ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    just us

    ลำดับตอนที่ #17 : ตอนที่15

    • อัปเดตล่าสุด 19 ต.ค. 58


    ขณะนี้ทุกคนยังอึ้งและงงแตกกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่มันเกิดขึ้นเร็วมาก ถึงแม้การเผด็จศึกเมื่อกี้ท่ามันจะไม่ได้อลังการเหมือนของสาวหมวยแต่มันก็ทำให้ใครหลายคนถึงกับพูดไม่ออกกับการบังคับแรงและทิศทางได้อย่างพอดีของผู้หญฺงที่มีใบหน้าคมคายคนนี้

    “ยัยนี่...ยังเก่งเหมือนเดิมเลยนะ ไปกันเหอะคชา”พูดจบหนุ่มหล่อก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วเดินออกไปจากตรงนั้นทันทีตามไปด้วยชายหนุ่มหัวเห็ดที่คอยตามไปไหนมาไหนด้วยเสมอ

    “โห ความโหดของมึงนี่ไม่มีลดเนอะมีแต่เพิ่มขึ้นอย่างเดียวเลยว่ะ”หงหยกพูดขึ้นหลังจากที่เพื่อนสนิทของตนเดินออกมาจากสนามพร้อมกับใบหน้าเรียบนิ่งที่ไม่ว่าใครก็อ่านมันไม่ออกเลยว่าเจ้าของใบหน้าคมตอนนี้คิดอะไรอยู่ “...”ไร้คำพูดใดๆจากปากคนที่เพิ่งแข่งเสร็จเล่นเอาคนในสนามงงกันเป็นแถว “กูว่ามันต้องมีคนไปเคลียละมั้ง”พี่เมย์พูดขึ้นลอยๆก่อนจะปรายตามองไปยังน้ำที่นั่งมองแผ่นหลังของคนที่เดินตรงไปยังห้องพักนักกีฬาแล้วทำเหมือนเธอเป็นอากาศ น้ำหันหน้ามามองพี่เมย์แล้วลุกขึ้นเดินตามเอมไป

     

    ณ ห้องพักนักกีฬา

    ใบหน้าคมกำลังทำการถอดอุปกรณ์ออกในหัวก็เอาแต่คิดถึงภาพที่ทำให้เธอรีบเผด็จศึกคู่ต่อสู้คนนั้นซะ ภาพของน้ำและไอ้ผู้ชายนิสัยไม่ดีคนนั้นนั่งข้างๆกัน ทำไมหงุดหงิดงี้วะ

    “ปัง!!!!” พอถอดสนับแขนเสร็จก็วางลงบนโต้ะอย่างแรงถ้าไม่ติดกับห้องนี้เป็นห้องส่วนตัวของเธอและเพื่อนๆในยิมคงมีคนหาว่าเธอเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ ก็เล่นทุบโต้ะระบายอารมณ์ซะขนาดนั้นนิ่

    “เป็นบ้ารึไง”คำถามและน้ำเสียงของคนที่ทำให้เธอโมโหดังขึ้น ใบหน้าคมปรายตามองคนที่ยืนกอดอกอยู่ที่ประตูก่อนจะหันมาเก็บของเข้ากระเป๋าเก็บอุปกรณ์ส่วนตัวของตัวเองต่อไป

    เมื่อเห็นว่าอีกคนไม่สนใจสาวหมวยเลยต้องใช้วิธีการขั้นเด็ดขาด มือเรียวล็อคประตูห้องพักนักกีฬาลงแล้วค่อยๆเดินเข้าไปหาคนที่ทำเป็นไม่รับรู้ว่าเธออยู่ในห้องนี้

    “เอม”น้ำเสียงที่ไม่ยียวนเหมือนเมื่อกี้เรียกชื่อสาวหน้าคมที่กำลังหานู่นหานี่ทำไปเรื่อยๆเพราะไม่อยากคุยกับไอ้ตัวต้นเหตุที่เหมือนจะยังไม่รู้ว่าตัวเองทำผิดอะไร

