ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฟรัง colic คนเห็นผี

    ลำดับตอนที่ #7 : มอญซ่อนผ้า

    • อัปเดตล่าสุด 27 ส.ค. 58




    ระวังข้างหลังไว้ให้ดี!!

    มอญ~~ซ่อนผ้า~~

    ตุ๊กตาอยู่~~ข้างหลัง!!

     ไว้นู้น~~ไว้นี่..

    ฉันจะตี!!ก้นเธอ!!..

    คุณเคยเล่นกันหรือเปล่า??

    ถ้าเคยคุณรู้สึกเสียวสันหลัง!!

     บ้างไหม??..


    ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~


    รร.สวนมะลิ

    8.30 น. (ม.4/3 )

    ~เหนิง~

    กริ๊ง )))) )))

    เสียงกริ๊งเตือนบอกเวลาการเข้าชั้นเรียน

    เวลาแห่งความน่าเบื่อเริ่มขึ้นอีกแล้ว

    "เห้ย..เหนิงยืมเลขลอกหน่อยซิวะ"

    ไอ้แบงค์สะกิดหลังฉันขอยืมสมุดลอกการบ้าน

    ฉันส่ายหัวอย่างเอือมๆก่อนยื่นสมุดให้มัน

    "มึงหัดทำเองบ้างซิวะไอ้แบงค์ แม่งขอลอกทุกวันมึงไม่เบื่อบ้างรึไง"

    มันเบ้ปากใส่ฉันแล้วก็ก้มหน้าก้มตาปั่นอย่างไว..

    ฉันหยิบหนังสือสังคมขึันมาเตรียมรอถึงจะเป็นวิชา

    ที่น่าเบื่อมากแค่ไหนแต่ฉันก็ไม่อยากตกวิชานี้

    ก็หน่วยกิจมันตั้ง3หน่วย ก็เลยทำให้ฉันก้มหน้าก้มตา

    เรียนกับอาจารย์ที่เทศจนง่วง ไม่รู้แกสอนแบบไหน

    ฉันสัปงกหน้าทิ่มโต๊ะได้ทุกครั้ง!!

    "นักเรียนทำความเคารพ..สวัสดีครับ""ค่ะ"

    คุณครูดรุณีที่มีไม้เรียวคู่ใจเป็นอาวุธชายตา

    มองหน้านักเรียนผ่านแว่นเพื่อสำรวจคนขาดเรียน

    เธอมีความสามารถจำหน้านักเรียนที่แกสอนได้ทุกคน

    อย่างแม่นยำ..

    "เอาล่ะเปิดไปที่บทขนบประเพณีและการละเล่นพื้นบ้านของไทย"

    แกสอนไปเรื่อยซึ่งตอนนี้ตาฉันก็เริ่มปรือใกล้จะปิด

    แต่ฉันก็พยายามบิดแขนตัวเองให้ตื่นไว้เวลา 2 ชม.

     ที่เรียนกับแกเป็นช่วงเวลาที่ฉันทรมานที่สุด..

    "เอาล่ะให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละหกคนจัดการละเล่นพื้นบ้าน

    ไว้ร่วมกิจกรรมในประเพณีวันลอยกระทง อ้อแล้วถ้าใคร

    มีฝีมือจะทำกระทงประกวดก็ได้นะ อีกอย่างนอกจาก

    การละเล่นภาคปฏิบัติแล้วตัองทำเป็นรายงานส่งด้วยล่ะ"

    กว่าจะหมดชั่วโมงแกเล่นเอาฉันเกือบหลับใน..

    "เอาเหนิง..พวกฉันตั้งให้แกเป็นหัวหน้ากลุ่ม

    งานเนี้ยรายงานของพวกเราต้องเจ๋งนะเว้ย"

    ไอ้แบงค์ ฐิติ ตบไหล่ฉันพร้อมกับพยักหน้ากวนบาทา

    "ว่าแต่เราจะทำเรื่องอะไรดีอ่ะ" โบเพื่อนในกลุ่มเอ่ยถาม. 

    "เอางี้เดี๋ยวฉันไปถามพ่อฉันดีกว่าว่าในสมัยเด็กๆเขาเล่น


    อะไรกันบ้าง" ฉันโชว์พาวเวอร์ของลูกสาวกำนันบ้านทันที  

    "เออนี่เหนิงแกรู้ป่าววะเรื่องเล่าที่วัดร้างใกล้บ้านแกน่ะ"

    จู่ๆไอ้แบงค์ก็โผงถามขึ้นมา..

    "เรื่องอะไรวะ??" ฉันถามย้อนกลับไปมันรีบลากเก้าอี้ของมันมานั่งข้างๆฉัน

    "ก็ที่เขาว่ากันว่าที่นั้นมีเด็กผู้หญิงถูกฆ่าตายวิญญาณเฮี้ยนมาก"

    ไอ้แบงค์พูดใส่เอฟเฟ็กจนน่าถีบ!!

    "โอะ!!ไร้สาระผีเผออะไรไม่มีจริงหรอก!!เพ้อเจ้อ!!

    ไปๆกับที่มึงไปเลยไอ้แบงค์ครูเดินมาโน้น"

    ไอ้แบงค์แยกเขี้ยวให้ฉันก่อนจะลากเก้าอี้กลับไป

    ไอ้นี่ถ้าจะเป็นเอามาก..








    บ้านกำนันหาญ


    บ้านเรือนไทยร่วมสมัยที่ตั้งอยู่บนที่นาผืนใหญ่

    เป็นบ้านของฉันเองพ่อฉันเป็นกำนันแต่ไม่เคยใช้

    อิทธิพลไปกลั่นแกล้งหรือรังแกใคร

    ใครๆต่างก็ให้ความเคารพนับถือเห็นจะมีก็แค่

    ลุงจรขี้เมาคนเดียวเจอพ่อฉันที่ไหนก็ให้ของลับที่นั้น

    บางครั้งถ้าฉันอยู่ด้วยก็ด่าสวนกลับไปเหมือนกัน

    แต่พ่อฉันก็จะปรามๆฉันเอาไว้เพราะเป็นเพื่อนสนิท

    ในวัยเด็กของพ่อ พ่อมักเล่าเรื่องในอดีตและเพื่อนๆของพ่อ

    ให้ฉันฟังบ่อยๆที่ฉันจำชื่อได้ก็เห็นจะมีอยู่ด้วยกันสามคน  

    มีพ่อฉัน ลุงจร และก็หลวงลุงถมที่เป็นเจ้าอาวาสวัด..

    "ไอ้เหนิง..มาๆ มาดูไอ้โต้งตัวใหม่ของพ่อซิ"

    พ่อกวักมือเรียกฉันที่กำลังจอดรถจักรยาน

    ฉันวางกระเป๋านักเรียนไว้บนแคร่ใต้กอไผ่

    แล้วดึงเสื้ออกจากกระโปรงเดินจ้ำขายาวๆ

    ไปหาพ่อฉันที่อุ้มไอ้โต้งตัวใหม่..

    "โอโหพ่อหน้ามันแดงแป๊ดเลยนะซื้อมาใหม่เหรอพ่อ"

    พ่อฉันชอบไก่ชนมากรอบๆบ้านจึงเต็มไปด้วย.

