ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เล่ห์วิวาห์เจ้าชายมาเฟีย (พริม สกาย)

    ลำดับตอนที่ #3 : งานเข้า

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.92K
      6
      7 ก.ย. 58

                                     บทที่3 งานเข้า เจ้าพ่อเหมือง

    บริษัท สกาย รีซอร์สเซล   (Sky resources public limited company )  รัฐ เซาท์เวลส์ประเทศออสเตรเลีย

    ว่าไง..โผล่หัวมาได้ซะทีนะ ไอ้ลูกชายตัวดี” มิสเตอร์ โรเบริต มาร์ตินโคญน์ บิดาของชายหนุ่มพูดขึ้นทันทีเมื่อกรายเปิดประตูห้องทำงานของสกายเข้ามา

       “เห็นหน้าก็ต่อว่าผมเลยนะครับพ่อ” สกายเงยหน้าจากโน้ตบุ๊คตัวเก่ง  แล้วปั้นยิ้มขันก่อนจะจ้องมองไปยังร่างท้วมของบิดาตนเอง  “คนของพ่อนี่ทำงานเร็วเหมือนกันนะครับ “

       “ระดับฉันแล้วแค่นี้เรื่องเล็ก ไม่งั้นฉันจะเป็นพ่อแกได้ยังไง

      ครับ ผมทราบครับว่าพ่อรู้ทุกเรื่อง แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งที่พ่อไม่ทราบ สกายว่า

    เรื่องอะไร ที่แกคิดว่าคนอย่างฉันไม่รู้มิสเตอร์ โรเบิรต์ ถามขึ้นพร้อมทำหน้าครุ่นคิด 

                “ก็เรื่องที่คุณแม่เดินทางมาที่นี่ไงครับสกาย พูดขึ้นด้วยท่าทางอารมณ์ดีพร้อมหัวเราะขบขัน จนชายชราหุบยิ้มลง แล้วทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้เดินเข้าไปนั่งบนโชฟาหน้าโต๊ะทำงานชายหนุ่ม  

                 หัวเราะไปเถอะสกาย แล้วแกจะรู้สึก มิสเตอร์โรเบิร์ตว่าก่อนจะให้ความสำคัญกับหนังสือพิมพ์ตรงหน้า ไม่ใส่ใจบุตรชายของตนอีก

                หลังจากที่ออกจากเหมืองสกายก็กลับเขาบริษัทแถบจะทันที นับได้ว่าชีวิตของเขาถ้าไม่อยู่ที่เหมืองก็จะหลับนอนอยู่ที่บริษัท นานๆถึงจะกลับบ้าน จนบิดาไม่แปลกใจเมื่อได้รับข่าวจากลูกน้อง ว่าบุตรชายได้เดินทางกลับเข้าเมืองมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

    แล้วนี่แกให้คนไปรับแม่แกที่สนามบินหรือยัง” เมื่อความเงียบมาเยือนราวห้านาที ชายชราจึงเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง

     “เรียบร้อยแล้วครับ ป่านนี้คงใกล้จะถึงแล้ว ว่าแต่คุณพ่อไม่ทราบจริงๆหรือครับ ว่าทำไมคุณแม่ท่านถึงต้องบินมาหาผมถึงที่นี่ สกายเงยหน้าขึ้นมาจากเอกสารกองโตแล้วเอ่ยถามด้วยใบหน้าเคร่งเครียดเล็กน้อย เมื่อความสงสัย ยังไม่มีใครไขความกระจ่างให้

       รู้! แต่ฉันยังไม่แน่ใจเท่านั้นเอง

      อ้าว มันเรื่องอะไรกันล่ะครับ ยิ่งคุณพ่อพูดแบบนี้ผมยิ่งสงสัย

        “แกรอแม่แกมาพูดเองแล้วกัน ฉันสังหรณ์ใจว่า แกจะไม่ได้อยู่ที่นี่สักระยะ”  มิสเตอร์ โรเบิร์ตบอก พร้อมลุกยืน แล้วเดินอ้อมมาตบบ่าของบุตรชายเบาๆ เหมือนเรื่องราวต่อจากนี้จะไปคงต้องขึ้นอยู่กับบุตรชายแล้วภรรยาที่กำลังเดินทางมาถึง      

