ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เล่ห์รัก…ภูริทัต

    ลำดับตอนที่ #3 : เล่ห์รักบทที่1

    • อัปเดตล่าสุด 20 ก.พ. 65


    ตอนที่3

    เล่ห์รักบทที่1

    เช้าวันต่อมา

    ภูริทัตเปิดคอมพิวเตอร์ตรวจเช็คงานที่ต้องทำในวันนี้ เพราะตารางงานของเขาแพรพลอยจะเป็นคนอัพเดตให้ทราบ วันนี้ช่วงบ่ายมีประชุมประจำเดือน ฝ่ายบัญชีจะชี้แจงงบต่างๆ ฝ่ายการตลาดจะอัพเดตโปรโมชั่นที่น่าสนใจและส่งต่อจัดซื้อในการติดต่องานอื่นๆเพิ่มเติม

    มีอีเมลหนึ่งฉบับส่งจากแพรพลอยไปยังแผนกการตลาด CC.ที่อีเมลของเขา หัวข้อระบุว่า ‘เด็กฝึกงาน’ CEOหนุ่มคลิกเมลเปิดอ่าน เมื่อเห็นเนื้อหาตั้งแต่ต้นจนจบก็ยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ

    “คุณภูริคะ เขามาส่งของแล้วค่ะให้วางไว้ตรงไหนดีคะ”

    แพรพลอยโทรศัพท์เข้ามาสอบถาม ภูริทัตจึงมองออกไปนอกกระจกเห็นพนักงานร้านเฟอร์นิเจอร์กำลังขนย้ายโต๊ะเก้าอี้เข้ามาตามที่เลขาสาวบอก

    “โต๊ะนึงให้วางหน้าแผนกการตลาดเลยนะครับ ส่วนอีกโต๊ะให้เอามาวางไว้ในห้องผมเลยครับ”

     

    แพรพลอยจัดการทำตามที่หัวหน้าหนุ่มบอกถึงแม้ว่าจะสงสัยมากแค่ไหนแต่เธอก็ไม่ได้ซักถาม โต๊ะหนึ่งวางไว้ที่หน้าแผนกการตลาดส่วนอีกตัวยกเข้ามาวางในห้องCEOหนุ่ม

    “เรียบร้อยค่ะคุณภูริ”

    “ผมจะให้คุณแพรคอยสอนงานเด็กฝึกงานปีนี้นะครับ”ภูริทัตเกริ่น ซึ่งเป็นเรื่องที่แพรพลอยรู้ตัวอยู่ก่อนแล้ว แต่สิ่งที่ภูริทัตกำลังจะพูดต่อไปนี้คือสิ่งที่แพรพลอยยังไม่รู้

    “คุณแพรอาจจะเหนื่อยหน่อยนะฮะที่มีงานเพิ่ม ผมจะให้เจษฎานั่งที่หน้าการตลาดเผื่อได้ช่วยเหลือหรือเรียนรู้งานจากคุณอ็อฟฟี่ แต่หลักๆจะเป็นงานที่เรียนรู้จากคุณแพรโดยตรงนะครับ อาจจะต้องเดินไปเดินมาหรือโทรสั่งงานผ่านโทรศัพท์ เหนื่อยเพิ่มขึ้นแต่รับรองผมมีค่าตอบแทนให้หายเหนื่อยแน่นอน”

    “คุณภูริจะให้แพรเข้าไปนั่งในห้องใช่ไหมคะ งั้นเดี๋ยวแพรไปขนย้ายเอกสารแป๊บนึงนะคะ”

    “โอ๊ะ…เปล่าครับ ไม่ใช่ครับ” ภูริทัตปฏิเสธ รีบยกมือห้ามแพรพลอยที่กำลังหมุนตัวไปเก็บข้าวของตามที่เธอบอก

    “คุณแพรพลอยยังนั่งทำงานที่เดิมครับจะได้ทำงานสะดวก เดินไปเดินมาก็เหนื่อยแล้วขืนยังมานั่งในห้องอีกคงทำงานลำบากกว่าเดิมแน่ๆ โต๊ะข้างในห้องผมให้เป็นเด็กตันติยานั่งแทนละกัน เดี๋ยวผมจะช่วยสอนงานเขาเอง”

     

     

     

