ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เสียงเพลงริมฝั่งโขง

    ลำดับตอนที่ #6 : 4.ขอเฮาสิฮักกันก็เกินพอ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 83
      0
      3 พ.ค. 49

    เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วจริง ๆ เกือบเดือนหนึ่งแล้วที่เธอกับพนมไม่ได้เห็นหน้ากัน แต่ก็ยังดีที่มีวิธีส่งความรักและคิดถึงหากันได้เสมอโดยไม่มีใครรู้

    จนถึงวันนี้ ทั้งวันนรีใช้เวลาสะสางงานที่คั่งค้าง จนเอกสารปึกสุดท้ายพิมพ์เรียบเรียงใหม่จนครบแล้ว เธอจึงชัตดาวน์ปิดคอมพิวเตอร์ จอมืดดำสนิทเช่นเดิม เธอเอนร่างพิงพนักเก้าอี้ผ้าฝ้ายอย่างเมื่อยล้า แหงนหน้าขึ้นมองเพดานห้องอยู่เนิ่นนาน

    เสียงแคนแล่นแตร ๆ อันคุ้นหูดังแว่วมาจากไหนไม่รู้ นรีรีบลุกขึ้นชะโงกหน้าออกหน้าต่าง สอดส่องหาต้นเสียง ในใจนึกถึงพนมขึ้นมา

    มาหาอ้ายได้บ่ คึดฮอดอยากเบิ่งหน้าเจ้า ”

    เธอนึกถึงข้อความที่ส่งเข้ามือถือในตอนเช้า แล้วก็กดปิดมือถือ ตั้งหน้าตั้งตาทำงานจนลืมเสียสนิท เพิ่งนึกขึ้นได้ก็ตอนได้ยินเสียงแคนคู่ขวัญของพนมนี่แหละ

    นรีผลุนผลันลงบันไดอย่างรีบร้อนมาจนถึงชั้นล่าง ไม่มีใครอยู่บ้านพอดี เธอก้าวย่างออกจากบ้าน ปิดประตูใส่กุญแจไว้เรียบร้อย พ่อแม่คงมีกุญแจสำรองล่ะ

    ดวงตะวันลับขอบฟ้าแล้ว ทิ้งแสงสุดท้ายไว้ใกล้จางลง บนท้องฟ้านกฝูงใหญ่บินกลับรัง ในขณะที่บนพื้นดินหญิงสาวกำลังออกจากบ้านมาจนถึงแม่น้ำโขง เธอเดินเลียบริมฝั่งโขงช้า ๆ จุดหมายคือริมต้นลั่นทมที่เดิมที่นั่งกับพนมเมื่อวันวานที่ผ่านมา

    นั่นไง พนมมานั่งรอเธออยู่ก่อนจริง ๆ เขากำลังยกแคนขึ้นเป่า เสียงแคนท่วงทำนองไพเราะดังกังวานทั่วบริเวณต้นลั่นทมไปจนถึงบ้านเธอเลยหรือ

    มาหาอ้ายได้บ่ คึดฮอดอยากเบิ่งหน้าเจ้า ”

    เธอนึกถึงข้อความที่ส่งเข้ามือถือในตอนเช้า แล้วก็กดปิดมือถือ ตั้งหน้าตั้งตาทำงานจนลืมเสียสนิท เพิ่งนึกขึ้นได้ก็ตอนได้ยินเสียงแคนคู่ขวัญของพนมนี่แหละ

    นรีผลุนผลันลงบันไดอย่างรีบร้อนมาจนถึงชั้นล่าง ไม่มีใครอยู่บ้านพอดี เธอก้าวย่างออกจากบ้าน ปิดประตูใส่กุญแจไว้เรียบร้อย พ่อแม่คงมีกุญแจสำรองล่ะ

    ดวงตะวันลับขอบฟ้าแล้ว ทิ้งแสงสุดท้ายไว้ใกล้จางลง บนท้องฟ้านกฝูงใหญ่บินกลับรัง ในขณะที่บนพื้นดินหญิงสาวกำลังออกจากบ้านมาจนถึงแม่น้ำโขง เธอเดินเลียบริมฝั่งโขงช้า ๆ จุดหมายคือริมต้นลั่นทมที่เดิมที่นั่งกับพนมเมื่อวันวานที่ผ่านมา

    นั่นไง พนมมานั่งรอเธออยู่ก่อนจริง ๆ เขากำลังยกแคนขึ้นเป่า เสียงแคนท่วงทำนองไพเราะดังกังวานทั่วบริเวณต้นลั่นทมไปจนถึงบ้านเธอเลยหรือ

    อ้ายพนม น้องมาแล้ว ”

    นรีนั่งลงเคียงข้างพนมตรงโคนต้นลั่นทม จ้องตาคนรักเดี๋ยวเดียว สองหนุ่มสาวก็พร้อมใจกันแหงนหน้ามองแสงตะวัน ก่อนทอดตามองต่ำลงมา แสงกระทบน้ำโขงเป็นประกายยิบยับงามยิ่งกว่าเพชรเม็ดไหนในโลก พนมชื่นชมความงามจนถึงกับรำพึงออกมาว่า

    “ ลำน้ำโขงงามหลายเด้ออีนาง ” เขาหันหน้ามาหาคนรักเชิงขอความเห็น แต่ไร้ผล….

