ลำดับตอนที่ #15
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : กองกอย
กองกอย..ผีป่าหน้าตาอัปลักษณ์ ดวงตาปูดโปน
โดดไปมาด้วยขาเพียงข้างเดียว..
ตำนานของผีตนนี้เป็นที่เล่าขานของคนรุ่นเก่า
แต่ในปัจจุบันล่ะมันยังมีตัวตนอยู่อีกไหม?
~~~~~~~~~~~~~~~~~
*ค่ายพักนักเรียน* 05:00
เหนิง..
อืมนิ่มจัง..ให้ตายเถอะคนกำลังหลับสบายแท้ๆ
ก้อนปุยนุ่นที่อยู่ในมือนี่ก็นุ่มนิ่มเหลือเกิน ..
อ่าฉันขยำมืออย่างหมั่นเขี้ยว!!..
"เด็กๆตื่น!!!!"..ฉันสะดุ้งหลุดออกจากภวังค์ด้วยเสียงที่แผดจนแสบแก้วหู!!
ของครูเจ้าแม่โทรโขล่งทองคำ!!..แต่เอะ!!..ฉันลูบๆคลำๆสิ่งที่อยู่ในมือฉัน!!
"ชิบหาย!!"..ขยำเต็มที่เลยกู!!..ฉันค่อยๆปล่อยมือจากหน้าอกของหัวหน้าห้อง
จอมเนิส..ยัยกุ๊กไก่..ฆ่าฉันด้วยทฤษฏีหลักการ การอยู่ร่วมกันจนหัวฟูสมองกระจุยแน่!!
"เหนิง"..เสียงยัยกุ๊กไก่ทำฉันรีบลุกพรวดพลาดคว้าผ้าเช็ดตัวกระโจนออกนอกเต๊นท์ทันที!!
เฮ้อ..อากาศยามเช้ามืดในป่าแบบนี้..สดชื่นจริงๆเลย
อ๊ะ!!ยัยกุ๊กไก่เดินมานู้นแหละทำหน้าไงดีวะเรา..
ระรื่นกลบเกลื่อนเข้าไว้..
"มอนิ่งงงง!!หลับสบายดีมะเมื่อคืนน่ะ!" ยัยบ้าเอ๊ย!!
คนอุตส่าห์ทักดันทำหน้านิ่งเดินผ่านฉันไปอย่างหน้าตาเฉย
สงสัยจะโกรธซินะ!!แล้วฉันตั้งใจหรือไงกันเล่า!!หงุดหงิดๆ!!
"เหนิงมียาแก้ปวดบ้างเปล่าวะ?" ฉันหันไปมองไอ้แบงค์ที่ยืนหน้าซีดเป็นไก่ต้ม
"มึงเป็นไรวะ?หน้าถึงได้ซีดขนาดนั้น" ไอ้แบงค์ทรุดนั่งลงกับพื้นเหมือนคนหมดแรง
"ไม่รู้ตัวอะไรมันกัดกูว่ะ!!"..มันยกเท้าขึ้นสูงกระดิกหัวนิ้วโป้เท้าให้ฉันดู
"เชี้ย..เหม็นชิบหาย!!"..ฉันปัดเท้าของมันลง
"งั้นแกรออยู่นี่แหละเดี๋ยวฉันไปเอายามาให้!"
ฉันเดินกลับไปที่เต๊นท์เอายาแก้ปวดมาให้ไอ้แบงค์
แต่กัดเป็นรูขนาดนั้นมันเป็นตัวอะไรกันนะ?
