ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [TVXQ Fiction] :: Rendezvous :: [YooSu][Mpreg]

    ลำดับตอนที่ #5 : :: Rendezvous :: Chapter.4

    • อัปเดตล่าสุด 31 ต.ค. 54


    TALK ::

    สวัสดีค่าทุกท่าน ^ ^ มาอัพเร็วกว่าปกติให้ตกใจกันเล่นๆอีกแล้วเจ้าค่ะ ~
    อันที่จริงเพราะตอนนี้เป็นช่วงเวลาระหว่างรอน้ำท่วม(?) ก็เลยมีเวลาว่างได้อยู่เฉยๆค่อนข้างมากค่ะ
    แต่อาทิตย์หน้าถ้าหากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง มายด์ก็ต้องเปิดเทอมแล้ว เป็นเทอมสุดท้ายของม.ปลายแล้วล่ะค่ะ
    คงจะงานยุ่งและเตรียมตัวเรื่องสอบเอนท์อีกมาก ดังนั้นก็เลยจะพยายามปั่นช่วงนี้ให้ได้มากที่สุดค่ะ
    เพราะถึงตอนนั้นคงจะมาอัพนานๆครั้งเลยทีเดียว (ฮา)

    ยังไงก็ขอให้ทุกท่านดูแลรักษาสุขภาพตัวเองให้มากๆนะคะ
    ยิ่งช่วงนี้เป็นช่วงที่ทุกคนเองก็ลำบากกันถ้วนหน้า ก็ขอให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดีและไม่มีอันตรายค่ะ
    ระวังตัวกันด้วยนะคะ >< !

    ขอขอบคุณทุกๆการติดตาม รวมไปถึงทุกๆคอมเมนท์ที่คอยเป็นกำลังใจให้เสมอมาเลยนะคะ ^ ^
    ขอบคุณนักอ่านทุกท่านด้วยเช่นกันค่า ~







    Chapter.4



     

     

    เวลาผ่านไปเพียงไม่กี่นาที แต่กลับรู้สึกว่าช่างแสนยาวนานเหลือเกินในความรู้สึก หยาดน้ำสีใสที่ไหลพรั่งพรูลงมากระทบกับพวงแก้มขาวไม่ได้ทำให้จุนซูรู้สึกตัวเลยว่าในตอนนี้ตนเองกำลังทำอะไรอยู่ หรือแม้แต่กระทั่งควรจะทำอย่างไรต่อไป ทุกอย่างรอบกายมันนิ่งงันไปหมดราวกับสมองไม่สั่งการ เพราะไม่อาจยอมรับได้กับสิ่งที่เพิ่งได้ยิน

     

    โถ่เว้ย !!!”

     

    “….”

     

    อึ่ก จินจู จินจู ทำไม ทำไม !”

    กำปั้นหนาชกเข้าเต็มแรงที่กำแพงไม่ยั้งพร้อมกับเสียงทุ้มที่ตะโกนออกมาอย่างสุดกลั้น นัยน์ตาคมแดงก่ำด้วยความรู้สึกหลากหลาย หากแต่ที่แจ่มชัดที่สุดคงไม่พ้นกับความเจ็บปวดและความเสียใจที่ต้องสูญเสียหญิงสาวที่ตนเองรักไป

     

     

    และท่าทางเหล่านั้น มันก็ช่างทำร้ายหัวใจดวงเล็กๆให้เจ็บปวดจนทนไม่ได้

     

     

    ฮึก พี่ยูชอน !”

     

    จุนซู …!”

     

    ชางมินเอ่ยนามของคนตัวเล็กด้วยความตกใจ เพราะจู่ๆจุนซูก็ขืนตัวออกจากอ้อมแขนของเขาและวิ่งตรงไปหาชายหนุ่มร่างโปร่งที่ตอนนี้เอาแต่ระบายอารมณ์ด้วยการชกกำแพงไม่หยุด มือเล็กรีบยื่นออกไปรั้งมือของยูชอนเอาไว้ กอดแน่นไม่ยอมปล่อย

     

    ฮึกๆๆ พี่ยูชอน หยุดเถอะนะฮะ ฮือออ อย่าทำร้ายตัวเองแบบนี้ …”

     

    ปาร์ค ยูชอนจ้องมองดวงหน้าหวานเปื้อนน้ำตาที่คล้ายคลึงกับหญิงสาวคนรักของตนเองหากแต่ให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไปด้วยอารมณ์สับสนที่ประเดประดังกันเข้ามาอัดแน่นภายในอก

     

    ในเบื้องลึกของหัวใจเขารู้ดีว่ามันไม่ใช่ความผิดของร่างเล็กตรงหน้านี้เลยสักนิด  เขาอยากจะรักและเอ็นดูจุนซูในฐานะน้องชายคนรัก หากแต่ภาพที่จินจูเสียสละชีวิตเพื่อปกป้องคนๆนี้เอาไว้มันก็ย้อนกลับเข้ามาในสมองซ้ำแล้วซ้ำเล่า

     

    หึ นายจะมาเข้าใจอะไรจุนซู !! อย่างนายจะมาเข้าใจอะไร !!”

