ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฟรัง colic คนเห็นผี

    ลำดับตอนที่ #9 : อดีตหลอน

    • อัปเดตล่าสุด 1 ก.ย. 58






    เหนิง..

    #ห้องพยาบาล#

    พี่ฟรังพูดอะไรของเขานะทำไมผีต้องตามฆ่าฉัน?

    ฉันไม่เข้าใจนี่ฉันไปทำอะไรไว้หรือเปล่า?

    ความหวาดกลัวกำลังวิ่งแล่นจับจิตจับใจ

    ความเชื่อเรื่องผีสางครอบงำความคิดฉัน

    ไอ้แบงค์คือตัวอย่างที่ทำให้ฉันเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้นสดๆร้อนๆ

    มันยังเป็นภาพติดตาฉัน..

    คำเตือนของพี่ฟรังยังคงดังก้องอยู่ในหูตลอดเวลา

    "วิญญาณอาฆาตนั้นจะกลับมาเอาชีวิตเธอในอีกไม่ช้า"

    ไอ้แบงค์แค่โดนผลกรรมของฉัน..

    "นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันวะ"..ฉันยังคิดไม่ตกนั่งมองสาระรูป

    ของไอ้แบงค์ที่นอนอยู่บนเตียง..

    กวาดสายตาดูความวุ่นวายภายในห้องพยาบาล

    มีแต่คนหัวล้างข้างแตกเข้าคิวรอทำแผลกันเป็นแถว






    เก้า..


    "เจ็บมากไหม" ฉันทำแผลที่แตกตรงหางคิ้วให้ตาลอย่างเบามือ

    "อืมนิดหน่อยเองไม่ต้องห่วงหรอก" หมั่นไส้นักคนอุตส่าห์เป็นห่วงแท้ๆ

    กับบอกไม่ต้องห่วงฉันเลยแกล้งกดน้ำหนักมือ..

    "โอ๊ย!เก้าเบาหน่อยซิ!" ตาลร้องเสียงดังจนฉันอดขำไม่ได้

    "ก็นึกว่าไม่เจ็บไงคะ!" ฉันยิ้มให้กับพระเอกของฉันที่เอาตัวเอง

    เป็นโล่กำบังปกป้องฉันจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

    "ก็อย่าแกล้งฉันซิ" ตาลทำหน้าอ้อนใส่ฉัน..

    คิดไม่ผิดจริงๆที่ลองคบตาลน่ารักขนาดนี้สาวๆถึงชอบ

    "ขอบคุณนะที่ช่วยเก้า"..ตาลยิ้มแล้วจับมือฉันบีบเบาๆ

    "ฉันต้องช่วยเธออยู่แล้ว"..ฉันก้มลงไปกระซิบที่ข้างหูตาลเบาๆ

    "เลิกเรียนไปบ้านเก้านะจะให้รางวัล" ตาลอมยิ้มกริ่มเราสองคนจ้องตากัน

    สายตาเจ้าชู้ของตาลทำฉันหน้าร้อนผ่าว จนต้องหลบเฉสายตาไปที่

    แพรวากับฟรัง...ฟรัง!จริงซิ..เรื่องพิศวงที่ทำให้ฉันงงกับเหตุการณ์

    ที่เกิดขึ้นจนเหลือเชื่อ..ผีสิง! กับฟรัง!ผู้ปราบผี!!




    แพรวา..

    เคาเตอร์เพนถูกทาลงตามแขนของหมอปราบวิญญาณที่รักของฉัน

    หลังจากที่ฉันกรีดร้องจนเจ็บคอเมื่อฟรังพลาดท่าถูกแบงค์จับทุ่ม

    กับพื้นอย่างแรงภาพนั้นทำให้ฉันแทบอยากจะกระโจนลงจากตึกชั้นสาม

    ถ้าฟรังไม่รีบลุกขึ้นมาซะก่อน

    ฉันนวดเคาเตอร์เพนให้คนหน้าผีดิบอย่างเบามือ

    "นวดแรงๆก็ได้นะ" ห๊ะ!..ฉันขมวดคิ้วใส่ฟรังทันที

    "คนอุตส่าห์กลัวว่าจะเจ็บแท้ๆ!!" ฉันเพิ่มน้ำหนักมืออย่างโมโห

    "ขอบใจนะที่เป็นห่วง" คนบ้าแอบอ่านความคิดฉันอีกแล้ว

    "ไม่ได้แอบแต่มันได้ยินเอง" เอาเข้าป่ะ..

    "เจ็บตรงไหนอีกไหมอ่ะ?" ฉันเปิดหน้าม้าของฟรังขึ้นเพื่อหาบาดแผล

    ใบหน้าเนียนใสของฟรังทำให้ฉัน..'อยากหอมจัง

    ' "คืนนี้ไปค้างบ้านฉันซิ" น้ำเสียงเรียบๆเหมือนไร้จิตวิญญาณของฟรัง

    ทำหน้าฉันร้อนผ่าว..

    "อืม..คืนนี้ไปนอนด้วยนะ" การพยักหน้าของฟรังนั่นคือคำตอบ

    ฉันหันไปมองพี่เก้าที่กำลังมองมาที่ฉัน

    "พี่เก้าคืนนี้แพรจะไปทำรายงานที่บ้านฟรังบอกแม่ด้วยนะ"

    พี่เก้าพยักหน้าให้..ฉันหรี่ตามองไปที่มือของพี่ตาล

    ที่จับมือพี่สาวฉันไว้แน่นแบบนั้นแสดงว่าสองคนนั้นต้องคบกันแน่ๆ

    ฉันรีบหันกลับมาหาคนหน้าตาย..

    "ฟรังดู.." ฉันยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อก็ต้องชะงักเมื่อเห็นสายตาที่จ้องเขม็งของฟรัง

    มองผ่านหัวไหล่ฉัน..ฉันรีบหันหลังมองตามไปที่หน้าต่าง ฝูงอีกาบินเต็มไปหมด!




    ฟรัง..


    อดีตกำลังจะหวนกลับคืนมาพร้อมกับความอาฆาตแค้น

    แล้วใครล่ะ?..ที่ทำร้ายเธอ?..กำนันหาญต้องรู้เรื่องนี้!