หลังจากกินยาไปแล้วมันก็เดินกลับเต๊นท์ของมันไปด้วยท่าทางอิดโรย
เป็นอะไรมากเปล่าวะ?..ตั้งแต่กินข้าวเช้าฉันก็ไม่เห็นไอ่แบงค์อีกเลย
"เอาล่ะกิจกรรมของพวกเธอในวันนี้คือการบวชป่า
ส่วนพวกมอห้ากับมอหกเขารับหน้าที่ปลูกต้นไม้กัน
ให้หัวหน้าห้องและรองหัวหน้าไปรับผ้าที่ครูสมชาย
เอามาแจกจ่ายให้เพื่อนๆได้เลยค่ะ"
กุ๊กไก่..
ฉันลังเลนิดหน่อยก่อนจะเดินถือผ้าผืนสุดท้าย
ตรงไปหาเพื่อนร่วมเต๊นท์..เหนิง..เด็กแสบประจำห้อง
ก๊วนเนี้ยชอบทำตัวมีปัญหาอยู่เรื่อย..
แถมเมื่อคืนก็ยังทำเรื่องบ้าๆกับฉันอีก
เช้ามาจะขอโทษซักคำก็ไม่มี!!..ยังทำหน้าระรื่นได้อีกนะ
น่าโมโหชมัด!!เห็นเราเป็นของเล่นหรือไงกัน..
"เห้ยๆ..พวกมึงบวชป่าเสร็จแล้วเล่นน้ำกันดีกว่า"
ฉันหยุดยืนด้านหลังเหนิงที่กำลังจ้อกับเพื่อนในชั้นอย่างอารมณ์ดี
ฉันดึงชายเสื้อเหนิงเบาๆ..
"ห๊ะ!!..ของฉันเหรอ?ขอบใจนะ.."
เหนิงหันมารับผ้าแล้วหันไปคุยต่อไม่ได้สนใจฉันเลย!!
ผู้นำชุมชนตั้งศาลไม้เล็กๆเพื่อทำพิธีบวชป่า
ข้าวเหนียวข้าสุก หมากพลู เครื่องเส้นไหว้ถูกนำมาประกอบพิธี
ผู้ชายช่วยกันโยงสายสินไปยังต้นไม้แต่ละต้น
พวกเราที่มีผ้าเหลืองอยู่ในมือก็เดินแยกย้ายกัน
นำไปผูกกับต้นไม้ใหญ่ จุดประสงค์ของการบวชป่า
ก็เป็นไปตามความเชื่อของชาวบ้านว่าเทวดาเจ้าป่าเจ้าเขา
จะช่วยปกปรักรักษาต้นไม้จากพวกตัดไม้ทำลายป่า
ฉันพยายามเอื้อมหยิบชายผ้าอีกด้านผูกโอบต้นไม้ใหญ่
แต่แขนฉันคงสั้นไปมั้งเนี่ย ลำบากเหมือนกันแหะ
"มาฉันช่วย"..เหนิงจับชายผ้าอีกด้านช่วยฉันมัดผูกจนเสร็จ
"นี่เธอจะไปเล่นน้ำด้วยกันมะ..ฉันไปดูทำเลมาแล้วนะ"
ในสมองมีอะไรมากกว่าการเล่นสนุกอีกไหมเนี่ย?
"ไม่อ่ะ..ฉันจะถ่ายภาพกิจกรรมการออกค่ายไว้ทำรายงาน"
เหนิงพยักหน้าแล้วทำท่าจะพูดอะไรซักอย่างแต่ก็เงียบไป
"อืม..งั้นฉันไปนะ" เหนิงกำลังจะเดินไปแต่กับหยุดชะงักหันกลับมา
"ไงเธอก็เดินๆระวังพวกสัตว์เลื้อยคลานบ้างล่ะ ได้ข่าวว่าถูกสัตว์แปลกๆกัดเท้า
กันไปหลายคน"..พูดเสร็จก็วิ่งก้าวกระโดดไปอย่างไว..
ฉันอมยิ้มให้กับเพื่อนร่วมเต๊นท์ที่อุตส่าห์เป็นห่วงฉัน
ฟรัง..
