ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฟรัง colic คนเห็นผี

    ลำดับตอนที่ #12 : กรุสมบัติวันเชงเม้ง

    • อัปเดตล่าสุด 24 ก.ย. 58






    ก้อย..


    ฉันปิดงับประตู..ร้านกงเต็ก..อย่างใจหาย

    "ขอโทษด้วยนะอากงอาม่าแต่หนูกลัวจริงๆ"..

    ฉันหันไปยิ้มให้กับนางฟ้าตัวน้อยๆที่ผ่านมาช่วยฉัน

    ถึงสองครั้งจะด้วยความบังเอิญหรือด้วยเหตุผลอะไรก็ช่าง..

    รู้แค่ว่าอบอุ่นใจอย่างประหลาดกับสองมือเล็กที่เช็ดน้ำตาให้กับฉัน..

    ตลอดสองข้างทางที่ฉันขับรถผ่านมีแต่ต้นไม้และทุ่งนา

    สีเหลืองของรวงข้าวช่างสวยเหลือเกิน..

    "พี่สาวเลี้ยวซ้ายตรงแยกหน้าค่ะ"..

    ฉันหักพวงมาลัยเลี้ยวรถเข้าแยกซ้ายตอนนี้เหมือนขับอยู่ในป่าใหญ่

    ร่มรื่นจริงๆนี่แหละมนต์เสน่ห์ของชนบท..

    "พี่สาวจอดตรงต้นคูนใหญ่นั่นจ้ะ"..ฉันจอดรถด้านหน้าประตูไม้ที่อยู่ใต้ร่มเงาต้นคูน

    ห๋า!!..เด็กผู้หญิงผมยาวใส่เอี๊ยมยีนรองเท้าบู๊ทยางแบบชาวสวนเปิดประตูออกมา

    ใบหน้านิ่งๆชวนฝันที่ฉันเคยเจอ..

    "พี่สาวลงมาก่อนซิ"..มะมะไม่ต้องชวนก็แทบจะกระโจนออกไปเองอยู่แล้ว




    ฟรัง..


    มาจนได้ซินะ..

    สัมผัสไอมรณะที่กระจายตัวปกคลุมพี่สาวคนนี้แล้ว

    ฉันรู้สึกหวั่นใจขึ้นมาชอบกลกลิ่นสาปสางรุนแรงเหลือเกิน

    งานนี้ไม่ง่ายแน่ๆ..แต่หน้าที่ของฉันคือการช่วยคน!!

    "พี่สาวหนูพาคนป่วยมาส่ง" แววตาขันทองน้อยฉายแวว

    ให้ฉันเห็นถึงความน่ากลัวของสิ่งที่ฉันจะต้องปะทะด้วย

    "งานช้างซินะ" ขันทองพยักหน้าให้ฉันด้วยใบหน้านิ่งๆ

    ฉันมองหน้าผู้หญิงที่ทำหน้าเคลิบเคลิ้มเหมือนตกอยู่ในภวังค์แห่งความฝัน

    แล้วเอื้อมมือสะกิดให้เธอรู้ตัว..

    เธอสะดุ้งยืนหน้าแดงจนฉันต้องขมวดคิ้วให้

    คนอะไรในสมองมีแต่หน้าฉันลอยเต็มไปหมด

    คิดอะไรของเขาอยู่ล่ะเนี่ย?

    "เข้าบ้านก่อนซิคะ"..เธอเดินตามฉันเข้ามาอย่างว่าง่าย

    ฉันวางแก้วน้ำมะตูมเย็นๆลงตรงหน้าเธอ..

    แล้วเริ่มต้นสนทนาอย่างจริงจังกับเธอ


    ฟรัง : ชื่ออะไรคะ?

    ก้อย : พี่ชื่อก้อยแล้วเราล่ะชื่ออะไร?

    ฟรัง : ฟรังค่ะส่วนยัยตัวเล็กนี่ชื่อขันทอง

    ก้อย : น่ารักทั้งพี่ทั้งน้องเลยนะ  


    คำชมที่ทำให้ยัยเปี๊ยกนี่ยิ้มจนหน้าบานนั่งม้วนไปมา แก่แดดจริงๆ!

    "พี่ก้อย..วิญญาณของอากงกับอาม่าของพี่ไม่สงบสุข" ..

    พี่ก้อยนั่งหน้าซี๊ดเผือดที่จู่ๆฉันก็โผลงออกไปแบบนั้น

    "ระระรู้ได้ไง?" น้ำเสียงที่สั่นเครือแสดงถึงความหวาดกลัวกับสิ่งที่พบมาซินะ

    "ฉันเป็นเด็กโคลิคมีสัมผัสพิเศษฉันอยากช่วย"

    น้ำตาของพี่ก้อยหยดเปาะๆเธอยกมือขึ้นปิดหน้าร้องไห้

    "ฟรังช่วยได้จริงเหรอ..พี่อยากสานต่อความฝันของอากงกับอาม่า


    แต่จะให้พี่อยู่ร่วมกับผีพี่ทำใจไม่ไหวหรอกมันทั้งหลอนทั้งน่ากลัว"

    ฉันกับขันทองมองหน้ากัน..