    "ฟรังทำไมอีกามันเยอะขนาดนี้ล่ะ?"..ความสงสัยของแพรวา

    ช่วยฉุกให้ฉันต้องทำอะไรซักอย่าง..

    "ตอนนี้ฉันยังไม่รู้สาเหตุแน่ชัดแต่มันคือลางร้าย"

    ฉันมองไปที่เด็กรุ่นน้องที่นั่งหน้าขาวซีดมองมาที่ฉัน

    "แพรวาเธอรู้จักเด็กคนนั้นใช่ป่ะ?" แพรวามองตามแล้วพยักหน้า

    "เหนิงน่ะ..มีอะไรเปล่า?" แพรวามีสีหน้าสงสัยอย่างมาก

    "อืม..เด็กนั่นคือเป้าหมายของวิญญาณพยาบาท"

    ใบหน้าตื่นตะหนกของแพรวาที่อยากถามต่อว่าเกิดอะไร?

     "ไม่นานอดีตของคนรุ่นพ่อแม่ที่ทำไว้จะกลับมาคิดบัญชีแค้นกับลูกแทน

    ฉันต้องรู้สาเหตุก่อนถึงจะหาวิธีช่วยได้"..

    ฉันลุกเดินไปหาเหนิงที่มองฉันตาไม่กระพริบ

    "ขอจับมือหน่อยได้ไหม?" เด็กนั่นทำปากคอสั่นเหงื่อกานแตกเต็มใบหน้า

    แต่แล้วก็ยอมยื่นมือมาให้ฉันจับ..

    ภาพเหตุการณ์ในอดีตของเหนิงไล่มาเป็นลำดับ

    ฉันเพ่งกระแสจิตไปยังเหตุการณ์วันที่เหนิงกับแบงค์อยู่ในโบสถ์ร้าง

    แบงค์ที่มีโถใบเก่าอยู่ในมือวิญญาณที่ถูกหมอผีตรึงวิญญาณไว้ในโถ

    ถูกปลดปล่อยเมื่อแบงค์ดึงผ้ายันต์ที่ปิดปากโถออก..

    กลุ่มควันสีดำพวยพุ่งออกมาจากโถ แบงค์ที่ไม่รู้ถึงอันตราย

    หยิบแผ่นหนังหน้าผากโยนลงบนพื้นแววตาที่แข็งกร้าว

    ของวิญญาณพยาบาทที่ยืนจ้องอยู่ด้านหลังบ่งบอกถึง

    ความโกรธแค้นเมื่อแบงค์ใช้เท้าเหยียบแผ่นหนังที่แบงค์โยนทิ้ง

    ความพยาบาทอาฆาตแค้นจึงตามติดแบงค์และเหนิงกลับไปด้วย

    "ไอ้เหนิง.." เสียงเรียกทุ้มใหญ่ของผู้ชายคนนึงทำให้ฉันปล่อยมือเหนิง

    แล้วหันไปมองที่ประตู..

    "พ่อ!!..ฮือ~~"..เหนิงลุกขึ้นวิ่งไปหากำนันหาญที่มาพร้อมใครบางคน

    ที่สัมผัสพลังไสยเวทย์ดำได้แม้ยังไม่ได้เข้ามาด้วย..

    "พี่สาว!!ไอ้หมอพุดจากเพชรบุรีมันไล่จับหนู!!"

    ฉันหันไปมองขันทองน้อยที่ยืนหอบตัวโยนอยู่ด้านหลัง

    "หมอผีจากเพชร?" ขันทองน้อยพยักหน้า..

    ร่างสูงใหญ่ของผู้ชายคนหนึ่งโผล่มาจากด้านหลังของกำนันหาญ

    "อยู่นี่เอง!!" สำเนียงเหน่อๆของหมอผีที่จ้องมองมาที่ฉันและขันทอง

    "อย่าแตะต้องของๆฉัน!" แม้จะกลายเป็นเป้าสายตาให้ทุกคนจับจ้อง

    แต่ฉันก็ไม่ยอมให้หมอผีต่างถิ่นเหิมเกริมทำร้ายขันทองแน่..

    กำนันหาญจับไหล่หมอผีที่ทำท่าขยับจะเดินเข้ามา

    "อย่าเพิ่งนอกเรื่องน่าพ่อหมอ" หมอผีพุดแสยะยิ้มใส่ฉันเชิงท้าทาย

    "พ่อ!ผีมันเข้าสิงไอ้แบงค์!!พี่ฟรังบอกว่ามันจะฆ่าฉัน..ฮือ~~

    ฉันกลัว~~"...เหนิงร้องไห้ตัวสั่นด้วยความกลัว..

    กำนันหาญหันไปมองหน้าหมอผีที่จ้องหน้าฉันตาไม่กระพริบ

    "นังหนูวิชาแก่กล้าเอาการทำไมไม่จัดการกับนังผีนั้นซะล่ะปล่อยมันไปทำไม!!"

    ตอนนี้ฉันกลายเป็นจุดศูนย์รวมของเป้าสายตาที่พุ่งตรงมาที่ฉัน

    "ฉันมีธรรมคุณไว้ปลดปล่อยไม่ใช่ทำลาย"

    พูดจบฉันก็คว้าข้อมือของขันทองและแพรวา

    เดินผ่านคนทั้งหมดออกจากห้องพยาบาลไป

    แม้จะไม่อยากยุ่งแต่ฉันก็คงไม่ปล่อยให้หมอผีพุดทำลาย

    ดวงจิตของวิญญญาณอาฆาตนั้นแน่

    ฉันกับขันทองพยักหน้าให้กันอย่างรู้งาน...

    การปลดปล่อยดวงวิญญาณให้พ้นจากทุกข์  

    นั้นแหละลิขิตที่ฟ้ากำหนดให้ฉันเกิดมา..





    ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~


    ณ.โบสถ์ร้าง17:30


    ประตูอดีตกำลังจะเปิดอออก ภาพสะเทือนใจจะปรากฏให้เห็น

    เมื่อเด็กสาวผู้มีสัมผัสพิเศษเหยียบย้ำเท้าเข้าสู่ประตูโบสถ์

    ที่ยังคงรักษาภาพแห่งความจริงเอาไว้..





