ลำดับตอนที่ #9
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : อดีตหลอน
เหนิง..
#ห้องพยาบาล#
พี่ฟรังพูดอะไรของเขานะทำไมผีต้องตามฆ่าฉัน?
ฉันไม่เข้าใจนี่ฉันไปทำอะไรไว้หรือเปล่า?
ความหวาดกลัวกำลังวิ่งแล่นจับจิตจับใจ
ความเชื่อเรื่องผีสางครอบงำความคิดฉัน
ไอ้แบงค์คือตัวอย่างที่ทำให้ฉันเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้นสดๆร้อนๆ
มันยังเป็นภาพติดตาฉัน..
คำเตือนของพี่ฟรังยังคงดังก้องอยู่ในหูตลอดเวลา
"วิญญาณอาฆาตนั้นจะกลับมาเอาชีวิตเธอในอีกไม่ช้า"
ไอ้แบงค์แค่โดนผลกรรมของฉัน..
"นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันวะ"..ฉันยังคิดไม่ตกนั่งมองสาระรูป
ของไอ้แบงค์ที่นอนอยู่บนเตียง..
กวาดสายตาดูความวุ่นวายภายในห้องพยาบาล
มีแต่คนหัวล้างข้างแตกเข้าคิวรอทำแผลกันเป็นแถว
เก้า..
"เจ็บมากไหม" ฉันทำแผลที่แตกตรงหางคิ้วให้ตาลอย่างเบามือ
"อืมนิดหน่อยเองไม่ต้องห่วงหรอก" หมั่นไส้นักคนอุตส่าห์เป็นห่วงแท้ๆ
กับบอกไม่ต้องห่วงฉันเลยแกล้งกดน้ำหนักมือ..
"โอ๊ย!เก้าเบาหน่อยซิ!" ตาลร้องเสียงดังจนฉันอดขำไม่ได้
"ก็นึกว่าไม่เจ็บไงคะ!" ฉันยิ้มให้กับพระเอกของฉันที่เอาตัวเอง
เป็นโล่กำบังปกป้องฉันจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
"ก็อย่าแกล้งฉันซิ" ตาลทำหน้าอ้อนใส่ฉัน..
คิดไม่ผิดจริงๆที่ลองคบตาลน่ารักขนาดนี้สาวๆถึงชอบ
"ขอบคุณนะที่ช่วยเก้า"..ตาลยิ้มแล้วจับมือฉันบีบเบาๆ
"ฉันต้องช่วยเธออยู่แล้ว"..ฉันก้มลงไปกระซิบที่ข้างหูตาลเบาๆ
"เลิกเรียนไปบ้านเก้านะจะให้รางวัล" ตาลอมยิ้มกริ่มเราสองคนจ้องตากัน
สายตาเจ้าชู้ของตาลทำฉันหน้าร้อนผ่าว จนต้องหลบเฉสายตาไปที่
แพรวากับฟรัง...ฟรัง!จริงซิ..เรื่องพิศวงที่ทำให้ฉันงงกับเหตุการณ์
ที่เกิดขึ้นจนเหลือเชื่อ..ผีสิง! กับฟรัง!ผู้ปราบผี!!
แพรวา..
เคาเตอร์เพนถูกทาลงตามแขนของหมอปราบวิญญาณที่รักของฉัน
หลังจากที่ฉันกรีดร้องจนเจ็บคอเมื่อฟรังพลาดท่าถูกแบงค์จับทุ่ม
กับพื้นอย่างแรงภาพนั้นทำให้ฉันแทบอยากจะกระโจนลงจากตึกชั้นสาม
ถ้าฟรังไม่รีบลุกขึ้นมาซะก่อน
ฉันนวดเคาเตอร์เพนให้คนหน้าผีดิบอย่างเบามือ
"นวดแรงๆก็ได้นะ" ห๊ะ!..ฉันขมวดคิ้วใส่ฟรังทันที
"คนอุตส่าห์กลัวว่าจะเจ็บแท้ๆ!!" ฉันเพิ่มน้ำหนักมืออย่างโมโห
"ขอบใจนะที่เป็นห่วง" คนบ้าแอบอ่านความคิดฉันอีกแล้ว
"ไม่ได้แอบแต่มันได้ยินเอง" เอาเข้าป่ะ..
"เจ็บตรงไหนอีกไหมอ่ะ?" ฉันเปิดหน้าม้าของฟรังขึ้นเพื่อหาบาดแผล
ใบหน้าเนียนใสของฟรังทำให้ฉัน..'อยากหอมจัง
' "คืนนี้ไปค้างบ้านฉันซิ" น้ำเสียงเรียบๆเหมือนไร้จิตวิญญาณของฟรัง
ทำหน้าฉันร้อนผ่าว..
"อืม..คืนนี้ไปนอนด้วยนะ" การพยักหน้าของฟรังนั่นคือคำตอบ
ฉันหันไปมองพี่เก้าที่กำลังมองมาที่ฉัน
"พี่เก้าคืนนี้แพรจะไปทำรายงานที่บ้านฟรังบอกแม่ด้วยนะ"
พี่เก้าพยักหน้าให้..ฉันหรี่ตามองไปที่มือของพี่ตาล
ที่จับมือพี่สาวฉันไว้แน่นแบบนั้นแสดงว่าสองคนนั้นต้องคบกันแน่ๆ
ฉันรีบหันกลับมาหาคนหน้าตาย..
"ฟรังดู.." ฉันยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อก็ต้องชะงักเมื่อเห็นสายตาที่จ้องเขม็งของฟรัง
มองผ่านหัวไหล่ฉัน..ฉันรีบหันหลังมองตามไปที่หน้าต่าง ฝูงอีกาบินเต็มไปหมด!
ฟรัง..
อดีตกำลังจะหวนกลับคืนมาพร้อมกับความอาฆาตแค้น
แล้วใครล่ะ?..ที่ทำร้ายเธอ?..กำนันหาญต้องรู้เรื่องนี้!
"ฟรังทำไมอีกามันเยอะขนาดนี้ล่ะ?"..ความสงสัยของแพรวา
ช่วยฉุกให้ฉันต้องทำอะไรซักอย่าง..