     

    อ๊ะ …!!”

     

    มือแกร่งสลัดมือรุนแรงจนร่างเล็กเกือบล้มเซหากไม่มีชางมินมารับเอาไว้ ร่างสูงสีน้ำผึ้งตวัดสายตามองคนอายุมากกว่าตรงหน้าด้วยความโกรธจัด

     

    มันจะมากไปแล้วนะคุณยูชอน !!! คุณจะบอกว่าจุนซูไม่รู้สึกอะไรเลยได้ยังไง จินจูเป็นพี่สาวของจุนซูนะ !!”

     

    ก็แล้วรู้สึกยังไงบ้างล่ะ ที่ตัวเองเป็นคนทำให้พี่สาวตัวเองต้องมาตายไปแบบนี้น่ะ !?

     

     

    พลั่ก !

     

     

    เป็นชางมินเองที่ทนไม่ไหวกับคำพูดแสนเลวร้ายแบบนั้น หมัดหนักๆซัดเข้าที่แก้มสากของอีกฝ่ายจนใบหน้าคมหันไปอีกทางหนึ่ง ในขณะที่ยูชอนเองก็ไม่มีทางยอมเจ็บตัวเพียงฝ่ายเดียว มือหนาเช็ดมุมริมฝีปากที่มีเลือดซึมอย่างลวกๆก่อนจะตรงเข้ามากระชากคอเสื้อของเพื่อนคนตัวเล็กหมายจะเอาคืน

     

    แก …!”

     

    ฮึก พอที ได้โปรดหยุดซะที !!!”

     

    มือหนาที่กำลังเงื้อขึ้นหมายจะชกเด็กหนุ่มผิวสีเข้มหยุดชะงัก ก่อนที่จะหันไปมองคนร่างเล็กที่ตอนนี้ร้องไห้สะอึกสะอื้นจนไม่เว้นช่วงหายใจ

     

    ฮือออ ขอร้องล่ะฮะ หยุดซะที ฮึกกก หยุดทำร้ายกันซะทีได้โปรด ฮื้อออ ...”

     

    รู้สึกราวกับหัวใจตกวูบไปวินาทีหนึ่ง แต่ยูชอนก็ละเลยความรู้สึกเหล่านั้นและลดมือลง แววตาคมนั้นฉายแววบางอย่างที่อ่านไม่ออก หากแต่ก็ยังคงนิ่งงัน ผินกายกลับหลังโดยที่ไม่แม้แต่จะหันมามองคนตัวเล็ก

     

    “… ไปซะ

     

    ฮึก ! พี่ยูชอน …”

     

    นายเป็นอิสระแล้วจุนซู …”

     

    “….”

     

    อยากจะไปไหนก็ไป ไปให้พ้นจากพี่แล้วไม่ต้องมาให้พี่เห็นหน้าอีก !!!”

     

    พี่ยูชอน พี่ยูชอน !!”

     

    จุนซู …!”

     

    ชางมินไม่รีรอที่จะรั้งร่างของคนตัวเล็กกว่าที่กำลังจะวิ่งตามชายหนุ่มซึ่งก้าวเดินจากไปแล้ว หากแต่จุนซูก็ยังคงร่ำไห้และพยายามขืนกายจากพันธนาการแกร่งนั้น

     

    ฮื้อออ ชางมินปล่อยฉันนะ ! ฮึกๆๆ บอกให้ปล่อยไง !”

     

    จุนซู ! จุนซูเป็นอะไร ! หมอนั่นมันไล่จุนซูแล้วนะจุนซูไม่ได้ยินเหรอ !!? จุนซูจะตามมันไปทำไม หมอนั่นมันไม่ต้องการจุนซูแล้วได้ยินรึเปล่า !?

     

    อึกๆๆ ไม่ ! ไม่ได้ ฮือออ ไม่ได้ …”

     

    จุนซู !! ช่วยรักตัวเองบ้างได้มั้ย !!??

     

    พี่ยูชอนกำลังเจ็บปวด ฮือออ พี่ยูชอนต้องอยู่คนเดียวกับความรู้สึกแบบนั้น ฉันจะปล่อยไปได้ยังไง ฮึกๆๆ ไม่ว่ายังไงฉันก็ทิ้งเขาไม่ได้ ฉันทิ้งพี่ยูชอนไม่ได้จริงๆ !”

