ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฟรัง colic คนเห็นผี

    ลำดับตอนที่ #18 : กุญแจชีวิต100%

    • อัปเดตล่าสุด 14 ต.ค. 58





    เจี๊ยบ..


    สิ่งที่ฉันเห็น!มันคือเรื่องจริงหรือฝันร้ายกัน!  

    การกระทำดังปีศาจร้าย!!น้ำมือของบรรพชนของฉัน!!

     แสนโหดเหี้ยม!และเลือดเย็น!!..

    ฮึก!..ฉันพยายามดันเสียงสะอื้นให้ติดอยู่ให้ติดอยู่ที่ลำคอ

    "ไม่ไหวแล้ว!!"..ฉันปล่อยมือเพราะทนดูต่อไปไม่ไหว

    เหมือนโลกทั้งใบหมุนวนตีลังกากลับไปกลับมา

    ฉันลอยคว้างอยู่ในวังวนแห่งโลกที่มืดมิด..

    เสียงกรีดร้องครวญครางเหล่านี้..

    นี่ฉันกำลังติดอยู่ในโลกวิญญาณหรือภาพลวงตากันแน่

    "พี่เจี๊ยบจับมือหนูเอาไว้"..มีมือยื่นออกมาจากความมืด

    ให้ฉันไขว่คว้ายึดเหนี่ยวมันเอาไว้..

    ประกายแสงสว่างเรืองๆทำฉันต้องค่อยๆหรี่ตาขึ้น

    "พี่เจี๊ยบไม่เป็นไรนะคะ" เป็นคำถามห่วงใย

    ที่ทำให้น้ำตาฉันหลั่งไหล อย่างละอายใจ

    ในการกระทำของปู่ฉันได้สร้างเรื่องโหดร้ายเอาไว้

    มันไม่น่าได้รับการให้อภัยแม้แต่น้อย

    มืออุ่นๆของฟรังเช็ดน้ำตาให้ฉันอย่างเบามือ

    ความอ่อนแอผลักให้ฉันทิ้งตัวซบหน้ากับอกอุ่นๆนั่น

    "เรื่องทั้งหมดมันเป็นเพราะพี่สวดคาถาต้องห้ามนั่นใช่ไหม..ฮือๆ"

    เพราะฉันเข้าใจมาตลอดว่ามันคือบทสวดมนต์ปู่บอกถ้าสวดทุกวัน

    พี่สาวฝาแฝดของฉันจะได้ขึ้นสวรรค์..

    "อย่าโทษตัวเองเลยค่ะที่เป็นแบบนั้นเพราะพี่เจี๊ยบไม่รู้ คนไม่รู้ย่อมไม่ผิด"

    แต่ถึงกระนั้นฉันก็ต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น

    "แต่พี่ทำให้นายช่างภมรตายยังไงก็ตัองรับผิดชอบ"




    ฟรัง..


    แววตาที่แม้จะเต็มไปด้วยหยาดน้ำตาของพี่เจี๊ยบ

    เต็มเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะรับผิดชอบกับกรรมที่ปู่เธอก่อมันเอาไว้

    วิญญาณแมวนับร้อยชีวิตที่ถูกกักกันให้คอยเฝ้าสมบัติและวิญญาณ

    ของพี่สาวเธอจะถูกปลดปล่อยได้หรือไม่ก็คงขึ้นอยู่กับการตัดสินใจ

    ของพี่เจี๊ยบคนเดียว...

    "วิธีเดียวถ้าพี่เจี๊ยบจะรับผิดชอบคือการปลดปล่อยดวงวิญญาณที่ถูกฝังทั้งเป็น"

    พี่เจี๊ยบขมวดคิ้วจ้องหน้าฉันอย่างสงสัย..

    "แล้วพี่ต้องทำอะไรบ้าง?"..เราจ้องหน้ากันนิ่ง

    ฉันต้องบอกวิธีที่อาจทำให้พี่เจี๊ยบลำบากใจแต่มันก็เป็นวิธีเดียว

    "พี่เจี๊ยบต้องเผาคฤหาสน์นั้นทิ้งเพื่อปลดปล่อยดวงวิญญาณทั้งหมด

    ให้เป็นอิสระเพราะที่นั่นคือสุสานของดวงวิญญาณต้องทำลายสิ่งจองจำเท่านั้น"

    พี่เจี๊ยบอมยิ้มเล็กๆอย่างขมขื่นแล้วเธอก็พยักหน้าตอบตกลง..

