คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : - Ankylose - Chapter.5
Chapter.5
“
อีกแล้วเหรอครับ?”
จุนซูเอ่ยถามอย่างงุนงงเมื่อสคริปท์ที่ได้มาเป็นการเซอร์วิสแฟนยูซูอีกแล้ว สายตาของคนตัวเล็กเผลอเหลือบไปมองร่างสูงเคียงข้างเล็กน้อยที่หันมามองในวินาทีเดียวกันจนต้องสะดุ้ง
“ก็ช่วงนี้ยูซูมาแรงจริงๆนี่นา ไม่ต้องคิดมากหรอก ก็ทำตามธรรมชาตินั่นล่ะครับ”
สิ้นเสียงของช่างกล้องที่เอ่ยมายิ้มๆ จุนซูก็จำต้องฝืนยิ้มตอบกลับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ถ้าทำได้ตามธรรมชาติจริงๆก็ดีสิ
ถ้าเขาไม่คิดอะไรกับร่างสูงเคียงข้างนี้เลยก็คงจะทำได้โดยไม่คิดอะไรแน่ๆ
“เป็นอะไรน่ะจุนซู? ไม่อยากถ่ายรูปคู่กับฉันขนาดนั้นเลยเหรอ?”
เสียงทุ้มพร่าอันคุ้นเคยของคนตัวสูงที่เอ่ยขึ้นอย่างตัดพ้อในที แม้จะเป็นเพียงการแกล้งร่างเล็กเคียงข้าง แต่มันก็ทำให้จุนซูทำหน้าเหรอหราก่อนที่จะปฏิเสธพัลวัน
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะยูชอน!
ฉะ
ฉันก็แค่แปลกใจน่ะ
”
“นั่นสิน้า~ช่วงนี้ยูซูมาแรงใช่ย่อยเลยนี่~”
ร่างสูงทำหน้าทะเล้นก่อนที่จะยื่นมือแกร่งมาโอบไหล่จนโลมาน้อยสะดุ้งโหยงก่อนที่จะตัวแข็งทื่อเข้าไปอีกเมื่อยูชอนเอาใบหน้าคมคายนั้นมาซบที่ไหล่อย่างที่ชอบทำบ่อยๆในช่วงนี้ จุนซูพยายามยิ้มออกมาตามปกติเมื่อเห็นว่ากล้องกำลังเคลื่อนมาถ่ายที่พวกเขา
อย่าทำแบบนี้ยูชอน
อย่าทำแบบนี้
“เหนื่อยมากไหม?”
หลังจากที่ถ่ายรูปไปหลายเซ็ตทั้งแบบเดี่ยว คู่ และเป็นกลุ่ม จุนซูที่เพิ่งเสร็จสิ้นจากถ่ายเดี่ยวเป็นคนรองสุดท้ายก็ได้รับคำถามด้วยน้ำเสียงที่ทำให้หัวใจเต้นระรัวจาก ‘เพื่อนสนิท’ ตรงหน้าที่มีคิวการถ่ายรูปเดี่ยวเป็นคนสุดท้ายของวันนี้
“นิดหน่อยน่ะ ยูชอนไม่ได้ไปแอบงีบหรอกเหรอ?”
จุนซูเอ่ยด้วยน้ำเสียงติดตลกจนยูชอนยิ้มขำก่อนที่จะแกล้งหยิกแก้มของเจ้าของดวงหน้ากลมน่ารักนั้นแรงๆอย่างที่ชอบแกล้งไม่ด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งเป็นประจำ
“หน้าเหมือนปลาปักเป้าเลย ฮ่าๆๆ”
“..ยูชอน
!”
คนตัวเล็กทำหน้าค้อนขวับจนทำให้ยูชอนยิ่งหัวเราะเสียงดังขึ้นไปอีกเพราะความน่ารักของคนตรงหน้าที่เจ้าตัวไม่รู้ตัว
เขาสบายใจทุกครั้งที่มีจุนซูอยู่เคียงข้าง
และคิดว่าคงจะดีหากเป็นแบบนี้ตลอดไป..
