ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฟรัง colic คนเห็นผี

    ลำดับตอนที่ #21 : บางแสน 100%

    • อัปเดตล่าสุด 22 ต.ค. 58





    ขันทองน้อยวิ่งกางสองแขนลอยหน้าร่อนไปทั่วบ้านอย่างดีใจ

    เมื่อฟรังบอกว่าจะพาไปเที่ยวทะเล..


    "ทะเล..ทะเล๊..ทะเล!!!"


    ขันทองน้อยยื่นหน้าพูดกอกหูยูนา

    ที่นั่งพับเพียบพับกลีบดอกบัวบูชาพระ

    ยูนาอมยิ้มแก้มแดงให้กับขันทอง..


    "ไม่อยากจะเชื่อว่ายัยนี่คือมิโกะน่าจะเป็นลูกซาตานมากกว่าธิดาสวรรค์!"


    แพรวาหัวเราะทุบแขนฟรังที่ช่างติขันทองน้อย


    "ฟรังนี่ละก็ช่างว่าลูกแพรขันทองน่ารักจะตาย"


    ขันทองรีบวิ่งมากอดคอแพรวาที่คอยยกยอเด็กแสบ

    "แม่แพรน่ารักที่สุดในโลกเลย"

    พูดไปหอมแก้มกันไปฟรังเบ้ปากด้วยความหมั่นไส้สองแม่ลูกตรงหน้า

    หันไปอุ้มยูนาแล้วพากันเอาดอกบัวไปไหว้พระ

    ขันทองแลบลิ้นปลิ้นตาตามหลังฟรัง


    "อ้าวยังไม่ไปกันอีกเหรอเนี่ย?"


    ปลัดเจี๊ยบในชุดเครื่องแบบข้าราชการเดินออกมาจากห้อง

    นั่งลงพูดคุยกับสองแม่ลูกที่กำลังหยอกล้อกัน..


    "ยังค่ะ..รอทานข้าวพร้อมพี่เจี๊ยบกับพี่ก้อยก่อนค่ะ

    วันนี้มีน้ำพริกกระปิของโปรดทุกคนด้วยนร้า"

    แพรวาเปิดฝาชีที่ครอบกับข้าวบนโต๊ะขึ้น

    เผยให้เห็นกับข้าวตามวิถีชีวิตแบบไทยชนบท

    น้ำพริกกระปิที่มีมะเขือพวงบุบลอยหน้า

    มะเขือเปาะแตงสดแกะสลักเป็นดอกไม้

    ยอดมะกอกเคียงด้วยลูกมะม่วงอ่อนผลน้อยที่ผ่าครึ่ง

    แกล้มน้ำพริกรสหวานของโปรดของฟรัง..

    ที่ต้องเคียงด้วยปลาทูทอดที่แพรวาบรรจงแกะก้างออก

    อีกทั้งต้มจืดตำลึงหมูสับโชยกลิ่นหอม..

    ขันทองยื่นจมูกสูดดมน้ำลายสอ..แพรวาวางจานช้อนเรียงสำหรับหกที่

    รอเวลาให้ทุกคนมาล้อมวง..


    ****************


    ดัสสันกระบะคลาสสิคสีแดงวิ่งมุ่งหน้าออกจากอำเภอด่านช้าง

    จุดหมายปลายทางอยู่ที่บางแสน ชลบุรี..

    ตลอดระยะทางที่ขับรถบนเส้นทางสายเพชรเกษม

    ขันทองเด็กจอมซนที่ยืนอยู่ตรงกลางระหว่างฟรังกับแพรวา

    ไม่ได้สงบสุขแหย่คนโน้นทีแกล้งคนนี้ทีจนฟรังต้องใช้แขนข้างหนึ่ง

    ล็อคคอเด็กจอมป่วนเอาไปนั่งลงบนตัก..

    ขันทองยังไม่วายแย่งฟรังหมุนพวงมาลัยบังคับรถเอง


    "เดี๋ยวถ้าพาลงข้างทางนะจะโดนไม่ใช่น้อย!"