"ตอนนี้ฉันยังไม่รู้สาเหตุแน่ชัดแต่มันคือลางร้าย"
ฉันมองไปที่เด็กรุ่นน้องที่นั่งหน้าขาวซีดมองมาที่ฉัน
"แพรวาเธอรู้จักเด็กคนนั้นใช่ป่ะ?" แพรวามองตามแล้วพยักหน้า
"เหนิงน่ะ..มีอะไรเปล่า?" แพรวามีสีหน้าสงสัยอย่างมาก
"อืม..เด็กนั่นคือเป้าหมายของวิญญาณพยาบาท"
ใบหน้าตื่นตะหนกของแพรวาที่อยากถามต่อว่าเกิดอะไร?
"ไม่นานอดีตของคนรุ่นพ่อแม่ที่ทำไว้จะกลับมาคิดบัญชีแค้นกับลูกแทน
ฉันต้องรู้สาเหตุก่อนถึงจะหาวิธีช่วยได้"..
ฉันลุกเดินไปหาเหนิงที่มองฉันตาไม่กระพริบ
"ขอจับมือหน่อยได้ไหม?" เด็กนั่นทำปากคอสั่นเหงื่อกานแตกเต็มใบหน้า
แต่แล้วก็ยอมยื่นมือมาให้ฉันจับ..
ภาพเหตุการณ์ในอดีตของเหนิงไล่มาเป็นลำดับ
ฉันเพ่งกระแสจิตไปยังเหตุการณ์วันที่เหนิงกับแบงค์อยู่ในโบสถ์ร้าง
แบงค์ที่มีโถใบเก่าอยู่ในมือวิญญาณที่ถูกหมอผีตรึงวิญญาณไว้ในโถ
ถูกปลดปล่อยเมื่อแบงค์ดึงผ้ายันต์ที่ปิดปากโถออก..
กลุ่มควันสีดำพวยพุ่งออกมาจากโถ แบงค์ที่ไม่รู้ถึงอันตราย
หยิบแผ่นหนังหน้าผากโยนลงบนพื้นแววตาที่แข็งกร้าว
ของวิญญาณพยาบาทที่ยืนจ้องอยู่ด้านหลังบ่งบอกถึง
ความโกรธแค้นเมื่อแบงค์ใช้เท้าเหยียบแผ่นหนังที่แบงค์โยนทิ้ง
ความพยาบาทอาฆาตแค้นจึงตามติดแบงค์และเหนิงกลับไปด้วย
"ไอ้เหนิง.." เสียงเรียกทุ้มใหญ่ของผู้ชายคนนึงทำให้ฉันปล่อยมือเหนิง
แล้วหันไปมองที่ประตู..
"พ่อ!!..ฮือ~~"..เหนิงลุกขึ้นวิ่งไปหากำนันหาญที่มาพร้อมใครบางคน
ที่สัมผัสพลังไสยเวทย์ดำได้แม้ยังไม่ได้เข้ามาด้วย..
"พี่สาว!!ไอ้หมอพุดจากเพชรบุรีมันไล่จับหนู!!"
ฉันหันไปมองขันทองน้อยที่ยืนหอบตัวโยนอยู่ด้านหลัง
"หมอผีจากเพชร?" ขันทองน้อยพยักหน้า..
ร่างสูงใหญ่ของผู้ชายคนหนึ่งโผล่มาจากด้านหลังของกำนันหาญ
"อยู่นี่เอง!!" สำเนียงเหน่อๆของหมอผีที่จ้องมองมาที่ฉันและขันทอง
"อย่าแตะต้องของๆฉัน!" แม้จะกลายเป็นเป้าสายตาให้ทุกคนจับจ้อง
แต่ฉันก็ไม่ยอมให้หมอผีต่างถิ่นเหิมเกริมทำร้ายขันทองแน่..
กำนันหาญจับไหล่หมอผีที่ทำท่าขยับจะเดินเข้ามา
"อย่าเพิ่งนอกเรื่องน่าพ่อหมอ" หมอผีพุดแสยะยิ้มใส่ฉันเชิงท้าทาย
"พ่อ!ผีมันเข้าสิงไอ้แบงค์!!พี่ฟรังบอกว่ามันจะฆ่าฉัน..ฮือ~~
ฉันกลัว~~"...เหนิงร้องไห้ตัวสั่นด้วยความกลัว..
กำนันหาญหันไปมองหน้าหมอผีที่จ้องหน้าฉันตาไม่กระพริบ
"นังหนูวิชาแก่กล้าเอาการทำไมไม่จัดการกับนังผีนั้นซะล่ะปล่อยมันไปทำไม!!"
ตอนนี้ฉันกลายเป็นจุดศูนย์รวมของเป้าสายตาที่พุ่งตรงมาที่ฉัน
"ฉันมีธรรมคุณไว้ปลดปล่อยไม่ใช่ทำลาย"
พูดจบฉันก็คว้าข้อมือของขันทองและแพรวา
เดินผ่านคนทั้งหมดออกจากห้องพยาบาลไป
แม้จะไม่อยากยุ่งแต่ฉันก็คงไม่ปล่อยให้หมอผีพุดทำลาย
ดวงจิตของวิญญญาณอาฆาตนั้นแน่
ฉันกับขันทองพยักหน้าให้กันอย่างรู้งาน...
การปลดปล่อยดวงวิญญาณให้พ้นจากทุกข์
นั้นแหละลิขิตที่ฟ้ากำหนดให้ฉันเกิดมา..
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
ณ.โบสถ์ร้าง17:30
ประตูอดีตกำลังจะเปิดอออก ภาพสะเทือนใจจะปรากฏให้เห็น
เมื่อเด็กสาวผู้มีสัมผัสพิเศษเหยียบย้ำเท้าเข้าสู่ประตูโบสถ์
ที่ยังคงรักษาภาพแห่งความจริงเอาไว้..
