ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [TVXQ Fiction] :: Outreach :: [YooSu]

    ลำดับตอนที่ #5 : :: Outreach :: Chapter.4

    • อัปเดตล่าสุด 7 เม.ย. 55


    TALK ::

    สวัสดีค่า ^ ^ มาอัพฟิคชันเป็นที่เรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ
    ต้องขออภัยสำหรับความล่าช้าด้วยนะคะ TT; ช่วงนี้หัวสมองตีบตัน ไม่ค่อยแล่นเลยจริงๆ
    แล้วก็ดูเหมือนจะออกนอกบ้านอยู่ตลอดเวลาจนไม่ได้แต่งเลยล่ะค่ะ แฮ่

    อาทิตย์หน้ามายด์จะไปต่างประเทศ อาจจะไม่ได้มาอัพนะคะ คงจะเว้นระยะหายไปสักสองอาทิตย์เจ้าค่ะ TT;
    ยังไงก็ขอขอบคุณทุกๆท่านที่คอยติดตามอยู่เสมอนะคะ
    ไปมาๆกลายเป็นเรื่องที่แต่งยากพอสมควรยังไงก็ไม่รู้ค่ะ (ฮา) มายด์ก็ไม่รู้ว่าจะเรียกอารมณ์ออกมาได้ดีแค่ไหน
    ต้องขอขอบคุณทุกๆกำลังใจจริงๆนะคะ

    ขอบคุณทุกๆคอมเมนท์ที่คอยเป็นกำลังใจให้เสมอมาเลยค่ะ

    ขอบคุณนักอ่านทุกท่านด้วยนะคะ ^^








    Chapter.4





     

    เมื่อตกเย็นของวันที่มีการแสดงครั้งใหญ่ของชมรมดนตรีในมหาวิทยาลัย ทำให้เสียงพูดคุยจอกแจจอแจของนักศึกษาทุกคนย่อมมีแต่ประเด็นนี้เป็นหลักในการสนทนาจนฟังดูคล้ายว่าจะเป็นการพูดซ้ำไปมาครั้งแล้วครั้งเล่า และเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เจ้าของร่างโปร่งใบหน้าหล่อเหลาประจำคณะบริหารอย่างปาร์ค ยูชอน ไม่ได้ตัวติดกับคนน่ารักประจำคณะคิม จุนซูอย่างที่เคย

     

    ไงวะไอ้ปาร์ค ปีนี้ก็ได้ที่นั่งหน้าสุดอีกรึเปล่า ? ชอง ยุนโฮซึ่งนั่งเคียงข้างกายบางของคนรักหน้าหวานเอ่ยถามแม้จะรู้คำตอบอยู่แก่ใจ

     

    จุนซูจองไว้ให้แล้ว ทั้งของพวกนายแล้วก็ของฉันนั่นแหละ

     

    มีเพื่อนเป็นคนแสดงก็ดีแบบนี้ล่ะนะ เพราะถ้าต้องให้ไปแย่งที่นั่งกับคนอื่นๆล่ะก็มีหวังคงโดนเบียดตายก่อนแน่ๆ ก็ดีกรีความนิยมของคนในชมรมดนตรีน่ะมีน้อยเสียที่ไหน

     

    อีกประมาณชั่วโมงกว่าๆก็น่าจะเริ่มแล้ว คราวนี้จุนซูเองก็เป็นถึงนักร้องนำ เป็นดาวเด่นของงานนี้เลยนะ พูดแล้วก็ตื่นเต้นแทนเจ้าตัวกลมนั่นชะมัดเลย เป็นแจจุงที่พูดขึ้นมาบ้างก่อนจะปรายสายตาไปยังเพื่อนร่างโปร่งซึ่งนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามด้วยสายตามีเลศนัย

     

    แล้วพ่อคนเป็นเพื่อนสนิทอย่างปาร์ค ยูชอน เนี่ยจะมีเตรียมอะไรไว้ให้รึเปล่าน้า ~”

     

    เพื่อนสนิท ที่ว่าทำเพียงนิ่งงันครู่หนึ่ง ยกยิ้มมุมปากเล็กน้อยด้วยท่าทางดูอ่อนโยนและมีความสุข ก่อนจะยันกายลุกขึ้นจากเก้าอี้ม้าหินอ่อนขณะเอ่ยเสียงแผ่วและเดินจากไป

     

    “… ก็ไม่รู้สินะ

     

    ชายหนุ่มร่างโปร่งประจำคณะบริหารก้าวออกจากรั้วมหาวิทยาลัยด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข ยูชอนยกนาฬิกาข้อมือของตนเองขึ้นมาดูเวลาขณะเดินไปตามทางเพื่อไปยังจุดหมาย สถานที่นั้นก็คือร้านดอกไม้แห่งหนึ่งซึ่งไม่ไกลจากตัวมหาวิทยาลัยมากเท่าใดนัก ตัวร้านทำด้วยบานกระจกใสที่สามารถมองผ่านเข้าไปเห็นดอกไม้นานาชนิดหลากสีสันอันสวยงามได้อย่างชัดเจน

     

    ริมฝีปากอิ่มปรากฏรอยยิ้มอีกครั้งหนึ่ง ขณะผลักบานประตูกระจกใสเข้าไปในร้าน

     

    สวัสดีครับ

     

    เชิญจ้ะ

     

