเขาไมามาหรอก" ปูนปั้นพูด

    "ไหนว่าหมิงไม่มีโทรศัพท์ไงแล้วเขารู้ได้ไงว่าร้านหยุด" เทียนถาม

    "พี่หมิงไม่รู้หรอกแต่ก่อนเมื่อวันก่อนพี่หมิงเขาขอลาหยุด 3 วันเพื่อพาแม่ไปหาหมอที่โรงพยาบาลตามใบนัดน่ะ" ปูนปั้นตอบ

    "อ๋อ~" เทียนตอบ ปูนปั้นถอนหายใจออกมาแล้วทิ้งหัวลงไปนอนกับโต๊ะอย่างคนหมดอะไรตายอยาก

    "จะทำยังไงดีล่ะเนี่ย...พรุ่งนี้จ้างช่างมาจัดการก็ไม่รู้จะเสร็จไหม" ปูนปั้นพูดตัดพ้อกับตัวเอง

    "เดี๋ยวฉันจะหาตัวคนทำมาให้นายเอง" เทียนพูดขึ้นมาหลังจากนั่งดูปูนปั้นงอแงมาสักพัก ปูนปั้นเงยหน้าขึ้นมามองเทียนแล้วส่ายหน้า

    "ไม่ต้องหรอกลุง ผมไม่อยากรบกวนลุงอ่ะ" ปูนปั้นตอบ

    "เรื่องของนายก็คือเรื่องของฉัน" เทียนพูด ปูนปั้นกน้าแดงขึ้นมาทันทีด้วยความเขิน

    "อย่าลืมสิ...ฉันจีบนายอยู่นะ" เทียนพูดแล้วมองจ้องไปที่ปูนปั้นเพื่อให้เขาเชื่อว่าตนเองกำลังจริงจังอยู่ 

    "ไอ้เด็กโงเอ้ย~" เทียนพูดจบก็หันออกไปมองรอบร้านเพื่อดูว่าจะเริ่มจากอะไรได้บ้างแต่ปูนปั้นยังคงช็อคอยู่ที่ได้ยินเทียนพูดออกมาตรงๆ แบบนี้แม้จะรู้ว่าเทียนสนใจเขาอยู่บ้างแต่ก็ไม่คิดว่าเจ้าตัวจะรุกเร็วขนาดนี้เพราะมันทำให้เด็กอย่างเขารับมือไม่ทันจริงๆ 

    หลังจากแยกย้ายกันกลับเทียนก็ตรงไปที่บ้านใหญ่ทันทีเพื่อไปขอพบคุณโฉม

    "สวัสดีครับคุณเทียน" พายุรีบเดินข้ามารับทันทีที่มีแขกมาที่บ้าน

    "ย่ารองล่ะ" เทียนถาม

    "คุณโฉมอยู่กับคุณหญิงที่ห้องหนังสือครับ" พายุตอบ

    "ดี นายตามฉันไปพบย่ารองด้วย" เทียนพูด

    "ฮะ? ผมเหรอครับ" พายุถามด้วยความสงสัยเพราะอยู่ดีๆ เทียนก็โผล่มาที่บ้านใหญ่แบบงงๆ

    "เออ" เทียนตอบแล้วเดินขึ้นไปชั้นบนทันที พายุแม้จะงงๆ แต่ก็รีบตามเทียนไปเหมือนกันเพราะกลัวว่าจะถูกตำหนิ

    "ขออนุญาตครับ" เทียนพูดขึ้นเมื่อมาถึง คุณหญิงทั้งสองหันไปมองตามเสียงก็เห็นว่าเป็นหลานชายของตัวเองมาหาจึงได้วางของในมือลงแล้วหันมาสนใจเทียนแทน

    "มาหาคุณย่าเหรอเทียน" คุณโฉมถาม

    "เอ่อ~ผมมาหาทั้งคุณย่าแล้วก็ย่ารองเลยครับ" เทียนตอบแล้วเข้าไปนั่งคุกเข่าอยู่ข้างหน้าคุณหญิงหยาดทิพย์

    "มีธุระอะไรเหรอลูกถึงได้รีบร้อนขนาดนี้" คุณหญิงหยาดทิพย์ถามแล้วเพราะใบหน้าของหลานชายเต็มไปด้วยเหงื่อพร้อมก้บยื่นมือไปหยิบผ้าเช็คหน้าปักลายของตัวเองขึ้นมาซับเหงื่อให้เขา

    "ขอบคุณครับคุณย่า" เทียนตอบ

    "มีอะไรก็ว่ามาเถอะ" คุณโฉมถาม

    "คือผมอยากได้คนมาดูแลและช่วยงานผมน่ะครับ" เทียนตอบ

    "อ๋อ~ได้สิ เดี๋ยวพรุ่งนี้ย่าจะให้วิสุทธิ์เขาเก็บของย้ายไปอยู่บ้านนู้นแล้วกัน" คุณโฉมตอบ