~ฟรัง~
โถที่ตรึงวิญญาณตกอยู่นพื้นที่เดิมฉันก้มลงหยิบ
ซากแผ่นหนังหน้าผากแห้งๆที่เปอะเปื้อนรอยเหยียบย้ำขึ้นมา
"อะไรน่ะฟรัง?"..สิ่งที่อยู่ในมือของฉันน่ะหรือ
"หนังหน้าผาก" แพรวายกมือขึ้นปิดปากกับซากแห้งๆ
ที่ดูน่าสลดใจ..แผ่นหนังถูกห่อด้วยผ้าขาว
"เรากลับกันเถอะ" ฉันรีบชวนแพรวากลับเพื่อเปิดดูอดีต
การตายของเจ้าของหนังหน้าผากชิ้นนี้..
"ฟรังแพรรู้สึกไม่ดีเลยกลัวฟรังเป็นอันตราย"
ฉันรู้ว่าแพรกังวลเรื่องหมอผีพุด..
"ไม่ต้องห่วงฉันมีตัวช่วย"คำพูดชวนสงสัยทำให้แพรขมวดคิ้วมองหน้าฉัน
"ใครเหรอ?" ถ้าฉันบอกความจริงกับแพรไปจะเกิดอะไรขึ้น
แต่ฉันไม่ควรปิดบังเธออีกต่อไป..แพรวา..
"ขันทอง" แน่นอนที่แพรวาจะอ้าปากทำหน้าตกใจ
"จะบ้าเหรอฟรัง!!แพรไม่ยอมให้ลูกแพรไปเสี่ยงอันตรายแน่!!"
เสียงที่แสบแก้วหูของแพรวาทำฉันถอนหายใจออกมา
"ฟังนะแพร..ขันทองไม่ใช่เด็กธรรมดาเธอคือกุมาลี"
แพรหันหน้ากลับไปมองท้องถนนด้วยแววตาหม่นเศร้า
ความเงียบที่ทำให้ฉันเริ่มอึดอัด..
"แพรเธออย่าเงียบแบบนี้ซิ" แพรนั่งก้มหน้าน้ำตาหยดใส่หลังมือที่เธอบีบมันเอาไว้
"แพรรู้มานานแล้วล่ะเรื่องลูกของแพรแต่แพรไม่อยากตอกย้ำว่าขันทองไม่มีตัวตนอยู่จริง "
ไม่น่าเชื่อว่าแพรจะหลบความคิดเรื่องของขันทองจนฉันสัมผัสมันไม่เห็นเธอทำได้ไงกัน
"เธอรู้ได้ไงแพร?"..ฉันเอื้อมมือไปปาดน้ำตาออกจากแก้มของแพรวา
"ตั้งแต่วันแรกที่เห็นขันทองนั่งบนขื่อบ้านเด็กธรรมดาที่ไหนจะทำได้ล่ะ
แต่ด้วยความน่ารักของขันทองทำให้แพรมโนเอาเองว่าเธอไม่ใช่ผี
แพรอยากให้ขันทองมีตัวตนอยู่จริงเพราะทุกครั้งที่แพรกอดขันทอง
เหมือนกอดเพียงไอของอากาศเย็นๆ"..
ฮือ~~ๆ เสียงร้องไห้ของขันทองที่ตามมาด้วยแต่ไม่ยอมปรากฎตัว
ให้แพรวาเห็นนั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ที่ท้ายกระบะ
เด็กน้อยได้ยินทุกสิ่งทุกอย่าง..เสียงคร่ำครวญที่มีเพียงฉันที่ได้ยิน
"ขันทองกำลังร้องไห้" แพรวาเงยหน้าและหันมามองฉัน
"ลูกแพรอยู่ที่ไหนฟรัง!!" น้ำเสียงที่สั่นเครือของแพรวา ทำให้ฉันแตะเบรคเบาๆ
ฉันเปิดประตูลงจากรถเอื้อมมืออุ้มขันทองขึ้นมาจากท้ายกระบะ
"ไม่เอาหนูไม่อยากให้แม่เห็นฮือๆ" ขันทองร้องไห้งอแงกับความจริงที่เปิดเผย
"ไหนล่ะฟรังลูกแพรอยู่ไหน?"..ขันทองไม่ยอมปรากฎกายเอาแต่ซุกหน้าร้องไห้
แพรวากวาดสายตามองหาขันทอง..อากาศที่ฉันโอบอุ้มเอาไว้ถูกส่งมอบให้แพรวา
"ใช้หัวใจมองนะแพรวาแล้วเธอจะเห็นลูกของเธอ" แพรวารับมวลวิญญาณที่เป็นเพียงพลังงาน
ที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็นของขันทองไปอุ้มเอาไว้..
"ขันทองลูกแม่วันนี้เรายังไม่ได้กอดกันเลยนะ"..ฉันปาดน้ำตาของตัวเอง
เมื่อเห็นขันทองเช็ดน้ำตาให้แพรวาและเช็ดน้ำตาของตัวเอง..
"แม่จ๋า..ฮือๆ"..ในที่สุดขันทองน้อยก็ยอมปรากฎตัวในอัอมอกของแพรวา
ทั้งคู่กอดกันแน่น..
"ขันทองอย่าแอบแม่อีกนะ..ไม่ว่าลูกจะเป็นอะไรแม่ก็รักลูกนะ"..
ภาพแห่งความประทับใจที่ฉันอยากสัมผัสอุ่นไอรักจากแม่เหมือนกัน
ประตูห้องพระถูกเปิดออกห่อผ้าที่มีหนังหน้าผากถูกวางลงบนพาน
ฉันกับขันทองนั่งสมาธิข้างกันเราทั้งสองกำลังทำพิธีต่างกัน
ฉันเปิดจิตสัมผัสอดีตที่หลอกหลอนคนเป็นในปัจจุบัน..
ส่วนขันทองกำลังบำเพ็ญเพียรสร้างบุญบารมีให้ดวงจิตแข็งแกร่ง
แซดๆๆ..ม้วนภาพในอดีตเมื่อสามสิบปีที่แล้วเริ่มปรากฎขึ้น..
