ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [TVXQ Fiction] - Ankylose - [YooSu,Yunjae,MinRic]

    ลำดับตอนที่ #2 : - Ankylose - Chapter.2

    • อัปเดตล่าสุด 15 ธ.ค. 52


    Chapter.2

     

     

    ฮ้าว~ ง่วงชะมัดเลย…”

     

    ภายในรถที่กำลังมุ่งหน้าไปยังสถานที่ที่พวกเขาต้องไปทำงาน ปาร์ค ยูชอนเอ่ยด้วยน้ำเสียงง่วงงุนหลังจากที่หาวซะวอดใหญ่จนคนตัวเล็กเคียงข้างได้แต่ยิ้มขำก่อนที่จะพูดด้วยรอยยิ้มน่ารัก

     

    ไม่ได้นะยูชอน เดี๋ยวเราต้องไปถ่ายรูปกันแล้วนะ

     

    “…ก็ฉันง่วงนี่นา…”

     

    จุนซูถอนใจเบาๆในขณะที่จดจ้องใบหน้าคมคายที่จะหลับแหล่มิหลับแหล่ เขารู้ดีว่าร่างสูงเป็นคนที่ไม่ค่อยยอมนอนในเวลากลางคืนแต่กลับมานอนเอาตอนกลางวันซะแทน


     

     

    ก็เพราะนิสัยอย่างนั้นน่ะสิหน้าตาถึงได้อิตโรยแบบนี้น่ะ

     


     

    ไหวรึเปล่าเนี่ย นายนี่มันจริงๆเลยนะยูชอนอ๊ะ…!”

     

    ร่างเล็กร้องเบาๆด้วยความตกใจเมื่อจู่ๆศีรษะของร่างสูงก็เอนมาซบกับไหล่ของตนเองเสียอย่างนั้น ดวงหน้าหวานกลมแดงปลั่งขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ในขณะที่เจ้าตัวพยายามไม่ให้คนอื่นๆในวงสังเกตเห็นมัน

     

    ยูชอน…!”

     

    ขอฉันนอนหน่อยเถอะนะจุนซู ง่วงจะตายอยู่แล้ว…”

     

    เมื่อได้ยินเสียงของร่างสูงที่ฟังดูเหนื่อยล้าขนาดนั้น คิม จุนซูก็ได้แต่นิ่งเงียบก่อนที่จะพยักหน้ารับ และเป็นที่ซบให้กับยูชอนอย่างยินยอม

     

    “…อื้ม…”

     

    หลังจากที่ยูชอนแทบจะหลับไปในทันทีที่ได้ยินเสียงตอบรับจากคนตัวเล็ก ภายในรถก็เงียบลง ก่อนที่เสียงของหัวหน้าวงจะทำให้ร่างเล็กเกือบจะสะดุ้ง

     

    นายตามใจยูชอนเกินไปรึเปล่าหืม? จุนซู

     

    คนตัวเล็กเม้มริมฝีปากของตนเองก่อนที่จะส่งยิ้มแห้งๆให้กับยุนโฮ ก่อนที่จะพยายามหัวเราะและพูดจากลบเกลื่อน

     

    พูดอะไรอย่างนั้นฮะพี่ยุนโฮผมไม่ได้ตามใจอะไรยูชอนสักหน่อย

     

    จริงๆเลยนะเลิกใจดีเกินเหตุแบบนี้สักทีเถอะน่า

     

    แจจุงหันมาพูดยิ้มๆจนเรียกได้ว่าเป็นการแซวเสียมากกว่า ก่อนที่ตัวเองจะเอนไปซบไหล่ของยุนโฮบ้าง ซึ่งคนร่างสูงก็ยิ้มเล็กน้อยอย่างเต็มใจ

     

    จุนซูมองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกแปลกๆทั้งหลายที่เข้ามาระคนปนเปกันจนแยกไม่ออก

     


     

    ใจหนึ่งก็เข้าใจในความรู้สึกของพี่ทั้งสองที่เขารู้ดีว่ามีอะไรที่มากกว่านั้น

     

    แต่อีกใจหนึ่ง ก็รู้สึกปวดแปลบเพราะความสงสารร่างสูงที่อยู่ข้างกายเขา

     


     

    ยูชอนเวลานายเห็นภาพนี้แล้วนายเจ็บปวดแค่ไหนกันนะ?

