ลำดับตอนที่ #17
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : คฤหาสน์แมวผี 2
*คฤหาสน์นายอำเภอปั่ง*18:00
เอี๊ยด...จิ๊ปทหารเบรคล้อลากฝุ่นลูกรังสีแดงตลบ
หน้าประตูที่ปกคลุมด้วยป่ากกและเถาไม้เลื้อยนานาชนิด
หญิงสาวมาดเท่ในชุดสีกากีเครื่องแบบข้าราชการ..
ก้าวขายาวๆลงจากรถจี๊ป..
แว่นเรย์แบนสีดำถูกย้อมด้วยฝุ่นสีแดงหน้าตาเปอะเปื้อน
ไปด้วยฝุ่นลูกรังเธอปัดแบบลวกๆไม่ใคร่สนใจซักเท่าไหร่
แต่สิ่งที่เธอให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่งคือคฤหาสน์หลังโต
ที่ตั้งอยู่ตรงหน้าของเธอ..
เพราะเธอคือทายาทที่รับมรดก..คฤหาสน์ผีสิง..
เจี๊ยบ ลลนา ปลัดอำเภอคนใหม่ของบ้านด่านช้าง
~~~~~~~~~~~~~~~~~
เจี๊ยบ..
เก่ามาก..ฉันยืนมองตึกหลังโตรูปแบบโบราณ
ที่อยู่ตรงหน้ามรดกที่ปู่ปั่งยกให้ฉัน
คงเพราะสีที่เก่าซอมซ่อและแบบทรงของตึก
ทำให้ชาวบ้านล่ำลือกันว่าที่นี่ผีดุ!!..
อันนี้เป็นคำบอกเล่าจากปลัดอาวุโสที่เกษียณอายุเตือนฉันด้วยความหวังดี
แต่ด้วยความที่ฉันเป็นคนไม่กลัวผีเพราะถึงมันจะมีอยู่จริงฉันก็ไม่ใส่ใจ
ต่างคนต่างอยู่แต่ถ้ามันออกมาวุ่นวายกับฉันมันได้กินลูกตะกั่ว!!
ตายอีกรอบแน่!!..
"พี่ชาย!มาทำอะไรที่นี่เหรอ?" ..
ฉันหันไปมองเสียงเด็กเล็กๆทักทายฉันอยู่ด้านหลัง
เด็กผู้หญิงตัวน้อยวัยซักสี่ห้าขวบหน้าตาน่ารักน่าชัง
มัดแกะสองข้างยืนกอดอกขมวดคิ้วทำหน้าเป็นเจ้าหนูน้อยทำไม?
แต่!!น่าตกใจนะที่เด็กตัวแค่นี้ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่แค่คนเดียว
พ่อแม่เด็กไปไหนเนี่ย?..
ฉันรีบย่อตัวลงพูดคุยกับเด็กน้อยเพื่อหาข้อมูลทันที
งานชิันแรกของฉันคือพาเด็กคนนี้ส่งคืนพ่อแม่เธอ
เจี๊ยบ : ว่างัยคะตัวเล็กชื่ออะไรคะ?
ทำไมมาอยู่ตรงนี่คนเดียวพ่อแม่ไปไหนเอ่ย?
[หนูน้อยเลิกคิ้วขึ้นข้างนึงหรี่ตาบุ้ยปากใส่ฉันท่าทางแก่นกระโหลกน่าดู]
ขันทอง : หนูชื่อขันทองมาเดินเล่น!บ้านหนูอยู่แถวนี้แหละ!
เด็กกำพร้าพ่อแม่ไม่มี!อยู่กับพี่สาวแค่สองคน!
[นี่เด็กสมัยนี้พูดจาฉะฉานขนาดนี้เลยหรือเนี่ย?
แต่..ตอนที่เด็กน้อยพูดว่าเด็กกำพร้า..
แค่แว๊บเดียวที่แววตาเธอเศร้าๆน่าสงสารจัง]
ขันทอง : แล้วพี่เป็นใคร?ชื่ออะไร?มาทำไมที่นี่? เย็นป่านนี้แล้วไมไม่กลับบ้าน?
เดี๋ยวผีก็หลอกเอาหรอก!!แถวนี้ผีดุนะ!!
[โอโห!!ถามมาเป็นชุดเลยแหะแถมมีหลอกผีอีกนะเด็กเอ๊ยเด็ก]
เจี๊ยบ : พี่ชื่อเจี๊ยบเป็นเจ้าของบ้านนี้แหละจ้ะ
พี่กลับมาทำงานพัฒนาชุมชนที่นี่..อ้อพี่ไม่กลัวผีค่ะ
[เด็กน้อยพยักหน้าแบบกวนๆให้ฉัน]..
ขันทอง : ขอให้ไม่กลัวจริงเหอะ!ว่าแต่คืนนี้พี่จะนอนนี่เหรอ?
เจี๊ยบ : แล้วแถวนี้มีโรงแรมหรือโฮมสเตบ้างไหมคะเจ้าถิ่นตัวน้อย
[ฉันแกล้งถามกวนๆออกไปอารมณ์อยากแกล้งเด็กจอมแก่น]
ขันทอง : ไปค้างบ้านหนูป่ะล่ะวันนี้เพื่อนๆพี่สาวหนูมาค้างที่บ้าน
มีแต่สาวๆสวยๆนะจะบอกให้..แถมมีข้าวให้กินด้วยนะ
[เด็กคนนี่สุดยอดจริงๆเอาสาวๆมาล่อหลอกอีกนะ
แต่ก็น่าจะดีกว่าที่นี่เพราะดูจากสภาพล่ะไม่พร้อมอยู่เอาซะเลย]
เจี๊ยบ : โอเคตามนั้นว่าแต่ตัวเล็กจะคิดค่าหัวพี่เท่าไหร่คะ..
[เด็กน้อยทำหน้าคิดราคาดูจากหน้าตาล่ะน่าจะแพงเอาการ
สงสัยจะหมดตัวแน่งานนี้นี่คิดถูกคิดผิดล่ะเนี่ย
คบเด็กสร้างบ้านหรือเปล่าเรา?]
ขันทอง : แค่อนุญาตให้หนูเข้าไปวิ่งเล่นในบ้านพี่ได้ตลอด24ช.ม.ก็พอ
[อ๊ะ!!เด็กคนนี้แปลกจัง!!ใครๆก็ว่าที่นี่น่ากลัวจนไม่มีใครกล้าผ่าน
แต่เด็กน้อยนี่กลับอยากมาวิ่งเล่น พูดถึงมันก็ดีเหมือนกัน
มีเด็กซนๆวิ่งเล่นฉันจะได้ไม่เหงา]
เจี๊ยบ : ตกลงค่ะเจ้านายตัวน้อย..
ฉันอุ้มเด็กน้อยไปที่รถ..กลิ่นตัวของเด็กคนนี้หอมๆ
กลิ่นคล้ายๆกับน้ำอบ..ได้กลิ่นอ่อนๆแบบนี้ชวนง่วงนอนเลย
ฉันขับรถออกมาไกลพอสมควร..
เจี๊ยบ : ขันทองพาพี่หลงทางเปล่าคะเนี่ย?
ไหนว่าบ้านอยู่แถวนี้ไงนี่ออกมาไกลจากบ้านพี่หลายโลแล้วนะลูก
[เด็กน้อยนั่งเอามือไพล่หัวไขว้ห้างกระดิกเท้าไปมา
กำแล้วงะถูกเด็กเลี้ยงแกละหลอกแน่เรา]
ขันทอง : แค่นี้ทำบ่นไม่ได้เดินซักหน่อยแยกหน้าก็ถึงแล้ว
เจี๊ยบ : นี่อย่าบอกนะว่าเราไปวิ่งเล่นไกลขนาดนั้น!!
[ขันทองยักคิ้วยิ้มกวนๆให้ฉัน ไม่นะ!!นี่มันเหลือเชื่อเกินไปหรือเปล่า]
เรือนไทยไม้สักทองหลังใหญ่มีระเบียงและเรือนลูกล้อมรอบ
ตั้งอยู่กลางสวนไม้ผสมตามหลักทฤษฏีของพ่อหลวง
ฉันย่างเท้าตามเด็กน้อยแต่กวาดสายตาไปทั่วบริเวณบ้าน
เหล่าพืชไม้นานาพันธุ์ถูกจัดปลูกตามทุกมุมส่วนของพื้นที่
มีทั้งซุ้มผักไฮโดรโปรนิกส์ปลอดสารพิษ..
นี่มันบ้านตัวอย่างที่เข้าร่วมโครงการหลวงหรือเปล่านะ?
"ว๊ายๆ!!!..กรี๊ดดด!!"..ฮือ!!..ฉันที่มัวคิดอะไรเพลินๆก็ต้องขมวดคิ้ว
แหงนมองสิ่งที่อยู่บนหัว!!..