    นี่คุณ! ฉันจะให้สกายมาอยู่กับฉันที่เมืองไทยสักระยะนะ” เสียงภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากลอดมาตามสายโทรศัพท์ มันคือคำบอกเล่าเกมสั่งไปในตัว

       “มันเรื่องอะไรล่ะคุณหญิง อยู่ๆคุณหญิงจะให้สกายมันตามไปอยู่ด้วย คุณหญิงถามมันหรือยัง”  อีกฝ่ายก็เอ่ยขึ้นด้วยท่าทีที่ไม่ดขใจเช่นกัน    

    เราสองคนก็แก่ตัวลงทุกวันแล้วนะ คุณไม่คิดอยากจะอุ้มหลานลูกของตากายบ้างหรือยังไง

        “คุณหมายความว่าไง คุณหญิงฟ้าลดา

        “ฉันก็อยากให้ตากายแต่งงานแล้วมีลูกให้นะสิ

        “เห้ย!! นี่คุณคิดดีแล้วเหรอ ถามลูกมันหรือยัง?” มิสเตอร์ โรเบิร์ต ถามกลับมาด้วยน้ำเสียงตกใจ ในเมื่อเขาและนางต่างก็รู้อยู่เต็มอก ว่าที่บุตรชายไม่ยอมจริงจังกับใครนั้นเป็นเพราะอะไร

       “คิดดีแล้วสิ ฉันถึงต้องบินไปหาพวกคุณสองคน เตรียมตัวบอกสกายได้เลย อีกสองวันฉันจะไปถึง  ยังไงซะฉันก็ต้องบังคับตากายให้ได้” นางบอกสามีอันเป็นที่รักอย่างมีความหวัง ก่อนจะวางสายโทรศัพท์ไป เรื่องนี้หากจะต่อสายตรงไปขอบุตรชายเอง คงจะเป็นเรื่องยาก นางถึงต้องเดินทางไปคุยกับบุตรชายด้วยตัวเอง

         “มันหนักหนาสาหัสมากเลยหรือครับ พ่อถึงบอกผมไม่ได้” สกายเหลือบตาไปมองมือหน้าที่จับไว้อยู่ตรงบ่าใหญ่แล้วถามขึ้น

    มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรมากมาย แต่ถ้าถามว่ามันหนักหนามั้ย ฉันว่าสำหรับคนอย่างแก เอาการอยู่เหมือนกัน แต่ฉันก็เห็นด้วยกับแม่แกนะ แกจะได้เอาเวลาตรงนี้ไปพักผ่อนด้วย หลายปีมานี้ฉันเห็นแกทำงานแทบไม่ได้หยุดไม่ได้หย่อน ปล่อยๆลูกน้องมันทำบ้างก็ดีชายชราว่าอย่างห่วงใย      

    มันเรื่องอะไรกันละครับ” 

         “………………...” ไม่มีคำพูดใดๆหลุดออกมาจากปากของบิดา นอกจากท่าทางหยักไหล่กวนโมโหกับท่าทิ้งตัวลงนั่งกับโซฟาตัวใหญ่อย่างสบายใจ 

       “โธ่พ่อครับ

       “คนที่จะไขข้อกระจ่างให้แกมาโน้นแล้ว ถามกันเอาเอง ชายชราพยักหน้าให้ชายหนุ่มเมื่อมองเห็นหญิงสาวรุ่นราวคราวเดินกันกับตนกำลังเดินกรีดกรายเข้ามา           

        หญิงชราวัยกลางคน เดินกรีดกรายมาอย่างสง่างามกับชุดลำลองสีกุหลาบ ท่าทางมุ่งมั่น แม้อายุอานามจะปาเข้าไปเลขห้าแล้ว แต่คุณฟ้าลดาท่านก็ยังสวยสมวัยไม่สร่าง ร่างท้วมเดินมาหยุดตรงประตูหน้าห้องทำงานของชายหนุ่ม ก่อนจะถอดแว่นกันแดดสีชา แล้วจิกสายตาไปยังพ่อลูกชายตัวดี ที่นั่งปั่นหน้าขรึมอยู่ที่โต๊ะทำงาน

