ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [TVXQ Fiction] :: Outreach :: [YooSu]

    ลำดับตอนที่ #2 : :: Outreach :: Chapter.1

    • อัปเดตล่าสุด 13 มี.ค. 55


    TALK ::

    สวัสดีค่าทุกท่าน ^^ มาอัพฟิคชันเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ
    ช่วงนี้มีนู่นมีนี่ทำเยอะแยะไปหมด จนไม่รู้จะปั่นฟิคยังไงเลยค่ะ T T; ฮ่าๆ
    โชคดีที่ยังพอมีตอนสำรองไว้ตอนสองตอน ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวต้องมีดองแหงเลย (ฮา)

    สำหรับฟิคชันเรื่องนี้ มายด์จะพยายามเขียนให้ดีที่สุดเท่าที่สมองจะเอื้ออำนวยเจ้าค่ะ T^T
    ขอขอบคุณสำหรับทุกๆการติดตามมากๆเลยนะคะ

    ขอบคุณทุกๆคอมเมนท์ที่คอยเป็นกำลังใจให้เสมอมาเจ้าค่ะ
    ขอบคุณนักอ่านทุกท่านด้วยนะคะ ^ ^










    Chapter.1





     

     

    จุนซู ! ยูชอน ! ให้ตายเถอะ พวกนายมาตอนอีกสองนาทีจะเข้าคลาสเนี่ยนะ !?

     

    ร่างบางของเด็กหนุ่มผู้ซึ่งมีใบหน้าสวยหวานราวกับอิสตรีเอ่ยเสียงแหวออกมาทันที เมื่อเห็นผู้เป็นเพื่อนทั้งสองคนที่กำลังวิ่งกระหืดกระหอบตรงมายังบริเวณม้าหินอ่อนใต้ต้นไม้ใหญ่บริเวณที่ตนเองนั่งอยู่ อันที่จริงเขาเกือบจะเดินเข้าห้องเรียนไปแล้วเสียด้วยซ้ำ ถ้าหากไม่ติดว่าเจ้าเพื่อนสองคนนี้ตะโกนทักเอาไว้

     

    ขอโทษจริงๆนะแจจุง เป็นเจ้าของใบหน้าน่ารักที่ไม่ว่าจะมองมุมใดก็ดูสดใสที่เอ่ยขอโทษขอโพยขึ้นมา ก่อนที่นัยน์ตาคู่เรียวจะตวัดไปมองยังชายหนุ่มร่างโปร่งเคียงข้างซึ่งในมือถือกระเป๋าอยู่สองใบอย่างนึกขุ่นเคือง

     

    ก็ยูชอนน่ะแหละไม่ยอมตื่นซะที !”

     

    มาโทษฉันคนเดียวได้ยังไงล่ะจุนซู นายเองก็กดนาฬิกาปลุกทิ้งไปรอบนึงเหมือนกันนั่นแหละถึงได้มาสายขนาดนี้ชายหนุ่มร่างโปร่งพูดไปก็หาววอดไป จนจุนซูต้องเม้มริมฝีปากแน่นแล้วเตรียมจะอ้าออกโต้กลับไปอีกครั้งหนึ่ง

     

    นาย ---!”

     

    โอ๊ย ! พอแล้ว พอแล้วทั้งสองคนนั่นแหละ ! รีบไปเข้าเรียนเถอะ อาจารย์วอนฮียิ่งโหดๆอยู่ด้วย เดี๋ยวก็โดนเช็คขาดกันพอดี !”

     

    เป็นคิม แจจุงที่เลือกจะสงบศึกขนาดย่อมที่กำลังจะเกิดขึ้น มือบางรีบคว้าข้อมือเล็กของคนน่ารักข้างกายและออกวิ่งทันทีจนจุนซูได้แต่ปล่อยตัวให้ไปตามแรงรั้งนั้นโดยมียูชอนค่อยๆเดินตามไปติดๆ ร่างน้อยมองใบหน้าด้านข้างของผู้เป็นเพื่อนก่อนจะเอ่ยถาม

     

    แล้วยุนโฮล่ะแจจุง ? ปกติพวกนายสองคนตัวติดกันจะตายนี่นา

    กลับตึกคณะไปตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว เห็นว่ามีเรียนเช้าเหมือนกัน

     

    อ้าวเหรอ แล้ว ---”

     

    วิ่งเถอะจุนซู ไม่ทันแล้ว !!”