    “...”ไม่มีเสียงตอบรับจากอีกคน มือเรียวหยิบเสื้อแจ็กเก็ตประจำยิมขึ้นมาสวมแล้วเดินตรงไปยังประตูเพื่อจะออกจากห้องนี้

    “ไปไหน”มือขาวเอื้อมมาจับมือของอีกคนไว้ไม่ให้ออกไป ใบหน้าคมหันมามองที่ข้อมือของตัวเองแล้วเลื่อนขึ้นไปมองไปหน้าหมวยๆของเจ้าของมือข้างนี้ที่เต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม

    “มีไร”คำถามสั้นๆหลุดออกมาจากริมฝีปากอวบอิ่ม ถึงแม้จะเป็นคำถามที่ดูเย็นชาแต่ก็ทำให้อีกคนพอจะยิ้มออกขึ้นมาบ้าง

    “ไปไหนอ่ะ”สาวหมวยถามอย่างไม่เกรงกลัวสายตาอันเย็นชาที่โดนส่งมาจากเจ้าของใบหน้าคมคายนั่นเลยซักนิด

    “ข้างนอก”พูดจบก็ทำท่าจะเดินออกไปจากห้องอีกครั้ง “เอมเป็นไรวะ ทำไมไม่บอกเค้าอ่ะ เก็บไว้แบบนี้แล้วเค้าจะรู้ได้ไง”มือขาวออกแรงดึงให้อีกคนอยู่ต่อก่อนที่ริมฝีปากบางนั่นจะถามออกไปอย่างเหลืออด

    “เคยสนใจด้วยเหรอว่าเรารู้สึกไงอ่ะ”คำตอบที่เป็นคำถามโดนสวนกลับมา “มีไรก็พูดดิ อย่าทำตัวเย็นชาแบบนี้...ไม่ชอบเลย”สาวหมวยพูดความรู้สึกของตัวเองตอนนี้ออกมาทำให้คนเย็นชาสะอึกพร้อมกับความรู้สึกที่ว่าทำไมตัวเองถึงได้ปากแข็งและงี่เง่าได้ขนาดนี้วะ

    “เมื่อกี้คุยอะไรกับไอ้เต๋าบ้าง”สุดท้ายก็ยอมบอกต้นเหตุที่ทำให้เธอหัวเสียออกไปจนได้ ถึงแม้มันจะไม่เหมือนคำตอบอีกแล้วก็เถอะ “ที่หัวเสียเพราะเรื่องนี้ใช่ม้ะ/ตอบมาก่อน!!...ว่าคุยไรกันบ้าง”เอมสวนขึ้นมาด้วยคำถามเดิม “เค้าแค่ถามว่าเราแข่งด้วยเหรอแล้วก็แนะนำคชาให้รู้จักแล้วก็ขอนั่งดูเอมแข่งด้วย แค่นั้นเอง”น้ำอธิบายอย่างใจเย็นที่สุด “เท่านั้นแน่เหรอ”เหมือนคนเย็นชาเมื่อกี้จะยอมอ่อนลงบ้างแล้วถ้าฟังจากน้ำเสียงที่เริ่มกลับมาเป็นปกติ “อื้อ”ตอบพร้อมยิ้มให้คนที่ยังทำหน้าเย็นชาอยู่แบบนั้น ยังไม่ทันที่รอยยิ้มนั้นจะหายไปจากใบหน้าสาวหมวยก็รู้สึกได้ถึงแรงดึงที่มาจากคนที่เธอกำลังรั้งมือเค้าไว้ รู้ตัวอีกทีเธอก็เข้ามาอยู่ในอ้อมแขนของคนหน้าคมซะแล้ว ใบหน้าขาวซบลงมี่ไหล่ของคนที่สูงกว่าเธอเล็กน้อย “ทีหลังอย่าไปยุ่งกับไอ้บ้านั้นอีกนะ...เค้าหวง”คำพูดที่ออกมาจากริมฝีปากอวบอิ่มนั้นทำให้คนฟังใจเต้นไม่เป็นจังหวะพร้อมใบหน้าที่เริ่มเห่อร้อน นี่เราเขินเหรอวะเนี่ย ไม่มีคำตอบใดๆออกจากริมฝีปากบางของคนที่อยู่ในอ้อมกอดแต่เธอก็รับรู้ได้ว่าเด็กหมีนี่สัญญาแล้วว่าจะไม่ไปยุ่งกับหมอนั่นอีก เธอรับรู้ได้จากการกระชับอ้อมกอดที่แน่นขึ้นของอีกฝ่าย เวลาผ่านไปไม่นานอ้อมกอดก็ค่อยๆคลายลงใบหน้าหมวยมองคนขี้หวงที่ตอนนี้ส่งยิ้มบางๆมาให้เธอ “ไปเหอะ ไปดูไอ้จั่นแข่งกัน”พูดจบก็คว้ามือขาวแล้วเดินออกไปจากห้องพักนักกีฬาโดยที่อีกคนก็เดินตามไปอย่างว่าง่าย ก็ลูกหมีดีๆนี่เอง