และเขาก็มั่นใจว่าจุนซูจะอยู่เคียงข้างเขาแบบนี้ตลอดไปเช่นกัน
มืออบอุ่นของคนตัวสูงกว่ากำลังค่อยๆยื่นไปราวกับต้องการจะสัมผัสเรือนผมนุ่มของคนตรงหน้าด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนเป็นเอกลักษณ์ ทว่าก่อนที่จะได้ทำอะไร เสียงของน้องเล็กสุดของวงก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะเสียก่อน
“พี่จุนซู! ถ่ายเสร็จแล้วเหรอฮะ?”
“อ้าว
ชางมิน
”
จุนซูเอ่ยยิ้มๆตามปกติอย่างน่ารักเมื่อน้องชายตัวสูงเดินเข้าอยู่ข้างๆ ยูชอนที่รีบชักมือกลับตั้งแต่ได้ยินเสียงของชางมินแล้วก็ได้แต่ปรายตามองนิ่งๆ
“ไปเล่นเกมส์กับผมมั้ย เบื่อจะตายอยู่แล้ว พี่แจจุงกับพี่ยุนโฮก็มัวแต่ทำอะไรกันสองคนก็ไม่รู้”
น้องคนเล็กสุดของวงเอ่ยหน้าตายทั้งๆที่สายตาปรายมองยูชอนที่หลุบสายตาลงต่ำเมื่อได้ยินชื่อของคู่รักคู่นั้น โดยที่ไม่ลืมมองดวงตาของจุนซูที่เศร้าลงเมื่อเหลือบมองคนที่หลงรักเคียงข้างด้วย
“พี่จุนซู
?”
“
อะ
ก็ได้ ไปสิ! สู้ๆนะยูชอน!”
ร่างเล็กหันมายิ้มน่ารักให้กับร่างสูงก่อนที่จะถูกชางมินดันหลังให้รีบเดินไปที่ห้องพัก ยูชอนมองภาพตรงหน้าด้วยสายตาที่ส่อแววไม่พึงใจออกมาแต่ก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทว่าทันทีที่ได้รับสายตาที่ราวกับจะอ่านใจหรือนิ่งเงียบในทีของชางมินแล้ว ยูชอนก็อึ้งไปก่อนที่จะเดินเข้าฉากอย่างไม่เข้าใจในสายตานั้น
หรือว่าชางมินมันจะชอบจุนซู
?
บ้าน่า
จะเป็นแบบนั้นได้ยังไงกัน...
คิดมากไปแล้วเรา
แต่ถึงชางมินจะชอบจุนซูจริง
ก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรานี่หว่า..
ยูชอนส่ายหน้าเล็กน้อยสะบัดความคิดที่เข้ามาเกาะกุมจิตใจชั่วขณะในออกไปก่อนที่จะตั้งสมาธิให้จดจ่ออยู่กับกล้องสีดำสนิทเบื้องหน้า ทั้งๆที่ลึกๆในใจแล้วยังคงว้าวุ่นกับสายตาของชางมินและท่าทีที่เชิงโอบเอวจุนซูขณะเดินออกไปไม่จาง
..
“พี่จุนซู
”
“หือ?”
เสียงทุ้มของน้องชายทำให้คนน่ารักที่กำลังจะเปิดปุ่มเกมส์บอยสีน้ำเงินเข้มเงยหน้าขึ้นมามองอย่างฉงน
“มีอะไรเหรอชางมิน?”
“ผมถามจริงๆเถอะ
”
“
..”
“ทำไมถึงชอบพี่ยูชอนล่ะฮะ?”
“
หวา
!”
คำถามนั้นทำให้เครื่องเล่นเกมส์ในมือบางแทบหลุดมือร่วงไปกระแทกกับพื้นถ้าจุนซูไม่รับไว้ทัน ดวงหน้ากลมเปลี่ยนเป็นสีระเรื่อในขณะที่กระพริบตาปริบๆ
“
เอ่อ
”
“
..”
เมื่อเห็นว่าสีหน้าของผู้เป็นน้องจริงจังมากกว่าที่จะเป็นการแซวกันเล่นๆก็ทำให้จุนซูต้องกลืนน้ำลายก่อนที่จะเอ่ยถามเสียงแผ่วอย่างตะกุกตะกัก
“
รู้ได้
ยังไงน่ะ
?”