    ผมมาเอาของที่สั่งไว้ครับ เสียงนุ่มเอ่ยกับเจ้าของร้าน

     

    อ๋อ เรานั่นเอง คุณป้ายิ้มใจดีพลางเดินไปหยิบสิ่งที่ลูกค้าหนุ่มของเธอได้สั่งเอาไว้ นี่จ้ะพ่อหนุ่ม

     

    ช่อดอกลิลลี่สีขาวบริสุทธิ์ซึ่งแซมเสียบด้วยดอกไฮเดรนเยียสีชมพูและสีเหลืองอ่อนที่จัดแต่งไว้อย่างงดงามช่อโตถูกนำขึ้นมายื่นให้กับเจ้าของร่างโปร่งที่จ้องมองมันด้วยความพอใจ เพียงแค่เขาคิดว่าใบหน้ากลมๆนั้นจะแย้มยิ้มสดใสแค่ไหนยามได้รับมัน เพียงแค่นั้นหัวใจของเขามันก็พองโตไปหมดแล้ว

     

     

    เพราะคิม จุนซูเหมาะกับดอกลิลลี่สีขาวที่สุดในความคิดของเขา

     

     

    ขอบคุณมากครับ

     

    น่ารักจังเลยนะ จะเอาไปให้แฟนหรือจ๊ะ ?

     

    ปาร์ค ยูชอนยกยิ้มขึ้นจางๆกับคำถามนั้น

     

    “… ผมเอาไปให้เพื่อนน่ะครับ


     

     

    …………………..

     


     

    จุนซู ! ทางนี้ๆ

     

    ร่างเล็กๆในเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดและกางเกงยีนส์สีซีดซึ่งกำลังคุยอยู่กับคนในชมรมหันไปตามเสียงเรียก ก่อนดวงหน้าน่ารักจะเผยรอยยิ้มกว้างและเอ่ยขอตัวกับกลุ่มเพื่อนพลางรีบเดินตรงเข้ามาหาเมื่อพบว่าเป็นใคร

     

    ยุนโฮ แจจุง ขอบคุณนะที่มาเสียงเล็กเอ่ยอย่างอารมณ์ดีก่อนที่นัยน์ตาเรียวจะปรายมองหาใครอีกคนหนึ่งโดยอัตโนมัติ หากแต่เมื่อไม่พบคนที่ตนเองคิดไว้ก็ไม่รีรอที่จะเอ่ยถาม แล้วยูชอนล่ะ ? ไม่ได้อยู่กับพวกนายเหรอ

     

    ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน จู่ๆหมอนั่นก็เดินหายไปไม่ยอมบอกอะไรเลยสักคำ

     

    “… งั้นเหรอ

     

    สีหน้าสดใสของร่างน้อยหม่นลงไปนิดหนึ่ง จนแจจุงที่สังเกตเห็นมันต้องยื่นมือเรียวออกไปตบไหล่เล็กดังปุๆ

     

    อย่าคิดมากน่าจุนซู นั่นปาร์ค ยูชอนนะ คิดว่าหมอนั่นจะไม่มาดูนายแสดงเหรอไง ?

     

    คำพูดนั้นทำให้ใบหน้ากลมน่ารักของคนตัวเล็กเผยยิ้มออกมา ขอบคุณมากนะนายสองคน

     

    ขอบคุณอะไร ยังไงนายแสดงทั้งทีพวกฉันก็ต้องมาดูอยู่แล้ว ทำให้เต็มที่เลยนะจุนซู ฉันจะเอาใจช่วยนาย

     

    ขอบคุณนะแจจุง ยุนโฮ

     

    อีกสิบห้านาทีก็จะเริ่มแล้ว นายกลับเข้าหลังเวทีไปได้แล้วล่ะ พวกฉันเองก็จะไปนั่งที่เหมือนกัน

     

    จุนซูดูลังเลไปเล็กน้อย นัยน์ตาคู่เรียวปรายมองซ้ายทีขวาทีราวกับตามหาใครสักคนหากแต่ไม่แสดงออกชัดเจน แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องคลี่ยิ้มออกมาและเอ่ยเสียงเบา อื้ม ไว้หลังแสดงจบค่อยเจอกันนะ

     

    อื้อ ทำให้เต็มที่นะ สู้ๆ

     

    อื้ม !”

     

    เสียงเล็กตอบรับด้วยสีหน้าและท่าทางยิ้มแย้ม หากแต่ก็ยังไม่วายเผลอหันกลับมามองยามที่เดินกลับไปยังด้านหลังของเวทีอยู่ดี จนคนร่างบางหน้าหวานและเจ้าของใบหน้าคมเข้มได้แต่มองหน้ากันด้วยความรู้สึกหลากหลาย

     

    เจ้ายูชอนมันหายไปไหนของมัน นี่อีกไม่นานงานก็จะเริ่มแล้วนะ ยุนโฮเอ่ย

     

    เดี๋ยวก็คงจะมาเองนั่นแหละ หมอนั่นไม่พลาดงานแสดงของจุนซูหรอกน่า รีบไปนั่งที่เถอะยุนโฮแม้จะรู้สึกกังวลอยู่เล็กน้อย หากแต่แจจุงก็คิดว่าตนเองรู้จักนิสัยของเพื่อนร่างโปร่งดี จึงจัดการดันแผ่นหลังกว้างของคนรักหน้าหมีให้เดินไปยังที่นั่งด้านหน้าสุดติดเวทีการแสดงด้วยกัน