    "วิสุทธิ์ดูแลคุณปู่มาตลอดหลังจากที่คุณปู่จากไปก็แทบไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ผมว่าผมขอเป็นคนอื่นดีกว่าครับ" เทียนพูด

    "แล้วจะเป็นใครได้อีกล่ะ วิสุทธิ์เขารู้งานทุกอย่างน่าจะพอช่วยหลานได้นะ" คุณหญิงหยาดทิพย์ถาม

    "ผมอยากได้พายุครับ" เทียนตอบ คุณผู้หญิงทั้งสองหันหน้ามองกันด้วยความไม่เข้าใจ พายุเองก็ตกใจไม่น้อยเพราะที่ผ่านมานอกจากดูแลบ้านคุณซ่งก็ไม่เคยให้เขาออกไปทำงานอะไรเลย

    "แต่พายุมันทำอะไรไม่เป็นเลยนะเทียน" คุณโฉมพูด

    "ผมเชื่อว่าพายุเป็นคนเก่งครับเพียงแต่ที่ผ่านมาคุณปู่เป็นห่วงเขามากเลยไม่ยอมให้เขาออกไปทำงานข้างนอกเลยและผมก็เชื่อว่าพายุมันก็คงไม่ได้อยากทำงานดูแลบ้านแบบนี้ไปตลอดหรอก...ยกให้ผมเถอะนะครับคุณย่า นะครับย่ารอง" เทียนตอบ คุณผู้หญิงทั้งสองเองอยากให้เทียนเลือกคนที่เป็นงานหน่อยไปอยู่ข้างกายเพราะตอนนี้เขาเป็นผู้นำตระกูลแล้วแต่ในทางกลับกันพวกเธอก็รู้ว่าไม่ว่ายังไงพายุจะเป็นคนที่จงรักภักดีและซื่อสัตย์ที่สุดอย่างแน่นอนเลยไม่แน่ใจว่าควรตัดสินใจยังไงดี

    "ยังไงซะพายุมันก็เป็นคนที่ปู่แกรับมาเลี้ยง มันจะไปไม่ไปย่าก็แล้วแต่มันล่ะกัน" คุณโฉมตอบ

    "ไปครับ ผมไปครับ" พายุรีบตอบขึ้นมาทันทีด้วยความดีใจ ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากอยู่ที่นี่แต่เขาอยากออกไปทำงานจริงตามที่เคยได้ฝึกมาสักครั้งเพื่อตอบแทนบุญคุณที่ตระกูลนี้เคยให้ข้าวให้น้ำจนเขาเป็นเขาอย่างทักวันนี้

    "ดูแลตาเทียนให้ดีอย่าให้ฉันและคุณซ่งต้องผิดหวังที่รับแกมาดูแล เข้าใจไหม" คุณโฉมพูด

    "ครับคุณโฉม" พายุตอบเสียงดังฟังชัดใบหน้าของเขาเต็ทไปด้วยรอยยิ้มจนผู้ใหญ่ทั้งสองอดเอ็นดูไม่ได้

    "ขอบคุณนะครับคุณย่า ขอบคุณนะครับย่ารอง" เทียนพูด

    "คุณปู่ฝากความหวังไว้เทียนต้องทำให้ดีที่สุดนะลูก" คุณหญิงหยาดทิพย์พูดแล้วลูบหัวหลานชายด้วยความเอ็นดู 

    "ครับคุณย่า" เทียนตอบแล้วหันไปหาพายุ

    "พายุ" เทียนเรียก

    "ครับคุณเทียน" พายุตอบ

    "ไปเก็บของเดี๋ยวกลับไปพร้อมกับฉันเลย" เทียนพูด

    "ครับ!" พายุตอบแล้วรีบวิ่งออกไปทันที

    "ไอ้เด็กคนนี่หนิ! กระโตกกระตากจริง" คุณโฉมว่าตามหลังที่เห็นพายุดีใจออกหน้าออกตาจนลืมมารยาทไปเลย

    "งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ" เทียนกล่าวลาย่าทั้งสองพร้อมยกมือไหว้อย่างสุภาพก่อนจะออกจากห้องนั้นมายืนรอพายุที่รถ

    "อู้หู~คุณเทียน ผมจะได้นั่งรถคันนี้ของคุณเทียนเลยเหรอครับ" พายุถามด้วยความดีใจจนตาแทบจะถลนออหจาเบ้าอยู่แล้ว

    "อย่าพูดมากแล้วรีบไปขึ้นรถเลย" เทียนตอบ

    "ครับๆ" พายุพูดแล้วรีบวิ่งไปเปิดประตูรถทันที

    "ระวังอย่าให้เป็นรอยนะ" เทียนเอ่ยเตือนเพราะท่าทางของพายุดูตื่นเต้นจนลนไปหมด

    "ครับคุณเทียน" พายุตอบแล้วรีบขึ้นไปนั่งบนรถ

    "คิดผิดป่ะว่ะเนี่ย" เทียนบ่นแล้วก็ขึ้นไปนั่งบนรถด้วยสีหน้าเซ็งๆ ก่อนจะขับรถออกจากที่นี่แล้วกลับบ้านของเขาทันที

