คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : 4.ขอเฮาสิฮักกันก็เกินพอ
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วจริง ๆ เกือบเดือนหนึ่งแล้วที่เธอกับพนมไม่ได้เห็นหน้ากัน แต่ก็ยังดีที่มีวิธีส่งความรักและคิดถึงหากันได้เสมอโดยไม่มีใครรู้
จนถึงวันนี้ ทั้งวันนรีใช้เวลาสะสางงานที่คั่งค้าง จนเอกสารปึกสุดท้ายพิมพ์เรียบเรียงใหม่จนครบแล้ว เธอจึงชัตดาวน์ปิดคอมพิวเตอร์ จอมืดดำสนิทเช่นเดิม เธอเอนร่างพิงพนักเก้าอี้ผ้าฝ้ายอย่างเมื่อยล้า แหงนหน้าขึ้นมองเพดานห้องอยู่เนิ่นนาน
เสียงแคนแล่นแตร ๆ อันคุ้นหูดังแว่วมาจากไหนไม่รู้ นรีรีบลุกขึ้นชะโงกหน้าออกหน้าต่าง สอดส่องหาต้นเสียง ในใจนึกถึงพนมขึ้นมา
“ มาหาอ้ายได้บ่ คึดฮอดอยากเบิ่งหน้าเจ้า ”
เธอนึกถึงข้อความที่ส่งเข้ามือถือในตอนเช้า แล้วก็กดปิดมือถือ ตั้งหน้าตั้งตาทำงานจนลืมเสียสนิท เพิ่งนึกขึ้นได้ก็ตอนได้ยินเสียงแคนคู่ขวัญของพนมนี่แหละ นรีผลุนผลันลงบันไดอย่างรีบร้อนมาจนถึงชั้นล่าง ไม่มีใครอยู่บ้านพอดี เธอก้าวย่างออกจากบ้าน ปิดประตูใส่กุญแจไว้เรียบร้อย พ่อแม่คงมีกุญแจสำรองล่ะ ดวงตะวันลับขอบฟ้าแล้ว ทิ้งแสงสุดท้ายไว้ใกล้จางลง บนท้องฟ้านกฝูงใหญ่บินกลับรัง ในขณะที่บนพื้นดินหญิงสาวกำลังออกจากบ้านมาจนถึงแม่น้ำโขง เธอเดินเลียบริมฝั่งโขงช้า ๆ จุดหมายคือริมต้นลั่นทมที่เดิมที่นั่งกับพนมเมื่อวันวานที่ผ่านมา นั่นไง พนมมานั่งรอเธออยู่ก่อนจริง ๆ เขากำลังยกแคนขึ้นเป่า เสียงแคนท่วงทำนองไพเราะดังกังวานทั่วบริเวณต้นลั่นทมไปจนถึงบ้านเธอเลยหรือ
เธอนึกถึงข้อความที่ส่งเข้ามือถือในตอนเช้า แล้วก็กดปิดมือถือ ตั้งหน้าตั้งตาทำงานจนลืมเสียสนิท เพิ่งนึกขึ้นได้ก็ตอนได้ยินเสียงแคนคู่ขวัญของพนมนี่แหละ
นรีผลุนผลันลงบันไดอย่างรีบร้อนมาจนถึงชั้นล่าง ไม่มีใครอยู่บ้านพอดี เธอก้าวย่างออกจากบ้าน ปิดประตูใส่กุญแจไว้เรียบร้อย พ่อแม่คงมีกุญแจสำรองล่ะ
ดวงตะวันลับขอบฟ้าแล้ว ทิ้งแสงสุดท้ายไว้ใกล้จางลง บนท้องฟ้านกฝูงใหญ่บินกลับรัง ในขณะที่บนพื้นดินหญิงสาวกำลังออกจากบ้านมาจนถึงแม่น้ำโขง เธอเดินเลียบริมฝั่งโขงช้า ๆ จุดหมายคือริมต้นลั่นทมที่เดิมที่นั่งกับพนมเมื่อวันวานที่ผ่านมา
นั่นไง พนมมานั่งรอเธออยู่ก่อนจริง ๆ เขากำลังยกแคนขึ้นเป่า เสียงแคนท่วงทำนองไพเราะดังกังวานทั่วบริเวณต้นลั่นทมไปจนถึงบ้านเธอเลยหรือ
“ อ้ายพนม น้องมาแล้ว ”
