ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฟรัง colic คนเห็นผี

    ลำดับตอนที่ #15 : กองกอย

    • อัปเดตล่าสุด 29 ก.ย. 58






    กองกอย..ผีป่าหน้าตาอัปลักษณ์ ดวงตาปูดโปน

    โดดไปมาด้วยขาเพียงข้างเดียว..

    ตำนานของผีตนนี้เป็นที่เล่าขานของคนรุ่นเก่า

    แต่ในปัจจุบันล่ะมันยังมีตัวตนอยู่อีกไหม?


    ~~~~~~~~~~~~~~~~~

    *ค่ายพักนักเรียน* 05:00


    เหนิง..


    อืมนิ่มจัง..ให้ตายเถอะคนกำลังหลับสบายแท้ๆ

    ก้อนปุยนุ่นที่อยู่ในมือนี่ก็นุ่มนิ่มเหลือเกิน ..

    อ่าฉันขยำมืออย่างหมั่นเขี้ยว!!..

    "เด็กๆตื่น!!!!"..ฉันสะดุ้งหลุดออกจากภวังค์ด้วยเสียงที่แผดจนแสบแก้วหู!!

    ของครูเจ้าแม่โทรโขล่งทองคำ!!..แต่เอะ!!..ฉันลูบๆคลำๆสิ่งที่อยู่ในมือฉัน!!

    "ชิบหาย!!"..ขยำเต็มที่เลยกู!!..ฉันค่อยๆปล่อยมือจากหน้าอกของหัวหน้าห้อง

    จอมเนิส..ยัยกุ๊กไก่..ฆ่าฉันด้วยทฤษฏีหลักการ การอยู่ร่วมกันจนหัวฟูสมองกระจุยแน่!!

    "เหนิง"..เสียงยัยกุ๊กไก่ทำฉันรีบลุกพรวดพลาดคว้าผ้าเช็ดตัวกระโจนออกนอกเต๊นท์ทันที!!



    เฮ้อ..อากาศยามเช้ามืดในป่าแบบนี้..สดชื่นจริงๆเลย

    อ๊ะ!!ยัยกุ๊กไก่เดินมานู้นแหละทำหน้าไงดีวะเรา..

    ระรื่นกลบเกลื่อนเข้าไว้..

    "มอนิ่งงงง!!หลับสบายดีมะเมื่อคืนน่ะ!" ยัยบ้าเอ๊ย!!

    คนอุตส่าห์ทักดันทำหน้านิ่งเดินผ่านฉันไปอย่างหน้าตาเฉย

    สงสัยจะโกรธซินะ!!แล้วฉันตั้งใจหรือไงกันเล่า!!หงุดหงิดๆ!!

    "เหนิงมียาแก้ปวดบ้างเปล่าวะ?" ฉันหันไปมองไอ้แบงค์ที่ยืนหน้าซีดเป็นไก่ต้ม

    "มึงเป็นไรวะ?หน้าถึงได้ซีดขนาดนั้น" ไอ้แบงค์ทรุดนั่งลงกับพื้นเหมือนคนหมดแรง

    "ไม่รู้ตัวอะไรมันกัดกูว่ะ!!"..มันยกเท้าขึ้นสูงกระดิกหัวนิ้วโป้เท้าให้ฉันดู

    "เชี้ย..เหม็นชิบหาย!!"..ฉันปัดเท้าของมันลง

    "งั้นแกรออยู่นี่แหละเดี๋ยวฉันไปเอายามาให้!"

    ฉันเดินกลับไปที่เต๊นท์เอายาแก้ปวดมาให้ไอ้แบงค์

    แต่กัดเป็นรูขนาดนั้นมันเป็นตัวอะไรกันนะ?

