The Black Wizard's Revenge (การล้างแค้นของพ่อมดดำ) - นิยาย The Black Wizard's Revenge (การล้างแค้นของพ่อมดดำ) : Dek-D.com - Writer
×
NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ
  • มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง
  • มีเนื้อหาที่เครียดหรือหดหู่มาก ซึ่งอาจกระทบต่อภาวะทางจิตใจ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด

    The Black Wizard's Revenge (การล้างแค้นของพ่อมดดำ)

    ในโลกแฟนตาซีที่มีความโหดร้ายของมนุษย์ และนักเวทย์ดำที่ต้องการจะแก้แค้นสิ่งที่ศัตรูทำกับเขา เนื้อหามีความรุนแรง ฉากล่อแหลม และมีจุดที่คาดไม่ถึงและเดาทางยากให้ผู้อ่านได้ลุ้นกับเนื้อเรื่องตลอด

    ผู้เข้าชมรวม

    490

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    79

    ผู้เข้าชมรวม


    490

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    14
    หมวด :  แฟนตาซี
    จำนวนตอน :  15 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  3 ก.ย. 67 / 12:36 น.
    คำเตือนเนื้อหา NC

    มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ, มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง, มีเนื้อหาที่เครียดหรือหดหู่มาก ซึ่งอาจกระทบต่อภาวะทางจิตใจ

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    บทนำ

    ในโลกแห่งหนึ่งซึ่งมนุษย์สามารถใช้เวทมนตร์ได้ โดยมีหลายเผ่าพันธ์นอกเหนือจากมนุษย์อาศัยอยู่ด้วย เรื่องราวได้เริ่มต้นขึ้นที่อาณาจักรแห่งหนึ่งที่ชื่อว่า “อาณาจักรดรัม” ซึ่งเป็นอาณาจักรที่โดดเด่นในด้านทรัพยากร กำลังทหาร วิทยาศาสตร์ วัฒนธรรม และศาสนาเหนือกว่าอาณาจักรอื่นๆ มาก มีคำกล่าวว่า หากเกิดสงครามขึ้น อาณาจักรดรัมย่อมสามารถทำลายอาณาจักรอื่นๆ ได้ภายในเวลาเพียง 3 วันเท่านั้น

    อาณาจักรดรัมมีภูมิประเทศที่หลากหลาย โดยเมืองหลวงที่มีชื่อว่า “แองเจิลไซส์” มีความเจริญรุ่งเรืองมากกว่าในเมืองอื่น ๆ ในอาณาจักรนี้ เมืองแต่ละเมืองจะถูกเรียกว่า รัฐ ซึ่งรัฐแต่ละแห่งมีลักษณะภูมิประเทศที่แตกต่างกันออกไป ตัวอย่างเช่น บางรัฐอาจเต็มไปด้วยหิมะ ในขณะที่บางรัฐอาจมีทิวทัศน์แบบทะเลทราย เนื่องจากอาณาจักรดรัมมีขนาดใหญ่มหาศาล และมีการปกครองในรูปแบบของเจ้านครรัฐที่ดูแลแต่ละรัฐเป็นหลัก

    ในยุคสมัยนั้น ตำแหน่งราชาไม่ได้รับอำนาจที่เบ็ดเสร็จในทุกเรื่อง และไม่สามารถตัดสินใจได้ตามใจชอบ โดยเฉพาะในรัฐที่มีกำลังทหารเข้มแข็ง ซึ่งสามารถยึดครองเมืองของราชาได้อย่างง่ายดาย ส่งผลให้เจ้านครรัฐมีอำนาจที่สูงขึ้น ราชาจึงต้องรับฟังความคิดเห็นและเสียงของเจ้านครรัฐด้วยเช่นกัน