    ฟรังปล่อยให้ขันทองบังคับพวงมาลัยหัดให้เด็กน้อยมีสมาธิอยู่นิ่งๆไม่ซุกซน


    "ขันทองซะอย่างเชื่อหนมกินได้เลยพี่สาว"


    ฟรังส่ายหน้าอย่างปลงๆส่วนแพรวากอดยูนาที่นั่งตักเธอเอาไว้แน่น

    ก็ขันทองตัวแสบปาดซ้ายทีขวาทีแซงทุกคันที่ขวางหน้า

    สองไหล่ถนนมีเสียงร้องโหยหวนตลอดเส้นทางที่ฟรังสัมผัสได้ถึงดวงวิญญาณ

    ที่ทุกข์ทรมานจากอุบัติเหตุทางรถยนต์..

    บางตนหิ้วแขนขาที่ฉีกขาดบ้างนั่งกวาดไส้ตัวเอง

    ยัดใส่คืนช่องท้องที่น่าสยดสยอง..

    ขันทองน้อยขับรถฉวัดเฉวียนเพราะหลบหลีก

    ไม่อยากเหยียบดวงวิญญาณตายโหงพวกนั้นซ้ำไปอีก

    จะมีก็แต่แพรวาที่มองไม่เห็นภาพสุดสะพรึงพวกนั้น

    ยูนานั่งหลับตาตลอดทางเพราะภาพมันน่ากลัวเกินไปสำหรับเธอ

    ในขณะที่กำลังจะขับผ่านหน้า ม.บูรพา ก็ปรากฏกลุ่มคนใส่ชุดดำ

    มีทั้งชายหญิงร่ายรำอยู่ไหล่ทางด้านหน้ามอ..

    สิ่งทีแปลกก็คือทั้งหมดไม่มีขา!..


    "พี่สาวพวกนั้นต้องการอะไรจากเราหรือเปล่า?"


    สิ่งที่ฟรังสัมผัสได้จากกลุ่มวิญญาณนั้นพวกเขาต้องการบอกเล่าอะไรซักอย่าง


    "คงมีอะไรอยากบอกพวกเราไว้ขากลับลองแวะก็ได้นะ"


    แพรวามองหน้าสองพี่น้องสนทนากันเป็นนัยๆคงไม่พ้น

    เรื่องภูตผีวิญญาณอีกเป็นแน่


    *******************


    หาดทรายสีขาวสะอาดตาน้ำทะเลสีเขียวมรกรต

    ทิวสนลู่ไปตามแรงลมมนต์เสน่ห์ของบางแสน


    "เย้!ทะเลจ๋าพี่ขันทองมาแล้ว!"


    ขันทองน้อยวิ่งอย่างเร็วพุ่งตัวเข้าใส่เกรียวคลื่น

    ยูนาได้แต่ยืนมองขันทองน้อยหกคะเมนตีลังกาอยู่ในน้ำ


    "ยูนาไม่ไปเล่นกับขันทองล่ะคะ"


    ยูนาส่ายหน้าน้อยให้กับแพรวา..


    "ทะเลน่ากลัวจัง"


    เป็นคำตอบที่ทำให้แพรวาต้องหันไปมองหน้ากับฟรังเมื่อเห็นยูนาไม่สนุก

    กับทะเลเหมือนขันทองจอมพลังที่เล่นต่อสู้กับคลื่นในทะเลอย่างเอาเป็นเอาตาย!


    "ทำไมถึงบอกว่าทะเลน่ากลัวล่ะคะยูนา"


    ฟรังย่อตัวลงพูดคุยกับเด็กน้อยที่ยืนสงบนิ่ง


    "เสียงร้องไห้ของพรายทะเลบอกหนูว่ามนุษย์ใจร้ายทำให้ทะเลโกรธ"


    ยูนาคือมิโกะที่ดูแลน้ำเธอสื่อสารกับสิ่งที่อาศัยอยู่ในทะเลได้ดี

    ไม่ว่าจะเป็นกุ้งหอยปูปลาเธอก็สามารถพูดคุยรู้เรื่อง

    ฟรังเข้าใจในสิ่งที่ยูนาพูด..