"อ้าว!!เห้ยๆ!!.."..!!!..
"กรี๊ด!!"..ตุ่บ!!..ฉันรีบอ้าแขนรับร่างผู้หญิงซุกซนคนนึงที่ร่วงจากกิ่งต้นมะม่วงไว้ได้ทัน
ดูท่าเธอจะตกใจมากหลับตาปี๋กอดฉันไว้แน่นเชียว!!
"นี่เธอ..ไม่เป็นไรแล้ว" ..
สาวน่าตาน่ารักค่อยๆลืมตาขึ้นน่ารักดีแฮะ
เราสองคนสบตากันแว๊บนึงที่หัวใจฉันเต้นแปลกๆ
"อ่า..ขอบคุณค่ะปล่อยก้อยลงได้แล้วค่ะ"
ฉันปล่อยเธอให้ลงยืนหลังจากที่รับมาอุ้มไว้นาน
เธอดึงชายกางเกงยีนขาสั้นลงยืนท่าเรียบร้อยเชียว
"ชื่อก้อยซินะ..พี่ชื่อเจี๊ยบยินดีได้รู้จักนะ".. ดูท่าเธอจะเขินนะนั้นแก้มแดงเชียว
เธอยกมือไหว้ฉันคงด้วยชุดที่ฉันใส่ด้วยมั้ง
"แล้วมานี่มีธุระกับฟรังรึเปล่าคะ?"
ใครกันนะฟรัง?..คงเป็นเจ้าของบ้าน..
"อืม..ก็ประมาณนั้นคือขันทองชวนฉันมาค้างที่นี่น่ะ"
เธอทำหน้าตกใจยิ้มแหย๋ๆส่ายตาล่อกแล่กไปมา
"มีอะไรหรือเปล่า?ถ้าไม่สะดวกฉันกลับก็ได้นะ"
ตาตี่ของเธอโตขึ้นโบกมือไปมา..
"ปะปะเปล่าค่ะ..ก้อยไม่ใช่เจ้าของบ้านไปหาฟรังกันดีกว่าค่ะ"
ก้อยรีบหมุนตัวไปยังเข่งผลมะม่วงเขียวเสวย
แต่ฉันไวกว่ารีบคว้าเข่งมายกเองเธออมยิ้มน้อยๆ
แล้วหลบสายตาของฉัน..เขินอีกแล้ว
ฟรัง..
ฉันกับแพรวายกมือไหว้พี่เจี๊ยบแขกพิเศษของยัยตัวแสบ
ฉันเหล่หน้าขันทองเด็กแผนสูงที่ไม่ละความพยายาม
จะทำสงครามกับคฤหาสน์ผีสิงนั่น..
แอบหนีไปคอยสอดส่องจนเจอเป้าหมายลากมาเกี่ยวพันจนได้
"พี่บอกหนูเองนร้าว่าให้เข้าตามตรอกออกตามประตูทีนี้เราก็ไม่โดน
ข้อหาบุกรุกแล้วใช่ป่ะ..อิอิ"
ยัยตัวร้ายส่งโทรจิตมากวนประสาทฉัน..
แถมทำเนียนนั่งกินขนมตุ้ยๆ อย่างสบายอารมณ์
เด็กอะไรกวนโมโหแท้!
"ขอบใจนะฟรังที่ให้พี่พักที่นี่จนกว่าบ้านจะเรียบร้อยน่ะ"
เซ้นฉันสัมผัสได้ถึงพลังคุณธรรมความดีในตัวพี่เจี๊ยบ
มันมีมากซะจนกลายเป็นเกาะธรรมคุณคอยปกป้อง
จากภยันอันตรายต่างๆ..คนดีๆแบบนี้ฉันจะไม่ช่วยได้ยังไง
"นี่เป็นการตอบแทนที่พี่มาทำงานช่วยเหลือชาวบ้านค่ะ"
ฉันรู้สึกยังไงก็พูดไปแบบนั้นพี่เจี๊ยบเป็นคนยิ้มเก่งอัธยาศัยดีมาก
พูดคุยเป็นกันเองอย่างเป็นธรรมชาติแต่พี่ก้อยนั่นซิ!!
เรียบร้อยจนผิดปกติ..ดูจากสายตาและแก้มแดงๆของพี่ก้อยแล้ว
เธอกำลังมีความรัก..ฉันกับแพรวาอมยิ้มให้กัน
แพรวาก็คงคิดเหมือนฉันแน่ๆเลย..
~~~~~~~~~~~~~~~~
คฤหาสน์นายอำเภอปั่ง..
ประกายตาวาวเย็นยะเยือกของสัตว์เดรัจฉานที่ซ่อนตัวภายใต้เงามืด
ของคฤหาสน์หลังเก่าที่ปล่อยทิ้งร้างมากว่ายี่สิบปี..
วิญญาณของพวกมันกำลังจ้องมองไปที่กลุ่มคนงาน
ที่เข้ามาซ่อมแซมความชำรุดทรุดโทรมของคฤหาสน์หลังนี้
"นายช่างครับเรือนหลังนั้นมีโซ่คล้องล็อคกุญแจไว้ครับ"
นายช่างหัวหน้าคนงานมองตามมือที่ชี้นำของลูกน้อง
"ทำส่วนอื่นไปก่อนแล้วกันรอถามปลัดก่อนว่าเปิดได้ไหม
ถ้าไม่ได้ค่อยใช้เครื่องตัดเหล็ก ตัดออก"
บุรุษร่างสูงวัยกลางคนที่เป็นนายช่างหมุนตัวเดินเข้าไปในตึก
ผ้าขาวที่ปิดคลุมฟอนิเจอร์ของใช้ที่ถูกทั้งฝุ่นและยักไย้เกาะเกี่ยว
ระโยงระยางเชื่อมใยแมงมุมจากการไม่มีคนดูแลให้กลาย
เป็นบ้านของพวกมันที่ชักสานใยจับจองเป็นเจ้าของ
ขั้นบันไดและราวจับเต็มไปด้วยฝุ่นเกาะตัวหนา
นายช่างผู้ดูแลงานซ่อมแซมเดินสำรวจตรวจตราจุดที่ชำรุด
เขาเดินย้ำเท้าขึ้นไปตามชั้นของขันบันได..
พลันหูเขาก็ได้ยินเสียงแปลกๆที่ลากอยู่บนพื้นของชั้นบน
เสียงลากนั้นดังเข้ามาใกล้ทุกขณะเขาหยุดชะงักบนบันไดขั้นที่แปด
ตาเขาเหลือกโพลงกับภาพที่ปรากฏตรงหน้า!
ฝูงแมวที่ลากทึ้งซากเน่าเปื่อยของศพ!พวกมันพุ่งกระโจนใส่ร่างของเขา
คมเล็บที่คมยาวเจาะฝังแน่นที่ใบหน้าฉีกกระชากจนหนังเนื้อหลุด
"อ๊าก!!..ชะ..ช่วย!!!"..คลึงๆ..ตุ่บ!!..ร่างของนายช่างภมรกลิ้งตกลงมาสู่พื้นล่าง
คอหักตาย!!..เสียงที่ดังกระหึ่มของเครื่องมือก่อสร้างกลบเสียงร้องของเขา
ครืดๆ..ร่างของเขาถูกฝูงสัตว์เดรัจฉานลากลงไปยังห้องใต้ดิน..
เลือดและเนื้อสดๆของมนุษย์ถูกพวกมันรุมแทะกินอย่างหิวกระหาย
อาหารรสเลิศที่น่าสยดสยอง..ผืนหนังท้องถูกฉีกกระชาก
เครื่องในมนุษย์ไหลทะลัก พวงไส้กับเลือดสีแดงสด
ถูกลากออกมากัดกินอย่างเอร็ดอร่อย..
ไม่นานฝูงแมวปีศาจนับร้อยก็จัดการมนุษย์คนนึง
จนเหลือแต่โครงกระดูก..
~~~~~~~~~~~~~~~~
18:00 น.
เจี๊ยบ..
ฉันรีบขับรถออกจากอำเภอหลังได้รับแจ้ง
จากคนงานว่านายช่างที่ไปซ่อมแซมบ้านปู่ของฉันหายตัวไป
พวกคนงานเดินหาตัวกันทั่วบ้านแล้วแต่ยังหาไม่เจอ
มันเกิดเรื่องอะไรกันนะ?..
ฉันมองถุงกระดาษของฝากใครบางคน
สุดท้ายฉันก็ต้องถอนหายใจออกมา
เหตุผลหนึ่งที่ฉันตัดสินใจมาประจำที่นี่
เพราะหนีหน้าใครบางคน..
แล้วตอนนี้ฉันกำลังเริ่มรู้สึกแบบนั้นอีกไม่เข็ดหรือไงกัน?
จะมีผู้หญิงซักคนที่เกิดมาเพื่อฉันบ้างไหม? เลิกคิดเหอะ!!
