ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    just us

    ลำดับตอนที่ #14 : ตอนที่12

    • อัปเดตล่าสุด 12 ต.ค. 58


    “เห้ยเอม กูถามไรหน่อยดิ”คิวค่อยๆกระดึ้บมานั่งข้างๆเอมขณะที่กำลังวอร์มอัพกันอยู่

    “มีไรวะ”สาวหน้าคมหันไปมองอย่างสงสัยก่อนจะเอ่ยปากถามเพื่อซี้จอมกวนออกไป

    “ทำไมตอนนั้นมึงกับน้ำอยู่ในสภาพหน้าคิดแบบนั้นวะ”คำถามของคิวทำให้เอมชะงักกึกก่อนจะวอร์มต่อไปโดยทำเหมือนไม่ได้ยิน “มึงตอบกูหน่อยเหอะ”ชายหนุ่มยังคงเซ้าซี้จะเอาคำตอบจากเธอให้ได้จนสาวหน้าคมเริ่มรำคาญปนเขิน “ก็ไม่มีไร กูกับน้ำแค่ล้ม/นั่นไงกูว่าละว่ามันต้องตอบแบบนี้”แม็คโพล่งขึ้นมาหลังจากที่แอบฟังอยู่นาน “สภาพมึงนิเหมือนกำลังจะฟัดกันอะไรประมาณนั้นเลยนะเว้ยหรือว่ามึงฟัดกันแล้ววะ/ปึ้ก!!!!”ยังไม่ทันจบคำพูดของแม็คเท้าเรียวของสาวหน้าคมก็ฟาดเข้าที่ปากอย่างจัง

    “มึงทำไรเนี่ยไอ้เอ๊มมมม”หนุ่มร่างสูงครวญครางเหมือนจะเป็นจะตายขึ้นมา “มึงจะได้เลิกปากเสียไง”พูดจบก็ลุกขึ้นเดินไปที่กระสอบทรายก่อนจะกระหน่ำเตะปลดปล่อยความเขิน(เอ่อเดี๋ยวนะ นี่เขินแล้วต้องเตะกระสอบทรายเลยเหรอ)

    การซ้อมดำเนินไปเรื่อยๆโดยโค้ชพูมปล่อยให้เหลานักกีฬาได้มีเวลาซ้อมแบบฟรีสไตล์คือการซ้อมในแบบของตัวเองโดยที่เค้านั่งดูอยู่ห่างๆ ในหัวก็คิดเรื่องการแข่งครั้งนี้ คิดว่าจะได้เจอกับพี่ชายที่เคารพและหวังดีมาตลอดรึอีกเปล่า

    “ตุ้บ!!! โอ้ย!!!”เสียงห้าวๆร้องขึ้นทำให้คนที่กำลังซ้อมอยู่ต้องรีบวิ่งไปดู สาวหมวยนอนอยู่กับพื้น

    “เห้ย น้ำเป็นไรป่าว”เป็นใครไปไม่ได้นอกจากสาวหน้าคมที่วิ่งเข้ามาดูอย่างรีบร้อน

    “จะเจ็บที่ข้อเท้าอ่ะ”ได้ฟังคำตอบแล้วสาวหน้าคมก็มองไปที่ข้อเท้าข้างขวาทันที มือเรียวเอื้อมไปจับเบาๆ

    “อะเอม จับเบาๆ”เสียงร้องห้ามของสาวหมวยทำให้อีกคนต้องระวังเป็นพิเศษ

    “พี่ พาน้ำไปหาหมอเหอะ”เมื่อเห็นว่าข้อเท้าเริ่มม่วงคล้ำและบวมอย่างรวดเร็วสาวหน้าคมจึงหันไปบอกโค้ชหนุ่มด้วยสายตาที่ไม่ว่าใครก็ต้องทำตามคำสั่งแม้แต่ผู้เป็นโค้ชแอง

    “เออได้ๆ”พูดจบก็เดินมาอุ้มร่างของนักกีฬาสาวขึ้นมาก่อนจะรีบเดินออกจากห้องซ้อมไปโดยมีเอมหงและเนสตามออกไปด้วย หลังจากที่เห็นว่าทุกคนออกไปแล้วเหล่านักกีฬาที่เหลือก็ไม่รอช้ารีบสุมหัวกันพูดถึงเหตุการณ์เมื่อซักครู่อย่างอดไม่ได้

