คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 2 : "จะเอาตัวนาวผูกโบว์มาให้พี่ก็ได้นะ"
ฉันกลับมานอนคิดที่บ้านหลังจากที่โดนน้าไล่ออกมาจากบ้าน และตัดสินใจที่จะไม่บอกน้าแล้ว
แอบคบกับพี่เรนดีกว่า…
ก็ช่วยไม่ได้นี่นา ขนาดแค่พูดชื่อของพี่เรนน้าก็โกรธขนาดนี้แล้ว แล้วถ้ารู้ว่าหลานสาวที่แสนจะน่ารักอย่างฉันไปเป็นแฟนกับเขาแล้วน้าจะโกรธแค่ไหนละเนี่ย Q_Q แต่ความจริงฉันก็งงอยู่นะว่าทำไมน้าพริตตี้ถึงดูท่าทางจะไม่ชอบขี้หน้าพี่เรนขนาดนั้น ทั้งๆที่หน้าตาของเขาก็ออกจะดี ฐานะการงานก็ไม่ได้แย่ คำพูดก็ไม่ได้หยาบคาย ฉันไม่เห็นอะไรที่จะทำให้น้าพริตตี้ดูไม่ชอบพี่เรนถึงขนาดนี้เลย -*- เกิดเป็นมะนาวก็ยุ่งยากอย่างงี้แหละ... ฉันจะบอกคนอื่นๆไม่ได้แล้ว ต้องเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ
ฉันตื่นมา และอาบน้ำ แปรงฟัน
ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก่อนที่ฉันจะออกเดินทางไปโรงเรียน ฉันก็ไปหาน้าพริตตี้ที่บ้าน อย่างที่ฉันทำเป็นประจำทุกวัน น้าพริตตี้กลับมาเป็นน้าที่ใจดีที่สุดเหมือนเดิมแล้ว ทุกคนทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ก็มีฉันคนหนึ่งอ่ะนะ... ที่จะทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นไม่ได้ หลังจากที่แวะไปที่บ้านน้าพริตตี้แล้ว ฉันก็เดินทางไปโรงเรียน หลังจากนั้นก็เรียกทุกๆ คนที่รู้ความลับของฉันมา รวมถึงพี่เรนด้วย >///<
ถึงจะเคยเจอหน้ากันบ่อยๆก็เหอะ แต่ยังไงฉันก็บังคับให้หัวใจของฉันเต้นช้าลงเมื่อเจอพี่เรนไม่ได้อยู่ดี ใครจะไปทำได้หละ พี่ม.6 ที่ทั้งสูง ขาว หล่อ เพอร์เฟคอย่างงี้ ยิ่งเขายิ้มให้ฉันแบบนั้น... หัวใจดวงน้อยๆของฉันก็เต้นไม่ถูกแล้ว >///<
“มีไรล่ะแก” ยัยแตงโมถามขึ้นมา คนอุตส่าห์มีความสุข ขัดจังหวะจริงๆ เลยนะเพื่อนเลิฟ -3-
“คือว่าเมื่อวาน เราตั้งใจจะไปบอกน้าพริตตี้เรื่องที่เราคบกับแฟนน่ะ แต่แค่พูดชื่อเท่านั้นแหละ น้าก็โกรธแล้วไล่นาวออกมาเลยอ้า เราเลยคิดว่า เราจะแอบคบกับพี่เรน เพื่อให้เรื่องมันไม่ยุ่งยาก เลยจะมาขอให้พวกแกเหยียบเรื่องนี้ให้มิด อย่าให้ใครรู้นะ”
“ได้จ้า” ทุกคนตอบพร้อมอย่างง่ายดาย (จนน่าประหลาดใจ เพราะปรกติพวกนี้ไม่เคยใจตรงกันเลย ทะเลาะกันแทบตาย) แต่ก็...เฮ้อ โล่งอก แล้วพวกเราก็แยกย้ายกันไปเรียนต่อ คราวนี้ก็หมดเรื่องกลุ้มแล้วหละ...