คนหายไปทั้งคนมัวมาคิดเรื่องบ้าอะไรแบบนี้กันล่ะ!!
ฉันไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกจากหัวสมองเร่งเหยียบคันเร่ง
ให้เร็วขึ้นเพื่อตามหานายช่างที่หายตัวไป..
ฉันเปิดคอนโซลที่เก็บของล้วงหยิบปืนลูกโหม่.38
ก่อนก้าวขาลงจากรถตรงดิ่งไปหากลุ่มคนงานที่เดินขวักไขว่
ตะโกนเรียกนายช่างภมร..เมื่อได้พูดคุยกับคนงานจึงได้ความว่า
ก่อนจะหายตัวไปมีคนเห็นว่านายช่างภมรเดินเข้าไปภายในตัวบ้าน
"พวกผมเดินหาทุกซอกทุกมุมข้างในบ้านแล้วนะคับ
แต่ไม่พบอะไรเลย"..
คนทั้งคนจะหายไปอย่างเฉยๆโดยไม่ทิ้งหลักฐานอะไรเลยหรือไง?
"นายช่างไม่ได้มีปากเสียงกับใครนะ?"
ทุกคนส่ายหน้าพร้อมกันฉันจึงตัดสินใจเดินเข้าไปในบ้าน
เผื่อเจอเบาะแสอะไรบ้าง..ใช่มันต้องมีเบาะแสซิ!!
บนพื้นที่ถูกฝุ่นหนาเกาะปรากฏรอยเท้าจำนวนมากแต่เอะ!!
รอยลากเป็นทางยาวนี่?..ฉันเดินตามรอยนั้นไปเรื่อยๆ
น่าแปลกรอยนั้นกับหยุดแค่ที่หน้าประตูห้องครัว
ฉันเดินเข้าไปสำรวจในครัวแต่ก็ไม่พบอะไรเลย
ฮึก!!..ความรู้สึกเหมือนกับว่ากำลังมีอะไรซักอย่าง
จับตามองฉันอยู่ฉันหันกลับไปมองด้านหลังอย่างไว!!
เฮ้อ!!..แมวสีสวาท!แมวใครกัน?..
มันหันหลังวิ่งกระโจนหนีหายไปด้วยความเร็ว
พวกเรายังค้นหาการหายตัวไปอย่างเป็นปริศนาของนายช่างภมร
"ปลัดครับผมว่าพวกเรากลับกันก่อนดีกว่าครับถ้ายังไงพรุ่งนี้
เราขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาช่วยค้นหาอีกแรงจะดีกว่านะครับ"..
ผู้ใหญ่องอาจที่เข้ามาช่วยค้นหารอบๆบริเวณเสนอความคิดในการหยุดค้นหา
ฉันมองดูนาฬิกาข้อมือจะสามทุ่มแล้วนี่ ฉันพยักหน้าหยุดภารกิจไว้ชั่วคราว
ขันทอง..
เกิดเรื่องจนได้ซินะ!!
"หนูบอกพี่สาวแล้วไอ้แมวปีศาจพวกนั้นปล่อยไว้ไม่ได้!!
ถ้าวันนี้หนูไม่จำศีลรับรองพวกมันจะไม่มีทางได้ฆ่าใครได้
ไปเจอก็เหลือแต่โครงกระดูกแล้ว!!"
หนูเอาแต่โมโหพอมองหน้าพี่ฟรังอีกทีก็ต้องหุบปากแทบไม่ทัน
น้ำตาพี่ฟรังหยดเปาะแววตาโกรธจัดแบบนั้นพี่สาวกำลังโกรธตัวเอง!!
มันน่าดีดปากตัวเองแท้ๆ..
"กลับมาแล้วจ้ะ"..พี่ก้อยหอบหิ้วของกินมาเพียบเลย
ตั้งแต่ปราบผีที่ร้านกงเต๊กพี่ก้อยก็กลายเป็นสมาชิก
ของพวกเราไปโดยปริยายตอนเช้าพี่ฟรังไม่ต้องรีบเหมือนก่อน
พี่ก้อยต้องไปเปิดร้านกงเต๊กจึงอาสาเอาของไปส่งให้เลยเพราะเป็นทางผ่าน
หนูชำเรืองมองหน้าพี่ฟรังอีกทีน้ำตาก็แห้งหายไปหมดแล้วไวแท้พี่สาวหนู
"ขันทองเตรียมตัวให้พร้อมคืนนี้เราจะไปจัดการมันกัน"
"เย้ๆ..พวกแกเสร็จแน่!!"..หนูกระโดดอย่างดีใจที่จะได้ออกไปยืดเส้นยืดสาย
"งานอะไรกันเหรอ?"พี่ก้อยทำหน้าสงสัยพวกเราพี่น้อง
ไม่มีความลับต่อกันอยู่แล้วหนูจึงเล่าเรื่องผีแมวให้พี่กัอยฟัง
"มีอะไรให้พี่ช่วยไหม?"..อ๊ะ!!เสียงรถของพี่เจี๊ยบ..
หนูยิ้มเจ้าเล่ห์..
"ช่วยหาข้าวหาน้ำให้พี่เจี๊ยบก็พอมั้ง..แบร่'
พี่ก้อยหน้าแดงแป๊ดทันทีทันใด...55+
เจี๊ยบ..
วันนี้เป็นวันที่ฉันเหนื่อยมากกังวลว่านายช่างภมรจะปลอดภัยหรือเปล่า?
ฉันก้าวขาลงจากรถอย่างหมดแรง..
"อ้าวฟรัง,ตัวเล็กจะไปไหนกันเหรอ?"
ฉันหยุดทักฟรังกับขันทองที่แต่งตัวสะพายกระเป๋า
เหมือนพวกเธอจะออกไปข้างนอก..
"ไปทำธุระนิดหน่อยค่ะ" ฉันพยักหน้าให้ฟรัง
เฮ้อเหนื่อยจังหิวด้วยป่านนี้ก้อยนอนยังนะ?
แค่คิดถึงหน้าคนขี้อายก็อดยิ้มออกมาไม่ได้
เธอจะรู้สึกเหมือนกันหรือเปล่านะ?
พอขึ้นมายังระเบียงบ้านฉันต้องชะงักเท้า
รู้สึกตื่นเต้นที่เห็นก้อย..
เธอนั่งเท้าค้างอยู่ที่เรือนศาลากลางบ้าน
กำลังส่งยิ้มตาปิดมาให้ฉัน..
เป็นฉันเองที่ประหม่ายืนนิ่งอยู่แบบนั้น
ในมือกำถุงของฝากแน่น..
เอาน่าลองเปิดใจอีกสักครั้งจะเป็นไรไป
สูดลมหายใจลึกๆแล้วเดินไปหาเธอ
ทำตามหัวใจอีกครั้งเถอะ...
*คฤหาสน์นายอำเภอปั่ง*22:30
ฟรัง..
เสียงร้องแห่งความเจ็บปวด! ความแค้น!ดังระงมออกมาจากตัวตึก
เสียงขู่ฟ่อๆของแมวปึศาจจำนวนมากพอๆกับกลิ่นไอมรณะสีดำ
ที่ปกคลุมคฤหาสน์หลังนี้..แต่เสียงสะอื้นของผู้หญิงนั่น!! ใครกัน?
"ลุยกันเถอะขันทอง" พอหันไปมองยัยตัวแสบเท่านั้นแหละ
ฉันต้องส่ายหน้าให้กับเด็กจอมเพี้ยน!!
ขันทองในชุดลายพลางของทหารมีทั้งมีดพกระเบิดมือรอบเอว!
แถมแบกปืนยิงระเบิดRPGกระบอกโต!
"แบบนั้นบ้านพี่เจี๊ยบไม่ย่อยยับหมดหรือไง?"
ขันทองยืนเต๊ะพยักหน้าอย่างน่าหมั่นไส้
ฉันเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่ายัยนี่เข้าใจที่ฉันพูดหรือเปล่า!
"พี่สาว!ขอร้องล่ะอย่าทำหน้าเครียดแบบนั้น"
อะไรของยัยนี่อีกล่ะ?จู่ๆก็ทำเสียงแอ็คโค่แบบนั้น!
"จะไม่ให้เครียดได้ไง!ก็เล่นขนขีปณาวุธมาซะ!!"
เด็กแสบหันมายิ้มทะเล้นให้ฉัน..
"โห!พี่สาวอ่ะมีแต่ระเบิดน้ำมนต์ทั้งนั้นทำเครียดไปได้..55+"
หึ!!คบเด็กสร้างบ้านแท้ๆ!!กวนประสาท!!
