ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เล่ห์รัก…ภูริทัต

    ลำดับตอนที่ #2 : เด็กฝึกงานคนใหม่

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 200
      5
      19 ก.พ. 65

    ตอนที่2

    เด็กฝึกงานคนใหม่

    เสียงดังจอแจจากข้างนอกดังลอดมาจนถึงห้องของผู้บริหารหนุ่ม ภูริทัตสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น ชายหนุ่มวางแฟ้มเอกสารในมือลงก่อนที่จะเดินไปหาเลขาสาวที่อยู่หน้าห้อง

    “อ้าวคุณภูริ ต้องการอะไรเหรอคะ”

    เพราะปกติเวลามีเรื่องเร่งด่วนภูริทัตจะต้องสั่งงานทางโทรศัพท์ตลอด แต่ครั้งนี้เขาออกมาด้วยตัวเองจึงทำให้แพรพลอยอดกังวลไม่ได้ว่าตนเองทำอะไรพลาดไปรึเปล่า

    “แผนกการตลาดมีอะไรเหรอคุณแพร ผมได้ยินเสียงดังมาสักพักละ”

    “อ๋อ…” ได้ยินแบบนั้นค่อยใจชื้นขึ้นมาหน่อย นึกว่าทำงานผิดพลาดซะอีก แพรพลอยพ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอกก่อนที่จะรีบอธิบายเจ้านายหนุ่ม

    “คุณภูริจำเรื่องเด็กฝึกงานจากโครงการสิทธิณีย์พูลทรัพย์ได้ไหมคะ วันนี้น้องๆมารายงานตัวกันเป็นวันแรกค่ะ เห็นบอกว่าน้องผู้หญิงน่ารักมากส่วนน้องผู็ชายก็หล่อดู แผนกการตลาดก็เลยคึกคักอย่างที่เห็นนี่แหละค่ะ”

    “มาแล้วเหรอ ทำไมมากันเร็วจัง ตามกำหนดบอกว่าจะมาวันอังคารนี่นา”

    “ก็วันนี้วันอังคารแล้วนะคะคุณภูริ”

    “อ้าวเหรอ…” พูดไปก็อายไป บอกใครแล้วใครจะเชื่อว่าผู้บริหารหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงแบบเขาจะบ้างานจนลืมวันลืมเวลาแบบนี้

    “ไหนๆก็มาละ งั้นผมก็คงต้องไปต้อนรับพวกเขาหน่อยสินะ”

    ต้อนรับ?

    แพรพลอยถึงกับทำหน้างงกับสิ่งที่เจ้านายหนุ่มบอก ตั้งแต่เธอทำงานที่นี่มาไม่เคยเห็นคุณภูรินทร์ไปต้อนรับเด็กฝึกงานมาก่อน ที่ผ่านมาจะเป็นหน้าที่ของHR ที่จะเป็นคนพาเด็กๆไปแนะนำยังแผนกที่ต้องฝึก และมอบหมายให้ผู้จัดการฝ่ายการตลาดคอยมอบหมายงานให้ตามความเหมาะสม

    แต่ครั้งนี้ภูริทัตเล่นไปต้อนรับเด็กฝึกงานสองคนนั่นด้วยตัวเองราวกับว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ มันน่าแปลกใจอยู่นะ

     

     

    “พี่ชื่อพี่อ็อฟฟี่ เป็นผู้จัดการฝ่ายการตลาดและจะเป็นหัวหน้าพวกเราโดยตรงตลอดการฝึกงานครั้งนี้ มีอะไรก็ปรึกษาพี่ได้นะคะ” ผู้จัดการสาวประเภทสองแนะนำตัวเองเสียงแหลมสูงและยกมือรับไหว้เด็กฝึกงานทั้งสองที่ทำความเคารพตนเองตามมารยาท

    “ส่วนนี่ก็เป็นพี่ๆในแผนกการตลาด เดี๋ยวให้พี่ๆเขาแนะนำตัวเองละกัน เริ่มจากคนแรกเลยชื่อไมค์”

    ไมค์แนะนำตัวเป็นคนแรก เขาเป็นรุ่นพี่ของโครงการเดียวกันกับทั้งคู่ มาฝึกงานเมื่อปีที่แล้วพอเรียนจบก็เข้ามาสมัครงานและตอนนี้เป็นพนักงานของวงศ์ปริญญากรุ๊ปเต็มตัวแล้ว

    เสียงพนักงานการตลาดของวงศ์ปริญญากรุ๊ปแนะนำตัวเองกันทีละคนจนครบ ก่อนที่หน้าที่การแนะนำตัวเองจะเปลี่ยนมาเป็นเด็กฝึกงานทั้งสองคนแทน

    “เอาล่ะ ถึงตาพวกเธอแนะนำตัวแล้ว”อ็อฟฟี่บอก

    “สวัสดีครับ ผมชื่อเจษฎา มโนรัมย์นะครับ เรียกสั้นๆว่าท็อปก็ได้ อายุ22ปีครับ ”