“ถ้ามีคนสังเกตสักล้านคน
อย่างน้อยเก้าแสนเก้าหมื่นเก้าพันเก้าร้อยคนในนั้นก็ต้องรู้ล่ะครับ
”
ชางมินตอบในขณะที่กลอกตาไปมาอย่างไม่รู้จะทำยังไงกับความซื่อของพี่ชายน่ารักตรงหน้าที่ตอนนี้กำลังทำหน้าเหวอ
“ดะ
ดูออกง่ายถึงขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“ก็ทำนองนั้นล่ะฮะ”
ชางมินยักไหล่ ก่อนที่จะเบิกตากว้างเมื่อจู่ๆคนตัวเล็กก็โผเข้ามาเกาะที่แขนด้วยสายตาที่หวาดหวั่นอยู่ในที
“แล้วทำยังไงดีล่ะ
แล้วยูชอนเค้ารู้มั้ย? ทำยังไงดี
”
ดวงตาเรียวใสไหวระริกอย่างน่าสงสารในขณะที่เนื้อกายเริ่มสั่นเทา ริมฝีปากบางเม้มแน่นทั้งๆที่สายตายังคงจดจ้องน้องชายคนเล็กที่ได้แต่ถอนหายใจออกมา
“ไม่ต้องห่วงหรอกฮะ พี่ยูชอนเค้าไม่รู้หรอก..”
ทีเรื่องแบบนี้น่ะพี่ชายเจ้าของเสียงพร่านั่นซื่อบื้อนัก
แต่จะพูดแบบนั้นก็ไม่ถูกทีเดียว
เพราะสนิทกันเกินไปล่ะมั้งถึงได้มองข้ามความรู้สึกที่สื่อออกมา
“เฮ้อ
ดีจัง
โล่งอกไปที”
พอเห็นคนน่ารักถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกแล้ว ชางมินก็อดไม่ได้ที่จะถามคำถามต่อไปที่ทำเอาคนตัวเล็กนิ่งอึ้ง
“พี่คิดจะปิดพี่ยูชอนไปถึงเมื่อไหร่?”
“
ฉัน
”
มือที่เกาะแขนน้องชายร่างสูงไว้เผลอกระชับแน่นขึ้น ริมฝีปากถูกขบจนเป็นสีก่ำ พวงแก้มใสที่แดงปลั่งจนแทบจะเปลี่ยนเป็นลูกมะเขือเทศดูแล้วช่างใสซื่อน่าสงสารจนอดไม่ได้ที่จะยืนมือไปสัมผัสเบาๆที่แก้มแดงๆนั้นเพราะเห็นว่าหยาดน้ำตาเริ่มเอ่อท้นที่ดวงตาเรียวนั้นมากขึ้นทุกที
“
พี่จุนซู
”
“จุนซู!”
เสียงทุ้มต่ำที่ดังขึ้นมาจากข้างหลังทำให้คนตัวเล็กสะดุ้งก่อนที่จะหันไปมอง หยาดน้ำตาที่กำลังจะร่วงหล่นไหลย้อนกลับอัตโนมัติเมื่อเห็นใบหน้าที่ติดจะ ‘หงุดหงิด’ อยู่เล็กน้อยของร่างสูงที่มีนามว่า ปาร์ค ยูชอน
“..ย..ยูชอน
ถ่ายรูปเสร็จแล้วเหรอ?”
รอยยิ้มที่ส่งมาให้ดูแปลกไปจากเดิมอยู่ในทีจนยูชอนเผลอขมวดคิ้ว สายตาที่ใครๆต่างก็บอกว่าดูหวานเลี่ยนตอนนี้กลับแฝงด้วยความเกรี้ยวกราดอยู่เล็กน้อยปรายมองไปที่มือของน้องคนเล็กที่วางอยู่ที่เอวบางๆของคนตัวเล็ก
“อืม เสร็จแล้ว
ฉันมีเรื่องจะคุยเรื่องสคริปท์น่ะ
มากับฉันหน่อย”
“อื้อ
ได้สิ”
จุนซูพยักหน้าก่อนที่จะรีบเดินดุ๊กๆไปหาคนตัวสูงที่ปรายตามองน้องคนเล็กที่กระตุกยิ้มมุมปากอยู่บนโซฟาด้วยความรู้สึกไม่พึงใจอย่างแปลกประหลาด
ทำไมเขาถึงได้หงุดหงิดแบบนี้นะ
?