    "งั้นเรามาเล่นก่อกองทรายกันดีไหม"


    แพรวาพยายามทำให้ยูนาสนุกแต่เด็กน้อยกับเดินไปเก็บขวดเบียร์

    ที่ถูกขว้างทิ้งออกมาอย่างมักง่ายจากกลุ่มวัยรุ่นชายหญิงที่จับกลุ่มดื่มสุรา

    ยูนาถือขวดเบียร์เดินตรงไปที่กลุ่มนั้นที่แหกปากเอะอะมะเถิงอย่างคึกคะนอง


    "พี่คะ..หนูเอาของมาคืน"


    พวกวัยรุ่นหุบปากทำหน้าแปลกใจแต่ก็มีผู้ชายคนนึงนึกสนุกปาก

    เอ่ยแซวยูนาด้วยความคึกคะนอง


    "เอาหัวใจมาคืนพี่หรือไงจ๊ะสาวน้อย55+"


    เสียงหัวเราะเขย่าส้นเท้าต้องสะดุดเมื่อ..


    "จ้า!!นี่ไงจ๊ะหัวใจของพี่!เอาคืนไปเลย!!"  


    ทุกคนแหงนหน้ามองสิ่งที่ห้อยหัวลงมาจากต้นสน

    แล้วต้องวิ่งกันวงแตกไปคนละทิศละทางแหกปากร้องตะโกนว่า


    "ช่วยด้วย!!ผะผีหลอก!!"


    ขันทองน้อยตัวแสบห้อยหัวฉีกอกควักหัวใจออกมาโยนใส่กลางวง

    เล่นเอาพวกขาโจ๋ใส่เกียร์วิ่งแบบไม่คิดชีวิต..

    ขันทองโดดลงมาจากสนสูงเดินไปจับมือยูนา


    "ไปเดินเล่นกันเถอะ"


    ขันทองจูงมือยูนาวิ่งไปตามหาดทรายเด็กน้อยสองคนวิ่งเล่นอย่างสนุกสนาน

    เป็นภาพน่ารักๆของสายสัมพันธ์ที่พวกเธอผูกพันกันมาเนิ่นนาน

    ฟรังจับมือแพรวาเดินเลาะชายหาดตามหลังขันทองกับยูนาอยู่ห่างๆ


    "ดีจังเลยเนอะที่ได้อยู่ด้วยกันแบบนี้"


    สาวแก้มป่องยิ้มอย่างมีความสุขเดินเกี่ยวก้อยกับคนที่เธอรัก


    "ขอบคุณนะแพรที่เธอรับในสิ่งที่พวกเราเป็นได้"


    แพรวาหยุดชะงักเท้าจ้องหน้าฟรังใช้ฝ่ามือบางสองข้างจับใบหน้าใสๆเอาไว้


    "แพรต่างหากที่ต้องขอบคุณฟรังที่ทำให้แพรได้รู้จักกับรักแท้

    ที่ยืนอยู่ต่อหน้าแพรในตอนนี้"


    ทั้งคู่สบตากันเป็นอีกครั้งที่แพรวาได้สัมผัสสายตาหวานซึ้งจากคนหน้านิ่ง

    ฟรังที่ไม่ค่อยแสดงความรู้สึกใดๆออกมาตอนนี้สายตาเธอกำลังทำให้หัวใจ

    ของแพรวาพองโต..


    "Help ! Me!" 
     

    เสียงร้องขอความช่วยเหลือของชาวต่างชาติที่ดังมาจากด้านหลังของพวกเธอ

    ทำให้ทั้งคู่รีบวิ่งไปที่ต้นเสียงนั้น..