       “สวัสดีครับคุณแม่ คิดถึงจังเลยครับ”  สกายพูดขึ้น พร้อมปลีกตัวออกมาจากโต๊ะทำงานของตัวเองก่อนจะมาสวมกอดมารดาอันเป็นที่รักอย่างออดอ้อน

    นี่ สกายทำไมเราปล่อยตัวโทรมแบบนี้  ดูสิผมเผ้าหนวดเครารุงรังแบบนี้ใช้ได้ที่ไหนเสียชื่อลูกชายคุณหญิงฟ้าลดาหมดหญิงชราเอ่ยคอนแขวะบุตรชาย ก่อนจะใช้ฝามือตีไปต้นแขนของชายหนุ่มเบาๆ           

                “โธ่!คุณแม่ครับ ผมทำงานอยู่ในเหมืองจะเอาเวลาที่ไหนมาโกนหนวดโกนเคราล่ะครับพูดพร้อมโน้มใบหน้าคมมาหอมแก้มนางฟอดใหญ่

    ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ดูสิ ดูได้ซะที่ไหนอย่างกับโจรป่า ไม่ต้องมาอ้อนแม่ด้วยวิธีนี้เลยนะลูกไม้แบบนี้ใช้กับแม่ได้หรอกนางว่าพร้อมเชิดหน้าผลักใบหน้าบุตรชายออกอย่างงอนๆ

    คุณแม่มาเหนื่อยๆ มานั่งก่อนนะครับ อย่าเพิ่งบ่นผมเลย” สกายส่งยิ้มหวานออดอ้อนมารดาอีกครั้ง ก่อนจะประคองนางมานั่งลงข้างๆบิดา

       “เราก็แบบนี้ตลอดแหละ แม่บ่นที่ไหร่ต้องมาทำเสียงออดอ้อนแบบนี้ทุกที่ เหมือนกันทั้งพ่อทั้งลูก” นางไม่วายค่อนขอด คุ่ทุกข์คู่ยาก ที่ก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสืออยู่อีกด้าน

       “อ้าวคุณ ไหงบ่นเจ้าลูกชายตัวดีแล้วมาลงที่ผมซะล่ะ” ชายชราเงยหน้าขึ้นจากหนังสือพิมพ์ด้วยเอ่ยถาม

       “พอกันทั้งพ่อทั้งลูกนั้นแหละ ลูกชายก็เอาแต่ทำงาน ส่วนสามีก็เอาแต่ควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า ฉันละสงสารตัวเองจริงๆ จนป่านนี้แล้วไม่มีใครสนใจ” พูดพร้อมตีหน้าเศร้า เรียกคะแนนสงสารจากบุตรชาย เพื่อที่จะคุยเรื่องจากไปกับชายหนุ่ม   

       “แหม! คุณแม่ครับ ยังไงผมก็รักคุณแม่ที่สุดเลยนะครับ” สกายพูดพร้อมส่งย้มหวานก่อนจะเข้ามาออดอ้อนนางอีกครั้ง ด้วยการโน้มใบหน้าคมหอมแก้มนางอีกรอบ รู้สึกตะหงิดใจแปลกๆกับคำพูดของมารดา

    เราไม่ต้องมาพูดดีเลยนะตากาย เราก็อีกคนสนับสนุนกันเข้าไปเรื่องผู้หญิงเนี้ย แม่ล่ะเหนื่อยใจจริงๆทั้งพ่อทั้งลูก” นางทำท่าขึงขังพร้อมน้ำเสียงที่ดูจริงจังมากขึ้นกว่าเดิม

    ไหนคุณบอกว่าคุณมีเรื่องจะคุณกับมันไง ผมว่าคุณเข้าเรื่องเลยดีกว่า” เมื่อเห็นว่านางตั้งท่าจะต่อว่าเรื่องผู้หญิงชายชราจึงโยนระเบิดไปให้กับลูกชายรับแทน

    ไม่ต้องมาทำเฉไฉเลยคุณ แล้วนี่พวกอีหนูของคุณไปไหนหมดล่ะ ถึงปล่อยให้คุณมาลอยหน้าลอยตากับฉันได้นางถามสามีอันเป็นที่รักอย่างประชดประชัน

