ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My little boy | ปูนปั้นน้อยของเฮีย

    ลำดับตอนที่ #4 : 3

    • อัปเดตล่าสุด 30 มิ.ย. 67


    ทันทีที่เทียนก้าวเข้ามาในบ้านหลังนี้ก็มีบอดี้การ์ดวัยรุ่นคนนึงรีบเดินตรงมาหาเขา 

    "คุณท่านรออยู่ข้างบนครับคุณเทียน" พายุพูด

    "ทำไมคุณปู่ถึงเรียกให้ฉันมาหาตอนนี้ล่ะ" เทียนถาม

    "พอดีคุณท่านกำลังจะบินไปฮ่องกงคืนนี้ครับเลยอยากจะพบคุณเทียนก่อน" พายุตอบ

    "บินตอนเนี่ยนะ" เทียนถาม

    "อีก 2 ชั่วโมงครับ" พายุตอบ

    "บอกฉันมาสิว่านี่มันเรื่องอะไรกัน" เทียนถามออกไปด้วยความสงสัยเพราะบรรยากาศในบ้านตอนนี้มันดูตึงผิดปกติ

    "สายของเรารายงานด่วนเข้ามาครับว่าพบตัวการที่แอบลักลอบขโมยข้อมูลคอนเนคชั่นของเราแล้ว" พายุตอบ

    "ก็แค่หนอนบ่อนไส้ตัวเดียวคุณปู่ต้องไปจัดการด้วยตัวเองเลยหรอ" เทียนถาม

    "เหมือนว่า...จะไม่ได้เป็นแค่หนอนบ่อนไส้ธรรมดานะครับ" พายุตอบออกมาอย่างไม่เต็มเสียง เทียนมองไปที่พายุด้วยความสับสนแต่ก็ไม่กล้าถามออกไปเพราะสีหน้าของพายุดูลำบากใจที่จะตอบคำถามเขาพอสมควร

    "คุณเทียนครับ" จู่ๆ ก็ก็มีเสียงทุ้มต่ำของชายคนนึงเอ่ยเรียกเทียนจากบนบันได พอเขาเงยหน้าขึ้นไปพบกับวิสุทธิ์ชายวัย 50 ปีที่มีหน้าที่ดูแลข้างกายของคุณซ่ง

    "คุณท่านรออยู่รีบขึ้นไปเถอะครับ" วิสุทธิ์พูด

    "รู้แล้ว" เทียนตอบแล้วก็รีบวิ่งขึ้นไปพบคุณซ่งปู่ของเขาทันที

    ก๊อกๆๆ

    "คุณปู่ครับ" เทียนพูด

    "เข้ามาสิ" คุณซ่งตอบ เทียนเปิดประตูเข้าไปในห้องทันทีที่ได้รับอนุญาตและเขาก็ได้พบกับปู่ที่กำลังนั่งรออยู่พอดี

    "มา มานั่งใกล้ปู่นี่" คุณซ่งพูดแล้วใช้มือแตะโซฟาเบาๆ เพื่อบอกให้หลานชายสุดที่รักมานั่งด้วยกัน

    "คุณปู่มีเรื่องอะไรสำคัญจะคุยกับผมหรอครับ" เทียนถาม

    "ปู่หาตัวคนที่มันขโมยข้อมูลของเราได้แล้วนะ"  คุณซ่งตอบ 

    "ใครเหรอครับ" เทียนถามออกไปแล้วนั่งรอลุ้นคำตอบด้วยความตื่นเต้น สีหน้าของคุณซ่งนิ่งไปทันที