    ถ้ากล่าวถึงเรื่องเผ่าพันธ์ เผ่าพันธ์มนุษย์จะมีอำนาจมากที่สุด และมนุษย์ทุกคนจะมีพลังเวทย์อยู่ในตัวแต่การที่จะเป็นนักเวทย์และร่ายเวทย์ออกมาได้นั้นต้องอาศัยการฝึกฝนอย่างหนัก และต้องมีพรสวรรค์ทางสายเลือดด้วยเช่นกัน 
    ดังนั้นคนส่วนใหญ่จึงทำอาชีพค้าขายเป็นหลัก รองลงมาจะเป็นอาชีพทหาร และสุดท้ายคือ *นักแก้ปัญหา 

    *หรืออาจจะเรียกว่านักผจญภัยก็ได้ แต่ในโลกนี้ไม่ได้มีมอนสเตอร์ หรือเผ่าปิศาจ หรือจอมมารมาให้กำจัด ทำให้อาชีพนี้ถูกเรียกว่า นักแก้ปัญหา แทนนั่นเอง 

    โดยจะมีการแบ่งชั้นทางสังคม: ในโลกนี้ สังคมมนุษย์อาจจะแบ่งชั้นออกตามความสามารถทางเวทย์มนตร์ และอาชีพที่เลือกประกอบเป็นหลัก

    1. ชั้นสูง (House of Arcane) - ประกอบด้วยครอบครัวที่มีสายเลือดนักเวทย์ที่ทรงพลัง มีบทบาทสำคัญในการปกครองและวางกฎเกณฑ์ของโลก พวกเขาอาจจะเป็นผู้ดูแลวิหารหรือสถานที่ฝึกฝนการใช้เวทย์มนตร์
    2. ชั้นกลาง (Guildsmen) - ผู้ที่มีความสามารถทางเวทย์บางส่วน แต่ไม่ได้มีสายเลือดพิเศษ พวกเขามักจะทำงานเป็นพ่อค้า นักประดิษฐ์อาวุธเวทย์ หรือนักแก้ปัญหา
    3. ชั้นล่าง (Commonfolk) - กลุ่มคนที่ไม่มีพลังเวทย์หรือมีน้อยมาก อาศัยการฝึกฝนทางร่างกายและใช้ชีวิตในอาชีพที่ไม่เกี่ยวข้องกับเวทมนตร์มากนัก เช่น ทหาร หรือชาวนา

    การต่อสู้ส่วนใหญ่จะใช้ดาบเป็นหลัก รองลงก็เป็นอาวุธระยะไกลอย่างธนู แต่อาวุธในเรื่องนี้จะมีพลังเวทย์อยู่ด้วยทำให้การโจมตีมีพลังทำลายสูงมาก ไม่ต่างจากการยิงปืนในยุคปัจจุบันเลย ส่วนนักเวทย์ที่ใช้คทานั้นมีจำนวนเพียงหยิบมือเท่านั้น เพราะประชาชนส่วนใหญ่ไม่นิยมที่จะฝึกและอยากเป็นนักเวทย์เพราะไม่ได้แข็งแกร่งเสี่ยงต่อการตายสูง แถมตอนที่ขณะร่ายเวทมนตร์ ยิ่งพลังทำลายสูงก็ยิ่งต้องใช้เวลาร่ายนานเท่านั้น ทำให้เป็นอาชีพที่ไม่นิยม หากแต่คนที่มีสายเลือดนักเวทย์ที่ยิ่งใหญ่ ก็จะมีพลังเหนือมนุษย์เอามากๆ เรียกได้ว่าเกิดมาเพื่อเป็นนักเวทย์ 

    ในการต่อสู้ด้วยพลังเวทย์ในเรื่องนี้จะต้องมีการวางแผนและคิดมาอย่างดี มิฉะนั้นก็อาจจะโดนทหารที่ถือดาบเวทย์กระจอกๆ แค่คนเดียวฟันตายในดาบเดียวนั่นเอง