    ภาพที่ปรากฎต่อหน้าหญิงสาวชาวต่างชาติพยายามช่วยเพื่อนสาวของเธอ

    ที่นอนชักดิ้นอยู่บนพื้นหาดตาตั้งลิ้นจุกปาก..


    " Plesae Help me with"


    แต่มันไม่ได้มีเพียงเท่านั้น!อาการชักเกร็งของหญิงสาวไม่ได้เกิดขึ้นเอง

    มีวิญญาณผีพรายตัวเป็นเมือกเขียวเขี้ยวยาวโง้งค่อมร่างบีบคอพยายาม

    จะเอาชีวิตเธอให้เป็นตัวตายตัวแทน  ณ.ที่แห่งนี้..

    ฟรังพนมมือขึ้นบริกรรมคาถาแผ่พลังพุทธคุณขับไล่ผีพราย

    จนวิญญาณผีร้ายหนีกระโจนลงสู่ท้องทะเล..

    อาการของสาวต่างชาติสงบลงจนฟื้นคืนสติเพื่อนของเธอมีสีหน้างุ่นงง

    กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก..


    "ที่นี่ทำไมมีแต่เรื่องไม่ดีเกิดขึ้นได้ ปกติผีพรายจะมีฤทธิ์แค่ในพื้นทะเลนี่นา

    ทำไมถึงได้ขึ้นมาอาระวาดบนหาดได้พระภูมิเจ้าที่ที่ดูแลหายไปไหนนะ!"


    ฟรังหันไปมองศาลพระภูมิเจ้าที่ที่ตั้งอยู่ริมหาดมีพวงมาลัยคล้องเต็มศาล

    จิตที่ถูกส่งไปสัมผัสทำให้ฟรังต้องขมวดคิ้วเข้าหากัน..



    "มันเกิดเรื่องบ้าแบบนี้ได้ยังไง!"


    แพรวาจ้องหน้าฟรังเธอเองก็สงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่


    "มีอะไรเกิดขึ้น?"


    ฟรังขยับปากเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้แพรวาฟัง


    "ที่นี่ต้องเซ่นสังเวยชีวิตของมนุษย์ทุกปี!พระภูมิที่นี่

    ผู้ตั้งศาลเป็นพระป่าที่บวชตัวเองกับต้นไม้ศึกษา

    อาคมนอกรีดไม่ได้อยู่ในศีลในธรรมใช้วิชาอาคม

    สร้างศรัทธาเอาความเลื่อมใสมาหากิน!เสพสิ่งเมถุน

    ขายวิญญาณให้กับผีห่าซาตาน!อัญเชิญเอาวิญญาณ

    ผีร้ายมาสิงสู่ภายในศาล!กินเครื่องสังเวยเป็นชีวิตของมนุษย์!"


    นี่คือเหตุผลที่ผีพรายขึ้นมาอาระวาดมันเกิดขึ้นจากน้ำมือมนุษย์กิเลสหนา

    ใช้ผ้าเหลืองเป็นเครื่องมือหากิน!ศาสนาเสื่อมลงเพราะค่าวัสถุที่อยู่เหนือจิตใจ



    "แล้วเราจะทำยังไงละฟรังชีวิตของคนที่มาเที่ยวที่นี่กำลังตกอยู่ในอันตรายนะ"


    ฟรังกวาดสายตาไปทั่วริมหาดที่มีร้านค้าอยู่ประปราย


    "อืม..พอมีวิธีฉันจะให้ขันทองจัดการไล่วิญญาณที่อยู่ในศาลออกไป

    แล้วฉันจะอัญเชิญรุกขเทวามาปกปรักรักษาพื้นที่นี้แทน"



    ขันทองน้อยแบกขวานเล่มโตเอาไว้บนบ่าเดินบุกเข้าไปในโถงใหญ่ภายในศาล

    ที่มีวิญญาณโหงพรายเมือกเหนียวเหนอะนั่งฉีกกินไก่สดอยู่กลางโถง


    "อี๊!!สกปรกจริงๆ!"