    ~ฟรัง~



    โถที่ตรึงวิญญาณตกอยู่นพื้นที่เดิมฉันก้มลงหยิบ

    ซากแผ่นหนังหน้าผากแห้งๆที่เปอะเปื้อนรอยเหยียบย้ำขึ้นมา

    "อะไรน่ะฟรัง?"..สิ่งที่อยู่ในมือของฉันน่ะหรือ

    "หนังหน้าผาก" แพรวายกมือขึ้นปิดปากกับซากแห้งๆ

    ที่ดูน่าสลดใจ..แผ่นหนังถูกห่อด้วยผ้าขาว

    "เรากลับกันเถอะ" ฉันรีบชวนแพรวากลับเพื่อเปิดดูอดีต

    การตายของเจ้าของหนังหน้าผากชิ้นนี้..

    "ฟรังแพรรู้สึกไม่ดีเลยกลัวฟรังเป็นอันตราย"

    ฉันรู้ว่าแพรกังวลเรื่องหมอผีพุด..

    "ไม่ต้องห่วงฉันมีตัวช่วย"คำพูดชวนสงสัยทำให้แพรขมวดคิ้วมองหน้าฉัน

    "ใครเหรอ?" ถ้าฉันบอกความจริงกับแพรไปจะเกิดอะไรขึ้น

    แต่ฉันไม่ควรปิดบังเธออีกต่อไป..แพรวา..

     "ขันทอง" แน่นอนที่แพรวาจะอ้าปากทำหน้าตกใจ

    "จะบ้าเหรอฟรัง!!แพรไม่ยอมให้ลูกแพรไปเสี่ยงอันตรายแน่!!"

    เสียงที่แสบแก้วหูของแพรวาทำฉันถอนหายใจออกมา

    "ฟังนะแพร..ขันทองไม่ใช่เด็กธรรมดาเธอคือกุมาลี"

    แพรหันหน้ากลับไปมองท้องถนนด้วยแววตาหม่นเศร้า

    ความเงียบที่ทำให้ฉันเริ่มอึดอัด..

    "แพรเธออย่าเงียบแบบนี้ซิ" แพรนั่งก้มหน้าน้ำตาหยดใส่หลังมือที่เธอบีบมันเอาไว้

    "แพรรู้มานานแล้วล่ะเรื่องลูกของแพรแต่แพรไม่อยากตอกย้ำว่าขันทองไม่มีตัวตนอยู่จริง "

    ไม่น่าเชื่อว่าแพรจะหลบความคิดเรื่องของขันทองจนฉันสัมผัสมันไม่เห็นเธอทำได้ไงกัน

    "เธอรู้ได้ไงแพร?"..ฉันเอื้อมมือไปปาดน้ำตาออกจากแก้มของแพรวา

    "ตั้งแต่วันแรกที่เห็นขันทองนั่งบนขื่อบ้านเด็กธรรมดาที่ไหนจะทำได้ล่ะ

    แต่ด้วยความน่ารักของขันทองทำให้แพรมโนเอาเองว่าเธอไม่ใช่ผี

    แพรอยากให้ขันทองมีตัวตนอยู่จริงเพราะทุกครั้งที่แพรกอดขันทอง

    เหมือนกอดเพียงไอของอากาศเย็นๆ"..

    ฮือ~~ๆ เสียงร้องไห้ของขันทองที่ตามมาด้วยแต่ไม่ยอมปรากฎตัว

    ให้แพรวาเห็นนั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ที่ท้ายกระบะ

    เด็กน้อยได้ยินทุกสิ่งทุกอย่าง..เสียงคร่ำครวญที่มีเพียงฉันที่ได้ยิน

    "ขันทองกำลังร้องไห้" แพรวาเงยหน้าและหันมามองฉัน

    "ลูกแพรอยู่ที่ไหนฟรัง!!" น้ำเสียงที่สั่นเครือของแพรวา ทำให้ฉันแตะเบรคเบาๆ

    ฉันเปิดประตูลงจากรถเอื้อมมืออุ้มขันทองขึ้นมาจากท้ายกระบะ

    "ไม่เอาหนูไม่อยากให้แม่เห็นฮือๆ" ขันทองร้องไห้งอแงกับความจริงที่เปิดเผย

    "ไหนล่ะฟรังลูกแพรอยู่ไหน?"..ขันทองไม่ยอมปรากฎกายเอาแต่ซุกหน้าร้องไห้

     แพรวากวาดสายตามองหาขันทอง..อากาศที่ฉันโอบอุ้มเอาไว้ถูกส่งมอบให้แพรวา

    "ใช้หัวใจมองนะแพรวาแล้วเธอจะเห็นลูกของเธอ" แพรวารับมวลวิญญาณที่เป็นเพียงพลังงาน

    ที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็นของขันทองไปอุ้มเอาไว้..

    "ขันทองลูกแม่วันนี้เรายังไม่ได้กอดกันเลยนะ"..ฉันปาดน้ำตาของตัวเอง

    เมื่อเห็นขันทองเช็ดน้ำตาให้แพรวาและเช็ดน้ำตาของตัวเอง..

    "แม่จ๋า..ฮือๆ"..ในที่สุดขันทองน้อยก็ยอมปรากฎตัวในอัอมอกของแพรวา

    ทั้งคู่กอดกันแน่น..

    "ขันทองอย่าแอบแม่อีกนะ..ไม่ว่าลูกจะเป็นอะไรแม่ก็รักลูกนะ"..

    ภาพแห่งความประทับใจที่ฉันอยากสัมผัสอุ่นไอรักจากแม่เหมือนกัน


     ประตูห้องพระถูกเปิดออกห่อผ้าที่มีหนังหน้าผากถูกวางลงบนพาน

    ฉันกับขันทองนั่งสมาธิข้างกันเราทั้งสองกำลังทำพิธีต่างกัน

    ฉันเปิดจิตสัมผัสอดีตที่หลอกหลอนคนเป็นในปัจจุบัน..

    ส่วนขันทองกำลังบำเพ็ญเพียรสร้างบุญบารมีให้ดวงจิตแข็งแกร่ง

    แซดๆๆ..ม้วนภาพในอดีตเมื่อสามสิบปีที่แล้วเริ่มปรากฎขึ้น..