“
เอ๊ะ
?”
คนตัวเล็กจ้องมองแผ่นสคริปท์ที่ถูกยื่นมาให้อย่างงุนงง ดวงตาเรียวใสมองแผ่นกระดาษในมือของร่างสูงสลับกับใบหน้าของผู้ยื่นมาให้อย่างไม่เข้าใจ
“ทำไมเหรอ?”
“
สคริปท์นี้เมื่อกี้ฉันเพิ่งเอาให้ยูชอนดูเองไม่ใช่เหรอ?”
“
อ้าว
เหรอ
”
ยูชอนทำหน้าเหวอพักหนึ่ง เขาเพียงแต่หาข้ออ้างให้คนตัวเล็กมาอยู่ใกล้ๆเขาโดยที่ไม่ทันยั้งความคิดตัวเองได้ก็เท่านั้น ร่างสูงยิ้มเจื่อนก่อนที่จะเกาท้ายทอยแกรกๆ
“โทษทีนะ
ฉันคงจะเบลอมากไปหน่อย
”
ในคราแรกดูเหมือนคนตัวเล็กตั้งใจยื่นมือออกมาราวกับจะสัมผัสที่หน้าผากกว้างของคนตัวสูงกว่า ทว่ามือป้อมๆนั้นก็ชะงักก่อนที่จะวางลงบนไหล่ลาดของยูชอนพร้อมๆกับน้ำเสียงที่เอ่ยออกมาด้วยความเป็นห่วง
“แน่ใจนะว่าไม่เป็นอะไร ยูชอนไม่สบายรึเปล่า?”
ปาร์ค ยูชอนยิ้มน้อยๆกับอาการขี้เป็นห่วงคนรอบข้างของคนตรงหน้าก่อนที่จะยื่นมือไปไล้เรือนผมนิ่มๆนั้นอย่างที่เคยชอบแกล้งให้เสียทรงอยู่บ่อยๆ ทว่าคราวนี้กับอ่อนโยนและแผ่วเบาจนคนตัวเล็กหน้าขึ้นสีระเรื่อ
“ไม่เป็นไรหรอกน่า ฉันแค่นอนไม่พอน่ะ”
“ถ้ารู้ว่าเป็นแบบนั้น ทีหลังก็เลิกแต่งเพลงตอนกลางคืนซะทีสิ!”
เสียงแหบหวานร้องแหวแก้มป่อง ก่อนที่จะสายตาเรียวเล็กจะปรายมองเห็นกล้องสีดำสนิทที่ส่องเลนส์มาทางตนเอง ริมฝีปากบางรีบเอ่ยบอกร่างสูงทันที
“ยูชอน..กล้อง
เอามือออกเร็วเข้า
”
ทว่าคนร่างสูงตรงหน้ายังคงลูบผมนิ่มนั้นโดยที่แสร้งทำเป็นไม่สนใจที่ตนเองกับโดนถ่าย ริมฝีปากอิ่มเอ่ยเบาๆกับจุนซูที่ดูจะอึ้งไปเล็กน้อย
“
ก็เหมือนแฟนเซอร์วิสดีออก? แบบนี้ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย”
คำพูดยิ้มๆที่ไม่คิดอะไรของเจ้าของเสียงทุ้มพร่าเป็นเอกลักษณ์กลับทำให้จุนซูปวดแปลบอยู่ภายในใจ
ก็แค่แฟนเซอร์วิส
ฉันรู้ดี
“พี่จุนซูฮะ!”
“อ้ะ
ชางมิน
”
เสียงร้องเรียกของน้องเล็กสุดของวงทำให้ดวงหน้าหวานหันกลับไปมอง ยูชอนเผลอทำปากจิ๊อย่างไม่ค่อยพึงใจเท่าไหร่แม้จะไม่เข้าใจกับความหงุดหงิดของตนเองก็ตามที
“พี่ช่างกล้องเค้าให้ไปถ่ายรูปกับผมน่ะครับ”
“เอ๋?...ถ่ายกับชางมินน่ะนะ?”