    “น้ำเค้าถามหน่อยเหอะ เมื่อกี้ล็อคห้องทำไม”เอมถามขึ้นระหว่างที่กำลังเดินไปยังสนามแข่ง

    “ก็เค้ากลัวเอมหนีไปอ่ะเลยล็อคไว้”คำตอบที่ดูซื่อๆทำให้เจ้าของคำถามถึงกับหัวเราะร่วน

    “หัวเราะไรยะ”เด็กหมียู่หน้าลงเมื่ออีกคนหัวเราะกับการกระทำของเธอ

    “โอ๋ๆไม่เอาไม่ทำหน้าแบบนั้นสิ เค้าแค่ขำกับความคิดเด็กๆของน้ำอ่ะ”มืออีกข้างที่ยังว่างอยู่ถูกยกขึ้นมาขยี้หัวเด็กหมีเบาๆ

    “อย่าทำดิเดี๋ยวผมเสียทรง”สาวหมวยเอี้ยวตัวหลบเล็กน้อยเพราะกลัวว่าผมที่โดนรวบมัดไว้เป็นจุกนั้นจะเสียทรง

    “ก็นึกว่างอนอ่ะ เลยง้อ”คนพูดลดมือลงแล้วหันไปส่งยิ้มให้คนข้างๆ

    “น่ารักชิบ...”น้ำพูดออกมาเบาๆกับความคิดของสาวหน้าคม

    “ห้ะ ว่าไงนะ”เอมที่ได้ยินไม่ค่อยชัดถามขึ้น

    “อ๋อ เค้าบอกว่า...แข่งที่เนี่ยง่ายชิบ”อะไรที่คิดว่าเนียนก็แถไปได้หมดละตอนเนี่ย

    “อ๋อ งั้นเหรอ งั้นรีบเดินเหอะเดี๋ยวไปดูไอ้จั่นแข่งไม่ทัน”ขาเรียวก้าวไปข้างหน้าเร็วขึ้นเรื่อยๆบวกกับมือที่เริ่มออกแรงจับมากขึ้น ทำไมจับแรงนักนะ เหมือนกลัวว่าเราจะหายไปงั้นแหละ

    “นั่นไง พวกนั้นอยู่ที่สนามC”น้ำบอกคนที่กำลังมองหาเพื่อนๆกับรุ่นน้องตัวแสบอยู่ให้มองตามนิ้วเธอ เด็กหมีออกแรงดึงอีกคนให้เดินตามตัวเองมายังสนาม