ฉันกับแพรรับกล้าไม้กับพั่วจากครูสมชาย
เราสองคนเดินไปหาทำเลที่จะปลูกกล้าไม้
"ต้องหาที่มีแสงแดดอ่อนส่องถึงพื้นดินมีความชุ่มชื้น ต้นกล้าจะได้โตเร็วๆ"
เด็กที่โตมากับสวนอย่างฉันถนัดเรื่องการปลูกต้นไม้ที่สุด..
"ใกล้ๆน้ำตกเป็นไง?"..แพรวาเสนอแนวคิด..น่าสนใจ..
เราสองคนเดินไปหาทำเลใกล้กับน้ำตกจนเจอพื้นที่เหมาะ
ฉันจึงลงมือขุดดิน..
"เออนี่ฟรัง..แพรได้ยินพวกรุ่นน้องคุยกันว่ามีเด็กผู้ชายมอสี่
ถูกตัวประหลาดกัดหัวนิ้วโป้เท้าจนเป็นรูไปสามคนแต่ละคน
มีไข้สูงมากเลย ได้ยินมาว่าถ้าพรุ่งนี้อาการไม่ดีขึ้นคุณครู
จะประสานงานกับทางศูนย์ให้มารับตัวออกไป"
เรื่องที่แพรเล่าทำให้ฉันฉุกคิดถึงผีป่าตนนึงจะเรียกว่าผีซะทีเดียวก็ไม่ได้
มันเป็นสัตว์ประหลาดครึ่งผีที่มีมาแต่โบราณ..กองกอย..
"แพร..รู้จักผีกองกอยไหม?"..แพรส่ายหัวไปมา
"อยากฟังเรื่องเล่าของผีกองกอยไหมล่ะ?.." แพรวารีบพยักหน้าทันที
"มันเป็นตำนานเล่าขานถึงชนเผ่าที่อาศัยอยู่ในป่าดงดิบ
ชาวป่ากลุ่มนั้นมีรูปร่างแคละแกนร่างกายผ่ายผอม
พุงโลก้นปอด ไม่สวมใส่เสื้อผ้า มักอาศัยอยู่ตามถ้ำ
บ้างก็ขุดรูอยู่แต่นั่นไม่น่ากลัวเท่ากับชนเผ่านี้ชอบกิน
เลือดและเนื้อของมนุษย์ พวกนี้มีความว่องไวในการปีนป่าย
ตามเขาสูงชันและความหิวกระหายทำให้พวกเขาเริ่มออกจากป่า
มาล่ามนุษย์ที่อาศัยอยู่ตามชายป่า จากการหายตัวอย่างลึกลับ
ของเด็กในหมูบ้านทำให้นักพดฤษีรูปหนึ่งได้อาสาเข้าไปในป่า
เพื่อตามหาเด็กๆ..กลางดึกของคืนหนึ่ง..
ในป่าดงเช่นนั้นดูเงียบสงัดวังเวง..นักพด ก็ได้ยินเสียงประหลาด
คล้ายเสียงนกกลางคืนร้อง..
"ก๋อย ก๋อย ก๋อย" เสียงนั้นดังใกล้เข้ามา แล้วดังรับกันล้อมรอบไปทั่วทิศ
เสียงบีบเข้ามาเรื่อยๆ..
"ก๋อย ก๋อย ก๋อย" และมีแสงคบไฟนับสิบๆ ดวงมาจากเสียงนั้น
ทำให้มองเห็นตัวผู้ถือได้ถนัด..
ร่างนั้นเป็นมนุษย์ร่างประหลาด ขนาดเด็กอายุ 13-14 ปี
ผอม พุงโร ผิวคล้ำ ผมเผ้ารุงรัง จมูกแบน บ่งบอกว่าเป็นคนป่า
ทุกคนมีอาวุธประจำตัวคือ..
