ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฟรัง colic คนเห็นผี

    ลำดับตอนที่ #16 : คฤหาสน์แมวผี

    • อัปเดตล่าสุด 4 ต.ค. 58






    เราอาจจะคุ้นเคยกับเรื่องเล่าอาถรรพ์แมวดำ

    มันมักจะถูกโยนมาอยู่บนฝาโลงศพของหนังสยองขวัญ

    ทำให้คนดูขนลุกไปตามๆกัน..แต่แมวดำไม่ใช่พระเอกของเรื่องนี้

    แมวในเรื่องนี้จะสั่นประสาทมากน้อยแค่ไหน..มาตามดูกัน


    ~~~~~~~~~~~~~~~


    *บ้านสวนของฟรัง*01:00


    ภายใต้ท้องฟ้าที่ดาดดาไปด้วยแสงดาวระยิบระยับ

    เด็กน้อยวัยซุกซนเกลือกกลิ้งตัวเองไปมาอยู่บนพื้นระเบียงไม้



    ขันทอง..

    "เฮ้อ..เมื่อไหร่พี่สาวจะกลับมาซักทีนร้า?"



    หนูน้อยกำลังบ่นถึงพี่สาวที่ไปเข้าค่ายดูท่าทางเธอจะหาเรื่องซนซะมากกว่ากระมัง

    ไม่ทันไรหนูน้อยก็ลุกขึ้นตีลังกาม้วนหน้าม้วนหลัง..

    แล้วเธอก็หยุดนิ่งเหมือนคิดอะไรขึ้นมาได้



    ขันทอง..

    "ไปหาอะไรหนุกๆเล่นดีกว่า..เย้!!"



    พูดเองเออเองแล้วก็วิ่งลงบันไดไปยังพื้นล่าง

    เด็กน้อยวัยห้าขวบเดินเอามือไขว้หลังไปตามถนนดินลูกรัง

    ท่ามกลางรัตติกาลที่มืดมิดหากว่าเป็นเด็กเล็กธรรมดา

    คงคู้ตัวนอนหลับใหลอยู่ในอ้อมอกของผู้เป็นพ่อแม่

    แต่สำหรับกุมาลีน้อยขันทองเวลาแบบนี้แหละที่เธอชอบ

    ออกเที่ยวเล่นซุกซน..

    แสงหิ่งห้อยที่บินรวมตัวกันกระพริบแสงวิบวับ

    บินนำหน้าเด็กน้อยที่วิ่งไล่ตามอย่างสนุก

    เธอกระโดดโลดเต้นไปตามทางเปลี่ยวที่มีต้นไม้ใหญ่รกทึบ

    ภายในแมกไม้ที่ปกคลุมต้นเถาวัลระโยงระยางจากต้นหนึ่ง

    ไปยังอีกต้นหนึ่งเส้นทางที่ไม่มีใครคิดผ่านยามค่ำคืน

    นักสำรวจแสนซนกำลังค้นพบอะไรบางอย่าง

    เธอทำจมูกฟุตฟิตเมื่อได้กลิ่นไอสาบสางโชยผ่าน

    เด็กซนแหวกกอกกที่สูงท่วมหัว..

    เดินตามกลิ่นที่สัมผัสได้..


    ขันทอง..

    "กลิ่นแรงขนาดนี้สงสัยเลเวลจะสูง..หนุกแน่งานนี้"


    เด็กน้อยฉีกยิ้มเมื่อบุกฝ่าความรกร้างท่ามกลางความมืด

    และสิ่งที่เธอค้นพบคือคฤหาสน์เก่าหลังใหญ่ที่ถูกปล่อยทิ้ง

    จนถูกต้นไม้ใหญ่เล็กอีกทั้งไม้เถานาๆชนิดไต่ปกคลุม

    ดังฉากบ้านผีสิงที่ตั้งตะหง่านสั่นประสาทผู้ผ่านทาง

    ให้ขนหัวลุกด้วยความหวาดผวา..

    แซก..แซก..พั่บ..พั่บ!!นกแสกหรือบ้างก็เรียกว่านกผี

    ขย่มกิ่งไม้ตีปีกดังพรึ่บพั่บตามประสานกหลอนในตำนาน

    ขันทองก้มลงเก็บก้อนดินขึ้นมาบรรจุลูกกระสุนใส่หนังกระติ๊ก

    เล็งเป้าไปที่นกเจ้าถิ่น..ผัวะ!!..แซกๆๆ!!..พั่บๆ..

    นกแสกดวงซวยคิดผิดที่คิดหลอกเด็กน้อยให้กลัว

    เลยได้ลิ้มรสชาดก้อนดินเป็นค่าผ่านทาง บินหนีหายไปกับความมืด


    ขันทอง..