    ไม่เอานะคุณ มาเหนื่อยๆอย่ามาชวนทะเลาะ

    ใช่สิ!!!  ฉันมันแก่แล้วนิ ไหนเลยจะสู้แม่ฝรั่งผมแดงพวกนั้นของคุณได้

       ใจเย็นๆครับแม่ มาเหนื่อยๆ พักกินน้ำกินท่าก่อนแล้วคืนนี้ ค่อยกลับไปทะเลาะกับพ่อที่บ้านก็ได้” สกายพูดขึ้นแทรกเมื่อเห็นว่า มารดายังประชดประชันบิดาไม่หยุด ก่อนสงครามน้ำลายจะเกิดขึ้น ในห้องทำงานของเขา

    ภาพแบบนี้เขาเห็นจนชินตา แต่เขาก็ไม่เคยเห็นท่านทะเลาะกันจริงๆจังๆสักที มีแต่เถียงกันไปเถียงกันมา พอเหนื่อยท่านก็สงบศึกกัน เพราะชายหนุ่มไม่เคยเห็นมารดาจะโกรธบิดาได้เกินชั่วโมง เรื่องผู้หญิงของบิดาท่านก็รู้ แต่ท่านก็ไม่ได้ว่าอะไรนอกจากคำพูดปรามเพราะห่วงใย พอเริ่มแกตัวท่านทั้งสองดูจะเป็นเพื่อนคู่คิดกันมากกว่า อีกทั้งมารดาต้องการไปใช้ชีวิตบันปลายอยู่ที่ประเทศไทยบ้านเกิดของท่าน ท่านจึงเข้าใจในตัวบิดา  แน่นอนว่าบิดาเขาไม่มีทางให้ผู้หญิงคนไหนขึ้นมาเทียบเคียงมารดาได้อยู่แล้ว เพราะทุกคนจะอยู่ในส่วนของตัวเองและไม่กล้าเข้ามาก้าวก่าย  ไม่แปลกสักนิดว่าสกายได้สายเลือดนักรักมาจากใคร ก็เลือดพ่อมันแรงซะขนาดนี่

    เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยแล้วนะพ่อลูก” นางสะบัดเสียงใส่ชายหนุ่มอันเป็นที่รักของนางทั้งสอง

    คุณแม่มีเรื่องอะไรสำคัญกับผมหรือเปล่าครับ ถึงลงทุนบินมาถึงนี่” สกายหันมาเปลี่ยนเรื่องที่อยากจะรู้แทน

                “มีสิ สำคัญมากด้วย แล้วเราก็เตรียมตัวไว้ได้เลย” นางบอกพร้อมปรับสีหน้าให้ดูจริงจังมากขึ้น

    ปีนี้ เราอายุเท่าไหร่แล้วนะสกาย

    “35ครับ ว่าแต่คุณแม่ถามถึงอายุผมทำไมนี่อย่าบอกนะครับว่าคุณแม่จะพาผมไปเสริมดวงต่อดวงชะตา” สกายเบ้หน้าทันที เขาคิดอย่างที่พูดจริงๆ เพราะเขารู้ว่ามารดาออกจะเชื่อเรื่องพวกนี้เอาอยู่มาก ต่างกับเขาลิบลับที่คิดว่าเรื่องพวกนี้งมงายสิ้นดี

    โอ๊ย!

    นี่ตากายอย่ามาล้อเล่นกับแม่นะ แม่จริงจังอยู่นางหันมาหยิกเข้าที่ชายโครงของชายหนุ่มอย่างแรง เมื่อรู้ว่าสกายตั้งใจจะยั่วโมโหนาง

    คุณก็รีบๆบอกมันเลยสิ ว่าคุณอยากได้หลาน”  ชายชราพูดแทรก ในขณะที่สายตายังคงจบจ้องและให้ความสำคัญอยู่กับตัวหนังสือในมือ

        “คุณพ่อว่าอะไรนะครับ!

