คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : :: Rendezvous :: Chapter.4
TALK ::
สวัสดีค่าทุกท่าน ^ ^ มาอัพเร็วกว่าปกติให้ตกใจกันเล่นๆอีกแล้วเจ้าค่ะ ~
อันที่จริงเพราะตอนนี้เป็นช่วงเวลาระหว่างรอน้ำท่วม(?) ก็เลยมีเวลาว่างได้อยู่เฉยๆค่อนข้างมากค่ะ
แต่อาทิตย์หน้าถ้าหากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง มายด์ก็ต้องเปิดเทอมแล้ว เป็นเทอมสุดท้ายของม.ปลายแล้วล่ะค่ะ
คงจะงานยุ่งและเตรียมตัวเรื่องสอบเอนท์อีกมาก ดังนั้นก็เลยจะพยายามปั่นช่วงนี้ให้ได้มากที่สุดค่ะ
เพราะถึงตอนนั้นคงจะมาอัพนานๆครั้งเลยทีเดียว (ฮา)
ยังไงก็ขอให้ทุกท่านดูแลรักษาสุขภาพตัวเองให้มากๆนะคะ
ยิ่งช่วงนี้เป็นช่วงที่ทุกคนเองก็ลำบากกันถ้วนหน้า ก็ขอให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดีและไม่มีอันตรายค่ะ
ระวังตัวกันด้วยนะคะ >< !
ขอขอบคุณทุกๆการติดตาม รวมไปถึงทุกๆคอมเมนท์ที่คอยเป็นกำลังใจให้เสมอมาเลยนะคะ ^ ^
ขอบคุณนักอ่านทุกท่านด้วยเช่นกันค่า ~
Chapter.4
เวลาผ่านไปเพียงไม่กี่นาที
แต่กลับรู้สึกว่าช่างแสนยาวนานเหลือเกินในความรู้สึก หยาดน้ำสีใสที่ไหลพรั่งพรูลงมากระทบกับพวงแก้มขาวไม่ได้ทำให้จุนซูรู้สึกตัวเลยว่าในตอนนี้ตนเองกำลังทำอะไรอยู่ หรือแม้แต่กระทั่งควรจะทำอย่างไรต่อไป ทุกอย่างรอบกายมันนิ่งงันไปหมดราวกับสมองไม่สั่งการ เพราะไม่อาจยอมรับได้กับสิ่งที่เพิ่งได้ยิน
“โถ่เว้ย !!!”
“
.”
“อึ่ก
จินจู
จินจู
ทำไม ทำไม !”
กำปั้นหนาชกเข้าเต็มแรงที่กำแพงไม่ยั้งพร้อมกับเสียงทุ้มที่ตะโกนออกมาอย่างสุดกลั้น นัยน์ตาคมแดงก่ำด้วยความรู้สึกหลากหลาย หากแต่ที่แจ่มชัดที่สุดคงไม่พ้นกับความเจ็บปวดและความเสียใจที่ต้องสูญเสียหญิงสาวที่ตนเองรักไป
และท่าทางเหล่านั้น มันก็ช่างทำร้ายหัวใจดวงเล็กๆให้เจ็บปวดจนทนไม่ได้
“ฮึก
พี่ยูชอน !”
“จุนซู
!”
ชางมินเอ่ยนามของคนตัวเล็กด้วยความตกใจ
เพราะจู่ๆจุนซูก็ขืนตัวออกจากอ้อมแขนของเขาและวิ่งตรงไปหาชายหนุ่มร่างโปร่งที่ตอนนี้เอาแต่ระบายอารมณ์ด้วยการชกกำแพงไม่หยุด มือเล็กรีบยื่นออกไปรั้งมือของยูชอนเอาไว้ กอดแน่นไม่ยอมปล่อย
“ฮึกๆๆ พี่ยูชอน หยุดเถอะนะฮะ ฮือออ
อย่าทำร้ายตัวเองแบบนี้
”
ปาร์ค ยูชอนจ้องมองดวงหน้าหวานเปื้อนน้ำตาที่คล้ายคลึงกับหญิงสาวคนรักของตนเองหากแต่ให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไปด้วยอารมณ์สับสนที่ประเดประดังกันเข้ามาอัดแน่นภายในอก
ในเบื้องลึกของหัวใจเขารู้ดีว่ามันไม่ใช่ความผิดของร่างเล็กตรงหน้านี้เลยสักนิด เขาอยากจะรักและเอ็นดูจุนซูในฐานะน้องชายคนรัก หากแต่ภาพที่จินจูเสียสละชีวิตเพื่อปกป้องคนๆนี้เอาไว้มันก็ย้อนกลับเข้ามาในสมองซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“หึ
นายจะมาเข้าใจอะไรจุนซู !! อย่างนายจะมาเข้าใจอะไร !!”