    “อ้าว ดีกันแล้วนี่หว่า จูงมือมาแต่ไกลกูล่ะหมั่นไส้”คิวพูดขึ้นทำให้ทุกคนหันไปมองที่เอมกับน้ำที่กำลังเดินมาทางสนาม “เมื่อกี้มันยังแผ่ออร่าเย็นชาอยู่เลย ทำไมตอนนี้แม่งดีกันแล้ววะ”แม็คพูดขึ้นอีกคน “เพื่อนคิวครับ”แม็คหันไปเรียกชื่อเพื่อนสนิทที่ยืนอยู่ข้างๆกัน “ว่าไงครับ”คิวตอบสนองต่อเสียงเรียกแต่ก็ไม่ได้ละสายตาไปจากสองร่างบางที่เดินจูงมือกันมาทางนี้

    “มึงพอจะมีใบสมัครเข้าทีมหมั่นมั้ยครับ”แม็คถาม “มีครับ”คิวตอบ “กูขอใบนึง ตอนนี้กูเริ่มไม่ไหวกับความมุ้งมิ้งของแม่งละ โกรธกันไม่ถึงวัน มันดีกันแล้วเว้ยเห้ย”แม็คบอกจุดประสงค์ของตัวเองที่จะเข้าร่วมทีมหมั่นกับเพื่อนสนิทอย่างคิว พวกกูจะไม่ทน

    “อ้าวเอมน้ำ มานั่งนี่ดิ”หงหยกเรียกสองคนที่มาใหม่ให้มานั่งข้างเธอกับเนส

    “เอ่อหง ไอ้สองคนนั้นมันเป็นไรวะ”เอมกระซิบถามหงหยกเมื่อเห็นการกระทำพิลึกๆของสองหนุ่มนั่น “อ๋อ พวกมันทนความมุ้งมิ้งของพวกมึงไม่ไหวอ่ะ”หงหยกตอบก่อนจะสะกิดให้เนสดูมือของทั้งสองคนที่ตอนนี้...มันก็ยังไม่ปล่อยมือกัน-,-

    “มือน่ะ มึงปล่อยกันได้แล้วม้างง จับกันจนจะละลายหลอมเป็นมือเดียวกันละน่ะ”คิวพูดขึ้นพลางมองไปที่มือของทั้งคู่ที่ยังจับกันอยู่ คิวบอกแล้วคิวจะไม่ทนแซะได้เป็นต้องแซะ

    เมื่อเห็นว่าสายตาของเพื่อนๆเริ่มมองมาที่เธอสองคนแล้วมือก็ค่อยๆคลายออกจากกันช้าๆก่อนจะหันไปส่งยิ้มให้กัน “แน่ะๆ มียิ้มให้กันด้วยเว้ย....โอ้ยยยย หมวยทำไรเนี่ยคิวเจ็บนะ”ยังไม่ทันจะได้แซวได้แซะอย่างเต็มที่ก็โดนแฟนสาวขาโหดบิดหูอย่างแรง “ก็คิวอ่ะ แซะไม่เข้าเรื่องไม่เห็นจะสนใจหมวยเลย เค้าจะจับมือกันจะสิงกันก็ปล่อยเค้าไปสิ”หมวยลี่เริ่มยู่หน้าอย่างขัดใจเมื่อแฟนหนุ่มแสนอารมณ์ดีเหมือนจะไม่สนใจเธอเลย “โถคนดี ไม่เอานะไม่งอนนะ คิวขอโทษนะคร้าบ ทีหลังจะไม่ทำแล้ว”สุดท้ายก็กลายเป็นลูกแมวตัวน้อยๆจนได้ “โถ่กลัวเมีย”แม็คพูดขึ้นลอยๆแต่ก็สามารถทำให้คนที่ถูกกล่าวถึงยกหัวตัวเองออกจากไหล่นิ่มๆของแฟนสาวทันที