     

     

    ……………………

     


     

    อีกไม่ถึงสิบนาทีการแสดงกำลังจะเริ่ม

     

    แต่ที่นั่งหน้าสุดที่เขาเตรียมเอาไว้ก็ยังไม่มีวี่แววของยูชอน

     

    คนตัวเล็กที่ควรจะยืนนิ่งๆเพื่อเตรียมตัวขึ้นแสดงในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าในเวลานี้กลับคอยชะเง้อศีรษะออกมาจากหลังเวทีราวกับว่ากำลังมองหาใครสักคนด้วยสีหน้าท่าทางคล้ายคนกระวนกระวายและกังวลใจเสียจนคนในชมรมเดียวกันรู้สึกผิดสังเกต

     

    จุนซู

     

    “….”

     

    จุนซู !”

     

    ฮะ ?

     

    อีกสามนาทีจะเริ่มแล้วนะ มัวแต่มองหาอะไรอยู่น่ะ ?

     

    เปล่าฮะรุ่นพี่ยองโจ

     

    มารอตรงบันไดได้แล้วนะจุนซู !”

     

    ขอบคุณฮ --- อะ !”

     

    ช่วงเวลาที่คิม จุนซูหันไปมองยังที่นั่งอันว่างเปล่าเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะไปเตรียมแสตนด์บายตามคำของรุ่นพี่ ภาพของร่างสูงโปร่งแสนคุ้นเคยที่ตนเองมองหามาตลอดแทบทั้งวันซึ่งกำลังเดินตรงไปยังเก้าอี้ของตนเองก็ปรากฏแก่สายตาจนทำให้ต้องชะงักนิ่งงัน


     

     

    ยูชอนมาแล้ว


     

     

    ภายในสมองของจุนซูมีแต่คำนี้วนเวียนซ้ำไปซ้ำมา

     

    ราวกับอีกฝ่ายรู้ว่าเขากำลังจ้องมองอยู่อย่างไรอย่างนั้น เมื่อจู่ๆเจ้าของใบหน้าคมคายนั้นก็เงยหน้าขึ้นมาสบสายตากับคนตัวเล็กอย่างพอดิบพอดี ก่อนริมฝีปากอิ่มนั้นจะคลี่รอยยิ้มกว้างแสนอ่อนโยนมาให้พลางขยับเป็นข้อความสั้นๆที่ทำเอาหัวใจดวงน้อยของจุนซูถึงกับกระตุกอย่างไร้สาเหตุ

     

     

    [ - ยา - ยาม - เข้า - นะ]

     

     

    จุนซูไม่เคยใจเต้นกับยูชอน จุนซูมั่นใจ

     

    หากแต่ความรู้สึกบางอย่างที่อัดแน่นอยู่ภายในอกเหมือนจะเอ่อล้น จนทำให้หัวใจเต้นแรงแบบนี้ มันช่างคล้ายคลึงกับที่เคยเป็นเวลาอยู่ต่อหน้าชิม ชางมินเหลือเกิน


     

     

    แต่จุนซูจะใจเต้นกับยูชอนได้ยังไง

     

    ก็ยูชอนเป็นแค่เพื่อนนี่นา

     


     

    จุนซู การแสดงจะเริ่มแล้วนะ !!”

     

    อะ ฮะ !”

     

    เพราะเสียงของรุ่นพี่คนเดิมที่เอ่ยออกมาทำให้ร่างเล็กจำต้องละสายตาออกมาจากเพื่อนสนิทของตนและรีบเดินตรงไปเตรียมตัวยืนบริเวณบันไดของเวทีทันทีเพื่อรอการแสดงซึ่งกำลังจะเริ่มต้นขึ้นในไม่ช้า ก้อนเนื้อในอกซ้ายยังคงเต้นระรัวไม่หยุด แม้ว่าร่างน้อยจะพยายามสูดลมหายใจเข้าลึกหลายต่อหลายครั้งแล้วก็ตาม

     

    สวัสดีครับทุกท่าน ยินดีต้อนรับเข้าสู่การแสดงประจำปีของชมรมดนตรีครับ ในวันนี้ผม …”

     

    เสียงของพิธีกรประจำงานดังขึ้นเพื่อทักทายและกล่าวอะไรเล็กๆน้อยกับผู้เข้าชมทั้งหมด หากแต่เสียงเหล่านั้นกลับไม่ได้เข้าไปถึงโสตประสาทของคิม จุนซูเลยแม้แต่น้อย เพราะในตอนนี้คนตัวเล็กกำลังพยายามบังคับใจของตนเองให้เย็นลงและคลายจากความตื่นเต้นทั้งหมดซึ่งกำลังค่อยๆก่อตัวขึ้นมาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

     

    ขอเชิญพบกับการแสดงร้องเพลงโซโล่ เวทีของคิม จุนซูคณะบริหารปีสามครับ !”