หลังจากนั้น ฉันกับแตงโมก็ไปเรียนวิชาภูมิศาสตร์กันต่อ รู้สึกสบายใจขึ้นเยอะ ตอนเช้านี่ฉันแทบจะเรียนไม่ได้ นั่งกลุ้มเรื่องนี้มาตลอด... แต่ตอนนี้ก็ใช่ว่าจะเรียนรู้เรื่องนะ เพราะในหัวของฉันดันมีแต่หน้าของพี่เรนแล้วก็เสียงของเขา รอยยิ้มของเขาน่ะสิ ไม่ดีแล้ว ฉันจะเสียการเรียนไม่ได้ -0-
ถึงจะเคลียร์เรื่องแอบคบแล้ว ฉันก็มาเจอคาบศิลปะอีก... เห้อออ กลุ้ม (อีกรอบ)T^T
“นาว เราไปกินข้าวก่อนนะ วันนี้เราหิวมากเลยอะ” เอ๊ะ ทำไมวันนี้แตงโมรีบไปจัง -___-
“ก็ได้ หิวขนาดนั้นเลยหรอแก ไปก่อนเลย เดี๋ยวฉันตามไป” เพื่อนช้านนนน ปล่อยให้ฉันนั่งวาดรูปคนเดียวอีกแล้ว ครูก็คิดไงไม่รู้ ให้มาวาดรูปหญ้า มันมีประโยชน์อะไรเนี่ย เดี๋ยวนี้อินเตอร์เน็ตก็มี ปริ้นสักห้าวิก็เสร็จ ถ้าจะเอาไปขายละก็ ฉันก็ไม่คิดจะไปเป็นจิตรกรหรอกนะ ถึงได้เป็นจริงๆ ฉันก็คงวาดอะไรที่สร้างสรรค์กว่ารูปหญ้าอะนะ = =”
เห้ออออ ฉันถอนหายใจยาวสักหนึ่งกิโลได้ -_-+ เพื่อนๆที่เคยนั่งวาดรูปอยู่กับฉันก็เริ่มวาดเสร็จและเดินออกไป ฉันนั่งอยู่คนเดียวตรงสนามหญ้าข้างโรงเรียน บรรยากาศน่าขนลุกเป็นบ้า ฉันก็นั่งจิ้มสีเขียว เหลืองแล้วก็ระบาย (?) ลงไปบนแผ่นกระดาษที่มีแต่รูปของหญ้า...
และแล้ว ฉันก็วาดรูปเสร็จและเดินไปที่โรงอาหาร ฉันกวาดสายตามองหาแตงโมและพี่เรน ปรกติพวกเขามักจะนั่งอยู่ที่โต๊ะใหญ่ๆ แต่ตอนนี้เต็ม คงจะนั่งอยู่ที่โต๊ะริมๆมั้ง โต๊ะพวกนั้นนั่งได้สี่ห้าคน ฉันมองหาพวกนั้นจนแทบจะทั่วโรงอาหาร แต่ที่ฉันไม่อยากเชื่อ และไม่คิดว่าจะเห็นก็คือ พี่เรนกับแตงโมนั่งอยู่ข้างๆกัน โดยที่โต๊ะอื่นๆก็มีเยอะแยะ เพื่อนคนอื่นๆก็มีให้นั่งด้วยเยอะแยะ มิหนำซ้ำยังเลือกที่นั่งสำหรับสองคนอีก และท่าทีกระหนุงกระหนิงอย่างงั้นหมายความว่ายังไง
เห้ย เห้ย เห้ยยยยย จับมือ!
พวกเขาจับมือกันทำไม
เอ๊ะเดี๋ยว… เดี๋ยวนะ
ฉันแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง
พี่เรนหอมแก้มแตงโม
พีคมากจนเข่าอ่อนเป็นเยลลี่แล้วเนี่ย
นี่น่ะหรอ เหตุผลที่ยัยแตงโมรีบมากินข้าว...
