"เห้ย! ริปเปอร์ พักนี้ดูท่าทางของเล่นของนาย.. ไม่สิ 'ของพวกเรา' จะมีบริการ์ดเยอะน่าดูเลยนะ ฮ่าๆๆ" โจ๊กเกอร์เน้นคำราวกับเย้ยหยัน ยิ่งพอได้ฟังแบบนั้นแจ็คก็แทบอยากจะฆ่าคนตรงหน้าทิ้งไปให้พ้นๆ ..เกะกะลูกตาจริง
"หุบปากซะ เขาไม่ใช่ของๆแก"
"โหห~ แน่ใจ? ก็นายเป็นคนยกเขาให้พวกเราเองไม่ใช่หรอ หึ" กรงเล็บคมจรดเข้าที่ลำคอ แต่ถึงอย่างนั้นโจ๊กเกอร์ก็ยังดูไม่มีความหวาดกลัวใดๆ ท่าทางที่แจ็คแสดงออกมาสร้างเสียงหัวเราะดังไปทั่วห้อง ก่อนที่เขาจะเป็นฝ่ายเดินออกไปเอง
"ไม่ไหวแล้ว.. ฉันเป็นห่วงนาอิบจนฉันไม่เป็นอันจะเล่นเกมส์แล้ว" มาร์ธ่าบ่นท่ามกลางห้องโถงสำหรับรอเข้าร่วมเกมส์ โดยมีเอมิลี่ เฮเลน่าและวิลเลี่ยมนั่งอยู่เป็นเพื่อน
"นั่นสินะ ฉันเองเป็นห่วงเขาเหมือนกัน"
"หมอนั่นไม่เป็นไรหรอกน่า เชื่อสิ! ยังไงนาอิบก็ขึ้นชื่อว่าเป็นทหารเลยนะ" วิลเลี่ยมพยายามพูดปลอบใจ และเขาก็พูดแบบนี้แทบทุกครั้ง แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานวันเข้าก็ดูเหมือนมันจะไม่ค่อยช่วยอะไรมากนักเท่าไหร่
"ใจเย็นๆนะคะคุณมาร์ธ่า หนูว่ายังไงคุณนาอิบก็ต้องยังปลอดภัยค่ะ" เฮเลน่ายื่นมือไปกุมมาร์ธ่า แม้เธอจะมองไม่เห็นแต่ไนบ์เป็นคนดี ยังไงเธอก็เชื่อว่าจะต้องมีแต่คนรักแน่นอน ..รวมถึงเหล่าฮันเตอร์ด้วย
"อึก! เข้าใจแล้ว.." ปากพูดแบบนั้นแต่สีหน้าก็ไม่ได้ดีขึ้นเลย ทั้งสามมองหน้ากันอย่างนึกสงสาร ทั้งสองคนเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ยังไม่มาที่คฤหาสน์แห่งนี้ไม่แปลกใจเลยที่เธอจะเป็นห่วงขนาดนั้น
"รู้สึกเกมส์จะเริ่มแล้วล่ะ พยายามเข้านะทุกคน" เอมิลี่ยิ้ม ที่เหลือเองก็พยักเข้าใจ
เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้งเบื้องหน้าของพวกเขาก็ปรากฏเป็นโบสถ์ร้างตามจุดต่างๆ มาร์ธ่านั้นเธอตื่นมาแถวซากปรักหักพังของโบสถ์เล็ก โชคดีที่เธอตื่นมาหน้าเครื่องถอดรหัส เธอจึงรีบถอดรหัสทันทีรอเวลาที่จะเจอฮันเตอร์
ทำไมฮันเตอร์ยังไม่ตีใครสักทีนะ" ตอนนี้พวกเธอถอดเครื่องถอดรหัสไปถึง 2 เครื่องแล้ว แต่ก็ยังไม่เห็นวี่แววของฮันเตอร์เสียที
"ว้าย! ขอโทษนะคะคุณมาร์ธ่าหนูไม่รู้ว่าคุณอยู่ตรงนี้! ช-- ช่วยต่อทีนะคะหนูจะไม่ไหวแล้ว><!!" เข้าใจล่ะ ที่ทุกคนปั่นกันสบายก็เพราะมีแม่หนูเฮเลน่าจู๊คอยู่สินะ!!