กลุ่มเด็กชายหญิงเล่นกระโดดยางกันที่ลานหญ้ากว้าง
ทุกคนหยุดเล่นเมื่อเห็นเด็กผู้หญิงวัยสิบขวบเดินกระเผกเข้าไปขอเล่นด้วย
"ให้หนูเล่นด้วยดิ"..เด็กผู้ชายรูปร่างอ้วนเดินเข้าไปผลักจนเด็กผู้หญิงล้มลง
"ไป๊อีเป๋!!พวกกูให้แต่คนขาดีเล่น!ส่วนมึงโน้นไปเล่นขอทานหน้าวัดนู้น555"
เด็กๆต่างพากันหัวเราะโห่ไล่เด็กผู้หญิงที่น่าสงสาร..
เธอเดินร้องไห้ไปถึงท่าน้ำที่เป็นคลองหลังบ้าน..
"มอญซ่อนผ้าตุ๊กตาอยู่ข้างหลังไว้โน้นไว้นี่ฉันจะตีก้นเธอ"
เสียงที่ดังมาจากอีกฝั่งคลองทำให้เด็กผู้หญิงชะเง้อคอมอง
ลานโล่งของวัดร้างมีเด็กชายหญิงสี่ห้าคนเล่นมอญซ่อนผ้า
กันอย่างสนุกสนาน..เด็กหญิงเดินกระเผลกขาไปที่เรือไม้ลำเล็ก
และพายมันตรงไปยังอีกฝั่งคลอง...
"ไอ้ถม!!มึงทำไมซ่อนผ้าแต่หลังกูคนเดียวห๋า!!"
เด็กผู้หญิงที่วิ่งหนีเมื่อถูกเด็กชายถมไล่ตีด้วยผ้าโวยวายเสียงดัง
สร้างเสียงหัวเราะชอบใจให้กับเพื่อนๆ..
ความสนุกสนานต้องเงียบเสียงลงเมื่อได้ยินเสียงลากเท้าของคนที่เดินมา
"ไอ้หาญไอ้จรแฟนพวกเอ็งมาตามป่ะว่ะ?". ถมถามอย่างเด็กคะนองปาก
"ส้นเถอะ!!" จรสวนทันควัน..
"พี่ขอหนูเล่นด้วยซิ" เด็กชายหญิงทั้งห้าคนมองหน้ากันไปมา
"โหขาก็เป๋ยังอยากจะเล่นอีก" หาญเบ้ปากใส่
"ให้มันเล่นด้วยก็ได้หลายๆคนหนุกดี" เด็กผู้หญิงสองคนพยักหน้าให้กัน
อย่างสงสารเด็กขาเป๋..
"อีเดือนอีแก้วอยากเป็นนางเอกช่องเจ็ดรึไงวะแม่งขาก็เป๋แบบนั้น
จะวิ่งไล่ใครทันมันคงได้เป็นมอญไปถึงชาติหนัาแหง๋"
ท่าทางถมไม่พอใจเอามากๆที่จะให้เด็กต่างถิ่นมาร่วมวง
"นะพี่นะให้หนูเล่นด้วยคน" เด็กหญิงทำหน้าอ้อนวอนอย่างน่าสงสาร
เธอคงจะเหงามากไปทางไหนก็ถูกขับไล่และปฏิเสธ
"ให้มันเล่นด้วยเถอะว่ะกูว่ามันน่าสงสารออก"
เด็กชายร่ายกายผอมแห้งที่ชื่อจรเริ่มสงสารเด็กหญิง
ในที่สุดพวกเด็กก็ให้เด็กหญิงต่างถิ่นเล่นด้วย
และเป็นเธอที่เป็นมอญซ่อนผ้าถูกเด็กๆไล่ฟาดตี
ล้มลุกคลุกคลานแต่เด็กหญิงก็ยังหัวเราะออกมา
ด้วยความสนุก ถึงคิวหาญที่ถูกเด็กหญิง
เอาผ้าซ่อนไว้ด้านหลังของหาญแต่เด็กชายไหวทัน
คว้าผ้าข้างหลังไล่ฟาดเด็กหญิงเหมือนหาญจะเล่นแรงเกินกว่าเหตุ
เด็กหญิงวิ่งขากระเผลกๆหนีหาญจู่ๆหาญก็แกล้งเตะที่ขาข้างที่ลีบเล็ก
ของเด็กหญิงจนเธอเสียหลักล้มหน้าฟาดกับหินเลือดไหลอาบ
"โอ๊ย!!ฮือๆหนูจะฟ้องยายฮือๆ..เด็กหญิงยันตัวลุกจรรีบวิ่งไปช่วยพยุง
"ไอ้เหี้ยหาญ!!มึงเล่นเหี้ยอะไรวะ!!ดูดิหัวมันแตกเลย!!"
หาญยืนหน้าซีดเมื่อเห็นเลือดที่ไหลนองเต็มหน้าของเด็กหญิง
"กะกูไม่ได้ตั้งใจ!!" หาญตาลีตาเหลือกถอยหลังกรูดไปหาถม
"ฮือๆหนูจะฟ้องยาย!!.." เด็กหญิงลุกขึ้นยืนเอามือกุมหัวหันหลังจะเดินกลับไปที่เรือ
"ทำไงดีวะถมถ้ามันไปฟ้องยายมันต้องมาเอาเรื่องกูแน่แม่กูตีกูตายแหง๋!!"
ถมมองตามหลังเด็กหญิงด้วยแววตาเขม็ง
"ทุบปากอย่าให้มันพูดได้ซิวะ!!" ถมก้มลงคว้าก้อนหินใหญ่พอประมาณ
แล้ววิ่งตามเด็กหญิงไปโดยมีหาญวิ่งตามไปติดๆ..
"ไอ้ถมไอ้หาญ!!มึงจะทำอะไรมัน!!" จรตะโกนถามแต่ไร้คำตอบกลับมา
เดือนกับแก้วเห็นท่าไม่ดีเธอจึงวิ่งหนีไปจากตรงนั้น
ถมคว้าผมกระชากหัวเด็กหญิงสุดแรงจนเธอหน้าหงายล้มลง
ฉันเริ่มขบกรามกับภาพที่เห็น...