    หลังจากกินยาไปแล้วมันก็เดินกลับเต๊นท์ของมันไปด้วยท่าทางอิดโรย

    เป็นอะไรมากเปล่าวะ?..ตั้งแต่กินข้าวเช้าฉันก็ไม่เห็นไอ่แบงค์อีกเลย


    "เอาล่ะกิจกรรมของพวกเธอในวันนี้คือการบวชป่า

    ส่วนพวกมอห้ากับมอหกเขารับหน้าที่ปลูกต้นไม้กัน

    ให้หัวหน้าห้องและรองหัวหน้าไปรับผ้าที่ครูสมชาย

    เอามาแจกจ่ายให้เพื่อนๆได้เลยค่ะ"





     กุ๊กไก่..


    ฉันลังเลนิดหน่อยก่อนจะเดินถือผ้าผืนสุดท้าย

    ตรงไปหาเพื่อนร่วมเต๊นท์..เหนิง..เด็กแสบประจำห้อง

    ก๊วนเนี้ยชอบทำตัวมีปัญหาอยู่เรื่อย..

    แถมเมื่อคืนก็ยังทำเรื่องบ้าๆกับฉันอีก

    เช้ามาจะขอโทษซักคำก็ไม่มี!!..ยังทำหน้าระรื่นได้อีกนะ

    น่าโมโหชมัด!!เห็นเราเป็นของเล่นหรือไงกัน..

    "เห้ยๆ..พวกมึงบวชป่าเสร็จแล้วเล่นน้ำกันดีกว่า"

    ฉันหยุดยืนด้านหลังเหนิงที่กำลังจ้อกับเพื่อนในชั้นอย่างอารมณ์ดี

    ฉันดึงชายเสื้อเหนิงเบาๆ..

    "ห๊ะ!!..ของฉันเหรอ?ขอบใจนะ.."

     เหนิงหันมารับผ้าแล้วหันไปคุยต่อไม่ได้สนใจฉันเลย!!



    ผู้นำชุมชนตั้งศาลไม้เล็กๆเพื่อทำพิธีบวชป่า

    ข้าวเหนียวข้าสุก หมากพลู เครื่องเส้นไหว้ถูกนำมาประกอบพิธี

    ผู้ชายช่วยกันโยงสายสินไปยังต้นไม้แต่ละต้น

    พวกเราที่มีผ้าเหลืองอยู่ในมือก็เดินแยกย้ายกัน

    นำไปผูกกับต้นไม้ใหญ่ จุดประสงค์ของการบวชป่า

    ก็เป็นไปตามความเชื่อของชาวบ้านว่าเทวดาเจ้าป่าเจ้าเขา

    จะช่วยปกปรักรักษาต้นไม้จากพวกตัดไม้ทำลายป่า

    ฉันพยายามเอื้อมหยิบชายผ้าอีกด้านผูกโอบต้นไม้ใหญ่

    แต่แขนฉันคงสั้นไปมั้งเนี่ย ลำบากเหมือนกันแหะ

    "มาฉันช่วย"..เหนิงจับชายผ้าอีกด้านช่วยฉันมัดผูกจนเสร็จ

    "นี่เธอจะไปเล่นน้ำด้วยกันมะ..ฉันไปดูทำเลมาแล้วนะ"

    ในสมองมีอะไรมากกว่าการเล่นสนุกอีกไหมเนี่ย?

    "ไม่อ่ะ..ฉันจะถ่ายภาพกิจกรรมการออกค่ายไว้ทำรายงาน"

    เหนิงพยักหน้าแล้วทำท่าจะพูดอะไรซักอย่างแต่ก็เงียบไป

    "อืม..งั้นฉันไปนะ" เหนิงกำลังจะเดินไปแต่กับหยุดชะงักหันกลับมา

    "ไงเธอก็เดินๆระวังพวกสัตว์เลื้อยคลานบ้างล่ะ ได้ข่าวว่าถูกสัตว์แปลกๆกัดเท้า

    กันไปหลายคน"..พูดเสร็จก็วิ่งก้าวกระโดดไปอย่างไว..

    ฉันอมยิ้มให้กับเพื่อนร่วมเต๊นท์ที่อุตส่าห์เป็นห่วงฉัน





    ฟรัง..


