คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : - Ankylose - Chapter.3
TALK :: สวัสดีค่า^^ มาอัพอีกแล้วนะคะ~ ฮ่าๆ
หลังจากนี้จะพยายามมาอัพให้ไวที่สุดค่ะ^^
ยังไงก็ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามนะคะ~
Chapter.3
“
พี่
แจจุง
.”
เสียงงัวเงียของคนละเมอทำให้หัวใจดวงน้อยแตกสลายไม่มีชิ้นดี หยาดน้ำสีใสเอ่อคลอนัยน์ตาหวานจนพร่าเลือนไปหมด มือบางหยิบฉวยหมอนใบโตของตนเองฟาดอั่กไปที่คนบนเตียงจนได้ยินเสียง ‘พลั่ก’!
“โอ้ย!”
“ตื่นเดี๋ยวนี้นะยูชอน!!!”
ร่างสูงค่อยๆปรือตาขึ้นมาในขณะที่ขมวดคิ้วจดจ้องใบหน้าน่ารักที่เป็นสีระเรื่อจนสังเกตได้อย่างงุนงง
“เป็นอะไรไปน่ะจุนซู?”
“
อึ่ก
ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย พี่แจจุงเรียกตั้งหลายรอบแล้วนะ ไปอาบน้ำแล้วรีบลงไปข้างล่างได้แล้ว!”
คนตัวเล็กเอ่ยในขณะที่ผินกายเดินออกไปจากห้อง ปล่อยให้ยูชอนเกาท้ายทอยแกรกๆอย่างงุนงงก่อนที่จะพยุงร่างกายของตนเองเดินเข้าห้องน้ำไปอย่างเงียบงัน
ยิ่งเห็นสายตาที่ชวนให้หัวใจเต้นแรงเมื่อยามร่างสูงตื่นแบบนั้น จุนซูก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากเก็บเรื่องที่ถูกจุมพิตไว้กับตัวเองเพียงผู้เดียว ร่างเล็กยืนพิงประตูห้องอยู่พักหนึ่งในขณะที่ใช้เรียวนิ้วของสัมผัสริมฝีปากของตนเองแผ่วเบา
ถึงจะรวดเร็ว อบอุ่นและเจ็บปวดราวกับตื่นจากความฝัน
แต่แค่นั้นมันก็เพียงพอแล้วสำหรับเขา
“หวา
!”
ร่างเล็กที่เอนกายไปกับประตูต้องร้องออกมาเสียงดังเมื่อประตูห้องถูกเปิดออกจนต้องหงายหลัง จุนซูหลับตาปี๋เตรียมรับความเจ็บปวดที่จะต้องหลังกระแทกพื้น
ถ้าเพียงแต่ไม่มีอ้อมแขนอบอุ่นรับร่างกายของเขาเอาไว้
“จุนซู! นายทำอะไรของนายน่ะ!”
เสียงทุ้มพร่าที่คุ้นเคยทำให้คนตัวเล็กเงยหน้าไปมองเจ้าของอ้อมแขนอบอุ่นนั้น ดวงหน้าหวานขึ้นสีระเรื่ออย่างน่ารัก
“คะ
คือว่าฉันแบบว่า
ยืนพิงประตูอยู่ แล้วยูชอนก็เปิดประตู
ฉันก็เลย
”
ยูชอนส่ายหัวเล็กน้อยให้กับคนตัวเล็กที่เป็น ‘เพื่อนสนิท’ ของเขา ก่อนที่จะพูดเสียงดุ
“ทีหลังระวังหน่อยสิ ถ้าเกิดว่าไม่มีใครรับขึ้นมาจะเป็นยังไงหืม?”