“อ๊ะ
!!”
มือแกร่งสลัดมือรุนแรงจนร่างเล็กเกือบล้มเซหากไม่มีชางมินมารับเอาไว้ ร่างสูงสีน้ำผึ้งตวัดสายตามองคนอายุมากกว่าตรงหน้าด้วยความโกรธจัด
“มันจะมากไปแล้วนะคุณยูชอน !!! คุณจะบอกว่าจุนซูไม่รู้สึกอะไรเลยได้ยังไง จินจูเป็นพี่สาวของจุนซูนะ !!”
“ก็แล้วรู้สึกยังไงบ้างล่ะ ที่ตัวเองเป็นคนทำให้พี่สาวตัวเองต้องมาตายไปแบบนี้น่ะ !?”
พลั่ก !
เป็นชางมินเองที่ทนไม่ไหวกับคำพูดแสนเลวร้ายแบบนั้น หมัดหนักๆซัดเข้าที่แก้มสากของอีกฝ่ายจนใบหน้าคมหันไปอีกทางหนึ่ง ในขณะที่ยูชอนเองก็ไม่มีทางยอมเจ็บตัวเพียงฝ่ายเดียว มือหนาเช็ดมุมริมฝีปากที่มีเลือดซึมอย่างลวกๆก่อนจะตรงเข้ามากระชากคอเสื้อของเพื่อนคนตัวเล็กหมายจะเอาคืน
“แก
!”
“ฮึก
พอที
ได้โปรดหยุดซะที !!!”
มือหนาที่กำลังเงื้อขึ้นหมายจะชกเด็กหนุ่มผิวสีเข้มหยุดชะงัก ก่อนที่จะหันไปมองคนร่างเล็กที่ตอนนี้ร้องไห้สะอึกสะอื้นจนไม่เว้นช่วงหายใจ
“ฮือออ
ขอร้องล่ะฮะ หยุดซะที ฮึกกก หยุดทำร้ายกันซะทีได้โปรด ฮื้อออ ...”
รู้สึกราวกับหัวใจตกวูบไปวินาทีหนึ่ง
แต่ยูชอนก็ละเลยความรู้สึกเหล่านั้นและลดมือลง แววตาคมนั้นฉายแววบางอย่างที่อ่านไม่ออก หากแต่ก็ยังคงนิ่งงัน ผินกายกลับหลังโดยที่ไม่แม้แต่จะหันมามองคนตัวเล็ก
“
ไปซะ”
“ฮึก ! พี่ยูชอน
”
“นายเป็นอิสระแล้วจุนซู
”
“
.”
“อยากจะไปไหนก็ไป
ไปให้พ้นจากพี่แล้วไม่ต้องมาให้พี่เห็นหน้าอีก !!!”
“พี่ยูชอน
พี่ยูชอน !!”
“จุนซู
!”
ชางมินไม่รีรอที่จะรั้งร่างของคนตัวเล็กกว่าที่กำลังจะวิ่งตามชายหนุ่มซึ่งก้าวเดินจากไปแล้ว หากแต่จุนซูก็ยังคงร่ำไห้และพยายามขืนกายจากพันธนาการแกร่งนั้น
“ฮื้อออ ชางมินปล่อยฉันนะ ! ฮึกๆๆ บอกให้ปล่อยไง !”
“จุนซู ! จุนซูเป็นอะไร ! หมอนั่นมันไล่จุนซูแล้วนะจุนซูไม่ได้ยินเหรอ !!? จุนซูจะตามมันไปทำไม หมอนั่นมันไม่ต้องการจุนซูแล้วได้ยินรึเปล่า !?”
“อึกๆๆ ไม่ ! ไม่ได้
ฮือออ ไม่ได้
”
“จุนซู !! ช่วยรักตัวเองบ้างได้มั้ย !!??”
“พี่ยูชอนกำลังเจ็บปวด
ฮือออ พี่ยูชอนต้องอยู่คนเดียวกับความรู้สึกแบบนั้น ฉันจะปล่อยไปได้ยังไง ฮึกๆๆ ไม่ว่ายังไงฉันก็ทิ้งเขาไม่ได้
ฉันทิ้งพี่ยูชอนไม่ได้จริงๆ !”
ร่างเล็กสะบัดกายจนกระทั่งเป็นอิสระจากอ้อมแขนแกร่งที่คลายลงด้วยความอ่อนล้าหลังจากที่ได้ยินประโยคเหล่านั้น
ไม่ว่าเมื่อไหร่ คิม จุนซูก็มองเห็นแต่เพียงปาร์ค ยูชอน
มองเห็นเพียงแต่คนร่างโปร่งคนนั้นคนเดียวมาโดยตลอดสิบเจ็ดปี โดยที่เขาเองไม่เคยที่จะเข้าไปแทรกในความรู้สึกเหล่านั้นได้เลยแม้แต่นิดเดียว
“ฮึกๆๆๆ ฉันขอโทษนะชางมิน
ฉันขอโทษ
!!”