    “มุกๆ ไอ้แม็คมันมองสาวเว้ย”คิวตะโกนเรียกหวานใจของแม็คที่นั่งคุยอยู่กับปูนเวย์และปอนด์ให้รีบมาเอาแม็คไปเก็บ “แหมอีพี่แม็ค พอปล่อยให้เป็นอิสระนี่ไม่ได้เลยนะ มานี่เลยมา”พูดพลางลากคอแฟนหนุ่มหน้าตาดีไปไว้ในสถานที่ที่อยู่ในสายตาของตัวเอง “เดี๋ยวมุกเดี๋ยว มองเมิงอะไรกัน ไม่มี้ ปล่อยก๊อนนนน โอ้ยย อย่าดึงแรงแบบนั้นเดี๋ยวหูหลุด ไอ้คิวมึงนะมึง!!!”แล้วเสียงก็หายไป มันจะเป็นไรปะน่ะสาวตัวเล็กคิดในใจพลางมองเพื่อนที่เพิ่งโดนลากหูเกือบหลุดไป

    “มันไม่ตายหรอก”หงหยกพูดกลั้วหัวเราะกับท่าทีเป็นห่วงเพื่อนของสาวตัวเล็ก

    “อยากมีแบบนั้นบ้างอ่ะ”คนตัวเล็กจับจ้องไปยังคู่รักแต่ละคู่ในยิมก่อนจะหันมาหยุดอยู่กับคู่ที่ยังคงมุ้งมิ้งแม้ความสำคัญจะคลุมเคลือมากก็ตาม “อยากมีแฟนอ่ะเหรอ”หงหยกถามออกไปตรงๆ “อื้อใช่”คำตอบของคนตัวเล็กทำให้สาวร่างสูงเผยยิ้มบางๆออกมา

    “แล้วมีคนที่ชอบรึยังล่ะ”คำถามตรงประเด็นโดนถามอีกครั้งโดยเจ้าของคำถามที่ยังทำหน้าเขินๆ

    “ก็...มี แต่ไม่รู้ว่าเค้าคิดแบบเดียวกับเรารึเปล่า”คนตัวเล็กตอบไปอย่างกล้าๆกลัวๆก่อนจะมองไปยังคงนั่งยิ้มกับคำตอบของเธอ

    “เนส ไปที่ห้องพักนักกีฬาเป็นเพื่อนหน่อยดิ”ไม่รอให้อีกคนตอบอะไรทั้งสิ้นมือบางรีบคว้าแขนเล็กแล้วลุกขึ้นเดินไปยังห้องพักนักกีฬาทันทีโดยไม่สนใจว่าจะมีใครสงสัยรึเปล่า มันมุ้งมิ้งกันอยู่ไม่มีใครสนใจหรอก

     

    ณ ห้องพักนักกีฬา

    “มีไรรึเปล่าหง”เนสถามหลังจากที่ทั้งคู่มาถึงห้องพักนักกีฬาแล้ว

    “ทะ..ที่เนสบอกว่ามีคนที่ชอบน่ะจริงรึเปล่า”หงหยกถามกลับไป

    “อื้อ”ตอบสั้นๆก่อนจะก้มหน้ามองพื้นด้วยความเขิน

    “ผู้หญิงหรือผู้ชาย”หงหยกถามต่อ

    “ผู้หญิงสิ”คำตอบนี้ทำให้หงหยกมีความหวังขึ้นมาบ้างแล้ว

    “แล้วเนสชอบคะ/เราชอบเธอ”ยังไม่มทันที่คำถามต่อไปจะออกจากปากคนร่างสูงเด็กจุกตัวเล็กก็โพล่งขึ้นมาทำเอาคนถามอึ้งไปเลยทีเดียว

    “มะ...เมื่อกี้เนสว่าไงนะ”ด้วยความที่ดีใจจนหูดับทำให้หงหยกต้องถามออกไปอีกครั้งเพื่อความชัวร์