    ฉันกับแพรรับกล้าไม้กับพั่วจากครูสมชาย

    เราสองคนเดินไปหาทำเลที่จะปลูกกล้าไม้

    "ต้องหาที่มีแสงแดดอ่อนส่องถึงพื้นดินมีความชุ่มชื้น ต้นกล้าจะได้โตเร็วๆ"

    เด็กที่โตมากับสวนอย่างฉันถนัดเรื่องการปลูกต้นไม้ที่สุด..

    "ใกล้ๆน้ำตกเป็นไง?"..แพรวาเสนอแนวคิด..น่าสนใจ..

    เราสองคนเดินไปหาทำเลใกล้กับน้ำตกจนเจอพื้นที่เหมาะ

    ฉันจึงลงมือขุดดิน..

    "เออนี่ฟรัง..แพรได้ยินพวกรุ่นน้องคุยกันว่ามีเด็กผู้ชายมอสี่

    ถูกตัวประหลาดกัดหัวนิ้วโป้เท้าจนเป็นรูไปสามคนแต่ละคน

    มีไข้สูงมากเลย ได้ยินมาว่าถ้าพรุ่งนี้อาการไม่ดีขึ้นคุณครู

    จะประสานงานกับทางศูนย์ให้มารับตัวออกไป"

    เรื่องที่แพรเล่าทำให้ฉันฉุกคิดถึงผีป่าตนนึงจะเรียกว่าผีซะทีเดียวก็ไม่ได้

    มันเป็นสัตว์ประหลาดครึ่งผีที่มีมาแต่โบราณ..กองกอย..

    "แพร..รู้จักผีกองกอยไหม?"..แพรส่ายหัวไปมา

    "อยากฟังเรื่องเล่าของผีกองกอยไหมล่ะ?.."  แพรวารีบพยักหน้าทันที

    "มันเป็นตำนานเล่าขานถึงชนเผ่าที่อาศัยอยู่ในป่าดงดิบ

    ชาวป่ากลุ่มนั้นมีรูปร่างแคละแกนร่างกายผ่ายผอม

    พุงโลก้นปอด ไม่สวมใส่เสื้อผ้า มักอาศัยอยู่ตามถ้ำ

    บ้างก็ขุดรูอยู่แต่นั่นไม่น่ากลัวเท่ากับชนเผ่านี้ชอบกิน

    เลือดและเนื้อของมนุษย์ พวกนี้มีความว่องไวในการปีนป่าย

    ตามเขาสูงชันและความหิวกระหายทำให้พวกเขาเริ่มออกจากป่า

    มาล่ามนุษย์ที่อาศัยอยู่ตามชายป่า จากการหายตัวอย่างลึกลับ

    ของเด็กในหมูบ้านทำให้นักพดฤษีรูปหนึ่งได้อาสาเข้าไปในป่า

    เพื่อตามหาเด็กๆ..กลางดึกของคืนหนึ่ง..


    ในป่าดงเช่นนั้นดูเงียบสงัดวังเวง..นักพด ก็ได้ยินเสียงประหลาด

    คล้ายเสียงนกกลางคืนร้อง..

    "ก๋อย ก๋อย ก๋อย" 
    เสียงนั้นดังใกล้เข้ามา แล้วดังรับกันล้อมรอบไปทั่วทิศ

    เสียงบีบเข้ามาเรื่อยๆ..

    "ก๋อย ก๋อย ก๋อย" และมีแสงคบไฟนับสิบๆ ดวงมาจากเสียงนั้น

    ทำให้มองเห็นตัวผู้ถือได้ถนัด..


    ร่างนั้นเป็นมนุษย์ร่างประหลาด ขนาดเด็กอายุ 13-14 ปี

    ผอม พุงโร ผิวคล้ำ ผมเผ้ารุงรัง จมูกแบน บ่งบอกว่าเป็นคนป่า

    ทุกคนมีอาวุธประจำตัวคือ..