“จุนซู
! จุนซู !!!”
คนตัวเล็กซึ่งเป็นเจ้าของหัวใจมาแสนนานวิ่งจากไป
ทิ้งไว้เพียงคำขอโทษและใบหน้าเปื้อนน้ำตา
เรียวขาเล็กอันอ่อนแรงพยายามวิ่งเต็มฝีเท้า ละเลยต่อสายตาผู้คนในโรงพยาบาลที่ต่างจ้องมองมาด้วยความประหลาดใจกับใบหน้าแดงก่ำชื้นแฉะไปด้วยหยาดน้ำตานั้น กระทั่งมาถึงบริเวณลานจอดรถ ดวงหน้าหวานหันซ้ายหันขวาสอดส่องหาคนตัวสูงอย่างลนลาน จนในที่สุดก็เห็นแผ่นหลังแกร่งอันคุ้นเคยที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลพร้อมกับรถราคาแพงสีแดงฉานที่คงจะเรียกให้คนขับรถเอามาให้
“พี่ยูชอน !!”
“
.!”
จุนซูไม่รีรอที่จะวิ่งตรงไปและกอดเจ้าของแผ่นหลังกว้างนั้นเอาไว้แน่นทันทีราวกับกลัวว่าอีกฝ่ายจะหายไปอีก หากแต่ยูชอนกลับยังคงยิ่งนิ่งงัน
“ฮึก
อย่าไปนะฮะ
อย่าไป
”
“
นายมาหาพี่ทำไม”
ทั้งๆที่เขาเป็นคนออกปากไล่ไปเองแท้ๆ
“ฮึกๆ ผมจะไม่ไปไหนทั้งนั้น ฮึก ! ผมจะอยู่กับพี่ยูชอน”
“แต่พี่จะทำร้ายนาย
จุนซู นายจะต้องเจ็บปวด
”
“ฮึก ผมไม่สน ! อย่าทิ้งผมไปนะ
ฮืออ ให้ผมได้อยู่ข้างๆพี่
”
“
.” มือหนากำเข้าหากันแน่น
ลังเล
“ฮึก ผมรักพี่ยูชอน
ฮึกๆๆ ผมรัก
ผมรักพี่ยู --- อื๊ออออ
!”
ร่างเล็กๆถูกรั้งเข้ามาบดจูบหนักหน่วง ถ่ายทอดทั้งความรู้สึกเจ็บปวดและสับสนทั้งหมดผ่านริมฝีปากที่เคล้าคลึง มือหนาประคองดวงหน้าหวานให้เงยขึ้นรับสัมผัสได้ถนัดถนี่ ร่างเล็กที่สั่นเทาในคราแรกเพราะความตกใจและความหวาดหวั่น ก็ค่อยๆผ่อนคลายลง ยอมรับความรุนแรงนั้นแต่โดยดี คนทั้งสองป้อนมอบจุมพิตให้แก่กันและกันเนิ่นนาน เพิกเฉยต่อสถานที่ซึ่งเป็นสาธารณะแม้จะยังไร้ผู้คน
หัวใจที่เต็มไปด้วยรอยแผลและความผิดบาปนั้น
จุดจบคือที่ใด
..