    นี่ถ้ารู้ว่าขันทองไม่ใช่คนพี่ก้อยจะสติหลุดไหมนะ?

    "คืนนี้เราจะกลับไปที่ร้านกงเต็กกันและจนกว่าจะจัดการให้เรื่องเรียบร้อย

    ระหว่างนี้พี่ก้อยก็พักที่บ้านฉันก่อนก็ได้นะ".. เอ๋?..

    ทำไมต้องยิ้มหน้าแดงขนาดนั้นคิดอะไรของเขานะ?



    *ร้านกงเต็ก* [ 21:00]


    ฉันแหงนหน้ามองกลุ่มพลังสีดำขนาดใหญ่กระจายตัวปกคลุมไปทั่วตึก

    นี่มันพลังอะไรกัน?  ทำไมรุนแรงขนาดนี้?..ฉันหันไปพยักหน้าให้พี่ก้อย

    ไขประตู..ใบหน้าที่หวาดกลัวและมือที่ไขประตูอย่างสั่นเทา..

    ทำให้ฉันต้องจับมือเธอเอาไว้ประคองไขมัน..

    ครืด...เปิดมันออกเพื่อพิสูจน์ความจริง..

    พลังแห่งความมืดมิดและความเจ็บแค้นทำไมมากมายขนาดนี้

    "นี่มันอะไรกัน?" เพียงแค่เปิดประตูออก..

    กลุ่มมวลความเจ็บปวดสีดำที่อัดแน่นอยู่ในตึกก็พวยพุ่งออกมา

    "พี่สาวเราจะชนะไหม?" ..

    ขันทองก้มหน้าถามมือเล็กๆนั่นจับชายเสื้อฉันไว้แน่น

    "เราแพ้ไม่ได้หรอกขันทองเพราะเราคือ..คนที่ถูกเลือก!!"

    ฉันหลับตาตั้งสมาธิเพ่งกระแสจิตฝ่ากลุ่มพลังงานที่รวมตัวกัน

    เป็นดังเกาะปิดกลั้นเรื่องราวในอดีตที่แสนขมขื่นเอาไว้

    แต่ฉันคือฟรัง!!เด็กโคลิค!!ฉันไม่ยอมแพ้หรอก!!!..

    แสงแห่งพลังจิตรวมตัวกันพุ่งเปิดทางให้เนตรดวงตาแห่งสวรรค์

    จับภาพที่อยู่ภายใต้ความมืดมิดค่อยๆชัดเจนขึ้น..


    ภายในโรงงานที่มีเครื่องทอผ้ามากมายแต่ไม่มีใครทำงานมีเพียงผู้ชาย

    ท่าทางภูมิฐานคนนึงคุกเข่าร่ำไห้และกู่ก้องร้องตะโกนอย่างเจ็บปวดว่า

    "ทำไมกัน!!?..หมายประกาศอายัดทรัพย์ที่อยู่ในมือเขาถูกสองมือใหญ่ขยำขยี้แล้วปามันลงกับพื้น

    ภาพถูกตัดไปอีกเหตุการณ์ผู้ชายคนเดิมหอบหิ้วกระเป๋าเดินนำภรรยาของเขาและ..

    เด็กผู้ชายคนนั้น!!อะไรกันนี่!!..พลังปีศาจที่ปกคลุมจนมืดมิดแบบนั้น!!

    นั่นเขาแสยะยิ้มออกมา นี่ใช่ไหม?ตัวการสำคัญ?...

    เด็กผู้ชายวัย7-8ขวบคนนั้นมีพลังพิเศษเหมือนกับฉัน

    แต่ต่างกันที่พลังงานนั้นเป็นพลังของปีศาจซาตาน!!..


    วูบ~~..ภาพถูกตัดไปที่ศาลเจ้าแห่งหนึ่งชายสูงอายุมองกระดาษวันเดือนปีเกิดที่อยู่ในมือด้วยสีหน้าคิดหนัก

    "ซินแสครับผมควรทำยังไงดี" ผู้ชายในภาพนี่คืออากงของพี่ก้อย

    เมื่อสมัยยังหนุ่มเขาประสบพิษทางธุรกิจจนล้มละลาย..

    ความกลัดกลุ้มใจนำเขาเข้ามาสู่ศาลเจ้าแห่งนี้

    หวังหาหนทางสว่างที่จะทำกิน..

    "ลื้อทำอะไรไม่ได้หรอกดวงของลูกลื้อจะนำหายนะมาให้ลื้อต้องล้มละลายซ้ำแล้วซ้ำอีก

    ดวงกาลกิณีของลูกลื้อจะฆ่าทุกคนในบ้าน!!"..

    คำพูดของซินแสทำให้เขากัดฟันแน่นความโกรธแค้นชิงชัง

    กำลังครอบงำความคิดผิดชอบชั่วดีของเขา..

    ในค่ำคืนนั้นเองขณะที่ทุกคนหลับสนิทภายในตึกแถวที่เป็นห้องเช่า

    เขาผู้ที่ไม่ยอมหลับลุกขึ้นนั่งมองหน้าภรรยาเขาที่หลับสนิท..