    โหงพรายหันควับมองผู้บุกรุกต้วน้อยด้วยแววตาถมึงทึง

    มันแยกเขี้ยวกลางกงเล็บกระโจนใส่ขันทองในทันที

    นักปราบปีศาจตัวน้อยสปริงเท้าโดดลอยจามขวานตัดแขน

    โหงพรายขาดกระเด็นของเหลวสีเขียวพุ่งกระฉูดเสียงร้องโหยหวน

    ที่ไม่เป็นภาษาบ่งบอกถึงความเจ็บปวดมันกระโจนออกจากศาลหนีลงสู่ท้องทะเล

    ขันทองโดดออกมาจากศาลเจ้าที่ฉีกยิ้มทำมือโอเคให้ฟรังกับแพรวาที่เตรียมของเซ่นไหว้

    อัญเชิญรุกขเทวาด้วยผลไม้ห้าอย่างเมื่อทุกอย่างพร้อมพิธีกรรมอัญเชิญจึงเริ่มขึ้น



    ***********************


    จากแผนที่จะไปเช้าเย็นกลับต้องเปลี่ยนเป็นค้างแรม

    เพราะขันทองตัวแสบไม่ยอมขึ้นจากน้ำงอแงที่จะอยู่ต่อ

    ฟรังจึงยอมจำนนให้กับความดื้อรั้นของขันทอง


    "ยิ่งโตก็ยิ่งดื้อใหญ่แล้วนะเราน่ะ!"


    ฟรังดุขันทองพร้อมกับใช้นิ้วจิ้มไปที่หน้าผากของเด็กน้อยที่แยกเขี้ยวยิ้มทะเล้น


    "ว่าแต่ช่วงไฮซีซั่นแบบนี้จะมีห้องว่างเหรอฟรัง"

    แน่นอนว่าช่วงวันหยุดยาวๆห้องพักตามโรงแรมหรือบังกระโล

    มักจะถูกจองจนเต็มหมดแทบทุกที่..


    "ลองเดินหาดูก่อนแล้วกัน" 


    ในขณะที่ทั้งสี่ออกตะเวนเดินสอบถามหาที่พักแถวๆริมหาด

    วินมอร์เตอร์ไซค์คนนึงได้ขับรถมาจอดหยุดตรงพวกเธอ


    "น้องๆ!หาห้องพักอยู่ใช่ป่ะ?"


    ฟรังพยักหน้าให้กับพี่วินที่อุตส่าห์ถามไถ่อย่าคิดว่าเขาใจดี

    มันก็แค่หาลูกค้าแลกกับผลประโยชน์จากเจ้าของที่พักเท่านั้นเอง


    "มีบังกระโลว่างอยู่หลังนึงสนใจป่ะแขกเพิ่งเช็คเอาท์ออกไปหลังละ500เอง"


    บังกระโลราคาแสนถูกจนผิดวิสัยทำให้ฟรังรู้ได้ทันที

    ที่ถูกขนาดนั้นเจ้าที่แรงชัวว์ แต่สำหรับกลุ่มนี้แล้วผีไม่ใช่ตัวปัญหา

    สำหรับพวกเธอ ฟรังจึงพยักหน้าโอเคกับพี่วิน..



    บังกะโลไม้ยกพื้นสีฟ้าตั้งอยู่ติดชายหาดเห็นวิวทะเลสวย

    แต่ความมืดหม่นที่ปกคลุมที่พักหลังนี้คือสิ่งที่ฟรังรู้สึกได้ถึง

    พลังงานบางอย่างที่แฝงอยู่ภายในนั้น..

    เพียงย่างก้าวแรกที่เหยียบพื้นบันไดไม้เสียงร่ำไห้

    ของวิญญาณหญิงสาวก็โหยหวนคร่ำครวญ

    อย่างทุกข์ทรมาน ก้าวที่สองเสียงร้องไห้แปรเปลี่ยน

    เป็นเสียงกรีดร้องขอความช่วยเหลือ..

