ลำดับตอนที่ #16
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : คฤหาสน์แมวผี
เราอาจจะคุ้นเคยกับเรื่องเล่าอาถรรพ์แมวดำ
มันมักจะถูกโยนมาอยู่บนฝาโลงศพของหนังสยองขวัญ
ทำให้คนดูขนลุกไปตามๆกัน..แต่แมวดำไม่ใช่พระเอกของเรื่องนี้
แมวในเรื่องนี้จะสั่นประสาทมากน้อยแค่ไหน..มาตามดูกัน
~~~~~~~~~~~~~~~
*บ้านสวนของฟรัง*01:00
ภายใต้ท้องฟ้าที่ดาดดาไปด้วยแสงดาวระยิบระยับ
เด็กน้อยวัยซุกซนเกลือกกลิ้งตัวเองไปมาอยู่บนพื้นระเบียงไม้
ขันทอง..
"เฮ้อ..เมื่อไหร่พี่สาวจะกลับมาซักทีนร้า?"
หนูน้อยกำลังบ่นถึงพี่สาวที่ไปเข้าค่ายดูท่าทางเธอจะหาเรื่องซนซะมากกว่ากระมัง
ไม่ทันไรหนูน้อยก็ลุกขึ้นตีลังกาม้วนหน้าม้วนหลัง..
แล้วเธอก็หยุดนิ่งเหมือนคิดอะไรขึ้นมาได้
ขันทอง..
"ไปหาอะไรหนุกๆเล่นดีกว่า..เย้!!"
พูดเองเออเองแล้วก็วิ่งลงบันไดไปยังพื้นล่าง
เด็กน้อยวัยห้าขวบเดินเอามือไขว้หลังไปตามถนนดินลูกรัง
ท่ามกลางรัตติกาลที่มืดมิดหากว่าเป็นเด็กเล็กธรรมดา
คงคู้ตัวนอนหลับใหลอยู่ในอ้อมอกของผู้เป็นพ่อแม่
แต่สำหรับกุมาลีน้อยขันทองเวลาแบบนี้แหละที่เธอชอบ
ออกเที่ยวเล่นซุกซน..
แสงหิ่งห้อยที่บินรวมตัวกันกระพริบแสงวิบวับ
บินนำหน้าเด็กน้อยที่วิ่งไล่ตามอย่างสนุก
เธอกระโดดโลดเต้นไปตามทางเปลี่ยวที่มีต้นไม้ใหญ่รกทึบ
ภายในแมกไม้ที่ปกคลุมต้นเถาวัลระโยงระยางจากต้นหนึ่ง
ไปยังอีกต้นหนึ่งเส้นทางที่ไม่มีใครคิดผ่านยามค่ำคืน
นักสำรวจแสนซนกำลังค้นพบอะไรบางอย่าง
เธอทำจมูกฟุตฟิตเมื่อได้กลิ่นไอสาบสางโชยผ่าน
เด็กซนแหวกกอกกที่สูงท่วมหัว..
เดินตามกลิ่นที่สัมผัสได้..
ขันทอง..
"กลิ่นแรงขนาดนี้สงสัยเลเวลจะสูง..หนุกแน่งานนี้"
เด็กน้อยฉีกยิ้มเมื่อบุกฝ่าความรกร้างท่ามกลางความมืด
และสิ่งที่เธอค้นพบคือคฤหาสน์เก่าหลังใหญ่ที่ถูกปล่อยทิ้ง
จนถูกต้นไม้ใหญ่เล็กอีกทั้งไม้เถานาๆชนิดไต่ปกคลุม
ดังฉากบ้านผีสิงที่ตั้งตะหง่านสั่นประสาทผู้ผ่านทาง
ให้ขนหัวลุกด้วยความหวาดผวา..
แซก..แซก..พั่บ..พั่บ!!นกแสกหรือบ้างก็เรียกว่านกผี
ขย่มกิ่งไม้ตีปีกดังพรึ่บพั่บตามประสานกหลอนในตำนาน
ขันทองก้มลงเก็บก้อนดินขึ้นมาบรรจุลูกกระสุนใส่หนังกระติ๊ก
เล็งเป้าไปที่นกเจ้าถิ่น..ผัวะ!!..แซกๆๆ!!..พั่บๆ..
นกแสกดวงซวยคิดผิดที่คิดหลอกเด็กน้อยให้กลัว
เลยได้ลิ้มรสชาดก้อนดินเป็นค่าผ่านทาง บินหนีหายไปกับความมืด
ขันทอง..
