คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : ตอนที่15
ขณะนี้ทุกคนยังอึ้งและงงแตกกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่มันเกิดขึ้นเร็วมาก
ถึงแม้การเผด็จศึกเมื่อกี้ท่ามันจะไม่ได้อลังการเหมือนของสาวหมวยแต่มันก็ทำให้ใครหลายคนถึงกับพูดไม่ออกกับการบังคับแรงและทิศทางได้อย่างพอดีของผู้หญฺงที่มีใบหน้าคมคายคนนี้
“ยัยนี่...ยังเก่งเหมือนเดิมเลยนะ
ไปกันเหอะคชา”พูดจบหนุ่มหล่อก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วเดินออกไปจากตรงนั้นทันทีตามไปด้วยชายหนุ่มหัวเห็ดที่คอยตามไปไหนมาไหนด้วยเสมอ
“โห
ความโหดของมึงนี่ไม่มีลดเนอะมีแต่เพิ่มขึ้นอย่างเดียวเลยว่ะ”หงหยกพูดขึ้นหลังจากที่เพื่อนสนิทของตนเดินออกมาจากสนามพร้อมกับใบหน้าเรียบนิ่งที่ไม่ว่าใครก็อ่านมันไม่ออกเลยว่าเจ้าของใบหน้าคมตอนนี้คิดอะไรอยู่
“...”ไร้คำพูดใดๆจากปากคนที่เพิ่งแข่งเสร็จเล่นเอาคนในสนามงงกันเป็นแถว
“กูว่ามันต้องมีคนไปเคลียละมั้ง”พี่เมย์พูดขึ้นลอยๆก่อนจะปรายตามองไปยังน้ำที่นั่งมองแผ่นหลังของคนที่เดินตรงไปยังห้องพักนักกีฬาแล้วทำเหมือนเธอเป็นอากาศ
น้ำหันหน้ามามองพี่เมย์แล้วลุกขึ้นเดินตามเอมไป
ณ
ห้องพักนักกีฬา
ใบหน้าคมกำลังทำการถอดอุปกรณ์ออกในหัวก็เอาแต่คิดถึงภาพที่ทำให้เธอรีบเผด็จศึกคู่ต่อสู้คนนั้นซะ
ภาพของน้ำและไอ้ผู้ชายนิสัยไม่ดีคนนั้นนั่งข้างๆกัน ทำไมหงุดหงิดงี้วะ
“ปัง!!!!”
พอถอดสนับแขนเสร็จก็วางลงบนโต้ะอย่างแรงถ้าไม่ติดกับห้องนี้เป็นห้องส่วนตัวของเธอและเพื่อนๆในยิมคงมีคนหาว่าเธอเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ
ก็เล่นทุบโต้ะระบายอารมณ์ซะขนาดนั้นนิ่
“เป็นบ้ารึไง”คำถามและน้ำเสียงของคนที่ทำให้เธอโมโหดังขึ้น
ใบหน้าคมปรายตามองคนที่ยืนกอดอกอยู่ที่ประตูก่อนจะหันมาเก็บของเข้ากระเป๋าเก็บอุปกรณ์ส่วนตัวของตัวเองต่อไป
เมื่อเห็นว่าอีกคนไม่สนใจสาวหมวยเลยต้องใช้วิธีการขั้นเด็ดขาด
มือเรียวล็อคประตูห้องพักนักกีฬาลงแล้วค่อยๆเดินเข้าไปหาคนที่ทำเป็นไม่รับรู้ว่าเธออยู่ในห้องนี้