    "หน้าทึ่น" คล้ายธนูแต่เล็กกว่า ใช้คล่องตัวในป่า

    พวกเขาสะพายกระบอกไม้ไผ่ใส่ลูกดอกอาบยาพิษ

    ก่อนที่ลูกดอกอาบยาพิษจะพุ่งปิดชีพนักพด

    นักพดผู้มีวิชาอาคมบริกรรมคาถาทำใหลูกดอกที่พุ่งมา

    ล่วงหล่นพื้นกลายเป็นผลไม้..พวกคนป่าเห็นเช่นนั้น

    ก็พากันตกใจก้มลงกราบไหว้และยกให้เป็นเทพเจ้าของเขา

    นักพดจึงห้ามไม่ให้พวกชาวป่ากินเนื้อมนุษย์อีกโดยเด็ดขาด

    และได้สาปแช่งเอาไว้ว่า..

    ถ้ามันผู้ใดกระทำผิดกินเนื้อมนุษย์อีกกูขอสาปแช่ง

    ให้เผ่าของพวกมึงสูญสิ้นขาหนึ่งข้างมีปากยื่นยาวดังกระบอกกินได้แค่น้ำ

    ถ้าโดนแสงก็ขอแสงนั้นเผาไหม้พวกมึง..

    แหละนั้นก็คือคำสาปแช่งของนักพด..

    อยู่มาวันนึงความอยากกระหายในเลือดและเนื้อของมนุษย์

    ทำให้ชาวป่ารวมกลุ่มกันออกล่ามนุษย์อีกครั้ง..

    และคำแรกที่ได้ลิ้มรสเนื้อมนุษย์สดๆก็เกิดอาเพศทั้งลมทั้งฝน

    ชาวป่าล้มตัวเกลือกกลิ้งไปมากับพื้นดิ้นทุรนทุรายรูปร่างเริ่มเปลี่ยนไป

    ขาหดหายไปข้างหนึ่งปากค่อยๆยื่นยาวคล้ายปากของยุงกลายสภาพ

    เป็นสัตว์ประหลาดกระโดดไปมาด้วยขาเพียงข้างเดียว

    ส่งเสียงร้อง..ก๋อย..ก๋อย..ก๋อย..นี่ก็คือตำนานที่มาของผีกองกอย

    ผีป่าที่ชอบดูดเลือดมนุษย์โดยใช้ปากเจาะดูดที่หัวนิ้วโป้เท้าของมนุษย์

    โดยเฉพาะเลือดของผู้ชายพวกผีกองกอยจะชื่นชอบเป็นพิเศษ"

    แพรวาลูบแขนไปมาขยับตัวกอดแขนฉันเอาไว้

    "น่ากลัวอ่ะฟรังแล้วปัจจุบันพวกนี้มันยังมีอยู่ไหม?"

    ฉันพยักหน้า..ใช่มันยังมีอยู่และมันกำลังออกล่า..

    "แฮ่ม!!..แอบจู๋จี๋กันอยู่ตรงนี้เอง"..พี่เบลล์ฉีกยิ้มกว้างยักคิ้วให้ฉัน

    "เบลล์อ่ะ..แซวน้อง" พี่ฝนตีแขนพี่เบลล์จอมกวนที่ทำหน้าทำตาเหมือนเจ็บมาก

    "โอ๊ยเจ็บจัง!!55+"..พี่เบลล์นี่น่ารักนะขี้เล่นได้ตลอดเวลา

    ไม่ค่อยเห็นพี่เบลล์เครียดแถมเรียนก็ได้ท็อปทุกวิชา

    "เออนี่ฟรังกับแพรไปเล่นน้ำด้วยกันมะพี่นัดเก้ากับตาลเอาไว้แล้ว"

    ฉันหันไปมองหน้าแพรที่พยักหน้าหงึกๆคงอยากเล่นมากล่ะซิ

    "ก็ดีเหมือนกันค่ะ"..พี่เบลล์กระโดดโลดเต้นเหมือนเด็กๆเลย

    เฮ้อ..ทำให้คิดถึงขันทองเลยป่านนี้ยัยตัวแสบกับพี่ก้อย

    จะเป็นไงบ้างนะ..