     

    ร่างเล็กสะบัดกายจนกระทั่งเป็นอิสระจากอ้อมแขนแกร่งที่คลายลงด้วยความอ่อนล้าหลังจากที่ได้ยินประโยคเหล่านั้น ไม่ว่าเมื่อไหร่ คิม จุนซูก็มองเห็นแต่เพียงปาร์ค ยูชอน มองเห็นเพียงแต่คนร่างโปร่งคนนั้นคนเดียวมาโดยตลอดสิบเจ็ดปี โดยที่เขาเองไม่เคยที่จะเข้าไปแทรกในความรู้สึกเหล่านั้นได้เลยแม้แต่นิดเดียว

     

    ฮึกๆๆๆ ฉันขอโทษนะชางมิน ฉันขอโทษ …!!”

     

    จุนซู …! จุนซู !!!”

     

     

    คนตัวเล็กซึ่งเป็นเจ้าของหัวใจมาแสนนานวิ่งจากไป ทิ้งไว้เพียงคำขอโทษและใบหน้าเปื้อนน้ำตา

     

     

    เรียวขาเล็กอันอ่อนแรงพยายามวิ่งเต็มฝีเท้า ละเลยต่อสายตาผู้คนในโรงพยาบาลที่ต่างจ้องมองมาด้วยความประหลาดใจกับใบหน้าแดงก่ำชื้นแฉะไปด้วยหยาดน้ำตานั้น กระทั่งมาถึงบริเวณลานจอดรถ ดวงหน้าหวานหันซ้ายหันขวาสอดส่องหาคนตัวสูงอย่างลนลาน จนในที่สุดก็เห็นแผ่นหลังแกร่งอันคุ้นเคยที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลพร้อมกับรถราคาแพงสีแดงฉานที่คงจะเรียกให้คนขับรถเอามาให้

     

    พี่ยูชอน !!”

     

    “….!”

     

    จุนซูไม่รีรอที่จะวิ่งตรงไปและกอดเจ้าของแผ่นหลังกว้างนั้นเอาไว้แน่นทันทีราวกับกลัวว่าอีกฝ่ายจะหายไปอีก หากแต่ยูชอนกลับยังคงยิ่งนิ่งงัน

     

    ฮึก อย่าไปนะฮะ อย่าไป …”

     

    “… นายมาหาพี่ทำไม ทั้งๆที่เขาเป็นคนออกปากไล่ไปเองแท้ๆ

     

    ฮึกๆ ผมจะไม่ไปไหนทั้งนั้น ฮึก ! ผมจะอยู่กับพี่ยูชอน

     

    แต่พี่จะทำร้ายนาย จุนซู นายจะต้องเจ็บปวด …”

     

    ฮึก ผมไม่สน ! อย่าทิ้งผมไปนะ ฮืออ ให้ผมได้อยู่ข้างๆพี่ …”

     

    “….” มือหนากำเข้าหากันแน่น ลังเล

     

    ฮึก ผมรักพี่ยูชอน ฮึกๆๆ ผมรัก ผมรักพี่ยู --- อื๊ออออ …!”

     

    ร่างเล็กๆถูกรั้งเข้ามาบดจูบหนักหน่วง ถ่ายทอดทั้งความรู้สึกเจ็บปวดและสับสนทั้งหมดผ่านริมฝีปากที่เคล้าคลึง มือหนาประคองดวงหน้าหวานให้เงยขึ้นรับสัมผัสได้ถนัดถนี่ ร่างเล็กที่สั่นเทาในคราแรกเพราะความตกใจและความหวาดหวั่น ก็ค่อยๆผ่อนคลายลง ยอมรับความรุนแรงนั้นแต่โดยดี คนทั้งสองป้อนมอบจุมพิตให้แก่กันและกันเนิ่นนาน เพิกเฉยต่อสถานที่ซึ่งเป็นสาธารณะแม้จะยังไร้ผู้คน

     

     

    หัวใจที่เต็มไปด้วยรอยแผลและความผิดบาปนั้น จุดจบคือที่ใด

     

     

    ………………..

     

     

    ร่างเล็กๆถูกดันให้นอนเอนราบลงไปกับเตียงทั้งๆที่ริมฝีปากของคนทั้งคู่ยังไม่ผละออกจากกัน เสียงดูดดุนบดเบียดในจุมพิตดังแจ่มชัดในห้องกว้างชวนให้รู้สึกเขินอาย หากแต่มันก็ไม่ได้รับความสนใจ อาภรณ์ทุกชิ้นที่ปิดกายขาวถูกคนร่างโปร่งปลดกระชากออกไปอย่างไม่ใยดีจนกระทั่งเปลือยเปล่า ฝ่ามือหนาไล้ลูบไปตามเรือนกายกรุ่นหอมอย่างจาบจ้วงทว่าร้อนเร่า ปลุกปั่นแรงอารมณ์ของคนใต้อาณัติให้พุ่งทะยานขึ้นสูง ก่อนจะผละจูบออกมาซุกไซ้ลำคอผ่องนวลอย่างโหยหา

     

     

    ปรารถนาคนที่จะอยู่เคียงข้าง กระหายต่อความอบอุ่น และอยากจะกระชากความรู้สึกเจ็บปวดอันผิดบาปเจียนจะขาดใจนี้ให้สิ้นไป

