ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เล่ห์วิวาห์เจ้าชายมาเฟีย (พริม สกาย)

    ลำดับตอนที่ #33 : ปฐมบทแห่งรัก บทที่ึ7

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.23K
      5
      17 ก.ย. 58

     

                                         บทที่33 ปฐมบทแห่งรัก บทที่7

              หนึ่งอาทิตย์ต่อไป

    พริริสามาอยู่ที่บ้านพักตากอากาศ ของมิสเตอร์โรเบิร์ต ได้เกือบอาทิตย์แล้ว  บ้านที่อยู่แถวชานเมืองไกลออกมาจากตัวเมืองนิวเซาท์เวลส์ หลายสิบกว่ากิโลเมตร บ้านหลังเล็กสีขาวทรงยุโรบ รายล้อมด้วยขุนเขาและแม่น้ำ ด้านหลังของตัวบ้าน หากมองออกไปคือวิวทิวทัศน์ของภูเขาหลายลูกเรียงรายกันอยู่ ส่วนด้านข้างถูกรายล้อมด้วยทะเลสาบสีเขียวมรกต กว้างใหญ่ออกไปสุดลูกหูลูกตา ถนนทางเข้าไปสู่ตัวบ้านกว่าห้าร้อยเมตร เป็นทางลูกรัง ที่สองข้างทางมีป่าต้นปาล์มขึ้นเขียวขจีมองดูแล้วเย็นตาและร่มรื่น ตัวบ้านสีขาวหลังเล็ก ถูกประดับประดาด้วยดอกไม้นานาพันธ์ และที่เป็นจุดเด่นสำหรับตัวบ้าน คืออ่างน้ำพุขนาดใหญ่ ที่มีรูปปั้นคิวบิดถือธนูพ้นน้ำออกมา ในช่วงสายของวัน ยามใดที่พระอาทิตย์ส่องแสงกระทบกับพื้นน้ำ มันจะสะท้อนเงาสีรุ้ง ออกมาจนสวยจับตา

    ใครมาเหรอคะ คุณไรอัน” เสียงพริริสาดังลงมาจากด้านบน ในขณะที่ตนเองกำลังก้าวเท้าเดินลงมาจากตัวบ้าน  

    เงียบไม่มีคำตอบใดๆออกมาจากปากของไรอัน  นอกจากคนที่เธอไม่อยากเห็นหน้ามายืนส่งยิ้มแป้นถือดอกไม้ช่อโตอยู่ตรงตีนบันได ทำให้เท้าที่กำลังจะก้าวลงมาต้องชะงัก และมองคนตรงหน้ากลับไปด้วยท่าทีเมินเฉย

    มาทำไม พริริสาถามเสียงเย็น จนคนที่ยืนต้องหุบยิ้มลงแล้วทำหน้าเจื่อนๆ ก่อนจะเดินขึ้นมาหาเธอ แต่ก็ต้องชะงักเพราะพริริสาสั่งห้าม  

    หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ ใครอนุญาตให้คุณขึ้นมาไม่ทราบ” ถามเสียงห้วน มองหน้าสกายอย่างไม่ค่อยพอใจ

    อยากมา อยากเห็นหน้า คิดถึงลูก คิดถึงเมีย เจ้าพ่อเหมืองอาศัยช่วงชุลมุน เอาความหน้ามึนตอบเธอไปอย่างส่งๆ แต่ก็ไม่วายรู้สึกเจ็บจิ๊ดๆที่หัวใจ เมือเห็นท่าทางหมางเมินของเธอ

    พริริสาอ้าปากค้าง ไม่คิดว่าชายหนุ่มจะหน้าด้านตอบออกมาเช่นนี้ เพราะมันทำให้เธอคิดหาคำที่จะเอ่ยออกมาต่อว่า หรือประชดประชันชายหนุ่มไม่ได้เอาดื้อๆ

    ไหนลูก ไหนเมียคุณ ที่นี่มีแค่ฉัน กับคุณไรอันสองคนเท่านั้น   ทำท่าทำทางชะเง้อคอมองออกไปรอบๆบ้าน ได้อย่างน่าหมั่นไส้ พร้อมเอ่ยออกมาอย่างรวดเร็วจนลิ้นแทบจะพันกัน

