ลำดับตอนที่ #18
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #18 : กุญแจชีวิต100%
เจี๊ยบ..
สิ่งที่ฉันเห็น!มันคือเรื่องจริงหรือฝันร้ายกัน!
การกระทำดังปีศาจร้าย!!น้ำมือของบรรพชนของฉัน!!
แสนโหดเหี้ยม!และเลือดเย็น!!..
ฮึก!..ฉันพยายามดันเสียงสะอื้นให้ติดอยู่ให้ติดอยู่ที่ลำคอ
"ไม่ไหวแล้ว!!"..ฉันปล่อยมือเพราะทนดูต่อไปไม่ไหว
เหมือนโลกทั้งใบหมุนวนตีลังกากลับไปกลับมา
ฉันลอยคว้างอยู่ในวังวนแห่งโลกที่มืดมิด..
เสียงกรีดร้องครวญครางเหล่านี้..
นี่ฉันกำลังติดอยู่ในโลกวิญญาณหรือภาพลวงตากันแน่
"พี่เจี๊ยบจับมือหนูเอาไว้"..มีมือยื่นออกมาจากความมืด
ให้ฉันไขว่คว้ายึดเหนี่ยวมันเอาไว้..
ประกายแสงสว่างเรืองๆทำฉันต้องค่อยๆหรี่ตาขึ้น
"พี่เจี๊ยบไม่เป็นไรนะคะ" เป็นคำถามห่วงใย
ที่ทำให้น้ำตาฉันหลั่งไหล อย่างละอายใจ
ในการกระทำของปู่ฉันได้สร้างเรื่องโหดร้ายเอาไว้
มันไม่น่าได้รับการให้อภัยแม้แต่น้อย
มืออุ่นๆของฟรังเช็ดน้ำตาให้ฉันอย่างเบามือ
ความอ่อนแอผลักให้ฉันทิ้งตัวซบหน้ากับอกอุ่นๆนั่น
"เรื่องทั้งหมดมันเป็นเพราะพี่สวดคาถาต้องห้ามนั่นใช่ไหม..ฮือๆ"
เพราะฉันเข้าใจมาตลอดว่ามันคือบทสวดมนต์ปู่บอกถ้าสวดทุกวัน
พี่สาวฝาแฝดของฉันจะได้ขึ้นสวรรค์..
"อย่าโทษตัวเองเลยค่ะที่เป็นแบบนั้นเพราะพี่เจี๊ยบไม่รู้ คนไม่รู้ย่อมไม่ผิด"
แต่ถึงกระนั้นฉันก็ต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น
"แต่พี่ทำให้นายช่างภมรตายยังไงก็ตัองรับผิดชอบ"
ฟรัง..
แววตาที่แม้จะเต็มไปด้วยหยาดน้ำตาของพี่เจี๊ยบ
เต็มเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะรับผิดชอบกับกรรมที่ปู่เธอก่อมันเอาไว้
วิญญาณแมวนับร้อยชีวิตที่ถูกกักกันให้คอยเฝ้าสมบัติและวิญญาณ
ของพี่สาวเธอจะถูกปลดปล่อยได้หรือไม่ก็คงขึ้นอยู่กับการตัดสินใจ
ของพี่เจี๊ยบคนเดียว...
"วิธีเดียวถ้าพี่เจี๊ยบจะรับผิดชอบคือการปลดปล่อยดวงวิญญาณที่ถูกฝังทั้งเป็น"
พี่เจี๊ยบขมวดคิ้วจ้องหน้าฉันอย่างสงสัย..
"แล้วพี่ต้องทำอะไรบ้าง?"..เราจ้องหน้ากันนิ่ง
ฉันต้องบอกวิธีที่อาจทำให้พี่เจี๊ยบลำบากใจแต่มันก็เป็นวิธีเดียว
"พี่เจี๊ยบต้องเผาคฤหาสน์นั้นทิ้งเพื่อปลดปล่อยดวงวิญญาณทั้งหมด
ให้เป็นอิสระเพราะที่นั่นคือสุสานของดวงวิญญาณต้องทำลายสิ่งจองจำเท่านั้น"
พี่เจี๊ยบอมยิ้มเล็กๆอย่างขมขื่นแล้วเธอก็พยักหน้าตอบตกลง..