"สมน้ำหน้า..รู้จักท่านขันทองน้อยไป!"
หนังกระติ๊กถูกแขวนห้อยคอก่อนจะบัดมือบัดไม้ให้กับชัยชนะในด่านแรก
หนูน้อยแทรกตัวผ่านประตูเหล็กผุพังถูกเกี่ยวพันด้วยต้นกระทกรก
หรืออีกชื่อหนึ่งก็คือเงาะป่า..ง้าววว~~..
ขันทองเงยหน้ามองขึ้นไปบนยอดหลังคาที่มาแห่งเสียงร้อง ของสัตว์สี่เท้า
ขันทอง..
"รอแป๊บนะ!!..เหมียวเดี๋ยวพี่จะขึ้นไปเล่นด้วย"
เด็กจอมซนปีนไต่ขึ้นไปตามกำแพงตึกเก่าด้วยความไวจนถึงยอดหลังคา
ขันทองจ้องสิ่งที่อยู่ตรงหน้า..
ขันทอง..
"หน้าตากวนอารมณ์นะแกเนี่ย!!"
ดวงตาเรืองแสงสีส้มในยามค่ำคืนของแมวปีศาจ
อาจสร้างความหวาดผวาให้แก่คนธรรมดา
แต่สำหรับหนูน้อยนามว่าขันทองช่างแตกต่างโดยสิ้นเชิง
ที่เห็นมันเหมือนตุ๊กตาที่เด็กจอมซนอยากจับมันเหวี่ยงไปมา
ให้สนุกมือขันทองน้อยค่อยๆย่องเด็กน้อย
กระโดดตะครุบหมายจับมันมาเป็นเพื่อนเล่น
แต่เธอคว้าได้เพียงอากาศเมื่อแมวกลายเป็นควันสีม่วง
สลายหายไปในอากาศ..เด็กน้อยเท้าเอวอย่างขัดใจ
เธอยังไม่ละความพยายามวิ่งไต่บนหลังคาห้อยโหนกับจั่วบ้าน
ก่อนดีดตัวเข้าทางหน้าต่างชั้นบนของคฤหาสน์..
เด็กน้อยเดินแตะฝุ่นหน้าตึ่บของพื้นบ้านไม้กระดานแผ่นผุ
ส่งเสียงดังเอี๊ยดอ๊าด..
หนูน้อยเดินสำรวจไปเรื่อยๆกระทั่งถึงหน้าประตูห้องๆหนึ่ง
เธอได้ยินเสียงแปลกๆเล็ดรอดออกมาจากภายในห้องๆนั้น
หนูน้อยขมวดคิ้วแนบหูกับประตู..
เสียงที่เธอได้ยินเป็นเสียงลากอะไรบางอย่างกับพื้นห้อง
เสียงดังครืด~~ครืด~~..
เพื่อให้คลายความสงสัยหนูน้อยจึงแง้มประตูเปิดดู
สิ่งที่เธอเห็นถ้าหากเป็นคนธรรมดาคงวิ่งป่าราบ
ไม่อยู่ดูจนจบเป็นแน่..
แมวผีหน้าตาประหลาดตัวเดิมที่อยู่บนหลังคา
ใช้ปากงับลากซากศพที่เนื้อหนังหลุดลุ่ย
เบ้าตามีหนอนชอนไชลูกตาห้อยโตงเตง..
โชยกลิ่นเหม็นเน่าจนหนูน้อยต้องบีบจมูกแน่น
ซากเละของศพกลายเป็นอาหารอันโอชะในค่ำคืนนี้
คงมีปาร์ตี้เพราะภายในห้องนั้นไม่ได้มีมันแค่ตัวเดียว
ยังมีแมวนาๆชนิดเดินยั้วเยี้ยจนเต็มห้อง!
รูปร่างแต่ละตัวเหมือนสัตว์ตายซากบางตัวก็ไร้ซึ่งตาดำ
บางตัวหน้าหายไปครึ่งเหมือนถูกทุบบางตัวคอถูกตัดห้อยร่องแร่ง
พวกมันเหมือนรู้ว่ามีคนแอบดูพวกมันอยู่แมวนับร้อย
หันมาจ้องมองที่ประตู..ขันทองถีบประตูผัวะเปิดออก
หนูน้อยตะโกนท้าทายอย่างไม่กลัวเกรง..
ขันทอง..
"แน่จริงก็จับให้ได้เด้!!แบร่!!..55+"..