    เขาลุกขึ้นแล้วอุ้มลูกชายที่นอนข้างๆภรรยาเขาเดินออกไปอย่างเงียบๆ

    เข้าไปยังอีกห้อง..เขาหยุดยืนที่ตุ่มใส่น้ำที่เขาตะเตรียมเอาไว้

    แล้วยัดร่างลูกชายลงไปในตุ่มที่มีน้ำจนเต็ม..

    เด็กชายเหลือกตาโพรงดิ้นคลุกคลักสองมือใหญ่จับร่างลูกตัวเองกดจนจมน้ำ

    สองมือน้อยจับมือพ่อตัวเองเอาไว้แน่นฟองอากาศที่ผุดขึ้นค่อยๆลดจำนวนลง

    และหมดไป..เพียงเพื่อความอยู่รอดต้องแลกด้วยชีวิตของอีกคน!!

    เขาปิดฝาแล้วเทปูนปิดทับ..

    "ลูกต้องเสียสละให้น้องที่อยู่ในท้องแม่ลูกนะ"

    หัวใจของฉันทำไมถึงปวดหนึบเหมือนกับรับรู้ความเจ็บปวด

    ของวิญญาณนั้นเด็กนั่นคงเจ็บปวดมากเลยซินะ

    "ลื้อทำอะไรน่ะ?"..เขาหันไปมองภรรยาที่อุ้มท้องด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง

    "เพื่อความอยู่รอดของเรา" ร่างของผู้เป็นแม่ทรุดฮวบหลั่งน้ำตาดั่งสายเลือด

    "พรุ่งนี้ฉันจะให้หมอผีจากเขมรมาสะกดวิญญาณอาตี๋จะอยู่กับเราตลอดไป!"


    ตะปูตัวที่เจ็ดถูกตอกลงบนผ้ายันต์สีแดง..

    ประตูห้องถูกปิดลงความมืดปกคลุมภาพต่างๆที่เห็นจนหมดสิ้น

    ฉันค่อยๆลืมตาขึ้นถอนหายใจออกมา..

    "ฟรังเป็นอะไรหรือเปล่า?" พี่ก้อยจับแขนฉัน..

    "ไม่เป็นไรค่ะเราขึ้นไปข้างบนกันเถอะ"

    ฉันเดินนำทุกคนเดินฝ่าความมืดหุ่นกระดาษนับสิบที่จ้องมองพวกเรา

    ดั่งมีชีวิต ร้านกงเต็กนี้คือถิ่นของโลกคนตาย!!

    ฉันเดินผ่านผีอากงกับอาม่าที่ยืนทื่อทะมึน..

    พี่ก้อยใช้สองมือกอดเอวซุกหน้าลงบนแผ่นหลังของฉันด้วยความหวาดกลัว

    ขันทองเดินปิดท้ายอย่างเงียบๆไม่ซุกซนเหมือนเคย

    ฉันรู้ดีว่าเด็กน้อยผู้ไม่เคยหวั่นเกรงอะไรกำลังวิตกกังวล

    เธอกำลังเป็นห่วงฉันซินะ..

    แรงสาปสางแรงขึ้นทุกทีเมื่อเดินเข้าใกล้สถานที่กักขังวิญญาณร้าย

    พวกเราหยุดตรงหน้าประตูมรณะ!!..ฉันรวบรวมพลังแตะมือลงบนประตูไม้

    วูบ!!..หึหึ..ใบหน้าเขียวคล้ำขนาดใหญ่ของเด็กผู้ชายโผล่บนพื้นประตู!!

    พลังรุนแรงกระแทกตัวฉันจนกระเด็นกระแทกกับราวกั้นของบันได!! ..โครม!!

    "กรี๊ดดฟรัง!!".."พี่สาว!!"...5555+...เสียงหัวเราะอำมหิตของผีเด็กโคลิค!!

    พี่ก้อยกับขันทองรีบเข้าพยุงตัวฉันให้ลุกขึ้น..

    "อยากแส่นักก็เข้ามา!!!เชงเม้งนี้กูจะฆ่าพวกมึงทุกคน!!!"..

    คำขู่อาฆาตที่ทำให้ฉันเหยียดยิ้มออกมา

    "งั้นฉันจะกลับมาเล่นด้วยในวันนั้น!!" ฉันกับวิญญาณผีเด็กโคลิคจ้องตากันนิ่ง

    "กลับกันเถอะ.." ฉันคว้าแขนขันทองที่ยืนกัดฟันยกเท้าถีบประตู

    ฉันก้มลงอุ้มขันทองเอาไว้..

    "แกไอ้ผีชั่ว!!เดี๋ยวแกได้เจอกับฉันแน่!!" ขันทองน้อยตะโกนดังลั่น..

    "ใจเย็นซิแล้วเราจะกลับมาใหม่ตอนนี้เรากลับบ้านกันก่อนดีกว่านะ"




    *4 เม.ย.59*[09:00]

    แพรวา..