     

    เสียงปรบมือดังเกรียวกราวพร้อมๆกับทำนองเพลงอินโทรที่ดังขึ้นมา ร่างเล็กๆสูดลมหายใจลึกเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะค่อยๆก้าวออกไปยังบนเวทีอย่างมั่นคง ภาพแรกที่เห็นคือผู้เข้าชมจำนวนมากที่แม้จะดูลายตา แต่แจจุง และยุนโฮซึ่งนั่งอยู่ตรงกลางพอดิบพอดีนั้นก็เป็นจุดสนใจของเขาได้อย่างง่ายดาย

     

    ท่าทางให้กำลังใจที่คู่รักสองคนแสดงออกทำให้หัวใจที่เคยเต้นถี่ๆของจุนซูค่อยๆคลายลง เรียวปากบางคลี่ยิ้มอ่อนหวาน ในขณะที่ค่อยๆเปล่งเสียงร้องเพลงอันไพเราะและทรงพลังจนสะกดและตรึงผู้ฟังทุกคนให้นิ่งงันไปแสนเนิ่นนาน

     

    แวบหนึ่งที่นัยน์ตาคู่เรียวสบกับดวงตาคมของชายหนุ่มร่างโปร่งซึ่งนั่งอยู่เคียงข้างร่างบางหน้าหวานประจำคณะบริหาร ความรู้สึกเดิมๆก็ย้อนกลับเข้ามาอีกครั้งหนึ่งจนพวงแก้มอิ่มฝาดสีระเรื่อ ต้องรีบหลบสายตาไปด้วยท่าทางเลิ่กลั่กและพยายามหาจุดทอดสายตาจุดอื่นให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

     

    และฉับพลันสายตาของตนเองก็สบเข้ากับนัยน์ตาคมของชิม ชางมิน รุ่นพี่ที่ตนเองเฝ้าแอบหลงรักซึ่งนั่งอยู่แถวหน้าสุดเข้าอย่างพอดิบพอดี ชายหนุ่มร่างคมเข้มคลี่ยิ้มอ่อนโยนพร้อมกับยกนิ้วหัวแม่มือให้เป็นเชิงบอกว่าทำได้ดีมากพร้อมขยิบตาข้างหนึ่งให้ จนคนตัวเล็กต้องฉีกยิ้มกว้างสดใสเป็นการตอบรับ ภายในสมองลืมความรู้สึกเมื่อครู่ของตนเองไปเสียสนิทใจ

     

     

    คิม จุนซูปรายสายตามองชางมินเกือบตลอดทั้งเพลง

    แต่ปาร์ค ยูชอนก็มองเพียงแต่คนตัวเล็กไม่ยอมละสายตาเช่นเดียวกัน

     

    แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายคงจะไม่หันมามองเขาเลยก็ตาม


     

     

    เสียงเพลงค่อยๆจบลงไปพร้อมกับร่างเล็กของคนน่ารักประจำคณะบริหารที่โค้งกายเล็กน้อยให้กับผู้ชมทุกคนตรงหน้า เสียงปรบมือและเสียงกรี๊ดกร๊าดดังกระหึ่มจนสามารถเรียกรอยยิ้มกว้างจนเห็นแนวฟันขาวเรียงตัวสวยอันเป็นเอกลักษณ์ได้เป็นอย่างดี เจ้าของใบหน้าหวานค่อยๆก้าวลงจากเวทีการแสดงอย่างช้าๆ

     

    ครับ ก็จบไปแล้วนะครับสำหรับการแสดงของนักร้องเสียงดีของเรา ลำดับต่อไปจะเป็นการบรรเลงดนตรี …”

     

    งานแสดงของชมรมดนตรียังคงดำเนินต่อไปท่ามกลางเสียงเชียร์ของผู้เข้าฟังทุกคน แสงสีของสปอร์ตไลท์สาดส่องวูบวาบไม่ต่างจากเสียงเครื่องดนตรีที่ดังกระหึ่มสมกับเป็นงานประจำปีที่ใครๆต่างก็รอคอย ปิดท้ายด้วยการร้องเพลงรวมที่ประธานชมรมอย่างชิม ชางมินก็แอบเซอร์ไพรส์ด้วยการลุกจากเก้าอี้ที่นั่งผู้ชมด้านล่างขึ้นไปร่วมร้องบนเวทีด้วย

     

     

    ทุกอย่างจบลงอย่างสวยงาม โดยมีเพียงแค่หัวใจสองดวงที่รู้สึกแตกต่างกันออกไป


     

     

    ……………………


     

     

    เก่งจังเลยนะจุนซู

     

    เสียงนายเพราะมากๆเลย ฉันฟังแล้วขนลุกเลยล่ะ

     

    นายทำดีมากๆเลยจุนซู ต่อไปก็สู้ๆเขานะ

     

    ร่างเล็กๆของคนน่ารักประจำคณะบริหารถูกรายล้อมด้วยผู้คนมากมายที่ต่างก็เดินเข้ามาแสดงความชื่นชมหลังจากจบการแสดง ใบหน้าอ่อนหวานมีรอยยิ้มกว้างประดับอยู่แทบตลอดเวลาขณะโค้งศีรษะน้อยๆขอบคุณทุกคนที่เข้ามาหาไม่ว่าจะเป็นรุ่นพี่ รุ่นเดียวกันหรือกระทั่งรุ่นน้อง

     

    จุนซูวววววววว

     

    แจจุง หวา !”