แม้แต่น้ำเสียงที่ใช้ตำหนิก็ยังอ่อนโยนและอบอุ่นไปถึงหัวใจ จุนซูคลี่ยิ้มกว้างออกมาอย่างน่ามองก่อนที่จะกล่าวเสียงใส
“ขอบคุณนะยูชอน รีบไปกินข้าวกันดีกว่านะ~ป่านนี้พี่แจจุงหงุดหงิดแย่แล้วมั้ง”
คนตัวสูงกว่าได้แต่ปล่อยให้คนตรงหน้ากึ่งจูงกึ่งลากลงไปชั้นล่าง เมื่อครู่นี้แม้ว่าจะไม่อยากยอมรับเหมือนทุกครั้ง แต่เขาก็เอ็นดูและรักรอยยิ้มของคิม จุนซูมากจริงๆ เพราะมันช่างเป็นรอยยิ้มที่ไร้เดียงสาและสดใสเสียจนอยากจะปกป้องไว้ตลอดไปเหลือเกิน
แต่ดูเหมือนว่าความรักและสายตาของเขากลับไปจดจ้องอยู่ที่คิม แจจุงมากกว่าเสียอย่างนั้น
“กว่าจะลงมาได้นะ ให้ตายสิยูชอน จะกินข้าวเที่ยงแทนข้าวเช้ารึยังไง จุนซูก็เหมือนกัน คราวหลังปลุกยูชอนเร็วๆเลยเข้าใจมั้ย?”
เมื่อมาถึงที่โต๊ะอาหารที่ทุกคนนั่งลงพร้อมหน้าพร้อมตาแล้ว แม่บ้านของวงก็บ่นเข้าให้เสียชุดใหญ่
“ฮะ
” คนตัวเล็กหน้าเจื่อนพยักหน้าหงึกๆ
“จะไปตอบทำไมเล่าจุนซู ไม่ใช่ความผิดนายสักหน่อย พี่แจจุงเค้าก็แค่บ่นอะไรไปตามเรื่องนั่นแหละน่า”
“ปาร์ค ยูชอน!”
เมื่อแจจุงแกล้งขึ้นเสียงและทำท่าจะดึงจานข้าวออกไปจากตรงหน้า ยูชอนก็รีบคว้าไว้แล้วขอโทษขอโพยแทบจะในทันที
“กลัวแล้วคร้าบบ! อย่าเอาข้าวของผมไปเลยย
”
เสียงที่บีบให้เล็กลงดูเหมือนจะเรียกเสียงหัวเราะจากทุกคนได้ไม่ยาก จุนซูที่หัวเราะออกมาแต่สายตาก็ยังคงจับจ้องที่เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาเคียงข้างกาย
ยูชอนเป็นพวกชอบแกล้งชอบแหย่คนที่ชอบ
เรื่องนั้นเขาก็รู้ดี
เพราะสายตาของยูชอนที่มองพี่แจจุงมันช่างอบอุ่นและเต็มไปด้วยความรัก
สายตาที่เขาหวังว่าจะได้รับมันสักครั้ง
จุนซูส่ายหน้าช้าๆในขณะที่เหลือบมองแจจุง ใบหน้าขาวหวานที่แม้แต่ตัวของเขายังต้องยอมรับว่าแจจุงเป็นคนสวย
สวยกว่าผู้หญิงหลายๆคนแถมยังดูหล่อเหลาคมคายไปในเวลาเดียวกัน งานบ้านงานเรือนก็ดี ทำกับข้าวก็เก่ง ดูเป็นคนที่ดีไปซะทุกอย่าง
จะอิจฉาพี่แจจุงไม่ได้นะ
ทำไมเราถึงเป็นคนแบบนี้
ทั้งๆที่ถ้าเป็นเรา เราก็คงชอบพี่แจจุงเหมือนกันนั่นแหละ
“จุนซู
เป็นอะไรน่ะ..?”