"โอ๊ย!หนูเจ็บนะฮือๆ..ปล่อยหนู!!หนูจะฟ้องยาย!!" ถมขึ้นค่อมเด็กหญิงที่ดิ้นไป
"ไอ้หาญ!!จับมันเอาไว้ซิวะ!!" หาญรีบช่วยถมจับเด็กหญิงผู้น่าสงสาร
ตุ่บ!!ๆๆๆ..โอะ!!!..ฉันกัดฟันดังกรอด!!น้ำตาหยดเปาะ
เมื่อเด็กหญิงถูกหินในมือถมทุบเอาทุบเอาที่หน้าและปากจนเละ
ร่างเธอกระตุกเกร็งและแน่นิ่ง..
"ชาติชั่ว!!" ฉันสบถด่าอย่างเหลืออด..กับภาพที่น่าหดหู่และเวทนา
"ไอ้ถมไอ้หาญ!!"..จรทนดูไม่ไหวจึงวิ่งหนีไปอีกคน
หาญที่หลับตาปรี๋ค่อยๆลืมตาขึ้นแล้วต้องตกใจสุดขีด
เมื่อเห็นสภาพหน้าที่เละเทะของเด็กหญิงเด็กชาย
รีบปล่อยมือจากเด็กหญิงลุกพรวดพราด..
"อะไอ้ถม!!ทะทำไงดีวะ!!" ถมโยนหินในมือทิ้ง
"เอามันไปไว้ในโบสถ์เดี๋ยวมันฟื้นก็กลับบ้านมันเองแหละ"
อนาถแท้..เด็กชายทั้งสองช่วยกันยกร่างที่ไร้วิญญาณ
ของเด็กหญิงไปไว้ในโบสถ์ร้าง..
คิดไปว่าที่เธอแน่นิ่งเพราะสลบ.. อนิจจาเธอคงไม่มีโอกาสฟื้นขึ้นมาแล้ว
"นิ่ม~~นิ่มเอ้ย!" หญิงชราตาบอดมองไม่เห็นวิญญาณ
ของหลานสาวที่ยืนร่ำไห้อยู่หน้าบ้าน..
การหายตัวไปของหลานสาวทำให้ยายที่มีดวงตาบอดสนิท
ค่อยๆคลานคลำไปจนถึงทางเข้าบ้านเบืัองหน้าของหญิงชรา
มีวิญญาณของเด็กหญิงในชุดนักเรียนประถมยืนร้องไห้
"นิ่มอยู่ไหนลูก..เข้าบ้านได้แล้ว"..ฉันอดสูใจจนเก็บน้ำตาไว้ไม่อยู่
"ยายจ๋า~~หนูเจ็บ~~ฮือ~~ฮือ"..เด็กหญิงผู้น่าสงสาร
เธอยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเธอตายแล้ว..
เช้าวันรุ่งขึ้นหญิงวัยกลางคนเพื่อนบ้านนำข้าวมาให้หญิงชราที่อาศัยอยู่กับหลานสาว
เพียงสองคนต้องตกใจเมื่อเห็นหญิงชรานอนหลับอยู่หน้าบ้าน
เธอรีบวางปิ่นโตข้าวลงแล้วประคองร่างของหญิงชราขึ้น..
"ป้านุ่มๆ.." เสียงเรียกปลุกหญิงชราให้ตื่น..
"นิ่ม..นิ่มกลับมาหรือยัง?" ..คำถามที่ทุกคนต้องช่วยกันออกตามหา
เมื่อกำนันโหนพ่อของเด็กชายหาญได้รับแจ้งจากชาวบ้าน
ว่ามีเด็กหญิงหายตัวไปเขาจึงระดมชาวบ้านออกตามหา
และในที่สุดโบสถ์ร้างก็เฉลยคำตอบ..
เมื่อชาวบ้านเข้าไปพบร่างขึ้นอืดของนิ่ม
เสียงสาปแช่งฆาตกรโหดดังระงมไปทั้งหมู่บ้าน
ความลับที่เด็กห้าคนปิดปากเงียบเพราะกลัวความผิด
กำลังตามหลอกหลอนเด็กทั้งห้าและชาวบ้านทุกคน
เมื่อยายนุ่มยืนยันไม่เผาศพให้โบกล็อคปูนเก็บศพไว้ที่ป่าช้าของวัดร้าง
จนกว่าจะจับฆาตกรใจเหี้ยมมาลงโทษให้ได้..
ค่ำคืนหนึ่งในวันฝนตกหนัก ชาวบ้านที่เดินส่องหากบและวางเบ็ด
ตามริมคลองก็ต้องหยุดชะงักมือจากการปักเบ็ด
เงยหน้ามองเรือลำเล็กที่พายมาจอดอยู่ตรงหน้าเขา
ไฟฉายที่อยู่บนหัวของเขาสาดเข้าหน้าของคนพายเรือเต็มๆ
ใบหน้าที่เละเทะของเด็กหญิงในชุดนักเรียนทำให้เขา
กรีดร้องเสียงดังออกมา..
"ผะผะผี!!!ผีหลอก!!!"..เขาถอยกรูดจ้ำพรวดพราดลื่นหน้าถไลพื้น
ลุกขึ้นวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต..หลังจากนั้นความเฮี้ยนของนิ่ม
แพร่สะพัดไปทั้งตำบล..
ในทุกค่ำคืนชาวบ้านละแวกใกล้วัดร้างจะได้ยินเสียงเพลงมอญซ่อนผ้า
สลับกับเสียงร้องไห้อย่างน่าเวทนาของเด็กผู้หญิง..
ชาวบ้านที่เคยออกหาปลาหากบตอนกลางคืนก็ไม่มีใครกล้าออกนอกบ้าน
ลูกเด็กเล็กแดงต่างเข้าบ้านเงียบเมื่อตะวันเริ่มลาลับขอบฟ้า..
ความหวาดกลัวของชาวบ้านทำให้ลืมความเจ็บแค้นที่จะหาตัวฆาตกร
มาลงโทษทุกคนลงมติเป็นเอกฉันท์ให้กำนันโหน
หาหมอผีมาสะกดวิญญาณของนิ่มและเผาศพ
โดยไม่บอกให้ยายนุ่มรู้..
"เมื่อทุกคนเห็นพ้องต้องกันฉันก็จะไปรับหมอผีมั่น
จากเพชรบุรีมาจัดการกับผีนังนิ่มให้!"