    ก็นี่ไง เมียพี่สกายก้าวขึ้นบันไดมาแล้วมาหยุดอยู่ใกล้ๆพร้อมใช้ปลายนิ้วชี้ จิ้มลงไปตรงหน้าอกของเธอ ส่วนนี่ก็ลูกพี่ ก่อนจะเลื่อนปลายนิ้ว มาจิ้มลงตรงหน้าท้องที่ตอนนี้มันโหนกนูนขึ้นมาให้เห็นรำไรแล้ว เพราะเสื้อยึดแขนยาวที่ใส่มันค่อยข้างรัดรูป แล้วโน้มใบหน้าลงมาเล็กน้อย ใช้ปลายจมูกกดลงไปเบาๆตรงหน้าท้องของเธอ ยังจำได้อยู่ว่าเธอมีแผลลึกตรงไหน

    พริริสาตั้งตัวไม่ทัน เธอเลยได้แต่ยืนนิ่งและมองเขาแบบค้อนๆ ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นถมึงตึงใส่ เมื่อเขาเงยหน้าส่งยิ้มหวานกรุ้มกริ่มมาให้

    ก็เห็นแล้วนี่ว่าสบายดี ที่นี้ก็กลับไปได้แล้ว” พูดจบคนที่ยังไม่หายเคืองก็ทำท่าจะเดินขึ้นข้างบน ร้อนถึงคนที่รู้สึกผิดต้องขึ้นมารั้งขอมือเล็กเธอเอาไว้

    ไม่เอาน่าพริมพี่ขอโทษสกายเอ่ยเสียงเว้าวอน พร้อมมองเธออย่างต้องการความเห็นใจ คิดว่าหากออดอ้อนพริริสาเพียงนิดเดียวเธอคงจะหายโกรธ เพราะที่ผ่านมาเธอก็ไม่เคยโกรธเขาได้นานเลยสักครั้ง

    พริริสากรอกตาไปมา พร้อมเบ้ปาก เหมือนจงใจอย่างให้เขาเห็นว่าเธอเบื่อหน่ายเขาเต็มทน คุณจะมาขอโทษฉันเรื่องอะไรค่ะคุณทำผิดอะไรไว้อย่างนั้นเหรอพูดเหมือนจำไม่ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นระหว่างเขากับเธอ

    พริม ไม่เอานะ เลิกงอนพี่ได้แล้ว นะ นะ” คนมาขอคืนดียังทำหน้ามึน ร้องขอ ความเห็นใจ หวังว่าหญิงสาวจะอภัยให้

    ฉันเนี้ยนะงอนคุณ” พูดและใช้นิ้วชี้ ชี้เข้าหาตนเอง เข้าใจผิดอะไรหรือเปล่าคะ เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อยทำไมฉันจะต้องงอนคุณด้วยพูดขึ้นอย่างไม่สะทกสะท้าน จนคนที่ยืนอยู่ด้านล่างหน้าจ๋อย ไม่เข้าใจสักนิดทำไมเธอถึงใจแข็งนัก เขาละอุตส่าห์หอบดอกไม้ช่อโตมาง้อ แทนที่จะดีใจกลับตั้งท่าไล่เขาท่าเดียว

    หมดธุระของคุณแล้วใช่มั้ย  คุณควรกลับไปได้แล้วคะ  เธอชายตามองมือตนเองที่ถูกเขาจับไว้เล็กน้อย “ปล่อยมือฉันด้วย พูดจบก็ดึงมือกลับ แล้วก็เดินจ้ำอ้าวขึ้นไปบนห้องนอนของตนเองทันที โดยไม่หันกลับมาสนใจเขาที่ยืนคอตก ผ่อนลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ สกายหันกลับมามองเจ้าดอกไม้ช่อโต ที่ถืออยู่แล้วสบถของมากับตนเองเบาๆ  ทำไมยากเย็นแบบนี้วะ

    ร่วมสองชั่วโมงที่พริริสาหายตัวขึ้นไปอยู่บนห้องนอน ก่อนที่เธอจะกลับลงมาอีกครั้ง เพราะรู้สึกหิว เธอไม่อยากอดข้าวเพราะเป็นห่วงลูกในท้อง และดูเหมือนช่วงนี้เธอจะทานอาหารได้เยอะมากกว่าปกติโดยซ้ำ ตั้งแต่ออกมาจากโรงพยาบาล