“ฮะ”
“แปลกจัง ปกติไม่มีเรียกถ่ายคู่เพิ่มแบบนี้นี่นา
”
ร่างบางเอ่ยทั้งๆที่เงยหน้ามองน้องชายตัวสูงที่เดินเข้ามาใกล้ ชิม ชางมินยักไหล่น้อยๆก่อนที่จะพูดขึ้นลอยๆทว่าเน้นย้ำกับร่างสูงด้านหลังคนตัวเล็กอย่างเนิบนาบ
“ไม่รู้สิฮะ อาจจะอยากสร้างกระแสมินซูบ้างล่ะมั้ง?”
“ช่วยไม่ได้นี่น้า~ใครคิดจะจับคู่ฉันกับชางมินเนี่ย”
คนตัวเล็กทำหน้าเบ้อย่างจงใจ ท่าทางกวนประสาทที่แม้จะดูน่ารักน่าเอ็นดูแต่ก็ทำให้คนอย่างชิม ชางมินอดที่จะโต้ตอบกลับไปไม่ได้
“พูดอย่างกับผมดีใจนักล่ะ ดีใจจนอยากจะร้องไห้เลย”
“ชางมิน!”
คนที่สูงที่สุดในวงหัวเราะร่าเมื่อพี่ชายตัวเล็กกว่าร้องตะแง้วๆอย่างไม่พอใจทั้งๆที่เมื่อครู่นี้ตัวเองก็เพิ่งจะทำกิริยาแบบนั้นใส่เขาไปหมาดๆแท้ๆ
“ไม่เถียงด้วยหรอกครับ เสียเวลาจริงๆ ไปถ่ายรูปได้แล้ว! ผมยังมีเค้กที่กินค้างไว้อยู่นะ!”
“อย่าดันนักสิ! อ้ะ ยูชอน
เดี๋ยวฉันมานะ!”
“อืม”
เจ้าของเสียงทุ้มนุ่มส่งเสียงตอบรับทั้งๆที่สายตายังคงจับจ้องไปที่มือหนาของผู้เป็นน้องในวงที่จับอยู่บริเวณไหล่ของ ‘เพื่อนสนิท’ ซึ่งเดินออกจากห้องไปอย่างไม่วางตา
ความรู้สึกบางอย่างที่จะเรียกว่าหงุดหงิดก็ไม่ใช่จะไม่พอใจก็ไม่เชิงผุดขึ้นมาในใจจนยูชอนต้องขมวดคิ้ว ความรู้สึกที่แล่นปราดเข้าสู่หัวใจอย่างฉับพลันนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งในช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ มันเป็นความรู้สึกที่ไม่เหมือนกับเวลาที่รู้สึกกับแจจุง
เวลาที่เขาเห็นแจจุงอยู่กับยุนโฮ
เขาก็แค่เสียใจแล้วก็เจ็บปวดเท่านั้น
แต่ทำไมกับร่างเล็กที่เพิ่งเดินจากไปแล้วนั้น เขาถึงได้มีความรู้สึก ‘แปลกๆ’ ที่คุกรุ่นอยู่ภายในใจจนอดที่จะรำคาญไม่ได้แบบนี้
“เป็นอะไรของเราวะ?”
ยูชอนพึมพำกับตัวเองก่อนที่จะส่ายหน้าอย่างช้าๆด้วยรอยยิ้มจางๆบนใบหน้าเมื่อความคิดบางอย่างผุดขึ้นมาในสมอง
ก็ไม่เห็นจะแปลก
เพราะจุนซูเป็นเพื่อนสนิทคนสำคัญของเขานี่
เรื่อง ‘หวง’ เพื่อนตัวเล็กที่น่ารักจนบางทีต้องเผลอใจเต้นด้วยก็เป็นเรื่องธรรมดาไม่ใช่หรือยังไงกัน..
ใช่
ก็แค่ ‘หวง’ ตามประสาเพื่อนสนิทที่รักกันมานาน
หรือไม่ก็ในความรู้สึกที่เป็น ‘พี่’ ที่รู้สึกว่าคิม จุนซูน่ารักเหมือนเด็กตัวเล็กๆที่ไร้เดียงสาคนหนึ่งเท่านั้น
“มันก็แค่นั้นล่ะ
”
ใช่
ไม่มีทางมีอะไรมากกว่านั้นหรอกน่า
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
To Be Continued...
ความคิดเห็น