     

    คนตัวเล็กเกือบเซหงายหลัง เพราะจู่ๆเพื่อนสนิทหน้าหวานของตนเองก็วิ่งพุ่งตรงเข้ามาสวมกอดเสียเต็มรัก พร่ำบอกคำว่าเก่งจัง เพราะจังซ้ำไปซ้ำมา ในขณะที่ชอง ยุนโฮซึ่งเดินตามมาทีหลังก็ทำเพียงยื่นมือมาขยี้เรือนผมสีน้ำตาลเข้มของเขาอย่างมันเขี้ยวเท่านั้น

     

    ทำได้ดีมากๆเลยนะจุนซู

     

    ขอบคุณนะทั้งสองคน แล้ว ---”

     

    นัยน์ตาคู่เรียวเผลอเอ่ยค้างเอาไว้พร้อมปรายสายตามองยังรอบกายของตนเองและเพื่อนรักทั้งสอง หวังว่าจะได้พบใครอีกคนหนึ่งที่ตนเองหลบสายตามาตลอดการแสดงนั้น

     

    หากแต่ก็ไร้วี่แวว

     

    ยูชอนหายไปอีกแล้ว

     



    …………………..


     

     

    เจ้าของตำแหน่งเดือนคณะบริหารปีสามรีบก้าวฉับๆออกมาจากตัวอาคาร ใบหน้าคมคายเปื้อนยิ้มสีหน้าแช่มชื่นขณะทอดสายตามองช่อดอกไม้ในมือของตนเองอย่างอารมณ์ดี หลังจากที่เขารีบออกไปเอาดอกไม้ที่สั่งเอาไว้ที่ร้าน ก็ต้องเอามาซ่อนไว้ภายในล็อคเกอร์ห้องชมรมของตนเองก่อนเพราะไม่อยากให้มีใครมาเห็น และก่อนจบการแสดงก็รีบวิ่งออกมาเพื่อจะนำไปให้เพื่อนตัวเล็กของเขา

     

    ที่ทำถึงขนาดนี้ก็เพราะถ้าเขาเอาติดตัวไปนั่งดูการแสดงด้วยล่ะก็ ยังไงจุนซูก็ต้องเห็นมันอย่างแน่นอน จึงต้องหาที่เก็บเอาไว้เป็นความลับเสียก่อน

     

     

    เขาก็แค่อยากทำให้จุนซูดีใจ

    ใบหน้ากลมๆนั่นตอนเห็นดอกไม้ช่อนี้จะสดใสและน่ารักขนาดไหนกันนะ

     

    ลำพังเพียงแค่ความคิดนั้น หัวใจของยูชอนก็พองโตอัดแน่นด้วยความรู้สึกดีๆเต็มไปหมดแล้ว

     

     

    ยิ่งเห็นร่างน้อยๆที่แม้จะอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมายก็ยังเป็นที่สะดุดตา ชายหนุ่มร่างโปร่งก็รีบสาวเท้าให้ก้าวยาวๆออกไปให้เร็วมากยิ่งขึ้น ริมฝีปากอิ่มเตรียมเปล่งเสียงเรียกชื่อเพื่อนสนิทตัวเล็กของตนเองหมายจะให้อีกฝ่ายหันกลับมา

     

    จุน ---”

     

    จุนซู

     

    หากแต่เสียงทุ้มโทนสูงซึ่งดังจากอีกฝั่งหนึ่งของคนตัวเล็กก็ดังขึ้นมาเสียก่อน

     

    พี่ชางมิน !”

     

    ดวงหน้าน่ารักคลี่ยิ้มกว้างก่อนจะรีบขอตัวจากคนรอบกายเพื่อเดินไปหารุ่นพี่หนุ่ม จนยูชอนที่ยืนอยู่อีกด้านหนึ่งได้แต่หยุดชะงักนิ่งไปอย่างนั้น

     

    เราทำได้ดีมากเลยนะ

     

    ไม่หรอกฮะ เป็นเพราะว่าทุกๆคนช่วยกันไงฮะ ดวงหน้ากลมขึ้นสีระเรื่อขณะก้มงุดๆไม่กล้าสบสายตา

     

    พี่ภูมิใจในตัวเรานะจุนซู ปีต่อไปพี่ก็ต้องขอฝากชมรมด้วยล่ะ

     

    พี่ชางมิน …”

     

    ส่วนนี่ พี่ให้นะ

     

    อ๊ะ !”

     

    ดอกกุหลาบก้านยาวดอกใหญ่สีขาวบริสุทธิ์ซึ่งตัวกลีบซ้อนทับกันเป็นชั้นๆอย่างงดงามขณะบานออกน้อยๆดอกหนึ่งถูกยื่นออกมาให้กับคนตัวเล็กที่ดูเหมือนว่าจะตัวแข็งเป็นก้อนหินไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

     

    สำหรับเจ้าของเวทีวันนี้ และประธานชมรมปีต่อไปนะครับ จุนซู

     

    ทั้งน้ำเสียงและรอยยิ้มแสนอ่อนโยนของเจ้าของใบหน้าคมเข้มนั้นทำเอาร่างน้อยถึงกับพูดอะไรไม่ออก ดวงหน้าน่ารักซึ่งเคยฝาดสีระเรื่อพลันกลายเป็นสีแดงจัดขึ้นมาได้ภายในเวลาไม่นาน หากมือคู่เล็กๆอันสั่นเทานั้นก็ค่อยๆยื่นออกไปรับดอกไม้ดอกสวยนั้นเอาไว้ แย้มยิ้มกว้างนัยน์ตาเป็นประกายทั้งๆที่พวงแก้มกลมขึ้นสีแดงก่ำ