    ฉันดูพลิกข้อมือดูเวลา ตีหนึ่งพอดี..

    "ก่อนอื่นเราต้องไปเอาร่างของพี่สาวพี่เจี๊ยบออกมาจากห้องนั้นก่อน

    พิธีส่งวิญญาณของคนกับสัตว์แตกต่างกัน พี่เจี๊ยบเปิดมันออกได้รึเปล่า"

    พี่เจี๊ยบส่ายหน้าให้กับฉัน..

    "พี่ไม่มีกุญแจเท่าที่จำความได้ปู่สั่งพ่อว่าถ้าปู่ตายให้เผา

    กล่องไม้ใบหนึ่งไปพร้อมกับปู่คาดว่าน่าจะเป็นกุญแจที่อยู่ในนั้น"

    ถ้าเป็นแบบนั้นคงต้องพังเข้าไป..แอ๊ด..

    ฉันกับพี่เจี๊ยบหันไปมองผู้ที่เปิดประตูโหม่หน้าเข้ามา

    ขันทอง!!..ยัยตัวร้ายฉีกยิ้มกว้างโชว์เส้นรวดสั้นๆ

    ให้ฉันกับพี่เจี๊ยบมองหน้ากันอย่างสงสัย..

    "หนูช่วยเปิดให้เอามะ..ฮี่ฮี่" ยัยเด็กแสบนั่นทำพี่เจี๊ยบยิ้มออกมาได้กับความทะเล้น

    ที่เด็กเพี้ยนนี่ชอบทำเรื่องพิเรนท์เป็นประจำ..

    "แก่วิชาเข้าทุกทีแล้วนะนิสัยเสียมายืนแอบฟังแบบนี้ได้ไง"

    ฉันทำเสียงดุเข้มจนขันทองหุบยิ้มหน้าจ๋อย

    ก่อนที่ยัยตัวแสบจะร้องไห้เลิกแกล้งก่อนดีกว่า 

    "ทีหลังอย่าแอบ!มานั่งฟังใกล้ๆนี่มา" ขันทองวิ่งอมยิ้มเข้ามาหา

    กระโดดขึ้นเตียงกลิ้งไปกลิ้งมาอย่างเด็กซุกซน

    "พี่เจี๊ยบไหวไหมคะถ้าคืนนี้เราจะเข้าไปนำร่างพี่สาวของพี่ออกมา"

    พี่เจี๊ยบพยักหน้า..เราสามคนจึงกลับไปยังคฤหาสน์หลังนั้นอีกครั้ง





    ขันทอง..


    ผลจากการที่หนูชอบดูการ์ตูนนินจาสาวจ้าวนักสู้

    หนูเลยได้เคล็ดวิชามาเพียบหนึ่งในนั้นคือ..

    ลวดสารพัดพิษไม่ว่าแม่กุญแจมันจะซับซ้อนเปิดยากแค่ไหน

    แค่ลวดเส้นเดียวหนูก็เปิดได้สบาย!!หึหึ..

    ลวดเส้นเล็กถูกแย่เข้าไปในรูแม่กุญแจ..

    เวลาผ่านไป..5นาที!..10นาที!..15นาที!..30นาที!

    หนูยกมือขึ้นปาดเหงื่อ..มีความรู้สึกว่ามันไม่น่าจะเปิดออกเลย!!

     "เปิดไม่ออกใช่มะ"..พี่ฟรังก้มหน้าลงมากระซิบที่หูหนูเพื่อตอกย้ำ!!

    "ปัดโธ่เว้ย!!ไอ้คัมภีร์หลอกลวง!!ไม่น่าเสียเวลาดูมันเลย!!นี่แนะ!!!".

    โครม!!!..ตึง!!!..ลืมตัวกระโดดถีบประตูซะเต็มแรง!เรือนหลังนี้หลุดจากอาคม

    ของพี่เจี๊ยบแล้วนี่หว่า..ประตูพังล้มลงไปทั้งยวงเลย!!