    "เมฆ" คำตอบของปู่เหมือนสายฟ้าผ่าลงกลางใจเทียน 

    "มันจะเป็นไปได้ยังไงครับคุณปู่ เมฆเนี่ยนะ" เทียนถามออกไปด้วยสายตาสั่นไหว

    "ปู่รับรู้เรื่องนี้มาสักพักแล้วแต่ก็ยังไม่อยากจะเชื่อ เลยส่งคนไปจับตาดูมันไว้ก่อน...และสุดท้ายปู่ก็ได้รับข่าวด่วนจากสายของเราเรื่องมันเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้เอง" คุณซ่งตอบ เทียนทิ้งตัวลงไปผิงที่โซฟาอย่างคนหมดแรง เขารักและเอ็นดูเมฆเหมือนน้องชายแท้ๆ คนนึงเพราะเมฆอายุเท่ากับธูปน้องชายของเขาเลยทำให้เมฆมาเที่ยวเล่นกับธูปที่บ้านของเขาบ่อยๆ พอได้เจอบ่อยก็เกิดความรักความเอ็นดู แม้เมฆจะมีนิสัยดื้อรั้นและไม่เอาอ่าวอยู่บ้างแต่ก็เป็นน้องชายที่น่ารักของเขามาตลอด ใครพูดอะไรก็ไม่ฟังแต่ถ้าเขาเป็นคำออกคำสั่งเมฆก็จะไม่เกี่ยงเลยสักนิด วันนี้การที่ปู่บอกว่าเมฆคือคนร้ายที่ทำลายตระกูลมันเลยกลายเป็นเหมือนไฟที่กำลังแผดเผาหัวใจของเขาอยู่ตอนนี้

    "ปู่จะทำยังไงครับ" เทียนถามด้วยความเป็นห่วง

    "ก็ต้องดูว่ามันจะตอบคำถามปู่ยังไง" คุณซ่งตอบ

    "ไม่ฆ่าใช่ไหมครับ" เทียนถาม คุณซ่งหันไปมองหน้าหลานชายที่กำลังใช้สายตาอ้อนวอนเขาอยู่ ปกคิแล้วเทียนไม่ใช่คนอ่อนไหวง่ายแบบนี้หรอกนะ ไม่ว่าปู่หรือพ่อของเขาจะสั่งเก็บใครเขาก็ไม่เคยสนใจอยู่แล้ว

    "มันก็เป็นหลายปู่คนนึงนะ ถ้ามันยอมรับผิดทุกอย่างแล้วกลับมาอยู่ที่บ้านขังตัวเองไว้ไม่เข้ามาก้าวก่ายธุรกิจของครอบครัวอีก ปู่ก็จะให้โอกาสมันได้ใช้ชีวิตที่สงบสุขอีกครั้ง" คุณซ่งตอบ

    "งั้นปู่ให้ผมไปด้วยนะครับ ผมเชื่อว่าเมฆต้องฟังที่ผมพูดแน่ๆ" เทียนพูด

    "เทียนอยู่ที่นี่แหละ" คุณซ่งตอบ

    "แต่ว่า~" เทียนกำลังจะพูดแต่ปู่ก็เขาก็ขัดขึ้นมาซะก่อน

    "เดี๋ยวเรื่องนี้ปู่จัดการเอง...และระหว่างนี้ที่ปู่ไม่อยู่ถ้าย่ารองเขาพาไปทำความรู้จักกับใครเราก็ตามย่ารองไปเถอะนะ" คุณซ่งพูด

    "ปู่หมายความว่าไงครับ" เทียนถาม

    "เทียนอายุเยอะแล้วควรมีครอบครัวเป็นของตัวเองได้แล้ว" คุณซ่งตอบ

    "แต่ปู่ก็รู้ว่าผมไม่ได้ชอบผู้หญิงอ่ะ" เทียนพูด

    "ปู่รู้ แต่เทียนก็ต้องเข้าใจนะว่าคนเรายังไงซะมันก็ต้องมีครอบครัว ปกติปู่ก็ไม่เคยบังคับหลานคนไหนเลยไม่ว่าเขาจะชอบเพศอะไรแต่เทียนไม่เหมือนกัน...เทียนเป็นหลายชายคนโตของปู่ ต้องสืบทอดธุรกิจของที่บ้านทั้งหมดดังนั้นหลานจำเป็นต้องมีคนอยู่เคียงข้างเป็นคู่คิดที่พร้อมจะผ่านทุกอย่างไปด้วยกัน" คุณซ่งตอบ