    วันนี้เป็นวันศุกร์ดิบพรุ่งนี้ก็เป็นวันเชงเม้งร้านของฉันจึงปิดบริการ

    เตรียมงานไหว้บรรพบุรุษ..

    "พี่เก้าวันนี้จะไปไหนเปล่า?"..พี่เก้าหรี่ตามองฉันอย่างรู้ทัน

    "จะไปหาแฟนใช่ไหมล่ะ?"..ฉันอมยิ้มตาหยียักคิ้วให้พี่สาว

    "ไม่ล่ะ..จะไปไหนก็ไปเถอะแต่อย่ากลับเย็นมากล่ะมาช่วยทำขนม

    สำหรับไหว้บรรพบุรุษด้วยนะส่วนที่ฮวงจุ้ยเดี๋ยวตาลมารับพี่ไปทำความสะอาดน่ะ" อ๊ะ!!จริงซิ

    "อ้อ!ที่หลุมศพเดี๋ยวแพรชวนฟรังไปทำความสะอาดให้ พี่เก้าเตรียมของที่บ้านกับพี่ตาลเถอะ

    จะได้มีเวลาจู๋จี๋กันด้วย..อิอิ"..พี่เก้าอมยิ้มหน้าแดงเอามือบิดแขนฉัน

    "บ๊อง!!พูดไรก็ไม่รู้" ฉันคว้าถุงใส่กล่องเค้กที่ทำให้ฟรังแล้วยิ้มให้พี่เก้า

    "โอกาสดีๆมาถึงแล้วนะพี่สาวอย่าปล่อยให้หลุดมือนร้า"

    พี่เก้าทำตาดุใส่ฉันเอื้อมมือจะบิดฉันอีกรอบฉันรีบชิ่งก่อนเจ็บตัว


    ฟิโน่สีขาววิ่งนำพาคิดถึงไปหาใครคนนึง ใครคนนั้นจะคิดถึงฉันบ้างไหมนะ?

    ฉันยิ้มแก้มปริมโนไปไกล..ว่าถ้าฟรังได้กินเค้กที่ฉันทำจะยังทำหน้านิ่งหรือเปล่านร้า

    ห๊า..ถึงแล้วๆ..เปิดประตูไว้แบบนี้อยู่บ้านซินะดีแล้วที่คิดถูกไม่โทรมาบอกก่อน..

    แต่!!นั้นรถใครกันนะ??..มีแขกเหรอเนี่ย?..

    ฉันเดินขึ้นไปบนบ้านฟรังอย่างเงียบๆ..??..

    ตุ่บ!!..ถุงเค้กล่วงลงไปกองกับพื้น..หมายความว่าไง?

    ผู้หญิงคนนั้นมาอยู่ที่นี่ได้ไง?..แล้วนั้นกำลังจับมือฟรัง!!..

    หะหะหึ่มหึ่ม!!..มะมะโมโห!!!..

    "ฟรัง!!!!"..ตะโกนดังขนาดนี้ยังหันมามองฉันด้วยใบหน้านิ่งๆได้อีกนะ!!

    ลุกขึ้นเดินตรงมาที่ฉันแล้ว..





    ฟรัง..


    ฉันก้มลงเก็บถุงขนมเค้กขึ้นมาเห็นภาพแพรวาที่ตั้งใจทำเค้กส้มนี้

    มาให้ฉันถึงแม้หน้าตาเค้กภายในกล่องจะเละหมดแล้ว..

    แววตาที่โกรธขนาดนี้ เข้าใจผิดซินะฉันอมยิ้มให้แพรวา

    ที่ยืนหน้างอน้ำตาเอ่อแบบนี้ปลอบไงดีนะ?

    ฉันยกมือขึ้นยีหัวแพรวา น้ำตาเธอไหลอาบแก้มทั้งสองข้าง

    ฉันปาดมันด้วยนิ้วของฉัน..

    "ไม่ใช่อย่างที่เธอคิดหรอกอย่าเข้าใจผิดซิ..

    ฉันกำลังช่วยพี่ก้อยเรื่องวิญญาณที่ร้านกงเต็กน่ะ"

    อ๊ะ!!..ตึกๆ..ตึกๆ แพรวากอดซุกหน้าลงกับอกฉัน..

    "อืม..ขอโทษที่เข้าใจผิด"..ฉัน..ยกแขนกอดแพรแบบนี้ใช่ไหม?

    ที่ฉันอยากทำ..รู้สึกดีจังที่ได้กอดผู้หญิงคนนี้..





    ก้อย..


    อ๊าย..ฟินจัง!..การได้เห็นผู้หญิงน่ารักๆสองคนกอดกัน

    ช่างเป็นภาพที่ฟินสุดๆสำหรับฉัน..

    "พี่สาวถ้าอยากกอดแบบนั้นล่ะก็..ขันทองอยู่ตรงนี้นะ"

    ห๊า!!..กรี๊ดด..น่ารักที่สุดนางฟ้าตัวน้อยของฉัน..

     ฉันรวบตัวหนูน้อยมาทั้งกอดทั้งฟัดอย่างหมั่นเขี้ยว

    เราสองคนหัวเราคิกคักกันอย่างมีความสุขจนลืม

    เรื่องน่ากลัวที่พบเจอแทบจะหมดสิ้น..