     

    ขอบคุณนะฮะ

     

    คิม จุนซูรู้สึกเหมือนตัวเองจะลอยได้ หัวใจดวงเล็กเต้นแรงจนน่ากลัว ได้แต่ยิ้มเขินและหัวเราะเบาๆกับรุ่นพี่หนุ่มซึ่งตนเองแอบปลื้มมานานแสนนาน โดยไม่รู้ตัวเลยว่าตนเองกำลังถูกใครคนหนึ่งจ้องมองจากที่ไกลๆ

     

    ความหวังทั้งหมดพังทลายลงไม่เหลือชิ้นดี ช่อดอกไม้ในมือถูกกำเอาไว้แน่น ก่อนชายหนุ่มร่างโปร่งจะเก็บซ่อนเอาไว้ด้านหลังของตนเองอย่างช้าๆ ใบหน้าคมคายก้มต่ำลงด้วยความรู้สึกหลากหลายที่ประเดประดังเข้ามาจนจุกอยู่ภายในอกเต็มไปหมด หากแต่สิ่งที่ชัดเจนที่สุดคงจะไม่พ้นเป็นความสมเพชตัวเองที่พ่ายแพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่ม

     

     

    ถึงจะให้ดอกไม้สักกี่ร้อยดอก

     

    มันก็คงจะสู้ดอกไม้ดอกเดียวที่ชิม ชางมินให้ไม่ได้

     

     

    ยูชอน ทำไมมายืนเฉยๆตรงนี้ --- ล่ะ …”

     

    ชเว มินกีที่เดินมาอีกทางหนึ่งและเห็นว่าร่างสูงโปร่งชั้นปีเดียวกันยืนนิ่งแทบไม่ขยับจึงเดินตรงเข้ามาเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง

     

    มินกี โทษทีนะ

     

    หือ ? เสียงแผ่วพร่าของผู้เป็นเพื่อนร่วมชมรมทำให้ใบหน้าจิ้มลิ้มฉายแววฉงนอย่างไม่เข้าใจ

     

    ฝากหน่อย

     

    หา --- อ่ะ …!”

     

    ช่อดอกไม้ช่อใหญ่ถูกส่งให้มือเล็กๆนั้นต้องรับไปอย่างลวกๆ ดวงหน้าของคนน่ารักประจำคณะสถาปัตย์ฯ ถึงกับอึ้งไปเพราะกำลังงุนงงจนทำอะไรไม่ถูก ครั้นเมื่อจะเอ่ยปากถามออกไปด้วยความไม่เข้าใจ ร่างสูงโปร่งของชายหนุ่มที่ส่งดอกไม้มาให้นั้นก็เดินตรงไปข้างหน้าเสียแล้ว

     

    ใบหน้าคมคายแสร้งแย้มยิ้มอ่อน ขณะเรียกนามของคนตัวเล็กที่กำลังจดจ้องมองดอกกุหลาบสีขาวในมือด้วยสีหน้าแช่มชื่น

     

    “… จุนซู

     

    อ้าว ยูชอน ! นายหายไปไหนมา !” คนตัวเล็กทำหน้าตูมอย่างแง่งอนเมื่อเห็นว่าเพื่อนสนิทของตนเองที่ควรจะอยู่ข้างกายกลับเพิ่งจะโผล่หน้ามาเอาป่านนี้

     

    ขอโทษที พอดีไปเข้าห้องน้ำมาน่ะ ท้องไม่ค่อยดีนิดหน่อย

     

    อะไรกัน ไปกินอะไรผิดสำแดงเข้าหรือไง

     

    ก็คงอย่างนั้นล่ะมั้ง เสียงทุ้มเอ่ยตอบกลับ แล้ว ดอกกุหลาบนี่ แฟนคลับให้มาหรือไง ?

     

    บ้าน่า พวงแก้มกลมฉีดสีแดงระเรื่อ เอ่ยตอบเสียงอุบอิบขัดเขิน “… พี่ชางมินให้ฉันมาต่างหากล่ะ

     

    งั้นเหรอ

     

    แล้วยูชอนล่ะ จะไม่มีอะไรให้ฉันเลยรึไง คนตัวเล็กทำแก้มพองเปลี่ยนเรื่องขณะยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาแบไว้ตรงหน้า ช้อนสายตาขึ้นมองผู้เป็นเพื่อนสนิทคล้ายเด็กเอาแต่ใจ ยูชอนทำเพียงกระตุกยิ้มมุมปากเล็กน้อยและขยี้เรือนผมสีน้ำตาลของคนตรงหน้าอย่างมันเขี้ยวเท่านั้น

     

    หน้าตามีความสุขขนาดนี้คงไม่อยากได้อะไรแล้วล่ะมั้ง ?

     

    ยูชอน !”

     

    ฮ่าๆๆ

     

    มินกีได้แต่เพียงก้มมองช่อดอกไม้ช่อสวยซึ่งบ่งบอกว่าเจ้าของของมันมีความใส่ใจมากมายเพียงใดในมือสลับกับภาพของคนสองคนตรงหน้าที่กำลังพูดคุยและหยอกล้อกันเล่นไปมาเท่านั้น

     


     

    นายกำลังอยู่ในความรู้สึกแบบไหนเหรอยูชอน

     

    เวลาที่ยิ้มออกไปแบบนั้น


     

     

    …………………….

