คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : เดินทาง
ยูฟาริตัสรู้สึกปลอดภัยมากหลังจากที่ผ่านเหตุการณ์นั้นไป 1 อาทิตย์
เขาได้ส่งความคืบหน้าไปยังอาณานิคลันธา
แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือไม่มีข้อมูลของคนที่ชื่อว่าชมพู
หลังจากที่เธอโตเป็นสาวก็ไม่เคยบันทึกอยู่ในฐานข้อมูลของ นิคมไหนๆ
เมื่อนึกถึงผู้หญิงคนนี้แล้ว ภาพที่เขาจำได้ไม่เคยลืมคือ ชมพูกระอักเลือดต่อหน้าต่อตา
เขาเพียงแค่อยากจะขู่เท่านั้น
อาจจะทดสอบใจใครก็คงจะต้องเลือกและดูให้ดีๆ
มันจะมีใครที่กล้าและบ้าบิ่นเท่านี้อีกไหม
วันทัดมา
เมื่อพระอาทิตย์ขึ้นดวงตะวันสดใส คนท้องถิ่น แต่ไม่ใช่คนท้องที่ต่างออกทำมาหากิน เหมือนกิจวัตรประจำวันที่ผ่านมา
ถนนเส้นใจกลางเมืองที่คนสัญจรไปมาต่างกันต้องขมวดคิ้วมุ่นบ้างก็ไม่พอใจ รูปเด็กเล็กแดงต้องหลีกเลี่ยงเส้นทางนี้ ไม่มีใครคนฟันสีดำที่ลอยคลุมไปทั่ว
ทุกคนที่ผ่านมาต่างกันหาที่มาว่าใครเป็นคนเผาขยะ
ที่มาของมันไม่ไกลเลยเป็นบ้านพักทรงกลมหลังหนึ่ง
ยูฟาริตัส ยืนดูเปลวเพลิงที่ลุกไหม้ เขามองดูและครุ่นคิดไปมา
เตียงนี้ไม่ใช่เขาขยะแขยงวันแต่มันยังหลงเหลือกลิ่นบางอย่างที่จะดึงดูดสิ่งที่ไม่ดีมา
กลิ่นของผู้หญิงคนนั้นยังติดอยู่ที่เตียง
แล้วก็ยังมีสิ่งที่หลงเหลือจากการสลายร่างของเจ้าแวมไพร์ตนนั้น
ไม่นานเขาก็ได้ยินเสียงแหกปากตะโกนอยู่อีกฟากหนึ่งของรั้วที่หนาแน่น
"เฮ้ย! จะเผ่าห่าอะไรวะ เกรงใจชาวบ้านชาวช่องบ้าง"
เมื่อยูฟาริตัสได้ยินเสียงด่า
ดังนั้น เขาก็รู้สึกสลดใจส่วนหนึ่ง แต่เมื่อคิดไปแล้วเขากลับยกมุมปากยิ้ม
และสั่งให้หุ่นยนต์แม่บ้านเปลี่ยนร่างเป็นตัวกำจัดควันดำดูดให้หมดและอัดแน่นให้กลายเป็นผงก้อนด้วยแรงดันมหาศาล
ในใจยูฟาริตัส ต้องรกรากรอบๆ บ้านพักเขาอย่างผิดกฎหมาย
พูดอย่างกับตัวเองเป็นชาวท้องถิ่น
ชาวบ้านบริเวณแถวนี้เขารู้ดีว่าเป็นพวกต่างถิ่นแต่มาอาศัยอยู่ที่นี่ ส่วนชาวท้องถิ่นจริงๆ น่ะหรือ
เขาไปใช้ชีวิตอยู่ลึกไปอยู่ในเขตต้องห้ามซึ่งเป็นกำแพงหินศิลาสูงใหญ่ตลอดทั้งแนวขนานไปกับเทือกเขาสูง เป็นเขตปกครองพิเศษ ยากที่คนทั่วไปจะเข้ามา