    เสียงพิมงานดังก็อกแก็กไม่หยุด เดี๋ยวจิ้มเดี๋ยวหยุดไม่เป็นจังหวะ ถ้าเป็นคนอื่นคงจะรำคาญจนทำงานทำการต่อไปไม่ไหว แต่เพราะต้นเหตุของเสียงคือตันหยง จึงไม่ได้สร้างความลำบากใจอะไรให้ภูริทัตเลย

    เพราะเป็นงานจริงไม่ใช่แค่การเรียนการสอนในห้องเรียนเหมือนที่ผ่านมา ทำให้ตันหยงรู้สึกว่ามันค่อนข้างยาก สาวน้อยทำงานไปก็หน้านิ่วคิ้วขมวดไป หนักเข้าก็จนถึงขั้นต้องยกมือเกาหัว

    “หน้านิ่วเชียว ไม่เข้าใจตรงไหนรึเปล่า” ภูริทัตส่งเสียงถามมาจากโต๊ะทำงานของตัวเอง ก่อนที่จะลุกมาที่โต๊ะเด็กฝึกงาน ตาก็จ้องมองไปที่คอมพิวเตอร์เจ้าปัญหา

    “ก็ตรงนี้ค่ะคุณภูริทำไมยอดขึ้นถึงติดลบล่ะคะ”ปากกาเจลถูกตันหยงชี้ไปที่หน้าจอคอมตรงจุดที่เธอกำลังสงสัย

    “ไหน…”CEOหนุ่มชะโงกหน้าไปตามจุดที่มือสาวน้อยชี้ 

    “มันมองไม่ค่อยชัดเลย”ว่าแล้วภูริทัตก็เดินอ้อมตัวมายืนข้างหลังตันหยง วางมือสองข้างลงบนโต๊ะในลักษณะคร่อมสาวน้อยจากทางด้านหลัง ก่อนที่จะแกล้งโน้มตัวลงไปใกล้ จมูกชายใกล้ชิดเรือนร่างคนนั่งมากโดยเฉพาะบริเวณต้นคอของตันหยง ใกล้จนได้กลิ่นกายสาวชัดเจน

    “หอมจัง” ชายหนุ่มพึมพำคนเดียวในลำคอเบาๆทำให้คนที่อยู่ใกล้ๆได้ยินไม่ค่อยถนัด

    “ว่ายังไงนะคะ”

    “อ๋อ ผมบอกว่าเดี๋ยวช่วยดูนะ”

    เจ้านายหนุ่มแกล้งโน้มตัวลงไปใกล้ร่างเด็กฝึกงานมากขึ้น มากจนถึงขั้นที่ว่าแผงอกแกร่งชนหลังตันหยง สาวน้อยสะดุ้งกับสัมผัสที่ไม่เคยคุ้น แต่ภูริทัตก็แก้สถานการณ์ได้ทันเขาไม่รอให้คนโดนเอาเปรียบรู้ตัว มือใหญ่ชี้ไปที่หน้าจอบริเวณที่ตันหยงชี้เมื่อกี้ พลางอธิบาย

    “ก็ตัวนี้มันคือค่าใช้จ่ายที่เราต้องซัพพอร์ตออกไปก่อน แต่ผลตอบแทนเดือนนี้ที่เราได้รับมันยังไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย หรือจะพูดง่ายๆก็คือเรายังไม่ได้ทุนคืนเลย”

    กระดาษ A4 ถูกภูริทัตดึงมาใกล้มือ CEOหนุ่มจับปากกาในมือตันหยงมาเขียนอธิบายในนั้น มือใหญ่มือเล็กสัมผัสกันโดยไม่ตั้งใจจนตันหยงต้องเก็บมือข้างนั้นลงไปไว้ที่ใต้โต๊ะแทน ลายมือที่ตวัดไปตวัดมาบนกระดาษReuse มันยุ่งเหยิงและอ่านยากมาก จนตันหยงอ่านไม่ออก

    “คุณภูริคะ หยงยังไม่เข้าใจค่ะ อ่านที่เขียนไม่ออกด้วย”สาวน้อยอึกอักบอกออกมาเสียงเบา

    “โทษที ผมลืมตัวไปน่ะ”