นรีนั่งลงเคียงข้างพนมตรงโคนต้นลั่นทม จ้องตาคนรักเดี๋ยวเดียว สองหนุ่มสาวก็พร้อมใจกันแหงนหน้ามองแสงตะวัน ก่อนทอดตามองต่ำลงมา แสงกระทบน้ำโขงเป็นประกายยิบยับงามยิ่งกว่าเพชรเม็ดไหนในโลก พนมชื่นชมความงามจนถึงกับรำพึงออกมาว่า “ ลำน้ำโขงงามหลายเด้ออีนาง ” เขาหันหน้ามาหาคนรักเชิงขอความเห็น แต่ไร้ผล
. นรีนั่งกอดเข่าอยู่ท่าเดิม ไม่ยอมเอื้อนเอ่ยอะไรออกมา ยังคงทอดสายตามองประกายน้ำที่ไหลเรื่อย ๆ “ ฮักเฮามันมีอุปสรรคหลาย อีพ่ออีแม่ก็บ่ยอมรับอ้าย ทั้ง ๆ ที่ความฮักมันอยู่ที่ใจ บ่ใช่ฐานะเงินทองอีหยังนั่น ”
นรีนั่งลงเคียงข้างพนมตรงโคนต้นลั่นทม จ้องตาคนรักเดี๋ยวเดียว สองหนุ่มสาวก็พร้อมใจกันแหงนหน้ามองแสงตะวัน ก่อนทอดตามองต่ำลงมา แสงกระทบน้ำโขงเป็นประกายยิบยับงามยิ่งกว่าเพชรเม็ดไหนในโลก พนมชื่นชมความงามจนถึงกับรำพึงออกมาว่า
“ ลำน้ำโขงงามหลายเด้ออีนาง ” เขาหันหน้ามาหาคนรักเชิงขอความเห็น แต่ไร้ผล .
นรีนั่งกอดเข่าอยู่ท่าเดิม ไม่ยอมเอื้อนเอ่ยอะไรออกมา ยังคงทอดสายตามองประกายน้ำที่ไหลเรื่อย ๆ
“ ฮักเฮามันมีอุปสรรคหลาย อีพ่ออีแม่ก็บ่ยอมรับอ้าย ทั้ง ๆ ที่ความฮักมันอยู่ที่ใจ บ่ใช่ฐานะเงินทองอีหยังนั่น ”
นรีระบายความรู้สึกในใจที่อัดอั้นมานานออกมา ไม่มีใครเข้าใจเธอเลยแม้กระทั่งพ่อแม่แท้ ๆ ทุกคนไม่เข้าใจว่ารักที่แท้จริงคืออะไรเลยหรือ
“ อ้ายฮู้ว่าอ้ายมันจน บ่มีอีหยังสักอย่าง ไผก็บ่ฮัก แต่อ้ายเข้าใจความรู้สึกของอีพ่ออีแม่เจ้า เขาคงบ่อยากให้ลูกต้องลำบาก ” พนมเปล่งเสียงหนักแน่น “ อ้ายบ่อยากให้เจ้าลำบากคือกัน จังสิอ้ายขอลา ” พนมหยิบแคนยันกายลุกขึ้นยืนตรงหน้า หมุนตัวเดินดุ่ม ๆ จากไป น้ำตาไหลเอ่อล้นขอบตานรีอีกครั้ง เธอยกมือปาดน้ำตาทิ้งแล้วร้องเรียกเขา “ อ้ายสิไปไส ถ้าคนฮักกันจริง ต่อให้เป็นจังใดก็ต้องยอมรับได้ ” พนมชะงักเท้าทั้งคู่ก่อนหมุนตัวกลับมามอง แล้วทำท่าจะหันกลับเดินหน้าต่อไป นรีรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งมาหยุดยืนตรงหน้าพนม มือไวเท่าความคิดยึดจับแขนเขาไว้ “ คนที่คู่ควรกับเจ้ายังมีหลายเด้อ อ้ายมันจนบ่คู่ควรกับน้อง ” “ บ่ใช่ว่าจะต้องคู่ควร จะต้องรวยคือกันจนคือกัน ความฮักไร้พรมแดน ไร้เชื้อชาติ ไร้ฐานะ เป็นจังใดบ่สำคัญ ขอเพียงสองเฮาสิฮักกันก็เกินพอ ” ประโยคสุดท้ายจบลงด้วยน้ำเสียงอันแหบโหย สองหนุ่มสาวต่างยืนสบตากันอยู่ริมฝั่งโขง มีเสียงน้ำไหลเอื่อยประกอบ ทั้งสองตกอยู่ในความเงียบงัน ต่างคนต่างครุ่นคิดถึงความรักที่ผ่านมา