    ขันทอง..


    "ฮัดชิ้ว!!!.."ใครนินทาหว๊า?..





    เหนิง..


    ฉันขออนุญาตครูสมชายไปเยี่ยมดูอาการไอ้แบงค์

    ที่หมกนอนในเต๊นท์เพราะพิษไข้..

    "เป็นไงวะ..กินข้าวกินยายังมึง?" มันนอนตัวสั่นอยู่ในผ้าห่ม

    "อืม..คะครูสมชายเอามาให้กูกินแล้ว" ดูจากอาการแล้วท่าจะแย่

    "เห็นว่าพรุ่งนี้เช้าทางศูนย์จะเอาเปมารับน่ะไงมึงก็อดทนหน่อยนะ

    ว่าแต่ไม่มีใครเห็นเลยหรือไงวะว่ามันเป็นตัวอะไร?"

    ไอ้แบงค์ขมวดคิ้วคิดสักพักมันก็ทำหน้าเหมือนนึกอะไรออก

    "ก่อนกูจะหลับ..กูได้ยินเสียงสัตว์ร้องแปลกๆว่ะ"

    ฉันนั่งลุ้นในเรื่องที่ไอ้แบงค์กำลังเล่า..

    "เสียงแหลมๆเล็กๆร้อง..ก๋อยๆเกิดมากูก็เพิ่งเคยได้ยินนี่แหละ

    ไม่รู้ว่าตัวเหี้ยอะไรเหมือนกัน หลังจากนั้นกูก็หลับไม่รู้เรื่องเลย

    ตื่นเช้ามาก็ปวดหนึบที่นิ้วโป้เหมือนถูกเข็มสลิงดูดเลือด

    ลุกขึ้นนี่หน้ามืดเลยใจแม่งหวิวเหมือนจะเป็นลม"


    ฉันคุ้นคิดถึงเรื่องที่ไอ้แบงค์เล่า จะถามใครดีนะ?

    อ๊ะ!!จริงซิถามยัยกุ๊กไก่นักวิชาการประจำห้องดีกว่าเผื่อนางจะรู้อะไร

    ฉันมุดกลับเข้าไปในเต๊นท์..อัยยะ!!..

    "กรี๊ด!!!ออกไป๊!!!"..ตุ่บๆ!!..หนังสือและอะไรต่ออะไร

    ถูกยัยกุ๊กไก่ระดมปาใส่หน้าฉันจนหน้าหงายเงิบ

    ก้นจ้ำเบ้านั่งมึนอยู่หน้าเต๊นท์!!

    "อะ!อะไรของเธอวะ?..ก็แค่ใส่ยกทรง!!ทำไมต้องลงไม้ลงมือกับฉันด้วยเนี่ย!!" ฟลุ่บ!!โป๊ก!!

    "โอ๊ย!!เจ็บนะยัยบ้า!!"..ยัยกุ๊กไก่โผล่ออกมาแค่หน้าเขกมะเหงกลงบนหัวฉัน

    "เธอมันจอมลามก!!อย่าคิดว่าเรื่องเมื่อคืนฉันจะลืมมันไปง่ายๆนะ!!"

    อ้อ!!แบบนี้นี่เอง..ต่อให้พูดอะไรไปยัยนั่นก็ไม่ฟังอยู่ดี!!

    "โอเค..ฉันขอโทษแต่ฉันมีเรื่องอยากจะถามเธอหน่อยน่ะ"

    ยัยกุ๊กไก่ขมวดคิ้วจ้องหน้าฉัน..

    "เรื่องอะไร..แต่ถ้าเรื่องทะลึ่งเธอโดนดีแน่!!"