"หน้าทึ่น" คล้ายธนูแต่เล็กกว่า ใช้คล่องตัวในป่า
พวกเขาสะพายกระบอกไม้ไผ่ใส่ลูกดอกอาบยาพิษ
ก่อนที่ลูกดอกอาบยาพิษจะพุ่งปิดชีพนักพด
นักพดผู้มีวิชาอาคมบริกรรมคาถาทำใหลูกดอกที่พุ่งมา
ล่วงหล่นพื้นกลายเป็นผลไม้..พวกคนป่าเห็นเช่นนั้น
ก็พากันตกใจก้มลงกราบไหว้และยกให้เป็นเทพเจ้าของเขา
นักพดจึงห้ามไม่ให้พวกชาวป่ากินเนื้อมนุษย์อีกโดยเด็ดขาด
และได้สาปแช่งเอาไว้ว่า..
ถ้ามันผู้ใดกระทำผิดกินเนื้อมนุษย์อีกกูขอสาปแช่ง
ให้เผ่าของพวกมึงสูญสิ้นขาหนึ่งข้างมีปากยื่นยาวดังกระบอกกินได้แค่น้ำ
ถ้าโดนแสงก็ขอแสงนั้นเผาไหม้พวกมึง..
แหละนั้นก็คือคำสาปแช่งของนักพด..
อยู่มาวันนึงความอยากกระหายในเลือดและเนื้อของมนุษย์
ทำให้ชาวป่ารวมกลุ่มกันออกล่ามนุษย์อีกครั้ง..
และคำแรกที่ได้ลิ้มรสเนื้อมนุษย์สดๆก็เกิดอาเพศทั้งลมทั้งฝน
ชาวป่าล้มตัวเกลือกกลิ้งไปมากับพื้นดิ้นทุรนทุรายรูปร่างเริ่มเปลี่ยนไป
ขาหดหายไปข้างหนึ่งปากค่อยๆยื่นยาวคล้ายปากของยุงกลายสภาพ
เป็นสัตว์ประหลาดกระโดดไปมาด้วยขาเพียงข้างเดียว
ส่งเสียงร้อง..ก๋อย..ก๋อย..ก๋อย..นี่ก็คือตำนานที่มาของผีกองกอย
ผีป่าที่ชอบดูดเลือดมนุษย์โดยใช้ปากเจาะดูดที่หัวนิ้วโป้เท้าของมนุษย์
โดยเฉพาะเลือดของผู้ชายพวกผีกองกอยจะชื่นชอบเป็นพิเศษ"
แพรวาลูบแขนไปมาขยับตัวกอดแขนฉันเอาไว้
"น่ากลัวอ่ะฟรังแล้วปัจจุบันพวกนี้มันยังมีอยู่ไหม?"
ฉันพยักหน้า..ใช่มันยังมีอยู่และมันกำลังออกล่า..
"แฮ่ม!!..แอบจู๋จี๋กันอยู่ตรงนี้เอง"..พี่เบลล์ฉีกยิ้มกว้างยักคิ้วให้ฉัน
"เบลล์อ่ะ..แซวน้อง" พี่ฝนตีแขนพี่เบลล์จอมกวนที่ทำหน้าทำตาเหมือนเจ็บมาก
"โอ๊ยเจ็บจัง!!55+"..พี่เบลล์นี่น่ารักนะขี้เล่นได้ตลอดเวลา
ไม่ค่อยเห็นพี่เบลล์เครียดแถมเรียนก็ได้ท็อปทุกวิชา
"เออนี่ฟรังกับแพรไปเล่นน้ำด้วยกันมะพี่นัดเก้ากับตาลเอาไว้แล้ว"
ฉันหันไปมองหน้าแพรที่พยักหน้าหงึกๆคงอยากเล่นมากล่ะซิ
"ก็ดีเหมือนกันค่ะ"..พี่เบลล์กระโดดโลดเต้นเหมือนเด็กๆเลย
เฮ้อ..ทำให้คิดถึงขันทองเลยป่านนี้ยัยตัวแสบกับพี่ก้อย
จะเป็นไงบ้างนะ..