ร่างเล็กๆถูกดันให้นอนเอนราบลงไปกับเตียงทั้งๆที่ริมฝีปากของคนทั้งคู่ยังไม่ผละออกจากกัน เสียงดูดดุนบดเบียดในจุมพิตดังแจ่มชัดในห้องกว้างชวนให้รู้สึกเขินอาย หากแต่มันก็ไม่ได้รับความสนใจ
อาภรณ์ทุกชิ้นที่ปิดกายขาวถูกคนร่างโปร่งปลดกระชากออกไปอย่างไม่ใยดีจนกระทั่งเปลือยเปล่า ฝ่ามือหนาไล้ลูบไปตามเรือนกายกรุ่นหอมอย่างจาบจ้วงทว่าร้อนเร่า ปลุกปั่นแรงอารมณ์ของคนใต้อาณัติให้พุ่งทะยานขึ้นสูง ก่อนจะผละจูบออกมาซุกไซ้ลำคอผ่องนวลอย่างโหยหา
ปรารถนาคนที่จะอยู่เคียงข้าง กระหายต่อความอบอุ่น และอยากจะกระชากความรู้สึกเจ็บปวดอันผิดบาปเจียนจะขาดใจนี้ให้สิ้นไป
ยอดอกสีหวานถูกปรนเปรอครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยริมฝีปากอุ่นร้อนและปลายนิ้วที่บดคลึง รอยขบเม้มสีก่ำถูกประทับไปทั่วร่าง แกนกายสีหวานปริ่มน้ำถูกรูดรั้งมอบความสุขสมให้อย่างร้อนเร่าเสียจนเรียกเสียงครวญครางจากจีบปากเล็กได้ไม่ขาด
“อึ่ก
อ๊ะ
พี่
ฮึก ! พี่ยูชอน
”
“นายเลือก
เลือกแล้วใช่มั้ยจุนซู
”
แม้แต่น้ำเสียงแหบพร่าที่กระซิบชิดริมใบหูก็ช่างอ้างว้างโศกเศร้าราวกับโหยหาใครสักคน ปาร์ค ยูชอนในตอนนี้ให้ความรู้สึกเหมือนกับคนกำลังหลงทาง
ต้องการที่ยึดเหนี่ยว ประคับประคองความรู้สึกที่กำลังแตกสลาย
และจุนซูก็ไม่ลังเล
ไม่ลังเลเลยแม้แต่นิดเดียว
ในการที่ยื่นแขนเรียวออกไปโอบรอบลำคอแกร่งของคนตรงหน้าเอาไว้แน่น กล้ำกลืนหยาดน้ำตาทั้งหมดที่เอ่อล้นไหลกลับลงสู่เบื้องลึกของจิตใจ ซ่อนแววตาอันไหวระริก ละเลยผิวกายอันสั่นเทา พยายามคลี่รอยยิ้มอ่อนจางและเอ่ยตอบกลับไป
“ผม
รักพี่
ฮึก ผมรักพี่ยูชอนฮะ
อะ อ๊า !!”
เสียงแหบหวานครางดังด้วยความเจ็บปวดเมื่อกายใหญ่แทรกผ่านเข้ามาในร่างของตนเองจนสุดในคราเดียว
ไร้การตระเตรียมหรือการปลอบประโลมอย่างเคย หากแต่ร่างเล็กก็ไม่คุ้นชินกับมันเสียที สัมผัสทั้งหมดที่เกิดขึ้นเต็มไปด้วยความรุนแรงและเร่งเร้า เจ็บแสบปวดร้าวไปถึงกระดูกสันหลัง ถึงอย่างนั้นจุนซูก็ยังเม้มริมฝีปากแน่น
รองรับและอดทน
เพราะในตอนนี้พี่ยูชอนกำลังโดดเดี่ยว
พี่ยูชอนกำลังเจ็บปวดและอ้างว้าง
ขอเพียงแค่เขาสามารถอยู่เคียงข้างพี่ยูชอนได้ก็เพียงพอแล้ว
“ฮึกกก ยะ
! ฮึก ! อะ พ --- ยูชอน
อ๊า ! ยูชอน
!”
แรงเสียดสีที่เกิดขึ้นภายในทำให้สะโพกเล็กลอยหวือแอ่นรับแรงกระทั้นจากอีกฝ่ายที่เร่งจังหวะและความหนักหน่วงมากขึ้นทุกที ฝ่ามือร้อนบีบขย้ำผิวเนียนนุ่มในขณะที่มืออีกข้างมอบสัมผัสให้กับส่วนอ่อนไหวของคนใต้ร่างเรียกเสียงแว่วหวานให้ร้องครางออกมาอย่างสุดกลั้น
แต่กระนั้นร่างเล็กก็ยังจำได้ดี
ว่าไม่มีสิทธิ์พูดคำใด
เพราะในตอนนี้ เขาคงไม่ใช่
‘จุนซู’
“อ๊ะ ! ฮ้า
อะ
อื๊อออ ~ ยู
อ๊า
ยูชอน
!”
“อึ่ก
จินจู
”
แม้ภายในใจอยากจะตะโกนออกไปแค่ไหนว่าเขาไม่ใช่
แต่ตัวของเขาเองกลับยอมรับทุกสิ่งทุกอย่างโดยไม่อาจปฏิเสธ จุนซูโอบกอดแผ่นหลังแกร่งแนบแน่น พยายามกลั้นสะอื้นและหยาดน้ำตา ละทิ้งความรู้สึกของตนเองทั้งหมดไป ปล่อยให้แรงอารมณ์ชักจูงร่างกายให้ดิ่งจมลงสู่ห้วงแห่งดำฤษณาอันลึกล้ำ
“ฮ
! อะ
งือ
อา --- อ๊า !!”
“ฮึก
จินจู
จินจู ผมรักคุณ
”
“อ๊า
!!!”