    ก้าวต่อไปภาพที่ปรากฏเริ่มบอกเล่าเรื่องราว

    หญิงสาวผิวคล้ำผมยาวใบหน้าบ่งบอกถึงความเป็นเอกลักษณ์

    ของสาวอีสานด้วยสันกรามรูปสี่เหลี่ยมจมูกแฟบแบนไร้ดั้ง

    ใส่เสื้อสายเดี่ยวโนบาถูกฝรั่งร่างยักษ์ที่เมาสุราหิ้วมาใช้บริการทางเพศ

    ค่อนข้างวิปลิสทางอารมณ์จนหญิงขายบริการเจ็บปวดทนไม่ไหว


    "stop!stop!"


    แต่เสียงร้องของเธอกับทำให้เขายิ่งทวีความรุนแรงกระแทกกระทั้น

    เธอเริ่มทุบตีฝรั่งร่างยักษ์เพื่อต่อต้าน!

    แต่นั่นเหมือนยิ่งกระตุ้นความวิตถารของเขาให้เพิ่มมากขึ้น

    เขายกสองขาของหญิงสาวขึ้นแล้วใช้สองแขนใหญ่ฉีกมันออก

    สุดแขนกดบั้นท้ายกระแทกรัวแรง!เธอกรีดร้องอย่างทรมาน

    ยิ่งเธอฝังคมเล็บกดจิกเขาจนเลือดไหลซิบเขายิ่งบ้าคลั่ง

    ใช้สองมือบีบคอเธอที่ดิ้นทุรนทุรายตาเหลือกราน

    กระหน่ำกระแทกจนขาเตียงกระเพื่อมเคลื่อนไปมา

    เมื่อเขาถึงจุดความใคร่ เขาขาดสติในห้วงที่อารมณ์หลุดลอยไปไกล

    เขาเงยหน้าห่อปากออกแรงบีบคอเธอสุดกำลังร่างบางกระตุกเกร็งแน่นิ่ง

    พร้อมกับเขาที่ปลดปล่อยของเหลวใส่ช่องคลอดของเธอเธอสิ้นลมหายใจ

    แลกกับความสุขสมของเขา..

    เขาโยนเศษเงินไว้สามร้อยบาทใส่ร่างเปลือยเปล่าแล้วเดินซวนเซออกจากห้องไป

    ศพไร้ญาติถูกพนักงานที่พบเคลื่อนย้ายออกไปโยนทิ้งไว้ริมหาด

    เพื่อไม่ให้เป็นข่าวอื้อฉาวกับธุรกิจหากินของสถานที่

    การตายของเธอถูกละเลยไม่มีการติดตามคดีฆาตกรลอยนวล

    บินกลับประเทศของตัวเองไป..แค่โสเภณีอย่างนั้นหรือ?

    เธอจึงไม่มีสิทธิ์ใช้อำนาจกฏหมาย!

    วิญญาณของเธอวนเวียนอยู่ในบังกะโลหลังนั้นใครที่หลงเข้ามาเช่า

    แค่หลังเอนสัมผัสเตียงเธอจะโดดขึ้นนั่งทับเพื่อบอกให้คนๆนั้นรู้

    ว่าที่นี่มีชั้นอยู่!ช่วยฉันด้วย!..


    "ช่วยด้วย~~"


    ปลดปล่อยฉันที!นั้นคือสิ่งที่เธอพยายามบอกกับทุกคน

    แต่พวกเขาต่างพากันเผ่นหนีไม่มีใครกล้าอยู่เลยซักคน

    แต่สำหรับเธอคนนี้เด็กสาวที่ชื่อฟรังรับรู้แล้ว

    และจะช่วยปลดปล่อยเธอเอง..



    **************************

    จบตอนคร๊าบไว้ตามต่อในเรื่องเล่าสยอง

    ของม.บูรพา..ขอบอกว่าทั้งหมดไรท์มโนเอง55+




     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×