แค่ฉันกับขันทองเยื้องย่างเท้าเข้ามายังพื้นที่บริเวณคฤหาสน์
เงี้ยว!!!..ง๊าวว!!!...ฟ่อๆ!!!..ฝูงแมวผีนับร้อยๆตัว
ก็โจนทะยานกราดเกลื่อนบนหลังคาบ้าง
ระเบียงประตูหน้าต่างเต็มไปด้วยดวงตาที่เรืองแสงแดง
ยั้วเยี้ยเดินไต่กันเต็มไปหมด!!
"ไงล่ะพี่สาวหนูจำหน้ามันได้หมดทุกตัวเลยจะบอกให้!!"
ขันทองนี่จริงๆเลยที่หายๆไปนี่คงมาหมกทำประวัติแมวผีอยู่นี่เอง
เมื่อฉันสูดกลิ่นพยาบาทของมันเข้าไปจึงสัมผัสได้ทันทีว่า
"พวกมันถูกกักขังให้เฝ้าคฤหาสน์หลังนี้ไว้"
ฉันจึงสร้างเขตอาคมไม่ให้พวกมันเข้ามาก่อกวน
กำแพงอักขระอาคมสีเขียวเรืองแสงกลางคุ้มครองฉันกับขันทอง
ฉันจำเป็นต้องรู้ที่มาที่ไปของวิญญาณเหล่านี้ซะก่อน
ที่จะลงมือปราบพวกมัน..
ญาณสมาธิถูกรวมเข้าอยู่ในตำแหน่งระหว่าง
ดวงตากับหน้าผากเปิดเนตรดวงตาของสวรรค์
ญาณขั้นสูงที่ทำให้ฉันมองเห็นอดีตได้พรสวรรค์
ที่ติดตัวฉันมาตั้งแต่เกิดมีไว้เพื่อช่วยและปลดปล่อยวิญญาณ
ที่อยู่ในบ่วงกรรมการปลดปล่อยรวมถึงการปราบปราม
ที่กำหนดขอบเขตถ้าหากดวงวิญญาณทำเรื่องต้องห้าม
นั่นคือการทำร้ายมนุษย์เราสามารถใช้กฏในการปราบปราม
เข้ามาควบคุมพวกมันได้ทันที..
ภาพพื้นที่โล่งมีกลุ่มคนกำลังขุดหลุมขนาดเล็กแต่ลึกหลายสิบหลุม
ชายวัยกลางคนในชุดข้าราชการสมัยเมื่อห้าสิบปีที่แล้ว
ท่าทางน่าเกรงขามเดินเข้าในพื้นที่ปลูกสร้างพร้อมกลุ่มชายฉกรรณ์
ที่แบกกรงแมวนับสิบกรงใหญ่ ในแต่ละกรงมีแมวนับสิบตัวอัดแน่นอยู่ในนั้น
"หลุมเสาเอกเอากรงที่มันท้องใส่ลงไปนะโว้ย!!"
เสียงดังทรงอำนาจของเขาเริ่มสั่งงาน..
ความเชื่อผิดๆของคนที่ได้ชื่อเป็นมนุษย์ที่มีมันสมอง
กำลังกระทำการคร่าชีวิตสัตว์ตัวเล็กที่ไร้หนทางสู้
ภาพอำมหิตไร้ซึ่งความเมตตาธรรมกระทำเรื่องสยดสยอง!
"มานี่ๆเอากรงแมวท้องมานี่กูจัดการเองพวกมึงเอาพวกมันไปใส่เสาลูก
หลุมละเก้าตัวแมวเก้าชีวิตกับความก้าวหน้าเป็นใหญ่เป็นโต..55+"
ใบหน้าฉายแววอำมหิตผิดมนุษย์เมื่อเขาจับคอแมวท้องขึ้นมา
แววตาของมันช่างน่าสงสารเหลือเกิน มันได้แต่แหงนหน้ามอง
ส่งเสียงร้องเมี๊ยวๆด้วยความเชื่องแต่กลับไม่ได้รับความเอ็นดู
จากเขาเลยซักนิดพวกมันถูกจับโยนลงไปทับกันอยู่ก้นหลุม
เสียงร้องเมี๊ยวๆคือสัญญาณขอความช่วยเหลือแต่สิ่งที่ได้รับ!!
แท่งปูนขนาดใหญ่ที่กระแทกทับพวกมันจนร่างแหลกเละ
ตายอนาถอยู่ในหลุมใต้เสาใหญ่มรณะ!!..
"บ้าสิ้นดี!!"...
ขันทอง..
หนูสะดุ้งตกใจเมื่อพี่ฟรังคำรามเสียงดังอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ตัวของพี่ฟรังสั่นๆน้ำตาไหลอาบแก้มทั้งสองข้าง
พี่สาวหนูเห็นอะไร?..ดูเหมือนจะโกรธมากกับสิ่งที่เห็น.
มันคืออะไรกัน? พี่ฟรังลืมตาขึ้นปากพี่ฟรังสั่นๆ!!
"พวกมันเอาแมวเป็นๆบางตัวท้องแก่ด้วยซ้ำใส่ลงไปในหลุมเสาบ้าน!!"
ห๊ะ!!..หนูทิ้งปืนที่แบกเอาไว้ร่วงไปกองอยู่กับพื้น..
นี่หรือการกระทำของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์!!
"โหดร้าย!!โหดร้ายเกินไปแล้ว!!..ฮือๆ..หนูไม่อยากช่วยคนอีกแล้ว!!"
พี่ฟรังดึงหนูไปกอดเอาไว้พี่สาวลูบหลังให้หนูเบาๆ
"สังคมมนุษย์มีทั้งคนดีและคนไม่ดีอยู่รวมกัน
ยังไงพวกเราก็ต้องทำความดีต่อไปเพื่อไถ่บาป
ให้กับสัตว์โลกที่ถูกมนุษย์เบียดเบียน..
ทำเถอะความดีเพราะคนดีมีน้อยถ้าเรานิ่งเฉย
คนดีๆเรื่องดีๆก็จะหายไปอีก..
ขันทองเข้าใจที่พี่พูดใช่ไหมเราต้องเป็นส่วนหนึ่ง
ของกลุ่มคนดีที่มีอยู่บนโลกที่โหดร้ายใบนี้นะ"
หนูกอดคอพี่ฟรังเอาไว้แน่นถึงหนูจะยังเด็ก
แต่หนูก็เข้าใจในสิ่งที่พี่ฟรังบอก..หนูเข้าใจดี
เพราะถ้าไม่ได้คนดีๆอย่างพี่สาวยื่นสองมือมาอุ้มหนูออกจากกองขยะ
ในวันนั้นป่านนี้หนูคงกลายเป็นผีเร่ร่อนเนื้อตัวเหม็นเน่า
ลอยไปลอยมาอยู่ตามข้างทางคอยหลอกหลอนคนอื่นแน่ๆ
"อืม..หนูรู้หนูไม่ทิ้งให้พี่สาวเหนื่อยคนเดียวอยู่แล้ว"
ฟรัง..
ฉันเช็ดน้ำตาให้กับขันทองน้อยฉันรู้ถึงความขมขื่น
ของเด็กคนนี้แต่เพราะความเข้มแข็งขันทองจึงได้แต่เก็บ
ความเจ็บปวดเอาไว้ในใจวิ่งเล่นซุกซนไปวันๆ..
"แล้วเราจะช่วยพวกมันได้ยังไงล่ะพี่สาวเพราะหนทางเดียว
ที่จะปลดปล่อยพวกมันได้คือต้องทำลายคฤหาสน์หลังนี้เท่านั้น"
ถูกอย่างที่ขันทองพูดต้องทำพิธีประชุมเพลิงส่งวิญญาณ
โดยการทำลายสุสาน ที่ฝังพวกมันเอาไว้!
"ตอนนี้ทำได้แค่สวดแผ่กุศลให้ดวงวิญญาณสงบเสียก่อน
เรื่องที่พวกมันมีพลังถึงกับฆ่าคนได้มันต้องมีอะไรที่มากกว่านั้น"
ฉันบริกรรมคาถาแผ่ส่วนกุศลให้กับแมวผี
ฝูงแมวผีค่อยๆหายไป..
จากที่จับกลุ่มก็เดินแยกย้ายหายเข้าไปในกำแพงบ้าน
ฉันกับขันทองช่วยกันนำสายสินและข้าวสารเสก
ไปขึงและโรยข้าวสารเสกไว้โดยรอบสร้างเขตกักกัน
ไม่ให้แมวผีออกไปทำร้ายใครได้อีก..
"พี่สาวเรือนหลังนั้นไงที่หนูเล่าให้ฟังมันมีพลังบางอย่างอยู่ในนั้น
หนูเข้าไปไม่ได้พลังมันคล้ายกับพ่อปู่บ้านเราไม่ทำร้ายแต่ห้าม
ไม่ให้เข้าไป"..จริงอย่างที่ขันทองบอกเพราะฉันสัมผัสได้กับพลังสีขาว
ใช่ไสยเวทย์ฝ่ายขาว!แต่ทำไมถึงนำไปใช้ทำเรื่องชั่วร้ายฆ่าคน..
