ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [TVXQ Fiction] - Ankylose - [YooSu,Yunjae,MinRic]

    ลำดับตอนที่ #1 : - Ankylose - Chapter.1

    • อัปเดตล่าสุด 12 ธ.ค. 52




    เพราะว่ารัก
    บางครั้งถึงต้องทำเป็นมองข้าม

     

    เพราะว่ารักบางครั้งถึงต้องไม่ปริปากพูดอะไรออกมา

     

    เพราะว่ารักถึงได้ไม่กล้าเอ่ยความรู้สึกจริงๆของตัวเองเลยสักครั้ง

     

    เพราะว่ารักถึงไม่อยากให้นายลำบากใจเพราะฉัน


     

    ไม่อยากเลย


     

    ถ้าฉันเก็บความรู้สึกนี้ไว้คนเดียวได้ก็คงดี

     

    เพราะว่าฉันรักรักนายมากจริงๆ

     

     

    - Ankylose -

     

    Chapter.1

     

     

    นี่ช่วงนี้กระแสยูซูมาแรงมากทีเดียวเลยนะ

     

    เสียงของผู้จัดการวงกล่าวขึ้นพร้อมยิ้มนิดหนึ่งในขณะที่จะขึ้นรถจากไป ทำให้สมาชิกวงดงบังชินกิมองหน้ากันอย่างงงๆ โดยเฉพาะ คู่ที่ถูกเอ่ยขึ้นที่ปรายมองกันเล็กน้อย

     

    “…แบบนี้พวกนายก็ต้องทำแบบพวกฉันสิ แนบชิดเซอร์วิสกันน่ะ?

     

    ลีดเดอร์แห่งวงจอง ยุนโฮเอ่ยขึ้นยิ้มๆในขณะที่มือของตนเองยังคงโอบไหล่บอบบางของคนหน้าตาสะสวยเคียงข้างที่ช้อนตาขึ้นมองอย่างเหนื่อยหน่าย ทว่าพวงแก้มใสของชายหนุ่มร่างบางที่งดงามกว่าอิสตรีกลับขึ้นสีระเรื่อ

     

    คิดว่าฉันมีความสุขนักหรือยังไงกัน เจ้าหมีบ้า!”

     

    อ้าว…”

     

    ถ้อยคำที่เจ้าของเสียงทุ้มหวานเอ่ยขึ้นมาทำให้คนร่างสูงแกล้งทำหน้าจ๋อยจนเรียกเสียงหัวเราะจากคนในวงได้เป็นอย่างดี

     

    จะเว้นก็เพียงแต่ร่างสูงที่มีผมสีน้ำตาลเข้มยาวระต้นคอปาร์ค ยูชอนเท่านั้น ที่ลอบรู้สึกแปลกๆอยู่เงียบๆ ทว่าเขาก็ปิดบังมันได้ด้วยรอยยิ้มแย้มสดใสนั้น ไม่รับรู้ถึงเจ้าของนัยน์ตากลมโตตัวเล็กเคียงข้างที่ลอบมองใบหน้าของเขาอย่างเงียบๆนั้นเลย

     


     

    ยูชอน

     


     

    คิม จุนซูได้แต่เอ่ยนามของร่างสูงเคียงข้างภายในใจอย่างเจ็บปวด สายตาแบบนั้นของ เพื่อนรักของเขานั้นไม่ได้กำลังบอกว่าเจ้าของรู้สึกมีความสุขเลยสักนิด


     

     

    ทำไมล่ะ?