เมื่อความยุติธรรมถูกความหวาดกลัวเข้าครอบงำ
คนผิดลอยนวลความเครียดแค้นอาฆาตพยาบาทคำรามก้อง..
ปลายมีดอาคมกรีดลงบนหน้าผากที่ย่นยุ่ย
เสียงบริกรรมคาถาสะกดวิญญาณที่ท่องผ่านปากหนา
ด้วยน้ำเสียงสำเนียงคนเพชรโถสีขาวถูกล้วงออกมาจากย่าม
แผ่นหนังหน้าผากถูกมนต์สะกดตรึงใส่ลงไปในโถพร้อมกับเส้นผมของนิ่ม
ผ้ายันต์ถูกนำขึ้นปิดไว้ปากโถ..
หมอผีเดินเข้าไปในโบสถ์ร้างเขานำโถใส่ไว้
ใต้แท่นพระประทานสถานที่กักขังดวงวิญญาณของเด็กหญิง
พิธีกรรมทางศาสนาสวดส่งวิญญาณจัดขึ้นมาเพื่ออะไร?
ในเมื่อวิญญาณถูกกักขัง..
ซากที่เน่าเฟะของนิ่มถูกมัดด้วยผ้าขาวและนำลงโลงเตรียมเข้าเตาเผา
เด็กทั้งหาจุดธูปขออโหสิกรรมหนึ่งในนั้นบวชเณรให้..เณรถม..
ฆาตกรที่ถูกลืม ผู้ที่อาศัยชายผ้าเหลืองชดใช้ความผิด
จนได้เป็นเจ้าอาวาสวัดประจำตำบล เพียงพอแล้วหรือกับบาปที่ก่อเอาไว้!!
ขันทอง..
พี่สาวน้ำตาไหลแบบนี้เจอชีวิตผีเศร้าอีกแน่เลย..
หนูก็ต้องรับหน้าที่เช็ดน้ำตาไป
"พี่สาวเอาไงต่อคืนนี้พวกมันต้องไปทำลายดวงวิญญาณนั่นกันแน่ๆเลย"
พี่ฟรังออกจากสมาธิหันมาจ้องหน้าหนู..
."คืนนี้หมอผีพุดกับกำนันหาญต้องไปหาหนังหน้าผากนี้ที่วัดร้าง
เราจะไปบ้านกำนันหาญกันพี่เชื่อว่าดวงวิญญาณจะตาม
ไปเอาชีวิตของเหนิงเป็นคนแรก"...
เสียงประตูถูกเปิดออกทำให้หนูกับพี่ฟรังหันไปมองพร้อมๆกัน
"ได้ยินแว่วๆว่าจะไปบ้านกำนันหาญกันให้แพรไปด้วยนะ"
เอาแล้วงะแม่แพรร้องตามเป็นเด็กเลย
"แม่ไม่กลัวผีเหรอ..ผีดุมากเลยนะ" แม่แพรนั่งงกอดหนูจนแน่น
"ม่ายกลัวนี่ก็ว่าจะเรียนอาคมกับฟรังไว้บ้างเผื่อ
จะกลายเป็นมือซ้ายช่วยฟรังได้อีกแรง"..
โอะ!นี่แม่แพรของหนูจะเป็นแพรญาณทิพย์หรือเปล่าเนี่ย
"นี่ใส่ไว้ซิแพร" ืพี่ฟรังส่งประคำมือให้แม่แพรสวมเอาไว้
"ถ้าอยากจะเป็นมือซ้ายของฉันก็อย่าถอดประคำเส้นนั้นล่ะ"
พวกเราสามคนวางมือประกบกัน..
"สัจจะธรรมะคือการปลดปล่อย ธรรมะคุณจะค้ำจุนสัตว์โลกให้อยู่รอด
อธรรมย่อมแพ้พ่ายต่อกรรมดี!!"..บทท่องจำขึ้นใจที่พี่ฟรังสั่งสอนหนู
บ้านกำนันหาญ..20:00
สายสินลงอาคมของหมอผีพุดขึงตรึงล้อมรอบบ้านของกำนันหาญ
เพื่อป้องกันภูตผีปีศาจ..
กำนันหาญมั่นใจเหลือเกินว่าอาคมที่แก่กล้าของหมอผีเมืองเพชร
จะกำหลาบผีร้ายลงได้ ..
"เอ็งสองคนอยู่แต่ในบ้านล่ะไม่มีผีหน้าไหนผ่านสายสินของข้าเข้ามา
ทำร้ายพวกเอ็งได้แน่นอน"..เหนิงกับแบงค์มองหน้ากันอย่างหวาดๆ
หมอผีพุดที่มีความเชื่อมั่นในฝีมือตัวเองหันไปทางกำนันหาญ
พยักหน้าส่งสัญญาณปฏิบัติการล่าผีกำลังจะเกิดขึ้น..
"เราไปกันเถอะกำนันข้าคันมืออยากจะจัดการกับนังผีตัวนั้นแย่แล้ว
หวังว่าหนังหน้าผากมันจะยังอยู่ที่เดิมนะ!!"
ความกระหืดกระหือรือของหมอผีคลั่งวิชา
มักจะพบกับจุดจบในกรรมที่ตั้งใจก่อเสมอ
ใครเลยจะคาดการณ์ได้ว่าหลังจากกำนันและหมอผีพุด
ออกจากบ้านไปอะไรจะเกิดขึ้นกับคนที่อยู่เบื้องหลัง
เงาดำตะคลุ้มๆข้างต้นไม้ใหญ่เอื้อมมือหยาบหนากระชาก
ด้ายสายสินจนขาดติดมือ..
"หึหึ!!ไอ้หาญ!!มึงจะได้รู้ว่าการูญเสียเป็นไง!!"
คนขี้เมาประจำหมูบ้านอดีตเพื่อนรักกำนันหาญ
คับแค้นใจเพื่อนเกลอได้เป็นใหญ่เป็นโตมิหนำซ้ำ
ยังแย่งเดือนผู้หญิงที่จรหลงรักไปครอบครอง
จรเฝ้าหาจังหวะเอาคืนกำนันหาญมาตลอดเวลาและตอนนี้
บัญชีแค้นได้ถูกชำระแล้วเมื่อวิญญาณนิ่มไปปรากฏกายให้จรเห็น
คำสัญญาของคนเมาป่าวประกาศกับนิ่มว่าจะช่วยแก้แค้นเอง..