     ตอนนี้สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือสายตาของสองคู่ที่อยู่ด้านหลัง

    หนูค่อยๆเอี่ยวคอไปมองหน้าพี่ฟรังที่จ้องหน้าหนู  

    แล้วยักคิ้วให้!..พี่ฟรังเหล่ตาไปที่พี่เจี๊ยบที่ยืนอ้าปากค้าง

    ไม่แปลกที่พี่เจี๊ยบจะช็อค..ก็พี่เขาไม่รู้นี่ว่าหนูไม่ใช่คน!!

    "ประตูมันเก่าแล้วเนอะ!สะกิดนิดหน่อยก็เลยพังเลย

    ปะเปิดออกแล้วไม่เข้าไปกันเหรอ?"..แถเอาชีวิตรอดก่อนนะพี่น้อง

    หนูสาวเท้าเดินตะแคลงข้างเข้าไปด้านในแบบเนียนๆ

    ปล่อยพี่ฟรังตอบคำถามพี่เจี๊ยบไปเหอะ!!..





    เจี๊ยบ..


    "มีอะไรที่แปลกไปมากกว่านี้อีกไหม?"..

    ตอนนี้เวลานี้สติสตางฉันหลุดรุ่ยไปหมดแล้ว

    ตั้งแต่รู้ว่าฟรังเป็นเด็กที่มีพลังพิเศษ..

    ก็ไม่แปลกหลอกนะถ้าฟรังจะมีน้องสาวเป็น

    Supper  girl..

    "เออ..ขันทองถึกไปหน่อยค่ะอาจทำอะไรพิลึกๆเรื่อยเปื่อย

    พี่เจี๊ยบอย่าไปสนใจเลยนะเราเข้าไปข้างในกันเถอะค่ะ"

    ฉันก็คงทำได้แค่พยายามเชื่อในสิ่งที่เห็นซินะ

    มันอาจจะดูเป็นเรื่องเหลือเชื่อสำหรับฉัน

    แต่ฉันก็เชื่อว่ายังมีเรื่องลี้ลับเหลือเชื่ออยู่บนโลกใบนี้

    แล้วแต่ว่าใครจะได้พบประสบเจอกับเรื่องแบบไหนเท่านั้นเอง

    ฉันเดินตามฟรังเข้าไปด้านในเรือนไม้ที่กักขังดวงวิญญาณของแฝดผู้พี่

     ไฟฉายสองกระบอกส่องเข้าไปภายในห้อง..

    โต๊ะไม้ขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางห้องมีข้าวของเครื่องใช้สำหรับเด็ก

    ที่ถูกฝุ่นจับหนานอกจากของใช้ต่างๆที่อยู่บนโต๊ะยังมีตู้กระจกทรงสมัยเก่าใบใหญ่

     สิ่งที่อยู่ในตู้ทำให้ฉันอุดปากไว้ด้วยความรู้สึกที่แสนเจ็บปวด

    ฮือ~~ฮือ~~..เสียงร้องไห้เบาหวิวของเด็กผู้หญิง?

    "ไม่เป็นไรแล้วนะ"..ฟรังพูดกับสิ่งที่ฉันมองไม่เห็นอยู่ใช่ไหม?

    ฟรังมองหน้าฉันแล้วพยักหน้าให้ฉันทำในสิ่งที่ฉันควรจะทำมัน

    ฉันเปิดตู้ใบนั้นแล้วอุ้มร่างไหม้เกรียมจนแข็งของพี่สาวฉันออกมา

    ไม่รู้หรอกว่าความรู้สึกเจ็บปวดของฉันจะส่งผ่านมันถึงพี่สาวของฉันไหม

    ฉันกอดร่างนั้นไว้แนบอกได้แต่บอกว่า..

    "เจี๊ยบรักพี่จันทร์นะ"..น้ำตาของฉันไหลออกมาอีกครั้ง

    มันหยดเปาะๆใส่ร่างของพี่สาวฉัน..

    วูบสัมผัสที่เย็นเฉียบนี่มันอะไรกัน?..

    เหมือนมีมือเย็นๆลูบใบหน้าฉันเบาๆ..

    "พี่จันทร์..พี่ใช่ไหมพี่อยู่ตรงนี้ใช่หรือเปล่า?"

    ฉันหันไปมองหน้าฟรังที่พยักหน้าให้ฉัน..