ทำไมฉันถึงรู้สึกเศร้าอย่างนี้นะ T^T จะว่าเศร้าอย่างเดียวก็ไม่ใช่ ฉันโกรธ โกรธทุกคน ไม่อยากเจอหน้าใครอีกแล้ว ในหัวของฉันมีทฤษดีร้อยแปดที่กำลังประมวลเพื่อหาคำอธิบายให้กับสิ่งที่ฉันเห็น หรือพี่เรนใช้ฉันเข้าหาแตงโม? เป็นอย่างนั้นหรอ แล้วเขาจะมาคบกันฉันตั้งแต่แรกทำไมล่ะ
ฉันค่อยๆ เดินออกห่างจากตรงนั้น ฉันไม่รู้เลยว่าความรู้สึกตอนนั้นมันควรเรียกว่าอะไร แต่มันเป็นความรู้สึกที่แย่ แย่มากๆ…สิ่งเดียวที่ฉันรู้ฉันอยากกลับบ้านแล้วร้องไห้ออกมาให้เต็มที่ ฉันอยากออกไปจากที่นี่
“นาว!เป็นอะไร” เสียงของผู้ชายที่ฉันรักดังขึ้นมา ยังจะมาถามอีกว่าเป็นอะไร...นี่ เขาคิดว่าฉันโง่ขนาดนั้นเลยหรอ ก็เห็นอยู่เต็มสองตาว่านั่งด้วยกันอย่างหวานแหวว ใครดูก็คงคิดว่าเป็นแฟนกัน ฉันแทบไม่ได้สบตากับแตงโมเลยตลอดทั้งวัน วันนั้นทั้งวันฉันนั่งนิ่ง…. ไม่อยากคุยกับใครทั้งนั้น เพราะถ้ามีคนเริ่มมาปลอบ หรือ ถามว่าฉันเป็นอะไร น้ำตาฉันคงจะไหลออกมาไม่หยุดแน่ๆ TT^TT
กลับบ้านแล้วฉันก็ขังตัวเองไว้ในห้อง นอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียงอย่างงั้นสักสองสามชั่วโมง ในหัวฉันน่ะหรอ จะคิดเรื่องอื่นได้ยังไงละ มันก็มีแต่เรื่องของแฟนและเพื่อนรักฉันนี่แหละ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ฉันคว้ามือถือเพื่อโทรหาพี่ทิมมี่
“ว่าไงจ๊ะน้องสาว” เสียงทะเล้นของรุ่นพี่ที่ฉันรักและนับถือดุจพี่ชายในไส้ดังผ่านมือถือของฉันออกมา
“ฮึก...”
“เห้ยยยย นี่แกร้องไห้ทำไม เป็นอะไรอะนาว” พี่ทิมมี่ตะโกนเสียงดัง ด้วยน้พเสียงเป็นห่วงเป็นใย ฉันเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้พี่ทิมมี่ฟัง สลับกับการร้องไห้ และสั่งน้ำมูก
“เห้อ ตอนนี้แกใจเย็นๆ ก่อน ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพี่เรนเขาคิดอะไรอยู่ แต่ฉันว่ามันคงเป็นเรื่องเข้าใจผิดนั่นแหละ”
“จะเป็นเรื่องเข้าใจผิดได้ยังไง ก็เห็นอยู่เต็มสองตาอะ! T^T”
“แกก็เชื่อใจแฟนแกหน่อยสิ เดี๋ยวฉันลองโทรไปคุยกับพี่เรนให้ ใจเย็นๆ นะจ๊ะน้องรัก ไปหาอะไรอร่อยๆ กินก่อนไป” แล้วพี่ทิมมี่ก็วางสายไป ฉันรู้สึกดีขึ้นมานิดนึงละ
‘แค่เธออยู่ข้างๆ อ๊ะอ่าว ก็เปลี่ยนให้ชีวิตฉันไม่เหมือนเก่า เธอทำให้ถนนของฉันสวยงาม♫’ นี่มันเสียงริงโทนที่ฉันตั้งเฉพาะเวลาที่พี่เรนโทรมานี่นา เพลงที่เขามักจะร้องให้ฉันฟังบ่อยๆ
หลังจากนั่งคิดอยู่สักพักนึงฉันก็ตัดสินใจกดตัดสายไป ฉันไม่คิดที่จะยอมเขาง่ายๆหรอก เขา...หักหลังฉัน...เขาหักลังฉันไปแล้ว ฉันไม่ควรจะยอมเขาง่ายๆถูกมั๊ย?