สายน้ำอุ่นแห่งความปรารถนาเติมเต็มช่องทางอ่อนนุ่ม เช่นเดียวกับหยาดหยดสีน้ำนมที่ถูกปลดปล่อยออกมาเปื้อนหน้าท้องขาวนวล หากแต่จุมพิตหนักๆที่ได้รับอย่างมัวเมาจากคนร่างโปร่งนั้นราวกับกำลังจะบอกคนตัวเล็กว่า ค่ำคืนนี้ยังคงไม่อาจจบลงได้ง่ายๆ
หยาดน้ำสีใสหลั่งริน ... จากก้อนเนื้อภายในอกซ้าย เอ่อล้นผ่านเส้นโลหิตทั่วร่าง
สู่นัยน์ตาคู่หวานไหวระริก ก่อนจะค่อยๆไหลลงจากปลายหางตาเรียว ร่วงหล่นกระทบลงบนหมอนสีสะอาดอย่างเงียบงัน
ร่างน้อยหลับตาลง
โอบกอดชายหนุ่มตรงหน้าเอาไว้อีกครั้ง
จะยังไงก็ได้
ขอแค่พี่ยูชอนไม่ต้องร้องไห้คนเดียว
แค่นั้นก็พอแล้ว
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“ยุนโฮ
”
นายแพทย์หนุ่มในชุดลำลองสบายๆแบบชุดอยู่บ้านซึ่งนั่งคิดอะไรเงียบๆอยู่คนเดียวบนโซฟานวมสีเข้มตื่นขึ้นจากห้วงแห่งภวังค์ ก่อนจะหันใบหน้าคมเข้มไปตามเสียงทุ้มหวานของคนรักที่เอ่ยขึ้นจากทางด้านหลัง
“แจจุง” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยแผ่วเบา “
แล้วชางมินล่ะ ?”
ดวงหน้าหวานยิ่งกว่าอิสตรีส่ายไปมาเบาๆด้วยสีหน้าอ่อนใจ “
ไม่ยอมพูดอะไรเลยสักคำ ท่าทางจะช็อคอยู่พอตัวเลยล่ะ”
“อย่างนั้นเหรอ
” ยุนโฮถอนหายใจ “ทำไมทุกอย่างมันดูวุ่นวายไปหมดเลยนะ
”
“ก็เพราะเพื่อนตัวดีของยุนโฮนั่นแหละ !” ร่างบางเอ่ยดังพลางเชิดหน้าใส่คนหน้าหมีที่ถึงกับเหวอไปเลย
“เฮ้ๆ เรื่องนี้ผมไม่เกี่ยวนะครับแจจุง” มือหนารั้งร่างของคนรักที่ทำหน้ามุ่ยให้ลงมานั่งบนตักของตนเอง โดยที่เจ้าของใบหน้าอ่อนหวานนั้นก็ไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด
“เพราะไอ้บ้ายูชอนมันคนเดียวต่างหากล่ะ” พร้อมที่จะกล่าวโทษเพื่อนรักเสร็จสรรพตามประสาเพื่อนที่แสนดี (?)
“ผมล่ะสงสารจุนซูจริงๆที่ต้องอยู่กับคนรักพี่เสียดายน้องพรรค์นั้น ! ปากบอกว่ารักจินจูแต่กลับไม่ยอมปล่อยจุนซูไป นี่ถ้าไม่ติดว่ายูชอนอะไรนั่นเป็นเพื่อนของยุนโฮนะ ผมล่ะจะซัดให้หมอบเลย !”
“คร้าบ คร้าบ
กลัวแล้วครับคนดี แต่จริงๆแล้วไอ้ปาร์คมันก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรขนาดนั้นหรอก เพียงแต่ผมคิดว่ามันกำลังพยายามหลอกตัวเองและเข้าใจตัวเองผิดไปหน่อย
เอ่อ ไม่หน่อยก็ได้จ้ะ”
แฟนหนุ่มดีเด่นรีบเปลี่ยนคำพูดทันทีที่คนรักตวัดสายตากลมโตมอง
แอบเหงื่อตกอยู่เบาๆ
แกทำลูกแมวของฉันกลายเป็นแม่เสือเข้าแล้วไงล่ะไอ้ปาร์ค
“ตลอดเวลาที่มันคบกับจินจู
ผมรู้สึกนะว่ามันรักจินจูจริงๆ แต่จะเป็นรักแบบไหน ผมเองก็ยังไม่แน่ใจ”
“
.”
“กับจินจูมันใจเย็นมาก คอยดูแลเฝ้าทะนุถนอม รู้ว่าจินจูร่างกายอ่อนแอ มันก็ไม่เคยทำอะไรเกินเลยเลยสักครั้ง
แต่กับจุนซูน่ะไม่เหมือนกัน”
“
.”