    พริริสายืนจับราวบันไดชะเง้อคอมองออกไปยังด้านนอก เพื่อสอดส่องสายตาหาใครที่เธอกำลังหนีหน้า เมื่อมองออกไปรอบๆแล้ว ไม่เห็นเธอจึงค่อยๆเดินลงบันไดอย่างช้า ๆ ก่อนจะเดินตรงไปยังห้องครัว ที่ตอนนี้เธอได้ยินเสียงก๊อกๆแก๊กๆอยู่ แล้วก็คิดไปเองว่า ไรอันคงกำลังทำอะไรเตรียมไว้ให้

    ไรอันกลายเป็น พ่อครัวจำเป็นสำหรับพริริสา เขากลายเป็นคนที่ต้องดูแลทุกอย่างของเธอ ไม่ว่าจะเป็นการกินการอยู่ และยิ่งไปกว่านั้นนายเหนือหัวโทรมากำชับเขาอยู่ทุกวัน ว่าต้องดูแลเธออย่าให้คลาดสายตา และห้ามขาดตกบกพร่อง ซึ่งเขาก็ยินดีทำ เพราะหลังจากที่ได้อยู่กับพริริสามาร่วมอาทิตย์เขาก็นึกชื่นชมความอ่อนหวานและอ่อนโยนไม่ถือตัวของเธอ หนำซ้ำยังค่อยห่วงใยถามสารทุกข์สุขดิบ เขาอยู่เสมอ ทำให้ทั้งเธอและไรอันสนิทอันอย่างรวดเร็ว

    คุณไรอัน กำลังทำอะไรอยู่เหรอคะ หอมเชียว เธอเดินทำจมูกฟุตฟิตเข้ามา  ไม่ทันมองด้วยซ้ำว่าคนที่ทำอาหารอยู่ไม่ใช่ไรอัน แต่เป็นคนที่ตนเองกับกำลังหลบหน้าอยู่

    Fish and Chips  batter salad” (เนื้อปลาทอดกับแป้งจนกรอบนุ่ม ราดด้วยน้ำสลัดกินกับผัก ของบำรุงสูขภาพค่ะ) ของขึ้นชื่อของที่นี่เลยนะ พริมหิวรึยัง ใกล้เสร็จแล้ว เดี๋ยวพี่หั่นผักให้ พริมไม่นั่งรอที่โต๊ะได้เลยเดี๋ยวพี่ยกไปเสิร์ฟ คนพูดยังไม่ยอมหันหน้ามา กำลังตั้งหน้าตั้งตาทำอาหารให้เธออยู่

    ใครให้คุณเข้ามายุ่มย่ามในครัวของฉันไม่ทราบ  แล้วคุณไรอันไปไหน เมื่อคนตรงหน้าไม่ใช่ไรอัน พริริสาก็แผงฤทธิ์อีกครั้ง  นึกต่อว่าไรอันอยู่ในใจ ที่ไปไหนแล้วไม่ยอมบอกเธอ

    ไรอันมันไม่อยู่แล้ว พี่สั่งให้มันกลับไปดูแลงานที่เหมือง เจ้าพ่อเหมืองตอบหน้าตาเฉย ก่อนจะหันกลับมาสนใจหั่นผักในมือต่อ ยังไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับเธอตอนนี้ เพราะพาลกลัวเธอจะประชดประชันเขาด้วยการอดข้าวอดปลา

    เขารวบรวมความกล้าหน้าด้านอยู่หลายวัน กว่าจะแบกหน้ามาหาเธอที่นี้ เพราะท่าทางเย็นชาและหมางเมินที่เธอมีให้ตั้งแต่อยู่ในโรงพยาบาลทำให้เขาเกิดอาการประหม่า ไม่กล้ามาสู้หน้า แต่เมือไม่มีทางเลือกมากนัก เขาจึงทำเป็นต้องหอบเอาความหน้าด้านหน้ามึน มาหาเธอถึงที่นี่ และบอกกับตนเองว่าจะทำทุกวิธีทางเพื่อให้เธอ คืนดีด้วยให้ได้

    เมือมาถึงก็ไม่ได้ผิดแปลกไม่จากที่คิดไว้เลยซักนิด พริริสายังคงมีท่าท่าฮึดฮัดไม่ยอมญาติดีด้วยเธอยังมองเขาด้วยสายตาเย็นชาและเมินเฉยอยู่เหมือนเดิม ซึ่งนั้นเขาก็ตั้งหลักรอรับมือกับสายตาที่มันรอมๆจะชอบทำให้หัวใจเขาเจ็บจิ๊ดๆมาอยู่แล้ว แต่เอาเข้าจริงๆเวลาเห็นสายตาเมินเฉยหมางเมินของเธอทีไร เขาก็ใจแป้วทุกที ยังดีที่วันนี้ เธอยังมองเห็นเขาอยู่ในสายตา เขายังพอจะมีตัวตนให้เธอยอมพูดยอมคุยด้วยแม้จะไม่เต็มใจทำก็เถอะ