    สุ่มไก่ชนและก็กรงนกหัวจุกที่แขวนรอบชายคาบ้าน

    "ฮา..ฮาไม่ได้ซื้อหรอกเพื่อนพ่อที่เพชรมันกลับ

    มาเที่ยวบ้านก็เลยเอาไอ้โต้งเนี่ยมาฝาก"

    พ่อเดินอุ่มไก่เดินไปเดินมาฉันยกขันทองเหลือง

    ดื่มน้ำฝนในขันไปอึกใหญ่..

    "ฉันว่าพ่อเอาไอ้โต้งนั่นไปใส่สุ่มไว้ก่อนเถอะแล้วมานั่งตรงนี้"

    ฉันตบมือลงบนแคร่ข้างตัวฉัน..

    "มีอะไรของเอ็งอีกวะไอ้ลูกคนนี้" พ่อทำหน้าตาสงสัยอีกละ

    "เอาน่ามาเหอะฉันจะถามอะไรหน่อยมา..มา"

    ฉันกับพ่อเราสนิทและคุยกันเหมือนเพื่อนอาจจะเป็น

    เพราะพ่อเลี้ยงฉันมาตั้งแต่เด็กเพราะแม่ฉันเสีย..

    ฉันเลยติดนิสัยโผลงผลางมาจากพ่อ..

    พ่อเอาไก่ใส่สุ่มแล้วเอาผ้าขาวม้าชุบน้ำเช็ดหน้าตา

    ตัวเองก่อนเดินมานั่งลงข้างฉัน..

    "อ่ะ..มีอะไรว่ามาลูกพี่"

    ฉันเอาแขนพาดไว้บนไหล่พ่อฉันแล้วทำหน้าจริงจัง

    "คืองี้..สมัยเด็กๆพ่อเล่นอะไรกันพวกการละเล่นอะไรแบบเนี้ย"

    พ่อพยักหน้าเชิงเข้าใจในคำถาม..

    "จ้ำจี้!!"..พ่อตอบพร้อมเลิกหน้ายักคิ้ว

    "โอโหพ่อ..เดี๋ยวเหนี่ยวเลย!!เอาดีๆดิฉันต้องทำรายงาน"

    พ่อทำหน้านึกแป๊บก่อนตอบฉันด้วยสีหน้าเป็นงานเป็นการ

    "ที่พ่อเล่นบ่อยๆเลยนะก็มีมอญซ่อนผ้า เราชอบเล่นกันตอน

    ตะวันเริ่มโพล้เพล้บางทีก็เล่นรอบกองไฟเล่นไปก็เสียวหลังไป

    ไม่รู้ไอ้คนที่เล่นเป็นตัวมอญซ่อนผ้ามันจะเอาผ้าไปแอบ

    วางข้างหลังตอนไหน" ฉันนั่งฟังพ่อเล่าไปเรื่อยๆแล้วจึงหัน

    ไปถามเรื่องที่ฉันได้ยินมาจากเพื่อนที่โรงเรียน

    ก็ไอ้แบงค์เพื่อนซี้ฉันนั่นแหละก่อนจะกลับบ้าน

    มีการมาอ้อนวอนฉันให้ถามพ่อฉันให้ทีเกี่ยวกับผีที่วัดร้าง

    ไอ้นี่มันบ้าชอบท้าพิสูจน์เรื่องผีสางไร้สาระไปวันๆ

    "พ่อที่วัดร้างเคยมีเด็กถูกฆ่าตายจริงป่ะเห็นเขาว่าเฮี้ยนมาก"

     พ่อของฉันยิ้มที่มุมปากแล้วหันมาถามฉัน..

    "แล้วเอ็งเคยเจอป่ะวะ??"ฉันส่ายหน้าไปมา

    เพราะฉันต้องปั่นจักรยาน ผ่านวัดร้างทุกวันทั้งขาไปขากลับบ้าน

    ก็ไม่เห็นเคยเจอ..

    "นั่นแหละคำตอบ" พ่อยีหัวฉันไปมาก่อนลุกขึ้นยืน

    "ปะ..ไปทำแกงป่าปลาช่อนกินกันดีกว่าเอ็งโขลกพริก

    เดี๋ยวพ่อทำปลาเอง"..

    ฉันคว้ากระเป๋านักเรียนวิ่งแซงหน้าพ่อขึ้นบ้าน..

    ด้วยความหิว!!


    ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~


    # รร.สวนมะลิ # 12.00 น.

    ฉันกับไอ้แบงค์เดินกอดคอกันไปหาโต๊ะนั่งกินข้าว

    ตลอดทางเดินไอ้ปากหมาแบงค์ก็จะแซวคนนั้นทีคนนี้ที

    ไม่เว้นแม้แต่พวกรุ่นพี่...

    "หวัดดีคับพี่เก้าสุดสวยเห็นหน้าหวานๆของพี่นี่แบงค์อิ่มข้าวเลย"

    "งั้นก็ไม่ต้องแดก!!!" ฉันสวนขึ้นกลางอากาศทำเอากลุ่มพี่เก้าฮาตรึม

    "แหม๋ปากเหรอนั่นน่ะแกนี่ไม่เคยเรียนกุลสตรีไทยหรืองะ

    น่านต้องดูอย่างพี่ฟรังดิทั้งเงียบและเรียบร้อย"

    อือฮือ..ไอ้นี่ช่างเปรียบเปรย....

    "แต่ฉันว่าพี่เขาเงียบจนน่ากลัวว่ะ" ฉันกระซิบที่หูไอ้แบงค์เบาๆ

    "แกกลัวใช่มะงั้นมานี่เลย" ฉันตกใจตาเหลือก

    เมื่อไอ้แบงค์ลากแขนฉันตรงดิ่งไปหาพี่ฟรัง..ผู้หญิงที่ทำให้ฉันรู้สึกขนลุก

    "พี่ฟรังคร๊าบบ.." ไอ้แบงค์ส่งเสียงโหยหวนหมั่นบาทาเรียกพี่ฟรัง

    ที่เคี้ยวข้าวทำหน้านิ่งเหมือนพวกไร้ความรู้สึก..

    แต่มีข่าวลือหนาหูว่าพี่ฟรังทำคุณไสยใส่พี่แพรวา

    จนทั้งสองคนเป็นแฟนกัน..จริงไม่จริงก็ไม่รู้แต่ที่รู้ๆ

    ตอนนี้ไอ้เชี้ยแบงค์วางจานข้าวฉันลงข้างพี่ฟรัง.

    ส่วนมันกระโดดไปนั่งข้างๆพี่แพรวา..

    เอาแล้วงะ!!..ดูไอ้เวรตะไรนี่มันทำกับฉันซิ!!

    ขายาวๆของฉันเหมือนมันจะเป็นง่อยหมดแรงเอาซะดื้อๆ

    พี่ฟรังส่งช้อนข้าวเข้าปากพร้อมกับเหลือบตามองฉันด้วยแววตานิ่งๆ

    ทำเอาฉันเสียวสันหลังวูบ..

    "ขันทองเขยิบให้พี่เขาหน่อยซิลูก"..ห๊ะ!!อะไร??..

    พี่แพรพูดกับใคร?? ฉันงงเป็นไก่ตาแตก!!

    ส่วนไอ้แบงค์ทำตาลุกวาวอย่างคนสอดรู้..