ฉันดูพลิกข้อมือดูเวลา ตีหนึ่งพอดี..
"ก่อนอื่นเราต้องไปเอาร่างของพี่สาวพี่เจี๊ยบออกมาจากห้องนั้นก่อน
พิธีส่งวิญญาณของคนกับสัตว์แตกต่างกัน พี่เจี๊ยบเปิดมันออกได้รึเปล่า"
พี่เจี๊ยบส่ายหน้าให้กับฉัน..
"พี่ไม่มีกุญแจเท่าที่จำความได้ปู่สั่งพ่อว่าถ้าปู่ตายให้เผา
กล่องไม้ใบหนึ่งไปพร้อมกับปู่คาดว่าน่าจะเป็นกุญแจที่อยู่ในนั้น"
ถ้าเป็นแบบนั้นคงต้องพังเข้าไป..แอ๊ด..
ฉันกับพี่เจี๊ยบหันไปมองผู้ที่เปิดประตูโหม่หน้าเข้ามา
ขันทอง!!..ยัยตัวร้ายฉีกยิ้มกว้างโชว์เส้นรวดสั้นๆ
ให้ฉันกับพี่เจี๊ยบมองหน้ากันอย่างสงสัย..
"หนูช่วยเปิดให้เอามะ..ฮี่ฮี่" ยัยเด็กแสบนั่นทำพี่เจี๊ยบยิ้มออกมาได้กับความทะเล้น
ที่เด็กเพี้ยนนี่ชอบทำเรื่องพิเรนท์เป็นประจำ..
"แก่วิชาเข้าทุกทีแล้วนะนิสัยเสียมายืนแอบฟังแบบนี้ได้ไง"
ฉันทำเสียงดุเข้มจนขันทองหุบยิ้มหน้าจ๋อย
ก่อนที่ยัยตัวแสบจะร้องไห้เลิกแกล้งก่อนดีกว่า
"ทีหลังอย่าแอบ!มานั่งฟังใกล้ๆนี่มา" ขันทองวิ่งอมยิ้มเข้ามาหา
กระโดดขึ้นเตียงกลิ้งไปกลิ้งมาอย่างเด็กซุกซน
"พี่เจี๊ยบไหวไหมคะถ้าคืนนี้เราจะเข้าไปนำร่างพี่สาวของพี่ออกมา"
พี่เจี๊ยบพยักหน้า..เราสามคนจึงกลับไปยังคฤหาสน์หลังนั้นอีกครั้ง
ขันทอง..
ผลจากการที่หนูชอบดูการ์ตูนนินจาสาวจ้าวนักสู้
หนูเลยได้เคล็ดวิชามาเพียบหนึ่งในนั้นคือ..
ลวดสารพัดพิษไม่ว่าแม่กุญแจมันจะซับซ้อนเปิดยากแค่ไหน
แค่ลวดเส้นเดียวหนูก็เปิดได้สบาย!!หึหึ..
ลวดเส้นเล็กถูกแย่เข้าไปในรูแม่กุญแจ..
เวลาผ่านไป..5นาที!..10นาที!..15นาที!..30นาที!
หนูยกมือขึ้นปาดเหงื่อ..มีความรู้สึกว่ามันไม่น่าจะเปิดออกเลย!!
"เปิดไม่ออกใช่มะ"..พี่ฟรังก้มหน้าลงมากระซิบที่หูหนูเพื่อตอกย้ำ!!
"ปัดโธ่เว้ย!!ไอ้คัมภีร์หลอกลวง!!ไม่น่าเสียเวลาดูมันเลย!!นี่แนะ!!!".
โครม!!!..ตึง!!!..ลืมตัวกระโดดถีบประตูซะเต็มแรง!เรือนหลังนี้หลุดจากอาคม
ของพี่เจี๊ยบแล้วนี่หว่า..ประตูพังล้มลงไปทั้งยวงเลย!!