"เข้าใจแล้ว! เธอวิ่งไปก่อนได้เลย ฉันจะล่อไว้เอง"
"อ้าวๆ? คลาดสายตาจากแม่หนูสายจู๊คคนนั้นไปซะแล้ว"
-- เพราะ เจ้าเอาแต่เล่นน่ะสิ --
"โถ่ ท่านพี่ก็ข้าตีสั้นนี่น่า อีกอย่างเด็กนั่นก็หนีเก่งซะด้วย"
-- ช่างเถอะ ..ไปเก็บเด็กที่อยู่ตรงหน้านั่นซะ --
"หึ เข้าใจแล้วท่านพี่" คนน้องรีบเปลี่ยนเป้าหมายมาหามาร์ธ่าทันที รอยยิ้มยียวนประดับใบหน้าคม เมื่อหญิงสาวรู้ตัวว่าเป้าหมายได้เปลี่ยนมาเป็นตัวเธอแล้วก็รีบออกตัววิ่งทันที แต่ถึงเธอจะวิ่งเร็วมากแค่ไหนก็ยังสู้ฮันเตอร์ที่อยู่ด้านหลังไม่ได้
"หนีเข้าไปเถอะ ฮ่าๆๆ" ฟ่านอู่จิ่ว ง้างมือรอจังหวะก่อนจะหวดร่มลงไปตีมาร์ธ่าอย่างแรงจนสกิลวิ่งเร็วขึ้น 2 วินาทีเริ่มทำงาน
"โธ่เอ้ย! ถ้าเป็นนาอิบล่ะก็จะต้องล่อฮันเตอร์ได้นานกว่าเราแน่ๆ อ่ะ!!" ในขณะที่เธอกำลังวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนร่างของชายชุดสีดำสนิทก็โผล่มาอยู่ตรงหน้าเธอเสียแล้ว เหตุนั้นจึงทำให้เธอต้องโดนโจมตีอีกครั้งจนล้มลงไป แต่อย่างน้อยๆก็ยังดีตรงที่เธอวิ่งล่อให้จนเหลือเพียงแค่เครื่องเดัยวเท่านั้น
"รีบจับไปนั่งดีกว่า เสียเวลามามากแล้วด้วยสิ"
"น-- นาอิบอยู่ไหน.. เอาเขาคืนมานะ" ตัวฟ่านชะงัก ก่อนที่พี่น้องจะสลับตัวกัน คนพี่ย่อตัวลงเพื่อพูดคุยกับสาวตรงหน้า เธอรีบขยับตัวหนีทันทีทั้งที่ยังบาดเจ็บ
"เขาจะปลอดภัย รอก่อนก็แล้วกัน.." มาร์ธ่าชะงัก ไม่เข้าใจในคำตอบของอีกฝ่ายเลยสักนิด แต่แววตากับน้ำเสียงกลับแสดงถึงความรู้สึกผิดเสียเต็มประดา
"หมายความว่ายังไง.. พวกนายทำอะไรเขาหรือเปล่า!!" มีเพียงความเงียบที่ตอบกลับมา สิ่งนั้นยิ่งทำให้คนรอฟังคำตอบกังวลเข้าไปใหญ่
"เขาเป็นเพื่อนของเรานะ.. เอาเขาคืนมาสักที" เธอแทบอยากจะร้องไห้ เมื่อรู้ว่าไนบ์ไม่ได้อยู่อย่างสุขสบายกว่าที่เคยเป็นอยู่เลย กลับกันแล้วมันคงจะทรมานและตกต่ำมากกว่าตอนที่อยู่คฤหาสน์เซอร์ไวแน่ๆ
"เขาเป็นแค่ เพื่อน สำหรับเธอจริงๆน่ะหรอ" อยู่ๆเขาก็อยากจะถามคำถามนี้ขึ้นมา เพราะถ้าให้เดาจากท่าทางที่กระวนกระวายเกินจำเป็นแบบนั้นมีหรอที่จะคิดแค่เพื่อนจริงๆ
"อย่ามายุ่งเรื่องคนอื่นเลย.. ฉันจะรู้สึกยังไงมันก็เรื่องของฉัน!"