ฉันนั่งอยู่ในนั้น คอยตัดสายตอนที่พี่เรนโทรมา... น่าเบื่อจัง... น่ารำคาญด้วย เสียงเดิมๆเนี่ย ฉันตัดสินใจเดินออกไปข้างนอก ไปตากอากาศเย็นๆบนสะพานลอย มันไม่ใช่สวน หรือที่สำหรับการมายืนตากลมใช่มั๊ยละ แต่ไม่รู้ทำไม ฉันถึงได้คิดมาที่นี่ รู้ทั้งรู้ว่ามันเป็นสถานที่ ที่ถ้าฉันมาแล้วก็จะต้องคิดถึงพี่เรน เพราะฉันกับพี่เรนได้เริ่มรู้จักกันที่นี่ยังไงละ พี่เรนมีบ้านอยู่ใกล้ๆกับบ้านฉัน วันหนึ่ง เราบังเอิญกลับเวลาเดียวกัน รู้จักกันตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ฉันยืนตากลมอยู่ตรงนั้นสักพักนึง และเห็นเงาของคนๆนั้น...เงาของพี่เรน ฉันรีบตั้งท่าหนี แต่ก็สายเกินไป มือของพี่เรนได้โอบตัวฉันไว้เรียบร้อยแล้ว
“นาว พี่งงไปหมดแล้ว นี่นาวเป็นอะไร นี่ทิมมี่เพิ่งโทรมาเล่าเรื่องให้พี่ฟัง...”
เสียงของพี่เรนถามอย่างมึนงง แต่ว่า นั่นเป็นคำถามที่ฉันควรจะถามไม่ใช่หรอ?
“พูดอะไรของพี่น่ะ นาวสิที่ต้องถาม พี่ไปนั่งทำตัวเหมือนแฟนกับยัยแตงโมทำไม พี่ไม่คิดว่านาวจะเสียใจเลยหรอ...แล้วนี่ถ้าพี่ทิมมี่ไม่โทรไปบอก พี่ก็คงไม่สนใจเลยสินะคะ”
และแล้วน้ำตาที่ฉันพยายามกลั้นก็ได้ไหลออกมาจากตา น้ำใสๆที่รวมความเศร้าทั้งหมดของฉันไว้
“นาว นาวร้องไห้ทำไมคะ พี่ทำอะไรผิดหรอ พี่ขอโทษ แต่ว่า...”
“แต่อะไรอีกละคะ...ฮึก...”
“ทำไมนาวถึงงงละคะ เรื่องที่พี่กับแตงโมทำตัวเหมือนเป็นแฟนกันน่ะ”
“พี่เรน! พี่พูดอย่างงี้หมายความว่าไงคะ! พี่จะพูดว่านาวควรจะยอมรับได้หรอคะ หรือนาวโง่เองที่ไม่รู้...ฮึก..ฮึก..”
น้ำตาของฉันไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย
“ยังบ๊อง”
“…”
“ยังบ๊อง พี่จะไปหมายความอย่างงั้นได้ยังไงคะ”
“…”
“หรือนี่นาวคิดว่าพี่คบกับแตงโมจริงๆ”
“ก็ใช่น่ะสิคะ จะให้คิดเป็นอย่างอื่นได้ยังไงละ...”