     

    เหมือนเวลาที่ฉันเห็นนายมองพี่แจจุงรึเปล่ามันเหมือนกันเลยใช่มั้ย?

     

     


    …………

     


     

    นั่นแหละ เอียงไปทางซ้ายหน่อย เชิดหน้าขึ้นอีกนิดนึงครับ นั่นแหละ…”

     

    เสียงของช่างกล้องรวมไปถึงแสงแฟลชวูบวาบทำให้ร่างเล็กเผลอหยีตาอย่างน่ารัก ตอนนี้เป็นเวลาถ่ายรูปเดี่ยว คนอื่นๆในวงก็ไปพักผ่อนกันหมด อย่างยูชอนที่ถ่ายเสร็จเป็นรายแรกก็คงจะนอนสลบไสลไปกับโซฟาภายในห้องพักของพวกเขาไปแล้วล่ะมั้ง?

     

    ทันทีที่ร่างเล็กถ่ายรูปจนเสร็จ จุนซูก็เดินออกมาจากฉากและตรงไปเรียกชิม ชางมิน น้องเล็กสุดของวงที่กำลังนั่งรอคิวต่อไปอยู่ให้มาถ่ายต่อ ดวงตาคมทว่าอ่อนโยนมีเสน่ห์ของร่างสูงทว่าอ่อนวัยกว่าเขานั้นจ้องมาที่ดวงหน้ากลมก่อนที่จะพูดเสียงแผ่ว

     

    วันนี้ดูไม่ค่อยมีสมาธิเลยนะครับ พี่น่ะ…”

     

    “..อ๊ะงั้นเหรอ…”

     

    ร่างเล็กยิ้มแห้งในขณะที่ชางมินทำเพียงหัวเราะน้อยๆแต่เป็นเวลาร่วมหลายนาที จนจุนซูเริ่มที่จะพองลมที่แก้มใสอย่างแสนงอนและน่ารัก

     

    ฮ่าๆๆ ตลกชะมัดเลย หน้าพี่จุนซูตอนนี้น่ะโอ้ย…!”

     

    ชางมินร้องออกมาเมื่อกำปั้นเล็กทุบเข้าที่ต้นแขนดังอั่ก

     

    เงียบเดี๋ยวนี้นะชางมิน! ไปถ่ายรูปเลยไป๊!”

     

    เสียงเล็กแหวพร้อมกับใช้มือเรียวดันๆแผ่นหลังกว้างของชางมินให้รีบๆเดินเข้าฉากไปเร็วๆ ร่างสูงหันมายิ้มเล็กน้อยก่อนที่จะทำสีหน้าจริงจังเมื่อปรายสายตาเข้าหากล้อง โดยเผลอที่จะมองเจ้าของร่างเล็กที่กำลังดื่มน้ำอยู่ไม่ไกลจากที่ที่เขายืนมากนัก


     

     

    พี่จุนซูน่ารักตลอดเวลาเลยรึยังไงกันนะ


     

     

    ความคิดนั้นทำให้ชางมินยิ้มออกมาน้อยๆ เขาไม่แปลกใจที่ตัวเองจะมีความคิดแบบนี้ และเขาก็ไม่คิดด้วยว่านั่นจะเป็นความรัก เพราะมันเป็นเพียงความรู้สึกดีๆที่เขาซึ่งเป็นน้องจะมีต่อพี่ในวงคนหนึ่งก็เท่านั้น


     

     

    แค่อยากปกป้อง ไม่ได้หมายถึงว่าอยากครอบครอง


     

     