ขันทอง..
"ฮัดชิ้ว!!!.."ใครนินทาหว๊า?..
เหนิง..
ฉันขออนุญาตครูสมชายไปเยี่ยมดูอาการไอ้แบงค์
ที่หมกนอนในเต๊นท์เพราะพิษไข้..
"เป็นไงวะ..กินข้าวกินยายังมึง?" มันนอนตัวสั่นอยู่ในผ้าห่ม
"อืม..คะครูสมชายเอามาให้กูกินแล้ว" ดูจากอาการแล้วท่าจะแย่
"เห็นว่าพรุ่งนี้เช้าทางศูนย์จะเอาเปมารับน่ะไงมึงก็อดทนหน่อยนะ
ว่าแต่ไม่มีใครเห็นเลยหรือไงวะว่ามันเป็นตัวอะไร?"
ไอ้แบงค์ขมวดคิ้วคิดสักพักมันก็ทำหน้าเหมือนนึกอะไรออก
"ก่อนกูจะหลับ..กูได้ยินเสียงสัตว์ร้องแปลกๆว่ะ"
ฉันนั่งลุ้นในเรื่องที่ไอ้แบงค์กำลังเล่า..
"เสียงแหลมๆเล็กๆร้อง..ก๋อยๆเกิดมากูก็เพิ่งเคยได้ยินนี่แหละ
ไม่รู้ว่าตัวเหี้ยอะไรเหมือนกัน หลังจากนั้นกูก็หลับไม่รู้เรื่องเลย
ตื่นเช้ามาก็ปวดหนึบที่นิ้วโป้เหมือนถูกเข็มสลิงดูดเลือด
ลุกขึ้นนี่หน้ามืดเลยใจแม่งหวิวเหมือนจะเป็นลม"
ฉันคุ้นคิดถึงเรื่องที่ไอ้แบงค์เล่า จะถามใครดีนะ?
อ๊ะ!!จริงซิถามยัยกุ๊กไก่นักวิชาการประจำห้องดีกว่าเผื่อนางจะรู้อะไร
ฉันมุดกลับเข้าไปในเต๊นท์..อัยยะ!!..
"กรี๊ด!!!ออกไป๊!!!"..ตุ่บๆ!!..หนังสือและอะไรต่ออะไร
ถูกยัยกุ๊กไก่ระดมปาใส่หน้าฉันจนหน้าหงายเงิบ
ก้นจ้ำเบ้านั่งมึนอยู่หน้าเต๊นท์!!
"อะ!อะไรของเธอวะ?..ก็แค่ใส่ยกทรง!!ทำไมต้องลงไม้ลงมือกับฉันด้วยเนี่ย!!" ฟลุ่บ!!โป๊ก!!
"โอ๊ย!!เจ็บนะยัยบ้า!!"..ยัยกุ๊กไก่โผล่ออกมาแค่หน้าเขกมะเหงกลงบนหัวฉัน
"เธอมันจอมลามก!!อย่าคิดว่าเรื่องเมื่อคืนฉันจะลืมมันไปง่ายๆนะ!!"
อ้อ!!แบบนี้นี่เอง..ต่อให้พูดอะไรไปยัยนั่นก็ไม่ฟังอยู่ดี!!
"โอเค..ฉันขอโทษแต่ฉันมีเรื่องอยากจะถามเธอหน่อยน่ะ"
ยัยกุ๊กไก่ขมวดคิ้วจ้องหน้าฉัน..
"เรื่องอะไร..แต่ถ้าเรื่องทะลึ่งเธอโดนดีแน่!!"