    ในอดีตอันไกลโพ้น เมื่อครั้งที่โลกยังอยู่ภายใต้เงื้อมมือของเผ่านางฟ้าและเผ่าปิศาจ ทั้งสองเผ่าพันธุ์ต่างก็ยิ่งใหญ่เกรียงไกร ทรงพลังเหนือเผ่าใดๆทั้งปวง นางฟ้าผู้มีปีกแสงสว่างและความงดงามเหนือธรรมชาติ พวกเธอคือผู้พิทักษ์แห่งแสงสว่างและความดีงาม ส่วนปิศาจผู้ปกครองความมืดมิด พวกเขามีพลังอำนาจที่น่าสะพรึงกลัวและความฉลาดแกมโกง พวกเขาถือว่าโลกนี้เป็นสมบัติที่ต้องชิงมาไว้ในครอบครอง

    สงครามที่ยืดเยื้อระหว่างเผ่านางฟ้าและเผ่าปิศาจได้ทวีความรุนแรงขึ้นจนกระทั่งกลายเป็นสงครามที่ไร้จุดสิ้นสุด การต่อสู้ครั้งแล้วครั้งเล่าทำให้ทั้งสองเผ่าต่างอ่อนแอลงอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง ความหายนะครั้งนี้ไม่ได้เพียงแต่ทำลายพวกเขาเอง แต่ยังส่งผลให้โลกทั้งใบเข้าสู่ยุคแห่งความมืดมิดและความสูญเสีย

    ท่ามกลางความโกลาหลนั้น เผ่ามนุษย์ ผู้ที่เคยเป็นเพียงแค่เผ่าพันธุ์ที่อยู่เบื้องหลัง คอยสนับสนุนเผ่านางฟ้าอย่างภักดี กลับพบโอกาสที่จะลุกขึ้นมาเมื่อยามที่เผ่านางฟ้าและเผ่าปิศาจต่างพ่ายแพ้จากสงคราม การล่มสลายของพลังอำนาจเก่าเปิดทางให้มนุษย์ขึ้นครองบัลลังก์แห่งโลก

    มนุษย์ใช้ความชาญฉลาดและจำนวนที่มากกว่าเผ่าพันธ์ุอื่นๆปกครองโลกนี้อย่างหมดจด แม้ว่าในยุคปัจจุบันนี้จะยังคงมีนางฟ้าและปิศาจที่รอดพ้นจากสงครามครั้งนั้นหลงเหลืออยู่บ้าง แต่พวกเขาก็กลายเป็นเผ่าพันธุ์ที่หายาก ทรงพลังแต่โดดเดี่ยว ไม่มีสิ่งใดสามารถเอาชนะความจริงที่ว่า "จำนวน" คือสิ่งที่สำคัญที่สุดในโลกใบนี้

    มนุษย์ยืนหยัดอยู่บนจุดสูงสุดของห่วงโซ่แห่งอำนาจ พวกเขากลายเป็นผู้ปกครองโลกและกำหนดกฎเกณฑ์ที่ไม่มีใครกล้าท้าทาย ส่วนเผ่านางฟ้าและเผ่าปิศาจที่เคยเป็นใหญ่ในอดีตนั้น ตอนนี้เหลือเพียงตำนานที่เล่าขานกันต่อๆมา และความหวังอันริบหรี่ที่วันหนึ่งพวกเขาอาจกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง แต่วันนั้นยังไม่มาถึง...

    *คำเตือน…เนื้อหาในเรื่องจะมีความสมจริง ความรุนแรง ความเป็นมนุษย์สูง ผู้เขียนอยากจะสะท้อนด้านมืดของมนุษย์ให้ถึงที่สุด จึงทำให้มีฉากโหดร้าย มืดหม่น และจิตตก ใครที่จิตอ่อนหรือมีภาวะซึมเศร้าไม่แนะนำให้อ่านเรื่องนี้ ขอบคุณครับ
     

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น