     

     

    ยอดอกสีหวานถูกปรนเปรอครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยริมฝีปากอุ่นร้อนและปลายนิ้วที่บดคลึง รอยขบเม้มสีก่ำถูกประทับไปทั่วร่าง แกนกายสีหวานปริ่มน้ำถูกรูดรั้งมอบความสุขสมให้อย่างร้อนเร่าเสียจนเรียกเสียงครวญครางจากจีบปากเล็กได้ไม่ขาด

     

    อึ่ก อ๊ะ พี่ ฮึก ! พี่ยูชอน …”

     

    นายเลือก เลือกแล้วใช่มั้ยจุนซู …”

     

    แม้แต่น้ำเสียงแหบพร่าที่กระซิบชิดริมใบหูก็ช่างอ้างว้างโศกเศร้าราวกับโหยหาใครสักคน ปาร์ค ยูชอนในตอนนี้ให้ความรู้สึกเหมือนกับคนกำลังหลงทาง ต้องการที่ยึดเหนี่ยว ประคับประคองความรู้สึกที่กำลังแตกสลาย

     

    และจุนซูก็ไม่ลังเล ไม่ลังเลเลยแม้แต่นิดเดียว ในการที่ยื่นแขนเรียวออกไปโอบรอบลำคอแกร่งของคนตรงหน้าเอาไว้แน่น กล้ำกลืนหยาดน้ำตาทั้งหมดที่เอ่อล้นไหลกลับลงสู่เบื้องลึกของจิตใจ ซ่อนแววตาอันไหวระริก ละเลยผิวกายอันสั่นเทา พยายามคลี่รอยยิ้มอ่อนจางและเอ่ยตอบกลับไป

     

    ผม รักพี่ ฮึก ผมรักพี่ยูชอนฮะ อะ อ๊า !!”

     

    เสียงแหบหวานครางดังด้วยความเจ็บปวดเมื่อกายใหญ่แทรกผ่านเข้ามาในร่างของตนเองจนสุดในคราเดียว ไร้การตระเตรียมหรือการปลอบประโลมอย่างเคย หากแต่ร่างเล็กก็ไม่คุ้นชินกับมันเสียที สัมผัสทั้งหมดที่เกิดขึ้นเต็มไปด้วยความรุนแรงและเร่งเร้า เจ็บแสบปวดร้าวไปถึงกระดูกสันหลัง ถึงอย่างนั้นจุนซูก็ยังเม้มริมฝีปากแน่น รองรับและอดทน

     

     

    เพราะในตอนนี้พี่ยูชอนกำลังโดดเดี่ยว พี่ยูชอนกำลังเจ็บปวดและอ้างว้าง

     

    ขอเพียงแค่เขาสามารถอยู่เคียงข้างพี่ยูชอนได้ก็เพียงพอแล้ว

     

     

    ฮึกกก ยะ …! ฮึก ! อะ พ --- ยูชอน อ๊า ! ยูชอน …!”

     

    แรงเสียดสีที่เกิดขึ้นภายในทำให้สะโพกเล็กลอยหวือแอ่นรับแรงกระทั้นจากอีกฝ่ายที่เร่งจังหวะและความหนักหน่วงมากขึ้นทุกที ฝ่ามือร้อนบีบขย้ำผิวเนียนนุ่มในขณะที่มืออีกข้างมอบสัมผัสให้กับส่วนอ่อนไหวของคนใต้ร่างเรียกเสียงแว่วหวานให้ร้องครางออกมาอย่างสุดกลั้น แต่กระนั้นร่างเล็กก็ยังจำได้ดี ว่าไม่มีสิทธิ์พูดคำใด

     

     

    เพราะในตอนนี้ เขาคงไม่ใช่ จุนซู

     

     

    อ๊ะ ! ฮ้าอะ อื๊อออ ~ ยู อ๊า ยูชอน …!”

     

    อึ่ก จินจู …”

     

    แม้ภายในใจอยากจะตะโกนออกไปแค่ไหนว่าเขาไม่ใช่แต่ตัวของเขาเองกลับยอมรับทุกสิ่งทุกอย่างโดยไม่อาจปฏิเสธ จุนซูโอบกอดแผ่นหลังแกร่งแนบแน่น พยายามกลั้นสะอื้นและหยาดน้ำตา ละทิ้งความรู้สึกของตนเองทั้งหมดไป ปล่อยให้แรงอารมณ์ชักจูงร่างกายให้ดิ่งจมลงสู่ห้วงแห่งดำฤษณาอันลึกล้ำ

     

    …! อะ งือ อา --- อ๊า !!”

     

    ฮึก จินจู จินจู ผมรักคุณ …”

     

    อ๊า …!!!”