     


     

    ฮืม ~ ฮืม ~”

     

    เสียงแหบหวานเป็นเอกลักษณ์ของคนตัวเล็กยังคงดังมาให้ได้ยินตั้งแต่ตลอดทางกลับมายังห้องพัก จนถึงกระทั่งตอนนี้ที่พวกเขาทั้งสองคนกลับมาที่ห้องได้พักใหญ่แล้ว ท่าทางอารมณ์ดีสุดๆเหล่านั้นของคิม จุนซูก็ยังคงอยู่และดูท่าว่าคงจะไม่จางหายไปง่ายๆ เพราะเจ้าตัวเอาแต่มองดอกกุหลาบขาวในมือแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่มาจะชั่วโมงนึงอยู่แล้ว

     

    มีความสุขจนแก้มจะแตกแล้วจุนซู

     

    เงียบน่ายูชอน !” คนกำลังฮัมเพลงหันมาร้องแหวแก้มแดง ก็คนมันมีความสุขนี่ !”

     

    “….”

     

    ตอนพี่ชางมินยื่นดอกไม้ให้ฉัน ฉันรู้สึกเหมือนโลกหยุดหมุนเลยล่ะยูชอน หัวใจเต้นแรงมากเลย มีความสุขจนเหมือนจะลอยได้อีกแล้ว ฉันต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆเลย …”

     

    ดีจังเลยนะ

     

    อื้ม !” ดวงหน้าอ่อนหวานยิ้มเสียจนตาหยี ก่อนจะกลับมาส่งค้อนให้เพื่อนสนิทเสียวงหนึ่ง ยูชอนอ่ะไม่ยอมให้อะไรฉันเลย

     

    “….” คนถูกว่ากล่าวทำเพียงกระตุกยิ้มจางๆ ก่อนจะเอ่ยเสียงเบา ขอโทษทีนะ

     

    เชอะ ขอโทษอะไรกันล่ะ มันจะไปพอได้ยังไง ~ เพื่อนสนิทอุตส่าห์ขึ้นเวทีทั้งที นอกจากจะหายตัวไปแล้วยังไม่มีของขวัญให้อีกต่างหาก คนนิสัยไม่ดี

     

    “….” เป็นอีกครั้งที่ยูชอนทำเพียงยิ้มตอบเสียงบ่นงุ้งงิ้งของคนตรงหน้าเท่านั้น

     

    โอ๊ยยย มีความสุขจังเลยอ่ะยูชอนนนน คนตัวเล็กยิ้มเขินถือดอกกุหลาบในมือแน่น พวงแก้มฉีดสีแดงก่ำยามเรื่องราวของวันนี้ย้อนกลับเข้ามาภายในสมอง

     

     

    ฉันก็ คงมีความสุขเหมือนกันจุนซู

     

     

    “… ดึกแล้วนะจุนซู ไปนอนเถอะ

     

    แต่ว่าฉันยังไม่ง่ว --- ฮ้าววว ~”

     

    ปากแข็ง หาวมาซะเต็มๆแบบนี้ยังกล้าปฏิเสธอีกหรือไงหืม ?

     

    งื้ออออ แต่ว่าดอกกุหลาบของพี่ชางมิน …”

     

    นัยน์ตาคู่เรียวปรายมองดอกไม้ดอกสวยในมือด้วยความเสียดาย ราวกับว่าหากปล่อยให้หลุดจากมือไปแล้วมันจะเหี่ยวแห้งและหายไปในทันทีอย่างไรอย่างนั้น จนยูชอนต้องเป็นฝ่ายเอ่ยออกมาทั้งๆที่ภายในหัวใจรู้สึกปวดแปลบ

     

    เอามาสิ เดี๋ยวฉันหาแจกันใส่ไว้ให้นะ

     

    จริงเหรอ ? ใบหน้าน่ารักที่หม่นลงพลันสดใสขึ้นทันตา งั้นถ้าเอามันตั้งไว้บนโต๊ะข้างๆเตียงของฉันก็ได้ใช่ไหม !?

     

    ได้สิ

     

    ไชโย !” เสียงแหบเล็กร้องดีใจ ก่อนจะคล้องลำคอแกร่งและจุมพิตยังแก้มสากไปทีหนึ่ง ขอบคุณนะยูชอน ยูชอนน่ารักที่สุดเลย !”

     

    การกระทำของคนไม่คิดอะไรซึ่งวิ่งหลุนๆเข้าห้องไปนั้นมันทำให้หัวใจของชายหนุ่มกระตุกวูบไหว หากแต่ปาร์ค ยูชอนก็ทำอะไรไม่ได้ นอกเสียจากรับดอกกุหลาบสีบริสุทธิ์มาจากคนตัวเล็กตรงหน้าเท่านั้น

     

    ถ้าอย่างนั้นฉันไปอาบน้ำก่อนนะ

     

    ร่างน้อยยิ้มแย้มสดใส ผินกายหันหลังและกึ่งเดินกึ่งวิ่งตรงไปยังห้องนอนของตนเอง ทว่าเมื่อมือคู่เล็กบิดลูกบิดประตูเปิดออกเตรียมก้าวเข้าไปในห้อง เสียงทุ้มแผ่วพร่าซึ่งดังมาจากทางด้านหลังก็ทำให้เขาต้องหยุดชะงักไปเสียก่อน

     

    จุนซู

     

    “….”