“เอม”น้ำเสียงที่ไม่ยียวนเหมือนเมื่อกี้เรียกชื่อสาวหน้าคมที่กำลังหานู่นหานี่ทำไปเรื่อยๆเพราะไม่อยากคุยกับไอ้ตัวต้นเหตุที่เหมือนจะยังไม่รู้ว่าตัวเองทำผิดอะไร
“...”ไม่มีเสียงตอบรับจากอีกคน
มือเรียวหยิบเสื้อแจ็กเก็ตประจำยิมขึ้นมาสวมแล้วเดินตรงไปยังประตูเพื่อจะออกจากห้องนี้
“ไปไหน”มือขาวเอื้อมมาจับมือของอีกคนไว้ไม่ให้ออกไป
ใบหน้าคมหันมามองที่ข้อมือของตัวเองแล้วเลื่อนขึ้นไปมองไปหน้าหมวยๆของเจ้าของมือข้างนี้ที่เต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม
“มีไร”คำถามสั้นๆหลุดออกมาจากริมฝีปากอวบอิ่ม
ถึงแม้จะเป็นคำถามที่ดูเย็นชาแต่ก็ทำให้อีกคนพอจะยิ้มออกขึ้นมาบ้าง
“ไปไหนอ่ะ”สาวหมวยถามอย่างไม่เกรงกลัวสายตาอันเย็นชาที่โดนส่งมาจากเจ้าของใบหน้าคมคายนั่นเลยซักนิด
“ข้างนอก”พูดจบก็ทำท่าจะเดินออกไปจากห้องอีกครั้ง
“เอมเป็นไรวะ ทำไมไม่บอกเค้าอ่ะ
เก็บไว้แบบนี้แล้วเค้าจะรู้ได้ไง”มือขาวออกแรงดึงให้อีกคนอยู่ต่อก่อนที่ริมฝีปากบางนั่นจะถามออกไปอย่างเหลืออด
“เคยสนใจด้วยเหรอว่าเรารู้สึกไงอ่ะ”คำตอบที่เป็นคำถามโดนสวนกลับมา
“มีไรก็พูดดิ อย่าทำตัวเย็นชาแบบนี้...ไม่ชอบเลย”สาวหมวยพูดความรู้สึกของตัวเองตอนนี้ออกมาทำให้คนเย็นชาสะอึกพร้อมกับความรู้สึกที่ว่าทำไมตัวเองถึงได้ปากแข็งและงี่เง่าได้ขนาดนี้วะ
“เมื่อกี้คุยอะไรกับไอ้เต๋าบ้าง”สุดท้ายก็ยอมบอกต้นเหตุที่ทำให้เธอหัวเสียออกไปจนได้
ถึงแม้มันจะไม่เหมือนคำตอบอีกแล้วก็เถอะ
“ที่หัวเสียเพราะเรื่องนี้ใช่ม้ะ/ตอบมาก่อน!!...ว่าคุยไรกันบ้าง”เอมสวนขึ้นมาด้วยคำถามเดิม
“เค้าแค่ถามว่าเราแข่งด้วยเหรอแล้วก็แนะนำคชาให้รู้จักแล้วก็ขอนั่งดูเอมแข่งด้วย
แค่นั้นเอง”น้ำอธิบายอย่างใจเย็นที่สุด
“เท่านั้นแน่เหรอ”เหมือนคนเย็นชาเมื่อกี้จะยอมอ่อนลงบ้างแล้วถ้าฟังจากน้ำเสียงที่เริ่มกลับมาเป็นปกติ
“อื้อ”ตอบพร้อมยิ้มให้คนที่ยังทำหน้าเย็นชาอยู่แบบนั้น
ยังไม่ทันที่รอยยิ้มนั้นจะหายไปจากใบหน้าสาวหมวยก็รู้สึกได้ถึงแรงดึงที่มาจากคนที่เธอกำลังรั้งมือเค้าไว้
รู้ตัวอีกทีเธอก็เข้ามาอยู่ในอ้อมแขนของคนหน้าคมซะแล้ว
ใบหน้าขาวซบลงมี่ไหล่ของคนที่สูงกว่าเธอเล็กน้อย