พูดจบก็ใส่เกียร์วิ่งโกยอ้าวโดยมีฝูงแมวนับร้อย
วิ่งกรูไล่ตามหลังเด็กจอมซน..
หนูน้อยวิ่งหัวเราะด้วยความสนุกดังกับว่าวิ่งเล่นไล่จับกับเพื่อน
เธอวิ่งวนอยู่รอบบ้านสองขาเล็กวิ่งอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
เด็กฉลาดวิ่งไปสอดส่ายสายตาไปเธอมีคำถามในหัวสมองน้อยๆของเธอ
ทำไมที่นี่จึงมีแมวผีเยอะแยะขนาดนี้?..
ตัวที่ดูเหมือนจะเป็นจ่าฝูงนั่นดูมันลึกลับไม่เหมือนแมวผีตัวอื่น
ขันทองกำลังหาคำตอบที่หนูน้อยอยากรู้..
เด็กจอมซนวิ่งรอบบริเวณคฤหาสน์ที่มีเนื้อที่กว้างใหญ่
พลันเด็กน้อยก็สะดุดสายตากับเรือนแยกหลังเล็ก
เธอจึงรีบวิ่งเข้าไปสำรวจใกล้ๆฝูงแมวผีที่กวดหนูน้อยมาติดๆ
หยุดชะงักอยู่กับที่ต่างแยกย้ายกันวิ่งหนีหายไปในความมืด
ขันทองรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลของเรือนหลังเล็ก
แต่ด้วยความอยากรู้หนูน้อยจึงค่อยๆย่องเข้าไปสอดส่องใกล้ๆ
ประตูหน้าเรือนถูกคล้องด้วยโซ่ตรวนถ้าเข้าไปธรรมดาคงไม่ได้
เด็กน้อยจึงหายตัวหวังเข้าไปด้านในแต่มีบางสิ่งดีดขันทองจนกระเด็นกลับออกมา
ขันทอง..
"โอ๊ย!!อะไรหว๊า? ขอเข้าไปหน่อยไม่ได้หรือไงกัน!!"
ขันทองโวยวายอยู่ด้านหน้าประตูกับสิ่งที่ต่อต้านเด็กน้อย
สิ่งๆนั้นมันคืออะไรกัน?..
ขันทอง..
"ให้พี่สาวหนูกลับมาก่อนเหอะเราจะได้เห็นดีกัน!!..นี่แนะ!!"
โครม!!..ขันทองกระโดดถีบประตูด้วยความโมโห
เด็กน้อยลอยตัวสูงจากพื้นดินอย่างหงุดหงิด
ด้วยวัยกำลังซนเธอจึงเปลี่ยนเป้าหมายใหม่ในทันที
ดวงตาสีแดงก่ำนับร้อยคู่ในเงามืดมิดของคฤหาสน์หลังโต
กำลังจ้องมองหนูน้อยผ่านหน้าต่างชั้นบนสุดของตัวบ้าน
ขันทองทะยานตัวพุ่งรวดเดียวจนถึงหน้าต่างที่มีคู่กรณี
จ้องมองด้วยตาแดงฉาน..
กุมาลีจอมซนแปะมือเกาะหน้าต่างแยกเขี้ยวยิงฟันใส่แมวผี
ขันทอง..
"มาเล่นกันเถอะ!!"..
พูดจบก็เปิดหน้าต่างกระโจนเข้าไปด้านใน
ตะลุมมบอนกับแมวผีนับร้อยตัว..
กลางดึกสงัดของคืนนั้นชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในละแวกเดียว
กับคฤหาสน์ผีสิง!!..ต่างพากันคลุมโปงด้วยความหวาดผวา
กับเสียงร้องโหยหวนเย็นยะเยือก..หง่าวๆ..ที่ดังระงมไปทั่วหมู่บ้าน
ไม่นานเมื่อรุ่งอรุณมาเยือนคฤหาสน์แมวผีจะเป็นที่โจษจัน
ในความเฮี้ยนชวนขนลุกจนไม่มีใครกล้าผ่านไปมา..
~~~~~~~~~~~~~~
*ร้านโกตี๋*05.30
ร้านโกตี๋อากงร่างท้วมของตาล เปิดร้านแต่เช้ามืด
ที่นี่คือสภากาแฟประจำหมู่บ้านที่ผู้สูงอายุจะมารวมตัวกัน
เพื่อพบปะพูดคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้แล้วแต่ว่าใคร
จะมีประสบการณ์อะไรก็จะนำมาเล่าสู่กันฟังเป็นประจำทุกวัน
ดังเช่นเรื่องเล่าของเช้านี้..