    กลุ่มเด็กชายหญิงเล่นกระโดดยางกันที่ลานหญ้ากว้าง

    ทุกคนหยุดเล่นเมื่อเห็นเด็กผู้หญิงวัยสิบขวบเดินกระเผกเข้าไปขอเล่นด้วย

    "ให้หนูเล่นด้วยดิ"..เด็กผู้ชายรูปร่างอ้วนเดินเข้าไปผลักจนเด็กผู้หญิงล้มลง

    "ไป๊อีเป๋!!พวกกูให้แต่คนขาดีเล่น!ส่วนมึงโน้นไปเล่นขอทานหน้าวัดนู้น555"

    เด็กๆต่างพากันหัวเราะโห่ไล่เด็กผู้หญิงที่น่าสงสาร..

    เธอเดินร้องไห้ไปถึงท่าน้ำที่เป็นคลองหลังบ้าน..

     "มอญซ่อนผ้าตุ๊กตาอยู่ข้างหลังไว้โน้นไว้นี่ฉันจะตีก้นเธอ"

    เสียงที่ดังมาจากอีกฝั่งคลองทำให้เด็กผู้หญิงชะเง้อคอมอง

    ลานโล่งของวัดร้างมีเด็กชายหญิงสี่ห้าคนเล่นมอญซ่อนผ้า

    กันอย่างสนุกสนาน..เด็กหญิงเดินกระเผลกขาไปที่เรือไม้ลำเล็ก

    และพายมันตรงไปยังอีกฝั่งคลอง...

    "ไอ้ถม!!มึงทำไมซ่อนผ้าแต่หลังกูคนเดียวห๋า!!"

    เด็กผู้หญิงที่วิ่งหนีเมื่อถูกเด็กชายถมไล่ตีด้วยผ้าโวยวายเสียงดัง

    สร้างเสียงหัวเราะชอบใจให้กับเพื่อนๆ..

    ความสนุกสนานต้องเงียบเสียงลงเมื่อได้ยินเสียงลากเท้าของคนที่เดินมา

    "ไอ้หาญไอ้จรแฟนพวกเอ็งมาตามป่ะว่ะ?". ถมถามอย่างเด็กคะนองปาก

    "ส้นเถอะ!!" จรสวนทันควัน..

    "พี่ขอหนูเล่นด้วยซิ" เด็กชายหญิงทั้งห้าคนมองหน้ากันไปมา

    "โหขาก็เป๋ยังอยากจะเล่นอีก" หาญเบ้ปากใส่

    "ให้มันเล่นด้วยก็ได้หลายๆคนหนุกดี" เด็กผู้หญิงสองคนพยักหน้าให้กัน

    อย่างสงสารเด็กขาเป๋..

    "อีเดือนอีแก้วอยากเป็นนางเอกช่องเจ็ดรึไงวะแม่งขาก็เป๋แบบนั้น

    จะวิ่งไล่ใครทันมันคงได้เป็นมอญไปถึงชาติหนัาแหง๋"

    ท่าทางถมไม่พอใจเอามากๆที่จะให้เด็กต่างถิ่นมาร่วมวง

    "นะพี่นะให้หนูเล่นด้วยคน" เด็กหญิงทำหน้าอ้อนวอนอย่างน่าสงสาร

    เธอคงจะเหงามากไปทางไหนก็ถูกขับไล่และปฏิเสธ

    "ให้มันเล่นด้วยเถอะว่ะกูว่ามันน่าสงสารออก"

    เด็กชายร่ายกายผอมแห้งที่ชื่อจรเริ่มสงสารเด็กหญิง

    ในที่สุดพวกเด็กก็ให้เด็กหญิงต่างถิ่นเล่นด้วย

    และเป็นเธอที่เป็นมอญซ่อนผ้าถูกเด็กๆไล่ฟาดตี

    ล้มลุกคลุกคลานแต่เด็กหญิงก็ยังหัวเราะออกมา

    ด้วยความสนุก ถึงคิวหาญที่ถูกเด็กหญิง

    เอาผ้าซ่อนไว้ด้านหลังของหาญแต่เด็กชายไหวทัน

    คว้าผ้าข้างหลังไล่ฟาดเด็กหญิงเหมือนหาญจะเล่นแรงเกินกว่าเหตุ

    เด็กหญิงวิ่งขากระเผลกๆหนีหาญจู่ๆหาญก็แกล้งเตะที่ขาข้างที่ลีบเล็ก

    ของเด็กหญิงจนเธอเสียหลักล้มหน้าฟาดกับหินเลือดไหลอาบ

    "โอ๊ย!!ฮือๆหนูจะฟ้องยายฮือๆ..เด็กหญิงยันตัวลุกจรรีบวิ่งไปช่วยพยุง

    "ไอ้เหี้ยหาญ!!มึงเล่นเหี้ยอะไรวะ!!ดูดิหัวมันแตกเลย!!"

    หาญยืนหน้าซีดเมื่อเห็นเลือดที่ไหลนองเต็มหน้าของเด็กหญิง

    "กะกูไม่ได้ตั้งใจ!!" หาญตาลีตาเหลือกถอยหลังกรูดไปหาถม

    "ฮือๆหนูจะฟ้องยาย!!.." เด็กหญิงลุกขึ้นยืนเอามือกุมหัวหันหลังจะเดินกลับไปที่เรือ

    "ทำไงดีวะถมถ้ามันไปฟ้องยายมันต้องมาเอาเรื่องกูแน่แม่กูตีกูตายแหง๋!!"

    ถมมองตามหลังเด็กหญิงด้วยแววตาเขม็ง

    "ทุบปากอย่าให้มันพูดได้ซิวะ!!" ถมก้มลงคว้าก้อนหินใหญ่พอประมาณ

    แล้ววิ่งตามเด็กหญิงไปโดยมีหาญวิ่งตามไปติดๆ..

    "ไอ้ถมไอ้หาญ!!มึงจะทำอะไรมัน!!" จรตะโกนถามแต่ไร้คำตอบกลับมา

    เดือนกับแก้วเห็นท่าไม่ดีเธอจึงวิ่งหนีไปจากตรงนั้น

    ถมคว้าผมกระชากหัวเด็กหญิงสุดแรงจนเธอหน้าหงายล้มลง

    ฉันเริ่มขบกรามกับภาพที่เห็น...

