ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    With You

    ลำดับตอนที่ #4 : CHAPTER IV : OPENING THE WOUNDS.

    • อัปเดตล่าสุด 11 พ.ค. 49


    CHAPTER IV : OPENING THE WOUNDS

     

    Note : หายหัวไปนานมากเนื่องจากเน็ตมีปัญหานิดหน่อย หลังจากนี้เป็นต้นไปจะอัพให้ถี่กว่าเดิมให้จบก่อนเดือนสิงหาให้ได้เพราะข้าน้อยจะบ๊ายบายหนีไปเรียนหนึ่งปี[อยากเอาคอมไปด้วย แต่มันเอาไปไม่ได้ - -‘’] เรื่องในตอนนี้อาจจะบรรยากาศซ้ำๆกับตอนที่ผ่านมา จะพยายามเขียนให้เรื่องมีหลายอารมณ์และหลายบรรยากาศขึ้นมากกว่านี้ฮับ>< ต้องขอบคุณพี่ Anonymous มากๆที่ช่วยให้คำปรึกษา ละก็ ผู้ใดที่เข้ามาอ่าน เมนท์ให้ด้วยจะเป็นพระคุณ จุ๊บๆ [เมนท์มาเถอะ เราไม่ถือโทษโกรธา ไม่ตามไปบอมบ์เมล แครกเครื่องหรอก]




     

     

     

    Chapter IV : OPENING THE WOUNDS

     

     

     

                แล้วเจอกันวันจันทร์

     

                อื้ม

     

     

                โทรุโบกมือลาเจย์ ท่าทางร่าเริงก่อนจะหันหลังกลับไป เดินแยกไปอีกทางหนึ่งของถนน เจย์ยืนมองจนร่างนั้นลับสายตา แต่ก็ยังไม่ขยับเขยื้อนไปไหน มือกำแผ่นซี่ดีที่เพิ่งซื้อมาด้วยกันแน่น สมองนึกทบทวนเหตุการณ์เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา แล้วความรู้สึกหลากหลายก็หลั่งไหลเข้าถาโถมเหมือนน้ำเต็มแก้วที่ถูกผลักตกลงมาจากที่สูง กว่าจะหลุดจากภวังค์ความคิดก็ตอนที่รู้สึกถึงร่างคล้ายถูกจับเหวี่ยงขึ้นไปในอากาศแล้วหล่นลงมากระแทกกับพื้นคอนกรีตเบื้องล่างอย่างแรง ความมึนงงตามติดด้วยความเจ็บจี๊ดจากหัวถึงปลายเท้าเข้าแทนที่ แต่ยังมีสติพอจะได้ยินเสียงใครคนหนึ่งตะโกนพร้อมกับวิ่งไถวัตถุแบนๆมีล้อไปตามพื้นอย่างรวดเร็ว

     

     

                อย่าเหม่อนักสิ พี่สาว!”

     

     

                เจย์ทันเห็นร่างเจ้าของเสียงบนเสก็ตบอร์ด หายลับไปจากสายตาแทบจะทันที ก่อนจะวางใบหน้าลงแนบพื้นดังเดิม ริมฝีปากสัมผัสรสเลือดบางเบาและความเย็นเยียบของคอนกรีต แล้วสักพักก็มีเสียงเปาะแปะดังขึ้นรอบๆ พร้อมกับหยดน้ำปรอยลงมาจากฟ้าที่เปลี่ยนเป็นสีหม่นมัว เจย์ยังคงนอนแน่นิ่งอยู่อย่างนั้น

     

     

                สองมือตอนนี้ว่างเปล่า

     

     

                ร่างบางผุดลุกขึ้นเหมือนโดนไฟช็อต มือทั้งสองรัวตบบนพื้นรอบตัวเหมือนคนบ้า สายตากวาดหากล่องซีดี แต่มันเริ่มพร่ามัวด้วยหยาดน้ำฝนที่เทกระหน่ำลงมาจะทัศนียภาพมืดมัว กระแทกผิวหนังส่วนที่โผล่พ้นเสื้อผ้าจนรู้สึกเจ็บ จนในที่สุด ปลายนิ้วก็สัมผัสกับกล่องพลาสติกแข็งๆ เจย์รีบคว้ามันขึ้นมา เพ่งมองรอยร้าวรอยใหญ่ที่พาดผ่านบนนั้น แผ่นซีดีของโทรุ

     

     

                เจย์เอียงกล่องไปอีกด้านหนึ่ง น้ำไหลจ๊อก ปกข้างในเปียกแฉะ

     

     

     

     

     

                เข้าวันเสาร์ เจย์โชคดีพอที่วิลกลับมาก่อนหน้าที่เขาจะตื่น แล้วตอนนี้เขาก็หลับไปแล้ว ในสภาพเมาเละเทะ เจย์เหลือบตามองเข้าไปในห้องที่รกเลอะเทอะอย่างกับรังหนูของพ่อบุญธรรมผ่านรอยแง้มของประตู เด็กหนุ่มไม่รู้ตัวว่ายืนมองอยู่นานแค่ไหน เลือดในกายร้อนระอุขึ้นเล็กน้อยจากความรู้สึกบางอย่างที่ส่วนหนึ่งของเขาปฏิเสธมาตลอดและเสียใจจนอยากหายไปจากโลกเพราะเขา...