    "พี่อยากเห็นพี่จันทร์ซักครั้งฟรังช่วยพี่ได้ไหม?"

    ฟรังเดินตรงมาที่ฉันท่องอะไรซักอย่างเบาๆ

    เธอยื่นหน้าเป่าลมเย็นๆใส่ตาฉัน..

    ฉันกระพริบตาถี่ๆแล้วมองสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

    ฟรังถอยหลังแล้วเดินเลี่ยงไปด้านข้างเผยให้ฉันเห็นร่างของผู้หญิงคนนึง

    ร่างโปร่งแสงหน้าตาเหมือนฉันทุกอย่างแต่ผมของเธอยาวสลวย

    เธอกำลังยิ้มให้ฉัน ฉันไม่รู้ตัวเลยว่าเดินเข้าไปใกล้เธอมากแค่ไหน

    เหมือนฉันกำลังยืนอยู่หน้ากระจกเงาที่ยืนดูตัวเองร่ำไห้

    "พี่จันทร์ฮือๆ..เจี๊ยบขอโทษฮือๆ"..เธอยิ้มเอื้อมมือโปร่งแสงลูบแก้มฉัน

    แผ่วเบาเหมือนไออากาศเย็นๆ..ก่อนจะค่อยๆเลือนหายไป

    "ไปกันเถอะค่ะพี่เจี๊ยบเราต้องทำขั้นตอนส่งวิญญาณพี่เขาก่อน

    แล้วค่อยส่งดวงวิญญาณแมวทั้งหมด"..

    แต่ยังมีอีกเรื่องที่ฉันกังวล

    "แล้วกระดูกของช่างภมรล่ะฟรัง

    ยังอยู่ในห้องใต้ดินนั่นเราจะทำยังไง?"

    ฟรังกำลังมองหาอะไรนะ?..

    ฉันมองตามสายตาฟรังก็ต้องตกใจแทบทรุด

    ขันทองกำลังแบกโครงกระดูก!!ใช่ฉันลืมสังเกตุไปเลยว่า

    เด็กน้อยหายไปตั้งแต่ฉันกับฟรังเดินเข้ามาแล้วไวจริงๆ

    ขันทองกองโครงกระดูกลงบนพื้น

    "เอาไงต่อกับโครงกระดูกล่ะพี่สาว" ฉันกับฟรังมองหน้ากัน

    "พี่ว่านำส่งตำรวจให้เขาสรุปสำนวนคดีก่อนดีกว่าไหม

    พี่จะได้มอบเงินค่าสินไหมให้ทางบ้านเขาด้วย"

    ฟรังอมยิ้มพยักหน้าให้กับความคิดของฉัน

    "งั้นเราโทรให้ตำรวจมารับโครงกระดูกนี่ไปที่เหลือเราค่อยว่ากันอีกที"

    ฉันกดเบอร์โรงพักเพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ..

    ไม่นานนักเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยรถมูลนิธิเก็บศพก็เดินทางมาถึง





    *สถานีตำรวจภูธรด่านช้าง*04:00


    ฟรัง..


    ฉันลูบหลังให้เด็กแสบที่นอนหลับอยู่บนตักของฉัน

    ถ้าไม่มียัยตัวร้ายนี่ฉันคงเหงาน่าดูเลยล่ะ..

    สำหรับฉันแล้วนะขันทองมีความสำคัญกับฉันมาก

    ไม่อยากจะนึกถ้าวันนึงขันทองต้องไปเกิดใหม่

    ฉันไม่รู้ว่าเมื่อถึงเวลานั้นฉันจะทำใจได้แค่ไหนกัน

    "ฟรังรอนานไหม..ป่ะกลับกันได้แล้วล่ะ"

    ฉันยิ้มให้พี่เจี๊ยบที่ออกมาจากห้องสอบสวน

    "ตำรวจว่าไงบ้างคะ" พี่เจี๊ยบส่ายหน้าเล็กน้อย

    "ผลเบื้องต้นสรุปการตายจากคอหักคาดว่าน่าจะตกจากที่สูง

    และอาจถูกฝูงสัตว์รุมแทะกินเห็นบอกว่าพรุ่งนี้จะเข้าปิดล้อม

    บริเวณพื้นที่เพื่อหาฝูงสัตว์ที่ตกเป็นเป้าหมายกลุ่มสุนัขจรจัด

    เพราะพี่แท้ๆ เลยวุ่นวายกันไปหมดขอโทษนะฟรัง

    ถ้าพี่ไม่ย้ายมาเรื่องบ้าๆแบบนี้คงไม่เกิดขึ้น"