    "โอ๊ย!หนูเจ็บนะฮือๆ..ปล่อยหนู!!หนูจะฟ้องยาย!!" ถมขึ้นค่อมเด็กหญิงที่ดิ้นไป

    "ไอ้หาญ!!จับมันเอาไว้ซิวะ!!" หาญรีบช่วยถมจับเด็กหญิงผู้น่าสงสาร

    ตุ่บ!!ๆๆๆ..โอะ!!!..ฉันกัดฟันดังกรอด!!น้ำตาหยดเปาะ

    เมื่อเด็กหญิงถูกหินในมือถมทุบเอาทุบเอาที่หน้าและปากจนเละ

    ร่างเธอกระตุกเกร็งและแน่นิ่ง..

    "ชาติชั่ว!!" ฉันสบถด่าอย่างเหลืออด..กับภาพที่น่าหดหู่และเวทนา

    "ไอ้ถมไอ้หาญ!!"..จรทนดูไม่ไหวจึงวิ่งหนีไปอีกคน

    หาญที่หลับตาปรี๋ค่อยๆลืมตาขึ้นแล้วต้องตกใจสุดขีด

    เมื่อเห็นสภาพหน้าที่เละเทะของเด็กหญิงเด็กชาย

    รีบปล่อยมือจากเด็กหญิงลุกพรวดพราด..

    "อะไอ้ถม!!ทะทำไงดีวะ!!" ถมโยนหินในมือทิ้ง

    "เอามันไปไว้ในโบสถ์เดี๋ยวมันฟื้นก็กลับบ้านมันเองแหละ"

    อนาถแท้..เด็กชายทั้งสองช่วยกันยกร่างที่ไร้วิญญาณ

    ของเด็กหญิงไปไว้ในโบสถ์ร้าง..

    คิดไปว่าที่เธอแน่นิ่งเพราะสลบ.. อนิจจาเธอคงไม่มีโอกาสฟื้นขึ้นมาแล้ว



    "นิ่ม~~นิ่มเอ้ย!" หญิงชราตาบอดมองไม่เห็นวิญญาณ

    ของหลานสาวที่ยืนร่ำไห้อยู่หน้าบ้าน..

    การหายตัวไปของหลานสาวทำให้ยายที่มีดวงตาบอดสนิท

    ค่อยๆคลานคลำไปจนถึงทางเข้าบ้านเบืัองหน้าของหญิงชรา

    มีวิญญาณของเด็กหญิงในชุดนักเรียนประถมยืนร้องไห้

     "นิ่มอยู่ไหนลูก..เข้าบ้านได้แล้ว"..ฉันอดสูใจจนเก็บน้ำตาไว้ไม่อยู่

    "ยายจ๋า~~หนูเจ็บ~~ฮือ~~ฮือ"..เด็กหญิงผู้น่าสงสาร

    เธอยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเธอตายแล้ว..


    เช้าวันรุ่งขึ้นหญิงวัยกลางคนเพื่อนบ้านนำข้าวมาให้หญิงชราที่อาศัยอยู่กับหลานสาว

    เพียงสองคนต้องตกใจเมื่อเห็นหญิงชรานอนหลับอยู่หน้าบ้าน

    เธอรีบวางปิ่นโตข้าวลงแล้วประคองร่างของหญิงชราขึ้น..

    "ป้านุ่มๆ.." เสียงเรียกปลุกหญิงชราให้ตื่น..

    "นิ่ม..นิ่มกลับมาหรือยัง?" ..คำถามที่ทุกคนต้องช่วยกันออกตามหา

    เมื่อกำนันโหนพ่อของเด็กชายหาญได้รับแจ้งจากชาวบ้าน

    ว่ามีเด็กหญิงหายตัวไปเขาจึงระดมชาวบ้านออกตามหา

    และในที่สุดโบสถ์ร้างก็เฉลยคำตอบ..

    เมื่อชาวบ้านเข้าไปพบร่างขึ้นอืดของนิ่ม

    เสียงสาปแช่งฆาตกรโหดดังระงมไปทั้งหมู่บ้าน

    ความลับที่เด็กห้าคนปิดปากเงียบเพราะกลัวความผิด

    กำลังตามหลอกหลอนเด็กทั้งห้าและชาวบ้านทุกคน

    เมื่อยายนุ่มยืนยันไม่เผาศพให้โบกล็อคปูนเก็บศพไว้ที่ป่าช้าของวัดร้าง

    จนกว่าจะจับฆาตกรใจเหี้ยมมาลงโทษให้ได้..

    ค่ำคืนหนึ่งในวันฝนตกหนัก ชาวบ้านที่เดินส่องหากบและวางเบ็ด

    ตามริมคลองก็ต้องหยุดชะงักมือจากการปักเบ็ด

    เงยหน้ามองเรือลำเล็กที่พายมาจอดอยู่ตรงหน้าเขา

    ไฟฉายที่อยู่บนหัวของเขาสาดเข้าหน้าของคนพายเรือเต็มๆ

    ใบหน้าที่เละเทะของเด็กหญิงในชุดนักเรียนทำให้เขา

    กรีดร้องเสียงดังออกมา..

    "ผะผะผี!!!ผีหลอก!!!"..เขาถอยกรูดจ้ำพรวดพราดลื่นหน้าถไลพื้น

    ลุกขึ้นวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต..หลังจากนั้นความเฮี้ยนของนิ่ม

    แพร่สะพัดไปทั้งตำบล..

    ในทุกค่ำคืนชาวบ้านละแวกใกล้วัดร้างจะได้ยินเสียงเพลงมอญซ่อนผ้า

    สลับกับเสียงร้องไห้อย่างน่าเวทนาของเด็กผู้หญิง..

    ชาวบ้านที่เคยออกหาปลาหากบตอนกลางคืนก็ไม่มีใครกล้าออกนอกบ้าน

    ลูกเด็กเล็กแดงต่างเข้าบ้านเงียบเมื่อตะวันเริ่มลาลับขอบฟ้า..

    ความหวาดกลัวของชาวบ้านทำให้ลืมความเจ็บแค้นที่จะหาตัวฆาตกร

    มาลงโทษทุกคนลงมติเป็นเอกฉันท์ให้กำนันโหน

    หาหมอผีมาสะกดวิญญาณของนิ่มและเผาศพ

    โดยไม่บอกให้ยายนุ่มรู้..

    "เมื่อทุกคนเห็นพ้องต้องกันฉันก็จะไปรับหมอผีมั่น

    จากเพชรบุรีมาจัดการกับผีนังนิ่มให้!"