ลมเย็นยะเยือกกระโชกพัดจนกิ่งไม้ไหวหมาเฝ้าบ้านกู่ก้องโก่งคอเห่าหอน
ต้อนรับวิญญาณมรณะที่เดินลากขาเข้าสู่รั้วประตูพระภูมิเจ้าที่
ไม่อาจต้านทานแรงพยาบาทที่สั่งสมความแค้นจากอดีตอันยาวนาน
การถูกกักขังมาหลายสิบปีทำให้วิญญาณนิ่มมีพลังแกร่งกล้า..
"เหนิงหมาบ้านมึงเห็นผีเปล่าวะ~~". แบงค์ถามเหนิงปากคอสั่นตาเหลือกรนราน
มองซ้ายทีขวาทีด้วยอาการจิตตกเพราะความกลัว
เหนิงก็ไม่ต่างอะไรจากแบงค์นั่งกอดเข่าเหงื่อกาน
แตกเต็มหน้าที่ซีดเผือด...
"มันหอนจิ้งจกมั้งไอ้เหี้ย!!มึงอย่าพูดถึงผีซิวะ!!กูกลัว!!"
เหนิงกับแบงค์ขยับจนหลังชนกันเด็กสองคนนั่งตัวสั่น
กลืนน้ำลายลงคอกับบรรยากาศชวนขนลุกขนพอง
ครืด!!..เสียงเหมือนคนเดินลากขามาหยุดตรงประตูบ้าน
เหนิงกับแบงค์มองหน้ากันอย่างหวาดกลัวสุดขีด
ปัง!!ปัง!!ปัง!!..เสียงทุบประตูดังลั่น..
เป็นเหตุให้สองเพื่อนซี้สะดุ้งโหยงกอดกันแน่น
"ฮือๆๆ..พ่อจ๋าแม่จ๋าช่วยด้วย!!"..โครม!!..
"กรี๊ดด!!!..." ประตูหน้าบ้านถูกกระแทกเปิดอย่างแรง
ร่างทะมึนของผีนิ่มยืนทมึงทึงหน้าประตู..
ไม่รอช้าให้เสียเวลาผีพยาบาทลอยพุ่งตัวเข้าใส่แบงค์กับเหนิงที่คุดหัวชนกัน
ตัวสั่นพั่บๆยกมือพนมไหว้ท่วมหัว..
"ไปที่ชอบที่ชอบเถอะ..ฮือๆๆ" ผีนิ่มจิกหัวเหนิงลากจนตัวลอย
เหวี่ยงเหนิงร่างกระแทกข้างฝาดังโครม!!เด็กสาวนอนตัวงอหงิกร้องโอดโอย
แบง์ตาเหลือกเป็นห่วงเพื่อนแม้จะหวาดกลัวแค่ไหนก้ตาม
แต่ชีวิตเหนิงก็สำคัญกว่าเด็กหนุ่มพุ่งตัวหมายเอาตัวปกป้องเหนิง
แต่พละกำลังที่มีมากของผีอาฆาตคว้าคอแบงค์แล้วบีบ
จนตาเหลือกถลนก่อนยกจนร่างแบงค์ลอยจากพื้นแล้วทุ่มแบงค์
ลงกระแทกกับพื้นกระดานอย่างแรง..
เป้าหมายที่วิญญาณร้ายหมายเอาชีวิตถอยร่นจนหลังติดผนังบ้าน
"ยะอย่าทำอะไรฉันเลยนะฉันกลัวแล้ว"
เหนิงยกมือพนมไหว้น้ำต่ไหลพราก..อ๊อก!! ..
ผีนิ่มบีบคอจนเหนิงตาเหลือกร่างเหนิงค่อยๆถูกยกลอยขึ้น
ตาที่เหลือกถลนลิ้นที่จุกปากปลายเท้าแกว่งไปมา..
"อย่า!!!อีผีบ้า!!ปล่อยเพื่อนกู!!!"
แบงค์ที่พยายามคลานกระเสือกกระสนเพราะซี่โครงหัก
เอื้อมมือดึงขาผีร้ายเมื่อเห็นเหนิงตาถลนออกนอกเบ้า
"อีเหี้ย!!!ฆ่ากูนี่!!ปล่อยเพื่อนกูไป!!!"
เสียงแตกแหลมของเด็กหนุ่มตะเบ็งจนดังลั่นบ้าน..
หยดน้ำตาที่เอ่อนองเต็มหน้าของเหนิงและแบงค์ถูกละอองน้ำสบัดใส่
"กรี๊ดด!!.."..ตุ่บ..ร่างเด็กสาวล่วงลงสู่พื้นเธอสำลักไอแค็กๆออกมา
เมื่อวิญญาณร้ายถูกน้ำทิพย์จากผู้ปลดปล่อยสบัดปลายหญ้าแพรกใส่
"เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวรปล่อยวางแล้วไปสู่ภพภูมิที่ดีเถอะ"
เสียงแหบทุ้มของเด็กสาว..เธอคือทูตผู้ปลดปล่อย
"พี่ฟรัง"..แน่นอนว่าชื่อนี้จะติดปากของเธอไปตลอดชีวิต
เหนิงรีบคลานไปหาแบงค์ที่นอนบาดเจ็บสาหัสอยู่บนพื้น
"พี่สาวตามหนูไปเถอะนะพี่สู้พี่ฟรังไม่ได้หรอก
ไปเถอะ!ไอ้หมอพุดมันกำลังมา"..ขันทองวิ่งไปดูตรงหน้าประตู
"แย่แล้วพี่ฟรัง!!"..หมอพุดและกำนันหาญจ้ำพรวดๆลงจากรถกระบะ
"ขันทองหนีตอนนี้ทันไหม"..กุมาลีน้อยส่ายหน้า
"ควายธนูของมันทั้งแกร่งทั้งเร็วหนูคนเดียวก้หนีรอดอยู่
แต่พี่สาวคนนั้นซิสู้ควายผีอายุเป็นร้อยปีไม่ไหวแน่!" ฟรังหันไปมองหน้าแพรวา
"แพรถอดประคำออกให้ผีนิ่มสิง!!ขันทองสตาร์ทรถพาแพรหนีไป
ส่วนหมอผีกับควายธนูพี่จัดการเอง"..