"ส่งคำสั่งไปที่อาณานิคม ให้เวนคืนที่ให้หมด พวกที่อยู่รอบบริเวณบ้านพักของข้าให้หมด ข้าไม่ได้อนุญาตให้มาตั้งรกรากแถวนี้ "
ยูฟาริตัส ได้บอกหุ่นยนต์ประจำบ้านพักให้จัดการกับเรื่องที่เหลือ
เดินทีแล้ว บริเวณบ้านพักที่เขาพำนักอยู่ไม่ควรจะมีบ้านเรือนล้อมรอบตั้งแต่ทีแรก
แต่เป็นเพราะกลุ่มที่มาจากความยากไร้และมาตั้งรกรากฐานทำมาหากินที่นี่ ล้วนแลเวไม่ได้ผ่านขั้นตอนของหน่วยงาน เขาก็ไม่ว่าอะไร
ตั้งแต่เขาอยู่ที่นี่มา
เขาต้องอดทนกับเสียงที่ดัง
กลิ่นเหม็นของคอกเลี้ยงสัตว์ หรืองานรื่นเริงกินเหล้าร้องคาราโอเกะสนั่นลั่นชุมชนตั้งแต่ตอนเย็นจนถึงเที่ยงคืน
เขาทนมามากพอแล้ว
การที่เขาจุดไฟเผาเตียงที่มีกลิ่นทำให้สิ่งไม่ดีมาที่นี่ อาจจะส่งควันดำแต่ก็ไม่มากพอให้กับที่พวกต่างถิ่นที่มาตั้งรกราก พวกคนเหล่านี้มักจะชอบเผาขยะแล้วเขม่าดำมาตกยังบ้านพักของเขา
ในเมื่อยูฟาริตัสอดทนกับพวกที่ล้อมรอบบ้านพักของเขาขนาดนี้แล้วการที่เขาจะเผาเพื่อให้กำจัดสิ่งไม่ดีทำไมพวกเขาถึงทนกันไม่ได้
ถ้าทนกันไม่ได้ก็ออกไปซะ
ไม่เกิน 2 วัน บริเวณรอบบ้านที่พำนักของยูฟาริตัส ผูกอำนาจของอาณานิคม ตระเวนคืนพื้นที่ ส่วนที่พักปลายทางของพวกเขา ก็ให้ฝ่ายประเทศพาราไซเป็นผู้รับผิดชอบ
ในเมือไม่ได้เป็นระเบียบเรียบร้อยแต่ทีแรก ดังนั้นหากมีคำสั่งจากอาณานิคม กรีบทำงานกันหางจุดตูด ก็ไม่แปลก
เพราะประเทศแห่งนี้อยู่ภายใต้การดูแลของอาณานิคม
เรื่องราวของผู้ที่พำนักอยู่บ้านพักก็เป็นที่เล่าลือของผู้ที่ตั้งรกราก
ไม่มีใครกล้าหาเรื่องแม้กระทั่งจะขับรถผ่านก็ไม่กล้า เพราะกลัวคำสั่งจากทางลัดให้ย้ายกระทันหัน
บ้างก็บอกว่าเป็นผู้มีอิทธิพลใหญ่มาพำนัก
บ้างก็บอกว่าเป็นเชื้อพระวงศ์
จะเป็นอะไรก็แล้วแต่ขี้ปากชาวบ้าน
แต่พวกที่ต่ำศักดิ์ก็ไม่ควรมาแวดล้อมผู้ที่สูงศักดิ์
มันเป็นไปไม่ได้ยากมากที่คนรวยกับคนจนจะใช้พื้นที่เดียวกันได้
1 เดือนผ่านไปไวเหมือนเบื่อหน่าย
ยูฟาริตัส แทบจะไปเที่ยวนอกสถานที่ท่องเที่ยวซ้ำไปซ้ำมา
จนกระทั่งคนแถวนี้แทบจะจำหน้าเขาได้อยู่แล้ว
เวลา 11 โมงตรง หุ่นยนต์แม่บ้านก็นำอาหารมาเสิร์ฟถึงที่