     


     

    ทั้งๆที่เขา รักปาร์ค ยูชอนเสียจนหมดหัวใจ ความผูกพันที่อัดแน่นจนแปรเปลี่ยนความเป็นเพื่อนให้กลายเป็นสิ่งที่มากกว่านั้นจนตัวของคิม จุนซูเองก็ไม่ทันได้ยั้งคิดและตั้งตัว


     

     

    รู้สึกตัวอีกที หัวใจของเขาก็ไม่มีที่ว่างเหลือให้ใครอีกต่อไปแล้ว

     

     

    นอกเสียจากปาร์ค ยูชอน

     


     

    แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น เขาก็รู้ดีและรู้มาตลอดว่าเจ้าของหัวใจของตัวเขานั้น ได้มอบหัวใจให้กับใครบางคนไปเสียแล้ว

     

    และคนๆนั้นก็ไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็น แจจุงเจ้าของฉายาคุณแม่ของวงที่เป็นรุ่นพี่ที่แสนเคารพและรักของเขานั่นเอง

     

    ไม่แปลกหรอกที่ใครๆต่างก็ตกหลุมรักกับแจจุง ด้วยใบหน้างดงามยิ่งกว่าอิสตรีแสนหวานนั้น รูปร่างอรชรเอวบางยิ่งกว่าผู้หญิงบางคนทำให้ดูน่าทะนุถนอมแม้จะแข็งแกร่งอยู่ในที รวมถึงนิสัยน่ารักๆที่แม้ตัวของคนตัวเล็กเองก็ยังอดรู้สึกแบบนั้นไม่ได้

     

    ยังไม่รวมถึงความสามารถในการทำอาหารและงานบ้านงานเรือนที่ดูเจ้าตัวจะแสนถนัดจนกลายเป็นคุณแม่ของวงไปตามฉายาจริงๆ


     

     

    ไม่แปลกที่ยูชอนจะรักพี่แจจุง เพราะเขาเองก็คิดว่าพี่แจจุงนั้นช่างแสนดี

     

    ไม่แปลกเลยที่จะเป็นแบบนี้ เพราะเขาก็ไม่ได้ดูสมกับเป็นคนที่ควรจะถูกปกป้องอย่างพี่แจจุง

     


     

    ดวงตาแป๋วๆที่มักจะเปล่งประกายเสมอกลับหลุบต่ำลงอย่างรู้สึกปวดใจ ก่อนที่จะค่อยๆพาร่างของตนเองเดินเข้าไปในบ้านพร้อมๆกับคนในวงทั้งๆที่เสียงหัวเราะยังคงมีให้ได้ยิน


     

     

    ฉันจะบอกให้นายรู้ไม่ได้หรอกยูชอน

     

    เหมือนที่นายไม่เคยบอกพี่แจจุงเลยว่านายรู้สึกยังไง

     


     

    ………..


     

     

    จุนซู…”

     

    “……”

     

    นี่จุนซู!”

     

    หะหา?ร่างเล็กสะดุ้งเล็กน้อยก่อนที่จะหันหน้าไปหาเจ้าของเสียงนั้น

     

    มีอะไรเหรอยูชอน?

     

    ฉันเรียกนายตั้งนานแล้วนะ เหม่ออะไรอยู่น่ะ?

     

    คนร่างสูงกว่าทำหน้ามุ่ยเมื่อเขาเรียกชื่อของคนตัวเล็กตรงหน้าเป็นรอบที่หนึ่งร้อยแปด เจ้าของดวงหน้ากลมน่ารักกระพริบตาปริบๆอย่างงุนงงก่อนที่จะหัวเราะแหะๆ

     

    ขอโทษนะพอดีกำลังคิดอะไรเพลินๆน่ะ

     

    สายตาเรียวเล็กจับจ้องไปที่ยูชอนที่ถือผ้าห่มและหมอนของตนเองไว้ในมืออย่างงุนงง

     

    “…ยูชอนหอบของมาที่นี่มีอะไรเหรอ?

     

    พี่ยุนโฮย้ายไปนอนห้องเดียวกับพี่แจจุงน่ะ

     

    “……”

     

    ตั้งแต่วันนี้เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะขนของมาที่ห้องนายนะ

     

    “..ละแล้วชางมินล่ะ?