    ทำไมเขาจะไม่รู้ถึงความสัมพันธ์ของพวกพี่ๆในวง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่พี่ยูชอนรักพี่แจจุง หรือพี่จุนซูรักพี่ยูชอน เรื่องพวกนั้นเขาเองก็รู้ทั้งหมด เพียงแต่เลือกที่จะไม่พูดออกมาก็เพียงเท่านั้น

     

    แต่เขาก็ไม่ปฏิเสธว่าบางครั้ง ก็รู้สึกหงุดหงิดยูชอนที่ทำให้ร่างเล็กที่บริสุทธิ์ ใสซื่ออย่างคิม จุนซู ต้องมาเศร้าเสียใจเพราะความรักที่ไม่สมหวัง แต่เขาก็ไม่อาจที่จะโกรธยูชอนได้จริงๆเสียที เมื่อเขารู้ดีว่ายูชอนเองก็เจ็บปวดในความรักไม่แพ้กัน

     

    ชางมิน เดี๋ยวถ่ายเสร็จแล้วรบกวนตามจุนซูกับยูชอนมาที่นี่อีกครั้งหนึ่งนะ

     

    คำพูดของช่างกล้องทำให้ชิม ชางมินขมวดคิ้วเล็กน้อยอย่างงุนงง

     

    พวกพี่ๆเขาถ่ายเสร็จไปแล้วไม่ใช่เหรอครับ?

     

    พอดีมีคอนเซปต์รูปคู่น่ะ ช่วงนี้กระแสยูซูมาแรงพอๆกับยุนแจซะด้วยสิ เอาเป็นว่ารบกวนตามให้พี่หน่อยนะ

     

    “….ครับ…”

     

    ร่างสูงพยักหน้ารับแม้ว่าภายในใจจะรู้สึกไม่ค่อยสู้ดีเท่าใดนัก เมื่อถ่ายรูปเสร็จ เขาก็ก้าวไปที่ห้องพักก่อนที่จะค่อยๆเปิดประตูออกอย่างแผ่วเบา เพราะกลัวที่จะรบกวนยูชอนที่มาหลับอยู่ในห้องนี้

     

    เจ้าของดวงตาคมนิ่งอึ้งไปเล็กน้อยเมื่อเห็นรุ่นพี่ร่างเล็กที่คุ้นเคยกำลังปัดผมที่มาปรกอยู่บนใบหน้าคมคายของเจ้าของเสียงทุ้มพร่าอย่างอ่อนโยนด้วยใบหน้าหม่นๆที่มักจะถูกกลบเกลื่อนด้วยเสียงหัวเราะของเจ้าตัวเสมอๆ

     

    พี่จุนซู

     

    ชางมินเรียกชื่อของคนตัวเล็กในขณะที่เปิดประตูให้กว้างขึ้นด้วยสีหน้าปกติราวกับไม่เห็นเหตุการณ์ที่ผ่านมาเมื่อครู่ จุนซูสะดุ้งก่อนที่จะผละออกมาจากร่างสูงที่หลับเป็นตายอยู่แทบจะในทันที

     

    อะเอ้อถ่ายเสร็จแล้วเหรอ…”

     

    ครับ พี่ตากล้องเขาให้ผมมาตามพี่กับพี่ยูชอนน่ะ

     

    พี่กับยูชอนน่ะเหรอ? แต่พวกเราถ่ายเสร็จไปแล้วนี่นา…” ร่างเล็กพูดพร้อมกับเอียงคอน้อยๆอย่างน่ารัก

     

    เขาบอกว่า…” ร่างสูงนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนที่จะพูดต่อ ช่วงนี้กระแสยูซูมาแรงน่ะครับ ผมว่ายังไงพี่ปลุกพี่ยูชอนแล้วก็รีบไปเถอะ

     

    ประกายความเศร้าหมองที่สะท้อนมาจากแววตาใสของร่างเล็กตรงหน้าชั่ววินาทีหนึ่งทำให้ชางมินรู้สึกเจ็บแปลบตามไปด้วย ก่อนที่จะสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อจู่ๆคนตัวเล็กก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้พร้อมกับรอยยิ้ม