เสียงของหัวหน้าวงดังขึ้นทำให้เสียงหัวเราะหยุดกันชั่วคราว ทุกคนพร้อมใจกันหันหน้าจ้องมองคนตัวเล็กที่ทำหน้าเหรอหรา
“
เปล่าฮะ ไม่ได้เป็นอะไร
”
มือหนาของยุนโฮที่มาทาบหน้าผากทำให้จุนซูสะดุ้งเล็กน้อยอีกครั้งหนึ่ง
“ตัวก็ไม่ร้อนนี่ นายน่ะดูแลตัวเองซะบ้างนะ”
“ฮะ
”
จุนซูยิ้มรับความรู้สึกอบอุ่นจากยุนโฮ เขารู้ว่ายุนโฮรักและเป็นห่วงเขามากแค่ไหน ยุนโฮเป็นคนที่เขารักมากราวกับเป็นพี่ชายคนหนึ่ง และเขาก็มั่นใจว่ายุนโฮก็เห็นเขาเป็นน้องชายคนหนึ่งเท่านั้น เพราะว่า
“แจจ๋า~ ตักกับข้าวให้หน่อยสิ~~”
นั่นไงล่ะ ไม่ทันที่ความคิดจะแล่นไปถึง คนหน้าหมีก็หันไปอ้อนแจจุงที่หันมาทำหน้าดุใส่ซะแล้ว
“ตักเองไปสิ มือก็มีไม่ใช่รึไง!”
“โหยยย
”
ใบหน้าคมเข้มทำหน้าบู้เหมือนกับเด็กที่ไม่ได้รับการตามใจ และนั่นทำให้คนบนโต๊ะหัวเราะออกมาอีกครั้งหนึ่ง
แววตาของยูชอนดูหม่นลง
เหมือนๆกับแววตาของคนตัวเล็กเคียงข้างที่จับจ้องอยู่นั้นก็เศร้าลง
วังวนความรู้สึกแบบนี้
ต้องจมอยู่กับมันไปนานแค่ไหนนะ
?
+++++++++++++++++++++++++++++++++
“จุนซู ยูชอน พี่กับยุนโฮจะออกไปข้างนอก จะเอาอะไรรึเปล่า?”
เสียงหวานดังขึ้นถามคนสองคนที่กำลังใจจดใจจ่ออยู่กับเกมส์ตรงหน้า
“ไม่เอาฮะ ขอบคุณมากฮะ”
คนตัวเล็กหันหน้าไปตอบทั้งๆที่มือยังกดเกมส์ไม่เลิก แต่พอหันหน้ามาอีกที คำว่า ‘You Lose’ ตัวสีแดงใหญ่ก็ขึ้นอยู่เต็มหน้าจอเสียแล้ว
“อ๊า!! แพ้ได้ยังไงอ้ะ! ยูชอนขี้โกง!”
“อะไร? ฉันก็เล่นตามปกติ นายนั่นแหละฝีมือไม่ดีเอง~”
ยูชอนพูดเสียงสูงเมื่อเห็นคนตัวเล็กส่งค้อนมาให้วงโต
“ยูชอนฉวยโอกาสตอนฉันหันไปตอบพี่แจจุงนี่! ฉันไม่อยากเล่นกับยูชอนแล้ว!”
คนตัวเล็กหน้ามุ่ยพลางดันคนสูงกว่าให้ออกห่างจากหน้าจอโทรทัศน์ ยูชอนได้แต่หัวเราะเริงร่ากับท่าทีน่ารักของคนตรงหน้าที่มองยังไงก็ไม่เบื่อเสียที
อย่างน้อยก็พอให้ลืมๆความเจ็บปวดไปได้บ้าง
แจจุงออกไปข้างนอกกับยุนโฮ ที่อาจเรียกได้ว่าไปเดทกัน ถึงสองคนนั้นจะปฏิเสธว่าแค่ไปซื้อของก็ตามทีเถอะ แต่ยูชอนก็รู้ดีว่าระหว่างสองคนนั้นมีอะไรที่มากกว่านั้น อดยอมรับไม่ได้ว่าอย่างน้อยเขาก็ไม่เคยได้ยินจากปากคนหน้าสวย เขาเลยยังรู้สึกว่าเขามีความหวัง
“เล่นกันอีกรอบเถอะ ยูชอน”
“อ้าว ไหนบอกว่าไม่เล่นกับฉันแล้วไงล่ะ?”
“
กะ
ก็
” คนตัวเล็กอึกอักก่อนที่จะเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย “ฉันเคยพูดอย่างนั้นด้วยเหรอ?”