    เมื่อความยุติธรรมถูกความหวาดกลัวเข้าครอบงำ

    คนผิดลอยนวลความเครียดแค้นอาฆาตพยาบาทคำรามก้อง..

    ปลายมีดอาคมกรีดลงบนหน้าผากที่ย่นยุ่ย

    เสียงบริกรรมคาถาสะกดวิญญาณที่ท่องผ่านปากหนา

    ด้วยน้ำเสียงสำเนียงคนเพชรโถสีขาวถูกล้วงออกมาจากย่าม

    แผ่นหนังหน้าผากถูกมนต์สะกดตรึงใส่ลงไปในโถพร้อมกับเส้นผมของนิ่ม

    ผ้ายันต์ถูกนำขึ้นปิดไว้ปากโถ..

    หมอผีเดินเข้าไปในโบสถ์ร้างเขานำโถใส่ไว้

    ใต้แท่นพระประทานสถานที่กักขังดวงวิญญาณของเด็กหญิง

    พิธีกรรมทางศาสนาสวดส่งวิญญาณจัดขึ้นมาเพื่ออะไร?

    ในเมื่อวิญญาณถูกกักขัง..

    ซากที่เน่าเฟะของนิ่มถูกมัดด้วยผ้าขาวและนำลงโลงเตรียมเข้าเตาเผา

    เด็กทั้งหาจุดธูปขออโหสิกรรมหนึ่งในนั้นบวชเณรให้..เณรถม..  

    ฆาตกรที่ถูกลืม ผู้ที่อาศัยชายผ้าเหลืองชดใช้ความผิด

    จนได้เป็นเจ้าอาวาสวัดประจำตำบล เพียงพอแล้วหรือกับบาปที่ก่อเอาไว้!! 





    ขันทอง..


    พี่สาวน้ำตาไหลแบบนี้เจอชีวิตผีเศร้าอีกแน่เลย..

    หนูก็ต้องรับหน้าที่เช็ดน้ำตาไป

    "พี่สาวเอาไงต่อคืนนี้พวกมันต้องไปทำลายดวงวิญญาณนั่นกันแน่ๆเลย"

    พี่ฟรังออกจากสมาธิหันมาจ้องหน้าหนู..

    ."คืนนี้หมอผีพุดกับกำนันหาญต้องไปหาหนังหน้าผากนี้ที่วัดร้าง

    เราจะไปบ้านกำนันหาญกันพี่เชื่อว่าดวงวิญญาณจะตาม

    ไปเอาชีวิตของเหนิงเป็นคนแรก"...

    เสียงประตูถูกเปิดออกทำให้หนูกับพี่ฟรังหันไปมองพร้อมๆกัน

    "ได้ยินแว่วๆว่าจะไปบ้านกำนันหาญกันให้แพรไปด้วยนะ"

    เอาแล้วงะแม่แพรร้องตามเป็นเด็กเลย

    "แม่ไม่กลัวผีเหรอ..ผีดุมากเลยนะ" แม่แพรนั่งงกอดหนูจนแน่น

    "ม่ายกลัวนี่ก็ว่าจะเรียนอาคมกับฟรังไว้บ้างเผื่อ

    จะกลายเป็นมือซ้ายช่วยฟรังได้อีกแรง"..

    โอะ!นี่แม่แพรของหนูจะเป็นแพรญาณทิพย์หรือเปล่าเนี่ย

    "นี่ใส่ไว้ซิแพร" ืพี่ฟรังส่งประคำมือให้แม่แพรสวมเอาไว้

    "ถ้าอยากจะเป็นมือซ้ายของฉันก็อย่าถอดประคำเส้นนั้นล่ะ"

    พวกเราสามคนวางมือประกบกัน..

    "สัจจะธรรมะคือการปลดปล่อย ธรรมะคุณจะค้ำจุนสัตว์โลกให้อยู่รอด

    อธรรมย่อมแพ้พ่ายต่อกรรมดี!!"..บทท่องจำขึ้นใจที่พี่ฟรังสั่งสอนหนู




    บ้านกำนันหาญ..20:00


    สายสินลงอาคมของหมอผีพุดขึงตรึงล้อมรอบบ้านของกำนันหาญ

    เพื่อป้องกันภูตผีปีศาจ..

     กำนันหาญมั่นใจเหลือเกินว่าอาคมที่แก่กล้าของหมอผีเมืองเพชร

    จะกำหลาบผีร้ายลงได้ ..

    "เอ็งสองคนอยู่แต่ในบ้านล่ะไม่มีผีหน้าไหนผ่านสายสินของข้าเข้ามา

    ทำร้ายพวกเอ็งได้แน่นอน"..เหนิงกับแบงค์มองหน้ากันอย่างหวาดๆ

    หมอผีพุดที่มีความเชื่อมั่นในฝีมือตัวเองหันไปทางกำนันหาญ

    พยักหน้าส่งสัญญาณปฏิบัติการล่าผีกำลังจะเกิดขึ้น..

    "เราไปกันเถอะกำนันข้าคันมืออยากจะจัดการกับนังผีตัวนั้นแย่แล้ว

    หวังว่าหนังหน้าผากมันจะยังอยู่ที่เดิมนะ!!"

    ความกระหืดกระหือรือของหมอผีคลั่งวิชา

    มักจะพบกับจุดจบในกรรมที่ตั้งใจก่อเสมอ

    ใครเลยจะคาดการณ์ได้ว่าหลังจากกำนันและหมอผีพุด

    ออกจากบ้านไปอะไรจะเกิดขึ้นกับคนที่อยู่เบื้องหลัง

    เงาดำตะคลุ้มๆข้างต้นไม้ใหญ่เอื้อมมือหยาบหนากระชาก

    ด้ายสายสินจนขาดติดมือ..

    "หึหึ!!ไอ้หาญ!!มึงจะได้รู้ว่าการูญเสียเป็นไง!!"

    คนขี้เมาประจำหมูบ้านอดีตเพื่อนรักกำนันหาญ

    คับแค้นใจเพื่อนเกลอได้เป็นใหญ่เป็นโตมิหนำซ้ำ

    ยังแย่งเดือนผู้หญิงที่จรหลงรักไปครอบครอง

    จรเฝ้าหาจังหวะเอาคืนกำนันหาญมาตลอดเวลาและตอนนี้

    บัญชีแค้นได้ถูกชำระแล้วเมื่อวิญญาณนิ่มไปปรากฏกายให้จรเห็น

    คำสัญญาของคนเมาป่าวประกาศกับนิ่มว่าจะช่วยแก้แค้นเอง..