ตอนนี้สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือสายตาของสองคู่ที่อยู่ด้านหลัง
หนูค่อยๆเอี่ยวคอไปมองหน้าพี่ฟรังที่จ้องหน้าหนู
แล้วยักคิ้วให้!..พี่ฟรังเหล่ตาไปที่พี่เจี๊ยบที่ยืนอ้าปากค้าง
ไม่แปลกที่พี่เจี๊ยบจะช็อค..ก็พี่เขาไม่รู้นี่ว่าหนูไม่ใช่คน!!
"ประตูมันเก่าแล้วเนอะ!สะกิดนิดหน่อยก็เลยพังเลย
ปะเปิดออกแล้วไม่เข้าไปกันเหรอ?"..แถเอาชีวิตรอดก่อนนะพี่น้อง
หนูสาวเท้าเดินตะแคลงข้างเข้าไปด้านในแบบเนียนๆ
ปล่อยพี่ฟรังตอบคำถามพี่เจี๊ยบไปเหอะ!!..
เจี๊ยบ..
"มีอะไรที่แปลกไปมากกว่านี้อีกไหม?"..
ตอนนี้เวลานี้สติสตางฉันหลุดรุ่ยไปหมดแล้ว
ตั้งแต่รู้ว่าฟรังเป็นเด็กที่มีพลังพิเศษ..
ก็ไม่แปลกหลอกนะถ้าฟรังจะมีน้องสาวเป็น
Supper girl..
"เออ..ขันทองถึกไปหน่อยค่ะอาจทำอะไรพิลึกๆเรื่อยเปื่อย
พี่เจี๊ยบอย่าไปสนใจเลยนะเราเข้าไปข้างในกันเถอะค่ะ"
ฉันก็คงทำได้แค่พยายามเชื่อในสิ่งที่เห็นซินะ
มันอาจจะดูเป็นเรื่องเหลือเชื่อสำหรับฉัน
แต่ฉันก็เชื่อว่ายังมีเรื่องลี้ลับเหลือเชื่ออยู่บนโลกใบนี้
แล้วแต่ว่าใครจะได้พบประสบเจอกับเรื่องแบบไหนเท่านั้นเอง
ฉันเดินตามฟรังเข้าไปด้านในเรือนไม้ที่กักขังดวงวิญญาณของแฝดผู้พี่
ไฟฉายสองกระบอกส่องเข้าไปภายในห้อง..
โต๊ะไม้ขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางห้องมีข้าวของเครื่องใช้สำหรับเด็ก
ที่ถูกฝุ่นจับหนานอกจากของใช้ต่างๆที่อยู่บนโต๊ะยังมีตู้กระจกทรงสมัยเก่าใบใหญ่
สิ่งที่อยู่ในตู้ทำให้ฉันอุดปากไว้ด้วยความรู้สึกที่แสนเจ็บปวด
ฮือ~~ฮือ~~..เสียงร้องไห้เบาหวิวของเด็กผู้หญิง?
"ไม่เป็นไรแล้วนะ"..ฟรังพูดกับสิ่งที่ฉันมองไม่เห็นอยู่ใช่ไหม?
ฟรังมองหน้าฉันแล้วพยักหน้าให้ฉันทำในสิ่งที่ฉันควรจะทำมัน
ฉันเปิดตู้ใบนั้นแล้วอุ้มร่างไหม้เกรียมจนแข็งของพี่สาวฉันออกมา
ไม่รู้หรอกว่าความรู้สึกเจ็บปวดของฉันจะส่งผ่านมันถึงพี่สาวของฉันไหม
ฉันกอดร่างนั้นไว้แนบอกได้แต่บอกว่า..
"เจี๊ยบรักพี่จันทร์นะ"..น้ำตาของฉันไหลออกมาอีกครั้ง
มันหยดเปาะๆใส่ร่างของพี่สาวฉัน..
วูบสัมผัสที่เย็นเฉียบนี่มันอะไรกัน?..
เหมือนมีมือเย็นๆลูบใบหน้าฉันเบาๆ..
"พี่จันทร์..พี่ใช่ไหมพี่อยู่ตรงนี้ใช่หรือเปล่า?"
ฉันหันไปมองหน้าฟรังที่พยักหน้าให้ฉัน..