    ถ้าฉันขืนอยู่ตรงนี้ต่อไปคงประสาทกินแน่

    "ไอ้แบงค์มึงจะนั่งกับพี่เขาใช่มะ?? งั้นมึงนั่งป่ะส่วนกู

    มาส่งมึง..บาย..กูไปละ..หวัดดีค่ะพี่ฟรังพี่แพร"

    ฉันยกมือไหว้ร่ำลารุ่นพี่ที่ทำหน้างงๆ..ฉันคว้าจานข้าวเผ่นแหน่บออกมาทันที

    โชคดีแล้วกันนะไอ้เพื่อนเชี้ย!!..

    จึ๊ก..จึ๊ก.. ฉันสูดหายใจลึกๆด้วยความหงุดหงิดจะอะไรอีกละ

    ก็ไอ้เพื่อนเลวมันนั่งเอาปลายปากกาจิ้มหลังของฉัน

    "ไอ้เชี้ยแบงค์เดี๋ยวถีบ!!"..ฉันหันไปด่ามันเบาๆ

    เพราะเกรงใจอาจารย์ที่ยืนสอนอยู่หน้าชั้นเรียน

    "พรุ่งนี้ไปสำรวจวัดร้างกัน" ไอ้แบงค์กระซิบกระซาบกลับ

    "ไปสำรวจเชี้ยไร" ฉันกระซิบถามกลับ

    "หาที่สงบแอบทำรายงาน" มันป้องปากพะงาบๆ

    "มึงอย่ามาสตอกูรู้มึงจะไปล่าท้าผี" ..

    "แหม๋รู้ใจกันขนาดนี้มาเป็นแม่กูเลยมะ"  

    "กัญญาวี..ฐิติ!!!ออกไปกระซิบกันต่อหน้าห้องไป!!"

    ซวยแล้วงะ!!..

    "เพราะมึงคนเดียวไอ้ชั่ว!!" ฉันหันไปด่าไอ้แบงค์

    ที่ยืนกระต่ายขาเดียวคู่กับฉัน

    "งั้นตกลงพรุ่งนี้ฉันไปรับแกที่บ้านนะเว้ย"

    มันโมเมเอาเองอีกตามเคย...

    "เรื่องของเมิง!!" บอกตรงๆฉันเบื่อหน่ายกับไอ้คนกวนประสาทคนนี้มาก

    เชื่อซิพรุ่งนี้ฉันต้องปั่นจักรยานขาลากพ่วงมันไปส่งบ้านมัน..

    ก็ไอ้เนี่ยจักรยานมันยังปั่นไม่เป็นเลย..



    ~~~~~~~~~~~~~~~~~~

    วันเสาร์  18.00 น


     ฉันปั่นจักรยานบนทางเล็กๆที่สองข้างทางปกคลุมไปด้วยแมกไม้นานาพันธ์ุ  

    ไอ้เสียงแกรกรากที่ลากบนพื้นถนนจนฉันสุดจะทนปนเอือมระอาก็เพราะ

    ขายาวๆของไอ้แบงค์ที่มันนั่งซ้อนท้ายอยู่ด้านหลังฉันนี่งะมันลากเกือก

    มันระพื้นมาตลอดทาง..

    "หูยไอ้เหี้ยแบงค์!!มึงนั่งให้มันดีๆหน่อยไม่ได้หรือไงที่เหยียบก็มีแม่ง

    ไม่เหยียบลากส้นตีนอยู่ได้กูรำคาญ!!"

    ฉันหันไปด่าไอ้แบงค์ที่นั่งชมนกชมไม้ทำเป็นทองไม่รู้ร้อน

    "ก็ขากูยาวกูก็เมื่อยนะเว้ย" ไอ้แบงค์เอ๋ย..

    "แล้วกูสบายงั้นดิตัวมึงนี่เบายังกะสำลีว่างั้น!!"

    "รึมึงจะให้กูถีบให้เอาไหมบ่นอยู่ได้!!

    พูดมากเดี๋ยวก็ถึงพรุ่งนี้เช้าหรอก"

    ฉันหมั่นเขี้ยวมันมากแต่ทำไรไม่ได้เพราะมือไม่ว่าง

    ไม่งั้นจะยกขาฟาดคอมันซักที..เพราะมันเล่นมาบ้านฉันซะเย็น

    แล้วก็มาเร่งให้ฉันพามันไปวัดร้าง..

    ป่าละเมาะที่ปกคลุมสองของทางก็เรียกขนแขนฉัน

    ให้ลุกชันได้เป็นระยะๆ..ไหนจะเสียงนกแปลกๆที่ร้อง

    ไหนจะเสียงสวบสาบของกิ่งไม้ไหวแต่คงไม่ใช่ผีเผอ

    อะไรหรอก..ก็แค่เสียงลมเสียงนก ฉันปลอบใจตัวเอง

    แบบนี้มาตั้งแต่เด็กละ..

    ไม่นานนักฉันก็พุ่งสายตาไปที่ซากปรักหักพัง

    ที่อยู่ล้อมรอบโบถส์เก่าที่ตั้งทะมึนอยู่เบื้องหน้า

    ฉันกลืนน้ำลายลงคงอย่างหวาดๆก่อนเลี้ยวจักรยาน

    ปั่นตรงไปจอดที่ลานดินหน้าโบสถ์เก่า

    "โอโหบรรยากาศพาฟิน" ไอ้แบงค์มีอาการกระดี้กระด้าทันที

    "ฟินพ่องมึงซิ เงียบสงบสมใจมึงมะไอ้แบงค์!!"

    ไอ้แบงค์ไม่ได้สนใจคำด่าวิ่งไปโหม่ตรงนั้นทีตรงนี้ทีอย่างชอบใจ

    "ไอ้เหนิง..มานี่มานี่" ไอ้แบงค์ที่อยู่ตรงหน้าประตูโบสถ์ร้าง

    กวักมือเรียกฉันให้เดินไปหามัน..

    บอกตรงๆฉันรู้สึกปวดท้องน้อยเหมือนฉี่จะราด

    กับบรรยากาศอึมครึมแบบนี้..

    ฉันก้าวขายาวๆมองซ้ายทีขวาทีจนสะดุดเข้า

    กับก้อนหินก้อนหนึ่งจนล้มลงก้นจ้ำเบ้า..

    "ฮา..ฮา..เหวินเฟอะจริงๆ" ฉันยกเท้าให้มันด้วยความโมโห

    ช่วยก็ไม่ช่วยยังเสือกยืนหัวเราะเยาะอีก

    "เดี๋ยวกูจะให้มึงเดินกลับไอ้เหี้ยนี่!!"ื ฉันด่าไปปัดก้นไปมา

    ไอ้ลิงแบงค์ไม่รอช้าวิ่งหายเข้าไปในโบสถ์

    ฉันหันรีหันขวางมองรอบๆตัวด้วยอาการตาเหลือก

    "ไอ้แบงค์รอกูด้วย" ฉันวิ่งจู๊ดตามไอ้แบงค์เข้าไปในโบสถ์




    9 โรงเรียนและมหาวิทยาลัยร้าง...ชวนขนลุก

    ภายในโบสถ์เก่ามีหยากไย่ระโยงยางบ่งบอกว่ามัน

    ถูกปล่อยร้างมาหลายสิบปี
    ..
    ไอ้แบงค์เดินสำรวจไปทั่วอย่างคนอยู่ไม่สุข

    ฉันหมุนตัวมองตั้งแต่หลังคาโบสถ์ที่เป็นรูโบ๋

     ยังพื้นที่มีน้ำเอ่อขัง..พรึบ..พรึบ..