    คุณทำแบบนี้ทำไมคะ พริริสาถามขึ้น ด้วยความเย็นชา

    สกายวางมีดหั่นผักลง ก่อนจะหันกลับมามองเธอด้วยสายตาเจ็บปวด ไม่แพ้กัน สิ่งที่เขาทำให้เธอ เธอยังไม่รู้ใช่มั้ย ว่าเขาทำไปเพื่ออะไร   

    พริมไม่รู้จริงๆ หรือแกล้งทำเป็นไม่รู้ ว่าพี่ทำไปเพื่ออะไร

    คุณไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้  ฉันกับคุณเรา ไม่มีอะไรข้องเกี่ยวกันอีกแล้ว  ไม่มีความจำเป็นเลยสักนิด ที่คุณจะทำแบบนี้กับฉัน น้ำเสียงเริ่มสั่นคลอ เมื่อต้องพูดในสิ่งที่ทำให้ตนเองรู้สึกเจ็บปวด แต่เธอก็เก็บอาการไว้จนลึกแม้แต่สกายที่เคยอ่านสายตาเธออก แต่บัดนี้เขากลับมองเห็นแต่ความว่างเปล่าในสายตาคู่นั้น

    พริมกำลังโกรธเราอย่าเพิ่งพูดเรื่องนี้กันเลยจะดีกว่า สกายพยายามเปลี่ยนเรื่องคุย ไม่อยากให้เธอเครียด เพราะมันอาจจะมีผลกระทบกับเธอและลูกในท้อง

    คุณกลับไปเถอะค่ะ และอย่ามาที่นี่อีก ถ้าคุณยังอยากให้ฉันกับลูก อยู่ที่นี่ คุณก็ควรจะกลับไปซะ เธอว่า และยังคงสบตากับสายตาคมคู่นั้นของเขา ด้วยความเย็นชา

         สกายขนลุกซู่ กับท่าทีเมินเฉย และหมางเมินนั้น เขาไม่คิดว่าพริริสาจะใจแข็ง และมองเขาด้วยสายตาว่างเปล่าเช่นนี้มาก่อน ร่ำๆว่ามาการมาง้องอนเธอในครั้งนี้คงจะไม่ใช่เรื่องหมูๆ ในเมือเธอคอยแต่ปฏิเสธเขาอยู่ทุกช่องทาง           

    พริมจะอยู่คนเดียวที่นี่คนได้ยังไง ในเมื่อไรอันมันกลับไปที่เหมืองแล้ว

    ฉันอยู่คนเดียวมาตลอดจนชินแล้วค่ะ ถ้าต่อไปฉันจะต้องอยู่คนเดียว มันคงไม่ใช่เรื่องแปลก คุณกลับไปเถอะ ถือว่าฉันขอร้อง อย่ามาวุ่นวายกับฉันอีกเลย

    สกายพูดไม่ออก เมื่อเจอพริริสาว่ามาแบบนี้  ใช่ว่าเขาจะมีความสุขที่ต้องเจออาการเง้างอนและเย็นชาของเธอเช่นนี้ พริริสาคนเดิมที่ไม่เคยโกรธใครได้นานคนนั้นไปไหน หรือเธอจะหายไปนับตั้งแต่วันที่เธอเห็นเขาและแม่นางแบบนั้นร่วมรักกัน

    พี่จะกลับก็ต่อเมื่อพริมทานอาหารและยาเรียบร้อยแล้วเท่านั้น  ออกไปรอที่โต๊ะอาหารเถอะ พี่สัญญาว่าถ้าพริมทานอาหารเสร็จพี่จะกลับทันที

    พริริสาไม่ได้พูดอะไรต่อเมื่อได้ยินคำยืนยันจากเขาเธอหันหลังเดินกลับพร้อม กับหยดน้ำตาที่ร่วงเผาะลงมา แต่สกายกลับไม่ได้เห็น จะให้เขาเห็นน้ำตาของเธออีกได้ยังไง จะให้เขาเห็นความอ่อนแอของเธออย่างนั้นหรือ ยิ่งเธอเห็นหน้าเขาเท่าไหร่เธอก็ไม่มีวันจะลืมเขาเท่านั้น