“มันเหมือนเป็นคนละคน ดูไม่เป็นตัวมันเองเลย ถ้าตอนที่อยู่กับจินจูมันเป็นน้ำ ตอนอยู่กับจุนซูก็คงจะเป็นไฟ ทั้งเจ้าอารมณ์และใจร้อนจนทำร้ายจุนซูอยู่บ่อยๆ แต่สายตาของมันเวลาอยู่กับจุนซูกลับสะท้อนความรู้สึกบางอย่างออกมาเสมอเลยนะ ทั้งๆที่ไม่ได้ทะนุถนอม แต่กลับดูกระตือรือร้นขึ้นมาทันทีที่เป็นเรื่องของจุนซู”
ยุนโฮจ้องมองคนรักที่นั่งฟังตาแป๋ว แม้ใบหน้าหวานนั้นจะมีรอยความไม่สบอารมณ์อยู่บ้างก็ตามด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน
“
ผมก็ได้แต่ภาวนาให้มันรู้สึกตัวได้เร็วๆ
”
“ฟังแล้วเหนื่อยจังยุนโฮ” คิม แจจุงพรูลมหายใจออกมาแผ่วเบาพร้อมทั้งซุกศีรษะเข้ากับอกแกร่งของชายคนรัก
“ผมสงสารจุนซู
”
“ผมรู้คนดี ...” ฝ่ามือหนาลูบเรือนผมสีดำสนิทของคนรักอย่างแผ่วเบา “แต่สิ่งที่เราทำได้ในตอนนี้ก็มีแค่คอยช่วยเหลือเท่าที่จะทำได้ก็เท่านั้นเอง”
ปาร์ค ยูชอน
นายจะรู้ตัวบ้างไหม ?
นายกำลังทำให้หัวใจดวงเล็กๆดวงนึงต้องบอบช้ำ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“อรุณสวัสดิ์ฮะคุณป้า”
เสียงเล็กๆติดจะแหบมากไปกว่าที่เคยดังขึ้นมาจากทางด้านบนพร้อมกับร่างป้อมๆในชุดนอนสีฟ้าอ่อนที่เดินลงมาจากบันได ทำให้คุณแม่บ้านสูงวัยที่กำลังทำความสะอาดโต๊ะและแจกันอยู่นั้นต้องเอ่ยทัก
“อะ
คุณจุนซู ตื่นเช้าจังเลยค่ะ”
“แล้ว
พี่ยูชอน ---”
“คุณชายออกไปก่อนได้สักพักแล้วล่ะค่ะคุณจุนซู เธอออกไปเช้ามากขึ้นทุกวันๆ” หญิงชราเอ่ยบอกด้วยสีหน้าลำบากใจ เมื่อเห็นว่าใบหน้าน่ารักนั้นหงอยลง
หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปแล้วหลังจากที่พิธีศพของคิม จินจูเสร็จสิ้นไป ร่างของเธอถูกฝังลงบริเวณเนินริมทะเลสาบซึ่งเป็นธรรมชาติที่เธอชอบนักหนา
นับตั้งแต่วันนั้น ปาร์ค ยูชอนก็มักจะออกไปข้างนอกตั้งแต่เช้า และกลับมาถึงบ้านตอนดึกๆดื่นๆอยู่เสมอ แม้ว่าจุนซูจะพยายามตื่นให้เร็วขึ้น และรอคอยอีกฝ่ายให้กลับมานานแค่ไหน ก็ไม่เคยได้พบเจ้าของใบหน้าคมคายนั้นเลยสักครั้ง
“
งั้นเหรอฮะ” ร่างเล็กๆตอบรับเสียงแผ่ว “ไม่เป็นไรฮะ ขอบคุณมากๆนะฮะป้าซังมี
แค่ก แค่ก”
ยังไม่ทันลงเสียงจบดีก็ไอค่อกแค่กออกมาเสียตัวโยนจนแม่บ้านร่างท้วมรีบปรี่ไปประคองกายเล็กเอาไว้ด้วยสีหน้าและแววตาเป็นกังวล
“ตายแล้วคุณจุนซู ! ทำไมตัวร้อนจี๋แบบนี้ล่ะคะ !?”
“ผ
ผมไม่เป็นไรหรอกฮะคุณป้า แค่ก
!”
“จะบอกว่าไม่เป็นไรได้ยังไงกันคะ ทั้งตัวร้อน ทั้งหน้าซีด แถมยังไอค่อกแค่กอยู่แบบนี้ ป้าว่าคุณจุนซูไปนอนพักผ่อนก่อนเถอะนะคะ”
“ต
แต่ว่าผมต้อง ---”
“ไม่มีแต่แล้วค่ะคุณจุนซู ไปพักผ่อนบนห้องเถอะค่ะ เดี๋ยวเรื่องทำความสะอาดบ้านป้าจะทำให้เอง”
“แต่ผม ---”
“สำออยอะไรอีกล่ะ ?”