    ฉันก็ไม่รู้ว่าจะใก้กำลังใจพี่เจี๊ยบได้ยังไงความรู้สึกของเธอ

    จึงจะดีขึ้นสงสัยต้องให้พี่ก้อยช่วยปลอบแล้วมั้งน่าจะได้ผลนะ

    "พี่เจี๊ยบอย่าคิดมากเลยค่ะเรากลับไปแก้ไขอดีตไม่ได้นี่

    อย่างน้อยก็ยังมีคนที่เป็นห่วงพี่เจี๊ยบเขาคนนั้นคง

    ไม่อยากเห็นพี่เจี๊ยบทุกข์หรอกนะคะ"

    นึกแล้วว่าพี่เจี๊ยบต้องทำหน้าสงสัยฉันได้แต่อมยิ้ม

    เรื่องของความรักต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของหัวใจของคนสองคนซินะ

    ฉันเชื่อว่าความรักจะรักษาความทุกข์ของพี่เจี๊ยบได้

    คืนนี้ฉันจะทำพิธีปลดปล่อยดวงวิญญาณพี่สาวของพี่เจี๊ยบ

    เพื่อเอาเถ้ากระดูกไปลอยอังคาร..





    *บ้านฟรัง*04:30


    เจี๊ยบ..

    ไฟเปิดสว่างทั้งบ้านแบบนั้นก้อยคงตื่นแล้วซินะ

    "พี่เจี๊ยบคะต่อจากนี้ให้เป็นหน้าที่หนูละกันพี่เจี๊ยบไปนอนเถอะค่ะ

    ไงฝากยัยตัวแสบนี้ด้วยนะคะ"..ฉันรับขันทองมาอุ้มเอาไว้

    เราแยกกันตรงลานหน้าบ้านฟรังเดินหายไปทางท้ายสวน

    คงไปทำพิธีซินะ..เฮ้อ!ขอโทษนะฟรังที่ทำให้เดือดร้อน

    ฉันอุ้มขันทองเดินขึ้นบนบ้านจังหวะนั้นก้อยเดินสวนออกมา

    หัวใจของฉันมันเริ่มเต้นเร็วอีกแล้วเมื่อก้อยเดินเข้ามาใกล้

    "มาค่ะเดี๋ยวก้อยพาตัวเล็กไปนอนเองค่ะ" ฉันส่ายหน้าให้ก้อย

    "ไม่เป็นไรเดี๋ยวฉันอุ้มไปส่งให้ขันทองนอนกับเธอไม่ใช่เหรอ?"

    อยากใกล้ชิดกับเธอให้มากขึ้นเท่านั้น..

    ก้อยเดินนำฉันไปที่ห้องของเธอจริงๆแล้วห้องเราสองคนอยู่ติดกันด้วยซ้ำ

    แค่ฝาห้องกั้นช่างไกลกันเหลือเกิน ก้อยดูเป็นผู้หญิงเปรี้ยวแต่เธอวางตัวได้ดีมาก

    สายตาที่ดูเจ้าชู้แต่พฤติกรรมของเธอแสนขี้อายเธอเป็นผู้หญิงแบบไหนกันแน่นะ

    ฉันวางขันทองลงบนที่นอน..ก้อยค่อยๆก้มลงหอมที่หน้าผากของขันทองเธอลูบหัว

    ขันทองเบาๆทำไมถึงรู้สึกอยากให้ก้อยทำแบบนั้นกับฉันบ้างนะ

    ในวันที่ฉันเหนื่อยแบบนี้อยากได้ไออุ่นของเธอจัง

    ฉันก้มลงกอดก้อยซุกหน้าบนไหล่ของเธอหลับตานิ่ง

    สมองฉันอ่อนล้าและเริ่มเลือนลางกลไกการทำงาน

    ของร่างกายถึงเวลาชัตดาวแล้วซินะ..





    ก้อย..