    "แพรนี่พี่ก้อยเจ้าของร้านกงเต็ก.." ฉันรับไหว้แพร..อึยน่ารักจัง

    แก้มป่องๆแดงๆแบบนั้น..อ๊ะ!!..ฉันลืมไปซะสนิทเลย..

    "เออนี่ฟรังพี่ต้องไปที่สุสานบรรพบุรุษน่ะ"..

    ฉันต้องไปทำความสะอาดสุสานก่อนวันเชงเม้ง

    "งั้นเราไปพร้อมกันเลยก็ได้ค่ะพี่ก้อยแพรกะชวนฟรัง

    ไปทำความสะอาดพอดีเลยคะ"..ห๋า..ดีจังมีเพื่อนไปด้วย





    ฟรัง..


    สุสาน..ที่ถูกปกคลุมไปด้วยหญ้ารกสูงแทบปิดหลังเต่าของหลุมศพ

    แต่ด้วยความเชื่อตามศาสตร์ของฮวงจุ้ยห้ามถอนหญ้าเพราะอาจทำให้

    ทิศของฮวงจุ้ยเปลี่ยนตำแหน่งพวกเราจึงทำได้แค่กวาดลานปูนหน้าหลุม

    ให้สะอาดและทาสีที่ป้ายชื่อใหม่..

    บรรยากาศโดยทั่วไปที่ฉันเห็น วิญญาณอาแปะ อาม่า เดินบ้างยืนบ้าง

    อยู่บริเวณหน้าบ้านของตัวเอง..พรุ่งนี้วันเชงเม้ง..

    อืม..ฉันจะลองเสี่ยงดูละกัน..

    "พี่ก้อย..แพร..ช่วยมาที่สุสานนี้ก่อนเที่ยงคืนได้ไหม?"

    ทั้งสองคนมองหน้ากันฉันรู้ว่าพวกเธอกลัว..

    "ได้แพรจะมา" ฉันอมยิ้มให้แพรมือเธอจับลูกประคำที่ข้อมือเอาไว้แน่น

    "ถ้าแพรมาพี่ก็มาฟรังจะให้พี่กับแพรทำอะไรเหรอ?"

    ฉันมองและชี้นิ้วไปที่หลุมศพของบรรพบุรุษของพี่ก้อย

    "พี่กับแพรต้องนำหุ่นและแบงค์กงเต็กมาเผาที่นี่ฉันต้องการกำลังหนุนเยอะๆเลย

    ส่วนฉันกับขันทองจะไปช่วยกันปลดปล่อยดวงวิญญาณทั้งสามนั่น"

    พี่ก้อยก้มหน้ามองขันทองน้อยที่ยืนแอ็คท่า..

    "แล้วขันทองไม่กลัวเหรอ?"..ขันทองทำหน้ามั่นอกมั่นใจยักคิ้วให้พี่ก้อย

    "เชื่อมือหนูกับพี่ฟรังเหอะ..ปราบมาเยอะแล้ว"

    ฉันกับแพรอมยิ้มมองหน้ากันในความขี้คุยของเด็กตัวแสบ




    *5 เม.ย.59* วันเชงเม้ง 23:00


    ความมืดมิดปกคลุมไปทั้งตึกกลิ่นไอความตายกระจายคละคลุ้งในคืนเดือนอับแสง

    ฉันกับขันทองจับมือกันแน่น..

    "ขันทองพร้อมรึยัง?" ขันทองพยักหน้าฉันลูบหัวยัยตัวเล็กเบาๆ

    "หนักหน่อยนะงานนี้ถ้าหากเกิดผิดพลาดขันทองต้องรีบกลับไปหาพี่ก้อยกับแพรนะ"

    ขันทองมองหน้าฉัน..

    "เราจะสู้ไปด้วยกันนะพี่สาว!" แววตาของเด็กดื้อกำลังบอกว่าเธอไม่มีทางทิ้งฉันไปไหน

    ฉันคงแพ้ไม่ได้ซินะ..

    "งั้นก็ลุยกันเถอะ"..แค่ก้าวแรกที่เหยียบย้ำเข้ามาในร้านกงเต็ก

    ลมประหลาดก็พัดหมุนวนของใช้คนตายและแบงค์กงเต๊กปลิวว่อนอยู่กลางอากาศ

    ดวงตาสีแดงในเงามืดหลายสิบคู่พุ่งมาที่ฉันกับขันทอง..

    ฉันล้วงหยิบเทียนอาคมจุดปักไว้กลางพื้นร้าน..

    สร้างเขตอาคมไม่ให้วิญญาณร้ายหลุดออกไปยังภายนอก

    "พี่สาวหุ่นพวกนี้คือคนรับใช้ที่ถูกส่งไปยังโลกวิญญาณใช่ไหม?"

    อือ..ฉันพยักหน้าให้ขันทอง..