    "สมน้ำหน้า..รู้จักท่านขันทองน้อยไป!"

    หนังกระติ๊กถูกแขวนห้อยคอก่อนจะบัดมือบัดไม้ให้กับชัยชนะในด่านแรก

    หนูน้อยแทรกตัวผ่านประตูเหล็กผุพังถูกเกี่ยวพันด้วยต้นกระทกรก

    หรืออีกชื่อหนึ่งก็คือเงาะป่า..ง้าววว~~..

    ขันทองเงยหน้ามองขึ้นไปบนยอดหลังคาที่มาแห่งเสียงร้อง ของสัตว์สี่เท้า


    ขันทอง..

    "รอแป๊บนะ!!..เหมียวเดี๋ยวพี่จะขึ้นไปเล่นด้วย"


    เด็กจอมซนปีนไต่ขึ้นไปตามกำแพงตึกเก่าด้วยความไวจนถึงยอดหลังคา

    ขันทองจ้องสิ่งที่อยู่ตรงหน้า..


    ขันทอง..

    "หน้าตากวนอารมณ์นะแกเนี่ย!!"



    sURbGQ

     

    ดวงตาเรืองแสงสีส้มในยามค่ำคืนของแมวปีศาจ

    อาจสร้างความหวาดผวาให้แก่คนธรรมดา

    แต่สำหรับหนูน้อยนามว่าขันทองช่างแตกต่างโดยสิ้นเชิง

    ที่เห็นมันเหมือนตุ๊กตาที่เด็กจอมซนอยากจับมันเหวี่ยงไปมา

    ให้สนุกมือขันทองน้อยค่อยๆย่องเด็กน้อย

    กระโดดตะครุบหมายจับมันมาเป็นเพื่อนเล่น

    แต่เธอคว้าได้เพียงอากาศเมื่อแมวกลายเป็นควันสีม่วง

    สลายหายไปในอากาศ..เด็กน้อยเท้าเอวอย่างขัดใจ

    เธอยังไม่ละความพยายามวิ่งไต่บนหลังคาห้อยโหนกับจั่วบ้าน

    ก่อนดีดตัวเข้าทางหน้าต่างชั้นบนของคฤหาสน์..

    เด็กน้อยเดินแตะฝุ่นหน้าตึ่บของพื้นบ้านไม้กระดานแผ่นผุ

    ส่งเสียงดังเอี๊ยดอ๊าด..

    หนูน้อยเดินสำรวจไปเรื่อยๆกระทั่งถึงหน้าประตูห้องๆหนึ่ง

    เธอได้ยินเสียงแปลกๆเล็ดรอดออกมาจากภายในห้องๆนั้น

    หนูน้อยขมวดคิ้วแนบหูกับประตู..

    เสียงที่เธอได้ยินเป็นเสียงลากอะไรบางอย่างกับพื้นห้อง

    เสียงดังครืด~~ครืด~~..

    เพื่อให้คลายความสงสัยหนูน้อยจึงแง้มประตูเปิดดู

    สิ่งที่เธอเห็นถ้าหากเป็นคนธรรมดาคงวิ่งป่าราบ

    ไม่อยู่ดูจนจบเป็นแน่..

    แมวผีหน้าตาประหลาดตัวเดิมที่อยู่บนหลังคา

    ใช้ปากงับลากซากศพที่เนื้อหนังหลุดลุ่ย

    เบ้าตามีหนอนชอนไชลูกตาห้อยโตงเตง..

    โชยกลิ่นเหม็นเน่าจนหนูน้อยต้องบีบจมูกแน่น

    ซากเละของศพกลายเป็นอาหารอันโอชะในค่ำคืนนี้

    คงมีปาร์ตี้เพราะภายในห้องนั้นไม่ได้มีมันแค่ตัวเดียว

    ยังมีแมวนาๆชนิดเดินยั้วเยี้ยจนเต็มห้อง!

    รูปร่างแต่ละตัวเหมือนสัตว์ตายซากบางตัวก็ไร้ซึ่งตาดำ

    บางตัวหน้าหายไปครึ่งเหมือนถูกทุบบางตัวคอถูกตัดห้อยร่องแร่ง

    พวกมันเหมือนรู้ว่ามีคนแอบดูพวกมันอยู่แมวนับร้อย

    หันมาจ้องมองที่ประตู..ขันทองถีบประตูผัวะเปิดออก

    หนูน้อยตะโกนท้าทายอย่างไม่กลัวเกรง..


    ขันทอง..