    "เห้ยย..เหี้ยอะไรวะ!!" ฉันอุทานเสียงออกมาด้วยความตกใจ

    พร้อมกับยกมือปัดไล่ค้างคาวสองสามตัวที่บินละบนหัวฉัน

    "เหนิงมาดูนี่เร็ว"..ไอ้แบงค์ยื่นหน้ามาจากซากหลังพระประทาน

    ร้องเรียกฉันยังกับพบเจอขุมทรัพย์ทองคำ..

    "อะไรของมึงวะ"..ฉันเดินคิ้วขมวดไปหามัน  

    องค์พระประทานเก่ามีเพียงลำตัวแต่ไม่มีเศียร

    ด้านหลังองค์พระเป็นรูโบ๋ ไอ้แบงค์สอดมือเข้าแล้ว

    ล้วงหยิบโถเก่าๆออกมา..

    "เห้ย..โถอะไรวะกูว่ามึงเอาไว้ที่เดิมเหอะ"

    ไอ้แบงค์แลบลิ้นให้ฉันก่อนมันจะมือบอน

    ดึงผ้าเก่าๆที่ปิดปากโถออก..

    "เห้ยๆ.." ไอ้แบงค์ร้องเห้ยๆทำโถสั่นๆ

    ด้วยความกลัวฉันรีบเผ่นไปตั้งหลัก

    เกือบถึงหน้าประตูโบสถ์..

    "ฮา..ฮา..อะอะล้อเล่น"

    มันเต้นดุกดิกแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ฉัน

    "ไอ้ชิบหายแบงค์เล่นเหี้ยอะไรของมึงห๋า!!"

    ฉันตะโกนด่ามันลั่นโบสถ์..

    "มึงจะกลัวอะไรวะเหนิงก็มึงบอกกูเอง

    ผีเผอเหี้ยอะไรไม่มีจริงหรอก!!"

    วูววว~~โครม..จู่ๆลมจากที่ไหนก็ไม่รู้  

    "กรี๊ดไอ้แบงค์!!"

    กรรโชกพัดเข้ามาในโบสถ์อย่างแรง

    ทำเอาซากประตูไม้ล้มลงมาเฉียดฉันไปนิดเดียว

    ฉันกระโดดขี่คอไอ้แบงค์แถมรัดคอมันแน่น

    "อ็อกๆ..เอี้ยเหอิ่งอูอ๋ายไออะออก!!"

    ไอ้แบงค์ตีแขนฉันด้วยอาการลิ้นจุกปาก

    ฉันรีบคลายแขนออกก่อนมันตาย..

    "ไอ้แบงค์กูว่าเรากลับกันเหอะแม่งน่ากลัวว่ะ"

    ฉันเริ่มรู้สึกใจคอไม่ดีแปลกๆก็ไม่ได้เชื่อนักหรอกเรื่องผีสาง

    แต่ถ้าจะให้อยู่กับบรรยากาศน่ากลัวขนาดนี้กลับไปนอน

    ตีพุงอยู่บ้านดีกว่า..

    "เดี๋ยวดิวะเหนิงกูขอสำรวจของในโถแป๊บ"

    พูดจบไอ้แบงค์มือคันก็ล้วงลงไปในโถ

    "อึยย..มีแต่เหี้ยอะไรไม่รุ เศษผ้าขี้ริ้วไรวะเศษผม

    อะนี่แผ่นหนังอะไรวะหุไม่มีเหี้ยอะไรน่าสนใจเลย"

    ไอ้แบงค์โยนของทุกอย่างทิ้งบนพื้นแถมเหยียบ

    แผ่นหนังแห้งๆบี้ไปมากับพื้น..

    ทำให้ฉันใจหวิวๆบอกไม่ถูก


    ~~~~~~~~~~~~~~~~~~

    ค่ำคืนของรัตติกาลอันยาวนาน..

    ในคืนที่ผู้คนต่างพากันหลับใหลตกอยู่ในภวังค์

    แห่งการหลับฝัน..

    แต่กลับมีบางสิ่งเยื้องย่างกายอยู่ในความมืดมิด

    เท้าเปล่าเล็กๆที่ถูกลากกับพื้นดินมีลักษณะบิดเบี้ยว

    เหมือนขาที่เป็นง่อย..จนเกิดเสียงลากดังครืดคราด

    ร่างของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งมาหยุดยืนแหงนหน้ามอง

    บ้านไม้หลังนึงที่ทุกคนในบ้านต่างหลับสนิท..

    จะมีก็แต่หมาเฝ้าหน้าบ้านสองตัวที่พากันโก่งคอ

    เห่าหอน..บูววววววววววววว

    ใบหน้าที่บิดผิดรูปจนไม่มีเค้าของใบหน้าคน

    แหงนขึ้นรับแสงจันทรา..

    ชุดนักเรียนคอบัวของเด็กประถมเต็มไปด้วย

    คราบเลือดที่เกรอะกรังปนเปื้อนกับสาปน้ำเหลือง

    น้ำหนอง..เธอไม่ใช่คน!!

    เด็กผีเกาะราวบันไดแล้วลากขาขึ้นไปยังตัวบ้าน

    ประตูที่ปิดล็อคถูกเปิดออกได้อย่างง่ายดายแค่เธอยืนอยู่เฉยๆ

    ร่างทะมึนเล็กๆแห่งรัตติกาลยืนมองมุ้งสองหลัง

    ที่กางติดกันก่อนตลบมุ้งหลังนึงขึ้นแล้วย่อตัวลง

    จ้องมองร่างที่หลับไหล...

    เด็กหนุ่มคู้ตัวนอนขดหลับไม่รู้เรื่องรู้ราวถึงสิ่งที่

    คืบคลานมาจนประชิดตัว..

    สิ่งนั้นค่อยๆยื่นหน้าเฟะๆดวงตาปูดบวมเหมือนโดนทุบ

    ขยับปากเขียวจนคร้ำพร้อมกับน้ำลายเน่าๆที่หยดยืด

    ใส่หูเด็กหนุ่ม...

    "ฮี่~~ฮี่~~ฮี่~~มา~~เล่น~~กานน~~"

    เสียงหัวเราะยานครางที่น่าพะอืดพะอม

    นั้นสามารถทำให้เด็กหนุ่มทำตามอย่างว่าง่าย

    เขาลุกขึ้นนั่งด้วยดวงตาเลื่อนลอย..

    ก่อนจะคลานเข่าเลิกชายมุ้งมุดออกไป  

    กลางลานดินโล่งมีเด็กหนุ่มนั่งอยู่บนพื้น

    กับบางสิ่งที่เดินวนรอบๆตัวเขาในมือถือ

    ของบางอย่าง..

    "มอญซ่อนผ้าตุ๊กตาอยู่ข้างหลัง..

    ไว้โน้นไว้นี่ฉันจะตีก้นเธอ"

    เด็กหนุ่มร้องเพลงการละเล่นพื้นบ้าน

    ด้วยน้ำเสียงเนิบๆช้าๆจนเหมือนการท่อง

    พร้อมกับตบมือ แปะ แปะ..