ทั้งที่เป็นฝ่ายขาวแท้ๆเพราะอะไร?..
"พี่ไม่เห็นอะไรไปมากกว่านี้ต้องเปิดห้องนี้ออกแล้วสัมผัสโดยตรงเท่านั้น
ที่นี่ถูกอาคมปิดเอาไว้"..ใครกันนะที่เป็นคนทำ!!
"ขันทองเรากลับกันก่อนเถอะบางทีเราคงต้องเล่าเรื่องนี้ให้พี่เจี๊ยบฟัง"
ไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องราวจะมีเงื่อนงำขนาดนี้!!
คืนนี้ฉันคงทำได้แค่นี้เรื่องนี้จะจบหรือไม่ขึ้นอยู่กับพี่เจี๊ยบคนเดียว
ปมจะถูกแกะออกต้องได้รับความร่วมมือจากเจ้าของคฤหาสน์!!
ในขณะที่ฉันกับขันทองเดินขึ้นมายังระเบียงบ้าน
พลันฉันได้ยินเสียงบริกรรมคาถา!!..ฉันหยุดฝีเท้ากึกมองหน้าขันทอง
คาถาต้องห้าม!!..คาถาเชิญวิญญาณ!!..คาถาเชื่อมระหว่างโลก
มนุษย์กับโลกวิญญาณ!!..มันดังออกมาจากห้องของพี่เจี๊ยบ!!
ไม่จริง!!..
เจี๊ยบ..
ปัง!!..ฉันหยุดสวดมนต์ล้วงปืนใต้หมอนเล็งไปที่ผู้บุกรุก!!
แต่แล้วต้องรีบลดปืนลงต่ำเมื่อคนๆนั้นคือ..
"ฟรัง!!"..ทำไมถึงทำหน้าแบบนั้นมองฉันเหมือนกับ
ฉันทำอะไรผิดยังงั้น..
"พี่เจี๊ยบทำแบบนี้ทำไมคะ?"..เป็นคำถามที่ทำให้ฉันงง
"พี่ทำอะไร..พี่ทำอะไรเหรอ?"..ฟรังกัดริมฝีปากเดินตรงดิ่งเข้ามาจนฉันต้องถอยหลัง
แต่เธอกับก้มลงหยิบสมุดสวดมนต์เล่มเก่าที่ปู่ให้ฉันไว้ขึ้นมา
เธอหลับตานานจนฉันเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าเธอเป็นอะไร..
"แบบนี้นี่เอง.." อะไรของเด็กคนนี้นะ?..
"ขอโทษนะคะที่ทำให้ตกใจแต่เรามีเรื่องต้องคุยกันยาวเลยคะ"
ฉันงงไปหมดแล้วนี่มันเรื่องอะไรกัน?
ฟรังเป็นอะไรบุกเข้ามาอย่างโมโหพูดจาแปลกๆ
แต่พอหยิบสมุดสวดมนต์ขึ้นมาท่าทางก็เปลี่ยนไป
"พี่งงไปหมดแล้วนะฟรังมันเรื่องอะไรกัน?
แล้วสมุดสวดมนต์นั้นเกี่ยวอะไรด้วย?"
ฟรังยืนหน้านิ่งก่อนเดินมาจับมือฉันดึงไปนั่งลงบนเตียง
"พี่เจี๊ยบทำใจให้สบายก่อนค่ะมันอาจจะเหลือเชื่อ
แต่เชื่อเถอะว่าพี่เจี๊ยบจะเชื่อทุกคำพูดที่หนูจะเล่าให้ฟัง
พี่เจี๊ยบคือกุญแจสำคัญที่จะจบเรื่องทั้งหมดค่ะ"
ฉันคือกุญแจ??
ฟรัง..
"สมุดเล่มนี้ไม่ใช่บทสวดมนต์หรอกนะคะ แต่มันคือคาถาไสยเวทย์ของสายขาว
คนที่มีดวงจิตบริสุทธิ์เท่านั้นที่จะสามารถปลุกมนต์ของคาถาให้มีพลังได้
พี่เจี๊ยบคือคนที่ถูกเลือกมาค่ะจับมือหนูเอาไว้หลับตาตั้งสมาธิหนูจะพาพี่เจี๊ยบ
ไปดูเหตุการณ์ในอดีตที่ผ่านมา"
ฉันกับพี่เจี๊ยบนั่งหันหน้าเข้าหากันสองมือประสานจับกัน
รวบรวมสมาธิถอดกระแสจิตจูงมือของพี่เจี๊ยบฝ่าประตูกาลเวลา
ย้อนกลับไปในอดีต..
พ.ศ.2510
ณ.ตำบลด่านช้าง
ว่าที่นายอำเภอหนุ่มใหญ่ไฟแรงนามว่าปั่งลงมือปลูกคฤหาสน์ใหญ่
ให้สมกับตำแหน่งและฐานะด้วยความที่ในสมัยนั้น
เชื่อและศรัทธาในไสยศาสตร์นายอำเภอปั่งได้รับการบอกเล่า
ถึงวิธีการสร้างบริวารไว้คอยเฝ้าทรัพย์และเกื้อหนุนดวงชะตา
นำมาซึ่งตำแหน่งและชื่อเสียง..
ในวันที่ลงเสาเอกเขาได้กระทำการอันโหดเหี้ยม
โดยการสังเวยชีวิตแมวท้องแก่และหนึ่งในนั้น
เป็นแมวของเขาเองเขาโยนมันลงไปที่ก้นหลุม
และตรึงพวกมันด้วยเสาต้นใหญ่นับร้อยตัว
ตายอย่างน่าอนาถใจพวกมันถูกจองจำให้อยู่ใต้เสาบ้าน
เป็นบริวารเฝ้าทรัพย์ตามความเชื่อของเขา
ความโกรธแค้นพยาบาทของดวงวิญญาณแมวผี
ทำให้เกิดอาถรรพ์ต่างๆภายในคฤหาสน์ของเขา
พ่อของเขายิงตัวตายเพราะทนเสียงร้องโหยหวน
ของแมวผีนับร้อยตัวไม่ไหว..
ภรรยาของเขาคลอดลูกและเสียชีวิต
ตัวเขาเองก็เจอเหตุการณ์อาฆาตเกือบเอาชีวิตไม่รอด
คืนนึง..ในขณะที่เขายังคงนั่งทำงานอยู่ภายในห้องทำงาน
สิ่งของบางอย่างได้ตกกระทบพื้นเสียงดัง!..
เขาคิดว่ามีขโมยรอบเข้าบ้าน..เขาเปิดลิ้นชักโต๊ะทำงานหยิบปืนพก
เดินออกไปจากห้องลงบันไดไปที่ชั้นล่าง..
แมวนับร้อยยืนจังก้าพุ่งกระโจนหมายเอาชีวิตของเขา
แต่ด้วยอิทธิฤทธิ์แห่งเหรียญหลวงพ่อวัดปากน้ำที่เขาห้อย
ที่เป็นยันต์ปกป้องชีวิตของเขานายอำเภอปั่งจึงรอดพ้นความตาย
เมื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยคุ้มครองเขาอยู่เขาจึงย่ามใจจะใช้มันเป็นเครื่องมือ
ในการควบคุมผีแมวเหล่านั้นให้อยู่ในอาณัติคำสั่งของเขา..
เขาเริ่มศึกษาไสยเวทย์สายขาวแต่จนแล้วจนรอดเขาก็ไม่สามารถ
ใช้ไสยเวทย์นั้นได้เวลาผ่านไปยี่สิบปีลูกชายของเขาก็มีทายาท
กำเนิดเกิดมาเด็กน้อยเพศหญิงสองคน..
ลูกสาวฝาแฝดของเขาคนนึงได้เสียชีวิตตั้งแต่ออกมาจากท้องแม่
นายอำเภอปั่งผู้เป็นพ่อของชายหนุ่มได้นำร่างของหลานสาวที่เสียชีวิต
ไปย่างไฟร่ายคาถาที่ใช้ไม่ได้หมายสร้างกุมารทองไว้ต่อกรกับผีแมว
แต่วิญญาณนั้นไม่มีอิทธิฤทธิ์ใดๆเป็นเพียงดวงวิญญาณที่ถูกจองจำ
ไว้ด้วยตาแก่โง่ๆคนนึงที่ยึดความเชื่อตัวเองเป็นใหญ่!
ตั้งแต่หลานสาวเขาเข้ามาอยู่ในบ้านผีแมว
ไม่เคยปรากฏกายอีกเลยทำให้เขามั่นใจว่ามันเป็นเพราะกุมารที่เขาสร้างนั่นเอง
เขาจึงสร้างเรือนไม้หลังเล็กให้กับกุมารหลานสาวเขาแล้วปิดคล้องกุญแจอย่างดี
กันคนเข้าไปขโมยซากศพแห้งเกรียมนั้นไปจากเขาเพราะมันคือสิ่งวิเศษ
ที่เขาสร้างมันขึ้นมาด้วยมือของเขาเอง..