     

    สายน้ำอุ่นแห่งความปรารถนาเติมเต็มช่องทางอ่อนนุ่ม เช่นเดียวกับหยาดหยดสีน้ำนมที่ถูกปลดปล่อยออกมาเปื้อนหน้าท้องขาวนวล หากแต่จุมพิตหนักๆที่ได้รับอย่างมัวเมาจากคนร่างโปร่งนั้นราวกับกำลังจะบอกคนตัวเล็กว่า ค่ำคืนนี้ยังคงไม่อาจจบลงได้ง่ายๆ

     

    หยาดน้ำสีใสหลั่งริน ... จากก้อนเนื้อภายในอกซ้าย เอ่อล้นผ่านเส้นโลหิตทั่วร่าง สู่นัยน์ตาคู่หวานไหวระริก ก่อนจะค่อยๆไหลลงจากปลายหางตาเรียว ร่วงหล่นกระทบลงบนหมอนสีสะอาดอย่างเงียบงัน

     

    ร่างน้อยหลับตาลง โอบกอดชายหนุ่มตรงหน้าเอาไว้อีกครั้ง

     

     

    จะยังไงก็ได้

     

    ขอแค่พี่ยูชอนไม่ต้องร้องไห้คนเดียว

     

     

    แค่นั้นก็พอแล้ว

     



     

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


     

     

    ยุนโฮ …”

     

    นายแพทย์หนุ่มในชุดลำลองสบายๆแบบชุดอยู่บ้านซึ่งนั่งคิดอะไรเงียบๆอยู่คนเดียวบนโซฟานวมสีเข้มตื่นขึ้นจากห้วงแห่งภวังค์ ก่อนจะหันใบหน้าคมเข้มไปตามเสียงทุ้มหวานของคนรักที่เอ่ยขึ้นจากทางด้านหลัง

     

    แจจุง เสียงทุ้มต่ำเอ่ยแผ่วเบา “… แล้วชางมินล่ะ ?

     

    ดวงหน้าหวานยิ่งกว่าอิสตรีส่ายไปมาเบาๆด้วยสีหน้าอ่อนใจ “… ไม่ยอมพูดอะไรเลยสักคำ ท่าทางจะช็อคอยู่พอตัวเลยล่ะ

     

    อย่างนั้นเหรอ …” ยุนโฮถอนหายใจ ทำไมทุกอย่างมันดูวุ่นวายไปหมดเลยนะ …”

     

    ก็เพราะเพื่อนตัวดีของยุนโฮนั่นแหละ !” ร่างบางเอ่ยดังพลางเชิดหน้าใส่คนหน้าหมีที่ถึงกับเหวอไปเลย

     

    เฮ้ๆ เรื่องนี้ผมไม่เกี่ยวนะครับแจจุง มือหนารั้งร่างของคนรักที่ทำหน้ามุ่ยให้ลงมานั่งบนตักของตนเอง โดยที่เจ้าของใบหน้าอ่อนหวานนั้นก็ไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด

     

    เพราะไอ้บ้ายูชอนมันคนเดียวต่างหากล่ะ พร้อมที่จะกล่าวโทษเพื่อนรักเสร็จสรรพตามประสาเพื่อนที่แสนดี (?)

     

    ผมล่ะสงสารจุนซูจริงๆที่ต้องอยู่กับคนรักพี่เสียดายน้องพรรค์นั้น ! ปากบอกว่ารักจินจูแต่กลับไม่ยอมปล่อยจุนซูไป นี่ถ้าไม่ติดว่ายูชอนอะไรนั่นเป็นเพื่อนของยุนโฮนะ ผมล่ะจะซัดให้หมอบเลย !”

     

    คร้าบ คร้าบ กลัวแล้วครับคนดี แต่จริงๆแล้วไอ้ปาร์คมันก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรขนาดนั้นหรอก เพียงแต่ผมคิดว่ามันกำลังพยายามหลอกตัวเองและเข้าใจตัวเองผิดไปหน่อย เอ่อ ไม่หน่อยก็ได้จ้ะ

     

    แฟนหนุ่มดีเด่นรีบเปลี่ยนคำพูดทันทีที่คนรักตวัดสายตากลมโตมอง แอบเหงื่อตกอยู่เบาๆ

     

     

    แกทำลูกแมวของฉันกลายเป็นแม่เสือเข้าแล้วไงล่ะไอ้ปาร์ค

     

     

    ตลอดเวลาที่มันคบกับจินจู ผมรู้สึกนะว่ามันรักจินจูจริงๆ แต่จะเป็นรักแบบไหน ผมเองก็ยังไม่แน่ใจ

     

    “….”

     

    กับจินจูมันใจเย็นมาก คอยดูแลเฝ้าทะนุถนอม รู้ว่าจินจูร่างกายอ่อนแอ มันก็ไม่เคยทำอะไรเกินเลยเลยสักครั้ง แต่กับจุนซูน่ะไม่เหมือนกัน

     

    “….”