"พี่อยากเห็นพี่จันทร์ซักครั้งฟรังช่วยพี่ได้ไหม?"
ฟรังเดินตรงมาที่ฉันท่องอะไรซักอย่างเบาๆ
เธอยื่นหน้าเป่าลมเย็นๆใส่ตาฉัน..
ฉันกระพริบตาถี่ๆแล้วมองสิ่งที่อยู่ตรงหน้า
ฟรังถอยหลังแล้วเดินเลี่ยงไปด้านข้างเผยให้ฉันเห็นร่างของผู้หญิงคนนึง
ร่างโปร่งแสงหน้าตาเหมือนฉันทุกอย่างแต่ผมของเธอยาวสลวย
เธอกำลังยิ้มให้ฉัน ฉันไม่รู้ตัวเลยว่าเดินเข้าไปใกล้เธอมากแค่ไหน
เหมือนฉันกำลังยืนอยู่หน้ากระจกเงาที่ยืนดูตัวเองร่ำไห้
"พี่จันทร์ฮือๆ..เจี๊ยบขอโทษฮือๆ"..เธอยิ้มเอื้อมมือโปร่งแสงลูบแก้มฉัน
แผ่วเบาเหมือนไออากาศเย็นๆ..ก่อนจะค่อยๆเลือนหายไป
"ไปกันเถอะค่ะพี่เจี๊ยบเราต้องทำขั้นตอนส่งวิญญาณพี่เขาก่อน
แล้วค่อยส่งดวงวิญญาณแมวทั้งหมด"..
แต่ยังมีอีกเรื่องที่ฉันกังวล
"แล้วกระดูกของช่างภมรล่ะฟรัง
ยังอยู่ในห้องใต้ดินนั่นเราจะทำยังไง?"
ฟรังกำลังมองหาอะไรนะ?..
ฉันมองตามสายตาฟรังก็ต้องตกใจแทบทรุด
ขันทองกำลังแบกโครงกระดูก!!ใช่ฉันลืมสังเกตุไปเลยว่า
เด็กน้อยหายไปตั้งแต่ฉันกับฟรังเดินเข้ามาแล้วไวจริงๆ
ขันทองกองโครงกระดูกลงบนพื้น
"เอาไงต่อกับโครงกระดูกล่ะพี่สาว" ฉันกับฟรังมองหน้ากัน
"พี่ว่านำส่งตำรวจให้เขาสรุปสำนวนคดีก่อนดีกว่าไหม
พี่จะได้มอบเงินค่าสินไหมให้ทางบ้านเขาด้วย"
ฟรังอมยิ้มพยักหน้าให้กับความคิดของฉัน
"งั้นเราโทรให้ตำรวจมารับโครงกระดูกนี่ไปที่เหลือเราค่อยว่ากันอีกที"
ฉันกดเบอร์โรงพักเพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ..
ไม่นานนักเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยรถมูลนิธิเก็บศพก็เดินทางมาถึง
*สถานีตำรวจภูธรด่านช้าง*04:00
ฟรัง..
ฉันลูบหลังให้เด็กแสบที่นอนหลับอยู่บนตักของฉัน
ถ้าไม่มียัยตัวร้ายนี่ฉันคงเหงาน่าดูเลยล่ะ..