     

    หวา !” คราวนี้คนร่างบางที่แรงเยอะกว่าที่ใครๆคิดไว้จัดการเร่งความเร็วของฝีเท้าจนคนตัวเล็กแทบจะปลิวตามไป วิ่งฉิวนำลิ่วจนยูชอนที่เดินตามอยู่ข้างหลังได้แต่ถอนหายใจแล้วสาวเท้าเร็วๆเพื่อตามผู้เป็นเพื่อนทั้งสองให้ทัน

     

    ปาร์ค ยูชอน คิม จุนซู คิม แจจุง และชอง ยุนโฮ เป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่สมัยมัธยม กระทั่งถึงตอนนี้ทั้งสี่กลายเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยปีที่สามแล้วก็ยังคงสนิทกันดีเหมือนเดิมทุกประการ แม้ว่ายูชอน จุนซูและแจจุงจะเรียนอยู่คณะบริหาร ในขณะที่ชอง ยุนโฮแยกไปเรียนคณะนิติศาสตร์ก็ตาม ทว่าก็ไม่ใช่ปัญหาในการสนิทสนมของทั้งสี่คนแต่อย่างใด

     


     

    ………………...

     

     


    ร้อนนนนน !!”

     

    เสียงทุ้มหวานของคนหน้าสวยประจำคณะบริหารร้องดังออกมาขณะฟุบหน้าลงไปกับท่อนแขนของตนเองบนโต๊ะหินอ่อน อากาศยามเที่ยงร้อนจัดเสียจนแม้ว่าจะอยู่ใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ก็ยังไม่ช่วยให้คลายความร้อนระอุนี้ไปได้เลย

     

    เมื่อไหร่ยุนโฮจะมาซะที ฉันร้อนจะตายอยู่แล้ว !!!”

     

    หืมมม นี่ร้อนตัวหรือว่าร้อนใจกันแน่ล่ะ ? อิยะฮะฮะฮะ

     

    เดี๋ยวเหอะจุนซู !”

     

    แจจุงไม่รีรอที่จะหันไปแว้ดคนตัวเล็กกว่าซึ่งนั่งอยู่ม้านั่งฝั่งตรงข้าม ทว่าภาพที่เห็นตรงหน้าคือภาพของใบหน้าขาวใสซึ่งเปียกชื้นด้วยหยาดเหงื่อ หากแต่เพียงไม่นานก็ถูกซับออกไปด้วยฝีมือของใครบางคน

     

    จุนซู อยู่นิ่งๆสิ

     

    อื๊อออ ~ เย็นอ่ะยูชอน

     

    เหงื่อเยอะออกขนาดนี้เดี๋ยวก็เหนียวตัวหมดหรอก

     

    ยูชอนนนน ~ อยากกินน้ำ

     

    ฉันเตรียมกระติกน้ำเย็นอยู่ในกระเป๋านายตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว

     

    จริงอ่ะ ? ทำไมฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย

     

    แล้วปกตินายเป็นคนถือกระเป๋าหรือไงล่ะ ? เสียงทุ้มบาริโทนเอ่ยด้วยสีหน้าหน่ายๆ แต่มือก็ยืนกระเป๋าทั้งใบให้กับคนตัวเล็กที่รับมาถือและจัดการเปิดหากระติกน้ำที่ว่าทันที หากแต่คว้าขึ้นมาดื่มอักๆได้ไม่นานก็ส่งเสียงงุ้งงิ้งออกมาใหม่แล้ว

     

    ยูชอนนนน ~ หิววววว

     

    ขนมก็อยู่อีกช่องนึงนั่นแหละ

     

    จริงนะ ! อ๊า สุดยอด !”