    นรีนั่งกอดเข่าอยู่ท่าเดิม ไม่ยอมเอื้อนเอ่ยอะไรออกมา ยังคงทอดสายตามองประกายน้ำที่ไหลเรื่อย ๆ

    “ ฮักเฮามันมีอุปสรรคหลาย อีพ่ออีแม่ก็บ่ยอมรับอ้าย ทั้ง ๆ ที่ความฮักมันอยู่ที่ใจ บ่ใช่ฐานะเงินทองอีหยังนั่น ”

    อ้ายพนม น้องมาแล้ว ”

    นรีนั่งลงเคียงข้างพนมตรงโคนต้นลั่นทม จ้องตาคนรักเดี๋ยวเดียว สองหนุ่มสาวก็พร้อมใจกันแหงนหน้ามองแสงตะวัน ก่อนทอดตามองต่ำลงมา แสงกระทบน้ำโขงเป็นประกายยิบยับงามยิ่งกว่าเพชรเม็ดไหนในโลก พนมชื่นชมความงามจนถึงกับรำพึงออกมาว่า

    “ ลำน้ำโขงงามหลายเด้ออีนาง ” เขาหันหน้ามาหาคนรักเชิงขอความเห็น แต่ไร้ผล….

    นรีนั่งกอดเข่าอยู่ท่าเดิม ไม่ยอมเอื้อนเอ่ยอะไรออกมา ยังคงทอดสายตามองประกายน้ำที่ไหลเรื่อย ๆ

    “ ฮักเฮามันมีอุปสรรคหลาย อีพ่ออีแม่ก็บ่ยอมรับอ้าย ทั้ง ๆ ที่ความฮักมันอยู่ที่ใจ บ่ใช่ฐานะเงินทองอีหยังนั่น ”

    นรีระบายความรู้สึกในใจที่อัดอั้นมานานออกมา ไม่มีใครเข้าใจเธอเลยแม้กระทั่งพ่อแม่แท้ ๆ ทุกคนไม่เข้าใจว่ารักที่แท้จริงคืออะไรเลยหรือ

    “ อ้ายฮู้ว่าอ้ายมันจน บ่มีอีหยังสักอย่าง ไผก็บ่ฮัก แต่อ้ายเข้าใจความรู้สึกของอีพ่ออีแม่เจ้า เขาคงบ่อยากให้ลูกต้องลำบาก ” พนมเปล่งเสียงหนักแน่น “ อ้ายบ่อยากให้เจ้าลำบากคือกัน จังสิอ้ายขอลา ”

    พนมหยิบแคนยันกายลุกขึ้นยืนตรงหน้า หมุนตัวเดินดุ่ม ๆ จากไป น้ำตาไหลเอ่อล้นขอบตานรีอีกครั้ง เธอยกมือปาดน้ำตาทิ้งแล้วร้องเรียกเขา

    “ อ้ายสิไปไส ถ้าคนฮักกันจริง ต่อให้เป็นจังใดก็ต้องยอมรับได้ ”

    พนมชะงักเท้าทั้งคู่ก่อนหมุนตัวกลับมามอง แล้วทำท่าจะหันกลับเดินหน้าต่อไป นรีรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งมาหยุดยืนตรงหน้าพนม มือไวเท่าความคิดยึดจับแขนเขาไว้

    “ คนที่คู่ควรกับเจ้ายังมีหลายเด้อ อ้ายมันจนบ่คู่ควรกับน้อง ”

    “ บ่ใช่ว่าจะต้องคู่ควร จะต้องรวยคือกันจนคือกัน ความฮักไร้พรมแดน ไร้เชื้อชาติ ไร้ฐานะ เป็นจังใดบ่สำคัญ ขอเพียงสองเฮาสิฮักกันก็เกินพอ ”

    ประโยคสุดท้ายจบลงด้วยน้ำเสียงอันแหบโหย สองหนุ่มสาวต่างยืนสบตากันอยู่ริมฝั่งโขง มีเสียงน้ำไหลเอื่อยประกอบ ทั้งสองตกอยู่ในความเงียบงัน ต่างคนต่างครุ่นคิดถึงความรักที่ผ่านมา คำพูดของนรีมันเป็นความจริงเลยทีเดียว