    จนกระทั่งมีของบางอย่างหล่นตุบที่หลังเขา.

    แต่เขากลับนั่งนิ่งเหมือนคนไม่รู้สึกตัว

    จนร่างที่ลากขาเดินวนมาหยุดยืนด้านหลังเขา

    เธอแสยะยิ้มด้วยปากบิดเบี้ยวก่อนจะก้มหน้า

    แล้วยื่นปากไปกระซิบที่ข้างหูเขา..

    "เสร็จ~~ฉัน" เด็กหนุ่มยังนั่งร้องเพลงตบมือ แปะแปะ

    คล้ายกับว่าตกอยู่ในภวังค์..

    เด็กผีหยิบของบางอย่างที่เธอโยนมันเอาไว้หลังเขา

    ท่อนไม้ถูกยกขึ้นฟาดอย่างแรงใส่หลังเขาเสียงดัง

    ตุ่บตับ..

    การละเล่นเป็นแบบนั้นทั้งคืนจนค่อนรุ่ง


    เด็กหนุ่มจึงเดินขึ้นบ้านมุดมุ้งล้มตัวลงนอน


    ~~~~~~~~~~~

    #รร.สวนมะลิ#


    ~เหนิง~

    ฉันมองไปที่โต๊ะของไอ้แบงค์วันนี้เป็นวันที่สาม

    ที่ไอ้แบงค์ขาดเรียนฉันรู้สึกใจคอไม่ดีเอาซะเลย

    เพราะตั้งแต่วันที่กลับจากวัดร้างมันก็หายเงียบไปเลย

    ซึ่งมันผิดวิสัยคนอย่างมันไม่สบายแค่ไหน

    ก็ไม่ยอมหยุดเรียน มันเคยบอกว่ามันคงอกแตกตาย

    ถ้าวันไหนมันไม่ได้แกล้งฉัน แล้วนี่มันเล่นหยุดเรียนยาว

    สามวันติดป่านนี้มันไม่อกแตกตายไปแล้วรึไงนะ

    เวลาไม่มีมันอยู่มันกวนประสาทบรรยากาศรอบตัวฉัน

    มันช่างเงียบเหงาจริงๆเลย..

    ยังไงหลังเลิกเรียนแว๊บไปดูมันที่บ้านหน่อยดีกว่า

    "เออนี่เหนิงแกรู้ไหมว่าพี่ฟรัง ม.5/1 เลี้ยงผีนะเว้ย"

    โหะ..นังโบนี่ก็อีกคนบ้าเรื่องภูตผีพอๆกับไอ้แบงค์เลย

    "โบนี่แกจะเป็นตัวตายตัวแทนไอ้แบงค์มันรึไงกันวะ

    ผีเผออะไรไม่มีหรอก!!"

    นังโบกระตุกปากยิ้มเยาะก่อนจะพูดแทงใจดำฉัน

    "แกกลัวน่ะเซถึงคอยพูดปลอบใจตัวเองแบบนั้นน่ะ

    เพราะบ้านแกอยู่แถววัดร้าง!! กลัวก็บอกมาเหอะ!!"  

    ฉันชี้หน้านังโบที่ทำตัวรู้ดี..



    พอเลิกเรียนปุ๊บฉันรีบปั่นจักรยานไปหาไอ้แบงค์

    ที่บ้านมันทันที..

    ฉันจอดจักรยานใต้ต้นหูกวางหน้าบ้านไอ้แบงค์

    โดยมีไอ้ด่างกับไอ้ดำหมาสองตัวที่คุ้นเคยกับฉัน

    วิ่งกระดิกหางมาต้อนรับ..

    "ไอ้แบงค์..ไอ้แบงค์โว้ย" ฉันตะโกนแหกปาก

    เรียกไอ้แบงค์ที่หน้าบันไดบ้านมัน

    "อ้าวไอ้เหนิง..มาหาไอ้แบงค์เหรอ"

    ลุงเบี้ยวพ่อไอ้แบงค์โผล่หน้ามาจากหน้าต่างไม้

    บนบ้าน..ฉันรีบยกมือไหว้..

    "หวัดดีจ้ะลุง ไอ้แบงค์อยู่บ้านป่ะ??"

    ลุงเบี้ยวพยักหน้าแล้วกวักมือให้ฉันขึ้นไป

    บนบ้าน..ฉันรีบถอดรองเท้านักเรียนแล้ว

    ขึ้นบันไดไปทันที..

    "นั่นมันนอนอยู่ตรงนั้นคุยกับมันไปก่อน

    เดี๋ยวลุงจะไปช่วยป้าเอ็งสับผักให้หมู"

    ฉันพยักหน้าให้ลุงเบี้ยวก่อนหันไปมองไอ้ร่าง

    ที่มันนอนคว่ำหน้าเหยียดยาวอยู่บนที่นอน

    "สบายเหลือเกินนะมึงโรงเรียนไม่ไป

    ปล่อยพวกกูทำรายงานเอาตัวรอดเลยนะ"

    ฉันบ่นมันทันทีที่มีโอกาส..

    "เหนิง~~ช่วยกูด้วย..ฮือ~~ฮือ"

    ฉันรีบนั่งลงข้างไอ้แบงค์ด้วยความตกใจ

    ที่แรกก็คิดว่ามันแกล้งแต่พอเห็นหน้าที่ซีดเผือด

    พร้อมกับน้ำตาที่ไหลผ่านสันจมูกของมัน

    "ไอ้แบงค์มึงเป็นอะไรวะ??"

    ฉันถามมันด้วยความตกใจ..

    "หลัง..หลังกู" ฉันแอบคิดในใจถ้ามันหลอก

    ให้ฉันเกาหลังให้ฉันจะกระทืบมันให้หลังหัก

    เลยคอยดู..

    "หลังมึงทำไม??"..

    "กูเจ็บ!!" ด้วยความสงสัยในอาการของมัน

    ฉันจึงเอื้อมมือไปถลกเสืัอยืดมันขึ้น

    "เห้ย!!..ไอ้แบงค์ใครทำมึงวะ!!"

    ฉันต้องตะลึงตาค้างกับสภาพแผ่นหลังของมัน

    ที่ทั้งบวมทั้งเขียวอย่างน่ากลัว..

    "ผี!..ผี!..เหนิงผีเด็ก!!มันตามกูมา!!

    มึงต้องช่วยกูนะ!!กูกลัว!!"

    ไอ้แบงค์จับหัวเข่าฉันเขย่าไปมาฉันที่ยังนั่งงง

    กับเรื่องที่มันพูดได้แต่สบัดหัวไปมา

    "เอาดีๆไอ้แบงค์กูไม่ตลกด้วยหรอกนะ!!"

    ฉันเริ่มมองไปรอบๆตัวด้วยอาการขวัญผวากับสิ่ง

    ที่ไอ้แบงค์บอกฉันแถมบรรยากาศก็เริ่มสลัวเข้าทุกที

    "ฮือ~~ฮือ..กูพูดเรื่องจริงผีมันมาเข้าฝันกูทุกคืนให้ไป

    เล่นกับมันแล้วมันก็เอาไม้ฟาดหลังกู.."