จุนซูจำต้องเสียหน้าปล่อยให้ยูชอนหัวเราะร่าไปแบบนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นแววตาที่เขาหลงใหลหม่นหมองลงแบบนั้นล่ะก็ เขาคงจะไม่มีทางพูดแบบนั้นหรอก..
ให้ยูชอนสบายใจก็พอแล้ว
เพราะนายอ่อนไหวง่ายแบบนี้ ฉันก็เลยไม่สบายใจน่ะสิ
อย่าเจ็บปวดอีกเลยนะยูชอน
เพราะฉันเจ็บกว่านั้น
ไม่รู้กี่เท่า..
.
“ชางมิน~~หิวข้าวอ้ะ
”
ยูชอนที่เดินลงมาจากชั้นบนปรายสายตามองคนตัวเล็กที่เกาะแขนของน้องเล็กสุดของวงที่ทำหน้าอยากลาโลกอย่างออดอ้อน
“แล้วพี่จะมาบอกผมทำอะไรไม่ทราบครับ?”
“ยังไม่เข้าใจเจตนาฉันอีกเหรอ~”
“
พี่นี่มัน
”
คนตัวสูงกว่าที่กำลังจะหันหน้าไปตำหนิคนตัวเล็กเข้าหน่อย แต่พอเห็นสายตาอ้อนๆที่ใช้กับใครต่อใครได้ผลชะงัดนั้นก็ต้องใจอ่อน ชางมินกลอกตาไปมาอย่างเบื่อหน่ายที่ไม่ว่ายังไงก็ต้องยอมคนน่ารักตรงหน้าอยู่ร่ำไป
“โอเค โอเค ผมไปซื้อให้ก็ได้ เอาอะไรล่ะ?”
“เย้! พี่รักชางมินที่สุดเล้ย~!”
“เวอร์ไป ขี้เกียจตัวเป็นขนแล้วนะพี่น่ะ ไหนเงินล่ะ?”
“ออกให้หน่อยไม่ได้เหรอ~”
“ฝันไปเถอะ”
“ใจร้ายชะมัด
งั้นเอาอะไรก็ได้ที่อร่อยๆ~” คนตัวเล็กพูดอุบอิบก่อนที่จะปิดท้ายอย่างอารมณ์ดีในขณะที่ยื่นเงินให้น้องชายตัวสูง
“เข้าใจแล้ว เข้าใจแล้ว ขอค่าเหนื่อยให้ด้วยล่ะ”
ชางมินถอนหายใจน้อยๆในขณะที่คว้าหมวกและแว่นตาสีเข้มพร้อมกับเดินออกไปข้างนอก ยูชอนที่หน้านิ่วคิ้วขมวดจึงค่อยๆเดินมาหาคนตัวเล็กที่ยืนโบกมืออยู่หน้าบ้าน
ทำไมเขาถึงไม่ชอบใจที่เห็นจุนซูไปอ้อนชางมินแบบนั้นนะ?
“ถ้าหิวทำไมไม่ไปซื้อเองล่ะ?”
“
ก็ฉันขี้เกียจออกจากบ้านนี่นา~”
คนน่ารักหันมายิ้มแหะๆให้กับยูชอนที่ทำหน้าดุๆ ภายในใจของร่างสูงรู้สึกหงุดหงิดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จนเผลอยื่นมือไปสัมผัสไหล่ของคนตัวเล็กที่สะดุ้งเล็กน้อย
“ยูชอน?”
“เอ้อ
ไม่มีอะไร จะเข้าไปข้างในได้รึยัง?”
จุนซูคลี่ยิ้มน้อยๆอย่างน่ารักพร้อมกับพยักหน้าหงึกหงัก “อื้ม”
..
“
อ๊ะ ดูสิ! คอนเสิร์ตล่ะ! ที่บูโดกันใช่มั้ย?”
จุนซูที่นั่งกอดหมอนนิ่มดูโทรทัศน์ในห้องนั่งเล่นเรียกร่างสูงที่อ่านหนังสืออยู่ในเงยหน้าขึ้นมอง
“อืม
Step by step
.”