“ทีหลังอย่าไปยุ่งกับไอ้บ้านั้นอีกนะ...เค้าหวง”คำพูดที่ออกมาจากริมฝีปากอวบอิ่มนั้นทำให้คนฟังใจเต้นไม่เป็นจังหวะพร้อมใบหน้าที่เริ่มเห่อร้อน
‘นี่เราเขินเหรอวะเนี่ย’ ไม่มีคำตอบใดๆออกจากริมฝีปากบางของคนที่อยู่ในอ้อมกอดแต่เธอก็รับรู้ได้ว่าเด็กหมีนี่สัญญาแล้วว่าจะไม่ไปยุ่งกับหมอนั่นอีก
เธอรับรู้ได้จากการกระชับอ้อมกอดที่แน่นขึ้นของอีกฝ่าย
เวลาผ่านไปไม่นานอ้อมกอดก็ค่อยๆคลายลงใบหน้าหมวยมองคนขี้หวงที่ตอนนี้ส่งยิ้มบางๆมาให้เธอ
“ไปเหอะ
ไปดูไอ้จั่นแข่งกัน”พูดจบก็คว้ามือขาวแล้วเดินออกไปจากห้องพักนักกีฬาโดยที่อีกคนก็เดินตามไปอย่างว่าง่าย
ก็ลูกหมีดีๆนี่เอง
“น้ำเค้าถามหน่อยเหอะ
เมื่อกี้ล็อคห้องทำไม”เอมถามขึ้นระหว่างที่กำลังเดินไปยังสนามแข่ง
“ก็เค้ากลัวเอมหนีไปอ่ะเลยล็อคไว้”คำตอบที่ดูซื่อๆทำให้เจ้าของคำถามถึงกับหัวเราะร่วน
“หัวเราะไรยะ”เด็กหมียู่หน้าลงเมื่ออีกคนหัวเราะกับการกระทำของเธอ
“โอ๋ๆไม่เอาไม่ทำหน้าแบบนั้นสิ
เค้าแค่ขำกับความคิดเด็กๆของน้ำอ่ะ”มืออีกข้างที่ยังว่างอยู่ถูกยกขึ้นมาขยี้หัวเด็กหมีเบาๆ
“อย่าทำดิเดี๋ยวผมเสียทรง”สาวหมวยเอี้ยวตัวหลบเล็กน้อยเพราะกลัวว่าผมที่โดนรวบมัดไว้เป็นจุกนั้นจะเสียทรง
“ก็นึกว่างอนอ่ะ
เลยง้อ”คนพูดลดมือลงแล้วหันไปส่งยิ้มให้คนข้างๆ
“น่ารักชิบ...”น้ำพูดออกมาเบาๆกับความคิดของสาวหน้าคม
“ห้ะ
ว่าไงนะ”เอมที่ได้ยินไม่ค่อยชัดถามขึ้น
“อ๋อ
เค้าบอกว่า...แข่งที่เนี่ยง่ายชิบ”อะไรที่คิดว่าเนียนก็แถไปได้หมดละตอนเนี่ย
“อ๋อ
งั้นเหรอ งั้นรีบเดินเหอะเดี๋ยวไปดูไอ้จั่นแข่งไม่ทัน”ขาเรียวก้าวไปข้างหน้าเร็วขึ้นเรื่อยๆบวกกับมือที่เริ่มออกแรงจับมากขึ้น
ทำไมจับแรงนักนะ เหมือนกลัวว่าเราจะหายไปงั้นแหละ
“นั่นไง
พวกนั้นอยู่ที่สนามC”น้ำบอกคนที่กำลังมองหาเพื่อนๆกับรุ่นน้องตัวแสบอยู่ให้มองตามนิ้วเธอ
เด็กหมีออกแรงดึงอีกคนให้เดินตามตัวเองมายังสนาม
“อ้าว
ดีกันแล้วนี่หว่า จูงมือมาแต่ไกลกูล่ะหมั่นไส้”คิวพูดขึ้นทำให้ทุกคนหันไปมองที่เอมกับน้ำที่กำลังเดินมาทางสนาม
“เมื่อกี้มันยังแผ่ออร่าเย็นชาอยู่เลย ทำไมตอนนี้แม่งดีกันแล้ววะ”แม็คพูดขึ้นอีกคน