เขาคิดว่าเขาคือผู้วิเศษมีวิชาอาคมแก่กล้าจึงหมายมั่นปั้นมือ
ถ่ายทอดวิชาให้กับหลานสาวที่เจริญวัยได้7ขวบปี
ทายาทของเขาคนนี้เป็นนางฟ้าลงมาจุติผู้มีดวงจิตบริสุทธิ์
ที่ผีแมวสงบไม่ใช่เพราะสิ่งที่เขาสร้างแต่เป็นเพราะพลังธรรมคุณ
ในตัวเด็กที่เข้ามาอยู่ในคฤหาสน์หลังใหญ่ผีแมวจึงถูกตรึงด้วยพลังนั้น
เธอคือกุญแจที่จะปลดปล่อยความทุกข์ของเหล่าดวงวิญญาณ
ที่ถูกตาแก่ประสาทเสียจองจำ..
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
จบตอนครับ..อ่านตอนจบในตอนต่อไปนะคับ
"ปลัดครับผมว่าพวกเรากลับกันก่อนดีกว่าครับถ้ายังไงพรุ่งนี้
เราขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาช่วยค้นหาอีกแรงจะดีกว่านะครับ"..
ผู้ใหญ่องอาจที่เข้ามาช่วยค้นหารอบๆบริเวณเสนอความคิดในการหยุดค้นหา
ฉันมองดูนาฬิกาข้อมือจะสามทุ่มแล้วนี่ ฉันพยักหน้าหยุดภารกิจไว้ชั่วคราว
ขันทอง..
เกิดเรื่องจนได้ซินะ!!
"หนูบอกพี่สาวแล้วไอ้แมวปีศาจพวกนั้นปล่อยไว้ไม่ได้!!
ถ้าวันนี้หนูไม่จำศีลรับรองพวกมันจะไม่มีทางได้ฆ่าใครได้
ไปเจอก็เหลือแต่โครงกระดูกแล้ว!!"
หนูเอาแต่โมโหพอมองหน้าพี่ฟรังอีกทีก็ต้องหุบปากแทบไม่ทัน
น้ำตาพี่ฟรังหยดเปาะแววตาโกรธจัดแบบนั้นพี่สาวกำลังโกรธตัวเอง!!
มันน่าดีดปากตัวเองแท้ๆ..
"กลับมาแล้วจ้ะ"..พี่ก้อยหอบหิ้วของกินมาเพียบเลย
ตั้งแต่ปราบผีที่ร้านกงเต๊กพี่ก้อยก็กลายเป็นสมาชิก
ของพวกเราไปโดยปริยายตอนเช้าพี่ฟรังไม่ต้องรีบเหมือนก่อน
พี่ก้อยต้องไปเปิดร้านกงเต๊กจึงอาสาเอาของไปส่งให้เลยเพราะเป็นทางผ่าน
หนูชำเรืองมองหน้าพี่ฟรังอีกทีน้ำตาก็แห้งหายไปหมดแล้วไวแท้พี่สาวหนู
"ขันทองเตรียมตัวให้พร้อมคืนนี้เราจะไปจัดการมันกัน"
"เย้ๆ..พวกแกเสร็จแน่!!"..หนูกระโดดอย่างดีใจที่จะได้ออกไปยืดเส้นยืดสาย
"งานอะไรกันเหรอ?"พี่ก้อยทำหน้าสงสัยพวกเราพี่น้อง
ไม่มีความลับต่อกันอยู่แล้วหนูจึงเล่าเรื่องผีแมวให้พี่กัอยฟัง
"มีอะไรให้พี่ช่วยไหม?"..อ๊ะ!!เสียงรถของพี่เจี๊ยบ..
หนูยิ้มเจ้าเล่ห์..
"ช่วยหาข้าวหาน้ำให้พี่เจี๊ยบก็พอมั้ง..แบร่'
พี่ก้อยหน้าแดงแป๊ดทันทีทันใด...55+
เจี๊ยบ..
วันนี้เป็นวันที่ฉันเหนื่อยมากกังวลว่านายช่างภมรจะปลอดภัยหรือเปล่า?
ฉันก้าวขาลงจากรถอย่างหมดแรง..
"อ้าวฟรัง,ตัวเล็กจะไปไหนกันเหรอ?"
ฉันหยุดทักฟรังกับขันทองที่แต่งตัวสะพายกระเป๋า
เหมือนพวกเธอจะออกไปข้างนอก..
"ไปทำธุระนิดหน่อยค่ะ" ฉันพยักหน้าให้ฟรัง
เฮ้อเหนื่อยจังหิวด้วยป่านนี้ก้อยนอนยังนะ?
แค่คิดถึงหน้าคนขี้อายก็อดยิ้มออกมาไม่ได้
เธอจะรู้สึกเหมือนกันหรือเปล่านะ?
พอขึ้นมายังระเบียงบ้านฉันต้องชะงักเท้า
รู้สึกตื่นเต้นที่เห็นก้อย..
เธอนั่งเท้าค้างอยู่ที่เรือนศาลากลางบ้าน
กำลังส่งยิ้มตาปิดมาให้ฉัน..
เป็นฉันเองที่ประหม่ายืนนิ่งอยู่แบบนั้น
ในมือกำถุงของฝากแน่น..
เอาน่าลองเปิดใจอีกสักครั้งจะเป็นไรไป
สูดลมหายใจลึกๆแล้วเดินไปหาเธอ
ทำตามหัวใจอีกครั้งเถอะ...
*คฤหาสน์นายอำเภอปั่ง*22:30
ฟรัง..
เสียงร้องแห่งความเจ็บปวด! ความแค้น!ดังระงมออกมาจากตัวตึก
เสียงขู่ฟ่อๆของแมวปึศาจจำนวนมากพอๆกับกลิ่นไอมรณะสีดำ
ที่ปกคลุมคฤหาสน์หลังนี้..แต่เสียงสะอื้นของผู้หญิงนั่น!! ใครกัน?
"ลุยกันเถอะขันทอง" พอหันไปมองยัยตัวแสบเท่านั้นแหละ
ฉันต้องส่ายหน้าให้กับเด็กจอมเพี้ยน!!
ขันทองในชุดลายพลางของทหารมีทั้งมีดพกระเบิดมือรอบเอว!
แถมแบกปืนยิงระเบิดRPGกระบอกโต!
"แบบนั้นบ้านพี่เจี๊ยบไม่ย่อยยับหมดหรือไง?"
ขันทองยืนเต๊ะพยักหน้าอย่างน่าหมั่นไส้
ฉันเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่ายัยนี่เข้าใจที่ฉันพูดหรือเปล่า!
"พี่สาว!ขอร้องล่ะอย่าทำหน้าเครียดแบบนั้น"
อะไรของยัยนี่อีกล่ะ?จู่ๆก็ทำเสียงแอ็คโค่แบบนั้น!
"จะไม่ให้เครียดได้ไง!ก็เล่นขนขีปณาวุธมาซะ!!"
เด็กแสบหันมายิ้มทะเล้นให้ฉัน..
"โห!พี่สาวอ่ะมีแต่ระเบิดน้ำมนต์ทั้งนั้นทำเครียดไปได้..55+"
หึ!!คบเด็กสร้างบ้านแท้ๆ!!กวนประสาท!!
แค่ฉันกับขันทองเยื้องย่างเท้าเข้ามายังพื้นที่บริเวณคฤหาสน์
เงี้ยว!!!..ง๊าวว!!!...ฟ่อๆ!!!..ฝูงแมวผีนับร้อยๆตัว
ก็โจนทะยานกราดเกลื่อนบนหลังคาบ้าง
ระเบียงประตูหน้าต่างเต็มไปด้วยดวงตาที่เรืองแสงแดง
ยั้วเยี้ยเดินไต่กันเต็มไปหมด!!
"ไงล่ะพี่สาวหนูจำหน้ามันได้หมดทุกตัวเลยจะบอกให้!!"
ขันทองนี่จริงๆเลยที่หายๆไปนี่คงมาหมกทำประวัติแมวผีอยู่นี่เอง
เมื่อฉันสูดกลิ่นพยาบาทของมันเข้าไปจึงสัมผัสได้ทันทีว่า
"พวกมันถูกกักขังให้เฝ้าคฤหาสน์หลังนี้ไว้"
ฉันจึงสร้างเขตอาคมไม่ให้พวกมันเข้ามาก่อกวน
กำแพงอักขระอาคมสีเขียวเรืองแสงกลางคุ้มครองฉันกับขันทอง
ฉันจำเป็นต้องรู้ที่มาที่ไปของวิญญาณเหล่านี้ซะก่อน
ที่จะลงมือปราบพวกมัน..