     

    บทสนทนาของเพื่อนสองคนตรงหน้าทำเอาคิม แจจุงที่รู้สึกร้อนเป็นทุนเดิมแล้วยิ่งร้อนกว่าเก่า มือบางยกขึ้นเท้าคางของตนเองอย่างปลงๆในขณะที่เอ่ยออกไปอย่างอดไม่ได้

     

    ยูชอน นายตามใจจุนซูมากเกินไปแล้วนะ !”

     

    คนตัวเล็กซึ่งกำลังแกะถุงขนมทั้งๆที่ยังเงยหน้า และชายหนุ่มร่างสูงโปร่งซึ่งกำลังบรรจงเช็ดเหงื่อให้อีกฝ่ายนั้นหยุดชะงักไปทั้งคู่ พลางหันหน้ามามองเพื่อนหน้าสวยที่เป็นเจ้าของคำพูดนั้นอย่างพร้อมเพรียงกัน

     

    อิจฉาล่ะสิ ? เป็นคนตัวเล็กที่พูดออกมาพลางยักคิ้วอย่างจงใจกวนประสาท

     

    อิจฉาอะไรห๊ะจุนซู !”

     

    ก็เพราะยุนโฮยังไม่มา แจจุงเลยไม่มีคนทำแบบนี้ให้ไง อิยะฮะฮะฮ่า ~”

     

    อย่ามาเวอร์ ! ฉันกับยุนโฮน่ะแฟนกัน จะทำอะไรให้กันแบบนี้มันก็ไม่แปลกสักหน่อย ! แต่พวกนายน่ะ …! ฮึ้ยยย !”

     

    ไม่เห็นจะเกี่ยวเลย เจ้าของใบหน้าน่ารักยู่ปากน้อยๆ ก่อนจะหันไปมองเพื่อนสนิทร่างโปร่งเคียงข้างกายด้วยรอยยิ้มอ่อน ฉันกับยูชอนก็สนิทกันแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วเนอะ ?

     

    “… ก็คงงั้นแหละ

     

    น้ำเสียงแบบนี้มันหมายความว่ายังไงไม่ทราบห๊ะ ? มือข้างเล็กที่ไม่ได้ถือขนมอยู่จัดการยื่นไปหยิกแก้มเปล่งๆของชายหนุ่มเล่นๆ จนยูชอนต้องค่อยๆคลี่ยิ้มออกมาอย่างช้าๆแม้จะเคลือบแฝงไปด้วยแววบางอย่างก็ตาม

     

    ฉันล้อเล่นน่า ก็นายเป็นเพื่อนที่ฉันรักที่สุดเลยนี่

     

    อ๊า ~ อย่างนี้สิยูชอนของฉัน ฮิๆ

     

    อาการหยอกล้อต่างๆนานาของเพื่อนสนิทสองคนตรงหน้าก็ทำเอาคนหน้าสวยถึงกับพูดอะไรต่อไปไม่ถูก ได้แต่จงใจถอนหายใจออกมาเสียเฮือกใหญ่เพื่อให้ทั้งสองคนที่กำลังยิ้มให้กันต้องหันหน้ากลับมามองอีกครั้ง

     

    แจจุงอิจฉาฉันจริงๆใช่มั้ยล่ะ ? อิยะฮะฮะฮะ

     

    ว่าไงน --- อ๊ะ ยุนโฮวววว !!!”

     

    ดูเหมือนว่าการมาของเจ้าของใบหน้าคมเข้มท่าทางอบอุ่นนั้นจะสามารถยับยั้งสงครามน้ำลายขนาดย่อมได้พอดิบพอดี เพราะทันทีที่นัยน์ตากลมโตของคิม แจจุงปรายมองเห็นชายคนรักซึ่งเดินยิ้มมาแต่ไกล ก็รีบโบกไม้โบกมือให้ด้วยน้ำเสียงดีใจสุดๆจนจุนซูต้องกลอกตาไปมาอย่างเหนื่อยหน่าย

     

    พอแฟนมาก็อารมณ์ดีเชียวเลยนะแจจุงเนี่ย จริงมั้ยยูชอน

     

    “….” แรงกระตุกที่ชายเสื้อเชิงเรียกร้องความสนใจของคนตัวเล็กนั้นไม่ได้เข้าไปถึงประสาทรับรู้ของชายหนุ่มผิวขาวจัดเลยแม้แต่นิดเดียวจนจุนซูเอ่ยเรียกซ้ำ

     

    ยูชอน ?