     

    ชางมินบอกว่าจะไปอยู่ห้องอื่นคนเดียวเพราะจะอ่านหนังสือ ไม่อยากให้ใครมารบกวน

     

    จุนซูนึกขอบคุณแต่ก็หมั่นไส้น้องเล็กสุดของวงอยู่ในใจ ดูยังไงก็จงใจปล่อยให้ยูชอนมาอยู่กับเขาในห้องสองต่อสองชัดๆ


     

     

    ชางมินนะชางมิน! จะให้ฉันลำบากใจไปมากกว่านี้รึยังไงกัน!

     

     


    อ๊ะอย่างนั้นเอง….หรอกเหรอ…”

     

    เสียงแหบหวานขาดห้วงไปเมื่อเห็นสายตาเศร้าๆของ เพื่อนที่ค่อยๆวางหมอนและผ้าห่มลงบนเตียงเปล่าข้างๆเตียงของเขาอย่างช้าๆ

     

    “…ยูชอน…”

     

    จุนซูเรียกชื่อของร่างสูงตรงหน้าแผ่วเบา ก่อนที่มือบอบบางจะค่อยๆยื่นไปสัมผัสกับไหล่กว้างของคนตรงหน้าอย่างพยายามปลอบประโลมทั้งๆที่หัวใจของตนเองก็บอบช้ำไม่แพ้กัน

     

    ไม่เป็นอะไรใช่มั้ย?

     

    ปาร์ค ยูชอนปรายสายตามองดวงหน้าหวานที่จับจ้องมาที่ใบหน้าของเขาอย่างเป็นห่วง และนั่นทำให้เขายิ้มออกมาน้อยๆอย่างอบอุ่นให้กับร่างเล็กที่เริ่มใจเต้นไม่เป็นส่ำ

     

    ฉันไม่เป็นไรหรอกจุนซูขอบใจนะ” 

     

    “…..”

     

    ถึงทั้งสองคนนั้นจะพยายามกลบเกลื่อนหรือปิดบัง แต่เรื่องที่พี่ยุนโฮกับพี่แจจุงมีอะไรที่มากกว่านั้นฉันรู้มาตลอดอยู่แล้ว

     

    “…ยูชอน…”

     

    แล้วฉันก็รู้ดีว่าความรักของฉันมันเป็นไปไม่ได้หรอก…”

     


     

    ก็เหมือนกับฉันนั่นแหละยูชอน

     


     

    +++++++++++++++++++++++++++++

     


     

    ร่างเล็กผิวขาวนวลผุดผ่องค่อยๆปรือตาขึ้นในยามเช้ามืดที่ยังคงไร้แสงตะวันที่สาดส่องเพราะความฝันถึงเรื่องในอดีตที่มักจะมาเยือนในยามนิทราอยู่เสมอๆ ดวงตากลมโตกระพริบปริบๆสองสามครั้งเพื่อให้ชาชินกับยามรัตติกาลที่ครอบคลุมห้องอันเงียบสงัด


     

     

    ตั้งแต่วันนั้นก็เกือบจะสามอาทิตย์ได้แล้วสินะ


     

     

    ดวงหน้าหวานที่ติดจะไปทางคำว่า น่ารัก มากกว่าที่จะ สวยที่มีเส้นผมนุ่มสีน้ำตาลไหม้คลอเคลียอยู่ที่พวงแก้มใสเนื่องจากเพิ่งตื่นจากห้วงนิทราค่อยๆยันกายขึ้นนั่งบนเตียงนุ่มที่เงียบงัน ดวงตาสีหม่นปรายมองไปยังร่างสูงที่สละพื้นที่บนเตียงนุ่มให้โดยการยอมนอนกับผ้านวมที่ปูลงบนพื้นพรม


     

     

    ริมฝีปากบางสั่นน้อยๆขณะที่เอ่ยนามของผู้ที่อยู่ในสายตาแผ่วเบา

     


     

    “…ยูชอน…”

     