        “ฉันบอกว่า แม่แกอยากอุ้มหลาน ง่ายๆเลยแม่แกอยากให้แกมีเมียชัดหรือยัง”  พูดจบก็ตอบท้ายด้วยเสียงหัวเราะอันดัง เหมือนจะสมน้ำหน้าพ่อลูกชายตัวดีอยู่กรายๆ

    คนที่ได้ยินบิดาพูดก็แทบจะสำลักน้ำที่ตัวเองกำลังจะยกดื่ม พร้อมหันหน้ามามองใบหน้าของมารดาตาไม่กระพริบ เหมือนจะรอฟังคำบอกกล่าวหรือคำยืนยันจากมารดา และทันทีที่นางพยักหน้า คนที่อึ้งอยู่ก็เหมือนสมองจะหยุดสั่งการ ไม่คิดว่ามารดาจะลงทุนเดินทางมาหาตนด้วยเรื่องนี้

       ตากาย ตากายลูกหญิงชราใช้มือเขย่าต้นแขนของบุตรชาย เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มอาจจะช็อคไปกับคำพูดของนาง

        “หาอะไร...นะครับ คุณพ่อพูดเล่นใช่มั้ยครับคุณแม่” เมือเรียกสติตัวเองกลับมาได้สกายก็รีบลนลานเข้ามาถามมารดาทันที

            “ จริงจ๊ะ แม่อยากมีหลาน สกายมีหลานให้แม่อุ้มนะคุณหญิงฟ้าลดาเน้นย้ำคำพูดให้สกายได้ฟังอีกรอบด้วยใบหน้าแช่มชื่น แต่คนที่ได้รับฟังคำบอกกล่าวอีกรอบถึงกับทำหน้าไม่ถูก เพราะทั้งสีหน้าและวาจาของมารดาไม่มีแววล้อเล่นเลยแม้แต่นิดเดียว

         “ตากายแม่ก็อายุปูนนี้แล้ว แถมเรากับพ่อก็เอาแต่ทำงาน แม่อยู่ที่โน้นคนเดียวบางครั้งมันก็เงียบ บ้านเราก็ออกจะใหญ่โต ถ้ามีเด็กๆมาวิ่งเล่นสักคนสองคนบ้านคงน่าอยู่ขึ้น อีกอย่างเราก็โตพอจะมีครอบครัวได้แล้วนะ”  น้ำเสียงจริงจังของมารดาพูดขึ้น จนคนฟังยังไม่รู้จะหาเหตุผลอะไรมาอ้างเพื่อหลีกเลี่ยง

      “คุณแม่ก็ย้ายกลับมาอยู่ที่นี่สิครับ ผมสัญญาจะกลับบ้านไปหาคุณแม่ทุกวันเลย”        

    กลับมาดูพ่อแกควงสาวๆมาเย้ยแม่งั้นสิ”  พูดพร้อมปรายตามองมิสเตอร์ โรเบิร์ต เล็กน้อย

     อ้าวคุณ เรื่องอะไรทำไมต้องมาลงกับผมอีกล่ะ” คนโดนค่อนขอดไม่วายเถียงข้างๆคูๆ

         “ไม่รู้ล่ะ ยังไงภายในปีนี้เราก็ต้องมีหลานให้แม่อุ้ม ไม่อย่างนั้นแม่จะยกสมบัติทุกชิ้นให้การกุศลทั้งหมดเลยแล้วหนีไปบวชแทน” นางวางมาดนิ่งตีสีหน้าเคร่งขรึม คล้ายจะบอกบุตรชายว่า ถ้าไม่ยอมทำตามคำสั่งนาง นางจะทำอย่างที่พูดจริงๆ

       “โธ่!!! แม่ครับ แต่ผมยังไม่พร้อมจริงๆนะครับ

                   “เราคงจะรอให้แม่ตายไปก่อนสินะถึงจะพร้อม” นางตีหน้าเศร้าเรียกน้ำตาและความสงสารจากบุตรชายเต็มที่

      “โธ่ แม่ครับ! เมื่อไม่รู้จะยกเหตุผลอะไรมาเป็นข้ออ้างกับมารดา ก็ได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วหันหน้าไปสบตากับบิดาเพื่อขอความช่วยเหลือ

      แกไม่อยากหาเมีย แกก็ให้แม่แกไปบวชซะก็สิ้นเรื่อง”  มิสเตอร์ โรเบิร์ตออกความเห็น เป็นเชิงตลก

