คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : - Ankylose - Chapter.2
Chapter.2
“ฮ้าว~ ง่วงชะมัดเลย
”
ภายในรถที่กำลังมุ่งหน้าไปยังสถานที่ที่พวกเขาต้องไปทำงาน ปาร์ค ยูชอนเอ่ยด้วยน้ำเสียงง่วงงุนหลังจากที่หาวซะวอดใหญ่จนคนตัวเล็กเคียงข้างได้แต่ยิ้มขำก่อนที่จะพูดด้วยรอยยิ้มน่ารัก
“ไม่ได้นะยูชอน เดี๋ยวเราต้องไปถ่ายรูปกันแล้วนะ”
“
ก็ฉันง่วงนี่นา
”
จุนซูถอนใจเบาๆในขณะที่จดจ้องใบหน้าคมคายที่จะหลับแหล่มิหลับแหล่ เขารู้ดีว่าร่างสูงเป็นคนที่ไม่ค่อยยอมนอนในเวลากลางคืนแต่กลับมานอนเอาตอนกลางวันซะแทน
ก็เพราะนิสัยอย่างนั้นน่ะสิ
หน้าตาถึงได้อิตโรยแบบนี้น่ะ
“ไหวรึเปล่าเนี่ย นายนี่มันจริงๆเลยนะยูชอน
อ๊ะ
!”
ร่างเล็กร้องเบาๆด้วยความตกใจเมื่อจู่ๆศีรษะของร่างสูงก็เอนมาซบกับไหล่ของตนเองเสียอย่างนั้น ดวงหน้าหวานกลมแดงปลั่งขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ในขณะที่เจ้าตัวพยายามไม่ให้คนอื่นๆในวงสังเกตเห็นมัน
“ยูชอน
!”
“ขอฉันนอนหน่อยเถอะนะจุนซู ง่วงจะตายอยู่แล้ว
”
เมื่อได้ยินเสียงของร่างสูงที่ฟังดูเหนื่อยล้าขนาดนั้น คิม จุนซูก็ได้แต่นิ่งเงียบก่อนที่จะพยักหน้ารับ และเป็นที่ซบให้กับยูชอนอย่างยินยอม
“
อื้ม
”
หลังจากที่ยูชอนแทบจะหลับไปในทันทีที่ได้ยินเสียงตอบรับจากคนตัวเล็ก ภายในรถก็เงียบลง ก่อนที่เสียงของหัวหน้าวงจะทำให้ร่างเล็กเกือบจะสะดุ้ง
“นายตามใจยูชอนเกินไปรึเปล่าหืม? จุนซู”
คนตัวเล็กเม้มริมฝีปากของตนเองก่อนที่จะส่งยิ้มแห้งๆให้กับยุนโฮ ก่อนที่จะพยายามหัวเราะและพูดจากลบเกลื่อน
“พูดอะไรอย่างนั้นฮะพี่ยุนโฮ
ผมไม่ได้ตามใจอะไรยูชอนสักหน่อย”
“จริงๆเลยนะ
เลิกใจดีเกินเหตุแบบนี้สักทีเถอะน่า”
แจจุงหันมาพูดยิ้มๆจนเรียกได้ว่าเป็นการแซวเสียมากกว่า ก่อนที่ตัวเองจะเอนไปซบไหล่ของยุนโฮบ้าง ซึ่งคนร่างสูงก็ยิ้มเล็กน้อยอย่างเต็มใจ
จุนซูมองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกแปลกๆทั้งหลายที่เข้ามาระคนปนเปกันจนแยกไม่ออก
ใจหนึ่งก็เข้าใจในความรู้สึกของพี่ทั้งสองที่เขารู้ดีว่ามีอะไรที่มากกว่านั้น
แต่อีกใจหนึ่ง ก็รู้สึกปวดแปลบเพราะความสงสารร่างสูงที่อยู่ข้างกายเขา
ยูชอน
เวลานายเห็นภาพนี้แล้วนายเจ็บปวดแค่ไหนกันนะ?
เหมือนเวลาที่ฉันเห็นนายมองพี่แจจุงรึเปล่า
มันเหมือนกันเลยใช่มั้ย
?
“นั่นแหละ เอียงไปทางซ้ายหน่อย เชิดหน้าขึ้นอีกนิดนึงครับ
นั่นแหละ
”
เสียงของช่างกล้องรวมไปถึงแสงแฟลชวูบวาบทำให้ร่างเล็กเผลอหยีตาอย่างน่ารัก ตอนนี้เป็นเวลาถ่ายรูปเดี่ยว คนอื่นๆในวงก็ไปพักผ่อนกันหมด อย่างยูชอนที่ถ่ายเสร็จเป็นรายแรกก็คงจะนอนสลบไสลไปกับโซฟาภายในห้องพักของพวกเขาไปแล้วล่ะมั้ง?