     

    เป็นอะไร? เหนื่อยมากล่ะสิท่า~ เมื่อคืนอ่านหนังสือดึกล่ะสินายน่ะ ฉันรู้นะ

     

    ก็มันใกล้สอบแล้วนี่ครับ ช่วยไม่ได้นี่ชางมินกล่าวตอบยิ้มๆ

     

    อย่าโหมให้มันมากไปเลยนายน่ะ แค่งานก็เหนื่อยจะแย่แล้วไม่ใช่รึไง แต่ก็สู้ๆเค้าแล้วกันนะ~”

     

    จุนซูยิ้มให้อย่างสดใสน่ารักและทำท่า ไฟท์ติ้ง!’ จนร่างสูงได้แต่หัวเราะในความน่ารักซื่อๆของคนตรงหน้าเพียงเท่านั้น

     

    เขาชอบคิม จุนซูที่เป็นแบบนี้ จุนซูที่น่ารัก ใสซื่อ และคอยเป็นห่วงเป็นใยคนในวงตลอดเวลามากกว่าตัวเองเสียอีก ทั้งๆที่ร่าเริงและเป็นกำลังใจให้คนอื่นได้ดีแท้ๆ แต่ทำไมกับตัวเองแล้วถึงไม่ยอมแสดงความรู้สึกเสียใจให้พวกเขาเห็นตรงๆบ้างนะ

     

    ผมว่าตอนนี้พี่ไปปลุกพี่ยูชอนก่อนเถอะ เดี๋ยวพวกช่างกล้องจะรอนานนะฮะ

     

    คนตัวเล็กพยักหน้าน้อยๆก่อนที่จะค่อยๆเดินไปหาร่างสูงที่กำลังนอนหลับอยู่บนโซฟา ดวงตาใสแป๋วทอดมองใบหน้าคมคายนั้นอย่างอ่อนโยนก่อนที่จะค่อยๆเขย่าตัวเรียกด้วยเสียงผะแผ่ว

     

    ยูชอน…”

     

    “….”

     

    นี่ยูชอนตื่นได้แล้วนะ…”

     

    คนตัวเล็กว่าพร้อมกับเขย่ากายของร่างสูงในห้วงนิทราอย่างแผ่วเบาจนชางมินได้แต่ถอนหายใจยิ้มๆ เมื่อความรู้สึกของคำว่ารักที่ถ่ายทอดออกมาจากการกระทำของคนตัวเล็กนั้นมีมากเสียจนสังเกตได้ง่ายเหลือเกิน

     

    มีอะไรอีกล่ะจุนซู….?เสียงงัวเงียของคนเพิ่งตื่นจากการงีบทำให้โลมาน้อยยิ้มขำ

     

    ตากล้องเค้าเรียกถ่ายรูปน่ะ

     

    อีกแล้วเหรอ แต่ว่าฉันถ่ายเสร็จไปแล้วนี่นา…”

     

     

    เสียงงัวเงียเหมือนคนไม่รับรู้อะไรของยูชอนทำให้จุนซูหัวเราะออกมาน้อยๆอีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะพูดด้วยน้ำเสียงโทนเดิมที่ปรับให้ดุขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นว่ายูชอนทำท่าจะหลับไปอีกครั้งหนึ่ง

     

    เค้าจะให้ไปถ่ายรูปคู่กับฉันน่ะสิตื่นก่อนน่า…”

     

    รูปคู่ถ่ายทำไม?

     

    เอาเถอะน่า! ลุกเร็วเข้าซี่!”

     

    ร่างเล็กรู้สึกปวดหนึบที่หน้าอกข้างซ้ายเมื่อน้ำเสียงงัวเงียของร่างสูงดูไม่ใส่ใจต่อคำว่า รูปคู่สักเท่าไหร่ แต่เขาก็รู้ดีกว่ายูชอนที่กำลังง่วงนอนมักจะเป็นแบบนี้อยู่เสมอ จึงได้แต่สลัดความคิดฟุ้งซ่านนั้นทิ้งไปซะ


     

     

    ……………..