    ฉันกลอกตาส่ายหัวไปมาผิดครั้งเดียวกลายเป็นอาชญากรตลอดชีพเลยกู

    "เธอรู้ไหมสัตว์ป่าอะไรเสียงแหลมเล็ก..ร้อง..ก๋อย..ก๋อย..ก๋อย"

     ยัยนั่นทำหน้าเหมือนรู้เลย..ดูซินักปราชญ์ประจำชั้นจะตอบว่าอะไร?

    "ผีกองกอย!!"..ห๊ะ!!..ยัยนี้นี่!!กะกวนประสาทฉันใช่ไหม?

    "เธออย่ามาอำกันนะ!!มันไม่ตลกหรอกผีๆสางๆเนี่ย!!"

    ยัยกุ๊กไก่ผลุ่บหายเข้าไปในเต๊นท์แล้วโผล่ออกมา

    พร้อมกับหนังสือเล่มหนึ่ง..

    "อ่ะ!!เนี่ยเป็นหนังสือที่พ่อฉันให้เอามาอ่านเกี่ยวกับการประพฤติตัวในป่า

    พ่อฉันเป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้พ่อบอกว่าป่ามีเรื่องแปลกๆเกิดขึ้นมากมาย

    ป่าดงดิบเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าและสิ่งลี้ลับและหนึ่งในนั้นก็คือผีกองกอย

    ผีที่ชอบดูดเลือดคนด้วยการเจาะดูดที่นิ้วโป้เท้าและทุกครั้งที่มันจะปรากฏตัว

    มันจะส่งเสียงร้องก๋อยๆเป็นสัญญาณบอกพวกมันให้เข้าโจมตี..

    ดังนั้นเวลาเราจะนอนให้นอนไขว้ขาหลอกมัน"...

    ฉันเริ่มเหงื่อแตก!!เพราะมันดูสอดคล้องกับสิ่งที่ไอ้แบงค์โดน

    "แล้วถ้าถูกผีกองกอยดูดเลือดจะเป็นยังไงบ้าง?"..ยัยนั้นเริ่มทำหน้าน่ากลัวแหะ

    "ถ้าถูกครั้งแรกจะมีไข้สูงแต่ผีกองกอยจะกลับมาดูดเหยื่ออีกครั้งเพื่อเอาชีวิต!!"

    ห๊ะ!!..ชิบหายแล้วซิไอ้แบงค์!!..แต่มันจะเป็นจริงอย่างที่ยัยนี่พูดเหรอ?

    คนเดียวที่จะไขความจริงของเรื่องได้..คนๆเดียว..พี่ฟรัง!!

    "ฉันให้เวลาเธอห้านาทีรีบแต่งตัวให้เสร็จแล้วไปกับฉันถ้าเธอชักช้าฉันจะปล้ำเธอ!!"

    "กรี๊ด!!.."..ผัวะ!!..ตุ่บ!!..ยัยกุ๊กไก่ถีบฉันจนกระเด็น!!





    กุ๊กไก่..


    เหนิงลากฉันไปที่เต๊นท์ของรุ่นพี่มอห้า พี่ฟรังมนุษย์ผีดิบประจำโรงเรียน

    ใบหน้านิ่งๆของพี่ฟรังมีเสน่ห์อย่างประหลาดเธอรับฟังสิ่งที่เหนิงเล่า

    ด้วยใบหน้าเรียบเฉยจนฉันแอบสงสัยว่าเธอมีความรู้สึกบ้างหรือเปล่า

    "เรื่องทั้งหมดก็เป็นแบบนี้พี่ฟรังคิดว่าเป็นฝีมือของผีกองกอยหรือเปล่าคะ"

    คำตอบที่เธอตอบเหนิงคือการพยักหน้าช้าๆ

    "แล้วยังงี้พอจะมีวิธีช่วยช่วยไอ้แบงค์ไหมคะ?"  