    ลมเย็นยะเยือกกระโชกพัดจนกิ่งไม้ไหวหมาเฝ้าบ้านกู่ก้องโก่งคอเห่าหอน

    ต้อนรับวิญญาณมรณะที่เดินลากขาเข้าสู่รั้วประตูพระภูมิเจ้าที่

    ไม่อาจต้านทานแรงพยาบาทที่สั่งสมความแค้นจากอดีตอันยาวนาน

    การถูกกักขังมาหลายสิบปีทำให้วิญญาณนิ่มมีพลังแกร่งกล้า..

     "เหนิงหมาบ้านมึงเห็นผีเปล่าวะ~~". แบงค์ถามเหนิงปากคอสั่นตาเหลือกรนราน

    มองซ้ายทีขวาทีด้วยอาการจิตตกเพราะความกลัว

    เหนิงก็ไม่ต่างอะไรจากแบงค์นั่งกอดเข่าเหงื่อกาน

    แตกเต็มหน้าที่ซีดเผือด...

    "มันหอนจิ้งจกมั้งไอ้เหี้ย!!มึงอย่าพูดถึงผีซิวะ!!กูกลัว!!"

    เหนิงกับแบงค์ขยับจนหลังชนกันเด็กสองคนนั่งตัวสั่น

    กลืนน้ำลายลงคอกับบรรยากาศชวนขนลุกขนพอง

    ครืด!!..เสียงเหมือนคนเดินลากขามาหยุดตรงประตูบ้าน

    เหนิงกับแบงค์มองหน้ากันอย่างหวาดกลัวสุดขีด

    ปัง!!ปัง!!ปัง!!..เสียงทุบประตูดังลั่น..

    เป็นเหตุให้สองเพื่อนซี้สะดุ้งโหยงกอดกันแน่น

    "ฮือๆๆ..พ่อจ๋าแม่จ๋าช่วยด้วย!!"..โครม!!..

    "กรี๊ดด!!!..." ประตูหน้าบ้านถูกกระแทกเปิดอย่างแรง

    ร่างทะมึนของผีนิ่มยืนทมึงทึงหน้าประตู..

    ไม่รอช้าให้เสียเวลาผีพยาบาทลอยพุ่งตัวเข้าใส่แบงค์กับเหนิงที่คุดหัวชนกัน

    ตัวสั่นพั่บๆยกมือพนมไหว้ท่วมหัว..

    "ไปที่ชอบที่ชอบเถอะ..ฮือๆๆ" ผีนิ่มจิกหัวเหนิงลากจนตัวลอย

    เหวี่ยงเหนิงร่างกระแทกข้างฝาดังโครม!!เด็กสาวนอนตัวงอหงิกร้องโอดโอย

    แบง์ตาเหลือกเป็นห่วงเพื่อนแม้จะหวาดกลัวแค่ไหนก้ตาม

    แต่ชีวิตเหนิงก็สำคัญกว่าเด็กหนุ่มพุ่งตัวหมายเอาตัวปกป้องเหนิง

    แต่พละกำลังที่มีมากของผีอาฆาตคว้าคอแบงค์แล้วบีบ

    จนตาเหลือกถลนก่อนยกจนร่างแบงค์ลอยจากพื้นแล้วทุ่มแบงค์

    ลงกระแทกกับพื้นกระดานอย่างแรง..

    เป้าหมายที่วิญญาณร้ายหมายเอาชีวิตถอยร่นจนหลังติดผนังบ้าน

    "ยะอย่าทำอะไรฉันเลยนะฉันกลัวแล้ว"

    เหนิงยกมือพนมไหว้น้ำต่ไหลพราก..อ๊อก!! ..

    ผีนิ่มบีบคอจนเหนิงตาเหลือกร่างเหนิงค่อยๆถูกยกลอยขึ้น

    ตาที่เหลือกถลนลิ้นที่จุกปากปลายเท้าแกว่งไปมา..

    "อย่า!!!อีผีบ้า!!ปล่อยเพื่อนกู!!!"

    แบงค์ที่พยายามคลานกระเสือกกระสนเพราะซี่โครงหัก

    เอื้อมมือดึงขาผีร้ายเมื่อเห็นเหนิงตาถลนออกนอกเบ้า

    "อีเหี้ย!!!ฆ่ากูนี่!!ปล่อยเพื่อนกูไป!!!"

    เสียงแตกแหลมของเด็กหนุ่มตะเบ็งจนดังลั่นบ้าน..

    หยดน้ำตาที่เอ่อนองเต็มหน้าของเหนิงและแบงค์ถูกละอองน้ำสบัดใส่

    "กรี๊ดด!!.."..ตุ่บ..ร่างเด็กสาวล่วงลงสู่พื้นเธอสำลักไอแค็กๆออกมา

    เมื่อวิญญาณร้ายถูกน้ำทิพย์จากผู้ปลดปล่อยสบัดปลายหญ้าแพรกใส่

     "เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวรปล่อยวางแล้วไปสู่ภพภูมิที่ดีเถอะ"

    เสียงแหบทุ้มของเด็กสาว..เธอคือทูตผู้ปลดปล่อย

    "พี่ฟรัง"..แน่นอนว่าชื่อนี้จะติดปากของเธอไปตลอดชีวิต

    เหนิงรีบคลานไปหาแบงค์ที่นอนบาดเจ็บสาหัสอยู่บนพื้น

    "พี่สาวตามหนูไปเถอะนะพี่สู้พี่ฟรังไม่ได้หรอก

    ไปเถอะ!ไอ้หมอพุดมันกำลังมา"..ขันทองวิ่งไปดูตรงหน้าประตู

    "แย่แล้วพี่ฟรัง!!"..หมอพุดและกำนันหาญจ้ำพรวดๆลงจากรถกระบะ

    "ขันทองหนีตอนนี้ทันไหม"..กุมาลีน้อยส่ายหน้า

    "ควายธนูของมันทั้งแกร่งทั้งเร็วหนูคนเดียวก้หนีรอดอยู่

    แต่พี่สาวคนนั้นซิสู้ควายผีอายุเป็นร้อยปีไม่ไหวแน่!" ฟรังหันไปมองหน้าแพรวา

    "แพรถอดประคำออกให้ผีนิ่มสิง!!ขันทองสตาร์ทรถพาแพรหนีไป

    ส่วนหมอผีกับควายธนูพี่จัดการเอง"..