     

    “… นายจะรักฉันไม่ได้สักนิดเลยเหรอ

     

    “….”

     

    “….”

     

    เราตกลงกันแล้วนะยูชอน เสียงแหบเล็กตอบกลับทั้งๆที่ไม่ได้หันกลับมามอง

     

    “….”

     

    อย่าพูดอะไรที่เป็นไปไม่ได้เลย

     

    ประตูห้องสีน้ำตาลอ่อนถูกปิดลงแผ่วเบา พร้อมๆกับหัวใจของร่างสูงโปร่งที่แหลกสลายลงอีกครั้งหนึ่ง

     

     

    มันคงอาจจะเป็นไปไม่ได้จริงๆ

     


     

    ใช้เวลาเพียงไม่นาน เจ้ากุหลาบขาวก็ได้แจกันเซรามิกสีอ่อนทรงสูงเป็นที่อยู่ใหม่ ยูชอนมองของขวัญการแสดงของคนตัวเล็กในมืออีกครั้ง ก่อนจะตัดสินใจเคาะประตูของคนตัวเล็กและเปิดเข้าไป หากก็พบว่าภายในห้องกลับปิดไฟมืดสนิท มิหนำซ้ำร่างน้อยๆนั้นก็ดูเหมือนจะเข้าสู่ห้วงแห่งนิทราเพราะความเหนื่อยอ่อนไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

     

    หากแต่หลังจากที่ชายหนุ่มจัดการเปิดไฟบนโต๊ะข้างเตียงอย่างเงียบเชียบ ท่านอนตัวแข็งทื่อซึ่งนับได้ว่าแปลกประหลาดเป็นอย่างมากสำหรับคนที่ได้ชื่อว่านอนดิ้นสุดๆอย่างคิม จุนซูก็ทำให้ยูชอนรู้ได้อย่างไม่ยากเย็นเลยว่าในตอนนี้เพื่อนสนิทตัวเล็กของตนเองนั้นไม่ได้นอนหลับอยู่จริง

     

    ยูชอนค่อยๆวางแจกันดอกไม้ไว้บนโต๊ะไม้สีเข้มข้างเตียงอย่างที่จุนซูต้องการด้วยความระมัดระวัง โดยนัยน์ตาคมลอบมองอาการของคนแกล้งหลับที่ไม่ยอมขยับเขยื้อนเป็นระยะๆ ก่อนจะพรูลมหายใจออกมาแผ่วเบา

     

     

    จุนซูคงไม่อยากคุยกับเขา

     

    เป็นเพราะเมื่อครู่เขาพลั้งปากพูดอะไรงี่เง่าออกไปแท้ๆ

     

     

    เจ้าของร่างสูงโปร่งทอดสายตามองคนน่ารักบนเตียงด้วยความรู้สึกมากมาย ก่อนจะค่อยๆโน้มกายลงไปช้าๆกระทั่งได้กลิ่นกรุ่นหอมแป้งเด็กอันเป็นเอกลักษณ์ รับรู้ได้ถึงอาการแข็งทื่อลมหายใจติดขัดของคนโกหกไม่แนบเนียน จนต้องคลี่ยิ้มออกมาจางๆด้วยความเอ็นดูอย่างอดไม่ได้

     

    จุนซู

     

    “….” คนแกล้งหลับยังคงเงียบต่อไป หากแต่ปาร์ค ยูชอนก็ไม่คิดที่จะเอ่ยจับผิดอะไรไปมากกว่านั้น เพราะไม่ว่าอย่างไรเขาก็รู้ดีอยู่แล้วว่าอีกฝ่ายกำลังฟังเขาอยู่

     

    ฉันเอาดอกไม้ใส่แจกันให้แล้ว แล้วก็ขอโทษด้วยนะที่วันนี้ไม่ได้เตรียมอะไรมาให้นายหลังจบการแสดงเลย

     

    “….”

     

    เอาไว้ฉันจะชดเชยให้ด้วยการพาไปเที่ยวสวนสนุกที่นายเคยบอกฉันว่าอยากไปก็แล้วกันนะ

     

    “….”

     

    จุนซู …”

     

    “….”

     

    “… เมื่อกี้ฉันขอโทษนะ

     

     

    สัมผัสอุ่นๆจากเรียวปากอิ่มแนบทาบมอบจุมพิตยังหน้าผากเนียนอย่างอ่อนโยน เตียงที่เคยยวบลงเพราะน้ำหนักคนตัวสูงกว่าหายไป พร้อมกับเสียงดับไฟและเสียงปิดประตูแผ่วเบาซึ่งดังถัดมาตามลำดับ เหลือเพียงร่างเล็กๆที่ค่อยๆลืมตาขึ้นมาภายในความมืดมิด ด้วยหัวใจอันวูบโหวงและนัยน์ตาเรียวรีคลอน้ำอันฉาบฉายไปด้วยความรู้สึกผิดมากมายเท่านั้น

     


     

    ฉันต่างหากที่ต้องขอโทษ ยูชอน

     

    ขอโทษที่ฉันให้หัวใจกับนายไม่ได้จริงๆ

     





    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++






    To Be Continued ...












    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×