ทันทีที่ร่างเล็กถ่ายรูปจนเสร็จ จุนซูก็เดินออกมาจากฉากและตรงไปเรียกชิม ชางมิน น้องเล็กสุดของวงที่กำลังนั่งรอคิวต่อไปอยู่ให้มาถ่ายต่อ ดวงตาคมทว่าอ่อนโยนมีเสน่ห์ของร่างสูงทว่าอ่อนวัยกว่าเขานั้นจ้องมาที่ดวงหน้ากลมก่อนที่จะพูดเสียงแผ่ว
“วันนี้ดูไม่ค่อยมีสมาธิเลยนะครับ พี่น่ะ
”
“..อ๊ะ
งั้นเหรอ
”
ร่างเล็กยิ้มแห้งในขณะที่ชางมินทำเพียงหัวเราะน้อยๆแต่เป็นเวลาร่วมหลายนาที จนจุนซูเริ่มที่จะพองลมที่แก้มใสอย่างแสนงอนและน่ารัก
“ฮ่าๆๆ ตลกชะมัดเลย หน้าพี่จุนซูตอนนี้น่ะ
โอ้ย
!”
ชางมินร้องออกมาเมื่อกำปั้นเล็กทุบเข้าที่ต้นแขนดังอั่ก
“เงียบเดี๋ยวนี้นะชางมิน! ไปถ่ายรูปเลยไป๊!”
เสียงเล็กแหวพร้อมกับใช้มือเรียวดันๆแผ่นหลังกว้างของชางมินให้รีบๆเดินเข้าฉากไปเร็วๆ ร่างสูงหันมายิ้มเล็กน้อยก่อนที่จะทำสีหน้าจริงจังเมื่อปรายสายตาเข้าหากล้อง โดยเผลอที่จะมองเจ้าของร่างเล็กที่กำลังดื่มน้ำอยู่ไม่ไกลจากที่ที่เขายืนมากนัก
พี่จุนซูน่ารักตลอดเวลาเลยรึยังไงกันนะ
ความคิดนั้นทำให้ชางมินยิ้มออกมาน้อยๆ เขาไม่แปลกใจที่ตัวเองจะมีความคิดแบบนี้ และเขาก็ไม่คิดด้วยว่านั่นจะเป็นความรัก เพราะมันเป็นเพียงความรู้สึกดีๆที่เขาซึ่งเป็นน้องจะมีต่อพี่ในวงคนหนึ่งก็เท่านั้น
แค่อยากปกป้อง ไม่ได้หมายถึงว่าอยากครอบครอง
ทำไมเขาจะไม่รู้ถึงความสัมพันธ์ของพวกพี่ๆในวง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่พี่ยูชอนรักพี่แจจุง หรือพี่จุนซูรักพี่ยูชอน เรื่องพวกนั้นเขาเองก็รู้ทั้งหมด เพียงแต่เลือกที่จะไม่พูดออกมาก็เพียงเท่านั้น
แต่เขาก็ไม่ปฏิเสธว่าบางครั้ง ก็รู้สึกหงุดหงิดยูชอนที่ทำให้ร่างเล็กที่บริสุทธิ์ ใสซื่ออย่างคิม จุนซู ต้องมาเศร้าเสียใจเพราะความรักที่ไม่สมหวัง แต่เขาก็ไม่อาจที่จะโกรธยูชอนได้จริงๆเสียที เมื่อเขารู้ดีว่ายูชอนเองก็เจ็บปวดในความรักไม่แพ้กัน
“ชางมิน เดี๋ยวถ่ายเสร็จแล้วรบกวนตามจุนซูกับยูชอนมาที่นี่อีกครั้งหนึ่งนะ”
คำพูดของช่างกล้องทำให้ชิม ชางมินขมวดคิ้วเล็กน้อยอย่างงุนงง
“พวกพี่ๆเขาถ่ายเสร็จไปแล้วไม่ใช่เหรอครับ?”