ญาณสมาธิถูกรวมเข้าอยู่ในตำแหน่งระหว่าง
ดวงตากับหน้าผากเปิดเนตรดวงตาของสวรรค์
ญาณขั้นสูงที่ทำให้ฉันมองเห็นอดีตได้พรสวรรค์
ที่ติดตัวฉันมาตั้งแต่เกิดมีไว้เพื่อช่วยและปลดปล่อยวิญญาณ
ที่อยู่ในบ่วงกรรมการปลดปล่อยรวมถึงการปราบปราม
ที่กำหนดขอบเขตถ้าหากดวงวิญญาณทำเรื่องต้องห้าม
นั่นคือการทำร้ายมนุษย์เราสามารถใช้กฏในการปราบปราม
เข้ามาควบคุมพวกมันได้ทันที..
ภาพพื้นที่โล่งมีกลุ่มคนกำลังขุดหลุมขนาดเล็กแต่ลึกหลายสิบหลุม
ชายวัยกลางคนในชุดข้าราชการสมัยเมื่อห้าสิบปีที่แล้ว
ท่าทางน่าเกรงขามเดินเข้าในพื้นที่ปลูกสร้างพร้อมกลุ่มชายฉกรรณ์
ที่แบกกรงแมวนับสิบกรงใหญ่ ในแต่ละกรงมีแมวนับสิบตัวอัดแน่นอยู่ในนั้น
"หลุมเสาเอกเอากรงที่มันท้องใส่ลงไปนะโว้ย!!"
เสียงดังทรงอำนาจของเขาเริ่มสั่งงาน..
ความเชื่อผิดๆของคนที่ได้ชื่อเป็นมนุษย์ที่มีมันสมอง
กำลังกระทำการคร่าชีวิตสัตว์ตัวเล็กที่ไร้หนทางสู้
ภาพอำมหิตไร้ซึ่งความเมตตาธรรมกระทำเรื่องสยดสยอง!
"มานี่ๆเอากรงแมวท้องมานี่กูจัดการเองพวกมึงเอาพวกมันไปใส่เสาลูก
หลุมละเก้าตัวแมวเก้าชีวิตกับความก้าวหน้าเป็นใหญ่เป็นโต..55+"
ใบหน้าฉายแววอำมหิตผิดมนุษย์เมื่อเขาจับคอแมวท้องขึ้นมา
แววตาของมันช่างน่าสงสารเหลือเกิน มันได้แต่แหงนหน้ามอง
ส่งเสียงร้องเมี๊ยวๆด้วยความเชื่องแต่กลับไม่ได้รับความเอ็นดู
จากเขาเลยซักนิดพวกมันถูกจับโยนลงไปทับกันอยู่ก้นหลุม
เสียงร้องเมี๊ยวๆคือสัญญาณขอความช่วยเหลือแต่สิ่งที่ได้รับ!!
แท่งปูนขนาดใหญ่ที่กระแทกทับพวกมันจนร่างแหลกเละ
ตายอนาถอยู่ในหลุมใต้เสาใหญ่มรณะ!!..
"บ้าสิ้นดี!!"...
ขันทอง..
หนูสะดุ้งตกใจเมื่อพี่ฟรังคำรามเสียงดังอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ตัวของพี่ฟรังสั่นๆน้ำตาไหลอาบแก้มทั้งสองข้าง
พี่สาวหนูเห็นอะไร?..ดูเหมือนจะโกรธมากกับสิ่งที่เห็น.
มันคืออะไรกัน? พี่ฟรังลืมตาขึ้นปากพี่ฟรังสั่นๆ!!
"พวกมันเอาแมวเป็นๆบางตัวท้องแก่ด้วยซ้ำใส่ลงไปในหลุมเสาบ้าน!!"
ห๊ะ!!..หนูทิ้งปืนที่แบกเอาไว้ร่วงไปกองอยู่กับพื้น..
นี่หรือการกระทำของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์!!
"โหดร้าย!!โหดร้ายเกินไปแล้ว!!..ฮือๆ..หนูไม่อยากช่วยคนอีกแล้ว!!"
พี่ฟรังดึงหนูไปกอดเอาไว้พี่สาวลูบหลังให้หนูเบาๆ
"สังคมมนุษย์มีทั้งคนดีและคนไม่ดีอยู่รวมกัน
ยังไงพวกเราก็ต้องทำความดีต่อไปเพื่อไถ่บาป
ให้กับสัตว์โลกที่ถูกมนุษย์เบียดเบียน..
ทำเถอะความดีเพราะคนดีมีน้อยถ้าเรานิ่งเฉย
คนดีๆเรื่องดีๆก็จะหายไปอีก..
ขันทองเข้าใจที่พี่พูดใช่ไหมเราต้องเป็นส่วนหนึ่ง
ของกลุ่มคนดีที่มีอยู่บนโลกที่โหดร้ายใบนี้นะ"
หนูกอดคอพี่ฟรังเอาไว้แน่นถึงหนูจะยังเด็ก
แต่หนูก็เข้าใจในสิ่งที่พี่ฟรังบอก..หนูเข้าใจดี
เพราะถ้าไม่ได้คนดีๆอย่างพี่สาวยื่นสองมือมาอุ้มหนูออกจากกองขยะ
ในวันนั้นป่านนี้หนูคงกลายเป็นผีเร่ร่อนเนื้อตัวเหม็นเน่า
ลอยไปลอยมาอยู่ตามข้างทางคอยหลอกหลอนคนอื่นแน่ๆ
"อืม..หนูรู้หนูไม่ทิ้งให้พี่สาวเหนื่อยคนเดียวอยู่แล้ว"
ฟรัง..
ฉันเช็ดน้ำตาให้กับขันทองน้อยฉันรู้ถึงความขมขื่น
ของเด็กคนนี้แต่เพราะความเข้มแข็งขันทองจึงได้แต่เก็บ
ความเจ็บปวดเอาไว้ในใจวิ่งเล่นซุกซนไปวันๆ..
"แล้วเราจะช่วยพวกมันได้ยังไงล่ะพี่สาวเพราะหนทางเดียว
ที่จะปลดปล่อยพวกมันได้คือต้องทำลายคฤหาสน์หลังนี้เท่านั้น"
ถูกอย่างที่ขันทองพูดต้องทำพิธีประชุมเพลิงส่งวิญญาณ
โดยการทำลายสุสาน ที่ฝังพวกมันเอาไว้!
"ตอนนี้ทำได้แค่สวดแผ่กุศลให้ดวงวิญญาณสงบเสียก่อน
เรื่องที่พวกมันมีพลังถึงกับฆ่าคนได้มันต้องมีอะไรที่มากกว่านั้น"
ฉันบริกรรมคาถาแผ่ส่วนกุศลให้กับแมวผี
ฝูงแมวผีค่อยๆหายไป..
จากที่จับกลุ่มก็เดินแยกย้ายหายเข้าไปในกำแพงบ้าน
ฉันกับขันทองช่วยกันนำสายสินและข้าวสารเสก
ไปขึงและโรยข้าวสารเสกไว้โดยรอบสร้างเขตกักกัน
ไม่ให้แมวผีออกไปทำร้ายใครได้อีก..
"พี่สาวเรือนหลังนั้นไงที่หนูเล่าให้ฟังมันมีพลังบางอย่างอยู่ในนั้น
หนูเข้าไปไม่ได้พลังมันคล้ายกับพ่อปู่บ้านเราไม่ทำร้ายแต่ห้าม
ไม่ให้เข้าไป"..จริงอย่างที่ขันทองบอกเพราะฉันสัมผัสได้กับพลังสีขาว
ใช่ไสยเวทย์ฝ่ายขาว!แต่ทำไมถึงนำไปใช้ทำเรื่องชั่วร้ายฆ่าคน..
ทั้งที่เป็นฝ่ายขาวแท้ๆเพราะอะไร?..
"พี่ไม่เห็นอะไรไปมากกว่านี้ต้องเปิดห้องนี้ออกแล้วสัมผัสโดยตรงเท่านั้น
ที่นี่ถูกอาคมปิดเอาไว้"..ใครกันนะที่เป็นคนทำ!!
"ขันทองเรากลับกันก่อนเถอะบางทีเราคงต้องเล่าเรื่องนี้ให้พี่เจี๊ยบฟัง"
ไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องราวจะมีเงื่อนงำขนาดนี้!!
คืนนี้ฉันคงทำได้แค่นี้เรื่องนี้จะจบหรือไม่ขึ้นอยู่กับพี่เจี๊ยบคนเดียว
ปมจะถูกแกะออกต้องได้รับความร่วมมือจากเจ้าของคฤหาสน์!!