    โครม..ฉันสะดุ้งสุดตัวกระโดดไปนั่งอีกฝั่ง

    ของที่นอนเมื่อยู่ดีๆรูปที่แขวนอยู่บนฝาบ้าน

    ก็หล่นลงพื้น..ตอนนี้ฉันไม่มีแม้แต่เสียงร้อง

    ได้แต่นั่งกอดเข่าตัวสั่นด้วยความกลัว

    "เหนิง~~มึงรีบไปหาคนมาช่วยกูเร็วไปซิ!!"

    ไม่รอช้าฉันรีบเผ่นออกจากบ้านไอ้แบงค์

    แทบจะกระโจนลงบันได..

    "ไอ้แบงค์มึงรอกูก่อนกูจะหาคนมาช่วยมึง!"

    ฉันตะโกนบอกมันแล้วรีบคว้าจัดรยานปั่นตัวปลิว

    ออกมาจากบ้านมัน..

    ใคร??ใครล่ะ??ที่จะช่วยได้??..

    โถไอ้แบงค์แล้วกูจะช่วยมึงยังไงดี..  

    พรึ่บ!!..อยู่ดีๆทำไมทางมันถึงมืดขนาดนี้!!



    ~~~~~~~~~~~~~~
     
     
    18:30
     
    ~ฟรัง~  
     
     
    ขณะที่ฉันขับรถกำลังจะกลับบ้านหลังจากแวะ
     
    ไปส่งไข่ไก่ให้ที่ร้านโกตี๋..
     
    "เห้ย!!พี่สาวระวัง" ขันทองร้องเสียงหลงชี้นิัว 
     
    ไปที่ทางสามแยกที่ฉันกำลังจะขับผ่านไปจู่ๆ. 
     
    ก็มีรถจักรยานคันนึงถีบพุ่งออกมาขว้างหน้าซะงั้น
     
    ฉันเหยียบเบรคกระทันหันจนมิด..
     
    รถจักรยานที่เด็กนักเรียนหญิงคนนึงเป็นคนถีบล้มกลิังคลุกฝุ่น

    ฉันรีบเปิดประตูรถลงไปดูคนที่นอนเหลือกตาโพลงประมาณว่า

    กำลังช็อคในเหตุการณ์ฉันรีบยกจักรยานที่ทับตัวเธอออก

    แล้วฉุดดึงเธอลุกขึ้นแล้วฉันก็สัมผัสเห็นสาเหตุ

    ที่เธอถีบรถไม่มองทาง..ผีบังตา..

    แต่พอเธอมองฉันเท่านั้นแหละเธอทำหน้าตกใจ

    ยังกับเห็นผีเธอลุกพรวดถอยกรูดไปยืนติดจักรยาน

    นี่มันรุ่นน้องม.4นี่นา ฉันจำเธอได้ละทุกครั้งเด็กนี่

    เดินสวนกับฉันเป็นต้องลุกลี้ลุกลนเหมือน

    กลัวอะไรซักอย่าง

    "เป็น~~ไร~~เปล่า~~"

    อยากกลัวดีนักฉันเลยแกล้งทำเสียงยานๆถาม

    โอโหตาเด็กนั้นเหลือกถลนแถบจะหลุดออกมา

    จากนอกเบ้าปากนี่สั่นระริกสรุปน้องเขากลัวฉันจริงน่ะแหละ

    "บ้านอยู่แถวไหนเดี๋ยวพี่ไปส่งให้~~"

    นี่ถ้าแพรวาอยู่ด้วยฉันคงถูกทุบจนหลังแอ่น

    ที่แกล้งยัยเด็กสติเฟืัองนี่เล่นเด็กส่ายหน้าเร็วปรื๋อ

    หนอยกล้าปฏิเสธความหวังดีใช่มะ

    "แถวนี้ผีดุนะ~~"

    แค่นั้นแหละเด็กนั่นมองซ้ายที่ขวาที

    แล้วก็บ่นงึมงำแต่ฉันได้ยิน

    "แม่งเหี้ยเอ๊ย!!ผีกูก็กลัวยัยรุ่นพี่นี่กูก็กลัวเอาไงดีวะกู"

    ขันทองที่นั่งอยู่บนหลังคารถพยักหน้าน้อยๆดีดนิัวเปาะ

    หมาแถวๆนั้นก็กู่โก่งคอหอนกันระงม

    บูววววววววว))))) )))

    ถ้าใครมาเห็นสภาพยัยเด็กนั้นตอนนี้คงลง

    ไปนอนดิ้นหัวเราะกรามค้าง..

    ก็เธอเล่นแบกจักรยานขึ้นบ่าวิ่งหน้าตั้ง

    แล้วโยนมันลงใส่ระกระบะฉันแถมกระโดดขึ้น

    ไปนั่งหน้าลอยปิดประตูดังโครม

    ฉันเดินส่ายหน้าอย่างขำๆแล้วขึ้นประจำที่

    ขันทองน้อยนั่งขัดตะหมาดอยู่บนฝากระโปรง

    มีหันมายิงฟันส่งยิ้มให้เป็นพักๆ

    "บ้านอยู่แถววัดร้างเหรอ~~" ร่างที่นั่งเบียดชิดประตู

    เหมือนตุ๊กแกเกาะฝาผนังพยักหน้าเป็นเชิงตอบรับ

    ใบหน้าเรียบเฉยในแบบฉบับของฉันมันดูน่ากลัว

    ขนาดนั้นเชียวหรือนี่..

    "แถวนั้นก่อนเคยมีเรื่องเล่าขานถึงวิญญาณ

    ของผีเด็กนักเรียนวัดท่าโขลงที่อยู่อีกฝั่งคลอง

    ข้ามมาเล่นแถววัดร้างจนถูกฆ่าตาย

    จากกลุ่มเด็กเจ้าถิ่น"..ความเงียบเริ่มปกคลุม

    ให้อีกฝ่ายมีเม็ดเหงื่อผุดขึ้นเต็มใบหน้า

    ฉันเอื้อมมือไปดึงเก๊ะเล็กๆหยิบสายสินยื่นให้รุ่นน้อง

    เธอมองอย่างกล้าๆกลัวๆ

    "ดูจากหน้าหมองๆของเธอสิ่งนี้น่าจะช่วยเธอได้

    ผูกมันไว้ติดตัวตลอดเวลานะ"

    มือที่สั่นเทาแบรับมันไปอย่างหวาดๆ

    "ละเลี้ยวข้างหน้าค่ะพี่ฟรัง"..บ้านกำนันหาญ!

     ฉันยกมือไหว้ผู้ที่เป็นกำนันตามมารยาทที่สมควรจะต้องทำ

    ก่อนจะหันไปกำชับเด็กนั่นอีกครั้งเรื่องสายสิน

    ก็ได้แต่หวังว่าเธอคงจะเชื่อฉันนะ..  


    ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~


    ~เหนิง~  


    บ้าไปแล้ว!ใครจะไปใส่ฉันไม่ใช่คนโง่นะ

    นี่กะจะเสกของใส่ฉันใช่มะคงคิดจะหาทาสเพิ่มซินะ!  

    ประทานโทษฉันไม่ใช่เหยื่อ!!..