    "ตอนอากงกับอาม่ามีชีวิตอยู่คงเผาสิ่งของและหุ่นเหล่านี้

    ส่งไปให้ลูกชายของเขาจนกลายเป็นกองกำลังหนุนวิญญาณร้ายนั่น

    แต่ข้ารับใช้เหล่านี้ยังทำอะไรไม่ได้มากหรอกถ้าตราบใดประตูนั้น

    ยังไม่ถูกเปิดออก พี่คิดว่าอากงกับอาม่าพยายามสื่อสารกับพี่ก้อย

    มากกว่าออกมาหลอกหลอนให้เธอกลัว ที่นี่คือกรุสมบัติของวิญญาณร้าย

    ที่เราต้องจัดการ"..ฉันนำแผ่นยันต์ออกมาจากกระเป๋าสะพาย

    แปะลงบนราวบันไดแต่ละก้าวที่ฉันก้าวเดินขึ้นไป..

    ฉันจะไม่ยอมให้วิญญาณผีโคลิคนั่นหลุดออกไปได้เด็ดขาด

    ถ้าหากฉันต้องพลาดท่าเสียทีหวังว่าพี่ก้อยกับแพรจะทำได้สำเร็จนะ




    *สุสาน* 23:10

    แพรวา..


    ฉันกับพี่ก้อยช่วยกันนำสิ่งของลงจากรถ..

    ความหวาดกลัวหมดสิ้นเมื่อนึกถึงความปลอดภัยของฟรัง

    ถ้าหากฉันมัวแต่กลัวแล้วทำพลาดจนทำให้ฟรังต้องตกอยู่ในอันตราย

    ฉันจะไม่ให้อภัยตัวเองเลย..

    เราสองคนจุดธูปบอกเล่าวิญญาณบรรพบุรุษ

    ท่ามกลางสายลมที่พัดแรงขึ้นทุกทีจนเปลวเทียน

    ดับแล้วดับอีก..ท้องฟ้าแปลบๆเหมือนฝนจะตกด้วย

    ฉันกับพี่ก้อยมองหน้ากัน..

    "เป็นแบบนี้ก็แย่นะซิ..พี่ว่าเรารีบเผาหุ่นกันเถอะแพร"

    ได้โปรดเถอะเทวดาฟ้าดินอย่าเพิ่งให้ฝนตกลงมาตอนนี้เลยนะ

    ฉันยกมือไหว้ขอพรจากทวยเทวาที่ปกปรักพื้นที่แห่งนี้..ได้โปรด..

    ความเชื่อความศรัทธาพลังแห่งความดีช่วยปกป้องฟรังด้วยเถอะ




    ฟรัง..


    พวงกุญแจที่พี่ก้อยให้ฉันกำลังจะเปิดประตูมรณะออก

    แกร็ก!!..เสียงลั่นของแม่กุญแจที่ถูกฉันไข..มือจับลูกบิด..เอาล่ะ!!

    ผัวะ!!..ปัง!!..ฉันก้าวเข้ามาในห้องและในทันทีประตูกระแทกปิดอย่างรุนแรง!!

    พรึ่บๆพับๆ!!..ผ้าม่านสะบัดพริ้วแม้หน้าต่างจะไม่ได้ถูกเปิดออก..

    หึหึ!!..ฉันส่องเทียนไปรอบๆห้อง..ตุ่มใบไม่ใหญ่มากนักตั้งอยู่ทางทิศใต้

    ข้างตุ่มมีหุ่นกงเต็กในชุดขุนนางจีนโบราณสองตัวตั้งขนาบซ้ายขวา

    ภายในห้องเต็มไปด้วยหีบมากมาย ผ้ายันต์หกผืนส่องแสงอักขระอาคม

    เปล่งประกาย..ตูม!!..ฉันถอยหลังหลบเศษฝาตุ่มที่ระเบิดจนกระจัดกระจาย

    เริ่มแล้วซินะ..ฉันปรักเทียนลงกลางห้อง..

    ศรีษะผีร้ายค่อยๆโผล่ขึ้นมาจากปากตุ่มดวงตาที่มีแต่ตาดำเต็มเบ้าตา

    ที่โผล่ขึ้นมาแค่ครึ่งหน้าจ้องมองมาที่ฉัน..

    หึหึๆ!!..เสียงหัวเราะของผีโคลิคดังก้องภายในห้อง..

    อ่ะ!!หุ่นกระดาษเริ่มกลายรูปร่างจากหุ่นกระดาษเป็นผีร้าย!!

    พลังของผีโคลิคเริ่มควบคุมทุกอย่างภายในห้องซินะ

    "เดี๋ยวหนูจัดการไอ้สองตัวนี้เอง!!พี่สาวไม่ต้องห่วง!!"

    ขันทองกระแทกหอกลงกับพื้น..

    "อืม..ฝากด้วยล่ะเสร็จงานนี้จะพาไปกินพิซซ่า"

    ขันทองพยักหน้า ใบหน้ามุ่งมั่นมากกว่าเก่าพอได้ยินเรื่องของกิน





    ขันทอง..


    "เข้ามาเลย!!ไอ้ผีดิบหนังเหี่ยว!!ท่านขันทองจะสอยด้วยหอกตองอูให้ไส้แตกเลย!!"