    "คุณหล่ง คุณดาริน...คุณเทียนกลับมาแล้วครับ" เจสันเดินเข้ามาบอกกับทุกคนหลังจากที่เห็นรถของเทีียนเลี้ยวเข้ามาในบ้านและไม่นานเทียนก็เดินเข้ามาพร้อมกับพายุ สร้างความแปลกใจให้กับบอดี้การ์ดทุกคนไม่น้อย

    "คุณพ่อคุณแม่สวัสดีครับ" เทียนกล่าวทักทายพ่อแม่ที่นั่งรออยู่

    "กินข้าวกินปลามาหรือยังจ๊ะ" ดารินถาม

    "แกพาพายุมาที่บ้านเราทำไม" หล่งถามลูกชายด้วยความสงสัยเพราะจริงๆ คนที่บ้านของเขาก็เยอะอยู่แล้วถ้าเทียนต้องใช้คนก็สามารถเอาไปใช้ได้เลยไม่เห็นจำเป็นต้องดึงคนของบ้านใหญ่เข้ามาที่นี่เลย

    "ต่อไปนี้พายุเขาจะมาทำหน้าที่ดูแลผมครับ" เทียนตอบ

    "ลูกเลือกพายุเหรอ" ดารินถามด้วยความตกใจ

    "ครับ" เทียนตอบ

    "แต่พ่อไปขอกับคุณย่าให้แช้วหนิว่าจะให้วิสุทธิ์มาดูแลลูกต่อทำไมเขายังส่งไอ้พายุมาอีกล่ะ มันไม่เป็นงานลูกจะเอามาเป็นภาระทำไม" หล่งพูด

    "ผมเลือกพายุครับ" เทียนตอบ

    "ถ้ามันดูแลงานในบ้านพ่อก็เยอะว่าไม่มีใครเก่งไปกว่ามันแล้วแต่ถ้าจะเอามาช่วยงานจริงๆ พ่อว่ามันไม่ไหวหรอก" หล่งพูด พายุรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจในตัวเองจริงๆ เขารู้ว่าพวกคุณๆ ไม่มีใครรังเกียจเขาหรอกแต่ว่าทุกคนก็ไม่มีใครเชื่อในตัวเขาเลยว่าเขาจะสามารถช่วยงานทุกคนได้ ที่ผ่านมานอกจากดูแลเรื่องกินอยู่ของคุณซ่งแล้วเขาก็มีหน้้าที่ต้อนรับและยกกระเป๋าให้กับทุกคนเท่านั้นทั้งที่มันไม่ใช่งานที่เขาอยากทำเลยแต่เขาก็ยอมทำด้วยความเต็มใจเพราะเป็นคำสั่งของคุณซ่ง 

    "ผมเชื่อว่าพายุจะช่วยงานผมได้ครับ" เทียนตอบ

    "งั้นก็เอาเวกัสไปด้วยอีกคน เวกัสมันทำงานดีให้มันดูแลงานนอกบ้านของแกแล้วกันส่วนพายุก็ให้อยู่ในบ้านดูแลงานเล็กๆ น้อยๆ ไป" หล่งพูด นี่มันก็ไม่ต่างอะไรจากเดิมที่พายุเคยทำเลยเพียงแค่เปลี่ยนจากทำที่บ้านใหญ่มาทำที่นี่เฉยๆ 

    "ขอบคุณที่พ่อให้ยืมคนนะครับแต่ผมอยากให้พายุมาทำงานด้วย หวังว่าพ่อจะไม่ติดอะไรนะครับ" เทียนตอบ

    "ตาเทียน!" หล่งเริ่มหงุดหงิดที่ลูกชายดื้อไม่ฟังที่เขาแนะนำ ไม่ใช่ว่าเขาไม่ชอบพายุแต่เขาไม่เชื่อว่าพายุจะมีความสามารถมากพอจะดูแลเทียนได้

    "คุณค่ะ" ดารินรีบห้ามสามีเพราะเห็นว่าเขาเริ่มอารมณ์ไม่ดีแล้ว

    "เทียนไปพักผ่อนก่อนเถอะลูก" ดารินหันมาบอกลูกชายเพื่อตัดปัญหา

    "ครับแม่" เทียนตอบแล้วหันหลังกลับไปหาพายุและเจสัน

    "เดี๋ยวนายตามเจสันไปนะ เขาจะพานายไปที่ห้องพักเองเก็บของเสร็จแล้วก็ขึ้นมาหาฉันที่ห้อง ฉันมีอะไรจะคุยด้วยหน่อย" เทียนพูด

    "ครับคุณเทียน" พายุตอบแล้วก็เดินตามเจสันออกไป เทียนหันไปดูพ่อกับแม่แป๊ปนึงก่อนจะเดินขึ้นไปรอพายุบนห้องนอน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×