ฉันกลอกตาส่ายหัวไปมาผิดครั้งเดียวกลายเป็นอาชญากรตลอดชีพเลยกู
"เธอรู้ไหมสัตว์ป่าอะไรเสียงแหลมเล็ก..ร้อง..ก๋อย..ก๋อย..ก๋อย"
ยัยนั่นทำหน้าเหมือนรู้เลย..ดูซินักปราชญ์ประจำชั้นจะตอบว่าอะไร?
"ผีกองกอย!!"..ห๊ะ!!..ยัยนี้นี่!!กะกวนประสาทฉันใช่ไหม?
"เธออย่ามาอำกันนะ!!มันไม่ตลกหรอกผีๆสางๆเนี่ย!!"
ยัยกุ๊กไก่ผลุ่บหายเข้าไปในเต๊นท์แล้วโผล่ออกมา
พร้อมกับหนังสือเล่มหนึ่ง..
"อ่ะ!!เนี่ยเป็นหนังสือที่พ่อฉันให้เอามาอ่านเกี่ยวกับการประพฤติตัวในป่า
พ่อฉันเป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้พ่อบอกว่าป่ามีเรื่องแปลกๆเกิดขึ้นมากมาย
ป่าดงดิบเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าและสิ่งลี้ลับและหนึ่งในนั้นก็คือผีกองกอย
ผีที่ชอบดูดเลือดคนด้วยการเจาะดูดที่นิ้วโป้เท้าและทุกครั้งที่มันจะปรากฏตัว
มันจะส่งเสียงร้องก๋อยๆเป็นสัญญาณบอกพวกมันให้เข้าโจมตี..
ดังนั้นเวลาเราจะนอนให้นอนไขว้ขาหลอกมัน"...
ฉันเริ่มเหงื่อแตก!!เพราะมันดูสอดคล้องกับสิ่งที่ไอ้แบงค์โดน
"แล้วถ้าถูกผีกองกอยดูดเลือดจะเป็นยังไงบ้าง?"..ยัยนั้นเริ่มทำหน้าน่ากลัวแหะ
"ถ้าถูกครั้งแรกจะมีไข้สูงแต่ผีกองกอยจะกลับมาดูดเหยื่ออีกครั้งเพื่อเอาชีวิต!!"
ห๊ะ!!..ชิบหายแล้วซิไอ้แบงค์!!..แต่มันจะเป็นจริงอย่างที่ยัยนี่พูดเหรอ?
คนเดียวที่จะไขความจริงของเรื่องได้..คนๆเดียว..พี่ฟรัง!!
"ฉันให้เวลาเธอห้านาทีรีบแต่งตัวให้เสร็จแล้วไปกับฉันถ้าเธอชักช้าฉันจะปล้ำเธอ!!"
"กรี๊ด!!.."..ผัวะ!!..ตุ่บ!!..ยัยกุ๊กไก่ถีบฉันจนกระเด็น!!
กุ๊กไก่..
เหนิงลากฉันไปที่เต๊นท์ของรุ่นพี่มอห้า พี่ฟรังมนุษย์ผีดิบประจำโรงเรียน
ใบหน้านิ่งๆของพี่ฟรังมีเสน่ห์อย่างประหลาดเธอรับฟังสิ่งที่เหนิงเล่า
ด้วยใบหน้าเรียบเฉยจนฉันแอบสงสัยว่าเธอมีความรู้สึกบ้างหรือเปล่า
"เรื่องทั้งหมดก็เป็นแบบนี้พี่ฟรังคิดว่าเป็นฝีมือของผีกองกอยหรือเปล่าคะ"
คำตอบที่เธอตอบเหนิงคือการพยักหน้าช้าๆ
"แล้วยังงี้พอจะมีวิธีช่วยช่วยไอ้แบงค์ไหมคะ?"
ดูเหนิงจะห่วงแบงค์มากก็ไม่แปลกใจหรอกนะ สองคนนี่เป็นเพื่อนกันตั้งแต่อนุบาลนี่นา
"ผีกองกอยกลัวแสงทุกชนิดและเท่าที่สัมผัสได้มันมีทั้งหมดสามตัว
เป้าหมายของพวกมันคือพวกผู้ชายดังนั้นเราต้องทำให้มันกลัว
และไม่กล้ากลับมาที่ค่ายอีก.."