    เสียงสาวๆกรี๊ดกร๊าดดังลั่นเมื่อได้ยินท็อปแนะนำตัวเอง ไม่เว้นแม้แต่ผู้จัดการแผนกอย่างคุณอ็อฟฟี่ที่เปล่งเสียงออกมาด้วยราวกับอดใจไว้ไม่ไหว ก็ไม่แปลกหรอกนะ เพราะผู้จัดการก็เป็นชายแค่เพศสภาพเท่านั้นส่วนจิตใจนั้นเป็นผู้หญิงร้อยเปอร์เซ็นต์ ส่วนท็อปนั้นก็น่าตาหล่อเหลามาก น่ารักน่าเอ็นดู ถ้าในสายตาของอ็อฟฟี่คงเข้าขั้นคำว่า น่ากิน

    “แล้วเธอล่ะชะนี ชื่ออะไร ไหนแนะนำตัวมาซิ”

    ภูริทัตก้าวขาเข้ามาใกล้วงสนทนามากยิ่งขึ้นเพื่อที่จะได้เห็นใบหน้านักศึกษาสาวให้ชัดมากขึ้น เป็นจังหวะเดียวกันกับที่นักศึกษาคนนั้นก้าวเท้าขึ้นมากลางวงเพื่อแนะนำตัวเองบ้าง

    “สวัสดีค่ะ ชื่อตันหยงนะคะ นางสาวตันติยา ผาสุข อายุ21ปีค่ะ”

    เสียงกรี๊ดกร๊าดจากสาวๆตอนได้ยินท็อปแนะนำตัวว่าดังแล้ว แต่เสียงแซว เสียงผิวปากจากหนุ่มๆตอนตันหยงแนะนำตัวดังกว่าอีก ภูริทัตก็เป็นอีกคนที่ให้ความสนใจ เขาเพ่งพิศมองไปที่ร่างบางของนักศึกษาคนนั้นก่อนที่จะเผยรอยยิ้มมุมปากขึ้นเรื่อยๆ

    “น่ารัก น่ารักกว่าในรูปเยอะเลย”

     

     

    “คุณแพร ช่วยโทรบอกคุณอ็อฟฟี่มาคุยกับผมที่ห้องหน่อยครับ เรื่องเด็กฝึกงาน” ภูริทัตกรอกเสียงสั่งงานเลขาสาวรุ่นพี่ทันทีที่มาถึงห้อง นักธุรกิจหนุ่มควงปากกาในมือเล่น ก่อนจะตอบคำถามที่ผู้ช่วยสาวถามกลับ

    “ไม่มีอะไรมากหรอกครับ ก็แค่เรื่องเด็กฝึกงานนั่นแหละ”

    “ครับ ขอบคุณครับ”

     

     

    “คุณอ็อฟฟี่มาแล้วค่ะคุณภูริ”

    เลขานุการสาวเคาะห้องเป็นเชิงขออนุญาตก่อนที่จะเลื่อนประตูกระจกให้แง้มเปิดเพียงเล็กน้อย เมื่อCEOหนุ่มเงยหน้าขึ้นรับรู้เธอก็ผายมือเชื้อเชิญแขกให้เข้ามานั่งรอด้านในก่อน

    “เชิญด้านในก่อนค่ะคุณอ็อฟฟี่เดี๋ยวแพรจะไปยกน้ำมาเสิร์ฟนะคะ”

    แก้วน้ำเย็นเจี๊ยบถูกยกมาวางเสริ์ฟตรงโต๊ะรับแขก มีหัวหน้าแผนกการตลาดนั่งรออยู่ก่อนแล้ว อ็อฟฟี่มีท่าทีกระวนกระวายใจเพราะไม่สามารถเดาอารมณ์เจ้านายหนุ่มได้เลยว่ากำลังคิดอะไรอยู่ ร้อยวันพันปีภูริทัตไม่เคยจะมานั่งคุยงานเป็นกิจจะลักษณะแบบนี้ ถ้ามีงานเร่งด่วนอะไรก็จะเป็นแพรพลอยต่างหากที่ส่งเมล์แจ้ง

    สักพัก ภูริทัตก็วางแฟ้มเอกสารในมือลงและเดินมานั่งตรงข้ามอ็อฟฟี่ที่รออยู่ก่อนแล้ว

    “คุณภูริมีอะไรเร่งด่วนให้อ็อฟฟี่จัดการเหรอคะ” ผู้จัดการสาวสองเอ่ยออกมาอย่างหวาดๆ ไม่แน่ใจว่าตัวเองทำอะไรผิดรึเปล่า

    “ช่วยเล่าเรื่องเด็กฝึกงานในปีที่ผ่านๆมาให้ผมฟังทีครับ ว่าเราสอนงานอะไรเขาไปบ้าง”

    “ก็สอนงานการตลาดทั่วไปที่เขาจำเป็นต้องรู้แหละค่ะคุณภูริ” อ็อฟฟี่ค่อยยิ้มออก ผู้จัดการสาวสองค่อยๆอธิบายเนื้องานที่ตัวเองเทรนงานน้องๆฝึกงานแต่ละคนเองกับมือให้เจ้านายหนุ่มฟัง