     


     

    ใกล้กันอีกนิดนึงครับ จุนซูหันไปมองอีกทางนึงนะ

     

     

    นี่มันใกล้กันเกินไปแล้วนะ!

     


     

    คนตัวเล็กพยายามตั้งสติทำสีหน้านิ่งๆเข้าหากล้องทั้งๆที่ภายในหัวใจเต้นไม่เป็นส่ำ ในเมื่อร่างสูงๆของยูชอนอยู่ใกล้กับเขาจนจะซ้อนตัวกันอยู่แล้ว ลมหายใจอุ่นๆของคนที่อยู่ด้านหลังทำให้เขารู้สึกขัดเขินเสียจนทำอะไรไม่ถูก นึกขอบคุณที่อย่างน้อยคนจัดฉากและจัดท่าก็ยังใจดีพอที่จะไม่ต้องให้เขาเผชิญหน้ากับสายตาของยูชอนที่สามารถทำให้ใครต่อใครถึงกับละลายได้เพียงแค่ปรายนัยน์ตาคมจดจ้องเท่านั้น


     

     

    ยูชอนยูชอนยูชอน


     

     

    ภายในโสตประสาทและสมองของร่างเล็กมีแต่ชื่อของชายหนุ่มวนเวียนไปมาจนรู้สึกสั่นเทิ้ม แต่ก็ต้องตีสีหน้าให้เป็นปกติอย่างที่เคยทำอยู่บ่อยครั้งเพื่อให้งานออกมาดีที่สุด


     

     

    เขาจะเอาความรู้สึกส่วนตัวมาปนกับงานไม่ได้

     

    งานก็คืองาน..

     

    .

    .

    .

     

    แฟนเซอร์วิสก็คือแฟนเซอร์วิส..

     

    เรื่องแค่นั้นทำไมเขาจะไม่รู้ล่ะ..


     

     

    เอาล่ะเรียบร้อยแล้ว ขอบคุณสำหรับวันนี้นะครับ

     

    ขอบคุณมากครับ!”

     

    จุนซูและยูชอนเอ่ยขึ้นพร้อมกันในขณะที่โค้งเล็กน้อยด้วยรอยยิ้มจางๆ ยูชอนเดินไปอีกทางหนึ่งในขณะที่จุนซูปรายสายตามองเล็กน้อยก่อนที่จะตัดสินใจเดินตาม

     

    หายง่วงรึยังล่ะยูชอน?

     

    จุนซูเอ่ยถามยิ้มๆในขณะที่ร่างสูงทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟานุ่ม ยังไม่ทันที่ยูชอนจะเอ่ยตอบ เสียงจากด้านหลังก็ทำให้บทสนทนาหยุดชะงัก

     

    พวกนายถ่ายกันเสร็จแล้วเหรอ?

     

    เสียงทุ้มหวานของแจจุงเอ่ยขึ้นในขณะที่ก้าวเท้าเข้ามาในห้องพักโดยที่มียุนโฮเดินตามมาติดๆ จุนซูปรายตามองยูชอนที่จดจ้องใบหน้าหวานของร่างบางอย่างเงียบงันก่อนที่จะตอบคำถามนั้น

     

    ถ่ายเสร็จแล้วฮะ พี่แจจุงคิวต่อไปไม่ใช่เหรอ?