     

    ดวงหน้าน่ารักซึ่งหันมามองเพื่อนสนิทร่างโปร่งของตนเองฉายแววฉงนเล็กน้อย เมื่อพบว่ายูชอนไม่ได้มองมายังตนเองอย่างที่เคย แต่กลับดูชะงักและนิ่งงันไปกับภาพตรงหน้าจนจุนซูต้องหันไปมองตามทางที่คนรักของแจจุงเพิ่งจะเดินมาบ้าง

     

    เป็นอะไรไปน่ะยูช --- อะ พี่ชางมิน !


     

     

    มือข้างเล็กที่เคยเกาะท่อนแขนผละออกไป


     

     

    ทั้งๆที่เป็นช่วงเวลาเพียงไม่กี่วินาทีที่ร่างเล็กๆวิ่งออกไปหาใครอีกคนหนึ่งตรงหน้า แต่สำหรับปาร์ค ยูชอนแล้วมันช่างนานแสนนานราวกับเวลาผ่านไปเป็นชั่วโมง

     

    ชายหนุ่มร่างสูงชะลูดในชุดนักศึกษาดูเป็นที่สะดุดตา ผิวกายสีน้ำผึ้งยิ่งขับให้ใบหน้าคมคายหล่อเหลานั้นดูเข้มขึ้นมาได้เป็นอย่างดี มือข้างหนายกขึ้นเชิงทักทายเล็กน้อยขณะที่ขยับยิ้มมุมริมฝีปากหยักยามที่ร่างเล็กๆของจุนซูวิ่งเข้าไปหา

     

    พี่ชางมิน มาทำอะไรที่หน้าคณะบริหารเหรอฮะ ?

     

    น้ำเสียงแหบหวานนั้นดูสดใสกว่าที่เคยยามเอ่ยถามชายหนุ่มตรงหน้า นัยน์ตาเรียวรีเป็นประกายเช่นเดียวกันรอยยิ้มซึ่งประดับอยู่บนดวงหน้าอ่อนหวานซับสีระเรื่อน้อยๆนั้นก็ดูน่ารักนักหนา

     

    พี่ก็มาหาเรานั่นแหละ จำเรื่องงานชมรมไม่ได้แล้วเหรอ ?

     

    เอ๊ะ ? อ๊า …! จริงด้วย ผมลืมไปซะสนิทเลย

     

    พี่ก็ว่าอย่างนั้นนั่นแหละ ถึงได้ตามยุนโฮมาหาเราถึงที่นี่ไงล่ะ ฝ่ามือหนายื่นออกมาขยี้เรือนผมสีน้ำตาลเข้มของคนตัวเล็กกว่าอย่างมันเขี้ยว

     

    พี่ชางมินอ่ะ ! ผมผมยุ่งหมดแล้ว !!”

     

    ฮ่าๆๆๆ

     

    ชิม ชางมิน เดือนคณะนิติศาสตร์ของนักศึกษาปีที่สี่ นอกจากฐานะที่บ้านจะร่ำรวยสุดๆแล้ว ยังมีสติปัญญาฉลาดเป็นเลิศจนสอบได้ที่หนึ่งของคณะทุกครั้ง มิหนำซ้ำควบตำแหน่งประธานชมรมดนตรีซึ่งเป็นที่โด่งดังของมหาวิทยาลัยจนมีการจัดคอนเสิร์ตภายในซึ่งมีผู้ชมจำนวนล้นหลามเป็นประจำทุกๆปีอีกด้วย จนอาจเรียกได้ว่าเป็นชายหนุ่มในฝันของหลายๆคนเลยทีเดียว

     

     

    และคิม จุนซูเองก็เป็นหนึ่งในนั้น

     