     

    มันเหมือนเป็นคนละคน ดูไม่เป็นตัวมันเองเลย ถ้าตอนที่อยู่กับจินจูมันเป็นน้ำ ตอนอยู่กับจุนซูก็คงจะเป็นไฟ ทั้งเจ้าอารมณ์และใจร้อนจนทำร้ายจุนซูอยู่บ่อยๆ แต่สายตาของมันเวลาอยู่กับจุนซูกลับสะท้อนความรู้สึกบางอย่างออกมาเสมอเลยนะ ทั้งๆที่ไม่ได้ทะนุถนอม แต่กลับดูกระตือรือร้นขึ้นมาทันทีที่เป็นเรื่องของจุนซู

     

    ยุนโฮจ้องมองคนรักที่นั่งฟังตาแป๋ว แม้ใบหน้าหวานนั้นจะมีรอยความไม่สบอารมณ์อยู่บ้างก็ตามด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน

     

    “… ผมก็ได้แต่ภาวนาให้มันรู้สึกตัวได้เร็วๆ …”

     

    ฟังแล้วเหนื่อยจังยุนโฮ คิม แจจุงพรูลมหายใจออกมาแผ่วเบาพร้อมทั้งซุกศีรษะเข้ากับอกแกร่งของชายคนรัก

     

    ผมสงสารจุนซู …”

     

    ผมรู้คนดี ...” ฝ่ามือหนาลูบเรือนผมสีดำสนิทของคนรักอย่างแผ่วเบา แต่สิ่งที่เราทำได้ในตอนนี้ก็มีแค่คอยช่วยเหลือเท่าที่จะทำได้ก็เท่านั้นเอง

     

     

    ปาร์ค ยูชอน นายจะรู้ตัวบ้างไหม ?

     

    นายกำลังทำให้หัวใจดวงเล็กๆดวงนึงต้องบอบช้ำ


     

     

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


     

     

    อรุณสวัสดิ์ฮะคุณป้า

     

    เสียงเล็กๆติดจะแหบมากไปกว่าที่เคยดังขึ้นมาจากทางด้านบนพร้อมกับร่างป้อมๆในชุดนอนสีฟ้าอ่อนที่เดินลงมาจากบันได ทำให้คุณแม่บ้านสูงวัยที่กำลังทำความสะอาดโต๊ะและแจกันอยู่นั้นต้องเอ่ยทัก

     

    อะ คุณจุนซู ตื่นเช้าจังเลยค่ะ

     

    แล้ว พี่ยูชอน ---”

     

    คุณชายออกไปก่อนได้สักพักแล้วล่ะค่ะคุณจุนซู เธอออกไปเช้ามากขึ้นทุกวันๆ หญิงชราเอ่ยบอกด้วยสีหน้าลำบากใจ เมื่อเห็นว่าใบหน้าน่ารักนั้นหงอยลง

     

    หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปแล้วหลังจากที่พิธีศพของคิม จินจูเสร็จสิ้นไป ร่างของเธอถูกฝังลงบริเวณเนินริมทะเลสาบซึ่งเป็นธรรมชาติที่เธอชอบนักหนา นับตั้งแต่วันนั้น ปาร์ค ยูชอนก็มักจะออกไปข้างนอกตั้งแต่เช้า และกลับมาถึงบ้านตอนดึกๆดื่นๆอยู่เสมอ แม้ว่าจุนซูจะพยายามตื่นให้เร็วขึ้น และรอคอยอีกฝ่ายให้กลับมานานแค่ไหน ก็ไม่เคยได้พบเจ้าของใบหน้าคมคายนั้นเลยสักครั้ง

     

    “… งั้นเหรอฮะ ร่างเล็กๆตอบรับเสียงแผ่ว ไม่เป็นไรฮะ ขอบคุณมากๆนะฮะป้าซังมี แค่ก แค่ก

     

    ยังไม่ทันลงเสียงจบดีก็ไอค่อกแค่กออกมาเสียตัวโยนจนแม่บ้านร่างท้วมรีบปรี่ไปประคองกายเล็กเอาไว้ด้วยสีหน้าและแววตาเป็นกังวล

     

    ตายแล้วคุณจุนซู ! ทำไมตัวร้อนจี๋แบบนี้ล่ะคะ !?

     

    ผมไม่เป็นไรหรอกฮะคุณป้า แค่ก …!”

     

    จะบอกว่าไม่เป็นไรได้ยังไงกันคะ ทั้งตัวร้อน ทั้งหน้าซีด แถมยังไอค่อกแค่กอยู่แบบนี้ ป้าว่าคุณจุนซูไปนอนพักผ่อนก่อนเถอะนะคะ

     

    แต่ว่าผมต้อง ---”

     

    ไม่มีแต่แล้วค่ะคุณจุนซู ไปพักผ่อนบนห้องเถอะค่ะ เดี๋ยวเรื่องทำความสะอาดบ้านป้าจะทำให้เอง

     

    แต่ผม ---”

     

    สำออยอะไรอีกล่ะ ?