    สิบนาทีหลังจาก พริริสาเดินออกมานั่งรอที่โต๊ะอาหาร สกายก็เดินตามออกมาพร้อมถาดอาหารในมือ เขาวางจานอาหารให้พริริสาตรงหน้า ก่อนจะขยับตนเองไปนั่งมองเธออยู่เก้าอี้ตัวสุดท้ายที่ห่างออกไปเกือบวา เพราะพริริสาส่งสายตาดุมาให้ เมือเขาพยายามหย่อนสะโพกนั่งลงข้างๆเธอ

    หญิงสาวยืดคอมองอาหารที่ชายหนุ่มให้อย่างพิจารณา ก่อนจะหยิบช้อนกับส้อมมาจิ้มชิ้นปลาทอดที่ราดน้ำสลัดและหั่นผักเป็นฝอยๆมาให้ ขึ้นมามองพร้อมกับสลับมองไปยังใบหน้าของคนที่นั่งใจจดใจจ่อรอเธอทานอาหารฝีมือเขา อย่างคาดหวัง ก่อนจะตักเข้าปาก และเคี้ยวคำสองคำแล้วก็ต้องรีบคายออกมา

    อี้!! คุณทำอะไรมาให้ฉันกินเนี้ย ไม่ได้เรื่องแข็งยังกับกระดุกไก่ เธอว่าพร้อมผลักจานอาหารออกห่าง ก่อนจะใช้หลังมือเช็คปาก แล้วยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่ม

     สกายหน้าเสียทันที ที่พริริสาพูดขึ้น เขาอุตส่าห์ลงมือตั้งใจทำอย่างพิถีพิถัน เกือบสองชั่วโมง ตั้งแต่เธอหายขึ้นไปบนห้อง แต่ดูเธอพูดสิไม่รักษาน้ำใจเขาสักนิด

    มันใช้ไม่ได้ถึงขนาดนั้นเลยเลยหรือพริมเขาพูดเสียงอ่อย รู้สึกผิดหวังแต่ถึงอย่างนั้นใบหน้าก็ยังเรียบเฉย

    ใช่!!ไม่ได้เรื่อง ฉันไม่กินแล้วคุณก็กลับไปซะ ฉันไม่อยากจะเห็นหน้าคุณพูดจบ ก็ทำท่าจะเดินจากไป แต่เพราะความรีบร้อนทำให้ชนกับพนักเท้าแขนของเก้าอี้อย่างแรง เฉียดหน้าท้องที่มีแผลเธอไปนิดเดียว แต่ถึงอย่างนั้นก็ทำให้เธอถึงกับตัวงอ เพราะความเจ็บปวด

    พริม!!! สกายเองก็ตกใจไม่น้อย เมื่อเห็นว่าเธอหดตัวเข้าหากันแล้วทำท่าจะล้มลง ร่างใหญ่รีบเข้ามาประคองร่างเล็กที่เริ่มจะอวบอั๋นเข้าไปทุกวันทันที

    อย่างมายุ่ง แม้จะเจ็บและจุก แต่ก็ยังอวดดี ไม่ยอมให้ชายหนุ่มช่วย เธอรีบปัดมือเขาทิ้ง ก่อนจะประคองตนเองให้ทรงตัวขึ้น และค่อยๆเดินจับราวบันไดขึ้นไปข้างบน

    สกายได้แต่มองตามเธอด้วยสายตาเจ็บปวด พริริสาไม่เคยใจแข็งแบบนี้หรือเธอ จะโกรธและหมดรักเขาแล้วจริงๆ ชายหนุ่มไม่ได้เดินตามเธอขึ้นไปข้างบน เมื่อเธอแสดงออกมาอย่างชัดเจนว่าไม่ได้ต้องการเขา เขาเดินกลับไปที่โต๊ะอาหาร แล้วจัดเก็บอาหารที่บอกว่าไม่ได้เรื่อง เข้าไปเก็บไว้ในครัวเหมือนเดิม มันจะไม่อร่อยได้ยังไง ในเมื่อสมัยเรียนเข้าเคยไปทำงานเป็นเชฟในห้องอาหารชื่อดังถึงอังกฤษ ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าเธอตั้งใจจะประชดประชันเขามากว่า แต่นั้นมันกลับทำให้เขารู้สึกแปลบๆที่หัวใจไม่น้อยเหมือนกัน