    "แน่จริงก็จับให้ได้เด้!!แบร่!!..55+"..


    พูดจบก็ใส่เกียร์วิ่งโกยอ้าวโดยมีฝูงแมวนับร้อย

    วิ่งกรูไล่ตามหลังเด็กจอมซน..

    หนูน้อยวิ่งหัวเราะด้วยความสนุกดังกับว่าวิ่งเล่นไล่จับกับเพื่อน

    เธอวิ่งวนอยู่รอบบ้านสองขาเล็กวิ่งอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

    เด็กฉลาดวิ่งไปสอดส่ายสายตาไปเธอมีคำถามในหัวสมองน้อยๆของเธอ

    ทำไมที่นี่จึงมีแมวผีเยอะแยะขนาดนี้?..

    ตัวที่ดูเหมือนจะเป็นจ่าฝูงนั่นดูมันลึกลับไม่เหมือนแมวผีตัวอื่น

    ขันทองกำลังหาคำตอบที่หนูน้อยอยากรู้..

    เด็กจอมซนวิ่งรอบบริเวณคฤหาสน์ที่มีเนื้อที่กว้างใหญ่

    พลันเด็กน้อยก็สะดุดสายตากับเรือนแยกหลังเล็ก

    เธอจึงรีบวิ่งเข้าไปสำรวจใกล้ๆฝูงแมวผีที่กวดหนูน้อยมาติดๆ

    หยุดชะงักอยู่กับที่ต่างแยกย้ายกันวิ่งหนีหายไปในความมืด

    ขันทองรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลของเรือนหลังเล็ก

    แต่ด้วยความอยากรู้หนูน้อยจึงค่อยๆย่องเข้าไปสอดส่องใกล้ๆ

    ประตูหน้าเรือนถูกคล้องด้วยโซ่ตรวนถ้าเข้าไปธรรมดาคงไม่ได้

    เด็กน้อยจึงหายตัวหวังเข้าไปด้านในแต่มีบางสิ่งดีดขันทองจนกระเด็นกลับออกมา



    ขันทอง..

    "โอ๊ย!!อะไรหว๊า? ขอเข้าไปหน่อยไม่ได้หรือไงกัน!!"


    ขันทองโวยวายอยู่ด้านหน้าประตูกับสิ่งที่ต่อต้านเด็กน้อย

    สิ่งๆนั้นมันคืออะไรกัน?..


    ขันทอง..

    "ให้พี่สาวหนูกลับมาก่อนเหอะเราจะได้เห็นดีกัน!!..นี่แนะ!!"


    โครม!!..ขันทองกระโดดถีบประตูด้วยความโมโห

    เด็กน้อยลอยตัวสูงจากพื้นดินอย่างหงุดหงิด

    ด้วยวัยกำลังซนเธอจึงเปลี่ยนเป้าหมายใหม่ในทันที


    ดวงตาสีแดงก่ำนับร้อยคู่ในเงามืดมิดของคฤหาสน์หลังโต

    กำลังจ้องมองหนูน้อยผ่านหน้าต่างชั้นบนสุดของตัวบ้าน

    ขันทองทะยานตัวพุ่งรวดเดียวจนถึงหน้าต่างที่มีคู่กรณี

    จ้องมองด้วยตาแดงฉาน..

    กุมาลีจอมซนแปะมือเกาะหน้าต่างแยกเขี้ยวยิงฟันใส่แมวผี


    ขันทอง..

    "มาเล่นกันเถอะ!!"..


    พูดจบก็เปิดหน้าต่างกระโจนเข้าไปด้านใน

    ตะลุมมบอนกับแมวผีนับร้อยตัว..

    กลางดึกสงัดของคืนนั้นชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในละแวกเดียว

    กับคฤหาสน์ผีสิง!!..ต่างพากันคลุมโปงด้วยความหวาดผวา

    กับเสียงร้องโหยหวนเย็นยะเยือก..หง่าวๆ..ที่ดังระงมไปทั่วหมู่บ้าน

    ไม่นานเมื่อรุ่งอรุณมาเยือนคฤหาสน์แมวผีจะเป็นที่โจษจัน

    ในความเฮี้ยนชวนขนลุกจนไม่มีใครกล้าผ่านไปมา..



    ~~~~~~~~~~~~~~


    *ร้านโกตี๋*05.30


    ร้านโกตี๋อากงร่างท้วมของตาล เปิดร้านแต่เช้ามืด

    ที่นี่คือสภากาแฟประจำหมู่บ้านที่ผู้สูงอายุจะมารวมตัวกัน

    เพื่อพบปะพูดคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้แล้วแต่ว่าใคร

    จะมีประสบการณ์อะไรก็จะนำมาเล่าสู่กันฟังเป็นประจำทุกวัน

    ดังเช่นเรื่องเล่าของเช้านี้..