สำหรับฉันแล้วนะขันทองมีความสำคัญกับฉันมาก
ไม่อยากจะนึกถ้าวันนึงขันทองต้องไปเกิดใหม่
ฉันไม่รู้ว่าเมื่อถึงเวลานั้นฉันจะทำใจได้แค่ไหนกัน
"ฟรังรอนานไหม..ป่ะกลับกันได้แล้วล่ะ"
ฉันยิ้มให้พี่เจี๊ยบที่ออกมาจากห้องสอบสวน
"ตำรวจว่าไงบ้างคะ" พี่เจี๊ยบส่ายหน้าเล็กน้อย
"ผลเบื้องต้นสรุปการตายจากคอหักคาดว่าน่าจะตกจากที่สูง
และอาจถูกฝูงสัตว์รุมแทะกินเห็นบอกว่าพรุ่งนี้จะเข้าปิดล้อม
บริเวณพื้นที่เพื่อหาฝูงสัตว์ที่ตกเป็นเป้าหมายกลุ่มสุนัขจรจัด
เพราะพี่แท้ๆ เลยวุ่นวายกันไปหมดขอโทษนะฟรัง
ถ้าพี่ไม่ย้ายมาเรื่องบ้าๆแบบนี้คงไม่เกิดขึ้น"
ฉันก็ไม่รู้ว่าจะใก้กำลังใจพี่เจี๊ยบได้ยังไงความรู้สึกของเธอ
จึงจะดีขึ้นสงสัยต้องให้พี่ก้อยช่วยปลอบแล้วมั้งน่าจะได้ผลนะ
"พี่เจี๊ยบอย่าคิดมากเลยค่ะเรากลับไปแก้ไขอดีตไม่ได้นี่
อย่างน้อยก็ยังมีคนที่เป็นห่วงพี่เจี๊ยบเขาคนนั้นคง
ไม่อยากเห็นพี่เจี๊ยบทุกข์หรอกนะคะ"
นึกแล้วว่าพี่เจี๊ยบต้องทำหน้าสงสัยฉันได้แต่อมยิ้ม
เรื่องของความรักต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของหัวใจของคนสองคนซินะ
ฉันเชื่อว่าความรักจะรักษาความทุกข์ของพี่เจี๊ยบได้
คืนนี้ฉันจะทำพิธีปลดปล่อยดวงวิญญาณพี่สาวของพี่เจี๊ยบ
เพื่อเอาเถ้ากระดูกไปลอยอังคาร..
*บ้านฟรัง*04:30
เจี๊ยบ..
ไฟเปิดสว่างทั้งบ้านแบบนั้นก้อยคงตื่นแล้วซินะ
"พี่เจี๊ยบคะต่อจากนี้ให้เป็นหน้าที่หนูละกันพี่เจี๊ยบไปนอนเถอะค่ะ
ไงฝากยัยตัวแสบนี้ด้วยนะคะ"..ฉันรับขันทองมาอุ้มเอาไว้
เราแยกกันตรงลานหน้าบ้านฟรังเดินหายไปทางท้ายสวน
คงไปทำพิธีซินะ..เฮ้อ!ขอโทษนะฟรังที่ทำให้เดือดร้อน
ฉันอุ้มขันทองเดินขึ้นบนบ้านจังหวะนั้นก้อยเดินสวนออกมา
หัวใจของฉันมันเริ่มเต้นเร็วอีกแล้วเมื่อก้อยเดินเข้ามาใกล้
"มาค่ะเดี๋ยวก้อยพาตัวเล็กไปนอนเองค่ะ" ฉันส่ายหน้าให้ก้อย
"ไม่เป็นไรเดี๋ยวฉันอุ้มไปส่งให้ขันทองนอนกับเธอไม่ใช่เหรอ?"
อยากใกล้ชิดกับเธอให้มากขึ้นเท่านั้น..
ก้อยเดินนำฉันไปที่ห้องของเธอจริงๆแล้วห้องเราสองคนอยู่ติดกันด้วยซ้ำ
แค่ฝาห้องกั้นช่างไกลกันเหลือเกิน ก้อยดูเป็นผู้หญิงเปรี้ยวแต่เธอวางตัวได้ดีมาก
สายตาที่ดูเจ้าชู้แต่พฤติกรรมของเธอแสนขี้อายเธอเป็นผู้หญิงแบบไหนกันแน่นะ
ฉันวางขันทองลงบนที่นอน..ก้อยค่อยๆก้มลงหอมที่หน้าผากของขันทองเธอลูบหัว
ขันทองเบาๆทำไมถึงรู้สึกอยากให้ก้อยทำแบบนั้นกับฉันบ้างนะ
ในวันที่ฉันเหนื่อยแบบนี้อยากได้ไออุ่นของเธอจัง
ฉันก้มลงกอดก้อยซุกหน้าบนไหล่ของเธอหลับตานิ่ง
สมองฉันอ่อนล้าและเริ่มเลือนลางกลไกการทำงาน
ของร่างกายถึงเวลาชัตดาวแล้วซินะ..
ก้อย..