    “แต่เท่าที่ผมดูข้อมูลย้อนหลังเหมือนเด็กฝึกงานจะไม่ได้ทำอะไรมากเลยนะครับ วันๆก็มีแค่ชงกาแฟ ไปซื้อของตามร้านสะดวกซื้อให้รุ่นพี่ ถ่ายเอกสารทั้งวันและเป็นแมสเซนเจอร์เดินเอกสารระหว่างแผนกเท่านั้น”

    “แหมมม…..ใครกันนะที่ให้ข้อมูลคุณภูริผิดๆแบบนั้น” อ็อฟฟี่ลากเสียงสูงก่อนที่จะแสร้งยกแก้วน้ำขึ้นมาจิบ หลบสายตาคมเข้มเจ้านายหนุ่มที่มองมาอย่างจับผิด

    “อากาศร้อนๆได้จิบน้ำเย็นๆแล้วชื่นใจนะคะ แหะๆ”

    “……” ภูริทัตไม่เล่นด้วยยังคงจ้องหน้าอ็อฟฟี่เขม็งเหมือนเดิม

    “โอเคค่ะคุณภูริ งั้นอ็อฟฟี่ขออนุญาตบอกตรงๆเลยละกันนะคะ มันก็ต้องมีอยู่แล้วอ่ะไอ้เรื่องเสิร์ฟนงเสริ์ฟน้ำหรือเทกแคร์รุ่นพี่ตามประสารุ่นน้องที่อยากฝากเนื้อฝากตัวค่ะ ส่วนไอ้เรื่องถ่ายเอกสารหรือเดินส่งเอกสารให้แผนกอื่นๆมันก็เป็นงานที่เกี่ยวข้องกับงานที่ต้องทำทั้งนั้น เพราะเอกสารบางอย่างมันก็ต้องให้หัวหน้าแผนกอื่นๆเซ็นต์อนุมัติร่วมด้วย อย่างเช่นฝ่ายจัดซื้อจัดจ้างไงคะ”

    “ครับ” ภูริทัตท่าทางผ่อนคลายมากขึ้น ชายหนุ่มเอนหลังพิงเบาะโซฟานุ่มรอฟังอ็อฟฟี่อธิบายต่อ

    “แต่ถ้าปีไหนมีนักศึกษาฝึกงานหลายคนเราก็จะแบ่งน้องๆไปที่แผนกอื่นที่สามารถสอนงานที่เหมาะสมกับการเรียนของน้องๆ สามารถประยุกต์ใช้ได้จริง อย่างเช่นปีที่แล้วไงคะที่เรามีเด็กๆฝึกงานถึงห้าคน ไมค์ก็เลยโดนดึงไปฝึกงานแผนกจัดซื้อจัดจ้างแทน”

    และเป็นคนเดียวที่กลับมาทำงานที่นี่ต่อด้วย ภูริทัตคิด ถ้าเขาเดาสถานการณ์ไม่ผิดแสดงว่าเด็กฝึกงานคนอื่นๆที่เข้ามาฝึกงานที่ฝ่ายการตลาดไม่มีใครได้ความรู้เป็นชิ้นเป็นอันติดตัวไปเลย คงทำเป็นแค่ชงกาแฟ ถ่ายเอกสาร บลาๆๆ ป่านนี้คงเรียนจบและหันเหไปเปิดร้านชานมไข่มุก หรือเปิดร้านถ่ายเอกสารเป็นธุรกิจส่วนตัวไปแล้ว

    เฮ้อ..คิดแล้วก็สงสารบริษัท เปิดรับเด็กฝึกงานมาตั้ง24ปี แต่มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ได้ประโยชน์จากการฝึกงานจริงๆ แถมเป็นคนที่โดนไล่ให้ไปฝึกงานจากแผนกที่ไม่ได้เลือกซะด้วย

    “โอเคครับคุณอ็อฟฟี่ งั้นต่อไปนี้ผมจะรับผิดชอบชีวิตเด็กฝึกงานสองคนนี้เองครับ”

    “คะ ยังไงนะคะ” อ็อฟฟี่สะดุ้งสุดตัวแทบปล่อยให้แก้วน้ำร่วงหล่น อุทานออกมาเสียงหลง 

    “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปผมจะให้ทั้งเจษฎาและตันติยามาเรียนรู้งานกับคุณแพรพลอย การสอนงานทุกอย่างรวมทั้งการประเมินผ่านงานจะขึ้นอยู่กับผมคนเดียวเท่านั้น ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะครับ”

    อ็อฟฟี่ยังงงกับสิ่งที่เจ้านายหนุ่มบอกไม่หาย จนภูริทัตต้องลุกขึ้นและเดินไปเปิดประตูเชื้อเชิญอีกฝ่ายด้วยตนเอง

    “จบเรื่องแล้วครับคุณอ็อฟฟี่ เชิญออกไปได้ครับ”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×