    พริริสากลับเขามานั่งในห้องนอนอย่างอ่อนล้า เธอไม่รู้ว่าจะสามารถเอาชนะใจตนเองได้นานแค่ไหน ในเมื่อยังเห็นหน้าเขาอยู่แบบนี้ หัวใจมันมักและโอนเอนทุกทีเวลาเห็นเขาทำดีให้ แล้วถ้ายังเป็นแบบนี้เธอคงจะใจอ่อนอีกตามเคย

    หลังจากข่มตาให้นอนหลับ ข่มความหิวของตนเองอยู่นาน พริริสาจึงตัดสินใจย่องลงมาหาอะไรทานอีกครั้ง ชายหนุ่มคงกลับไปแล้วตามคำสั่งของเธอเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา แค่นึกว่าชายหนุ่มไม่อยู่ง้อ ต่อมน้อยใจก็กำเริบอีกหน เมื่อต้องอยู่เดียวดายถามกลางบ้านหลังใหญ่เพียงลำพัง ความเหงาก็เริ่มเข้ามากัดกินหัวใจดวงน้อยอีกหน

       พริริสาเปิดตู้เย็น เมื่อเห็นว่ายังมีของแห้ง ที่ไรอันซื้อตุนเอาไว้เธอก็ไม่รอช้า ที่จะจัดการนำมันไปเวฟ  เมื่ออิ่มแล้วก็ไม่ลืมทานยาตามคำสั่งของหมอ เพราะถ้าเกิดแผลที่หน้าท้องหายเร็ว นั้นก็หมายความว่าเธอจะได้กลับเมืองไทยเร็วเท่านั้น

    จากนั้นจึงเดินสำรวจรอบบ้านอีกครั้ง แม้ที่นี่จะอยู่ห่างไกลตัวเมืองใหญ่ แต่ก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดเพราะ รอบๆบ้าน ยังร่ายล้อมด้วยหมู่บ้านเล็กๆติดอยู่ที่เชิงเขา เมื่อมองออกไปจะเห็นแสงไฟริบหรี่ ที่แข่งกันสว่างไสวกับดวงดาวบนท้องฟ้าแม้จะดึกสงัดแล้ว แต่ก็ยังได้ยืนเสียงเพลง เล็ดลอดออกมาตัวหมู่บ้าน ทำให้คนขี้เหงาไม่เปล่าเปลี่ยวจนเกินไป

    เธอเดินออกมาหยุดอยู่หน้าบ้าน ตรงชานชลาที่มีไว้เพื่อรับลม แต่แล้วสายตาก็เหลือบไปเห็นรถคันใหญ่จอดนิ่งอยู่ ในห้องโดนสารยังเปิดไฟทิ้งไว้ กับร่างใครคนหนึ่งที่หลับใหล ที่เธอคิดว่าเขาน่าจะกลับไปแล้ว แต่เปล่าเลย เขายังไม่กลับ เขายังอยู่เฝ้าเธอ แค่คิดว่าชายหนุ่มยังคงเป็นห่วงเป็นใย หัวใจดวงน้อยก็อบอุ่นขึ้นมา อย่างประหลาด พริริสาน้ำตาไหลเมื่อรู้ว่าชายหนุ่มไม่ทอดทิ้งให้เธออยู่เพียงลำพังไว้ในบ้าน เพียงคนเดียว เขาแค่ออกมาเฝ้ารอเธออยู่ข้างนอก ตามคำสั่งของเธอเท่านั่น

    ร่างเล็กกำลังจะเดินเข้าไปบอก ให้เขาเข้ามานอนในบ้าน แต่เมื่อคิดถึงเรื่องที่เขาทำไว้กับเธอ ใบหน้าเปื้อนน้ำตาก็แปรเปลี่ยนเป็นบึ้งตึงทันที ก่อนจะรีบปัดน้ำตาของตนเองทิ้ง แล้วเดินกลับเขามาในบ้าน พร้อมล็อคประตูอย่างแน่นหนา 

     ดีนอนให้ยุ่งกัดตายไปเลย เธอว่าก่อนจะเดินออกจากตรงนั้นและขึ้นข้างบนทันที

    หลังจากที่พริริสาเดินหายเข้าไปในบ้าน คนที่แกล้งนอนหลับอยู่บนรถก็ผะหงกศีรษะขึ้น และมองเข้าไปในบ้านด้วยความรู้สึกหนึบๆที่หัวใจ เขาคิดว่าเธอจะเดินเข้ามาหาเขาซะอีก แต่เปล่าเลยเธอไม่ห่วงใยเขาสักนิด พริริสาที่เขาเคยรู้จักหายไปไหน ทำไมเธอช่างเย็นชาและใจร้ายกับเขานัก