    "แล้วจำเป็นต้องเป็นผู้หญิงด้วยเหรอครับ" เทียนถาม

    "ถ้ถ้าไม่เป็นผู้หญิงแล้วเทียนจะมีทายาทได้ยังไงล่ะ" คุณซ่งตอบ เทียนก้มหน้าและเงียบไปทันที 

    เทียนเข้าใจดีว่าปู่หวังดีกับเขาแต่เขาเองไม่สามารถรับมันไว้ได้จริงๆ ครอบครัวของเขาแม้จะเปิดกว้างมากแต่กับเขาที่เป็นหลานคนโตแล้วกับมีข้อผูกมัดไว้เต็มไปหมด เทียนเต็มใจเรียนรู้และรับช่วงดูแลทุกอย่างต่อจากปู่และพ่อของเขาอยู่แล้วเพราะตั้งแต่เด็กมาเขาก็ติดต่อพ่อและปู่ไปทำการค้าอยู่บ่อยๆ แต่เรื่องเดียวที่ทำให้เขาเลือกที่จะใช้ชีวิตท่องเที่ยวไปวันๆ ก็คือกฎที่ปู่ตั้งไว้ว่าผู้สืบทอดต้องแต่งงานและมีทายาทไว้รับช่วงต่อเท่านั้น 

    (กฎนี้ถูกตั้งขึ้นมาทีหลังตอนที่ปู่รู้เรื่องเทียนที่ชอบผู้ชาย) 

    ดังนั้นหลังจากที่ตระกูลมีกฎนี้ขึ้นมาเทียนก็รู้ทันทีว่าเขาไม่เหมาะจะรับช่วงต่อก็เลยไม่ได้สนใจที่จะศึกษางานของตระกูลกับทุกคนแล้ว เขาเลือกที่จะไปท่องเที่ยวทั่วโลกหาประสบการณ์ดีๆ ในที่ต่างๆ แล้วให้ญาติพี่น้องคนอื่นทำหน้าที่นั้นแทนเขาต่อไปแต่สุดท้ายแล้วเขาก็ยังหนีไม่พ้นเพราะคนที่ปู่ต้องการจริงๆ ไม่ใช่ใครก็ได้ที่สามารถแต่งงานมีทายาทให้เขาได้แต่มันต้องเป็นเทียนเท่านั้น และนั่นเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ปู่ของเขายังไม่ยอมวางมือจากทุกอย่างแม้ว่าตัวเองจะอายุ 70 กว่าปีแล้วก็ตาม

    "ปู่มันเป็นไม้ใกล้ฝั่งแล้ว ชีวิตนี้ไม่ขออะไรมากแค่อยากจะมีโอกาสอุ้มเหลนที่มาจากแกสักครั้ง" คุณซ่งพูดหลังจากเห็นว่าเทียนกำลังคิดไม่ตกอยู่ เทียนเงยหน้าขึ้นมามองหน้าปู่ด้วยความลำบากใจ

    "ให้เวลาผมหน่อยนะครับ" เทียนตอบ

    "แสดงว่าเทียนยอมแต่งงานมีทายาทให้ปู่แล้วใช่ไหม" คุณซ่งถามด้วยสายตาที่เป็นประกายดูก็รู้ว่าดีใจแค่ไหน

    "ไว้ปู่กลับมาแล้วผมค่อยตอบได้ไหมครับ" เทียนตอบ เขาแค่อยากยื้อเวลาออกไปสักหน่อยเพราะตอนนี้เขาทำให้ปู่ไม่ได้จริงๆ ถ้าตอบความจริงออกไปก็ดูเหมือนจะเป็นคำตอบที่ตัดกำลังใจปู่มากเกินไปแต่ถ้าจะให้โกหกเพื่อความสบายใจก็ดูจะให้ความหวังปู่ของเขาเกินไป

    "ได้ แต่ระหว่างที่ปู่ไม่อยู่เทียนต้องไปตามนัดของย่ารองนะ ไม่ว่าย่ารองจะพาหลานไปดูตัวสักกี่ครั้งหลานก็ต้องไปทุกครั้งนะ" คุณซ่งพูด