    พิซซ่า..เพื่อพิซซ่า!!..โอโห!!..ผีกงเต็กนั่นแยกเขี้ยวยาวโง้งเชียว

    เห้ยๆ!!มันสองตัวพุ่งกางเล็บยาวดำกะกระซวกคอหนู..

    หนูโดดหลบแทงหอกเข้าใส่มัน ห๋า!! มันใช้สองมือจับหอกเอาไว้แน่น

    ชิบละ!!..ไอ้ผีอีกตัวฟาดกงเล็บมา..ฮึย!!นี่แน่ะ!!โครม!!เจอลูกถีบเข้าไปถึงกับกระเด็น!!

    หนูออกแรงกระชากหอกกลับ..งั้นเจอแบบนี้หน่อยเป็นไง

    "โอม..เพรี้ยง!!"..หนูขว้างหอกไฟใส่ร่างผีกงเต็กนั่น..

    พรึ่บ!!ไฟลุกท่วมร่างมันเลย!!..

    "ไงละ!!เสร็จท่านขันทองล่ะ..หะ!!"

    ความดีใจหายไปหมดสิ้น เมื่อไฟดับลงแต่ไอ้ผีดิบที่ถูกเผา

    กับยืนทะมึนไม่เป็นอะไรเลย!!..

    "ขันทอง!!ใช้เทียนอาคมเผามัน"  หนูรับเทียนอาคมจากพี่ฟรังสองแท่งดีล่ะ!!

     "ไปลงนรกซะ!!!!!" หนูลอยตัวขึ้นปาเทียนติดไฟหมุนติ้วๆ

    ใส่ร่างสองผีดิบ จนไฟลุกท่วมตัว มันส่งเสียงกรี๊ดร้องอย่างทุกข์ทรมาน

    ก่อนจะกลายเป็นเพียงเศษขี้เถ้ากองอยู่บนพื้น..

    อึ๊ก!!อ๊อก!!..แรงบีบมหาศาลที่บีบคอหนูแน่น!!




    ฟรัง..


    ร่างขันทองน้อยที่ดิ้นทุรนทุรายอยู่กลางอากาศ..

    "ขันทอง!!!" ฉันกำหมัดกัดฟันปล่อยพลังพุทธคุณใส่ตุ่มใบนั้นจนแตกกระจาย

    ร่างของขันทองล่วงลงสู่พื้น..ฉันรีบเข้าไปจับขันทองให้ลุกขึ้น

    "หึหึๆ..ฮาๆ!!"..ร่างของเด็กผู้ชายสวมกางเกงขาสั้นสีดำไม่ได้สวมเสื้อ

    เนื้อตัวเขียวคล้ำเปียกโชก..ย่างเท้าใกล้เข้ามาดวงตาดำโบ๋มีพลังลึกลับ!!

    อึก!! ฉันเหมือนถูกบีบรัดไปทั้งร่างกาย!!..

    ร่างฉันถูกบังคับให้ลอยสูงเหนือพื้น!!..โครม!!

    แรงเหวี่ยงมหาศาลเหวี่ยงร่างฉันกระแทกใส่ฝาห้องอย่างแรง

    "หึ!!ทำได้แค่นี้เหรอ!!" ฉันยันตัวลุกของเหลวเหนียวหนืดไหลหยดอาบแก้ม อึก!!

    สองมือเด็กผีบีบคอยกฉันลอยขึ้นเหนือพื้น..

    "พี่สาว!!แก!!"..ขันทองวิ่งเข้ามาแต่ถูกพลังดำซัดร่างจนกระเด็น

    ฉันใช้เลือดฉันเขียนยันต์ลงบนฝามือแล้วจับลงไปที่หัวของผีร้าย

    "อ๊ากก!!"..ตุ่บ!!..ฉันร่วงสู่พื้น..ผีร้ายโกรธจัดกับความเจ็บปวดที่ฉันมอบให้

    รังสีอำมหิตทวีความรุนแรงมากขึ้นห้องๆทั้งห้องสั่นไหวของใช้ที่อยู่ในห้อง

    ถูกพลังชั่วร้ายบังคับให้ลอยตัวสูงขึ้น..ฉันกับขันทองหันหลังชนกัน..

    "นโม พุทธายะ..โอมขออำนาจแห่งคุณความดีช่วยสร้างเกาะแห่งพุทธคุณด้วยเถอะ"

    พลังแห่งพุทธคุณปะทะกับสิ่งของที่พุ่งเข้าใส่จนมอดไหม้ร่วงสู่พื้นเป้นเถ้าถ่าน

    คึกๆครืดๆ!!ตุ่บ..ร่างฉันกับขันทองกลิ้งบนพื้นตามแรงที่สั่นไหว..

    "โอ๊ยย!!..".."พี่สาว!!"..เศษกระเบื้องที่ผีร้ายแทงลงบนตัวฉัน..

    "แกไอ้ผีชั่วอย่าอยู่เลย!!!" ขันทองน้อยกระโจนล็อคคอผีโคลิค

    แต่พลังที่มีมากกว่าสะบัดเด็กน้อยจนกระเด็น..