    ตึกๆ..ตึกๆ..มาทำกันแบบนี้จะฆ่าฉันให้หัวใจวายตายหรือไงนะ

    ฉันเอี่ยวคอมองใบหน้าใสๆของพี่เจี๊ยบที่อยู่ๆก็มากอด

    แล้วหลับบนบ่าฉันซะงั้น คงเหนื่อยมากเลยซิคะเนี่ย

    อยากอยู่แบบนี้ไปนานเท่านานแต่ฉันต้องไปเก็บผลผลิตในสวนนี่

    ฉันค่อยๆแกะมือของพี่เจี๊ยบที่โอบรอบคอฉันออก

    ประคองให้เธอล้มตัวลงนอนข้างๆขันทองดึงผ้าขึ้นห่มให้คนทั้งสอง

    ฉันไล้มือบนใบหน้าใสปัดไรผมที่ปกหน้าโน้มหน้าลงใกล้ด้วยหัวใจที่เต้นแรง

    ฝากจุมพิตเบาๆบนริมฝีปากนุ่ม ครั้งแรกของฉัน..

    จูบแรกที่อาจจะไม่สมบูรณ์แต่ฉันขอมอบมันให้กับรักแรกของฉัน เห็นฉันเป็นแบบนี้

    ฉันก็รักนวลสงวนตัวนะคะไม่รักไม่ให้หรอก..

    "ตื่นมาขอให้เจอแต่เรื่องดีๆนะคะ"

    พี่เจี๊ยบก็ไม่ได้ต่างไปจากฉันเราเข้ามาเกี่ยวพันกันได้

    เพราะนางฟ้าตัวน้อยนี้ขันทองเทพธิดาของฉัน

    มักนำพาเรื่องราวดีๆเข้ามาในชีวิตของฉันเสมอ

    และด้วยอิทธิฤทธิ์ของเธอได้นำพาความรักเข้ามาสู่หัวใจของฉัน

    นางฟ้าจอมซน..





     ฟรัง..


    ฉันเดินมาถึงท้ายสวนที่เชื่อมต่อกับทุ่งนากว้าง

    มีกรดของหลวงปู่พระธุดงส์ที่ปรักเจริญภาวนาอยู่บนคันนา

    ฉันนั่งพับเพียบลงด้านหน้ากรด..

    หลวงปู่ผู้มีญาณแห่งธรรมเปิดกรดขึ้น

    "เหนื่อยหน่อยนะที่เหลือเดี๋ยวหลวงปู่จัดการให้

    โยมไปพักผ่อนเถอะหลังเพลนำดอกไม้ธูปเทียน

    มาอัญเชิญเถ้าไปลอยอังคาร"

    หลวงปู่พาดผ้าเหลืองรับร่างทารกที่ฉันห่อผ้าขาว

    ส่งต่อให้ท่านทำพิธีกรรมทางศาสนา

    ฉันก้มลงกราบหลวงปู่..แล้วจึงเดินกลับไปช่วยพี่ก้อย

    เก็บผลผลิตที่ต้องนำส่ง..แม้จะง่วงนอนอยู่มากแต่จะปล่อย

    ให้พี่ก้อยทำคนเดียวไม่ได้หรอก..เสียงเจี๊ยวจ๊าวที่ดังออกมา

    จากโรงเพาะนั่นไม่มีใครหรอก..

    "นี่!!บอกกี่ครั้งแล้วอย่าแย่งกัน!!หึย!!ถ้าดื้อแบบนี้นะ!!

    เดี๋ยวท่านพี่ขันทองจะจับต้มน้ำปลาซะเลย!!"

    ฉันส่ายหัวอย่างขำๆที่ขันทองทะเลาะกับลูกเจี๊ยบได้ทุกวัน

    "ขันทองวันนี้ไปส่งของกับพี่ก้อยนะบอกแพรด้วยว่าพี่

    คิดถึง.."..ขันทองที่มีลูกเจี๊ยบเกาะหัวในมือสองข้างกำ

    ลูกเจี๊ยบอีกข้างละตัวหันมาหรี่ตายักคิ้วกวนประสาท

    "หวานเป็นเหมือนกันนะพี่สาวเนี่ยมีฝากคิดถงคิดถึงกันด้วย"

    ฉันยักคิ้วกลับให้เด็กแสบก่อนแยกไปรีดนมวัว..