สายตาของคนตัวเล็กที่จดจ้องอยู่กับโทรทัศน์หม่นลง เมื่อเห็นยูชอนในทีวีที่กำลังจับมืออยู่กับแจจุงตอนช่วงเพลง Step by step แม้จะเป็นเพียงช่วงเสี้ยววินาที แต่เขาจำได้ดีว่าตอนนั้นภายในใจเขารู้สึกเจ็บแค่ไหน แม้ว่าจะเป็นเรื่องปกติที่ยูชอนชอบสัมผัสตัวคนอื่นในวง แต่เขาก็อดเก็บมาคิดไม่ได้
และวันนี้ในเห็นมันอีกครั้งหนึ่งผ่านหน้าจอโทรทัศน์ จุนซูก็ได้แต่จ้องภาพนั้นอย่างเงียบๆ
“
ไหม
”
“
.หือ?”
เจ้าของเสียงทุ้มพร่าอันเป็นเสน่ห์เงยหน้าขึ้นจากหนังสือในมืออีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงคนตัวเล็กที่พูดออกมาแผ่วเบาจนไม่อาจจะได้ยิน
“ยูชอนน่ะ
”
“
”
“รักพี่แจจุงมากๆเลยใช่ไหม?”
จู่ๆอะไรบางอย่างก็ทำให้เขาถามออกไปแบบนั้น ภาพของยูชอนที่มักจะกอดคอแจจุงอยู่บ่อยครั้งวนเวียนอยู่ภายในสมอง สายตาของยูชอนที่มองแจจุงเด่นชัดจนต้องเผลอหลับตา
“
”
ดูเหมือนว่าปาร์ค ยูชอนจะอึ้งไม่น้อยกับคำถามนั้น เขารู้มาตลอดว่าเพื่อนตัวเล็กของเขารู้ดีว่าเขารู้สึกยังไง แต่ก็ไม่เคยเลยที่จะถูกถามตรงๆแบบนี้
“
ใช่มั้ย
ยูชอน?”
ร่างสูงเงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะเอ่ยตอบ
“อืม
ก็คงอย่างนั้น”
“นั่นสิน้า~ไม่แปลกหรอก สายตานายมันฟ้องซะขนาดนั้นน่ะ ขนาดพี่แจจุงยังบอกว่ามันหวานเลี่ยนเลย”
ยูชอนยิ้มเล็กน้อยอย่างขัดเขินเมื่อถูกล้อจากคนตัวเล็กที่พยายามทำน้ำเสียงให้ร่าเริงจนไม่เป็นที่ผิดสังเกต
“พี่ยุนโฮกับพี่แจจุง
สองคนนั้น
”
“
..”
“ฉันรู้ว่าฉันไม่มีหวัง แต่ฉันก็อดหวังไม่ได้ เพราะฉันชอบบอกตัวเองว่า เรื่องที่สองคนนั้นรู้สึกพิเศษต่อกันมันเป็นแค่สิ่งที่ฉันหลอกตัวเอง
”
“ยูชอน
”
“ฉันจะเดินหน้า หรือจะถอยหลัง ฉันไม่รู้จริงๆจุนซู
”
ยิ่งเห็นสีหน้าปวดร้าวของชายหนุ่มตรงหน้าแบบนั้น คนตัวเล็กก็ได้แต่โอบกอดคนตรงหน้าไว้เท่านั้น ในฐานะ ‘เพื่อน’ คนหนึ่ง
“ขอโทษนะยูชอน
ฉัน
ไม่น่าพูดถึงเรื่องนี้เลย
”
จุนซูอดที่จะหงุดหงิดตัวเองขึ้นมาไม่ได้ เขาไม่น่าพูดเรื่องที่ตัวเองรู้อยู่แล้วออกมาให้ยูชอนคิดมากเลย ทั้งๆที่เขารู้ดีว่าชายหนุ่มตรงหน้าอ่อนไหวแค่ไหน
ทำไมฉันถึงแย่แบบนี้นะ
ฉันขอโทษ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++
To Be Continued...
ความคิดเห็น