    "อ็อก!!!".."ขันทอง!!!!"..ร่างเด็กน้อยที่ถูกผีร้ายเหยียบกระทืบลำคอ

    มือน้อยๆจับขามันเอาไว้แน่น..ฉันกัดฟันดึงแผ่นกระเบื้องออกจากลำตัว

    รีบเขียนยันต์กำกับใช้แรงทั้งหมดพุ่งตัว..ฉึก!!!..

    "อ๊ากก!!"..มันส่งเสียงโหยหวลก่อนหมุนคอดึงแผ่นกระเบื้องออกจากกลางหลัง

    ฉันเอามืออุดท้องเอาตัวบังขันทองไว้..

    "มึงตาย~~"..มันง้างมือที่กำเศษกระเบื้องปลายแหลมขึ้น..

    วูบ!!..แสงสว่างจ้าจนร่างผีร้ายถอยหลังกรูด..

    สิ่งที่ปรากฏเบื้องหน้าคือ..เทพจงขุยและกองกำลังอีกเก้าตนปรากฎกาย

    รายล้อมผีเด็กโคลิคเอาไว้..เทพผู้ปราบผีจงขุย..

    สำเร็จแล้วซินะพี่ก้อย,แพร..เทพจงขุยที่หนวดเครารุงรังใช้สันดาบฟาดลงบนบ่าผีโคลิค

    จนทรุดนั่งลงคุกเข่าลงบนพื้น..เหล่าทหารต่างเข้ายึดจับผีร้ายมัดด้วยแซ่ของเทพจงขุย

    และทั้งหมดได้ค่อยๆเลือนหายไป..ภาพสุดท้ายที่ฉันเห็นคือวิญญาณของอากงกับอาม่า

    โบกมือลาแล้วค่อยๆเดินจากไปพร้อมกับแสงสว่าง..ทุกสิ่งทุกอย่างมืดมิดลง..




    แพรวา..


    ฉันกับพี่ก้อยเบิกตาค้างกับภาพเบื้องหน้า..

    "ฟรัง!!!!!"..ฉันพุ่งตัวกอดประคองร่างที่โชกเลือดของฟรังเอาไว้

    น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าหลั่งริน..เจ็บ..ที่ใจเหลือเกิน

    "แพร!!รีบพาฟรังกับขันทองไปหาหมอเร็ว"..พี่ก้อยกำลังจะก้มลงอุ้มขันทอง

    แต่ร่างน้อยนั้นค่อยๆเลือนลางหายไป..พี่ก้อยทรุดหงายนั่งลงกับพื้น

    "ขันทอง!!!!"..พี่ก้อยสะบัดหัวไปมาเธอปาดน้ำตาแล้วหันมาช่วยฉัน

    พยุงฟรังที่หมดสติเลือดอาบเต็มตัว..ขันทองอย่าเป็นอะไรนะลูก



    *ห้องฉุกเฉิน*00:30


    ฉันนั่งรออย่างกระวนกระวายอยู่หน้าห้องฉุกเฉินพี่ก้อยจับมือฉันไว้แน่น

    เธอไม่ถามซักคำเกี่ยวกับขันทอง..

    "พี่ก้อยไม่สงสัยเหรอคะว่าขันทองหายไปไหน" พี่ก้อยส่ายหัวน้ำตาเธอค่อยๆไหลออกมา

    "ตอนนี้แค่หวังว่าขอให้นางฟ้าน้อยๆของพี่ปลอดภัยก็พอ"  เราสองคนจับมือกันไว้แน่น

    อ๊ะ!! หมอออกมาแล้ว..ฉันกับพี่ก้อยรีบลุกขึ้นพร้อมกัน..

    "ฟรังเป็นยังไงบ้างคะหมอ?" หมอส่งยิ้มน้อยๆให้..

    "ปลอดภัยแล้วค่ะ"..ฉันเป่าปากอย่างโล่งอก..ปลอดภัยแล้วซินะ

    "งั้นถ้ายังไงแพรจะกลับก่อนเลยไหมเดี๋ยวพี่ไปส่ง"..ฉันส่ายหัว..

    "ไม่ค่ะแพรจะอยู่เฝ้าฟรัง"..พี่ก้อยพยักหน้า..

    "ถ้างั้นพี่จะกลับไปก่อนละกันนะมีอะไรโทรหาพี่นะแพร"..

    ฉันพยักหน้าให้พี่ก้อยเธอตบแขนฉันเบาๆก่อนเดินจากไป




    ก้อย..


    ขอบคุณนะทุกคนที่เสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยฉัน..

    นางฟ้าน้อยเราจะได้พบกันอีกไหมนะ?

    ได้โปรดเถอะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้โปรดช่วยขันทองด้วย

    ฉันกลับไปที่บ้านฟรังเพื่อช่วยดูแลงานในบ้านแทนในช่วงที่ฟรังยังพักรักษาตัว

    เอาล่ะ..พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่..ราตรีสวัสดิ์ทุกคน



    ~~~~~~~~~~~~~~~~~~

    จบตอนคร๊าบไว้ตามตอนต่อไป 





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×