    ลุงบุญเจ้าของวงปี่พาทย์ลูกค้าเจ้าประจำจั่วเรื่อง

    ขนหัวลุกเอามาเล่าให้เพื่อนวัยชราสยองเล่น..


    ลุงบุญ..

    "นี่พวกเอ็งรู้ไหมเมื่อคืนข้ากับแม่อีหนูไม่ได้หลับได้นอนกันเล๊ย!!"


    เฒ่าจอมเพื่อนร่วมรุ่นวัย70..อ้าปากค้างเพราะคิดไปไกล

    ในคำพูดที่กำกวมของลุงบุญ..


    เฒ่าจอม..

    "บ๊ะ!!ไอ้บุญ!!แก่จนปูนนี้แล้วยังเตะปี๊บไหวอีกเหรอวะ"


    ลุงบุญ..รีบโบกไม้โบกมือก่อนสมาชิกคนอื่นจะเข้าใจผิด

    ว่าตนนำเรื่องทะลึ่งตึงตังมาเล่า..


    ลุงบุญ..

    "ไม่ใช่เรื่องแบบนั้นโว้ย..ข้ากำลังจะเล่าต่อให้ฟัง

    ว่าเมื่อคืนคฤหาสน์ของนายอำเภอปั่ง..มีเสียง

    ร้องโหยหวนอีกแล้วคราวนี้ร้องกันระงมยันเกือบ

    สว่างเลยมึงเอ๋ย"..


    อดีตของนายอำเภอคนเก่าตั้งแต่ยุคจอมพลปอ

    กำลังถูกยกขึ้นมาเป็นประเด็นการสนทนาของคนรุ่นเก่า


    โกตี๋..

    "อั้วได้ข่าวมาว่าหลานสาวของนายอำเภอปั่ง

    อีจะย้ายกลับมาเป็นปลัดที่นี่คฤหาสน์หลังนั้น

    ก็คงไม่น่ากลัวแล้วล่ะถ้ามีคนอยู่"


    สภากาแฟเริ่มวิพากวิจารณ์ถึงทายาทผู้สืบทอด

    มรดกของนายอำเภอคนเก่า


    เฒ่าจอม..

    "ใครจะเดิมพันกับข้าบ้างไม่เกินสามวันแม่หนูนั่นคงเผ่นออกไปไม่ทัน"


    ทุกคนต่างส่ายหน้าไม่มีใครกล้าเสี่ยงที่จะเสียเงิน

    เธอจะเป็นคนแบบไหนกันนะหลานสาวนายอำเภอปั่ง

    เฒ่าชราต่างพากันสงสัยและอยากเห็นหน้าว่าที่ปลัด

    ที่จะย้ายกลับมาประจำที่ตำบลบ้านนอกๆแถมผีดุอย่างนี้


    ~~~~~~~~~~~~~~~~~

    *สถานีรถไฟ*18.00น..


    ขบวนรถไฟขาเข้าจอดเทียบชานชาลาไม่นานนัก

    เด็กนักเรียนชายหญิงของโรงเรียนสวนมะลิที่เดินทาง

    ไปเข้าค่ายที่จังหวัดกาญจนบุรีได้ทยอยเดินลงจากตู้รถไฟ


    ก้อย..

    "ขันทองนั่นๆฟรังกับแพรอยู่ทางโน้น"


    เด็กน้อยกระโดดโลดเต้นอย่างดีใจเธอรีบวิ่งไปหา

    ทั้งสองสาวอย่างคิดถึง ถึงที่สุด..


    ขันทอง..

    "พี่สาวแม่แพร!!!"


    เด็กน้อยวิ่งฉีกยิ้มอ้าแขนกระโจนกอดฟรังที่อ้าแขนรอรับ

    ความรักความผูกพันของเด็กทั้งสองคนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา

    เรียกรอยยิ้มของใครหลายคนกับภาพน่ารักๆของพวกเธอ..



    ตลอดเส้นทางลูกรังที่รถโฟร์วิลวิ่งผ่านหนูน้อยช่างพูด

    จ้อเรื่องนั้นเรื่องนี้ไม่หยุดพักหายใจ ฟรังได้แต่พยักหน้ารับฟัง


    ขันทอง..

    "วันนั้นหนูไปถล่มกองทัพแมวผีที่ปราสาทร้างกลางทุ่งมาด้วยล่ะ!