คำพูดของนรีมันเป็นความจริงเลยทีเดียว แล้วพนมก็ยกมือลูบไล้เรือนผมของนรีอย่างเบามือ ถ่ายทอดความรักอันอ่อนโยนแก่หญิงสาวอันเป็นที่รัก “ อ้ายขอโทษ ต่อไปนี้ อุปสรรคอีหยังก็บ่ทำให้เฮาสองคนหวั่นไหวอีกต่อไป ตราบใดที่เฮายังฮักกันอยู่ ” นรีตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูก โผเข้ากอดคนรักซบหน้าลงบนอกเขา น้ำตาที่เหือดแห้งกลับไหลลงมาอีกครา
“ อ้ายฮู้ว่าอ้ายมันจน บ่มีอีหยังสักอย่าง ไผก็บ่ฮัก แต่อ้ายเข้าใจความรู้สึกของอีพ่ออีแม่เจ้า เขาคงบ่อยากให้ลูกต้องลำบาก ” พนมเปล่งเสียงหนักแน่น “ อ้ายบ่อยากให้เจ้าลำบากคือกัน จังสิอ้ายขอลา ”
พนมหยิบแคนยันกายลุกขึ้นยืนตรงหน้า หมุนตัวเดินดุ่ม ๆ จากไป น้ำตาไหลเอ่อล้นขอบตานรีอีกครั้ง เธอยกมือปาดน้ำตาทิ้งแล้วร้องเรียกเขา
“ อ้ายสิไปไส ถ้าคนฮักกันจริง ต่อให้เป็นจังใดก็ต้องยอมรับได้ ”
พนมชะงักเท้าทั้งคู่ก่อนหมุนตัวกลับมามอง แล้วทำท่าจะหันกลับเดินหน้าต่อไป นรีรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งมาหยุดยืนตรงหน้าพนม มือไวเท่าความคิดยึดจับแขนเขาไว้
“ คนที่คู่ควรกับเจ้ายังมีหลายเด้อ อ้ายมันจนบ่คู่ควรกับน้อง ”
“ บ่ใช่ว่าจะต้องคู่ควร จะต้องรวยคือกันจนคือกัน ความฮักไร้พรมแดน ไร้เชื้อชาติ ไร้ฐานะ เป็นจังใดบ่สำคัญ ขอเพียงสองเฮาสิฮักกันก็เกินพอ ”
ประโยคสุดท้ายจบลงด้วยน้ำเสียงอันแหบโหย สองหนุ่มสาวต่างยืนสบตากันอยู่ริมฝั่งโขง มีเสียงน้ำไหลเอื่อยประกอบ ทั้งสองตกอยู่ในความเงียบงัน ต่างคนต่างครุ่นคิดถึงความรักที่ผ่านมา คำพูดของนรีมันเป็นความจริงเลยทีเดียว
แล้วพนมก็ยกมือลูบไล้เรือนผมของนรีอย่างเบามือ ถ่ายทอดความรักอันอ่อนโยนแก่หญิงสาวอันเป็นที่รัก
“ อ้ายขอโทษ ต่อไปนี้ อุปสรรคอีหยังก็บ่ทำให้เฮาสองคนหวั่นไหวอีกต่อไป ตราบใดที่เฮายังฮักกันอยู่ ”
นรีตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูก โผเข้ากอดคนรักซบหน้าลงบนอกเขา น้ำตาที่เหือดแห้งกลับไหลลงมาอีกครา
“ น้องก็จะขอฮักอ้ายคือกัน ”
น้องก็จะขอฮักอ้ายคือกัน ”พนมยกแขนโอบกอดตอบพลางซบหน้าลงบนเส้นผมของนรีแล้วใช้มือไล้เบา ๆ ทั้งสองกอดสัมผัสความรักอยู่นาน ในที่สุดจึงผละออก
“ วันพรุ่งนี้ อ้ายเฮ็ดงานแล้วจะไปรับเจ้าเด้อ ” ความรักไม่มีอุปสรรคใดขวางกั้น ตราบใดที่ยังรักกันอยู่
“ วันพรุ่งนี้ อ้ายเฮ็ดงานแล้วจะไปรับเจ้าเด้อ ”
ความรักไม่มีอุปสรรคใดขวางกั้น ตราบใดที่ยังรักกันอยู่
¶ ¶ ¶ ¶
ความคิดเห็น