“เพื่อนคิวครับ”แม็คหันไปเรียกชื่อเพื่อนสนิทที่ยืนอยู่ข้างๆกัน “ว่าไงครับ”คิวตอบสนองต่อเสียงเรียกแต่ก็ไม่ได้ละสายตาไปจากสองร่างบางที่เดินจูงมือกันมาทางนี้
“มึงพอจะมีใบสมัครเข้าทีมหมั่นมั้ยครับ”แม็คถาม
“มีครับ”คิวตอบ “กูขอใบนึง ตอนนี้กูเริ่มไม่ไหวกับความมุ้งมิ้งของแม่งละ
โกรธกันไม่ถึงวัน มันดีกันแล้วเว้ยเห้ย”แม็คบอกจุดประสงค์ของตัวเองที่จะเข้าร่วมทีมหมั่นกับเพื่อนสนิทอย่างคิว
พวกกูจะไม่ทน
“อ้าวเอมน้ำ
มานั่งนี่ดิ”หงหยกเรียกสองคนที่มาใหม่ให้มานั่งข้างเธอกับเนส
“เอ่อหง
ไอ้สองคนนั้นมันเป็นไรวะ”เอมกระซิบถามหงหยกเมื่อเห็นการกระทำพิลึกๆของสองหนุ่มนั่น
“อ๋อ พวกมันทนความมุ้งมิ้งของพวกมึงไม่ไหวอ่ะ”หงหยกตอบก่อนจะสะกิดให้เนสดูมือของทั้งสองคนที่ตอนนี้...มันก็ยังไม่ปล่อยมือกัน-,-
“มือน่ะ
มึงปล่อยกันได้แล้วม้างง จับกันจนจะละลายหลอมเป็นมือเดียวกันละน่ะ”คิวพูดขึ้นพลางมองไปที่มือของทั้งคู่ที่ยังจับกันอยู่
คิวบอกแล้วคิวจะไม่ทนแซะได้เป็นต้องแซะ
เมื่อเห็นว่าสายตาของเพื่อนๆเริ่มมองมาที่เธอสองคนแล้วมือก็ค่อยๆคลายออกจากกันช้าๆก่อนจะหันไปส่งยิ้มให้กัน
“แน่ะๆ มียิ้มให้กันด้วยเว้ย....โอ้ยยยย หมวยทำไรเนี่ยคิวเจ็บนะ”ยังไม่ทันจะได้แซวได้แซะอย่างเต็มที่ก็โดนแฟนสาวขาโหดบิดหูอย่างแรง
“ก็คิวอ่ะ แซะไม่เข้าเรื่องไม่เห็นจะสนใจหมวยเลย เค้าจะจับมือกันจะสิงกันก็ปล่อยเค้าไปสิ”หมวยลี่เริ่มยู่หน้าอย่างขัดใจเมื่อแฟนหนุ่มแสนอารมณ์ดีเหมือนจะไม่สนใจเธอเลย
“โถคนดี ไม่เอานะไม่งอนนะ คิวขอโทษนะคร้าบ ทีหลังจะไม่ทำแล้ว”สุดท้ายก็กลายเป็นลูกแมวตัวน้อยๆจนได้
“โถ่กลัวเมีย”แม็คพูดขึ้นลอยๆแต่ก็สามารถทำให้คนที่ถูกกล่าวถึงยกหัวตัวเองออกจากไหล่นิ่มๆของแฟนสาวทันที
“มุกๆ
ไอ้แม็คมันมองสาวเว้ย”คิวตะโกนเรียกหวานใจของแม็คที่นั่งคุยอยู่กับปูนเวย์และปอนด์ให้รีบมาเอาแม็คไปเก็บ
“แหมอีพี่แม็ค พอปล่อยให้เป็นอิสระนี่ไม่ได้เลยนะ มานี่เลยมา”พูดพลางลากคอแฟนหนุ่มหน้าตาดีไปไว้ในสถานที่ที่อยู่ในสายตาของตัวเอง
“เดี๋ยวมุกเดี๋ยว มองเมิงอะไรกัน ไม่มี้ ปล่อยก๊อนนนน โอ้ยย