    แพรถอดประคำอาคมส่งให้ฟรังขันทองน้อยดีดนิ้วเปาะ

    รถสตาร์ทเครื่องติดเอง..

    ผีนิ่มเห็นถึงน้ำใจของนักปลดปล่อยที่ไม่รังเกียจ

    และคิดช่วยเธอจึงพุ่งดวงจิตเข้าสิงร่างของแพรวา

    ทุกคนก้าวลงจากบ้านไปข้างล่าง..

    "พวกเอ็งมาทำอะไรกันห๊ะ!!" กำนันหาญถามเสียงแข็งกร้าว

    "ฉันมาเยี่ยมเหนิงและกำลังจะกลับ"..ฮาๆๆ..เสียงหัวเราะของหมอผีพุด

    ทำให้ทุกคนจ้องไปที่เขา..

    "แกคิดว่าจะซ่อนผีนังนั้นได้รึนังเด็กอมมือ!!"..หมอผีพุดเยื้องย่างเท้าเข้าใส่

    "หนีไป"..สิ้นคำฟรังใช้พลังทั้งหมดเรียกลมพายุด้วยคาถาเรียกลมพัดกระพือใส่

    ร่างหมอผีและกำนันหาญจนไถลถอยหลังหาที่ยึดเกาะ

    ฟรังท่องคาถาจนเกิดเม็ดเหงื่อเต็มหน้าแพรวาที่มีผีนิ่มสิง

    ถูกขันทองจับมือวิ่งฝ่าลมไปที่รถและขับออกไปอย่างเร็ว

    หมอผีพุดล้วงลงไปในย่ามเสกควายธนูตัวใหญ่ตามรถ

    ที่ขันทองควบคุมไปติดๆ..

    คาถาเรียกฟ้าร้องฟ้าผ่าถูกบริกรรมจากปากของฟรัง

    ผ่าเปรี้ยงปร้างใส่ร่างของควายผี..

    หมอผีพุดกระทืบเท้าอย่างโกรธจัดเขาล้วงเอามีดอาคม

    ไล่คาถาหยุดลมตรงดิ่งหมายทำร้ายฟรังด้วยมีดหมอ

    ฉึก!!..อ๊ากกก!!..ฉึกๆ!!..

    เสียงร้องโหยหวลของคนที่ถูกแทงจากด้านหลัง..

    หมอผีทรุดร่างล่วงตรงหน้าฟรัง..

    ปังๆ!!  ลูกกระสุนจากปากกระบอกปืนพกของกำนันหาญ

    ยิงเข้าใส่เข้าร่างจรเพื่อนขี้เมาที่เป็นคนแทงหมอพุด

    เพื่อช่วยเหลือฟรังภาพของอดีตที่แสนเจ็บปวด

    ที่ตามหลอกหลอนจรมาทั้งชีวิตถ้าตอนนั้นเขามีความกล้าพอ

    เหมือนกับวันนี้เด็กหญิงพิการคนนั้นคงไม่จบชีวิตลง

    ลมหายใจที่อ่อนลงก่อนที่จะหมดลมเขาระบายยิ้ม

    ให้กลับเพื่อนรัก..

    "ไอ้หาญ..พรุ่งนี้มึงจะมีสภาพไม่ต่างจากกู"

    เปลือกตาที่ปิดสนิทเมื่อชีวิตจรหลุดลอย

    กำนันหาญเซถลาเพราะความมืดทำให้เขาฆ่าเพื่อนตัวเอง

    "ไอ้จร!!ฮือๆ!!กูไม่ได้ตั้งใจ!!"..กำนันหาญทรุดลง

    กอดเพื่อนรักเอาไว้เขาร่ำไห้อย่างน่าเวทนา

    "พ่อ!!ลุงจร!!!" เหนิงวิ่งลงมาเข่าเธออ่อนทรุดตัวฮวบ

    เมื่อเห็นศพของลุงจรและหมอผีพุด..

    ฟรังยันตัวลุกขึ้นเธอหดหู่ใจอย่างบอกไม่ถูก

    กับเรื่องราวเศร้าสลดที่เกิดขึ้น ..

    กรรมที่ต้องชดใช้กันด้วยชีวิตเป็นอุทาหรณ์สอนใจคนรุ่นหลัง

    พิธีกรรมส่งวิญญาณผีตายโหงทั้งสามถูกจัดขึ้นกลางดึกวันนั้น

    ชาวบ้านระแวกใกล้เคียงมาช่วยเหลือกันตามคำขอร้องของกำนันตำบล

    ก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่เชิญตัวไปสอบสวนในข้อหาฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา

    แบงค์ถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลเพื่อรักษาตัว เด็กหนุ่มให้การว่าเขาพลัดตกจากบันได

    ศพของจรขี้เมาถูกชาวบ้านเคลื่อนย้ายไปยังวัด

    ส่วนศพของหมอผีพุดนำขึ้นรถมูลนิธิส่งไปเพชร

    "กลับบ้านกันเถอะฟรัง..ป่ะลูกแม่". แพรวาก้มลงอุ้มขันทอง

    ส่งยิ้มน้อยๆให้ฟรัง..ที่ถอนหายใจอย่างหดหู่

     "เหนิงพวกพี่กลับก่อนนะมีอะไรก็โทรหาล่ะ"

    เหนิงพยักหน้าอย่างอ่อนแรงให้ฟรัง

    ก่อนจะขึ้นท้ายรถกระบะของตำรวจไปกับพ่อของเธอ

    วิญญาณทุกดวงจากไปอย่างสงบไม่มาหลอกหลอนใครๆ

    จะมีก็แต่คนเป็นที่ยังมีชีวิตอยู่ที่จะจดจำเรื่องราวนี้ไปจนวันตาย

    โดยเฉพาะกำนันหาญฆาตกรที่ฆ่าเพื่อนตัวเอง



    ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~


    จบตอน..ตอนหน้าเจอผีเปรตบ้างนะครับ




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×