    หนึ่งอาทิตย์ผ่านไป  สกายยังตามเฝ้าง้องอนหญิงสาว แต่ดูเหมือนจะยังไม่มีอะไรคืบหน้า เพราะพริริสายังคงใจแข็งไม่ยอมใจอ่อนคืนดีด้วยง่ายๆ  บางทีหัวใจดวงโตก็เริ่มท้อ  เขาไม่เคยเสียเชิงชายแบบนี้ ไม่เคยถูกผู้หญิงที่ไหนลบเหลี่ยม  ไม่เคยตามง้อผู้หญิงที่ไหนจนไม่เป็นอันทำงานแบบนี้ แม้จะเคยผิดหวังมากับรักครั้งเก่าก่อน แต่ก็ไม่เคยสักครั้งที่เขาจะตามง้องอน หรืออดทนความเอาแต่ใจ เจ้าอารมณ์เหมือนใครเท่าพริริสา แม้จะแข็งแกร่งดังขุนเขา แต่ถ้าถูกพายุที่เรียกว่าความทรมานเล่นงานบ่อยๆ ขุนเขาที่ว่าแข็งแกร่งก็อาจจะพังทลายเอาได้ง่ายๆ

    แผลที่หน้าท้องเริ่มหายเป็นปกติแล้ว  วันนี้เธอเลยอยากออกไปเดินเล่นแถวทะเลสาบ เพราะอุดอู้ อยู่กับบ้านมาเกือบสองอาทิตย์ หลังจากคุยโทรศัพท์กับคุณสายน้ำและต้นน้ำที่ลงทุนโทรข้ามน้ำข้ามทะเลมาหาเธอถึงที่นี่ เพราะความคิดถึงและห่วงใยเสร็จ พริริสาก็นำร่างที่นับวันยิ่งอวบอิ่มของเธอเดินละลิ่วไปทางทะเลสาบ

    พริมเข้าบ้านเถอะ ยืนตากลมนานๆเดี๋ยวจะไปสบาย”          

    พริริสาเพียงหันมามองหน้าคนพูด ก่อนจะหันกลับไปตามเดิม เมื่อไหร่คุณจะไปจากชีวิตฉันสักที คุณสกาย อยู่ๆเธอก็พูดขึ้นท่ามกลางสายลมที่พลิ้วไหว

    สกายเองก็อึ้งเมื่อเจอคำถามแบบนี้  พี่ไม่มีวันออกไปจากชีวิตเธอหรอกพริริสา เขาตอบเสียงหนักแน่น

    คุณจะอยู่เพื่อทรมานตนเองกับฉันไม่ถึงไหนคะ หรือที่ผ่านมาฉันยังเจ็บปวดไม่พอกับการกระทำของคุณ   

    พริมคิดว่า การที่พี่ทำดีกับพริมห่วงใยพริม มันคือความทรมานอย่านั้นรึ” เขาขยับถอยหลัง ใช้หลังไปพิงกับต้นไม้ที่อยู่ใกล้ๆแล้วเอ่ยขึ้น

    ใช่!  จะให้ฉันพูดอีกกี่ครั้ง ว่าฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณ ไม่อยากเห็นคุณทำอะไรเพื่อฉันอีก ในเมื่อเราไม่ได้รักกัน คุณก็อย่าทำอะไรเพื่อฉันอีกเลยฉันไม่อยากเจ็บปวดอีกแล้ว ประโยคหลังเธอไม่ได้พูดออกมาให้สกายได้ยิน มันเป็นเพียงคำตัดพ้อต่อว่าอยู่ในใจ

    พริม คือ พี่.. แค่จะบอกว่ารักเธอ ยังไม่กล้าพูด ก็สมควรแล้วที่เธอจะไม่ให้อภัยในความขี้ขลาดและโง่เขลาของตนเอง พริริสาเองก็รอฟังอยู่ว่าเขาจะพูดคำนั้นมั้ย แต่เปล่าเลยเขาไม่พูด เขาไม่ได้รักเธอ สิ่งที่เขาทำมาทั้งหมด เพราะอยากไถ่โทษในใจตนเองเท่านั้น