ตึกๆ..ตึกๆ..มาทำกันแบบนี้จะฆ่าฉันให้หัวใจวายตายหรือไงนะ
ฉันเอี่ยวคอมองใบหน้าใสๆของพี่เจี๊ยบที่อยู่ๆก็มากอด
แล้วหลับบนบ่าฉันซะงั้น คงเหนื่อยมากเลยซิคะเนี่ย
อยากอยู่แบบนี้ไปนานเท่านานแต่ฉันต้องไปเก็บผลผลิตในสวนนี่
ฉันค่อยๆแกะมือของพี่เจี๊ยบที่โอบรอบคอฉันออก
ประคองให้เธอล้มตัวลงนอนข้างๆขันทองดึงผ้าขึ้นห่มให้คนทั้งสอง
ฉันไล้มือบนใบหน้าใสปัดไรผมที่ปกหน้าโน้มหน้าลงใกล้ด้วยหัวใจที่เต้นแรง
ฝากจุมพิตเบาๆบนริมฝีปากนุ่ม ครั้งแรกของฉัน..
จูบแรกที่อาจจะไม่สมบูรณ์แต่ฉันขอมอบมันให้กับรักแรกของฉัน เห็นฉันเป็นแบบนี้
ฉันก็รักนวลสงวนตัวนะคะไม่รักไม่ให้หรอก..
"ตื่นมาขอให้เจอแต่เรื่องดีๆนะคะ"
พี่เจี๊ยบก็ไม่ได้ต่างไปจากฉันเราเข้ามาเกี่ยวพันกันได้
เพราะนางฟ้าตัวน้อยนี้ขันทองเทพธิดาของฉัน
มักนำพาเรื่องราวดีๆเข้ามาในชีวิตของฉันเสมอ
และด้วยอิทธิฤทธิ์ของเธอได้นำพาความรักเข้ามาสู่หัวใจของฉัน
นางฟ้าจอมซน..
ฟรัง..
ฉันเดินมาถึงท้ายสวนที่เชื่อมต่อกับทุ่งนากว้าง
มีกรดของหลวงปู่พระธุดงส์ที่ปรักเจริญภาวนาอยู่บนคันนา
ฉันนั่งพับเพียบลงด้านหน้ากรด..
หลวงปู่ผู้มีญาณแห่งธรรมเปิดกรดขึ้น
"เหนื่อยหน่อยนะที่เหลือเดี๋ยวหลวงปู่จัดการให้
โยมไปพักผ่อนเถอะหลังเพลนำดอกไม้ธูปเทียน
มาอัญเชิญเถ้าไปลอยอังคาร"
หลวงปู่พาดผ้าเหลืองรับร่างทารกที่ฉันห่อผ้าขาว
ส่งต่อให้ท่านทำพิธีกรรมทางศาสนา
ฉันก้มลงกราบหลวงปู่..แล้วจึงเดินกลับไปช่วยพี่ก้อย
เก็บผลผลิตที่ต้องนำส่ง..แม้จะง่วงนอนอยู่มากแต่จะปล่อย
ให้พี่ก้อยทำคนเดียวไม่ได้หรอก..เสียงเจี๊ยวจ๊าวที่ดังออกมา
จากโรงเพาะนั่นไม่มีใครหรอก..
"นี่!!บอกกี่ครั้งแล้วอย่าแย่งกัน!!หึย!!ถ้าดื้อแบบนี้นะ!!
เดี๋ยวท่านพี่ขันทองจะจับต้มน้ำปลาซะเลย!!"
ฉันส่ายหัวอย่างขำๆที่ขันทองทะเลาะกับลูกเจี๊ยบได้ทุกวัน
"ขันทองวันนี้ไปส่งของกับพี่ก้อยนะบอกแพรด้วยว่าพี่
คิดถึง.."..ขันทองที่มีลูกเจี๊ยบเกาะหัวในมือสองข้างกำ
ลูกเจี๊ยบอีกข้างละตัวหันมาหรี่ตายักคิ้วกวนประสาท
"หวานเป็นเหมือนกันนะพี่สาวเนี่ยมีฝากคิดถงคิดถึงกันด้วย"
ฉันยักคิ้วกลับให้เด็กแสบก่อนแยกไปรีดนมวัว..