    ดูเหนิงจะห่วงแบงค์มากก็ไม่แปลกใจหรอกนะ สองคนนี่เป็นเพื่อนกันตั้งแต่อนุบาลนี่นา

    "ผีกองกอยกลัวแสงทุกชนิดและเท่าที่สัมผัสได้มันมีทั้งหมดสามตัว

    เป้าหมายของพวกมันคือพวกผู้ชายดังนั้นเราต้องทำให้มันกลัว

    และไม่กล้ากลับมาที่ค่ายอีก.."

    พี่ฟรังบอกแผนการพวกเราและให้พวกเราแยกย้ายไปเตรียมตัวทำตามแผน

    เกิดมาก็ไม่เคยพบเคยเห็นหน้าตาผีกองกอยจริงๆซักที..

    มันจะมีจริงหรือเป็นเพียงนิทานหลอกเด็กก่อนนอนกันแน่นะ?

    คืนนี้คงได้รู้ความจริงกันซักที..

    ว่าแต่วิธีของพี่ฟรังจะได้ผลจริงเหรอ?

    ถ้าเกิดผิดแผนขึ้นมาไม่ตายกันหมดหรือไง?

    โอ๊ยเริ่มวิตกแล้วซิเรา!!..ฉันที่นอนคลุมโปงอยู่ใต้ผ้าห่ม

    เริ่มกระเถิบตัวไปเบียดคนที่นอนอยู่ด้วย..

    "มาเบียดฉันแบบนี้ไม่กลัวหรือไง?"..แหม๋!!สมองยัยนี่คิดเรื่องอื่นเป็นไหมเนี่ย!!

    ก๋อย..ก๋อย..ก๋อย..สวบ..สวบ..สวบ..

    ไม่ทันได้ขยับปากด่าเสียงที่ทำให้ขนแขนฉันลุกตั้งก็ดังขึ้น

    พร้อมกับเสียงกระโดดย้ำพื้นหญ้า..




    ฟรัง..


    ฉันที่ซุ่มตัวอยู่ในความมืดส่งสัญญาณด้วยการกระพริบไฟฉาย

    ให้พี่เบลล์,พี่ฝน,พี่เก้า,พี่ตาล ที่แอบซุ่มอยู่โดยรอบเต๊นท์ของเด็กผู้ชาย

    เมื่อผีกองกอยปรากฏตัวกระโดดออกมาจากป่า ตัวแคระแกนผอมแห้ง

    เท่ากับเด็กประถม..พวกมันกระโดดตรงไปที่เต๊นท์เหยื่อที่มันดูดเลือดไว้

    คนที่อยู่ในเต๊นท์จะทำสำเร็จไหมนะ?

    แต่คนที่อยู่ด้านนอกกระพริบไฟตอบกลับถึงความพร้อมครบทุกคน

     "เห็นแล้วใช่ไหม?"..แพรจับมือฉันแน่น..

    "เกิดมาก็เพิ่งเคยเห็นนี่แหละเราจะจับพวกมันหรือเปล่า?"

    ฉันส่ายหัวให้แพรวา..

    "เราจะแค่ไล่มันเข้าป่าและไม่กล้าออกมาอีก!!"




    เหนิง..


    'ไอ้แบงค์เอ๋ย!!เพราะกูเห็นแก่ความเป็นเพื่อนนับสิบปีของมึงกับกูหรอกนะ

    ไม่งั้นกูไม่มีวันทำเรื่องบ้าๆแบบนี้แน่..กลัวจะแย่!!'..ก๋อย..ก๋อย..สวบๆ

    เสียงผีกองกอยกระโดดขึ้นลงย้ำพื้นอยู่หน้าเต๊นท์

    ทำเอาฉันใจสั่นระทึกมือกำไฟฉายแน่น!!..

    พรึ่บ!!เสียงผ้าเต๊นท์ถูกตลบ..ฉันจับมือกับกุ๊กไก่แน่น

    นาทีที่ต้องเผชิญหน้ากับผีนี่หัวใจมันจะระเบิดออกมาไหมเนี่ย?  

    ก๋อย..ก๋อย..จะร้องหาพ่องมึงเหรอ!!กูกลัวจนฉี่จะแตกแล้ว!!