"หึ.. ช่างเถอะ วันนี้ฉันไม่มีอารมณ์จะมาเล่นแล้ว รีบๆถอดรหัสแล้วก็กลับๆไปซะ ยังไงก็มีแม่หนูตาบอดนั่นอีกไม่นานก็คงเสร็จ" ว่าจบเขาก็เดินห่างออกไปทันที มาร์ธ่าได้แต่ยืนกำหมัดไม่สบอารมณ์แต่สุดท้ายก็ทำอะไรไม่ได้อย่างน้อยๆการที่เธอยอมทำตามเพื่อนๆอีกสามคนก็จะปลอดภัย
"นาอิบ.. ขอให้ปลอดภัยทีเถอะ"
"ไนบ์.. ตื่นอยู่หรือเปล่า" เสียงทุ้มต่ำเอ่ยเบาๆ ราวกับกลัวว่าคนที่เขามาหาจะตื่นเอาเสียก่อน เขาก้าวเดินช้าๆและให้มันเบามากที่สุดเพื่อเข้าไปหาร่างที่กำลังพริ้มหลับอยู่อย่างไม่ระวังตัว
"ถ้าเธอตื่นขึ้นมาล่ะก็ คงแย่เลยเนอะ" มือหนายกขึ้นลูบเส้นผมสีน้ำตาลอ่อนอย่างแผ่วเบาๆ เขานั่งลงข้างๆพยายามทำทุกอย่างให้เงียบและเบามือที่สุด ..เขาเพียงแค่อยากจะเห็นหน้าของอีกฝ่ายบ้าง อยากจะสัมผัสบ้างเพียงสักนิดก็ยังดี
เพราะเธอไม่ยอมหายไปจากความคิดของฉันสักที... ถ้าฉันอยากจะขอโทษเธอตอนนี้ เธอจะให้อภัยฉันหรือเปล่า" ร่างสูงค่อยๆเลื่อนมือไปตามใบหน้าหวาน ก่อนที่เขาจะก้มลงเพื่อจุมพิศกับหน้าผากมน เขาค้างไว้อยู่นานก่อนที่จะถอนริมฝีปากออก
"รู้หรือเปล่าว่าฉันเคยอยากจะปลดปล่อยเธออยู่หลายครั้ง.. แต่ตอนที่ฉันคิดแบบนั้นมันก็สายเกินไปแล้ว เธอแทบจะไม่หลงเหลือสติอยู่อีกแล้ว ฉันถึงได้กลัว.. กลัวว่าถ้าเธอออกไปจากห้องๆนี้ เธอจะไม่สามารถกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมของเธอได้... ฉันอยากจะบอกเหตุผลนี้ให้เธอรู้นะ.. แต่ตอนนี้เธอคงไม่เชื่อใจในตัวฉันหรอก" แจ็คทิ้งตัวลงสวมกอดไนบ์เบาๆจากด้านหลัง แต่เขาก็อยู่เพียงไม่นานเท่านั้นก่อนที่จะลุกออกไป ...
"ไว้แล้วฉันจะมาใหม่นะ..."
"ฮื้มม~ ฮึฮึๆ ^^"
"อรุณสวัสดิ์เจ้าค่ะ นาอิ---" มิชิโกะที่เดินลงมาพร้อมถาดอาหารเช่นเดียวกับทุกๆวัน ถึงกับต้องชะงักไปเมื่อได้ยินเสียงฮัมเพลงและเสียงหัวเราะเบาๆมาจากคนที่ควรจะสงบนิ่งเหมือนกับที่ผ่านมา จนเธอต้องแอบมองว่าสาเหตุที่ทำให้ไนบ์ยิ้มได้ภายในข้ามคืนคนนั้นเป็นใครกันแน่
ไนบ์นั่งจ้องมองพลางหมุนดอกกุหลาบในมือไปพลางด้วยรอยยิ้มที่แสดงถึงความสุข ทั้งๆที่ไม่ว่ามิชิโกะหรือคนอื่นๆจะพยายามขนาดไหนก็ยังไม่เคยได้เห็นรอยยิ้มที่กว้างถึงขนาดนี้
"แจ็คมาที่นี่งั้นหรอ.. เจ้าสามารถให้อภัยเขาง่ายๆเช่นนี้เลยหรือ เด็กน้อย.."
"เห้อ ...ทำอะไรอยู่หรือเจ้าค่ะ นาอิบ^^" มิชิโกะปั้นหน้ายิ้ม ราวกับว่าเมื่อครู่เธอไม่ได้พบ ไม่ได้เห็นอะไรทั้งสิ้น
"คุณมิชิโกะ" แม้แต่น้ำเสียงก็ยังดูร่าเริงขึ้น..