“พอดีมีคอนเซปต์รูปคู่น่ะ ช่วงนี้กระแสยูซูมาแรงพอๆกับยุนแจซะด้วยสิ เอาเป็นว่ารบกวนตามให้พี่หน่อยนะ”
“
.ครับ
”
ร่างสูงพยักหน้ารับแม้ว่าภายในใจจะรู้สึกไม่ค่อยสู้ดีเท่าใดนัก เมื่อถ่ายรูปเสร็จ เขาก็ก้าวไปที่ห้องพักก่อนที่จะค่อยๆเปิดประตูออกอย่างแผ่วเบา เพราะกลัวที่จะรบกวนยูชอนที่มาหลับอยู่ในห้องนี้
เจ้าของดวงตาคมนิ่งอึ้งไปเล็กน้อยเมื่อเห็นรุ่นพี่ร่างเล็กที่คุ้นเคยกำลังปัดผมที่มาปรกอยู่บนใบหน้าคมคายของเจ้าของเสียงทุ้มพร่าอย่างอ่อนโยนด้วยใบหน้าหม่นๆที่มักจะถูกกลบเกลื่อนด้วยเสียงหัวเราะของเจ้าตัวเสมอๆ
“พี่จุนซู”
ชางมินเรียกชื่อของคนตัวเล็กในขณะที่เปิดประตูให้กว้างขึ้นด้วยสีหน้าปกติราวกับไม่เห็นเหตุการณ์ที่ผ่านมาเมื่อครู่ จุนซูสะดุ้งก่อนที่จะผละออกมาจากร่างสูงที่หลับเป็นตายอยู่แทบจะในทันที
“อะ
เอ้อ
ถ่ายเสร็จแล้วเหรอ
”
“ครับ พี่ตากล้องเขาให้ผมมาตามพี่กับพี่ยูชอนน่ะ”
“พี่กับยูชอนน่ะเหรอ? แต่พวกเราถ่ายเสร็จไปแล้วนี่นา
” ร่างเล็กพูดพร้อมกับเอียงคอน้อยๆอย่างน่ารัก
“เขาบอกว่า
” ร่างสูงนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนที่จะพูดต่อ “ช่วงนี้กระแสยูซูมาแรงน่ะครับ ผมว่ายังไงพี่ปลุกพี่ยูชอนแล้วก็รีบไปเถอะ”
ประกายความเศร้าหมองที่สะท้อนมาจากแววตาใสของร่างเล็กตรงหน้าชั่ววินาทีหนึ่งทำให้ชางมินรู้สึกเจ็บแปลบตามไปด้วย ก่อนที่จะสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อจู่ๆคนตัวเล็กก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้พร้อมกับรอยยิ้ม
“เป็นอะไร? เหนื่อยมากล่ะสิท่า~ เมื่อคืนอ่านหนังสือดึกล่ะสินายน่ะ ฉันรู้นะ”
“ก็มันใกล้สอบแล้วนี่ครับ ช่วยไม่ได้นี่” ชางมินกล่าวตอบยิ้มๆ
“อย่าโหมให้มันมากไปเลยนายน่ะ แค่งานก็เหนื่อยจะแย่แล้วไม่ใช่รึไง แต่ก็สู้ๆเค้าแล้วกันนะ~”
จุนซูยิ้มให้อย่างสดใสน่ารักและทำท่า ‘ไฟท์ติ้ง!’ จนร่างสูงได้แต่หัวเราะในความน่ารักซื่อๆของคนตรงหน้าเพียงเท่านั้น
เขาชอบคิม จุนซูที่เป็นแบบนี้ จุนซูที่น่ารัก ใสซื่อ และคอยเป็นห่วงเป็นใยคนในวงตลอดเวลามากกว่าตัวเองเสียอีก ทั้งๆที่ร่าเริงและเป็นกำลังใจให้คนอื่นได้ดีแท้ๆ แต่ทำไมกับตัวเองแล้วถึงไม่ยอมแสดงความรู้สึกเสียใจให้พวกเขาเห็นตรงๆบ้างนะ
“ผมว่าตอนนี้พี่ไปปลุกพี่ยูชอนก่อนเถอะ เดี๋ยวพวกช่างกล้องจะรอนานนะฮะ”
คนตัวเล็กพยักหน้าน้อยๆก่อนที่จะค่อยๆเดินไปหาร่างสูงที่กำลังนอนหลับอยู่บนโซฟา ดวงตาใสแป๋วทอดมองใบหน้าคมคายนั้นอย่างอ่อนโยนก่อนที่จะค่อยๆเขย่าตัวเรียกด้วยเสียงผะแผ่ว
“ยูชอน
”
“
.”