     

     

    เขาสะดุ้งเฮือก ตื่นจากภวังค์เมื่อร่างสูงบนเตียงขยับ ขาสองข้างไม่รอคำสั่งใดๆจากสมองอีกแล้ว มันกระชากเจ้านายของตนกึ่งวิ่งกึ่งกระโดดลงบันไดอย่างลืมตาย หัวใจเต้นโครมครามเมื่อมาถึงชั้นล่างเหมือนจะหลุดออกมาให้ได้ ราวกับใครเอาสายไฟมาจี้มือที่เปียกน้ำอย่างไรอย่างนั้น

     

     

    เสียงบันได้ไม้ลั่นอ๊อดแอ๊ด เหมือนเป็นคำพิพากษาเร่งเร้าให้เลือดในกายร้อนจนระเบิดทะลักออกมาให้รู้แล้วรู้รอด ร่างของวิลปรากฏอยู่ต่อหน้าสภาพของเจย์ที่ตอนนี้ลงไปนั่งกองอยู่กับพื้น เข่าทั้งสองข้างขึ้นชัน ตัวสั่นเทา

     

     

    แกจะเสียงดังไปถึงไหน... ฉันหลับอยู่นะ

     

    ข...ขอโทษฮะ...

     

     

    เจ้าของใบหน้าสลึมสลือแบบคนเพิ่งสร่างฤทธิแอลกอฮอลล์อยู่ในชุดเสื้อผ้าซึ่งเจย์เดาว่าคงไม่ได้เปลี่ยนตั้งแต่เมื่อวาน เขาเป็นคนตัวสูง สูงกว่าเจย์มาก และถึงจะอยู่ในสภาพแบบนี้ก็ยังดูหล่อเหลา เจย์จำได้ว่าแม่พูดถึงผู้ชายคนนี้อย่างไรตอนที่เจอกันครั้งแรก เธอยิ้มเหม่อลอยเหมือนพูดอยู่ในความฝันอันแสนหวาน ...เขาน่ารักเหลือเกิน...เป็นสุภาพบุรุษเหลือเกิน...อย่างกับผู้ชายในฝัน...

     

     

    ความรู้สึกเหมือนถูกดาบน้ำแข็งทิ่มเข้ากลางหัวใจ, เจย์ก้มหน้าลงกับพื้น หลับตาแน่น

     

     

    ฉันจะลงมา อีกสิบนาที วิลตะคอกใส่ ถ้าแกยังทำอะไรไม่เรียบร้อยล่ะก็...

     

     

    แล้วเขาก็เดินปึงปังขึ้นบันไดไป เจย์ยังตัวสั่นไม่หาย กัดฟันแน่น ดวงตาเริ่มแสบจากการกลั้นน้ำตา

     

     

    มื้ออาหารเช้าดำเนินไปอย่างเงียบงัน เป็นปกติ ไม่มีการเปิดทีวีหรือวิทยุ เจย์ราดบลูชีสใส่มักกะโรนีซอสชีสซึ่งแม่มักจะมองอย่างขำๆเสมอ พอคิดถึงเรื่องนั้น เสียงหัวเราะของเธอช่างห่างไกลและค่อยๆจางหายไปจากความทรงจำกับกาลเวลา ทุกๆอย่างเกี่ยวกับเธอ เจย์พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่คิดถึงและแสร้งทำเหมือนหญิงผู้ให้กำเนิดตัวเขาเองคนนี้เป็นเพียงแค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่มีความเกี่ยวข้องอะไร

     

     

    เจย์สะดุ้งเมื่อจู่ๆเสียงแหบห้าวของวิลดังแทรกเข้ามาในโสตประสาท

     

     

    โรงเรียนเป็นไงบ้าง

     

     

    คำถามเดิมๆ, ทุกครั้งในมื้ออาหารเช้า ไม่รู้เขาจะสนใจ อะไร เกี่ยวกับเรื่องที่โรงเรียนนักหนา อย่างไรก็ตาม เจย์ก็ตอบกลับไปแบบเดิมๆเช่นกัน

     

     

    ก็ดีฮะ...