    เขาไม่รู้เลยว่ามันเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เมื่อไร หรือความจริงแล้วอาจจะเกิดขึ้นตั้งแต่วินาทีแรกที่เขากับจุนซูเลือกลงชมรมดนตรี และพบกับชายหนุ่มคนนี้ซึ่งขณะนั้นเป็นรุ่นพี่ในชมรมแล้วก็ได้ เพราะหลังจากนั้นเมื่อรู้ตัวอีกที ระยะห่างที่เขาคอยเฝ้ามองจุนซู มันก็ดูเหมือนว่าจะไกลออกไปมากขึ้นเสียแล้ว

     

    ยูชอน …”

     

    เสียงทุ้มหวานของคนหน้าสวยที่เดินเข้ามาใกล้ด้วยสีหน้าซึ่งอ่านไม่ออกทำให้ร่างโปร่งต้องละสายตามาจากภาพตรงหน้าเพื่อหันมามอง

     

    อะไรเหรอ ?

     

    นาย โอเคนะ ?

     

    นัยน์ตาคมอ่อนแสงลงเล็กน้อยพลางยกยิ้มน้อยๆ ทำไมฉันถึงจะไม่โอเคล่ะ ?

     

    ก็ …” เสียงทุ้มหวานนั้นขาดห้วงไป ทำเพียงปรายสายตาไปทางคนตัวเล็กและรุ่นพี่หน้าคมซึ่งกำลังคุยเล่นอยู่อีกทางหนึ่งเชิงบอกเป็นนัย

     

    จุนซูกับพี่ชางมิน ก็ดีแล้วนี่

     

    เลิกปิดบังเถอะยูชอน ใครๆก็รู้ว่านายคิดยังไงกับจุนซู

     

    รู้แล้วยังไงล่ะ …” เสียงทุ้มบาริโทนเอ่ยอย่างเงียบๆ กำมือเข้าหากันแน่น ส่งสายตาไปยังแผ่นหลังของคนตัวเล็กด้วยแววตาคู่คมซึ่งอ่านไม่ออก ยังไงมันก็เป็นแค่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว …”

     

    รอยที่ต้นคอด้านหลังของจุนซู ฝีมือนายใช่มั้ย ?

     

    “…!” คนร่างโปร่งถึงกับหันมามองเพื่อนสนิทหน้าสวยของตนเองทันทีด้วยสีหน้าตกใจ “… นายทำไม …” ทั้งๆที่เขามั่นใจแล้วแท้ๆว่าคงจะไม่มีใครเห็น

     

    พอดีลมมันพัดน่ะตอนนั้น ฉันก็เลยบังเอิญเห็นเข้า แจจุงเป็นคนอธิบาย แต่ถึงฉันจะไม่เห็น ... ความจริงฉันกับยุนโฮก็รู้มาตั้งนานแล้ว

     

    พวกนาย …”

     

    คิดอะไรอยู่ ยูชอน ?

     

    “….”

     

    นายทำแบบนี้ นายมีความสุขแล้วจริงๆเหรอ ?

     

    “….”

     

    ยูชอน

     

    “… พอเถอะ

     

    “….”

     

    ฉันเลือกไปแล้ว …” มือหนาค่อยๆกำเข้าหากันแน่น เสหน้าไปอีกทางหนึ่งเพื่อที่จะไม่ต้องสบสายตาของผู้เป็นเพื่อนอีก มันแก้ไขอะไรไม่ได้อีกแล้ว …”

     

    ยูชอน นายกำลังทำร้ายทั้งตัวเองทั้งจุนซูนะ

     

    ฉันรู้

     

    ยูชอน …”

     

    “… รู้ดียิ่งกว่าใครทั้งหมดนั่นแหละ !”

     

    ยูชอน เดี๋ยวสิ ! ยูชอน !”

     

    เพราะเสียงทุ้มพร่านั้นเอ่ยออกมาเสียงดังกว่าที่เคยและผู้เป็นเจ้าของก็คว้ากระเป๋าเดินจากไป ทำให้แจจุงไม่อาจที่จะเอ่ยรั้งอะไรได้เลย ครั้นจะวิ่งตามไป มือหนาของชายคนรักข้างกายก็คว้าข้อมือของเขารั้งเอาไว้เสียแล้ว

     

    ยุนโฮ …”

     

    แจจุง หมอนั่นพูดถูกแล้ว มันเป็นเรื่องที่ทั้งสองคนเลือกไปแล้วนะ

     

    แต่ว่า ---!”