“นี่ยูชอน
ตื่นได้แล้วนะ
”
คนตัวเล็กว่าพร้อมกับเขย่ากายของร่างสูงในห้วงนิทราอย่างแผ่วเบาจนชางมินได้แต่ถอนหายใจยิ้มๆ เมื่อความรู้สึกของคำว่ารักที่ถ่ายทอดออกมาจากการกระทำของคนตัวเล็กนั้นมีมากเสียจนสังเกตได้ง่ายเหลือเกิน
“มีอะไรอีกล่ะจุนซู
.?” เสียงงัวเงียของคนเพิ่งตื่นจากการงีบทำให้โลมาน้อยยิ้มขำ
“ตากล้องเค้าเรียกถ่ายรูปน่ะ”
“อีกแล้วเหรอ แต่ว่าฉันถ่ายเสร็จไปแล้วนี่นา
”
เสียงงัวเงียเหมือนคนไม่รับรู้อะไรของยูชอนทำให้จุนซูหัวเราะออกมาน้อยๆอีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะพูดด้วยน้ำเสียงโทนเดิมที่ปรับให้ดุขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นว่ายูชอนทำท่าจะหลับไปอีกครั้งหนึ่ง
“เค้าจะให้ไปถ่ายรูปคู่กับฉันน่ะสิ
ตื่นก่อนน่า
”
“รูปคู่
ถ่ายทำไม
?”
“เอาเถอะน่า! ลุกเร็วเข้าซี่!”
ร่างเล็กรู้สึกปวดหนึบที่หน้าอกข้างซ้ายเมื่อน้ำเสียงงัวเงียของร่างสูงดูไม่ใส่ใจต่อคำว่า ‘รูปคู่’ สักเท่าไหร่ แต่เขาก็รู้ดีกว่ายูชอนที่กำลังง่วงนอนมักจะเป็นแบบนี้อยู่เสมอ จึงได้แต่สลัดความคิดฟุ้งซ่านนั้นทิ้งไปซะ
..
“ใกล้กันอีกนิดนึงครับ จุนซูหันไปมองอีกทางนึงนะ”
นี่มันใกล้กันเกินไปแล้วนะ!
คนตัวเล็กพยายามตั้งสติทำสีหน้านิ่งๆเข้าหากล้องทั้งๆที่ภายในหัวใจเต้นไม่เป็นส่ำ ในเมื่อร่างสูงๆของยูชอนอยู่ใกล้กับเขาจนจะซ้อนตัวกันอยู่แล้ว ลมหายใจอุ่นๆของคนที่อยู่ด้านหลังทำให้เขารู้สึกขัดเขินเสียจนทำอะไรไม่ถูก นึกขอบคุณที่อย่างน้อยคนจัดฉากและจัดท่าก็ยังใจดีพอที่จะไม่ต้องให้เขาเผชิญหน้ากับสายตาของยูชอนที่สามารถทำให้ใครต่อใครถึงกับละลายได้เพียงแค่ปรายนัยน์ตาคมจดจ้องเท่านั้น
ยูชอน
ยูชอน
ยูชอน
ภายในโสตประสาทและสมองของร่างเล็กมีแต่ชื่อของชายหนุ่มวนเวียนไปมาจนรู้สึกสั่นเทิ้ม แต่ก็ต้องตีสีหน้าให้เป็นปกติอย่างที่เคยทำอยู่บ่อยครั้งเพื่อให้งานออกมาดีที่สุด
เขาจะเอาความรู้สึกส่วนตัวมาปนกับงานไม่ได้
งานก็คืองาน..
.
.
.
แฟนเซอร์วิส
ก็คือแฟนเซอร์วิส..
เรื่องแค่นั้น
ทำไมเขาจะไม่รู้ล่ะ..
“เอาล่ะ
เรียบร้อยแล้ว ขอบคุณสำหรับวันนี้นะครับ”
“ขอบคุณมากครับ!”
จุนซูและยูชอนเอ่ยขึ้นพร้อมกันในขณะที่โค้งเล็กน้อยด้วยรอยยิ้มจางๆ ยูชอนเดินไปอีกทางหนึ่งในขณะที่จุนซูปรายสายตามองเล็กน้อยก่อนที่จะตัดสินใจเดินตาม
“หายง่วงรึยังล่ะยูชอน?”
จุนซูเอ่ยถามยิ้มๆในขณะที่ร่างสูงทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟานุ่ม ยังไม่ทันที่ยูชอนจะเอ่ยตอบ เสียงจากด้านหลังก็ทำให้บทสนทนาหยุดชะงัก
“พวกนายถ่ายกันเสร็จแล้วเหรอ?”
เสียงทุ้มหวานของแจจุงเอ่ยขึ้นในขณะที่ก้าวเท้าเข้ามาในห้องพักโดยที่มียุนโฮเดินตามมาติดๆ จุนซูปรายตามองยูชอนที่จดจ้องใบหน้าหวานของร่างบางอย่างเงียบงันก่อนที่จะตอบคำถามนั้น
“ถ่ายเสร็จแล้วฮะ พี่แจจุงคิวต่อไปไม่ใช่เหรอ?”