มันช่างหอมฉุยและน่ากิน ตอนนี้เขาแทบจะเบื่ออาหารทะเลเปลี่ยนมาเป็นเนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อสัตว์กินพืชแทน
ไม่กี่วันก็พึงจะเข้าสู่อาหารตามฤดูกาลของที่นี่
เมนูชาพารา
เมนูนี้ เป็นเมนูที่ขึ้นชื่ออร่อยที่สุดของประเทศพาราไซ
เนื้อหวาน ไขมันที่พอดี เขาว่ากันว่าเป็นเนื้อที่มีรสชาติใกล้เคียงกับเนื้อมนุษย์ที่สุด
พูดเหมือนเคยกิน
แต่เมนูนี้มีที่มาเป็นปริศนา เมื่อถึงปลายทางแล้วก็กลับถูกแพร่และแพ็คเกจอย่างดี
ไม่มีใครเห็นขนาดร่างเต็มที่ยังมีชีวิตอยู่
โดยที่เขาเป็นนักท่องเที่ยวพิเศษ ราคาก็ลดลงเหลือครึ่งหนึ่ง แต่ก็ถือว่าจ่ายหนักอยู่เหมือนกัน
1 กรัม ของเนื้อชนิดนี้ ที่ยังไม่ได้ไปประกอบอาหารทำเมนูต่างๆ
ต้องจ่ายถึง 1 กหาปณะ
ซึ่งสกุล กหาปณะ เท่ากับบาทของทองคำ
เมื่อคิดแบบนี้จึงทิ้งตัวนอน ในหัวของยูฟาริตัสรู้สึกนึกเสียดาย
มูลค่าขนาดนี้ สามารถซื้อของใช้ของกินได้หลายอย่าง
เครื่องมือสื่อสารแรงๆ สัก 1 เครื่อง
ก่อนหน้านั้น หลังจากที่คิดได้เขาก็เลือกที่จะสั่งมัน
เมื่อทานเสร็จก็เลือกที่จะออกไปเที่ยวข้างนอก คราวนี้เขาได้รับการอนุมัติจากเส้นสายพิเศษให้สามารถเข้าไปในยังพื้นที่ต้องห้ามได้
ยานพาหนะสำหรับโดยพื้นที่ต้องห้ามถูกออกแบบมาพิเศษ รูปทรงหัวกระสุน
มันเป็นรถ 2 ประตูนั่งได้คนเดียวขับเคลื่อนด้วย 2 ล้อ แต่สามารถตั้งฉากอยู่กับพื้นได้อย่างง่ายดาย
ด้านบนถูกครอบด้วยกระจกฟิล์มหนาทำให้เห็นเกือบ 360 องศาไม่ว่าจะเป็นมุมไหน
คันนี้ถูกออกแบบมาให้มีกระจกสำหรับส่องสิ่งที่ตามมาด้านหลังหรือไม่ก็เก็บพับได้อย่างสบาย
และเบาะนั่งของมันสามารถยืดให้นอนหลับพักผ่อนการฝากเขาได้แถมมีระบบฟอกอากาศอย่างดีรักษาใ
อุณหภูมิตามที่ผู้ที่ตั้งต้องการ
แล้วยังมีระบบทำความร้อน
เครื่องกรองน้ำ
สิ่งที่เก็บอุปกรณ์ยามจำเป็นปัจจัย 4
หรือว่ามีความพร้อมครบครัน
พาหนะนี้มีชื่อว่า คีออส
ขับเคลื่อนโดยที่ไม่ต้องมีคนขับก็ได้หรือผู้ที่พาหนะจะขับเสียเองก็ได้
ตั้งระบบอัตโนมัติให้มันขับเคลื่อนไปและใช้ระบบสแกนเซ็นเซอร์ทันสมัยคอยประมวลผลอย่างรวดเร็ว