     

    ให้เวลายูชอนมันหน่อยเถอะริมฝีปากหยักพรูลมหายใจ “… ยังไงตอนนี้คนที่เจ็บที่สุดก็คงจะเป็นหมอนั่นนั่นแหละ

     


     

    ………………….



     

     

    ร่างสูงโปร่งผิวขาวจัดหยุดยืนอยู่หน้าอ่างล้างหน้าบริเวณข้างๆลานกว้างภายในมหาวิทยาลัย หอบหายใจเพียงครู่หนึ่งก็ตัดสินใจเปิดน้ำวักขึ้นมาล้างหน้าเพื่อให้วามรู้สึกรุนแรงและฟุ้งซ่านภายในสมองและจิตใจได้คลายลงไปได้บ้าง มือแกร่งทั้งสองข้างยันขอบอ่างเอาไว้พลางพรูลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ย้อนนึกไปถึงวันวานของการเริ่มต้นทุกสิ่งทุกอย่างที่เลยเถิดมาจนกระทั่งป่านนี้


     

     

    ยูชอนล้อฉันเล่นใช่หรือเปล่า

     

    ไม่ใช่นะจุนซู ฉันรักนายจริงๆ

     

    “….”

     

    รักแบบคนรัก รักอย่างที่ผู้ชายคนหนึ่งสามารถที่จะรัก ฉันอยากอยู่ใกล้ๆนาย อยากคอยดูแลนาย อยากปกป้องนายตลอดไป จุนซู ฉัน …”

     

    “….”

     

    เพราะไม่ได้ยินเสียงใดๆออกมาจากริมฝีปากคู่เล็กนั้นเลยสักคำ หัวใจของปาร์ค ยูชอนจึงยิ่งรู้สึกวูบโหวงจนไม่อาจทำอะไรต่อไปได้เลย

     

    ได้โปรด พูดอะไรสักอย่างได้ไหม …”

     

    “… ยูชอน

     

    “….”

     

    ฉัน อึ่ก ฉันขอโทษ

     

    เขาไม่รู้เลยว่าเสียงแหบเล็กที่เอ่ยประโยคสั้นๆออกมานั้นทำให้โลกทั้งใบหยุดหมุนลงไปตั้งแต่เมื่อไร

     

    แต่ว่าฉัน …”

     

    “….”

     

    “… ฉันชอบพี่ชางมิน


     

     

    ทั้งๆที่รู้ว่าเป็นอย่างนั้น ทั้งๆที่รู้แก่ใจดีอยู่แล้วแท้ๆ

     

     


    ยูชอน ยูชอนเมาเกินไปแล้วนะ !”

     

    ฮึก ฉันรักนายจุนซู ฉันรักนาย …”

     

    “….”

     

    ทำยังไงนายถึงจะรักฉันบ้าง อึ่ก ทำไมฉันตัดใจจากนายไม่ได้สักทีจุนซู ฉัน ฉันควรทำยังไงกับความรู้สึกนี้ดี ต้องทำยังไงให้มันหายไป จุนซู …”

     

    อาจเป็นเพราะความเมามายถึงได้พูดอะไรออกไปอย่างนั้น หากแต่มันก็ทำให้คนตัวเล็กที่ฟังอยู่รู้สึกเจ็บแปลบภายในหัวใจจนต้องนิ่งงัน เพื่อนสนิทที่กอดตนเองเอาไว้แน่นทำให้ไม่อาจจะขยับ หากแต่กายแกร่งซึ่งสั่นเทาไหวระริกนั้นกลับทำให้จุนซูรู้สึกปวดร้าวเหลือเกิน

     

    เพราะยูชอนเป็นเพื่อนคนสำคัญ เป็นเพื่อนที่สำคัญที่สุดในโลก

     

     

    “… ยูชอน

     

    อึ่ก จุนซู จุน ---!”