    นี่ๆพี่สาวมันมีเรือนหลังเล็กแปลกๆชอบกลอยู่หลังนึง

    หนูพยายามจะเข้าไปดูข้างในแต่มันมีบางอย่างดันหนูออกมา

    พลังมันเยอะมากๆเลย!!พี่สาวเอาไว้ไปถล่มมันให้ราบกับหนูนะ"


     เรื่องที่เด็กน้อยเล่าสร้างความแปลกใจให้กับฟรังอยู่เหมือนกัน

    แต่เธอก็เลือกส่ายหัวปฏิเสธ..


    ฟรัง..

    "ไม่ได้หรอกขันทองเราจะไปบุกรุกสถานที่ของคนอื่นแบบนั้นไม่ได้

    เขาก็อยู่ส่วนเขาเราจะไปเบียดเบียนเขาทำไม

    ไว้กลับถึงบ้านก่อนพี่จะลงโทษเราด้วยที่ไปแกล้งเขาแบบนั้น!"


    เด็กน้อยมุ่ยหน้ากอดอกหันไปมองหน้าก้อยที่ขับรถไปขำหนูน้อยไป

    นอกจากจะไม่ได้แนวร่วมแถมเด็กแสบยังถูกคาดโทษจากพี่สาวอีก

    งานนี้หนูน้อยถึงกับเครียดที่ประกาศสงครามกับอีกฝ่ายไปแล้ว

    แต่กลับไม่ได้รับการสนับสนุน...




    เสียงล่ำลือเกี่ยวกับศพที่หายไปจากโกดังเก็บศพ

    ในป่าช้าท้ายวัดประจำหมู่บ้านสร้างความเดือดร้อน

    กับเจ้าอาวาสวัดและชาวบ้านที่เป็นญาติมิตรของศพ

    ที่หายไปจึงพากันแห่ขึ้นโรงพักเพื่อแจ้งความ..

    เมื่อเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุภายในโกดังหลังเก่า

    ใช้เป็นที่เก็บหีบศพโชยกลิ่นเหม็นสาบสาง..

    เจ้าหน้าที่พบเพียงแต่ร่องรอยการลากไม่พบรอยเท้าใดๆ

    เมื่อเดินตามรอยไปเรื่อยๆรอยลากหายไปเมื่อถึงคลองท้ายป่าช้า

    เจ้าหน้าที่จึงสรุปสำนวนการหายไปของศพว่าถูกสัตว์เลื้อยคลาน

    ที่เรียกว่าเหี้ยลากศพลงไปกินในน้ำ..


    ขันทอง..

    "หนูรู้ว่าเป็นฝีมือใคร!!มันไม่ใช่พี่เห้หรอกนะจะบอกให้

    ฝีมือไอ้แมวผีล้วนๆ!!หนูเห็นมากะตา!!

    พี่สาวเราไปถล่มมันให้เละกันเหอะ!!มันกำลังสร้างความเดือดร้อน

    ให้กับชาวบ้านอยู่นะ!!"


    แม้มันจะเป็นจริงอย่างที่เด็กน้อยพูดแต่ฟรังก็ยังส่ายหน้าปฏิเสธ


    ฟรัง..

    "พี่บอกแล้วไงว่าเราบุกรุกเข้าไปไม่ได้ถ้าไม่ได้รับอนุญาต

    จากเจ้าของบ้านเราก็ทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น เข้าใจนะ..

    ปะเข้าไปในสวนกันเถอะ"


    เด็กน้อยหน้างอถอนหายใจก่อนจะกระทืบเท้ารัวๆ

    แล้วกระโจนลงบันไดวิ่งเข้าสวนไปอย่างขุ่นเคือง

    ฟรังได้แต่ส่ายหน้าให้กับความแก่นเซี้ยวของเด็กน้อย

    เอาแต่ใจ..



    17:00

    วงล้อขนาดใหญ่ของรถจี๊ปแบบทหารวิ่งตะลุยฝ่าหลุมบ่อบนถนนทางลูกรัง

    ของอำเภอด่านช้างชนบทที่อยู่ห่างไกลความเจริญ..

    ล้อรถจี๊ปลากฝุ่นสีแดงของลูกรังตลบกลบจับตามหัวและเสื้อผ้า

    ของคนขับจนแดงไปหมดทั้งตัวหญิงสาวขยับแว่นเรย์แบน

    แล้วเร่งความเร็วให้มากกว่าเดิม..

    แม้เส้นทางจะวิบากแค่ไหนแต่เธอก็ขับรถตะลุยอย่างชำนาญ

    เพราะเธอคือปลัดคนใหม่ของอำเภอนี้..



    ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

    จบตอนคร๊าบไว้จะมาอัพภาคสองให้นร้า






    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×