    เสียงเล็กสั่นพร่าเงียบลง ภายในใจนั้นรู้ดีกว่าไม่มีวันที่คนร่างสูงจะได้ยินเสียงของตนเองในยามที่สมควรจะจมอยู่กับห้วงนิทราเช่นนี้ ทว่าก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยเรียกร่างสูงด้วยน้ำเสียงที่เศร้าหมองแบบนั้น

     


     

    นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเป็นแบบนี้

     

    ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกันทำไมคนที่มักจะให้พี่แจจุงมาคอยปลุกเสมออย่างเขาถึงได้ตื่นก่อนใครเพื่อน

     

    ตื่นขึ้นมาเพื่อที่จะเรียกชื่อของคนๆนี้

     

     

    เรียกชื่อของคนๆนี้ซ้ำๆทุกวัน



     

     

    ปาร์ค ยูชอน

     



     

    ++++++++++++++++++++++++++++++


     

     

    ยูชอน…! ตื่นเดี๋ยวนี้นะ!”

     

    อืมอีกห้านาทีนะจุนซู…”

     

    เสียงทุ้มพร่าดังขึ้นอย่างงัวเงียในขณะที่เจ้าตัวพลิกตัวนอนคุดคู้กับผ้านวมบนเตียงนุ่ม เจ้าของดวงหน้ากลมเล็กขมวดคิ้วเล็กน้อย เมื่อเขารู้ดีว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาคนร่างสูงตรงหน้าก็เอาแต่นั่งแต่งเพลงจนแทบไม่ได้นอนทั้งคืน
     

     

    ดวงตากลมใสจ้องมองร่างสูงที่ยังคงขี้เซาหลับใหลอยู่อย่างรักใคร่ มือเล็กค่อยๆยื่นไปสัมผัสใบหน้าคมคายนั้นอย่างแผ่วเบา



     

     

    อยู่ใกล้กันแค่นี้เอง

     

    ทำไมถึงได้รู้สึกว่าห่างไกลนักนะ?

     


     

    ไม่เอาน่ายูชอนพี่แจจุงมาเรียกตั้งนานแล้วนะ

     

    ทันทีที่สิ้นสุรเสียงของคนร่างบาง ดูเหมือนว่าดวงตาเรียวนั้นจะลืมขึ้นทันทีก่อนที่จะค่อยๆลุกขึ้นนั่ง ทรงผมที่ยาวระต้นคอนั่นยุ่งไม่เป็นทรงจนจุนซูอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้

     

    หัวเราะอะไรของนายน่ะจุนซู

     

    เปล่า อิยะฮ่าฮ่า!”

     

    ดวงหน้าหวานที่เปื้อยไปด้วยรอยยิ้มอารมณ์ดีอย่างน่ารักนั้นทำให้ยูชอนยิ้มออกมาน้อยๆก่อนที่จะยื่นมืออบอุ่นไปสัมผัสกับเรือนผมนิ่มในแผ่วเบา

     

    หัวใจดวงเล็กอดที่จะเต้นระรัวสั่นไหวตึกตักไม่เป็นจังหวะไม่ได้เมื่อเห็นรอยยิ้มอ่อนโยนแสนอบอุ่นบนใบหน้าคมคายนั่น

     


     

    ป๊อก!


     

    แรงดีดที่หน้าผากทำให้จังหวะของหัวใจเต้นช้าลงแทบจะทันที!

     

    ทำหน้าอะไรของนายน่ะจุนซู ตลกชะมัดเลย ฮ่าๆ

     

    ยูชอน!!”

     

    เมื่อเห็นคนตัวเล็กตรงหน้าทำแก้มป่องหลังจากที่เรียกชื่อของเขาด้วยท่าทีแง่งอนแสนน่ารักน่าชังเช่นนั้นแล้ว ยูชอนก็ได้แต่หัวเราะก่อนที่จะขยี้ผมสีน้ำตาลไหม้ของร่างบางพลางเดินเข้าห้องน้ำไปพร้อมกับเสียงหัวเราะที่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลง

     

    คิม จุนซูถอนใจแผ่วเบาด้วยรอยยิ้มในขณะที่จัดผมที่ยุ่งไม่เป็นทรงโดยฝีมือของคนที่เพิ่งจะเข้าห้องน้ำไปด้วยแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความสุขทว่าเศร้าหมอง


     

     

    ยูชอน


     

     

    ………….