    ชอบช่วงเวลานี้ที่สุดช่วงเวลาที่ฉันได้อยู่กับทุกคนไม่เงียบเหงา

    เหมือนเมื่อก่อนอยากให้เป็นแบบนี้ตลอดไปจัง..





     วันเสาร์ 09:00 *ร้านแพรวา*  


    แพรวา..


    ผิดหวังจังที่วันนี้ฟรังไม่มาส่งของ..

    "แม่แพรอ่ะอย่าเศร้าดิพี่สาวหลับเป็นตายอยู่บ้านน่ะ

    ไม่ได้ไปไหนซะหน่อย..อ้อเกือบลืมพี่เขาฝากบอกคิดถึง

    แม่แพรมาด้วยนร้า" อุ๊ย..แค่นี้ก็ทำฉันยิ้มหน้าบานเลยล่ะ

    ก็ฟรังน่ะปากหนักจะตาย..

    "ขอบใจจ้ะลูกสาวมาหอมแก้มทีซิคิดถึงจังเลย"

    ฉันกับขันทองผลัดกันหอมแก้มจนถูกพี่ก้อยแซว

    "โอ๊ย!!อิจฉาอ่ะขันทองไม่เห็นหอมพี่แบบนี้บางเลย"

    ขันทองยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะพูดในสิ่งที่ทำเอาพี่ก้อยหน้าแดงแป๊ด

    "หนูก็อยากจะหอมอยู่เหมือนกันนะแต่เกรงใจพี่เจี๊ยบอ่ะ

    กลัวพี่เขาเข้าใจผิดคิดว่าหนูเป็นมือที่สาม..อิอิ"

    พี่ก้อยยกมือปิดหน้าส่ายหัวไปมาด้วยความอาย

    "แฮ่ม..เฮฮาแต่เช้าเลยนร้า"..อ๊า!!..พี่ตาล

    "พี่ตาลพี่เก้าอยู่ในครัวค่ะวันนี้จะไปเที่ยวไหนกันคะ"

    พี่ตาลส่ายหัว..งั้นแปลว่า..

    "วันนี้ที่ร้านคนอยู่เยอะก็เลยจะมาช่วยเสริฟน่ะ"

    เย้!..ดีเลย..ฉันรีบวิ่งเข้าไปหลังร้านขออนุญาต

    แม่กับพี่เก้าไปหาฟรังดีกว่า..ขอบคุณนะคะพี่ตาล

    มาได้จังหวะพอดี..





    ฟรัง..


    อืม..ริมฝีปากนุ่มที่กำลังกระซิบเสียงแผ่วเบาที่ข้างหูฉัน

    ว่าไงนะ..อ่า..คิดถึงจัง..ใช่คำนี้หรือเปล่า..

    อืม..สัมผัสนิ่มราวปุยนุ่นหอมหวานกลิ่นลูกอมรสนม

    แตะแต้มลงบนริมฝีปากฉัน..ฉันรู้นะว่าเป็นเธอ

    ปลายลิ้นแทรกผ่านความหอมหวานมือฉันโน้มคอ 

    เด็กที่ชอบขโมยจูบฉันยามฉันหลับ ..

    คราวนี้ต้องจับเอาไว้ไม่ให้หนีไปไหน..ผมยาวของเธอที่ละใบหน้าของฉัน

    กลิ่นหอมๆแบบนี้ฉันจำได้..อยากลืมตาดูแก้มป่องที่แดงระเรื่อ

    แต่ตาฉันหนักเกินไปทำได้เพียงควานลิ้นนุ่มดูดกลืนความหอมหวาน

    จากรสลิ้นของเธอ..แพรวา


    ฉันบิดตัวลืมตาขึ้นอมยิ้มให้กับคนที่นอนกอดฉันหลับปุ๋ย

    น่ารักจัง ฉันพลิกตัวกอดแพรวาเอาไว้..จูบเบาๆที่หน้าผากเธอ

    แพรวาค่อยๆลืมตาขึ้นยื่นหน้าอมยิ้มจุ๊บปากฉันแล้วซุกหน้าลงที่อก

    "รู้ไหมว่าคิดถึงมาก"..แพรวาถามในสิ่งที่ฉันเองก็รู้สึก

    "อืม..คืนนี้ค้างเปล่า"..แพรวาพยักหน้า

    "งั้นคืนนี้ไปส่งวิญญาณแมวผีกับฉันนะ" ฉันนี่ช่างโรแมนติกซะเหลือเกิน

    "ไปซิ..เสร็จจากส่งวิญญาณแล้วหัดทำอย่างอื่นบ้างนะ"

    หือ???..ยังมีอะไรที่ฉันไม่เคยทำด้วยเหรอ???