     

    ดวงตาคมของคนที่เมามายไม่ได้สติเบิกขึ้นเล็กน้อย เมื่อจู่ๆริมฝีปากของตนเองก็ถูกทาบทับปิดกั้นด้วยปากเล็กๆของเจ้าของชื่อที่ตนเอ่ยเรียก กลิ่นหอมอ่อนๆจากกายนุ่มและสัมผัสชวนลุ่มหลงแผ่วหวานอันแสนไร้เดียงสานั้นทำให้สติสตังที่เหลือน้อยนิดของร่างโปร่งขาดผึง มือข้างหนายกขึ้นกระชับท้ายทอยเล็กและบดจุมพิตหนักหน่วงตอบกลับไปทันทีจนคนตัวเล็กต้องอุทานแผ่วเบา

     

    อื๊ออ ยู …”

     

    จุนซู จุนซูฉันรักนาย …”

     

    เพราะความเมามายและขาดการควบคุม ทุกสิ่งทุกอย่างจึงดำเนินไปจนกระทั่งถึงสุดปลายทาง เจ้าของร่างเล็กๆซึ่งแม้จะสั่นไหวระริกไปทั้งกายด้วยความหวาดหวั่น หากแต่นัยน์ตาเรียวรีนั้นก็หลับลงรับสัมผัสรัญจวนซึ่งแฝงไปด้วยความเจ็บปวดและโหยหาของผู้เป็นเพื่อนสนิทโดยที่ไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด

     

     

    ทว่าประโยคที่ได้ยินในวันนั้น กลับยังคงดังก้องอยู่ภายในโสตประสาทจนถึงทุกวันนี้

     

     

    ยูชอนเป็นคนสำคัญ เป็นเพื่อนคนสำคัญของฉัน

     

    “….”

     

    ฉันเป็นของยูชอน ฉันเป็นของยูชอนทั้งหมด แต่มีอย่างเดียวที่ฉันให้ไม่ได้ …”

     

    “….”

     

    ฉันให้หัวใจยูชอนไม่ได้ …”

     


     

    ยูชอน !”

     

    “…!”

     

    เสียงเรียกแหบหวานที่ดังมาจากทางด้านหลังทำให้ชายหนุ่มร่างโปร่งสะดุ้งเล็กน้อยพลางหันหน้าไปมอง ก็พบว่าเป็นเจ้าของใบหน้าอ่อนใสหอบหายใจน้อยๆด้วยพวงแก้มที่ยังคงแต้มสีระเรื่อ ดวงหน้าน่ารักนั้นฉายแววสดใสแม้ว่าจะแฝงไปด้วยความตัดพ้อเล็กๆก็ตาม

     

    จุนซู …”

     

    ทำไมจู่ๆถึงเดินออกมาแบบนี้ล่ะ ไม่รอฉันเลยนะ

     

    ร่างโปร่งหลบสายตาเล็กน้อยกับคำถามนั้น ก็ฉัน เห็นว่านายคุยกับรุ่นพี่ชางมินอยู่

     

    พี่ชางมินมาบอกเรื่องงานแสดงที่จะมีขึ้นเร็วๆนี้ล่ะ รู้มั้ยยูชอน คราวนี้ฉันได้เป็นนักร้องนำด้วยนะ ! พี่ชางมินบอกว่าฉันต้องทำได้แน่ๆเลยด้วยล่ะ ก็ปกติแล้วพี่ชางมินจะเป็นคนร้องนำตลอดเลยนี่นา

     

    “….”

     

    แถมปีที่แล้วที่ฉันได้เป็นนักร้องนำคู่กับพี่ชางมินมันก็สุดยอดสุดๆเลยด้วย ! พี่ชางมินทั้งร้องเพลงเพราะ ทั้งเก่งแล้วก็ดูดี แต่ว่าเขาก็ไว้ใจมอบหมายหน้าที่นี้ให้ฉัน ตอนนี้ฉันดีใจมากๆเลยล่ะยูชอน ~”

     

    ดวงหน้าหวานแสนสดใสนั้นยังคงไม่เปลี่ยนสีหน้าไปเลยแม้แต่น้อย ทั้งนัยน์ตาคู่เรียวใสแจ๋วนั้นก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเช่นเดียวกัน เสียงแจ้วๆที่เปล่งออกมาจากจีบปากบางเผยความรู้สึกดีใจของตนเองออกมาอย่างไม่ปิดบัง จนคนมองได้แต่นิ่งเงียบไป

     

    “….”