    “พี่เห็นกันป่ะ เมื่อกี้อ่ะ พี่เอมวิ่งเข้าไปคนแรกเลยนะ”ปอนด์เปิดประเด็นขึ้น “เออใช่ เห็นปกติเวลาคนในยิมเป็นไรนะไม่เคยเห็นมันเข้าไปดูเร็วขนาดนั้นเลย”หมวยลี่เสริมขึ้นมาอีกคน ไม่ใช่ว่าเคราะห์เกี่ยวกับขาจะเกิดขึ้นยากนักกับคนในยิม แต่ก่อนหน้านั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับใครก็ตามเอมจะเป็นคนที่เข้าไปมุงดูช้าที่สุดรองจากหงหยก “มันนานละนะพี่ที่เราไม่ได้เห็นพี่เอมห่วงใรขนาดนี้อ่ะ ตั้งแต่พี่คนนั้นจากไป/เห้ยจั่น หยุดเลยมึง ดึงเข้าดราม่าได้ตลอด”เวย์พูดแทรกขึ้นเพราะไม่อยากจะนึกถึงเหตุการณ์แสนเศร้าในครั้งนั้น

    “โทษทีพี่”เด็กสาวยิ้มแห้งๆให้รุ่นพี่ “เออจั่น ว่าแต่ตอนที่มึงไปเจอสภาพเอมกับน้ำอ่ะ เค้าอยู่ในสภาพไหนว่า พวกกูเข้าไปอีกทีเค้าก็หนีเข้าห้องอาบน้ำไปแล้วอ่ะ”มุกถามขึ้นพลางทำหน้าเสียดายที่พลาดช็อตเด็ด

    “สั้นๆนะพี่ เสื้อกล้าม บ็อกเซอร์ นอนทับกันอยู่ พี่น้ำข้างบน พี่เอมข้างล่าง”สาวน้อยสรุปสั้นๆทำเอาคนฟังคิดไปไกลกันเลยทีเดียว “หลังพี่น้ำขาวมาก”จั่นพูดต่อให้พี่ๆเสียดายเล่นที่ไม่ได้ดู “แหม่ อย่าให้กูอยู่ในเหตุการณ์นะมึง”คิวพูดขึ้นพลางทำหน้าคิดไปไกลจนแฟนสาวต้องดึงหูให้สติกลับมาเหมือนเดิม

    “ทำไมคะคุณคิว”หมวยลี่พูดพลางออกแรงดึงอีกจนหัวของคิวเอียงลงมาตามแรงดึง “เปล่าจ้าหมวยจ๋า อู้ยย ปล่อยก่อนเถอะแม่คู๊ณณณณ จะหลุดติดมือไปละนะ”น้ำเสียงออดอ้อนที่ใช้ประจำทำให้หมวยลี่ต้องปล่อยหูแฟนหนุ่มให้เป็นอิสระ คิวนั่งลูบหูไปมาเหมือนกลัวจะเสียมันไปงั้นแหละ แต่ก้องสามารถเรียกเสียงหัวเราะจากทุกคนได้เป็นอย่างดี

     