แพรถอดประคำอาคมส่งให้ฟรังขันทองน้อยดีดนิ้วเปาะ
รถสตาร์ทเครื่องติดเอง..
ผีนิ่มเห็นถึงน้ำใจของนักปลดปล่อยที่ไม่รังเกียจ
และคิดช่วยเธอจึงพุ่งดวงจิตเข้าสิงร่างของแพรวา
ทุกคนก้าวลงจากบ้านไปข้างล่าง..
"พวกเอ็งมาทำอะไรกันห๊ะ!!" กำนันหาญถามเสียงแข็งกร้าว
"ฉันมาเยี่ยมเหนิงและกำลังจะกลับ"..ฮาๆๆ..เสียงหัวเราะของหมอผีพุด
ทำให้ทุกคนจ้องไปที่เขา..
"แกคิดว่าจะซ่อนผีนังนั้นได้รึนังเด็กอมมือ!!"..หมอผีพุดเยื้องย่างเท้าเข้าใส่
"หนีไป"..สิ้นคำฟรังใช้พลังทั้งหมดเรียกลมพายุด้วยคาถาเรียกลมพัดกระพือใส่
ร่างหมอผีและกำนันหาญจนไถลถอยหลังหาที่ยึดเกาะ
ฟรังท่องคาถาจนเกิดเม็ดเหงื่อเต็มหน้าแพรวาที่มีผีนิ่มสิง
ถูกขันทองจับมือวิ่งฝ่าลมไปที่รถและขับออกไปอย่างเร็ว
หมอผีพุดล้วงลงไปในย่ามเสกควายธนูตัวใหญ่ตามรถ
ที่ขันทองควบคุมไปติดๆ..
คาถาเรียกฟ้าร้องฟ้าผ่าถูกบริกรรมจากปากของฟรัง
ผ่าเปรี้ยงปร้างใส่ร่างของควายผี..
หมอผีพุดกระทืบเท้าอย่างโกรธจัดเขาล้วงเอามีดอาคม
ไล่คาถาหยุดลมตรงดิ่งหมายทำร้ายฟรังด้วยมีดหมอ
ฉึก!!..อ๊ากกก!!..ฉึกๆ!!..
เสียงร้องโหยหวลของคนที่ถูกแทงจากด้านหลัง..
หมอผีทรุดร่างล่วงตรงหน้าฟรัง..
ปังๆ!! ลูกกระสุนจากปากกระบอกปืนพกของกำนันหาญ
ยิงเข้าใส่เข้าร่างจรเพื่อนขี้เมาที่เป็นคนแทงหมอพุด
เพื่อช่วยเหลือฟรังภาพของอดีตที่แสนเจ็บปวด
ที่ตามหลอกหลอนจรมาทั้งชีวิตถ้าตอนนั้นเขามีความกล้าพอ
เหมือนกับวันนี้เด็กหญิงพิการคนนั้นคงไม่จบชีวิตลง
ลมหายใจที่อ่อนลงก่อนที่จะหมดลมเขาระบายยิ้ม
ให้กลับเพื่อนรัก..
"ไอ้หาญ..พรุ่งนี้มึงจะมีสภาพไม่ต่างจากกู"
เปลือกตาที่ปิดสนิทเมื่อชีวิตจรหลุดลอย
กำนันหาญเซถลาเพราะความมืดทำให้เขาฆ่าเพื่อนตัวเอง
"ไอ้จร!!ฮือๆ!!กูไม่ได้ตั้งใจ!!"..กำนันหาญทรุดลง
กอดเพื่อนรักเอาไว้เขาร่ำไห้อย่างน่าเวทนา
"พ่อ!!ลุงจร!!!" เหนิงวิ่งลงมาเข่าเธออ่อนทรุดตัวฮวบ
เมื่อเห็นศพของลุงจรและหมอผีพุด..
ฟรังยันตัวลุกขึ้นเธอหดหู่ใจอย่างบอกไม่ถูก
กับเรื่องราวเศร้าสลดที่เกิดขึ้น ..
กรรมที่ต้องชดใช้กันด้วยชีวิตเป็นอุทาหรณ์สอนใจคนรุ่นหลัง
พิธีกรรมส่งวิญญาณผีตายโหงทั้งสามถูกจัดขึ้นกลางดึกวันนั้น
ชาวบ้านระแวกใกล้เคียงมาช่วยเหลือกันตามคำขอร้องของกำนันตำบล
ก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่เชิญตัวไปสอบสวนในข้อหาฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา
แบงค์ถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลเพื่อรักษาตัว เด็กหนุ่มให้การว่าเขาพลัดตกจากบันได
ศพของจรขี้เมาถูกชาวบ้านเคลื่อนย้ายไปยังวัด
ส่วนศพของหมอผีพุดนำขึ้นรถมูลนิธิส่งไปเพชร
"กลับบ้านกันเถอะฟรัง..ป่ะลูกแม่". แพรวาก้มลงอุ้มขันทอง
ส่งยิ้มน้อยๆให้ฟรัง..ที่ถอนหายใจอย่างหดหู่
"เหนิงพวกพี่กลับก่อนนะมีอะไรก็โทรหาล่ะ"
เหนิงพยักหน้าอย่างอ่อนแรงให้ฟรัง
ก่อนจะขึ้นท้ายรถกระบะของตำรวจไปกับพ่อของเธอ
วิญญาณทุกดวงจากไปอย่างสงบไม่มาหลอกหลอนใครๆ
จะมีก็แต่คนเป็นที่ยังมีชีวิตอยู่ที่จะจดจำเรื่องราวนี้ไปจนวันตาย
โดยเฉพาะกำนันหาญฆาตกรที่ฆ่าเพื่อนตัวเอง
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
จบตอน..ตอนหน้าเจอผีเปรตบ้างนะครับ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น