อย่าดึงแรงแบบนั้นเดี๋ยวหูหลุด ไอ้คิวมึงนะมึง!!!”แล้วเสียงก็หายไป ‘มันจะเป็นไรปะน่ะ’
สาวตัวเล็กคิดในใจพลางมองเพื่อนที่เพิ่งโดนลากหูเกือบหลุดไป
“มันไม่ตายหรอก”หงหยกพูดกลั้วหัวเราะกับท่าทีเป็นห่วงเพื่อนของสาวตัวเล็ก
“อยากมีแบบนั้นบ้างอ่ะ”คนตัวเล็กจับจ้องไปยังคู่รักแต่ละคู่ในยิมก่อนจะหันมาหยุดอยู่กับคู่ที่ยังคงมุ้งมิ้งแม้ความสำคัญจะคลุมเคลือมากก็ตาม
“อยากมีแฟนอ่ะเหรอ”หงหยกถามออกไปตรงๆ “อื้อใช่”คำตอบของคนตัวเล็กทำให้สาวร่างสูงเผยยิ้มบางๆออกมา
“แล้วมีคนที่ชอบรึยังล่ะ”คำถามตรงประเด็นโดนถามอีกครั้งโดยเจ้าของคำถามที่ยังทำหน้าเขินๆ
“ก็...มี
แต่ไม่รู้ว่าเค้าคิดแบบเดียวกับเรารึเปล่า”คนตัวเล็กตอบไปอย่างกล้าๆกลัวๆก่อนจะมองไปยังคงนั่งยิ้มกับคำตอบของเธอ
“เนส
ไปที่ห้องพักนักกีฬาเป็นเพื่อนหน่อยดิ”ไม่รอให้อีกคนตอบอะไรทั้งสิ้นมือบางรีบคว้าแขนเล็กแล้วลุกขึ้นเดินไปยังห้องพักนักกีฬาทันทีโดยไม่สนใจว่าจะมีใครสงสัยรึเปล่า
มันมุ้งมิ้งกันอยู่ไม่มีใครสนใจหรอก
ณ
ห้องพักนักกีฬา
“มีไรรึเปล่าหง”เนสถามหลังจากที่ทั้งคู่มาถึงห้องพักนักกีฬาแล้ว
“ทะ..ที่เนสบอกว่ามีคนที่ชอบน่ะจริงรึเปล่า”หงหยกถามกลับไป
“อื้อ”ตอบสั้นๆก่อนจะก้มหน้ามองพื้นด้วยความเขิน
“ผู้หญิงหรือผู้ชาย”หงหยกถามต่อ
“ผู้หญิงสิ”คำตอบนี้ทำให้หงหยกมีความหวังขึ้นมาบ้างแล้ว
“แล้วเนสชอบคะ/เราชอบเธอ”ยังไม่มทันที่คำถามต่อไปจะออกจากปากคนร่างสูงเด็กจุกตัวเล็กก็โพล่งขึ้นมาทำเอาคนถามอึ้งไปเลยทีเดียว
“มะ...เมื่อกี้เนสว่าไงนะ”ด้วยความที่ดีใจจนหูดับทำให้หงหยกต้องถามออกไปอีกครั้งเพื่อความชัวร์
“เนสบอกว่า
เนส ชอบ หง”คราวนี้สาวตัวเล็กเน้นย้ำทีละคำให้คนตรงหน้าได้ยินชัดๆ
“ห้ะ
พูดจริงดิ!!”หงหยกถามย้ำอีกครั้ง คนตัวเล็กพยักหน้าหงึกๆแทนคำตอบ
“เย้!! ได้แฟนแล้วโว้ย!!”หงหยกสติหลุดไปกับคำตอบของคนตัวเองชอบมานาน ชอบ...ตั้งแต่แรกเห็น “เนส
งั้นตอนนี้เราเป็นแฟนกันแล้วใช่มั้ย”เป็นคำถามที่ทำเอาคนตัวเล็กเขินขึ้นมาบ้าง
“ถ้ารู้สึกเหมือนกันก็ใช่อ่ะ”เนสตอบเขินๆ
“งั้นมันก็ใช่แล้วแหละ”หงหยกยิ้มกว้างให้แฟนสาวของตน
.