    “เนสบอกว่า เนส ชอบ หง”คราวนี้สาวตัวเล็กเน้นย้ำทีละคำให้คนตรงหน้าได้ยินชัดๆ

    “ห้ะ พูดจริงดิ!!”หงหยกถามย้ำอีกครั้ง คนตัวเล็กพยักหน้าหงึกๆแทนคำตอบ

    “เย้!! ได้แฟนแล้วโว้ย!!”หงหยกสติหลุดไปกับคำตอบของคนตัวเองชอบมานาน ชอบ...ตั้งแต่แรกเห็น “เนส งั้นตอนนี้เราเป็นแฟนกันแล้วใช่มั้ย”เป็นคำถามที่ทำเอาคนตัวเล็กเขินขึ้นมาบ้าง

    “ถ้ารู้สึกเหมือนกันก็ใช่อ่ะ”เนสตอบเขินๆ “งั้นมันก็ใช่แล้วแหละ”หงหยกยิ้มกว้างให้แฟนสาวของตน

    .

    .

    .

    .

    หลังจากนั้นเหตุการณ์ก็ดำเนินไปอย่างปกติโดยที่ทั้งคู่ไม่ได้บอกให้ใครรู้เรื่องของเธอสองคนโดยให้เหตุผลว่า เดี๋ยวมันก็รู้กันเอง

    การแข่งขันรอบแรกผ่านไปเรื่อยๆจนจบโดยนักกีฬาทุกคนผ่านเข้ารอบสุดท้ายหมอยกเว้นปูนที่แพ้ให้กับเต๋า

    ณ หอพักนักกีฬา

    “วันนี้เก่งมากนะทุก พักกันให้เต็มที่นะเพื่อสู้ศึกพรุ่งนี้กัน”พี่พูมพูดหลังจากที่มาส่งเหล่านักกีฬาตัวกวนจนถึงหอ

    “คร้าบ/ค่า!!!”ทุกคนขานรับพร้อมกันก่อนจะแยกย้ายไปยังห้องของตัวเอง

    เวลาล่วงเลยไปจนเที่ยงคืนที่เหมือนกับว่าทุกคนจะหลับไหลกันหมดแล้วเนื่องจากอาการเหนื่อยล้าแต่ก็มีร่างบางที่ยังยืนรับลมอยู่ที่ระเบียง ลมหนาวยามค่ำคืนไม่ได้ทำให้เธอสะท้านเลยซักนิดกลับทำให้เธอนึกถึงวันอันแสนเจ็บปวดที่เธอไม่เคยลืมและยังจำมาจนถึงวันนี้ด้วยซ้ำ

    “เอม..ชะ ช่วยเค้าด้วย คะ เค้า มะ ไม่ไหวแล้ว” หญิงสาวร่างบางภายใต้เสื้อเชิร์ตสีขาวนั่นนอนจมกองเลือดอยู่เบื้องหน้าของร่างผิวสีน้ำผึ้งที่เพิ่งจะหาแฟนสาวของตัวเองพบ

    “ไม่นะ เธออย่าเป็นอะไรนะ เธอต้องอยู่กับเค้าสิ ฮือ”ทันทีที่เห็นเช่นนั้นขาเรียวก็รีบวิ่งเข้าไปหาร่างที่นอนโอดครวญอยู่บนพื้นห้องก่อนจะกอดร่างนั้นพร้อมร้องไห้ออกมาปากก็พล่ามไปเหมือนคนเสียสติ

    “ฮึก อะ เอม ต่อไปนี้น่ะ ถ้าไม่มีเค้าแล้ว เอม ฮึก ต้องเข้มแข็งนะ หะ ห้ามร้องไห้ สะ สัญญามั้ย”มือบางเปื้อนเลือดชูนิ้วก้อยขึ้นมาด้วยเรี้ยวแรงที่ยังพอเหลืออยู่

    “ค่ะ เอมสัญญา”ยังไม่ทันที่นิ้วของสองสาวจะได้เกี่ยวกันร่างในอ้อมกอดของเอมก็หลับตาลงพร้อมกับรอยิ้ม รอยยิ้มสุดท้ายที่เธอได้เห็น...