    พอรถของพี่ฟรังขับพ้นออกไปจากหน้าบ้านฉันก็โยนสายสิน

    ที่กำเอาไว้ลงบนกองไฟที่พ่อสุมเศษใบไม้แห้งทันที

    "พ่อๆ..พ่อรู้จักหมอผีเก่งๆมะ?" คำถามที่คาดหวังคำตอบ

    ของฉัน มันทำให้คิ้วหนาเข้มของพ่อฉันขมวดเข้าหากัน

    "ก็พอรู้..เอ็งถามทำไมวะ"..

    สองมือฉันรีบเกาะเขย่าแขนพ่อของฉัน

    "ไปเลยพ่อรีบไปตามมาช่วยไอ้แบงทีมันถูกผีเด็ก

    ที่วัดร้างตามไปเล่นงานทุบตีมันทุกคืน!!"

    พ่อส่ายหน้าไปมาอย่างไม่เชื่อ ..

    "เอ็งพูดอะไรของเอ็งผีเผลออะไรไม่มีหรอก!"

    แมัเสียงพ่อของฉันจะเข้มแต่ใบหน้าที่ซีดแบบนั้น

    "พ่อโกหก!!พี่เด็กที่ถูกฆ่าตายมีจริงใช่ไหม!!  

    พ่อมันกำลังจะฆ่าเพื่อนฉันนะ!พ่อต้องช่วย

    ไอเแบงนะพ่อ!ไปเถอะไปตามหมอผีกัน!!"

    ฉันฉุดกระชากลากแขนผู้เป็นพ่อแต่พ่อกับรั้ง

    ฝืนตัวเอาไว้..

    "ไปตอนนี้ไม่ทันแล้วหมอที่พูดถึงเขาอยู่เพชรบุรี

    เอาไว้พรุ่งนี้พ่อจะขับรถไปรับมาให้"

    ฉันถอนหายใจออกมาอย่างคนคิดหนัก

    ไอ้แบงเอ็งอดทนอีกแค่คืนเดียวนะ..

    คงทำได้เพียงสวดมนต์ภาวนาให้เพื่อนรักปลอดภัย

    สาธุ..คุณพระคุณเจ้าช่วยไอ้แบงค์ด้วยเถิด  



    #รร.สวนมะลิ# วันลอยกระทง

    ~เหนิง~  

    วันเพ็ญเดือนสิบสอง น้ำก็นองเต็มตลิ่ง..  

    เสียงเพลงลอยกระทงที่มากับเสียงตามสาย

    ของโรงเรียนที่จัดกิจกรรมการละเล่นพื้นบ้าน

    กลุ่มของพวกฉันที่ขาดสมาชิกจอมกวนอย่างไอ้แบงค์

    ทำให้บรรยากาศไม่คึกครื้นเหมือนทุกที..  

    "แม่งขาดไอ้แบงค์ไปคนโครตกร่อยเลยว่ะ!!"

    ฉันพยักหน้าเห็นด้วยกับโบ ไม่รู้ป่านนี้พ่อฉัน

    ไปรับหมอผีถึงไหนแล้วก็ไม่รู้เป็นห่วงไอ้แบงค์จริงๆ

    "เอาล่ะทุกคนรวมกลุ่มทำกิจกรรมของตัวเองได้เลย

    จับจองพื้นที่ตามลานโล่งของสนามฟุตบอลหรือตามร่มไม้

    ก็ได้นะ.." สิ้นเสียงของคุณครูฉันกับเพื่อนๆรวมห้าคนก็เดิน

    หน้าหงอยๆลงสนามไป..

    พวกฉันนั่งล้อมวงโอน้อยออกเพื่อหาคนเป็นตัวมอญ

    ซ่อนผ้าจู่ๆมือที่หกของใครบางคนก็หงายฝ่ามือขึ้น

    ทั้งหมดเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของมือปริศนา

    "ไอ้แบงค์!!!" ..ใบหน้าซีดเซียวของมัน

    กระตุกยิ้มที่มุมปาก จนดูน่ากลัว..

    "มึงหายแล้วหรือไง?" ฉันถามอย่างห่วงเพื่อน

    "มอญซ่อนผ้าตุ๊กตาอยู่ข้างหลังไว้โน้นไว้นี้

    ฉันจะตีก้นเธอ มาเล่นกัน~~ฮี่..ฮี่..ฮี่"

    ทุกคนอ้าปากค้างกับสิ่งที่ไอัแบงค์ทำนิสัยของมัน

    ชอบแกล้งเพื่อนอยู่แล้วไม่มีใครคิดอะไร

    ต่างพากันหัวเราะชอบใจกับมุกขำขันของมัน

    แต่ฉันไม่!!ฉันรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาอย่างประหลาด

    ราวกับว่าคนตรงหน้าไม่ใช่ไอัแบงค์เพื่อนของฉัน

    มอญซ่อนผ้าตุ๊กตาอยู่ขัางหลังไว้โน้น

    ไว้นี่ฉันจะตีก้นเธอ..

    บทเพลงมอญซ่อนผ้าที่ถูกร้องออกมาให้

    ไอ้แบงค์เดินวนรอบๆข้างหลังสำหรับฉันแล้ว

    บรรยากาศไม่ได้น่าชวนให้เล่นแต่มันกลับชวนขนลุก

    ซะมากกว่ากับท่าทางของคนที่เดินเยื้องย่างเท้า

    ไม่เหมือนเล่นแต่มันเหมือนกับฆาตกรที่จ้องตะครุบเหยื่อ

    ใบหน้าที่ก้มมองพื้นสันกรามที่ถูกขบกัดจนขึ้นกระดูกสัน

    ปูดโปนของไอ้แบงค์ทำฉันเสียวสันหลังวาบ..ตุ่บ!!  

    เสียงของหนักๆหล่นกระทบพื้นหญ้าดังตุ่บ

    ทำให้ฉันเหลียวหลังไปมองไม่ใช่ที่หลังของฉัน.

    "โบ!!!" ด้วยความตกใจฉันตะโกนเรียกสุดเสียง  

    ไอ้แบงค์แสยะยิัมก้มลงหยิบของที่มันโยนใส่หลังโบ

    "เชี้ย!!". ท่อนไม้ที่อยู่ในมือของไอัแบงค์ฟาดใส่หัวโบ

    เต็มแรง..จนเลือดไหลอาบ

    "โอ๊ย!!" พวกฉันช่วยกันยึดไอ้แบงค์ที่สบัดเหวี่ยง

    จนคนที่ห่อมล้อมมันกระดอนกระเด็นไปคนละทิศละทาง

    "ช่วยด้วยค่ะใครก็ได้ช่วยด้วย!!"





    ~ฟรัง~


    เสียงร้องขอความช่วยเหลือตะเบ็งเซ็งแซ่จนคัตเตอร์

    ที่อยู่ในมือฉันหลุดออกจากมือ..

    ฉันชะโงกหน้ามองจากหน้าต่างลงไปที่สนามหญ้า

    ก็เห็นกลุ่มนักเรียนชายหญิงทั้งรุ่นพี่รุ่นน้อง

    วิ่งหนีกันอลมาน..

    เมื่อมีนักเรียนชายรุ่นน้องคนหนึ่งใช้ไม้วิ่งไล่ตี

    คนอื่นอย่างบ้าคลั่ง..วิญญาณอาฆาต!!

    "ฟรัง!นั่นมันแบงค์!!เกิดอะไรขึ้นอ่ะฟรัง!!"