“คุณชาย
!”
เสียงทุ้มพร่าที่ดังขึ้นมาจากทางด้านหลังทำเอาทั้งคนตัวเล็กและแม่บ้านร่างอวบถึงกับสะดุ้ง
ใบหน้าที่เริ่มเหี่ยวย่นไปตามกาลเวลาของหญิงชราหันไปมองผู้เป็นเจ้านายที่เธอรักและเอ็นดูคล้ายลูกหลานซึ่งกลับมาก่อนเวลาอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน
“ทำไมวันนี้ถึงได้กลับเร็วนักล่ะคะ ?” ซังมีเอ่ยพลางรับเสื้อสูทสีเข้มมาจากชายหนุ่ม
“ถ้าผมกลับมาช้าอย่างทุกวันก็ไม่ได้เห็นคนแถวนี้แกล้งทำตัวสำออยเหลาะแหละน่ะสิ
ทำไม ? คิดจะหาทางเบี้ยวไม่ทำงานหรือยังไงกัน ?”
“คุณชาย !” หญิงชราเอ่ยเสียงสูง “ทำไมคุณชายพูดแบบนี้ล่ะคะ !”
สายตาคมกริบที่ปรายมองมานิ่งๆด้วยแววนัยน์ที่อ่านไม่ออกนั้นทำให้คุณแม่บ้านลดเสียงลงเมื่อนึกขึ้นได้ว่าไม่สมควร
“ป้าขอโทษค่ะคุณชาย
แต่ที่คุณจุนซูไม่สบายแบบนี้น่ะก็เพราะว่าเธอเอาแต่รอคุณช ---”
“ป้าซังมีฮะ !” ก่อนที่หญิงชราจะเอ่ยจบ เสียงแหบๆก็เอ่ยขัดขึ้นมาเสียก่อน ดวงหน้าหวานส่ายไปมาเบาๆเชิงบอกว่าไม่เป็นไร ก่อนจะหันไปเผชิญหน้ากับคนตัวสูงกว่าด้วยสีหน้าที่พยายามปรับให้เป็นปกติ
“พี่ยูชอนไม่ต้องกังวลหรอกฮะ
ผมไม่แค่ขออาศัยอยู่ที่นี่เฉยๆแน่”
“หึ
ก็ดี” อยากจะรู้นักว่าจะอวดเก่งไปได้อีกนานแค่ไหน “ทำความสะอาดบ้านให้เรียบร้อยทุกซอกทุกมุมล่ะ อ้อ จริงสิ
ฉันว่าหญ้าแถวๆหน้าบ้านมันก็เริ่มยาวแล้วเหมือนกัน จัดการทั้งหมดให้เสร็จก่อนบ่ายโมงนะ”
ร่างเล็กๆที่ใบหน้าดูซีดเซียวกว่าปกติไม่เอ่ยตอบอะไรสักคำ เสี้ยววินาทีหนึ่งที่ดวงหน้าหวานนั้นเงยขึ้นมาด้วยสายตาไหวระริกแสนตัดพ้อจนหัวใจของคนมองเผลอกระตุกวูบ แต่ไม่นานคนตัวเล็กก็พยุงร่างตัวเองเดินไปทางห้องครัวเพื่อลงมือทำงานที่ตนเองควรทำในฐานะผู้อาศัย
“คุณจุนซู ! คุณชายคะ งั้นเดี๋ยวป้าจะไปช่ ---”
“ไม่ต้องครับ”
“อ
แต่ว่า
”
“แล้วก็บอกให้ทุกคนในบ้านห้ามช่วยอะไรจุนซูเป็นอันขาดด้วย”
“แต่คุณชาย
!”
“ผมว่าผมพูดชัดแล้วนะครับป้าซังมี”
“
เข้าใจแล้วค่ะ” แม่บ้านร่างท้วมได้แต่ตอบรับคำพูดที่คล้ายคำสั่งกลายๆของชายหนุ่ม แต่กระนั้นก็นิ่งงันไปครู่หนึ่งแล้วเอ่ยออกมาตามที่หัวใจและสมองของตนเองสั่งการ
“คุณชายรู้มั้ยคะ
ที่คุณจุนซูเธอไม่สบายแบบนี้ ก็เพราะเธอทำงานหนักมาก แต่ก็ยังรอคุณชายกลับบ้านดึกๆดื่นๆทุกวัน พอตอนเช้าก็รีบตื่นเพราะอยากจะพบคุณชายตลอดทั้งอาทิตย์ที่ผ่านมา”
“
.”
“รู้อย่างนี้แล้วคุณชายยังจะใจร้ายกับเธอได้อีกเหรอคะ ---”
“ป้าซังมีครับ”
“
.”