    “เอม ยืนทำไรตรงนี้วะ”เสียงคุ้นหูของเพื่อนสนิทเรียกให้เอมหลุดออกจากความคิดของตัวเอง ใบหน้าคมหันมองเพื่อนสาวคนสนิทก่อนจะส่งยิ้มบางๆให้แล้วหันมองไปนอกระเบียงเหมือนเดิม

    “คิดเรื่องนั้นอีกอ่ะดิมึง”หงหยกถามอย่างรู้ทัน

    “มึงรู้ได้ไง”เอมหันไปถามเพื่อนแสนรู้ของเธอ

    “ก็เรื่องที่ทำให้มึงมายืนทำนางเอกMVอยู่ตรงเนี่ย ถ้าไม่ชาเรื่องนั้นแล้วจะเป็นเรื่องไหน”หงหยกพูดพลางยักคิ้วให้เพื่อนอย่างกวนๆ

    “นี่มันก็ผ่านมาสามปีแล้ว มึงยังไม่ลืมอีกรึไงวะ”หงหยกถามกลับบ้าง

    “ถ้ามึงเห็นคนที่มึงรักตายไปต่อหน้าต่อตาโดยที่เราช่วยเค้าไม่ได้เลย มึงคงจะรู้สึกแบบกูเนี่ยแหละ ลืมไงก็ลืมไม่ได้ว่ะ”เอมร่ายยาวให้เพื่อนสาวฟังโดยที่อีกคนเอาแต่พยักหน้ากับสิ่งที่เธอเล่า

    “แต่ชีวิตคนเรามันก็ต้องเดินต่อไปไม่ใช่เหรอมึง มึงลืมไปเถอะเรื่องนั้นอ่ะ แล้วมึงควรจะเริ่มใหม่กับใครซักคนได้แล้วนะ กูไม่อยากเห็นมึงต้องเศร้าแบบนี้อ่ะ”หงหยกยกมือขึ้นมาวางบนไหล่เพื่อนรักเบาๆ

    “กูก็อยากทำแบบนั้นนะ แต่กูลืมไม่ได้ว่ะ/ลืมไม่ได้หรือว่ามึงไม่อยากลืมกันแน่เอม กูว่ามึงปิดกั้นความรู้สึกตัวเองเกินไปอ่ะ ถ้ามึงลองเปิดใจให้ใครซักคนเข้ามาในใจของมึงที่กำลังว่างเปล่าตอนนี้อ่ะมันจะดีมากเลยเว้ย”หงหยกสวนขึ้นก่อนที่เอมจะพูดจบ

    “แล้วใครคนนั้นอ่ะ คือใครวะ”เอมถามกลับ

    “น้ำไง มึงลองคิดดูนะเว้ย ว่าสิ่งที่มึงทำกับน้ำอ่ะเป็นเพราะมึงรักเค้าหรือว่าอะไรกันแน่ เค้ามาอยู่ที่นี่แค่สองปีนะมึง คิดดีๆ กูไปนอนละ”พูดจบก็เดินกลับเข้าห้องไป

    “กูก็อยากทำแบบนั้นะหง กูอยากลืมเหมือนกัน กูอยากรู้เหมือนกันว่าความรู้สึกของกูตอนนี้คืออะไรกันแน่...แต่กูยังไม่พร้อม”เอมพูดกับตัวเองเบาๆหลังจากที่เพื่อนสาวเข้าห้องไปแล้ว...

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    Hi ทุกคน ไรท์มาพร้อมกับระเบิดลูกใหญ่555

    อย่าด่าเค้านะ อย่าพยายามหาบ้านเค้าด้วย วางมีดลงก่อนด้วย

    ใบ้ให้เลยว่าอีกไม่นานเราจะเจองานช้างกันแน่นอน555 สะใจไปล่ะจุ้บ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×