ท่าทางอย่างงั้นมันไม่ใช่ท่าทางของเพื่อนสองคนนั่งกินข้าวด้วยกันหรอกนะ T^T
“พี่ไม่เข้าใจ พี่งงไปหมดแล้ว”
“พี่ไม่เข้าใจอะไรอีกละคะ!” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงอารมณ์เสียนิดๆ (คิดไปคิดมา อาจจะไม่นิดก็ได้ -3-)
เราสองคนนั่งเงียบกันพัใหญ่ ฉันไม่เคยตะหวาดใส่พี่เรนเลย นี่คือครั้งแรก.... แล้วนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เราทะเลาะกันด้วย...
“ก็ไหนแพตตี้มาบอกพี่กับแตงโมว่านาวอยากให้เราสองคนทำอย่างนี้ไง แล้วทำไมนาวถึงไม่รู้เรื่องนี้ละ”หะ นี่มันเรื่องอะไรกัน ฉันไม่เคยพูดอะไรอย่างนั้นเลยนะ! นี่มันเรื่องอะไรเนี่ย บ้าไปแล้ว!
“นาวไม่เคยพูดอะไรอย่างงี้เลยนะคะ”
“แล้วแพตตี้มาบอกพี่อย่างงั้นได้ยังไง”
“นาวไม่รู้ ตี้มันคงเข้าใจอะไรผิดแน่ๆเลยค่ะ...”
ความเงียบได้มาเยือนอีกครั้งนึง นี่ฉันทำอะไรเนี่ย ฉันโกรธพี่เรนโดยที่ไม่ยอมฟังอะไรเลย T^T
“ตอนนี้นาวหายโกรธพี่รึยังคะ”
เสียงอ้อนๆอย่างงี้ของเขานี่แหละ ที่ทำให้ฉันใจอ่อนได้ทุกที>0<
“ทำเสียงอย่างงี้อีกแล้วอ้า นาวจะโกรธพี่ต่อได้ไงละคะ <3>///<”
ฉันพูดในตอนที่หน้าแดงก่ำอย่างกับทาบรัชออนบนหน้าสามสี่ชั้น
“ว่าแต่ นาวขอโทษนะคะ ที่เข้าใจผิดอะ...”
“ไม่เป็นไรหรอก แล้วนี่ คำว่า ค่ะ ก็ใช้น้อยๆหน่อยก็ได้น้า ไม่ต้องคิดมาก นะคะ ที่รัก”
จะน่ารักไปไหนเนี่ยแฟนช้านนนนน เมื่อกี้.... เขาพูดว่าที่รักหรอ เขาเรียกฉันว่าที่รักหรอเนี่ยยย >o<เขินสุดๆ ทำไรไม่ถูกแล้วเนี่ย
”ว่าแต่ เดือนหน้าก็วันเกิดพี่แล้วนี่นา...”
“ใช่ จำได้ด้วยหรอ ดีใจมากเลยนะเนี่ย”
“จำได้อยู่แล้วสิคะ”
(จำได้มาหลายปีแล้วด้วย >///<)
“ทิมมี่บอกจะจัดงานให้ ถือเป็นของขวัญวันเกิดเลยอะ นาวต้องมานะ”
“ค่า ไปอยู่แล้ว ^^ ว่าแต่ พี่อยากได้ไรอะคะ นาวจะได้ซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิด”
“อะไรก็ได้จากนาว พี่อยากได้หมดแหละค่ะ แต่ห้ามซื้อช็อกโกแลตมาน้า พี่เกลียดช็อกโกแลตอะ -*-”
“รับทราบค่ะ ^^”
“จะเอาตัวนาวผูกโบว์มาให้พี่ก็ได้นะ 555”
“>////<”
“ก็นาวเป็นของพี่นี่นา ;)”
ความคิดเห็น