       นี่คุณ!! ถ้าไม่ช่วย ก็กรุณาอยู่เฉยๆ อ่านหนังสือของคุณไปเลย ไม่ต้องแสดงว่าคิดเห็น” 

      ไม่รู้ล่ะ แม่ให้เวลาเราหนึ่งอาทิตย์ในการเคลียร์งานที่นี่ จากนั้นเราต้องตามแม่ไปเมืองไทย หลานของแม่ต้องผมดำเท่านั้น  แม่อยากได้ลูกสะใภ้เป็นคนไทย ส่วนสาวๆในสต๊อกของเราอ่ะ แม่ไม่ปลื้ม!!.

    หนึ่งอาทิตย์!! บ้าไปแล้วสกายคิดอยู่ในใจ ก่อนจะถอนหายใจออกมาดังเฮือกใหญ่ เหลือบตาขึ้นมองหน้าของมารดาคลายจะขอความเห็นใจ แต่สุดท้ายก็ได้มาแต่ใบหน้าจริงจังปนสะอื้นไห้เกมขอร้องของนางแทน

    ถึงนางอยากจะมีหลานหรืออยากให้สกายมีครอบครัว แต่นางก็ไม่อยากบังคับจิตใจบุตรชายคนเดียวของนางถึงขั้นมัดมือชกจับแต่งงาน เพราะนางเองก็รู้เกียรติศัพท์ของบุตรชายอยู่ว่า ลองถ้าผู้หญิงคนไหนไม่ใช่ หรือไม่ได้รัก เขาไม่มีทางลงเอยอยู่กินด้วยเด็ดขาด และนี่ก็เป็นอีกสาเหตุที่นางต้องบินมาพูดถึงที่นี่ ขืนนางโทรศัพท์มาคุยมีหวังเจ้าลูกชายตัวดี ได้หาทางเลี่ยงได้ตลอด ที่สำคัญนางอยากมีลูกสะใภ้เป็นคนไทยมากกว่าคู่นอนหลายคนที่ผ่านมาของชายหนุ่ม

    ตกลงตามนี้นะตากาย อีกหนึ่งอาทิตย์ลูกต้องตามแม่กลับเมืองไทย ไปคุณฉันหิวแล้วนางพูดขึ้นพร้อมกับเชื้อเชิญให้สามีตัวเองออกไป ปล่อยให้ชายหนุ่มนั่งอึ้งครุ่นคิดกับสิ่งที่นางบอกอยู่ฝ่ายเดียว

    ไม่อยากจะเชื่อเลยนี่เขาต้องแต่งงานตามความต้องการของมารดาจริงๆหรือ เรื่องแต่งงานมันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขา แต่การมีลูกนั้นสิ มันไม่ใช่เรื่องง่าย ใครที่จะมาเป็นแม่ของลูกเขา ถ้าลำพังแค่มีลูกแล้วจบมันก็ดีสิ แต่เขาก็อยากให้ครอบครัวของเขาสมบูรณ์แบบ มีพ่อแม่ลูกที่เกิดขึ้นมาพร้อมความรัก และเขายังไม่เห็นหนทางเลยว่า ผู้หญิงคนไหนจะสามารถทนเขาได้

    ในเมื่อชีวิตเขามีแต่งาน และผู้หญิงเหล่านั้นก็อยากได้แค่ความสูขสบายและเงินจากเขาเท่านั้น และนั้นไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการผู้หญิงที่จะมาเป็นแม่ของลูกเขาเธอต้องรักในตัวตนของเขา รักงานของเขา ไม่ใช่เงินทองของนอกกายที่เขามี

    อีกอย่างผู้หญิงไทยนั้นเหรอ!!! แค่ให้แต่งงานมีลูกก็ว่ายากแล้ว นี่ต้องเลือกคู่ชีวิตให้เป็นผู้หญิงไทยด้วย งานนี้หนักหนาไม่ใช่เล่นสำหรับชายหนุ่ม เมื่อคิดแล้วไม่ได้ทางอ่าง สกายจึงใช้มือหนาขึ้นมาลูบใบหน้าของตนเอง แล้วปล่อยตัวลงนั่งกับโซฟาตัวใหญ่อย่างเหนื่อยใจ ...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×