.
.
.
หลังจากนั้นเหตุการณ์ก็ดำเนินไปอย่างปกติโดยที่ทั้งคู่ไม่ได้บอกให้ใครรู้เรื่องของเธอสองคนโดยให้เหตุผลว่า
เดี๋ยวมันก็รู้กันเอง
การแข่งขันรอบแรกผ่านไปเรื่อยๆจนจบโดยนักกีฬาทุกคนผ่านเข้ารอบสุดท้ายหมอยกเว้นปูนที่แพ้ให้กับเต๋า
ณ
หอพักนักกีฬา
“วันนี้เก่งมากนะทุก
พักกันให้เต็มที่นะเพื่อสู้ศึกพรุ่งนี้กัน”พี่พูมพูดหลังจากที่มาส่งเหล่านักกีฬาตัวกวนจนถึงหอ
“คร้าบ/ค่า!!!”ทุกคนขานรับพร้อมกันก่อนจะแยกย้ายไปยังห้องของตัวเอง
เวลาล่วงเลยไปจนเที่ยงคืนที่เหมือนกับว่าทุกคนจะหลับไหลกันหมดแล้วเนื่องจากอาการเหนื่อยล้าแต่ก็มีร่างบางที่ยังยืนรับลมอยู่ที่ระเบียง
ลมหนาวยามค่ำคืนไม่ได้ทำให้เธอสะท้านเลยซักนิดกลับทำให้เธอนึกถึงวันอันแสนเจ็บปวดที่เธอไม่เคยลืมและยังจำมาจนถึงวันนี้ด้วยซ้ำ
“เอม..ชะ ช่วยเค้าด้วย คะ เค้า มะ ไม่ไหวแล้ว”
หญิงสาวร่างบางภายใต้เสื้อเชิร์ตสีขาวนั่นนอนจมกองเลือดอยู่เบื้องหน้าของร่างผิวสีน้ำผึ้งที่เพิ่งจะหาแฟนสาวของตัวเองพบ
“ไม่นะ เธออย่าเป็นอะไรนะ เธอต้องอยู่กับเค้าสิ ฮือ”ทันทีที่เห็นเช่นนั้นขาเรียวก็รีบวิ่งเข้าไปหาร่างที่นอนโอดครวญอยู่บนพื้นห้องก่อนจะกอดร่างนั้นพร้อมร้องไห้ออกมาปากก็พล่ามไปเหมือนคนเสียสติ
“ฮึก อะ เอม ต่อไปนี้น่ะ ถ้าไม่มีเค้าแล้ว เอม ฮึก
ต้องเข้มแข็งนะ หะ ห้ามร้องไห้ สะ สัญญามั้ย”มือบางเปื้อนเลือดชูนิ้วก้อยขึ้นมาด้วยเรี้ยวแรงที่ยังพอเหลืออยู่
“ค่ะ เอมสัญญา”ยังไม่ทันที่นิ้วของสองสาวจะได้เกี่ยวกันร่างในอ้อมกอดของเอมก็หลับตาลงพร้อมกับรอยิ้ม
รอยยิ้มสุดท้ายที่เธอได้เห็น...