พี่ฟรังบอกแผนการพวกเราและให้พวกเราแยกย้ายไปเตรียมตัวทำตามแผน
เกิดมาก็ไม่เคยพบเคยเห็นหน้าตาผีกองกอยจริงๆซักที..
มันจะมีจริงหรือเป็นเพียงนิทานหลอกเด็กก่อนนอนกันแน่นะ?
คืนนี้คงได้รู้ความจริงกันซักที..
ว่าแต่วิธีของพี่ฟรังจะได้ผลจริงเหรอ?
ถ้าเกิดผิดแผนขึ้นมาไม่ตายกันหมดหรือไง?
โอ๊ยเริ่มวิตกแล้วซิเรา!!..ฉันที่นอนคลุมโปงอยู่ใต้ผ้าห่ม
เริ่มกระเถิบตัวไปเบียดคนที่นอนอยู่ด้วย..
"มาเบียดฉันแบบนี้ไม่กลัวหรือไง?"..แหม๋!!สมองยัยนี่คิดเรื่องอื่นเป็นไหมเนี่ย!!
ก๋อย..ก๋อย..ก๋อย..สวบ..สวบ..สวบ..
ไม่ทันได้ขยับปากด่าเสียงที่ทำให้ขนแขนฉันลุกตั้งก็ดังขึ้น
พร้อมกับเสียงกระโดดย้ำพื้นหญ้า..
ฟรัง..
ฉันที่ซุ่มตัวอยู่ในความมืดส่งสัญญาณด้วยการกระพริบไฟฉาย
ให้พี่เบลล์,พี่ฝน,พี่เก้า,พี่ตาล ที่แอบซุ่มอยู่โดยรอบเต๊นท์ของเด็กผู้ชาย
เมื่อผีกองกอยปรากฏตัวกระโดดออกมาจากป่า ตัวแคระแกนผอมแห้ง
เท่ากับเด็กประถม..พวกมันกระโดดตรงไปที่เต๊นท์เหยื่อที่มันดูดเลือดไว้
คนที่อยู่ในเต๊นท์จะทำสำเร็จไหมนะ?
แต่คนที่อยู่ด้านนอกกระพริบไฟตอบกลับถึงความพร้อมครบทุกคน
"เห็นแล้วใช่ไหม?"..แพรจับมือฉันแน่น..
"เกิดมาก็เพิ่งเคยเห็นนี่แหละเราจะจับพวกมันหรือเปล่า?"
ฉันส่ายหัวให้แพรวา..
"เราจะแค่ไล่มันเข้าป่าและไม่กล้าออกมาอีก!!"
เหนิง..
'ไอ้แบงค์เอ๋ย!!เพราะกูเห็นแก่ความเป็นเพื่อนนับสิบปีของมึงกับกูหรอกนะ
ไม่งั้นกูไม่มีวันทำเรื่องบ้าๆแบบนี้แน่..กลัวจะแย่!!'..ก๋อย..ก๋อย..สวบๆ
เสียงผีกองกอยกระโดดขึ้นลงย้ำพื้นอยู่หน้าเต๊นท์
ทำเอาฉันใจสั่นระทึกมือกำไฟฉายแน่น!!..
พรึ่บ!!เสียงผ้าเต๊นท์ถูกตลบ..ฉันจับมือกับกุ๊กไก่แน่น
นาทีที่ต้องเผชิญหน้ากับผีนี่หัวใจมันจะระเบิดออกมาไหมเนี่ย?
ก๋อย..ก๋อย..จะร้องหาพ่องมึงเหรอ!!กูกลัวจนฉี่จะแตกแล้ว!!