ลุงบุญเจ้าของวงปี่พาทย์ลูกค้าเจ้าประจำจั่วเรื่อง
ขนหัวลุกเอามาเล่าให้เพื่อนวัยชราสยองเล่น..
ลุงบุญ..
"นี่พวกเอ็งรู้ไหมเมื่อคืนข้ากับแม่อีหนูไม่ได้หลับได้นอนกันเล๊ย!!"
เฒ่าจอมเพื่อนร่วมรุ่นวัย70..อ้าปากค้างเพราะคิดไปไกล
ในคำพูดที่กำกวมของลุงบุญ..
เฒ่าจอม..
"บ๊ะ!!ไอ้บุญ!!แก่จนปูนนี้แล้วยังเตะปี๊บไหวอีกเหรอวะ"
ลุงบุญ..รีบโบกไม้โบกมือก่อนสมาชิกคนอื่นจะเข้าใจผิด
ว่าตนนำเรื่องทะลึ่งตึงตังมาเล่า..
ลุงบุญ..
"ไม่ใช่เรื่องแบบนั้นโว้ย..ข้ากำลังจะเล่าต่อให้ฟัง
ว่าเมื่อคืนคฤหาสน์ของนายอำเภอปั่ง..มีเสียง
ร้องโหยหวนอีกแล้วคราวนี้ร้องกันระงมยันเกือบ
สว่างเลยมึงเอ๋ย"..
อดีตของนายอำเภอคนเก่าตั้งแต่ยุคจอมพลปอ
กำลังถูกยกขึ้นมาเป็นประเด็นการสนทนาของคนรุ่นเก่า
โกตี๋..
"อั้วได้ข่าวมาว่าหลานสาวของนายอำเภอปั่ง
อีจะย้ายกลับมาเป็นปลัดที่นี่คฤหาสน์หลังนั้น
ก็คงไม่น่ากลัวแล้วล่ะถ้ามีคนอยู่"
สภากาแฟเริ่มวิพากวิจารณ์ถึงทายาทผู้สืบทอด
มรดกของนายอำเภอคนเก่า
เฒ่าจอม..
"ใครจะเดิมพันกับข้าบ้างไม่เกินสามวันแม่หนูนั่นคงเผ่นออกไปไม่ทัน"
ทุกคนต่างส่ายหน้าไม่มีใครกล้าเสี่ยงที่จะเสียเงิน
เธอจะเป็นคนแบบไหนกันนะหลานสาวนายอำเภอปั่ง
เฒ่าชราต่างพากันสงสัยและอยากเห็นหน้าว่าที่ปลัด
ที่จะย้ายกลับมาประจำที่ตำบลบ้านนอกๆแถมผีดุอย่างนี้
~~~~~~~~~~~~~~~~~
*สถานีรถไฟ*18.00น..
ขบวนรถไฟขาเข้าจอดเทียบชานชาลาไม่นานนัก
เด็กนักเรียนชายหญิงของโรงเรียนสวนมะลิที่เดินทาง
ไปเข้าค่ายที่จังหวัดกาญจนบุรีได้ทยอยเดินลงจากตู้รถไฟ
ก้อย..
"ขันทองนั่นๆฟรังกับแพรอยู่ทางโน้น"
เด็กน้อยกระโดดโลดเต้นอย่างดีใจเธอรีบวิ่งไปหา
ทั้งสองสาวอย่างคิดถึง ถึงที่สุด..
ขันทอง..
"พี่สาวแม่แพร!!!"
เด็กน้อยวิ่งฉีกยิ้มอ้าแขนกระโจนกอดฟรังที่อ้าแขนรอรับ
ความรักความผูกพันของเด็กทั้งสองคนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา
เรียกรอยยิ้มของใครหลายคนกับภาพน่ารักๆของพวกเธอ..
ตลอดเส้นทางลูกรังที่รถโฟร์วิลวิ่งผ่านหนูน้อยช่างพูด
จ้อเรื่องนั้นเรื่องนี้ไม่หยุดพักหายใจ ฟรังได้แต่พยักหน้ารับฟัง
ขันทอง..
"วันนั้นหนูไปถล่มกองทัพแมวผีที่ปราสาทร้างกลางทุ่งมาด้วยล่ะ!