“เอม
ยืนทำไรตรงนี้วะ”เสียงคุ้นหูของเพื่อนสนิทเรียกให้เอมหลุดออกจากความคิดของตัวเอง
ใบหน้าคมหันมองเพื่อนสาวคนสนิทก่อนจะส่งยิ้มบางๆให้แล้วหันมองไปนอกระเบียงเหมือนเดิม
“คิดเรื่องนั้นอีกอ่ะดิมึง”หงหยกถามอย่างรู้ทัน
“มึงรู้ได้ไง”เอมหันไปถามเพื่อนแสนรู้ของเธอ
“ก็เรื่องที่ทำให้มึงมายืนทำนางเอกMVอยู่ตรงเนี่ย
ถ้าไม่ชาเรื่องนั้นแล้วจะเป็นเรื่องไหน”หงหยกพูดพลางยักคิ้วให้เพื่อนอย่างกวนๆ
“นี่มันก็ผ่านมาสามปีแล้ว
มึงยังไม่ลืมอีกรึไงวะ”หงหยกถามกลับบ้าง
“ถ้ามึงเห็นคนที่มึงรักตายไปต่อหน้าต่อตาโดยที่เราช่วยเค้าไม่ได้เลย
มึงคงจะรู้สึกแบบกูเนี่ยแหละ ลืมไงก็ลืมไม่ได้ว่ะ”เอมร่ายยาวให้เพื่อนสาวฟังโดยที่อีกคนเอาแต่พยักหน้ากับสิ่งที่เธอเล่า
“แต่ชีวิตคนเรามันก็ต้องเดินต่อไปไม่ใช่เหรอมึง
มึงลืมไปเถอะเรื่องนั้นอ่ะ แล้วมึงควรจะเริ่มใหม่กับใครซักคนได้แล้วนะ
กูไม่อยากเห็นมึงต้องเศร้าแบบนี้อ่ะ”หงหยกยกมือขึ้นมาวางบนไหล่เพื่อนรักเบาๆ
“กูก็อยากทำแบบนั้นนะ
แต่กูลืมไม่ได้ว่ะ/ลืมไม่ได้หรือว่ามึงไม่อยากลืมกันแน่เอม
กูว่ามึงปิดกั้นความรู้สึกตัวเองเกินไปอ่ะ ถ้ามึงลองเปิดใจให้ใครซักคนเข้ามาในใจของมึงที่กำลังว่างเปล่าตอนนี้อ่ะมันจะดีมากเลยเว้ย”หงหยกสวนขึ้นก่อนที่เอมจะพูดจบ
“แล้วใครคนนั้นอ่ะ
คือใครวะ”เอมถามกลับ
“น้ำไง
มึงลองคิดดูนะเว้ย ว่าสิ่งที่มึงทำกับน้ำอ่ะเป็นเพราะมึงรักเค้าหรือว่าอะไรกันแน่
เค้ามาอยู่ที่นี่แค่สองปีนะมึง คิดดีๆ กูไปนอนละ”พูดจบก็เดินกลับเข้าห้องไป
“กูก็อยากทำแบบนั้นะหง
กูอยากลืมเหมือนกัน
กูอยากรู้เหมือนกันว่าความรู้สึกของกูตอนนี้คืออะไรกันแน่...แต่กูยังไม่พร้อม”เอมพูดกับตัวเองเบาๆหลังจากที่เพื่อนสาวเข้าห้องไปแล้ว...
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
Hi ทุกคน ไรท์มาพร้อมกับระเบิดลูกใหญ่555
อย่าด่าเค้านะ อย่าพยายามหาบ้านเค้าด้วย วางมีดลงก่อนด้วย
ใบ้ให้เลยว่าอีกไม่นานเราจะเจองานช้างกันแน่นอน555 สะใจไปล่ะจุ้บ
ความคิดเห็น