ผ้าที่คลุมปลายขาถูกเลิกขึ้น!!..
123...ฉันกับกุ๊กไก่ยกเท้าถีบเสยหน้าผีกองกอย
แล้วดีดตัวลุกพรวด..ไฟฉายของฉันถูกสาดแสงเข้าหน้า!!!
หน้าของมัน!!..กุ๊กไก่รัวชัตเตอร์แสงแฟรตส่องพรึ่บพรั่บ
ดวงตาปูดโปนเหลือกถลนมันยกสองมือเหี่ยวๆนิ้วที่ยาวจนผิดปกติ
ขึ้นปิดหน้าปากที่คล้ายกับท่อปลายแหลมนี่มันตัวบ้าอะไรกัน!!
มันกระโดดหนีไปแล้วฉันรีบพุ่งตัวออกจากเต๊นท์เพื่อไล่ล่ามันตามแผน
กุ๊กไก่วิ่งตามมาติดๆ..ครูสมชาย,ครูอรุณี,ครูกนกอร
ที่สวมรอยเข้าไปนอนในเต๊นท์คนที่ถูกไอ้ตัวน่าเกลียด
พวกนี้ดูดเลือดก็วิ่งไล่ตามพวกมันออกมา..
พรึ่บ!!..คบเพลิงที่ปักไว้โดยรอบค่ายถูกพวกพี่ฟรังจุดขึ้นจนสว่างสไว
ฟรัง..
พวกฉันถือคบเพลิงดักหน้าผีกองกอยที่กำลังจนตอก
ข้างหลังมันก็มีพวกคุณครูและนักเรียนชายอีกหลายคน
จุดคบเพลิงดักพวกมันรอบทิศพวกมันยกมือขึ้นปิดบังใบหน้า
ด้วยความหวาดกลัว..ฉันเดินเข้าไปเผชิญกับพวกมันเพื่อใช้
โทรจิตในการสื่อสารกับมันพวกมันอาศัยการได้ยินในรูปของคลื่นเสียง
ดังนั้นการที่มันร้องด้วยเสียงแหลมเล็กนั่นก็คือการสื่อสารของพวกมัน
"กลับเข้าป่าไปซะและอย่าออกมาอีกถ้าไม่อยากถูกไฟนี่เผาทำลาย
ก็รีบกลับเข้าป่าไป!!"..พวกมันพงกหัวรับคำก่อนพากันกระโดดหายเข้าไปในป่า
"นรีกุลเราจะแน่ใจได้ไงว่ามันจะไม่ออกมาอีก?เราน่าจะเผามันซะ"
ครูสมชายคงค้านในสิ่งที่ฉันทำซินะ
"มันจะไม่ออกมาอีกแล้วเพราะสัญชาตญาณของมันบอกว่ามนุษย์น่ากลัว
ยิ่งกว่าผีหลายเท่าตัวค่ะ"..
คำพูดของฉันเล่นเอาครูสมชายยืนอ้าปากค้าง
"กลับเต๊นท์กันเถอะค่ะ"..ทุกคนเดินแยกย้ายกันกลับเต๊นท์ของตัวเอง
ค่ำคืนแห่งความสงบสุขกลับมาอีกครั้งเมื่อความหวาดกลัวหายไปจากใจ
ความกล้าจะมาแทนที่..ฉันเดินจับมือกับแพรวาเรายิ้มให้กันในเงาของความมืด
การปลดปล่อยนั่นคือภารกิจของฉันซินะไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นปีศาจร้ายก็ตาม
ใช่มันคืองานของฉัน..ฉันไม่ได้เกิดมาเพื่อทำลาย..
~~~~~~~~~~~~~~~~~~
จบตอนแล้วคร๊าบ..ขอพักฟรังไปแต่งคิกุโนะต่อนะคร๊าบ
ยังไงจะเข้ามาอัพตอนใหม่ให้นร้า
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น