     

    คุณชาย …!”

     

    เสียงทุ้มพร่าที่ดังขึ้นมาจากทางด้านหลังทำเอาทั้งคนตัวเล็กและแม่บ้านร่างอวบถึงกับสะดุ้ง ใบหน้าที่เริ่มเหี่ยวย่นไปตามกาลเวลาของหญิงชราหันไปมองผู้เป็นเจ้านายที่เธอรักและเอ็นดูคล้ายลูกหลานซึ่งกลับมาก่อนเวลาอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน

     

    ทำไมวันนี้ถึงได้กลับเร็วนักล่ะคะ ? ซังมีเอ่ยพลางรับเสื้อสูทสีเข้มมาจากชายหนุ่ม

     

    ถ้าผมกลับมาช้าอย่างทุกวันก็ไม่ได้เห็นคนแถวนี้แกล้งทำตัวสำออยเหลาะแหละน่ะสิ ทำไม ? คิดจะหาทางเบี้ยวไม่ทำงานหรือยังไงกัน ?

     

    คุณชาย !” หญิงชราเอ่ยเสียงสูง ทำไมคุณชายพูดแบบนี้ล่ะคะ !”

     

    สายตาคมกริบที่ปรายมองมานิ่งๆด้วยแววนัยน์ที่อ่านไม่ออกนั้นทำให้คุณแม่บ้านลดเสียงลงเมื่อนึกขึ้นได้ว่าไม่สมควร

     

    ป้าขอโทษค่ะคุณชาย แต่ที่คุณจุนซูไม่สบายแบบนี้น่ะก็เพราะว่าเธอเอาแต่รอคุณช ---”

     

    ป้าซังมีฮะ !” ก่อนที่หญิงชราจะเอ่ยจบ เสียงแหบๆก็เอ่ยขัดขึ้นมาเสียก่อน ดวงหน้าหวานส่ายไปมาเบาๆเชิงบอกว่าไม่เป็นไร ก่อนจะหันไปเผชิญหน้ากับคนตัวสูงกว่าด้วยสีหน้าที่พยายามปรับให้เป็นปกติ

     

    พี่ยูชอนไม่ต้องกังวลหรอกฮะ ผมไม่แค่ขออาศัยอยู่ที่นี่เฉยๆแน่

     

    หึ ก็ดี อยากจะรู้นักว่าจะอวดเก่งไปได้อีกนานแค่ไหน ทำความสะอาดบ้านให้เรียบร้อยทุกซอกทุกมุมล่ะ อ้อ จริงสิ ฉันว่าหญ้าแถวๆหน้าบ้านมันก็เริ่มยาวแล้วเหมือนกัน จัดการทั้งหมดให้เสร็จก่อนบ่ายโมงนะ

     

    ร่างเล็กๆที่ใบหน้าดูซีดเซียวกว่าปกติไม่เอ่ยตอบอะไรสักคำ เสี้ยววินาทีหนึ่งที่ดวงหน้าหวานนั้นเงยขึ้นมาด้วยสายตาไหวระริกแสนตัดพ้อจนหัวใจของคนมองเผลอกระตุกวูบ แต่ไม่นานคนตัวเล็กก็พยุงร่างตัวเองเดินไปทางห้องครัวเพื่อลงมือทำงานที่ตนเองควรทำในฐานะผู้อาศัย

     

    คุณจุนซู ! คุณชายคะ งั้นเดี๋ยวป้าจะไปช่ ---”

     

    ไม่ต้องครับ

     

    แต่ว่า …”

     

    แล้วก็บอกให้ทุกคนในบ้านห้ามช่วยอะไรจุนซูเป็นอันขาดด้วย

     

    แต่คุณชาย …!”

     

    ผมว่าผมพูดชัดแล้วนะครับป้าซังมี

     

    “… เข้าใจแล้วค่ะ แม่บ้านร่างท้วมได้แต่ตอบรับคำพูดที่คล้ายคำสั่งกลายๆของชายหนุ่ม แต่กระนั้นก็นิ่งงันไปครู่หนึ่งแล้วเอ่ยออกมาตามที่หัวใจและสมองของตนเองสั่งการ

     

    คุณชายรู้มั้ยคะ ที่คุณจุนซูเธอไม่สบายแบบนี้ ก็เพราะเธอทำงานหนักมาก แต่ก็ยังรอคุณชายกลับบ้านดึกๆดื่นๆทุกวัน พอตอนเช้าก็รีบตื่นเพราะอยากจะพบคุณชายตลอดทั้งอาทิตย์ที่ผ่านมา

     

    “….”

     

    รู้อย่างนี้แล้วคุณชายยังจะใจร้ายกับเธอได้อีกเหรอคะ ---”

     

    ป้าซังมีครับ

     

    “….”