    หยุดทำร้ายพริมด้วยการกระทำที่แสนดีของพี่เถอะค่ะ” พริริสาหันมาพูดกับชายหนุ่มด้วยความรู้สึกเจ็บปวด แต่ใบหน้ากลับยังยิ้มแย้ม จนสกายยังรู้สึกโหวงเหวงชอบกลกับท่าทีนั้น   เธอเดินเข้ามาจับมือชายหนุ่ม พูดขึ้นด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม แต่ทั้งคำพูดและน้ำเสียงที่เปล่งออกมา มันเหมือนฟ้าผ่ามาตรงกลางหัวใจของคนตัวโต จนเขาชาวาบไปหมดทั้งตัว

    ถ้าพี่อยากเห็นพริมกับลูกมีความสุข พริมขอนะคะต่างคนต่างไปต่างคนต่างอยู่จะดีกว่าเธอว่า พร้อมทำท่าจะเดินจากไป แต่คนที่ยืนอึ้งกับคำพูดออกเธอกลับคว้าเอาร่างเล็กเขามากอดไว้แนบออก

    ไม่นะพริม มันต้องไม่ใช่แบบนี้สิ คำพูดพริริสาบั่นทอนจิตใจจนคนฟังเจ็บแปลบ

    มันควรเป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้วต่างหาก เราต่างคนต่างไม่ได้รักกันมาตั้งแต่แรก มันก็สมควรแล้วที่มันจะจบลงแบบนี้” เธอเม้มปากตนเองไว้แน่น พยายามจะห้ามน้ำตาตนเองไม่ให้ไหล แค่คำว่ารักเธอ เขายังเอ่ยไม่ได้ แล้วจะมีประโยชน์อะไรที่จะให้เธออยู่ที่นี่ต่อ หนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา เธอพยายามเพียรทำให้เขาพูดคำว่ารักออกมา แต่ไม่เลยไม่เคยสักครั้งที่เขาจะพูด แม้แต่ครั้งนี้ เขาก็ยังไม่พูด

    ไม่นะพริม พริมจะโกรธและเกลียดพี่ยังไงพี่ไม่ว่าแต่อย่าไปจากพี่ อย่าพาลูกหนีไปจากพี่ คำพูดของเขาทำให้พริริสานึกย้อนถึงสัญญาฉบับนั้น แล้วก็ต้องหัวเราะเยาะตนเองทั้งน้ำตา นี่เขากลัวเธอพรากลูกไปจากเขาอย่างนั้นหรือ

    พริมไม่ใจร้าย ถึงขนาดพรากลูกพรากพ่อออกจากกันหรอกคะ มียังมีสิทธิ์ในตัวเขาทุกอย่าง แต่ถึงอย่างนั้นพี่ก็มีสิทธิ์แค่ในตัวลูกเท่านั้น แต่ไม่ใช่พริมเธอว่า ก่อนจะพยายามแกะมือเขาออกจากตัว

    ปล่อยพริมเถอะคะ พริมจะกลับเข้าไปในบ้าน สกายยอมปล่อยมือออกจากร่างพริริสาเหมือนคนหมดเรี่ยวแรง สมควรแล้วนี่ที่เธอจะทำกับเขาแบบนี้ ในเมื่อที่ผ่านมาเขาก็ทำแบบนี้ทำเธอเช่นกัน สมควรแล้วที่พริริสาจะจากไปในเมื่อ แค่คำว่ารัก แค่สั้นๆง่ายๆเขายังไม่กล้าที่จะพูดกับเธอ

    พริริสาเดินกลับเข้าบ้านด้วยหัวใจที่บอบช้ำอย่างหนัก  ไม่มีแม้แล้วหยาดน้ำตา เพราะมันไม่มีแม้กระทั้งเรี่ยวแรงที่จะร้องไห้ แค่คำว่ารักแค่คำเดียวเขายังไม่เอ่ยออกมาให้ได้ยิน เธอหวังว่าจะได้ยินคำว่ารักจากปากชายหนุ่ม ตามที่ต้นน้ำแนะนำให้พูด แต่เปล่าเลยที่เขารั้งเธอไว้ เพราะเขากลัวว่าเธอจะพรากลูกไปจากเขามากกว่า  ไม่มีอะไรให้ต้องคิดอีกแล้ว พรุ่งนี้เธอจะกลับบ้าน กลับไปหาไออุ่นที่นั้น ที่ตรงนี้ คงไม่มีไออุ่นพอให้เธอกอดนอนได้อีกแล้ว

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×