     

    ก็กำลังจะไปเนี่ยล่ะ ยูชอน! ถ้าง่วงนักทีหลังก็นอนแต่หัวค่ำซะสิ ไม่ยอมนอนกลางคืนถึงได้เป็นแบบนี้น่ะ

     

    คุณแม่ของวงบ่นขึ้นมาในขณะที่ตัวเองนั่งส่องกระจกเช็คความเรียบร้อยของเสื้อผ้า ยูชอนยิ้มเล็กน้อยในขณะที่ยักไหล่อย่างจงใจกวนประสาทเหมือนที่ชอบทำ

     

    นายนี่มันจริงๆเลยนะ จุนซูนายเองก็อย่าตามใจยูชอนนักสิ

     

    “…ผมไม่ได้ตามใจยูชอนสักหน่อยนะ! ผมพยายามแล้วยูชอนไม่ยอมนอนเองต่างหาก

     

    ใช่ๆ จุนซูน่ะตามใจผมซะที่ไหนล่ะ~ จุนซูขี้บ่นจะตาย

     

    ยูชอนได้ทีกล่าวแกล้งคนตัวเล็กที่หันมาแก้มป่องใส่อย่างน่ารักจนต้องหัวเราะออกมาอย่างช่วยไม่ได้

     

    ร่างบางหน้าหวานส่ายหน้ากับ คู่ตรงหน้าแม้จะมีรอยยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย ก่อนที่จะปรายสายตามองไปยังหัวหน้าวงที่กำลังขยี้ผมจุนซูอย่างเอ็นดู


     

     

    ยุนโฮรักและหวงจุนซูมากเรื่องนั้นเขาและคนในวงต่างก็รู้ดี

     


     

    แจจุงคิดอะไรเรื่อยเปื่อยก่อนที่จะปรายสายตามองยูชอนที่กำลังมองจุนซูอยู่อย่างเงียบงัน เขาไม่รู้ถึงความสัมพันธ์ของเด็กสองคนนี้ แต่ก็รู้ดีที่สุดว่าจุนซูให้ความสำคัญกับยูชอนมากกว่าใครๆ


     

     

    ยูชอนถ้านายทำจุนซูร้องไห้อย่าหาว่าฉันไม่เตือนนะ!

     


     

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++

     


     

    วันนี้เป็นวันหยุดที่ได้พักผ่อนจากตารางงานที่แน่นเอี๊ยดตลอดร่วมสองอาทิตย์ โลมาน้อยที่ถูกแจจุงเคาะประตูมาปลุกตั้งแต่ยังไม่เที่ยงทำให้คนตัวเล็กรู้สึกเสียดายเล็กน้อย ดวงตาเรียวใสปรายมองร่างสูงที่ยังคงนอนคุดคู้อยู่ในเตียงด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน

     

    จุนซู! ปลุกยูชอนเดี๋ยวนี้เลย! ข้าวเช้าจะกลายเป็นข้าวเที่ยงอยู่แล้วนะ!”

     

    แม้ว่าจะไม่อยากปลุกร่างสูงที่กำลังหลับสบายอยู่เท่าใดนัก แต่เสียงของแจจุงที่ตะโกนขึ้นมาเร่งก็ทำให้ต้องปลุกอย่างเสียไม่ได้

     

    ยูชอนนี่ ยูชอน…”

     

    อืมมม….”

     

    ร่างสูงขมวดคิ้วเล็กน้อยอย่างไม่พึงใจที่ถูกปลุกทั้งๆที่ยังไม่ปรือตาขึ้นแต่กลับนอนหันตะแคงหนีไปอีกด้านหนึ่ง


    ยูชอนอ๊ะ…!”

     

    ดวงตาใสเบิกกว้างเมื่อจู่ๆมือหนาก็ดึงตนเองเข้าไปหาจนริมฝีปากสัมผัสกัน ดวงหน้าน่ารักแดงวาบขึ้นในขณะที่รีบขืนตัวออกมาจากอ้อมแขนแกร่งนั้นพร้อมๆกับสัมผัสริมฝีปากของตนเองแผ่วเบา


     

     

    เมื่อกี้มัน


     

     

    ยังไม่ทันที่จะตั้งสติหรือคิดอะไร เสียงงัวเงียพึมพำราวของคนที่กำลังละเมอก็ดังขึ้นมาทำให้หัวใจดวงเล็กแตกสลายไม่มีชิ้นดี



     

    “…พี่แจจุง….”


     

     

    +++++++++++++++++++++++++++++


    To Be Continued...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×