“ก็กำลังจะไปเนี่ยล่ะ ยูชอน! ถ้าง่วงนักทีหลังก็นอนแต่หัวค่ำซะสิ ไม่ยอมนอนกลางคืนถึงได้เป็นแบบนี้น่ะ”
คุณแม่ของวงบ่นขึ้นมาในขณะที่ตัวเองนั่งส่องกระจกเช็คความเรียบร้อยของเสื้อผ้า ยูชอนยิ้มเล็กน้อยในขณะที่ยักไหล่อย่างจงใจกวนประสาทเหมือนที่ชอบทำ
“นายนี่มันจริงๆเลยนะ จุนซู
นายเองก็อย่าตามใจยูชอนนักสิ”
“
ผมไม่ได้ตามใจยูชอนสักหน่อยนะ! ผมพยายามแล้วยูชอนไม่ยอมนอนเองต่างหาก”
“ใช่ๆ จุนซูน่ะตามใจผมซะที่ไหนล่ะ~ จุนซูขี้บ่นจะตาย”
ยูชอนได้ทีกล่าวแกล้งคนตัวเล็กที่หันมาแก้มป่องใส่อย่างน่ารักจนต้องหัวเราะออกมาอย่างช่วยไม่ได้
ร่างบางหน้าหวานส่ายหน้ากับ ‘คู่’ ตรงหน้าแม้จะมีรอยยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย ก่อนที่จะปรายสายตามองไปยังหัวหน้าวงที่กำลังขยี้ผมจุนซูอย่างเอ็นดู
ยุนโฮรักและหวงจุนซูมาก
เรื่องนั้นเขาและคนในวงต่างก็รู้ดี
แจจุงคิดอะไรเรื่อยเปื่อยก่อนที่จะปรายสายตามองยูชอนที่กำลังมองจุนซูอยู่อย่างเงียบงัน เขาไม่รู้ถึงความสัมพันธ์ของเด็กสองคนนี้ แต่ก็รู้ดีที่สุดว่าจุนซูให้ความสำคัญกับยูชอนมากกว่าใครๆ
ยูชอน
ถ้านายทำจุนซูร้องไห้
อย่าหาว่าฉันไม่เตือนนะ!
+++++++++++++++++++++++++++++++++++
วันนี้เป็นวันหยุดที่ได้พักผ่อนจากตารางงานที่แน่นเอี๊ยดตลอดร่วมสองอาทิตย์ โลมาน้อยที่ถูกแจจุงเคาะประตูมาปลุกตั้งแต่ยังไม่เที่ยงทำให้คนตัวเล็กรู้สึกเสียดายเล็กน้อย ดวงตาเรียวใสปรายมองร่างสูงที่ยังคงนอนคุดคู้อยู่ในเตียงด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน
“จุนซู! ปลุกยูชอนเดี๋ยวนี้เลย! ข้าวเช้าจะกลายเป็นข้าวเที่ยงอยู่แล้วนะ!”
แม้ว่าจะไม่อยากปลุกร่างสูงที่กำลังหลับสบายอยู่เท่าใดนัก แต่เสียงของแจจุงที่ตะโกนขึ้นมาเร่งก็ทำให้ต้องปลุกอย่างเสียไม่ได้
“ยูชอน
นี่ ยูชอน
”
“อืมมม
.”
ร่างสูงขมวดคิ้วเล็กน้อยอย่างไม่พึงใจที่ถูกปลุกทั้งๆที่ยังไม่ปรือตาขึ้นแต่กลับนอนหันตะแคงหนีไปอีกด้านหนึ่ง
“ยูชอน
อ๊ะ
!”
ดวงตาใสเบิกกว้างเมื่อจู่ๆมือหนาก็ดึงตนเองเข้าไปหาจนริมฝีปากสัมผัสกัน ดวงหน้าน่ารักแดงวาบขึ้นในขณะที่รีบขืนตัวออกมาจากอ้อมแขนแกร่งนั้นพร้อมๆกับสัมผัสริมฝีปากของตนเองแผ่วเบา
เมื่อกี้
มัน
ยังไม่ทันที่จะตั้งสติหรือคิดอะไร เสียงงัวเงียพึมพำราวของคนที่กำลังละเมอก็ดังขึ้นมาทำให้หัวใจดวงเล็กแตกสลายไม่มีชิ้นดี
“
พี่
แจจุง
.”
+++++++++++++++++++++++++++++
To Be Continued...
ความคิดเห็น