     

    ผมไม่อยากฟัง


    ร่างสูงโปร่งเดินขึ้นบันไดจากไป ทิ้งให้หญิงชราได้แต่ยืนถอนหายใจอยู่เพียงลำพัง

     

     

    ป้ารู้ว่าคุณชายไม่ใช่คนเลวร้าย แค่คุณชายยังไม่รู้ตัวเท่านั้น

     

     

    …………………..

     

     

    ตลอดเช้าของวันจุนซูทำงานบ้านทุกอย่างตั้งแต่การเช็ดเครื่องเรือน กวาดบ้าน ถูบ้าน ทำความสะอาดทุกซอกทุกมุมของบ้านที่ควรจะเรียกว่าคฤหาสน์มากกว่าในเรื่องของพื้นที่ ภายใต้สายตาเป็นกังวลและเป็นห่วงของเหล่าสาวใช้ทุกคนในบ้าน เพราะร่างเล็กๆที่ดูซูบลงไปมากนั้นเหมือนจะสามารถล้มลงได้ทุกเมื่อ

     

    คุณจุนซู พอก่อนเถอะค่ะ ให้ฉันช่วยเถอะนะคะ

     

    ไม่เป็นไรหรอกฮะพี่ซูนา ผมทำได้ฮะ

     

    แต่ว่า ---”

     

    ไม่เป็นไรจริงๆฮะ ตอนนี้เหลือแค่ไปถอนหญ้าอย่างเดียวก็เสร็จแล้ว

     

    นี่มันจวนจะเที่ยงอยู่แล้วนะคะคุณจุนซู แดดร้อนขนาดนี้อย่าออกไปข้างนอกเลยนะคะ

     

    ไม่เป็นไรฮะพี่แทมี ผมไหวฮะ ถ้าไม่รีบเดี๋ยวจะไม่ทันเวลา …”

     

    ริมฝีปากบางแทบไม่มีสีคลี่ยิ้มออกมาเพื่อให้ทุกคนในบ้านสบายใจ ก่อนจะสวมหมวกฟางปีกกว้างและเดินออกไปยังสนามหญ้าหน้าคฤหาสน์ท่ามกลางแสงแดดจ้าร้อนจัดในเวลาใกล้เที่ยง

     

    มือคู่น้อยเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำเพราะหยิบจับอุปกรณ์โน่นนี่ทำงานหนักติดต่อกันมาทั้งวัน ตัดกับสีหน้าและผิวบางที่ขาวซีดลงเรื่อยๆจนแทบไม่มีสีเลือดฝาดเพราะพิษไข้ อากาศที่ร้อนระอุจากดวงอาทิตย์ที่เกือบจะลอยอยู่กลางศีรษะทำให้ร่างกายมันร้อนเหมือนมีไฟสุมอยู่ภายใน เหงื่อเม็ดเล็กผุดพรายไปทั่วร่างจนรู้สึกเหมือนหายใจไม่ออก แต่กระนั้นก็ยังพยายามตั้งหน้าตั้งตาถอนหญ้าต่อไป

     

    พอนั่งยองๆไปได้พักหนึ่งก็เริ่มที่จะรู้สึกเมื่อยขา ริมฝีปากซีดเซียวผ่อนลมหายใจร้อนผ่าวออกมาหนักหน่วงคล้ายคนกำลังทรมาน ความรู้สึกบางอย่างภายในมีมากเสียจนจู่ๆก็เหมือนมีอะไรมาจุกอยู่บริเวณลำคอ เกิดอาการแสบจมูกและน้ำใสๆก็เริ่มคลอที่นัยน์ตาคู่สวยจนภาพตรงหน้าพร่ามัว

     

     

    พี่จินจูฮะ ผมคิดถึงพี่

     

     

    กายเล็กๆค่อยๆยันตัวเองลุกขึ้นอย่างโงนๆเงนๆเพราะทุกส่วนของร่างกายมันอ่อนล้าเกินกว่าที่จะพยุงน้ำหนักต่อไปได้ไหว รู้สึกวิงเวียนศีรษะราวกับทุกอย่างรอบข้างมันหมุนวนไปมาชวนลายตา จนในที่สุดสติก็พร่าเลือนและดับวูบลง

     

     

    ร่างน้อยค่อยๆทรุดลงไปกองกับพื้นหญ้า ท่ามกลางสายตาที่เบิกกว้างด้วยความตกใจของบรรดาสาวใช้ทุกคน

     

     

    คุณจุนซู !!”

     

    เสียงร้องเรียกที่เข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆนั้นได้ยินเหมือนกับอยู่ห่างไกลเหลือเกิน รอยยิ้มอ่อนจางปรากฏยังจีบปากเล็กก่อนที่คิม จุนซูจะไม่รู้สึกถึงอะไรอีกเลย

     


     

    พี่จินจู พี่มารับผมแล้วใช่มั้ยฮะ



     

     

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++





     To Be Continued ...



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×