    และการอธิบายตามหลักการตลาดก็เกิดขึ้นอีกครั้ง ภูริทัตย้อนไปตั้งแต่เรื่อง 4P ส่วนประสมของการตลาด ที่นำมาใช้ร่วมกันเพื่อให้บรรลุเป้าหมายและเพื่อเพิ่มมูลค่าให้สินค้า ซึ่งจะมีปัจจัยหลัก 4 ประการ คือ Product, Price , Place และ Promotion  พอเกริ่นมาถึงเรื่อง4P ปุ๊บ ภูริทัตก็ยิงคำถามใส่ตันหยงทันที

    “4p สำคัญกับการตลาดยังไง”

    “มันคือการทำงานแบบมีระบบขั้นตอนค่ะ ทำให้สินค้าเติบโตได้เพราะเรารู้จุดว่าสินค้าของเราเหมาะกับกลุ่มลูกค้าประเภทไหน เราจึงสามารถนำเสนอสินค้าได้ตรงกับความต้องการของเขา”

    “ใช่ เก่งมาก” ภูริทัตเอ่ยชมออกมาจากใจก่อนที่จะก้มลงวาดวงกลมลงในA4 และแบ่งออกเป็น4ช่อง แต่ละช่องก็คือ1ใน4Pที่เพิ่งคุยกันไป

    “ในบรรดา4p คุณคิดว่าPไหนสำคัญที่สุด”

    ตันหยงเงียบไปสักพัก เธอครุ่นคิดในสิ่งที่ผู้บริหารหนุ่มถาม ก่อนที่จะตอบออกมาตามความเข้าใจของตนเอง

    “จริงๆมันก็เกี่ยวข้องสัมพันธ์กันไปหมดทุกอย่างเลยค่ะ แต่ถ้าคุณภูริถามหยงก็จะตอบว่า P.Product เพราะมันคือจุดเริ่มต้นทำให้เกิด P.อื่นๆค่ะ เพราะไม่ว่าเราจะเล่นการตลาดดีแค่ไหน สถานที่ดีมองเห็นฃ่าย มีการประชาสัมพันธ์ที่ดี มีราคาน่าซื้อแถมจัดโปรโมชั่นที่น่าสนใจมากแต่สินค้าไม่ดี ไม่มีคุณภาพก็ไม่มีประโยชน์ค่ะ เพราะสินค้าที่ดีมันจะขายตัวของมันเอง”

    “ตอบได้ดี”ภูริทัตเอ่ยชมออกมาอีกครั้ง คราวนี้เขาขีดเส้นใต้สองเส้นตรงคำว่า Product เหมือนจะบอกว่าตัวเขาก็เห็นดีเห็นงามกับเหตุผลที่ตันหยงบอก จังหวะนั้นตันหยงก็ขยับตัวนิดหน่อยขับไล่ความเมื่อย ทำให้ร่างกายคนทั้งคู่เข้าใกล้กันมากกว่าเดิม ใกล้จนตันหยงสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนๆจากร่างภูริทัต

    “อุ๊ย ขอโทษค่ะ”

    “ไม่เป็นไร ผมก็ต้องขอโทษคุณเหมือนกันที่เข้าใกล้คุณมากเกินไป”

    ผู้บริหารหนุ่มยืดตัวขึ้นสูงและสะบัดมือไปมาไล่ความเมื่อย จริงๆก็รู้สึกดีแหละที่ได้ใกล้ชิดนางในฝันแต่พอทิ้งน้ำหนักตัวลงบนแขนนานๆมันก็เมื่อย เผลอๆแขนจะกลายเป็นตะคริวเอาซะอีก

    “ทีนี้คุณก็คงเข้าใจตัวเลขมากขึ้นแล้วสินะ คีย์ลงไปตามข้อมูลที่ได้รับเลย มันผูกสูตรเอาไว้แล้วถึงจะติดลบก็ไม่เป็นไร เสร็จแล้วก็ส่งเมลให้คุณแพรพลอยนะเดี๋ยวทางนั้นเขาจะเอาไปจัดการต่อเอง”

    “ค่ะ…”

    กล่าวจบภูริทัตก็เดินกลับมานั่งโต๊ะตัวเอง เมื่อเห็นว่าตันหยงก้มหน้าก้มตาทำงานต่อ ชายหนุ่มก็ยกมือข้างที่สัมผัสมือนุ่มขึ้นมาสูดดมใกล้ๆ

    “หอมจริงหอมนาน หอมติดมือเลย”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×