นี่ๆพี่สาวมันมีเรือนหลังเล็กแปลกๆชอบกลอยู่หลังนึง
หนูพยายามจะเข้าไปดูข้างในแต่มันมีบางอย่างดันหนูออกมา
พลังมันเยอะมากๆเลย!!พี่สาวเอาไว้ไปถล่มมันให้ราบกับหนูนะ"
เรื่องที่เด็กน้อยเล่าสร้างความแปลกใจให้กับฟรังอยู่เหมือนกัน
แต่เธอก็เลือกส่ายหัวปฏิเสธ..
ฟรัง..
"ไม่ได้หรอกขันทองเราจะไปบุกรุกสถานที่ของคนอื่นแบบนั้นไม่ได้
เขาก็อยู่ส่วนเขาเราจะไปเบียดเบียนเขาทำไม
ไว้กลับถึงบ้านก่อนพี่จะลงโทษเราด้วยที่ไปแกล้งเขาแบบนั้น!"
เด็กน้อยมุ่ยหน้ากอดอกหันไปมองหน้าก้อยที่ขับรถไปขำหนูน้อยไป
นอกจากจะไม่ได้แนวร่วมแถมเด็กแสบยังถูกคาดโทษจากพี่สาวอีก
งานนี้หนูน้อยถึงกับเครียดที่ประกาศสงครามกับอีกฝ่ายไปแล้ว
แต่กลับไม่ได้รับการสนับสนุน...
เสียงล่ำลือเกี่ยวกับศพที่หายไปจากโกดังเก็บศพ
ในป่าช้าท้ายวัดประจำหมู่บ้านสร้างความเดือดร้อน
กับเจ้าอาวาสวัดและชาวบ้านที่เป็นญาติมิตรของศพ
ที่หายไปจึงพากันแห่ขึ้นโรงพักเพื่อแจ้งความ..
เมื่อเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุภายในโกดังหลังเก่า
ใช้เป็นที่เก็บหีบศพโชยกลิ่นเหม็นสาบสาง..
เจ้าหน้าที่พบเพียงแต่ร่องรอยการลากไม่พบรอยเท้าใดๆ
เมื่อเดินตามรอยไปเรื่อยๆรอยลากหายไปเมื่อถึงคลองท้ายป่าช้า
เจ้าหน้าที่จึงสรุปสำนวนการหายไปของศพว่าถูกสัตว์เลื้อยคลาน
ที่เรียกว่าเหี้ยลากศพลงไปกินในน้ำ..
ขันทอง..
"หนูรู้ว่าเป็นฝีมือใคร!!มันไม่ใช่พี่เห้หรอกนะจะบอกให้
ฝีมือไอ้แมวผีล้วนๆ!!หนูเห็นมากะตา!!
พี่สาวเราไปถล่มมันให้เละกันเหอะ!!มันกำลังสร้างความเดือดร้อน
ให้กับชาวบ้านอยู่นะ!!"
แม้มันจะเป็นจริงอย่างที่เด็กน้อยพูดแต่ฟรังก็ยังส่ายหน้าปฏิเสธ
ฟรัง..
"พี่บอกแล้วไงว่าเราบุกรุกเข้าไปไม่ได้ถ้าไม่ได้รับอนุญาต
จากเจ้าของบ้านเราก็ทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น เข้าใจนะ..
ปะเข้าไปในสวนกันเถอะ"
เด็กน้อยหน้างอถอนหายใจก่อนจะกระทืบเท้ารัวๆ
แล้วกระโจนลงบันไดวิ่งเข้าสวนไปอย่างขุ่นเคือง
ฟรังได้แต่ส่ายหน้าให้กับความแก่นเซี้ยวของเด็กน้อย
เอาแต่ใจ..
17:00
วงล้อขนาดใหญ่ของรถจี๊ปแบบทหารวิ่งตะลุยฝ่าหลุมบ่อบนถนนทางลูกรัง
ของอำเภอด่านช้างชนบทที่อยู่ห่างไกลความเจริญ..
ล้อรถจี๊ปลากฝุ่นสีแดงของลูกรังตลบกลบจับตามหัวและเสื้อผ้า
ของคนขับจนแดงไปหมดทั้งตัวหญิงสาวขยับแว่นเรย์แบน
แล้วเร่งความเร็วให้มากกว่าเดิม..
แม้เส้นทางจะวิบากแค่ไหนแต่เธอก็ขับรถตะลุยอย่างชำนาญ
เพราะเธอคือปลัดคนใหม่ของอำเภอนี้..
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
จบตอนคร๊าบไว้จะมาอัพภาคสองให้นร้า
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น