ชอบช่วงเวลานี้ที่สุดช่วงเวลาที่ฉันได้อยู่กับทุกคนไม่เงียบเหงา
เหมือนเมื่อก่อนอยากให้เป็นแบบนี้ตลอดไปจัง..
วันเสาร์ 09:00 *ร้านแพรวา*
แพรวา..
ผิดหวังจังที่วันนี้ฟรังไม่มาส่งของ..
"แม่แพรอ่ะอย่าเศร้าดิพี่สาวหลับเป็นตายอยู่บ้านน่ะ
ไม่ได้ไปไหนซะหน่อย..อ้อเกือบลืมพี่เขาฝากบอกคิดถึง
แม่แพรมาด้วยนร้า" อุ๊ย..แค่นี้ก็ทำฉันยิ้มหน้าบานเลยล่ะ
ก็ฟรังน่ะปากหนักจะตาย..
"ขอบใจจ้ะลูกสาวมาหอมแก้มทีซิคิดถึงจังเลย"
ฉันกับขันทองผลัดกันหอมแก้มจนถูกพี่ก้อยแซว
"โอ๊ย!!อิจฉาอ่ะขันทองไม่เห็นหอมพี่แบบนี้บางเลย"
ขันทองยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะพูดในสิ่งที่ทำเอาพี่ก้อยหน้าแดงแป๊ด
"หนูก็อยากจะหอมอยู่เหมือนกันนะแต่เกรงใจพี่เจี๊ยบอ่ะ
กลัวพี่เขาเข้าใจผิดคิดว่าหนูเป็นมือที่สาม..อิอิ"
พี่ก้อยยกมือปิดหน้าส่ายหัวไปมาด้วยความอาย
"แฮ่ม..เฮฮาแต่เช้าเลยนร้า"..อ๊า!!..พี่ตาล
"พี่ตาลพี่เก้าอยู่ในครัวค่ะวันนี้จะไปเที่ยวไหนกันคะ"
พี่ตาลส่ายหัว..งั้นแปลว่า..
"วันนี้ที่ร้านคนอยู่เยอะก็เลยจะมาช่วยเสริฟน่ะ"
เย้!..ดีเลย..ฉันรีบวิ่งเข้าไปหลังร้านขออนุญาต
แม่กับพี่เก้าไปหาฟรังดีกว่า..ขอบคุณนะคะพี่ตาล
มาได้จังหวะพอดี..
ฟรัง..
อืม..ริมฝีปากนุ่มที่กำลังกระซิบเสียงแผ่วเบาที่ข้างหูฉัน
ว่าไงนะ..อ่า..คิดถึงจัง..ใช่คำนี้หรือเปล่า..
อืม..สัมผัสนิ่มราวปุยนุ่นหอมหวานกลิ่นลูกอมรสนม
แตะแต้มลงบนริมฝีปากฉัน..ฉันรู้นะว่าเป็นเธอ
ปลายลิ้นแทรกผ่านความหอมหวานมือฉันโน้มคอ
เด็กที่ชอบขโมยจูบฉันยามฉันหลับ ..
คราวนี้ต้องจับเอาไว้ไม่ให้หนีไปไหน..ผมยาวของเธอที่ละใบหน้าของฉัน
กลิ่นหอมๆแบบนี้ฉันจำได้..อยากลืมตาดูแก้มป่องที่แดงระเรื่อ
แต่ตาฉันหนักเกินไปทำได้เพียงควานลิ้นนุ่มดูดกลืนความหอมหวาน
จากรสลิ้นของเธอ..แพรวา
ฉันบิดตัวลืมตาขึ้นอมยิ้มให้กับคนที่นอนกอดฉันหลับปุ๋ย
น่ารักจัง ฉันพลิกตัวกอดแพรวาเอาไว้..จูบเบาๆที่หน้าผากเธอ
แพรวาค่อยๆลืมตาขึ้นยื่นหน้าอมยิ้มจุ๊บปากฉันแล้วซุกหน้าลงที่อก
"รู้ไหมว่าคิดถึงมาก"..แพรวาถามในสิ่งที่ฉันเองก็รู้สึก
"อืม..คืนนี้ค้างเปล่า"..แพรวาพยักหน้า
"งั้นคืนนี้ไปส่งวิญญาณแมวผีกับฉันนะ" ฉันนี่ช่างโรแมนติกซะเหลือเกิน
"ไปซิ..เสร็จจากส่งวิญญาณแล้วหัดทำอย่างอื่นบ้างนะ"
หือ???..ยังมีอะไรที่ฉันไม่เคยทำด้วยเหรอ???