    มือของแพรวาเขย่าแขนฉันต้องการคำตอบ

    "ผีสิง!เธอรอนี่นะเดี๋ยวฉันมา"แพรวาพยักหน้า

    แล้วหมุนตัวไปเกาะดูเหตุการณ์ต่อที่หน้าต่าง 


     
    นะโมพุทธายะ มะพะ ทะนะ ภะ กะ สะ จะ
    สัพเพทวาปีสาเจวะ อาฬะวะกาทะโยปิยะ
    ขัคคัง ตาละปัตตัง ทิสวา สัพเพยักขา
    ปะลายันติ สักกัสสะ วะชิราวุธัง
    เวสสุวัณณัสสะ คะธาวุธัง
    อะฬะวะกัสสะ ทุสาวุธัง
    ยะมะนัสสะ นะยะนาวุธัง



    คาถาไล่ผีถูกท่องทุกย้ำเท้าที่ก้าวเดินสวน

    รุ่นพี่รุ่นน้องที่วิ่งหนีกันเข้ามาทางอาคารเรียน

    พี่ฝน,พี่เบลล์ ที่จับมือกันวิ่งมาทางฉันชะงักเท้านิด

    ฉันยังคงพึมพำคาถาต่อไปไม่ให้ขาดห้วง

    "ฟรังกลับเข้าไปข้างนอกกำลังมีเรื่อง"

    เสียงของพี่เบลล์ไม่ได้หยุดฝีเท้าฉันได้

    ฉันเดินผ่านรุ่นพี่ทั้งสองออกไปจากอาคารเรียน

    คุณครูถูกตีจนหัวล้างข้างแตกเลือดไหลอาบ

    กันเป็นแถว หลายคนยื้อยุดฉุดแขนฉัน

    แต่ฉันยังคงก้าวฉับๆจนมาถึงสนามหญ้า

    "แบงค์หยุดนะ!!!ฮือ~~" ตุ่บๆ! ..

    พี่เก้าร้องร่ำไห้..ร่างพี่ตาลที่กอดพี่เก้าอาไว้แน่น

    ถูกแบงค์ฟาดด้วยท่อนไม้ไม่ยั้ง..

    "ไอ้แบงค์..ฮือ~~หยุดซิวะ!!ใครก็ได้ช่วยด้วย!!"

    รุ่นน้องที่ฉันไปส่งที่บ้านร่ำไห้กอดขาแบงค์เอาไว้

    "หยุดได้แล้ว!"..

    เสียงของฉันทำให้วิญญาณอาฆาต

    ชะงักมือเงยหน้ามองมาที่ฉันด้วยแววตา
    เขม็งเกรียว

    "พี่สาว!!ขันทองมาแล้ว!!"

    กุมาลีน้อยส่งเสียงเจื้อยแจ้ววิ่งหน้าลอย
    มาแต่ไกล..

    ส่วนรุ่นน้องที่กอดขาแบงค์เงยหน้า

    ขึ้นมองตาฉันตาค้าง..

    "ออกไปจากร่างนี้ซะเถอะฉันจะช่วยส่ง
    วิญญาณให้"..

    พี่เก้า,พี่ตาล,ร่วมทั้งรุ่นน้องคนนั้นอ้าปากค้าง

    ก่อนจะขยับตัวพยุงกันถอยห่างจากแบงค์

    "กูไม่ไป!!!" เสียงแหบห้าวตะคอกใส่หน้าฉัน

    "นี่เจ๊มาเล่นกับหนูดีกว่ามะ!!ฮี่..ฮี่..ฮี่!"

    แบงค์ถลึงตาใส่ขันทองที่หัวเราะกวนประสาทผี  

    "ถ้าไม่ยอมออกดีๆฉันก็จะไม่เกรงใจละนะ"

    ไม่ทันได้ตั้งตัวแบงค์พุ่งเข้าจับตัวฉันยกขึ้น

    แล้วทุ่มลงกับพื้น..ตุ่บ!!  

    "ฟรัง!!!!,พี่สาว!!" เสียงเรียกที่ดังมาจากรอบทิศ

    "ฮี่..ฮี่..ฮี่..มาเล่นกัน!!" เสียงหัวเราะที่สะใจ

    ของแบงค์ที่เยื้องย่างเท้าเขามาหมายซ้ำ

    "หนอย!!..นี่!!"

    ขันทองลอยตัวถีบเข้าที่ยอดอกของแบงค์

    ร่างแบงค์ลอยละลิ่วตกกระทบพื้นดังตุ่บ

    ความมึนงงเกิดขึ้นกับสายตานับร้อยคู่

    ที่เฝ้าดูเหตุการณ์..ไม่มีใครเห็นขันทองน้อย

    ก่อนที่เหตุการณ์จะยืดเยื้อ..

    ฉันยันตัวลุกนั่งพนมมือบริกรรมคาถาไล่ผี

    ออกจากร่างของแบงค์ซะก่อน..




    นะโมพุทธายะ มะพะ ทะนะ ภะ กะ สะ จะ
    สัพเพทวาปีสาเจวะ อาฬะวะกาทะโยปิยะ
    ขัคคัง ตาละปัตตัง ทิสวา สัพเพยักขา
    ปะลายันติ สักกัสสะ วะชิราวุธัง
    เวสสุวัณณัสสะ คะธาวุธัง
    อะฬะวะกัสสะ ทุสาวุธัง
    ยะมะนัสสะ นะยะนาวุธัง


    "โอมเพี้ยง.."จิตตั้งมั่นกำหนดคาถาปัดเป่า

    วิญญาณร้ายให้ร้อนรนดั่งเพลิงโลกันต์เผา

    "โอ๊ยยย!!ร้อน~~" ร่างที่ดิ้นทุรนทุรายบนพื้นหญ้า

    ดิ้นส่งเสียงโอดครวญด้วยความทุกข์ทรมาน

    ก่อนแน่นิ่งสิ้นฤทธิ์ลงในที่สุด..

    "ไอ้แบงค์!!" เด็กผู้หญิงคู่หูของแบงค์

     ถลาวิ่งเข้ามากอดประคองแบงค์ขึ้นมา

    "บอกแล้วไงว่าให้ใส่สายสิน"

    ดวงตาที่เหลือกมองฉันมีอาการสั่นไหวน้ำตาคลอ

    "ฉันขอโทษ" ฉันไม่ได้โกรธเคืองอะไรเพียงแค่

    เป็นห่วงเด็กเคราะห์หนักคนนี้ต่างหากแววตา

    ที่ริบหรี่แบบนั้นต้องเกี่ยวพันธ์กับวิญญาณ

    ที่เข้าสิงแบงค์อย่างแน่นอน..

    "เพื่อนเธอแค่โดนหางเลขจากกรรมของเธอ

    วิญญาณอาฆาตนั้นจะกลับมาเอาชีวิตเธอในไม่ช้า!"

    ฉันรู้ว่ามันทำให้รุ่นน้องแทบช็อคเพราะคำพูดของฉัน

    แต่มันคือความจริงที่เด็กนั่นต้องรู้  

    "มีงานเข้าอีกแล้วซินะขันทอง"..  




    ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

    จบตอนคร๊าบ รอตอนต่อใน'อดีตหลอน'

    ผลแห่งการกระทำที่ลูกต้องรับกรรมแทน


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×