“ผมไม่อยากฟัง”
ร่างสูงโปร่งเดินขึ้นบันไดจากไป ทิ้งให้หญิงชราได้แต่ยืนถอนหายใจอยู่เพียงลำพัง
ป้ารู้ว่าคุณชายไม่ใช่คนเลวร้าย
แค่คุณชายยังไม่รู้ตัวเท่านั้น
..
ตลอดเช้าของวันจุนซูทำงานบ้านทุกอย่างตั้งแต่การเช็ดเครื่องเรือน กวาดบ้าน ถูบ้าน ทำความสะอาดทุกซอกทุกมุมของบ้านที่ควรจะเรียกว่าคฤหาสน์มากกว่าในเรื่องของพื้นที่ ภายใต้สายตาเป็นกังวลและเป็นห่วงของเหล่าสาวใช้ทุกคนในบ้าน เพราะร่างเล็กๆที่ดูซูบลงไปมากนั้นเหมือนจะสามารถล้มลงได้ทุกเมื่อ
“คุณจุนซู
พอก่อนเถอะค่ะ ให้ฉันช่วยเถอะนะคะ”
“ไม่เป็นไรหรอกฮะพี่ซูนา ผมทำได้ฮะ”
“แต่ว่า ---”
“ไม่เป็นไรจริงๆฮะ ตอนนี้เหลือแค่ไปถอนหญ้าอย่างเดียวก็เสร็จแล้ว”
“นี่มันจวนจะเที่ยงอยู่แล้วนะคะคุณจุนซู แดดร้อนขนาดนี้อย่าออกไปข้างนอกเลยนะคะ”
“ไม่เป็นไรฮะพี่แทมี ผมไหวฮะ ถ้าไม่รีบเดี๋ยวจะไม่ทันเวลา
”
ริมฝีปากบางแทบไม่มีสีคลี่ยิ้มออกมาเพื่อให้ทุกคนในบ้านสบายใจ ก่อนจะสวมหมวกฟางปีกกว้างและเดินออกไปยังสนามหญ้าหน้าคฤหาสน์ท่ามกลางแสงแดดจ้าร้อนจัดในเวลาใกล้เที่ยง
มือคู่น้อยเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำเพราะหยิบจับอุปกรณ์โน่นนี่ทำงานหนักติดต่อกันมาทั้งวัน ตัดกับสีหน้าและผิวบางที่ขาวซีดลงเรื่อยๆจนแทบไม่มีสีเลือดฝาดเพราะพิษไข้ อากาศที่ร้อนระอุจากดวงอาทิตย์ที่เกือบจะลอยอยู่กลางศีรษะทำให้ร่างกายมันร้อนเหมือนมีไฟสุมอยู่ภายใน เหงื่อเม็ดเล็กผุดพรายไปทั่วร่างจนรู้สึกเหมือนหายใจไม่ออก แต่กระนั้นก็ยังพยายามตั้งหน้าตั้งตาถอนหญ้าต่อไป
พอนั่งยองๆไปได้พักหนึ่งก็เริ่มที่จะรู้สึกเมื่อยขา ริมฝีปากซีดเซียวผ่อนลมหายใจร้อนผ่าวออกมาหนักหน่วงคล้ายคนกำลังทรมาน ความรู้สึกบางอย่างภายในมีมากเสียจนจู่ๆก็เหมือนมีอะไรมาจุกอยู่บริเวณลำคอ
เกิดอาการแสบจมูกและน้ำใสๆก็เริ่มคลอที่นัยน์ตาคู่สวยจนภาพตรงหน้าพร่ามัว
พี่จินจูฮะ
ผมคิดถึงพี่
กายเล็กๆค่อยๆยันตัวเองลุกขึ้นอย่างโงนๆเงนๆเพราะทุกส่วนของร่างกายมันอ่อนล้าเกินกว่าที่จะพยุงน้ำหนักต่อไปได้ไหว รู้สึกวิงเวียนศีรษะราวกับทุกอย่างรอบข้างมันหมุนวนไปมาชวนลายตา
จนในที่สุดสติก็พร่าเลือนและดับวูบลง
ร่างน้อยค่อยๆทรุดลงไปกองกับพื้นหญ้า ท่ามกลางสายตาที่เบิกกว้างด้วยความตกใจของบรรดาสาวใช้ทุกคน
“คุณจุนซู !!”
เสียงร้องเรียกที่เข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆนั้นได้ยินเหมือนกับอยู่ห่างไกลเหลือเกิน
รอยยิ้มอ่อนจางปรากฏยังจีบปากเล็กก่อนที่คิม จุนซูจะไม่รู้สึกถึงอะไรอีกเลย
พี่จินจู
พี่มารับผมแล้วใช่มั้ยฮะ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
To Be Continued ...
ความคิดเห็น