    *คฤหาสน์นายอำเภอปั่ง*00:00


    เจี๊ยบ..


    ในค่ำคืนนี้ฉันกำลังจะล้างอดีตที่ปู่ฉันก่อไว้ให้กลายเป็นเถ้าถ่าน

    ปลดปล่อยทุกดวงวิญญาณที่ทุกข์ตรม..

    ท่ามกลางวงล้อมของมิตรที่มาร่วมพิธีฟรังจุดธูปเทียนเริ่มพิธี

    "พี่เจี๊ยบตั้งสมาธิให้มั่นขออโหสิกรรมต่อดวงวิญญาณด้วยนะคะ"  

    ฉันทำตามขั้นตอนที่ฟรังแนะนำ..

    จนกระทั่งฟรังบริกรรมคาถาเสร็จสิ้นปรากฎฝูงแมวนับร้อย

    อยู่เต็มไปหมดพวกมันนั่งสงบนิ่งเหมือนกำลังรอคอยการปลดปล่อย

    "ไปกันเถอะค่ะพี่เจี๊ยบ"..ขันทองเด็กน้อยจอมพลัง

    ยกแกลอนน้ำมัน50ลิตรวิ่งเข้าไปในบ้านโดยไม่กลัวเกรงใดๆทั้งสิ้น

    หนูน้อยสาดน้ำมันอย่างสนุกสนาน..

    "นี่คะพี่เจี๊ยบเทียนอาคมใช้จุดเผาที่นี่"

    ฉันรับมาแล้วจุดลงบนพื้นที่มีเชื้อเพลิงราดเอาไว้

    ประกายเพลิงวิ่งเป็นทางยาวล่ามไปทั่ว..

    พวกเรารีบออกไปด้านนอกยืนไว้อาลัยให้กับ

    ลูกไฟสีเขียวที่ลอยล่องออกมาจากกองเพลิง

    หายไปในอากาศ..

    บ้านหลังใหญ่ที่ฉันเคยอยู่ในสมัยเด็กตอนนี้ถูกเปลวไฟเผาทำลาย

    เหลือเพียงซากปรักหักพังดำเป็นตอตะโก..

    ฉันรู้สึกหดหู่ใจอย่างบอกไม่ถูก..

    อ่า..ฉันก้มมองมือนุ่มที่จับมือฉันเอาไว้ก้อยยิ้มให้ฉัน

    แล้วบีบมือเบาๆเธอส่งกำลังใจโดยไม่พูดอะไร..

    เพียงเท่านี้หัวใจฉันก็กลับมามีเรี่ยวแรงอีกครั้ง

    "พี่คงต้องอาศัยอยู่บ้านฟรังอีกพักใหญ่เลยล่ะ"

    ฉันพูดกับฟรังที่มีแพรวากอดแขนอยู่เคียงข้าง

    เมื่อก่อนเคยอิจฉาคู่นี้แต่ตอนนี้ไม่แล้วล่ะ

    เพราะฉันมีคนๆนั้นแล้วผู้หญิงที่อยู่ข้างๆฉันตอนนี้

    "อยู่ตลอดไปเลยก็ได้ค่ะ"..นี่ใช่ไหมคือคำพูดของมิตรแท้

    "ขอบใจนะฟรัง"..ขอบใจนะก้อย..ขอบใจนะทุกๆคน

    ที่เป็นดั่งกุญแจชีวิตปลดล็อคหัวใจของฉันให้ติดปีกโบยบิน

    หลุดพ้นจากความทุกข์ที่จองจำ...



    ~~~~~~~~~~~~~~~~~~

    จบตอนคร๊าบตามคำเรียกร้องตอนหน้า

    เบลล์ฝนจะกลับมาใน..ศึกกุมารเทพ..



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×