     

    อื๋อ ? ยูชอน ?

     

    เพราะเห็นว่าอีกฝ่ายเงียบไปแบบนั้น คนตัวเล็กจึงกระพริบตาปริบๆพลางเอียงคอน้อยๆอย่างติดนิสัยด้วยสีหน้าที่ฉายแววงุนงงออกมาอย่างชัดเจน ยูชอนมองคนตาใสคนตรงหน้าแล้วก็ได้แต่เม้มริมฝีปากเข้าหากันเล็กน้อย ชั่งใจอยู่เพียงครู่หนึ่งก่อนที่จะเปล่งเสียงทุ้มพร่าของตนเองออกไป

     

    จุนซู ...”

     

    หืม ?

     

    ยิ่งเห็นรอยยิ้มไร้เดียงสานั้นเท่าไร ภายในหัวใจมันก็ยิ่งปวดแปลบมากขึ้นเท่านั้น

     

    ยูชอน ?

     

    คนตัวสูงกว่าที่เดินเข้ามาหยุดยืนอยู่ตรงหน้า และยื่นแขนแกร่งมาโอบรอบเอวของตนเองเอาไว้ ยิ่งทำให้จุนซูงงมากเข้าไปอีก หากแต่ก็ไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด เพราะยังไงที่ตรงนี้ในเวลานี้ก็ไม่มีใครเดินผ่านมาอยู่แล้ว

     

    จุนซู

     

    หือ ?

     

    นัยน์ตาเรียวรียังคงกระพริบสองสามครั้ง ด้วยสีหน้าน่ารักที่ไม่ว่าเมื่อไรคนมองก็รู้สึกอยากจะเป็นเจ้าของเพียงผู้เดียวเท่านั้น

     

    “… จูบฉันสิ

     

    ประโยคที่ดูเหมือนคำสั่งกลายๆจากริมฝีปากอิ่มนั้นทำให้คนตัวเล็กนิ่งงันไปเล็กน้อย หากทว่าไม่นาน เจ้าของดวงหน้าน่ารักก็ยกแขนเพรียวทั้งสองข้างของตนเองขึ้นโอบรอบลำคอแกร่งของเพื่อนสนิทตรงหน้าเอาไว้ ขยับยิ้มพรายอ่อนหวานขณะเอ่ยตอบรับ

     

    ได้สิ …”

     

    ริมฝีปากของคนทั้งคู่ค่อยๆสัมผัสกัน โดยที่เจ้าของร่างเล็กเป็นฝ่ายเริ่มต้น บดคลึงน้อยๆและดูดดุนอย่างแผ่วเบาตามคำขอของชายหนุ่มตรงหน้า ที่ก็ค่อยๆจูบตอบกลับและกลายเป็นคนควบคุมการจุมพิตนี้ไปเสียแทน ตามรุกไล่เร่าร้อนให้ร่างนิ่มระทดระทวยอยู่ภายในอ้อมแขน ส่งเสียงครางเครือภายในลำคอและยินยอมไปตามแรงชักจูงของอีกฝ่ายแต่โดยดี

     

    ยูชอนค่อยๆเปิดเปลือกนัยน์ตาคมของตนเองขึ้นมาอย่างช้าๆ ลอบมองคนตัวเล็กในระยะประชิดซึ่งยังคงหลับตาพริ้มกับรสสัมผัสที่ยังคงดำเนินต่อไป ด้วยแววตาปวดร้าวเกินกว่าที่จะปิดบัง แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายจะไม่มีวันได้เห็นมันก็ตาม




     

     

    ฉันขอโทษจุนซู



     

    ฉันขอโทษ

     





     

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++





    To Be Continued ...





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×