     

     

    ฮ้าววว~”

     

    เสียงหาววอดของปาร์ค ยูชอนขณะที่เดินลงบันได ทำให้ร่างบางที่เดินอยู่เคียงข้างปรายดวงตากลมไปมองด้วยสายตาที่แฝงด้วยความเป็นห่วง

     

    ยูชอน?

     

    เมื่อเห็นสายตากลมแป๋วจ้องมาที่ตนเองด้วยแววตาเช่นนั้น ร่างสูงก็ยิ้มน้อยๆในขณะที่ลูบเรือนผมสีน้ำตาลของร่างเคียงข้างอีกครั้งหนึ่ง

     

    เป็นอะไร? ฉันสบายดีน่า

     

    “…อืม…”

     

    เสียงเล็กรับคำยิ้มๆในขณะที่ค่อยๆก้าวเดินลงมาพร้อมๆกับคนตัวสูงกว่าที่ยังมีรอยยิ้มเจืออยู่บนใบหน้าคมคายไม่เลือนไป

     

    กว่าจะตื่นได้นะยูชอน!”

     

    เสียงหวานไม่แพ้รูปหน้าของแม่บ้านของวงดังขึ้นในขณะที่วางจานกับข้าวลงบนโต๊ะอาหารที่มีน้องเล็กสุดอย่างชิม ชางมินนั่งคอยอยู่แล้ว

     

    วันนี้มันวันหยุดว่างๆทั้งที ขอนอนเฉยๆสักวันไม่ได้หรือยังไงกัน

     

    ยูชอนกล่าวขณะที่บิดขี้เกียจสองสามทีก่อนที่จะทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ ณ โต๊ะอาหารนั้น สายตาคมเรียวปรายมองไปยังคนตัวเล็กที่ค่อยๆนั่งลงเคียงข้าง ก่อนที่จะปรายมองไปยังคิม แจจุงที่เดินเข้าห้องครัวไป

     

    แล้วพี่ยุนโฮไปไหนซะล่ะ?

     

    อยู่ในครัวกับพี่แจจุงเค้านั่นแหละ ชางมินว่าพลางยักไหล่น้อยๆทั้งๆที่ดวงตาจ้องกับข้าวบนโต๊ะตาไม่กระพริบ

     

    ดวงตาเรียวของยูชอนหลุบต่ำลงเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำตอบนั้น ภายในใจมีแต่ความรู้สึกแปลกๆที่เขามีต่อแจจุงเมื่อนานมาแล้วอัดแน่นและวนเวียนไปมาในหัวสมองจนรู้สึกมึนตึง


     

     

    ทุกๆการกระทำอยู่ภายใต้เจ้าของดวงตากลมโตเคียงข้างที่ลอบมองคนที่ตนเองหลงรักอยู่อย่างเงียบๆ

     

     


    ยูชอน

     

    นายยังรักพี่แจจุงอยู่ใช่มั้ย?


     

     

    ซูจุนซู…!”

     

    “..อ๊ะอะไรเหรอ?ร่างเล็กที่สะดุ้งเพราะอาการเหม่อขานรับในขณะที่ยูชอนขมวดคิ้วมุ่น

     

    เป็นอะไรของนาย เหม่ออีกแล้วนะ

     

    “..ไม่มีอะไรซะหน่อย



     

     

    ไม่มีอะไรหรอกยูชอน

     

    ฉันก็แค่รักนายเท่านั้น

     

     

    ++++++++++++++++++++++++++++++++


    To Be Continued...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×