    ผ้าที่คลุมปลายขาถูกเลิกขึ้น!!..

    123...ฉันกับกุ๊กไก่ยกเท้าถีบเสยหน้าผีกองกอย

    แล้วดีดตัวลุกพรวด..ไฟฉายของฉันถูกสาดแสงเข้าหน้า!!!

    หน้าของมัน!!..กุ๊กไก่รัวชัตเตอร์แสงแฟรตส่องพรึ่บพรั่บ

    ดวงตาปูดโปนเหลือกถลนมันยกสองมือเหี่ยวๆนิ้วที่ยาวจนผิดปกติ

    ขึ้นปิดหน้าปากที่คล้ายกับท่อปลายแหลมนี่มันตัวบ้าอะไรกัน!!

    มันกระโดดหนีไปแล้วฉันรีบพุ่งตัวออกจากเต๊นท์เพื่อไล่ล่ามันตามแผน

    กุ๊กไก่วิ่งตามมาติดๆ..ครูสมชาย,ครูอรุณี,ครูกนกอร

    ที่สวมรอยเข้าไปนอนในเต๊นท์คนที่ถูกไอ้ตัวน่าเกลียด

    พวกนี้ดูดเลือดก็วิ่งไล่ตามพวกมันออกมา..

    พรึ่บ!!..คบเพลิงที่ปักไว้โดยรอบค่ายถูกพวกพี่ฟรังจุดขึ้นจนสว่างสไว  




    ฟรัง..


    พวกฉันถือคบเพลิงดักหน้าผีกองกอยที่กำลังจนตอก

    ข้างหลังมันก็มีพวกคุณครูและนักเรียนชายอีกหลายคน

    จุดคบเพลิงดักพวกมันรอบทิศพวกมันยกมือขึ้นปิดบังใบหน้า

    ด้วยความหวาดกลัว..ฉันเดินเข้าไปเผชิญกับพวกมันเพื่อใช้

    โทรจิตในการสื่อสารกับมันพวกมันอาศัยการได้ยินในรูปของคลื่นเสียง

    ดังนั้นการที่มันร้องด้วยเสียงแหลมเล็กนั่นก็คือการสื่อสารของพวกมัน

    "กลับเข้าป่าไปซะและอย่าออกมาอีกถ้าไม่อยากถูกไฟนี่เผาทำลาย

    ก็รีบกลับเข้าป่าไป!!"..พวกมันพงกหัวรับคำก่อนพากันกระโดดหายเข้าไปในป่า

    "นรีกุลเราจะแน่ใจได้ไงว่ามันจะไม่ออกมาอีก?เราน่าจะเผามันซะ"

    ครูสมชายคงค้านในสิ่งที่ฉันทำซินะ

    "มันจะไม่ออกมาอีกแล้วเพราะสัญชาตญาณของมันบอกว่ามนุษย์น่ากลัว

    ยิ่งกว่าผีหลายเท่าตัวค่ะ"..

    คำพูดของฉันเล่นเอาครูสมชายยืนอ้าปากค้าง

    "กลับเต๊นท์กันเถอะค่ะ"..ทุกคนเดินแยกย้ายกันกลับเต๊นท์ของตัวเอง

    ค่ำคืนแห่งความสงบสุขกลับมาอีกครั้งเมื่อความหวาดกลัวหายไปจากใจ

    ความกล้าจะมาแทนที่..ฉันเดินจับมือกับแพรวาเรายิ้มให้กันในเงาของความมืด

    การปลดปล่อยนั่นคือภารกิจของฉันซินะไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นปีศาจร้ายก็ตาม

    ใช่มันคืองานของฉัน..ฉันไม่ได้เกิดมาเพื่อทำลาย..



    ~~~~~~~~~~~~~~~~~~


    จบตอนแล้วคร๊าบ..ขอพักฟรังไปแต่งคิกุโนะต่อนะคร๊าบ

    ยังไงจะเข้ามาอัพตอนใหม่ให้นร้า




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×