เมื่อรถพาหนะ หัวสุนมาถึงทางเข้าเขตหวงห้าม ซึ่งถูกคั่นด้วยกำแพงหินศิลาสูงใหญ่มากกว่า 300 เมตรบานประตูใหญ่ทั้งสองฝั่งมีก็มีหอเสาสแกนขนาดใหญ่ยิงตรงมาพร้อมกับโดนบินมาสำรวจใต้ท้องพาหนะเพื่อค้นหาระเบิด
ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี
แล้วประตูศิลาหินยักษ์แห่งเขตต้องห้ามถูกเปิดออก
แต่ไม่ได้เปิดจนหมดเปิดให้ขนาดเท่ากับยางยนต์พาหนะให้ลอดเข้าไปเพียงเท่านั้น
หากเป็นคนถูกสแกนเข้าไปมันก็เปิดเท่ากับตัวของคนหรือใหญ่กว่านิดหน่อย
หากมากันเป็นทีมก็จะเลือกเปิดให้ใหญ่เท่ากับคนที่สูงที่สุดและเฉลี่ยความกว้างให้สบายเพื่อเข้าไปผ่านข้างในกันทุกคน
มันเป็นระบบเซ็นเซอร์ที่ประหลาดและตอบสนองผลออกมาก็ยิ่งประหลาดเข้าไปใหญ่
เมื่อผ่านพ้นประตูแผ่นศิลาแห่งเขตต้องห้ามแล้วคราวนี้ล่ะนี่คือดินแดนแห่งเขตต้องห้ามที่แท้จริง
ตรงหน้าจะเป็นป้ายไม้ขนาดใหญ่ด้านนึงชี้ไปทางสะพานแขวนที่ทำมาจากแผ่นไม้โบราณถูกขึงด้วยเชือกฟั่นขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 25 เมตรมันใหญ่โตโอฬารพอพอที่จะให้ยักษ์สูงราว 100 เมตรข้ามได้อย่างสบาย
ส่วนอีกฝั่งนึงจะไปทางป่าเขาดงดิบที่มืดมิด ทั้ง 2 สถานที่ที่จะไปนี้ล้วนถูกแบ่งเขตอย่างชัดเจน
ในป่าดงดิบจะเป็นสถานที่ของผู้มีอิทธิพลใหญ่ กลุ่มองค์โลหิตา
ส่วนฝั่งที่เป็นสะพานไม้จะเป็นกลุ่มชนเผ่าพาราไซ
จริงอยู่ที่ประเทศนี้ชื่อว่าพาราไซแต่ก็ยังมีเขตปกครองพิเศษที่ชื่อว่าองค์กรโลหิตา
ทั้งสองฝั่งนี้ตามข้อมูลแล้วดูเหมือนจะทำมาค้าขายแต่บ้างก็มีฆ่าฟันสลับปะปนกันไป
สถานที่ที่เขาจะไปคงจะเป็น หมู่บ้านที่นากะ ประจำอยู่ที่นั่น
นากะ คือคนที่เคยอยู่ในอาณานิคมลันธา เขาได้ลาออกเพราะอยากมาใช้ชีวิตตามชนบทอยากช่วยเหลือชนเผ่าพาราไซที่ยากลำบาก อยากจะไปอยู่กับธรรมชาติ
เพราะเขาไม่เก่งเรื่องทางด้านเทคโนโลยี
ด้วยที่ตอนเด็กเขาเกิดอยู่ในชุมชนต่างจังหวัดชุมชนที่ติดเขาถิ่นธรรมชาติ ชื่นชมน้ำตกบนเขาแสนงาม
นากะมีประสบการณ์มาตั้งแต่ยังเด็ก
จึงคุ้นชินกับธรรมชาติมากกว่าที่จะอยู่อาณานิคมนอกดวงดาว
ยานพาหนะเคลื่อนตัวไปยังเป้าหมายที่ยูฟาริตัสเลือกไว้แล้ว
ความคิดเห็น