    ณ โรงพยาบาล

    “โห นี่เอาขาไปฟาดกับเหล็กมารึไงเนี่ย ทำไมบวมขนาดนี้อ่ะ”คุณหมอหน้ายุโรปถามเมื่อเห็นรอยเขียวๆม่วงๆรอยใหญ่ตรงข้อเท้าของสาวหมวย “พอดีว่าหนูเตะผิดจังหวะน่ะค่ะมันเลยออกมาเป็นอย่างที่เห็น”พูดพลางส่งยิ้มแห้งๆไปหาคุณหมอสาว “อาการเป็นไงบ้างวะซาร่า”โค้ชหนุ่มถามเพื่อนรักของตนที่กำลังตรวจดูบริเวณข้อเท้าของนักกีฬาตัวแสบ “ก็ไม่มีอะไรหน้าเป็นห่วงนะพูม แต่ชั้นคงต้องขอให้น้องเค้าหยุดซ้อมไปก่อนซักสองอาทิตย์อ่ะ”คุณหมอสาวหันมาพูดกับเพื่อนที่ดูจะหนักใจกับคำตอบของเธอไม่น้อย “แต่เราจะแข่งอาทิตย์หน้าแล้วนะคะพี่พูม”เอมท้วงขึ้น “พอมีทางไหนที่มันจะทำให้น้ำหายไวกว่านี้ได้บ้างป่ะวะซาร่า”โค้ชหนุ่มถามเพื่อนของตนอีกครั้ง “ถ้าวิธีบรรเทาอาการน่ะมี แต่วิธีที่ทำให้มันหายบวมภายในไม่กี่วันน่ะ เป็นไปไม่ได้เว้ย”ซาร่าตอบเพื่อนด้วยท่าทีกวนๆเล็กน้อย “ทำไงอ่ะ”พูมถามอีกครั้ง “น้องเค้าต้องหยุดซ้อมหรือไม่ก็ซ้อมให้น้อยลงเพื่อนกันการใช้เท้าข้างขวาเนี่ย”พอหมอซาร่าพูดจบทั้งสามคนที่เหลือก็หันมองหน้ากันโดยอัตโนมัติ “แล้วก็ต้องขยันนวดด้วยนะเว้ย”หมอซาร่าพูดต่อ

    หลังจากนั้นไม่นานทั้งสามคนก็ออกมาจากห้องตรวจของเพื่อนซี้โค้ชพูมโดยที่เอมคอยพยุงน้ำอยู่ไม่ห่าง

    “หมอว่าไงบ้างอ่ะ”ทั้งสองคนที่นั่งรออยู่หน้าห้องตรวจตรงเข้าไปถามทันที “หมอบอกว่าน้ำต้องงดซ้อมสอฃอาทิตย์ว่ะ”เอมตอบ “เห้ย ได้ไงอ่ะ เราต้องแข่งอาทิตย์หน้าละนะ ถ้าน้ำไม่ได้ซ้อมแล้วจะแข่งได้เหรอ”หงหยกโวยวายเมื่อได้ยินคำตอบของเพื่อน “หงใจเย็นน่า”มือเล็กเอื้อมไปจับคนสูงกว่าไว้เพื่อให้ใจเย็นลง

    “นั่นดิ แล้วน้ำจะแข่งได้ไงวะ”พูมพูดขึ้น “พี่อย่าลืมดิ ว่าน้ำเป็นตัวท็อปจากเกาหลีเลยนะ แค่เนี่ยน้ำมันแข่งได้สบายอยู่แล้วพี่”เนสพูดเพื่อตัดความกังวลของโค้ชพูม

     

    1อาทิตย์ผ่านไปไวกว่าหายใจเข้าออก

    ในที่สุดก็มาถึงวันแข่งที่นักกีฬาทุกคนรอคอย การแข่งจันครั้งนี้เป็นการแข่งขันระดับเยาวชนโดยจะมีนักเรียนจากแต่ละโรงเรียนเข้าร่วมแข่งขัน ตอนนี้อาการของสาวหมวยดีขึ้นแล้วแต่ก็ยังไม่หายบวม เธอทำตามที่หมอบอกทุกอย่างคือการหยุดซ้อมและนวดขาบ่อยๆ บนรถตู้คันใหญ่ที่อัดไปด้วยนักกีฬาและโค้ชทั้ง11คนกำลังมุ่งหน้าไปยังสถานที่จัดการแข่งขัน เหล่านักกีฬที่เคยเอะอะโวยวายตอนนี้ก็เงียบสงบแล้วใช้เวลาทำสมาธิให้กับตัวเองอย่างมุ่งมั่นโดยเฉพาะเนสที่ต้องพยายามหาวิธีควบคุมแรงเตะของตน รอบนี้เป็นการแข่งประเภทต่อสู้ทั้งหมดเธอเลยเลี่ยงที่จะไม่ใช้แรงในการแข่งไม่ได้