*คฤหาสน์นายอำเภอปั่ง*00:00
เจี๊ยบ..
ในค่ำคืนนี้ฉันกำลังจะล้างอดีตที่ปู่ฉันก่อไว้ให้กลายเป็นเถ้าถ่าน
ปลดปล่อยทุกดวงวิญญาณที่ทุกข์ตรม..
ท่ามกลางวงล้อมของมิตรที่มาร่วมพิธีฟรังจุดธูปเทียนเริ่มพิธี
"พี่เจี๊ยบตั้งสมาธิให้มั่นขออโหสิกรรมต่อดวงวิญญาณด้วยนะคะ"
ฉันทำตามขั้นตอนที่ฟรังแนะนำ..
จนกระทั่งฟรังบริกรรมคาถาเสร็จสิ้นปรากฎฝูงแมวนับร้อย
อยู่เต็มไปหมดพวกมันนั่งสงบนิ่งเหมือนกำลังรอคอยการปลดปล่อย
"ไปกันเถอะค่ะพี่เจี๊ยบ"..ขันทองเด็กน้อยจอมพลัง
ยกแกลอนน้ำมัน50ลิตรวิ่งเข้าไปในบ้านโดยไม่กลัวเกรงใดๆทั้งสิ้น
หนูน้อยสาดน้ำมันอย่างสนุกสนาน..
"นี่คะพี่เจี๊ยบเทียนอาคมใช้จุดเผาที่นี่"
ฉันรับมาแล้วจุดลงบนพื้นที่มีเชื้อเพลิงราดเอาไว้
ประกายเพลิงวิ่งเป็นทางยาวล่ามไปทั่ว..
พวกเรารีบออกไปด้านนอกยืนไว้อาลัยให้กับ
ลูกไฟสีเขียวที่ลอยล่องออกมาจากกองเพลิง
หายไปในอากาศ..
บ้านหลังใหญ่ที่ฉันเคยอยู่ในสมัยเด็กตอนนี้ถูกเปลวไฟเผาทำลาย
เหลือเพียงซากปรักหักพังดำเป็นตอตะโก..
ฉันรู้สึกหดหู่ใจอย่างบอกไม่ถูก..
อ่า..ฉันก้มมองมือนุ่มที่จับมือฉันเอาไว้ก้อยยิ้มให้ฉัน
แล้วบีบมือเบาๆเธอส่งกำลังใจโดยไม่พูดอะไร..
เพียงเท่านี้หัวใจฉันก็กลับมามีเรี่ยวแรงอีกครั้ง
"พี่คงต้องอาศัยอยู่บ้านฟรังอีกพักใหญ่เลยล่ะ"
ฉันพูดกับฟรังที่มีแพรวากอดแขนอยู่เคียงข้าง
เมื่อก่อนเคยอิจฉาคู่นี้แต่ตอนนี้ไม่แล้วล่ะ
เพราะฉันมีคนๆนั้นแล้วผู้หญิงที่อยู่ข้างๆฉันตอนนี้
"อยู่ตลอดไปเลยก็ได้ค่ะ"..นี่ใช่ไหมคือคำพูดของมิตรแท้
"ขอบใจนะฟรัง"..ขอบใจนะก้อย..ขอบใจนะทุกๆคน
ที่เป็นดั่งกุญแจชีวิตปลดล็อคหัวใจของฉันให้ติดปีกโบยบิน
หลุดพ้นจากความทุกข์ที่จองจำ...
~~~~~~~~~~~~~~~~~~
จบตอนคร๊าบตามคำเรียกร้องตอนหน้า
เบลล์ฝนจะกลับมาใน..ศึกกุมารเทพ..
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น