    แล้วพนมก็ยกมือลูบไล้เรือนผมของนรีอย่างเบามือ ถ่ายทอดความรักอันอ่อนโยนแก่หญิงสาวอันเป็นที่รัก

    “ อ้ายขอโทษ ต่อไปนี้ อุปสรรคอีหยังก็บ่ทำให้เฮาสองคนหวั่นไหวอีกต่อไป ตราบใดที่เฮายังฮักกันอยู่ ”

    นรีตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูก โผเข้ากอดคนรักซบหน้าลงบนอกเขา น้ำตาที่เหือดแห้งกลับไหลลงมาอีกครา

    นรีระบายความรู้สึกในใจที่อัดอั้นมานานออกมา ไม่มีใครเข้าใจเธอเลยแม้กระทั่งพ่อแม่แท้ ๆ ทุกคนไม่เข้าใจว่ารักที่แท้จริงคืออะไรเลยหรือ

    “ อ้ายฮู้ว่าอ้ายมันจน บ่มีอีหยังสักอย่าง ไผก็บ่ฮัก แต่อ้ายเข้าใจความรู้สึกของอีพ่ออีแม่เจ้า เขาคงบ่อยากให้ลูกต้องลำบาก ” พนมเปล่งเสียงหนักแน่น “ อ้ายบ่อยากให้เจ้าลำบากคือกัน จังสิอ้ายขอลา ”

    พนมหยิบแคนยันกายลุกขึ้นยืนตรงหน้า หมุนตัวเดินดุ่ม ๆ จากไป น้ำตาไหลเอ่อล้นขอบตานรีอีกครั้ง เธอยกมือปาดน้ำตาทิ้งแล้วร้องเรียกเขา

    “ อ้ายสิไปไส ถ้าคนฮักกันจริง ต่อให้เป็นจังใดก็ต้องยอมรับได้ ”

    พนมชะงักเท้าทั้งคู่ก่อนหมุนตัวกลับมามอง แล้วทำท่าจะหันกลับเดินหน้าต่อไป นรีรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งมาหยุดยืนตรงหน้าพนม มือไวเท่าความคิดยึดจับแขนเขาไว้

    “ คนที่คู่ควรกับเจ้ายังมีหลายเด้อ อ้ายมันจนบ่คู่ควรกับน้อง ”

    “ บ่ใช่ว่าจะต้องคู่ควร จะต้องรวยคือกันจนคือกัน ความฮักไร้พรมแดน ไร้เชื้อชาติ ไร้ฐานะ เป็นจังใดบ่สำคัญ ขอเพียงสองเฮาสิฮักกันก็เกินพอ ”

    ประโยคสุดท้ายจบลงด้วยน้ำเสียงอันแหบโหย สองหนุ่มสาวต่างยืนสบตากันอยู่ริมฝั่งโขง มีเสียงน้ำไหลเอื่อยประกอบ ทั้งสองตกอยู่ในความเงียบงัน ต่างคนต่างครุ่นคิดถึงความรักที่ผ่านมา คำพูดของนรีมันเป็นความจริงเลยทีเดียว

    แล้วพนมก็ยกมือลูบไล้เรือนผมของนรีอย่างเบามือ ถ่ายทอดความรักอันอ่อนโยนแก่หญิงสาวอันเป็นที่รัก

    “ อ้ายขอโทษ ต่อไปนี้ อุปสรรคอีหยังก็บ่ทำให้เฮาสองคนหวั่นไหวอีกต่อไป ตราบใดที่เฮายังฮักกันอยู่ ”

    นรีตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูก โผเข้ากอดคนรักซบหน้าลงบนอกเขา น้ำตาที่เหือดแห้งกลับไหลลงมาอีกครา

    น้องก็จะขอฮักอ้ายคือกัน ”

    น้องก็จะขอฮักอ้ายคือกัน ”

    พนมยกแขนโอบกอดตอบพลางซบหน้าลงบนเส้นผมของนรีแล้วใช้มือไล้เบา ๆ ทั้งสองกอดสัมผัสความรักอยู่นาน ในที่สุดจึงผละออก

    “ วันพรุ่งนี้ อ้ายเฮ็ดงานแล้วจะไปรับเจ้าเด้อ ”

    ความรักไม่มีอุปสรรคใดขวางกั้น ตราบใดที่ยังรักกันอยู่

    พนมยกแขนโอบกอดตอบพลางซบหน้าลงบนเส้นผมของนรีแล้วใช้มือไล้เบา ๆ ทั้งสองกอดสัมผัสความรักอยู่นาน ในที่สุดจึงผละออก

    “ วันพรุ่งนี้ อ้ายเฮ็ดงานแล้วจะไปรับเจ้าเด้อ ”

    ความรักไม่มีอุปสรรคใดขวางกั้น ตราบใดที่ยังรักกันอยู่

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×