    รถตู้คันหรูจอดที่หน้างานเพื่อให้เหล่านักกีฬาได้ลงไปเช็ครอบแข่งของตัวเองกันก่อน

    “เห้ย กูได้แข่งกับไอ้เต๋าว่ะ”ปูนกันมาพูดกับเพื่อนๆด้วยสายตาที่ดูกังวลอย่างมาก “ไม่เป็นไรน่ะมึง ทำให้เต็มที่พอ แพ้ชนะชั่งแม่ง”พูมพูดปลอบใจนักกีฬาในสังกัดอย่างอ่อนโยน

    “ไงทุกคน ตื่นเต้นรึเปล่า” ผอ.พัดชาเดินเข้าไปทักทายนักเรียนของตนที่ลงแข่งด้วย

    “ก็นิดหน่อยแหละค่ะผอ.”จักจั่นตอบพลางยกยิ้มหวานๆให้ผอ.สาว

    “ทำให้เต็มที่ ให้สมกับที่ได้ฉายาเหล่าkillerอันดับหนึ่งของประเทศ”พัดชายิ้มให้เด็กๆอย่างอบอุ่นก่อนจะหัไปมองสาวหน้าหมวยที่นั่งไม่สนใจโลกอยู่ข้างๆเพื่นตัวเล็ก

    “น้ำ ไหวรึเปล่า”พัดชาถามออกไปด้วยความเป็นห่วง

    “อ๋อ ไหวค่ะผอ.แค่นี้สบายมาก”พูดจบก็ส่งยิ้มแบบหมีๆมาให้จนอีกคนต้องยิ้มตาม

     

    เวลาการแข่งขันรอบแรกเริ่มขึ้นแต่ตารางดันมาชนกันซะได้ทำให้พูมกับเมย์ต้องแยกกันเป็นโค้ชให้นักกีฬา โดยสองคนแรกของยิมที่ลงแข่งคือน้ำและปูน แต่ด้วยความที่ปูนเจอคู่แข่งตัวเก่งอย่างเต๋าพูมเลยต้องไปคุมเองเพื่อหวังจะได้ปะทะสายตากับพี่ชายแท้ๆของตน

    “พี่เมย์ เอมขอนั่งเป็นโค้ชแทนได้รึเปล่า”เอมพูดพลางส่งสายตาอ้อนวอนไปหาเมย์ “ทำไมจู่ๆมึงถึงอยากคุมขึ้นมาเนี่ย ร้อยวันพันปีไม่เคยจอคุมแทนเลย”เมย์ถามด้วยความสงสัย ก็มันจริงนี่เค้าไม่เคยเห็นเอมคุมใครแข่งเลยแม้จะในกรณีไหนก็ตาม “เอ่อ เอมอยากให้พี่ไปคุมไอ้พวกที่ไม่แข่งให้มันนั่งเป็นระเบียบไงพี่”เอมตอบแถๆไปก่อน “เอาความจริง/เอมเป็นห่วงน้ำอ่ะ”เมย์พูดไม่ทันจะจบคนปากแข็งก็พูดออกมาซะก่อน “ก็แค่เนี่ย”พูดจบเมย์ก็ยิ้มให้เอมอย่างกรุ้มกริ่มก่อนจะส่งกระเป๋าที่ข้างในมีอุปกรณ์สำหรับรองรับอาการบาดเจ็บกะทันหันของนักกีฬา

    “ป่ะน้ำ ได้เวลาลงสนามแล้ว”เอมพูดกับคนที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำ

    “อ้าว แล้วพี่เมย์อ่ะ ไหนบอกว่าพี่เมย์คุมเราไม่ใช่เหรอ”น้ำถามถึงโค้ชตัวจริง

    “เราขอคุมแทนน่ะ ไปเหอะ ได้เวลาแล้ว”พูดจบก็คว้าข้อมืออีกคนแล้วเดินไปยังสนามพร้อมกัน

    “เพื่อนแม็ค”

    “มีไรวะเพื่อนคิว”

    “มึงเห็นอย่างที่กูเห็นมั้ย”

    “เต็มๆจ้า”

    “เหมือนอีโหดมันจะจริงจังนะกับคนเนี่ย”

    “กูก็ว่างั้น”
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .


    ..

    .
    .
    ..
    .
    .
    ..
    ..
    ..




    .
    ..
    ..
    .
    Hi ทุกคน หวังว่าตอนนี้คงไม่งงกันใช่มั้ย ไม่งงแหละ เนอะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×