"ดอกไม้นั่นของใครหรือเจ้าค่ะ"
"ไม่รู้หรือ.. แต่เจ้าดูมีความสุขมากเลยนะ" เธอสัมผัสกลุ่มผมนั้นอย่างอ่อนโยนพลางลูบไปมาเบาๆอย่างเอ็นดู
"หรอครับ.. ก็แค่พอเห็นมันแล้วรู้สึกมีความสุขเท่านั้นเอง แค่รู้สึกว่าเคยมีเรื่องดีๆที่เกี่ยวกับมันอยู่" คำตอบนั้นทำให้หญิงสาวแปลกใจ เธอคงไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม ..แค่รู้สึกอย่างนั้นหรอ?
"เจ้า.. เจ้าจำเหตุการณ์ก่อนที่จะมาอยู่ที่ห้องนี้ได้หรือไม่" มิชิโกะคาดครั้นหวังในคำตอบ ในใจเธอได้แต่ภาวนาขอให้คำตอบที่เธอกำลังจะได้รับไม่เหมือนกับที่ตัวเองไว้เท่านั้น...
"เอ๊ะ? เอ่อ.. ไม่รู้สิ จำได้แค่ว่าผมถูกเจ้านั่น--- จ-- โจ๊กเกอร์--- คือ--" ใบหน้าเริ่มถอดสีอีกครั้ง เมื่อต้องไปนึกถึงเรื่องที่ตนพบเจอมา ท่าทางลุกลี้ลุกลน สติเริ่มกระเจิงจึงดึงสติให้มิชิโกะรู้ว่าตัวเองดันไปถามคำภามที่ไม่สมควรเข้าแล้ว
"ช-- ช่างมันเถอะเจ้าค่ะ ทานอาหารกันเถอะนะเจ้าคะ" เธอพยายามเปลี่ยนเรื่อง แม้ว่ามันจะไม่ค่อยจะช่วยดึงไนบ์กลับมาก็ตาม จนเธอได้ไปสังเกตเห็นดอกกุกลาบในมืออีกฝ่าย
"น-- นาอิบ ถ้าเจ้ากำแรงขนาดนั้นดอกกุหลาบดอกนั้นจะช้ำเอานะ" มันได้ผล! ไนบ์ดูสงบลงแล้ว.. เขานั่งลูบดอกกุหลาบด้วยความเบามือคล้ายคนไม่มีสติ่วขณะ มิชิโกะได้แต่นั่งกลัดกลุ้มใจ เพียงแค่คำพูดไม่กี่คำก็สามารถทำให้เด็กคนนั้นสติหลุดได้ง่ายๆ ..แต่ที่น่าเป็นห่วงมากกว่านั้น..
'จนถึงตอนนี้ในส่วนลึกของหัวใจเจ้าก็ยัง 'รักแจ็ค' งั้นหรอ' ........
....
"แม้ความทรงจำจะลืมเลือน.. แต่ก็ยังจดจำความรักที่ได้มอบให้ไปแล้วได้สินะ... เด็กน้อยผู้น่าสงสาร"
คุยกันท้ายบท
มาแล้วค่าาาา>< ทำไมเรารู้สึกว่าช่วงสำคัญของตอนนี้มาอยู่ที่ช่วงท้ายๆ ด้วยความที่ว่าแจ็คมันเริ่มจะเลวร้ายลงเรื่อยๆ เราเลยคิดว่าสักนิดนึงก็ยังดีให้พี่แกได้เป็นคนดีกับเขาสักนิดนึง ฮ่าาาๆๆ ตอนนี้ขอสารภาพตามตรงเลยค่ะว่าแต่งสด ไม่มีการไตร่ตรองทบทวนใดๆทั้งสิ้น ถ้าผิดพลาดตรงไหนต้องขออภัยด้วยนะคะ
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน เข้ามาคอมเม้นเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ออย่าใจอ่อนนะ
(*เห็นน้องแอบหัวเราะแล้ว คิดไปว่าน้องจะยันแตก!!)
เป็นอิสระสักทีเถอะ สงสารน้องงงง;0;
มาต่อไวๆนะคะ อ่านเรื่องนี้มันมืดๆมนๆ ชอบ
หวังว่าพรี่แจ็คจะไม่หน้ามืดทำน้องนะ Y-Y