     

     

    ไม่มีการพูดคุยอะไรกันอีกหลังจากคำถามสั้นๆนั้น เจย์ลุกขึ้นเก็บจานทั้งหมดไปล้างพลางผ่อนลมหายใจเข้าออกอย่างใจเย็น ความรู้สึกเกร็งค่อยๆจางหายไป ในหัวนึกวางแผนฆ่าเวลายามบ่ายวันเสาร์ข้างนอกบ้าน ซีดีอีกซักแผ่นกับการนั่งดูแก๊งสเก็ตบอร์ดริมชายหาดคงเป็นอะไรที่เพอร์เฟ็ค.......

     

     

    เขาสะดุ้งเฮือกเมื่อรู้สึกถึงความเคลื่อนไหวข้างหลัง ใกล้ๆนี้เอง ลมหายใจอุ่นๆของใครบางคนเป่ารดต้นคอ พร้อมมือคู่ที่คุ้นเคยโอบกอด ลูบไล้ไปทั่วบริเวณหน้าท้อง ส่งความเย็นวาบให้แล่นไปทั้งกระดูกสันหลัง

     

     

    พ...พ่อ...ฮะ?...

     

     

    เกิดเสียงแคร้งดังสนั่น เจย์ถูกเหวี่ยงกลับไปยังโต๊ะกินข้าว ท้องกระแทกอย่างแรงจนจุก เขาครางอย่างเจ็บปวด วิลลากมือไปตามเส้นผมเล็กสีแดงเพลิงและกระชากมันขึ้นทำให้เขาต้องเงยคออย่างขืนไม่ได้ ร่างสูงเบียดตัวแนบชิดกับเด็กหนุ่มผู้ไร้ทางสู้ แนบริมฝีปากกระซิบใส่ช่องหูและพ่นลมหายใจเข้าไปอย่างหื่นกระหาย

     

     

    แกมันยั่วจริงๆนะ...อย่างนี้สิที่ฉันชอบ...

     

     

    ปลายลิ้นอุ่นชื้นเลียทั่วใบหูของร่างบาง เจย์กำหมัดแน่นกระแทกข้อศอกเข้ากับร่างกายสักส่วนหนึ่งของวิลอย่างแรงจนร่างนั้นเซ ก่อนจะพลิกตัวกลับหันมาเจอกับใบหน้าโกรธจัด และเขาก็เหมือนถูกโซ่ล่องหนพันธนาการ ความมุ่งมั่นที่จะเอาตัวรอดเมื่อครู่หายวับ

     

     

    หึ...จริงสินะ...ถ้าแกยอมตลอดมันก็ไม่สนุกสินะ....ได้... วิลกระชากข้อมือทั้งสองของเจย์ซึ่งตอนนี้แข็งเป็นหินไปแล้วขึ้นรวบเหนือหัว กระแทกเขากับโต๊ะอีกครั้ง คราวนี้กระดูกสันหลังที่ส่งความเจ็บปวดรวดร้าว ฉันจะสนองแกให้หายอยากเลย....เจย์

     

     

    เสียงหัวเราะ... เจย์ได้ยินเสียงหัวเราะ เสียงหัวเราะของคนเป็นร้อย ดังก้องอยู่ในจิตใต้สำนึกของเขาเอง และดูเหมือนจะไม่มีวันหยุด เหมือนน้ำตาที่ไหลพรั่งพรู เมื่อวิลเริ่มต้นมัน  ทั้งสองยังคงอยู่บนโต๊ะ ครึ่งตัวของเจย์ถูกกดนอนราบกับพื้นไม้ที่เมื่อครู่เป็นที่วางอาหารเช้า แต่แล้ววิลก็เกิดเปลี่ยนใจ ชายหนุ่มกระชากข้อมือลูกชายบุญธรรมขึ้นเหวี่ยงลงพื้น ลากร่างเล็กบางไปยังหลังห้องครัวเหมือนตุ๊กตาผ้า เขาสะอึกสะอื้น แต่ไม่กรีดร้อง วิลคว้าเอาผ้าเช็ดมือแถวๆอ่างล้างจานขยำเป็นก้อนยัดเข้าไปในปากของเขา มือข้างหนึ่งยังคงรวบข้อมือที่บอบช้ำแล้วเอาไว้ เจย์รู้สึกว่ารอยแผลตรงนั้นกำลังเปิด และมันเจ็บจนแทบบ้า

     

     

    พูดเมื่อฉันสั่งให้แก...พูด

     

     

    ครั้งแรก น่ะ แกว่าง่ายกว่านี้ตั้งเยอะไม่ใช่เหรอ ฮึ?

     

     

     

     

     

    เจ็บสาหัส

     

     

     

     

     

    END CHIV : OPENING THE WOUNDS

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×