    "ครับ" เทียนตอบ

    ก๊อกๆๆ

    "คุณซ่งครับ ได้เวลาไปสนามบินแล้วครับ" เสียงวิสุทธิ์ตะโกนเข้ามาขัดจังหวะปู่หลานคุยกันอยู่พอดีแต่สำหรับเทียนแล้วเสียงนี้กับช่วยชีวิตเขาไว้มาก 

    "ได้" คุณซ่งตอบ

    "ปู่ต้องไปแล้ว" คุณซ่งหันมาบอกกับหบานชายสุดที่รัก

    "ครับ" เทียนตอบ

    "คิดให้ดีๆ นะเทียน ปู่รอคำตอบนั้นจากหลานอยู่นะ" ก่อนจะไปคุณซ่งก็ยังไม่วายใช้คำพูดเชิงกดดันเทียนเหมือนเป็นการบีบบังคับกลายๆ ว่าเทียนไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว 

    "ผมไปส่งนะครับ" เทียนพูดแล้วจะช่วยประคองคุณซ่ง

    "ไม่เป็นไร ปู่แข็งแรงดีจะตายแข็งแรงกว่าพ่อแกซะอีก" คุณซ่งตอบแล้วลุกขึ้นยืนด้วยตังเอง แม้จะอายุเยอะแกเขากับแข็งแรงมากนอกจากเจ็บตัวจากการใช้กำลังชีวิตนี้ทั้งชีวิตเทียนก็ไม่เคยเห็นปู่ของเขาป่วยจนต้องนอนโรงพยาบาลเลย

    แม้ว่าคุณซ่งจะบอกว่าไม่ต้องมาส่งแต่เทียนเดินก็ยังเดินมาส่งปู่ของเขาจนถึงรถ

    "เอาล่ะ~พอแล้ว ปู่ไปเองได้" คุณซ่งพูดเพราะเทียนเอาตามเขาอยู่ตลอด

    "เดินทางปลอดภัยนะครับปู่" เทียนพูด

    "อืม" คุณซ่งตอบ

    "แล้วก็...เรื่องเมฆ ปู่ช่วยใจดีกับเขาหน่อยนะครับ" เทียนพูด

    "อืม" คุณซ่งถอดหายใจออกมาแล้วก็ตอบ คุณซ่งเองก็เสียใจไม่น้อยที่รู้ว่าคนที่คิดไม่ซื่อกับครอบครัวคือหลานชายตัวเองเพราะงั้นเขาจึงเลือกที่จะไปจัดการด้วยตัวเองเพราะถ้าปล่อยให้พ่อของเทียนหรือคนอื่นไปจัดการเรื่องนี้ ตัวเมฆเองคงเดือดร้อนไปมากกว่านี้หรือไม่ก็อาจจะไม่รอดเลย

    เทียนยืนส่งคุณปู่ของขาจนรถขับออกไปแต่หลังจากที่ปู่ออกไปแล้วสีหน้าของเขาก็เศร้าลงไปทันที เเขาถอนหายใจออกมาด้วยความรู้สึกเหนื่อยใจเพราะไหนจะเรื่องหมิง เรื่องเมฆและก็เรื่องแต่งงานของเขาอีก ตอนนี้เขาเครียดจนอยากจะหายออกไปจากโลกนี้เลย

    "วิสุทธิ์" คุณซ่งเอ่ยเรียกวิสุทธิ์ที่นั่งอยู่ข้างคนขับ

    "ครับคุณซ่ง" วิสุทธิ์ตอบ

    "สั่งคนของเราให้จับตาดูเทียนไว้ อย่าให้มีอะไรผิดพลาดเด็ดขาด" คุณซ่งพูด

    "ครับ" วิสุทธิ์ตอบแล้วรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาใครบางคนเผื่อสั่งงานไว้ในช่วงที่เขากับคุณซ่งไปทำธุระที่ต่างประเทศ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×