ในขณะที่ฉันกับขันทองเดินขึ้นมายังระเบียงบ้าน
พลันฉันได้ยินเสียงบริกรรมคาถา!!..ฉันหยุดฝีเท้ากึกมองหน้าขันทอง
คาถาต้องห้าม!!..คาถาเชิญวิญญาณ!!..คาถาเชื่อมระหว่างโลก
มนุษย์กับโลกวิญญาณ!!..มันดังออกมาจากห้องของพี่เจี๊ยบ!!
ไม่จริง!!..
เจี๊ยบ..
ปัง!!..ฉันหยุดสวดมนต์ล้วงปืนใต้หมอนเล็งไปที่ผู้บุกรุก!!
แต่แล้วต้องรีบลดปืนลงต่ำเมื่อคนๆนั้นคือ..
"ฟรัง!!"..ทำไมถึงทำหน้าแบบนั้นมองฉันเหมือนกับ
ฉันทำอะไรผิดยังงั้น..
"พี่เจี๊ยบทำแบบนี้ทำไมคะ?"..เป็นคำถามที่ทำให้ฉันงง
"พี่ทำอะไร..พี่ทำอะไรเหรอ?"..ฟรังกัดริมฝีปากเดินตรงดิ่งเข้ามาจนฉันต้องถอยหลัง
แต่เธอกับก้มลงหยิบสมุดสวดมนต์เล่มเก่าที่ปู่ให้ฉันไว้ขึ้นมา
เธอหลับตานานจนฉันเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าเธอเป็นอะไร..
"แบบนี้นี่เอง.." อะไรของเด็กคนนี้นะ?..
"ขอโทษนะคะที่ทำให้ตกใจแต่เรามีเรื่องต้องคุยกันยาวเลยคะ"
ฉันงงไปหมดแล้วนี่มันเรื่องอะไรกัน?
ฟรังเป็นอะไรบุกเข้ามาอย่างโมโหพูดจาแปลกๆ
แต่พอหยิบสมุดสวดมนต์ขึ้นมาท่าทางก็เปลี่ยนไป
"พี่งงไปหมดแล้วนะฟรังมันเรื่องอะไรกัน?
แล้วสมุดสวดมนต์นั้นเกี่ยวอะไรด้วย?"
ฟรังยืนหน้านิ่งก่อนเดินมาจับมือฉันดึงไปนั่งลงบนเตียง
"พี่เจี๊ยบทำใจให้สบายก่อนค่ะมันอาจจะเหลือเชื่อ
แต่เชื่อเถอะว่าพี่เจี๊ยบจะเชื่อทุกคำพูดที่หนูจะเล่าให้ฟัง
พี่เจี๊ยบคือกุญแจสำคัญที่จะจบเรื่องทั้งหมดค่ะ"
ฉันคือกุญแจ??
ฟรัง..
"สมุดเล่มนี้ไม่ใช่บทสวดมนต์หรอกนะคะ แต่มันคือคาถาไสยเวทย์ของสายขาว
คนที่มีดวงจิตบริสุทธิ์เท่านั้นที่จะสามารถปลุกมนต์ของคาถาให้มีพลังได้
พี่เจี๊ยบคือคนที่ถูกเลือกมาค่ะจับมือหนูเอาไว้หลับตาตั้งสมาธิหนูจะพาพี่เจี๊ยบ
ไปดูเหตุการณ์ในอดีตที่ผ่านมา"
ฉันกับพี่เจี๊ยบนั่งหันหน้าเข้าหากันสองมือประสานจับกัน
รวบรวมสมาธิถอดกระแสจิตจูงมือของพี่เจี๊ยบฝ่าประตูกาลเวลา
ย้อนกลับไปในอดีต..
พ.ศ.2510
ณ.ตำบลด่านช้าง
ว่าที่นายอำเภอหนุ่มใหญ่ไฟแรงนามว่าปั่งลงมือปลูกคฤหาสน์ใหญ่
ให้สมกับตำแหน่งและฐานะด้วยความที่ในสมัยนั้น
เชื่อและศรัทธาในไสยศาสตร์นายอำเภอปั่งได้รับการบอกเล่า
ถึงวิธีการสร้างบริวารไว้คอยเฝ้าทรัพย์และเกื้อหนุนดวงชะตา
นำมาซึ่งตำแหน่งและชื่อเสียง..
ในวันที่ลงเสาเอกเขาได้กระทำการอันโหดเหี้ยม
โดยการสังเวยชีวิตแมวท้องแก่และหนึ่งในนั้น
เป็นแมวของเขาเองเขาโยนมันลงไปที่ก้นหลุม
และตรึงพวกมันด้วยเสาต้นใหญ่นับร้อยตัว
ตายอย่างน่าอนาถใจพวกมันถูกจองจำให้อยู่ใต้เสาบ้าน
เป็นบริวารเฝ้าทรัพย์ตามความเชื่อของเขา
ความโกรธแค้นพยาบาทของดวงวิญญาณแมวผี
ทำให้เกิดอาถรรพ์ต่างๆภายในคฤหาสน์ของเขา
พ่อของเขายิงตัวตายเพราะทนเสียงร้องโหยหวน
ของแมวผีนับร้อยตัวไม่ไหว..
ภรรยาของเขาคลอดลูกและเสียชีวิต
ตัวเขาเองก็เจอเหตุการณ์อาฆาตเกือบเอาชีวิตไม่รอด
คืนนึง..ในขณะที่เขายังคงนั่งทำงานอยู่ภายในห้องทำงาน
สิ่งของบางอย่างได้ตกกระทบพื้นเสียงดัง!..
เขาคิดว่ามีขโมยรอบเข้าบ้าน..เขาเปิดลิ้นชักโต๊ะทำงานหยิบปืนพก
เดินออกไปจากห้องลงบันไดไปที่ชั้นล่าง..
แมวนับร้อยยืนจังก้าพุ่งกระโจนหมายเอาชีวิตของเขา
แต่ด้วยอิทธิฤทธิ์แห่งเหรียญหลวงพ่อวัดปากน้ำที่เขาห้อย
ที่เป็นยันต์ปกป้องชีวิตของเขานายอำเภอปั่งจึงรอดพ้นความตาย
เมื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยคุ้มครองเขาอยู่เขาจึงย่ามใจจะใช้มันเป็นเครื่องมือ
ในการควบคุมผีแมวเหล่านั้นให้อยู่ในอาณัติคำสั่งของเขา..
เขาเริ่มศึกษาไสยเวทย์สายขาวแต่จนแล้วจนรอดเขาก็ไม่สามารถ
ใช้ไสยเวทย์นั้นได้เวลาผ่านไปยี่สิบปีลูกชายของเขาก็มีทายาท
กำเนิดเกิดมาเด็กน้อยเพศหญิงสองคน..
ลูกสาวฝาแฝดของเขาคนนึงได้เสียชีวิตตั้งแต่ออกมาจากท้องแม่
นายอำเภอปั่งผู้เป็นพ่อของชายหนุ่มได้นำร่างของหลานสาวที่เสียชีวิต
ไปย่างไฟร่ายคาถาที่ใช้ไม่ได้หมายสร้างกุมารทองไว้ต่อกรกับผีแมว
แต่วิญญาณนั้นไม่มีอิทธิฤทธิ์ใดๆเป็นเพียงดวงวิญญาณที่ถูกจองจำ
ไว้ด้วยตาแก่โง่ๆคนนึงที่ยึดความเชื่อตัวเองเป็นใหญ่!
ตั้งแต่หลานสาวเขาเข้ามาอยู่ในบ้านผีแมว
ไม่เคยปรากฏกายอีกเลยทำให้เขามั่นใจว่ามันเป็นเพราะกุมารที่เขาสร้างนั่นเอง
เขาจึงสร้างเรือนไม้หลังเล็กให้กับกุมารหลานสาวเขาแล้วปิดคล้องกุญแจอย่างดี
กันคนเข้าไปขโมยซากศพแห้งเกรียมนั้นไปจากเขาเพราะมันคือสิ่งวิเศษ
ที่เขาสร้างมันขึ้นมาด้วยมือของเขาเอง..
เขาคิดว่าเขาคือผู้วิเศษมีวิชาอาคมแก่กล้าจึงหมายมั่นปั้นมือ
ถ่ายทอดวิชาให้กับหลานสาวที่เจริญวัยได้7ขวบปี
ทายาทของเขาคนนี้เป็นนางฟ้าลงมาจุติผู้มีดวงจิตบริสุทธิ์
ที่ผีแมวสงบไม่ใช่เพราะสิ่งที่เขาสร้างแต่เป็นเพราะพลังธรรมคุณ
ในตัวเด็กที่เข้ามาอยู่ในคฤหาสน์หลังใหญ่ผีแมวจึงถูกตรึงด้วยพลังนั้น
เธอคือกุญแจที่จะปลดปล่อยความทุกข์ของเหล่าดวงวิญญาณ
ที่ถูกตาแก่ประสาทเสียจองจำ..
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
จบตอนครับ..อ่านตอนจบในตอนต่อไปนะคับ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น