ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ยูฟาริตัส ฉบับ เถื่อน [เขียนบท]

    ลำดับตอนที่ #9 : แมงสี่ตาหกขา

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4
      0
      2 ก.ย. 67

    ตรงหน้าของเขาพันปรากฏร่างใหญ่ล่าง 1 มันมีขนสีดำร่างกายของมันใหญ่โตม

    ลักษณะคล้ายหมี

    แต่เมื่อมันหันมามองยูฟาริตัส

    ก็ปรากฏดวงตาอันแดงกล่ำเรืองแสงได้ถึง 4 ดวง

    ทำให้เขานึกอะไรบางอย่างได้

    สมาร์ทโฟนถูกเอาออกมาเปิดกล้องเปิดไฟฉายและก็บันทึกภาพ

    ทำให้สิ่งมีชีวิตตรงหน้าตกใจมาก

    เมื่อแสงไฟจากสมาร์ทโฟนสาดจนเห็นร่างชัดเจน

    ลักษณะของมันเหมือนหมีดำตัวใหญ่แต่ใหญ่ประมาณ 1.5 เท่า มันมี 6 ขา มี 4 ตา

    แต่แล้วเหมือนมันจะตกใจและก็ถ่ายมูลออกมา จากนั้นมันก็กระโดดพรวดหายเข้าไปในป่าหญ้าที่สูงท่วมหัวอย่างรวดเร็ว

    ทิ้งไว้ก้อนมูลที่บัดนี้มันเรืองแสงสะท้อนกับแสงไฟของสมาร์ทโฟนอันล่ามวิ้งวับ

    ยูฟาริตัส ไม่ได้ทันสังเกตว่าเหตุใดมันถึงได้หนี

    เจ้าสิ่งนั้นมันคือแมงสี่ตาหกขา

    จากนั้นเขาก็เดินไปยังก้อนมูลที่ประกายแสงวิ้งวับ

    เขาคว้ามันขึ้นมา รู้สึกว่ามันยังอุ่นอยู่แต่ตอนนี้มันแข็งยิ่งฟันเหล็กกล้า

    ใช่แล้วนี่มันก้อนทองคำ

    เจ้าแมงสี่ตาหกขามันถ่ายออกมาเป็นทองคำแท้ 100%

    แต่หน้าแปลกแสดงว่าต้องมีคนเอาถ่านไฟมาวางไว้หรือเปล่าเพราะว่าการที่มันจะถ่ายก้อนทองคำมาได้มันต้องกินถ่านไฟเท่านั้น

    "คุณอยู่นี่เอง"

    ยูฟาริตัส การได้ยินเสียงมาจากด้านหลังเขาหันไปทันที

    ชมพู

    ไม่น่าเชื่อหญิงสาวผู้นี้มาตามหาเขา

    "คุณไม่เอาพาหนะติดตัวไปหรอคะ"

    ชมพูถามเพื่อตัดบรรยากาศที่เงียบจนน่าอึดอัด

    "พอดีวันนี้ อยากเดินเล่นน่ะ"

    "เดินเล่น?"

    หญิงสาวเอียงศีรษะด้วยความสงสัยจากนั้นเธอก็คลี่ยิ้มทำเอายูฟาริตัส ถึงกับขนลุกชัน

    "ในเวลานี้หรอคะมันก็ดึกมากแล้ว"

    "ใช่ ก็ อย่างนั้นล่ะ"

    หญิงสาวเดินเข้ามาใกล้แล้วเธอก็เห็นบางอย่างที่อยู่บนมือเขา

    "นั่นก้อนทองคำหรอคะแสดงว่าคุณเพิ่งไปเจอแมงสี่ตาหกขามันแน่เลย"

    "ใช่ "

    "งั้นกลับกันไหมคะ"

    "อ๋อ หมายถึงตอนนี้หรอ"

    "ใช่ค่ะคือที่นี่พอดึกแล้วจะไม่ค่อยปลอดภัย ตอนนี

    ทางการเขาเพิ่งประกาศเมื่อครู่นี่เองค่ะว่ามีพวกแวมไพร์มาอาละวาด และก็มีมอนสเตอร์ที่อันตรายจากป่าลึกหลุดเข้ามาปะปนกับชุมชน ดังนั้นดิฉันเลยรีบออกจากบ้านตามหาคุณ"

    "แล้วชมพูมายังไง"

    "เดินมาค่ะ

    "....."

    ในใจจองยูฟ่าริตัส จะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อเขาเดินจากบ้านมาตั้งแต่บ่ายแก่ๆ และก็เลยมาไกลแล้วหลายกิโลเมตรแล้ว หรือว่าชมพูเธอจะรู้แล้วแล้วก็สะกดรอยตามเขามา

    เมื่อสังเกตดูแล้วร่างกายของหญิงสาวไม่มีรอยเปื้อนโคลนไม่มีรอยเสร็จใบไม้หรือกระหืดก็หอบด้วยความเหนื่อยทำไมเขาไม่รู้ล่ะ ว่าถูกสะกดรอยตาม

    "ขากลับนี่คือจะเดินไปใช่ไหม"

    เขาถามชมพูกลับ

    ชมพูเอียงศีรษะและก็ยิ้มหวาน

    ไม่นานก็มีรถบริการแท็กซี่มาจอดที่พวกเขา

    ชมพูได้ติดต่อให้แท็กซี่มารับไว้ก่อนหน้านี้แล้ว เป็นเวลาที่เหมาะเจาะและแม่นยำ

    เหมือนถูกคาดการณ์มาล่วงหน้า

    แต่บางเรื่องชมพูก็พูดถูกอย่างหนึ่ง

    สถานที่ชุมชนแห่งนี้อยู่ดีๆ จะมีแมงสี่ตา 6 ขามาป้วนเปี้ยนแถวนี้ได้อย่างไรค่อนข้างที่จะอันตรายมาก

    เอาเป็นว่ายอมกลับไปก่อนดีกว่าและอาจจะถามเจ้าตัวตรงๆ ว่าต้องการอะไร

    เมื่อกลับมาถึงบ้านพัก

    ทั้งตัวเขาและชมพูก็ต่างกันนั่นอยู่ที่ห้องโถงใหญ่

    ตรงหน้าของเขายังมีชานมที่ชมพูเอามาเสิร์ฟให้ควันของมันยังโพยพุ่งกลิ่นของมันหอมหวานจนน่ากิน แต่บรรยากาศทำให้เขายังอึดอัดอยู่

    ต่อให้เขากำลังใช้ผ้าสะอาดเช็ดทองคำก้อนที่ได้มาจากแมงสี่ตาหกขา ดูเหมือนจะสงบนิ่งดูเหมือนจะเพลิดเพลินแต่ใจจริงแล้วตัวเขาเองก็ยังมีคำถามอยากจะให้เรื่องในหัวนี้ออกไปให้หมดจึงตัดสินใจเงยหน้าและมองหญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงข้ามเขาตอนนี้เธอกำลังเล่นสมาร์ทโฟนส่วนตัว

    การวางตัวของชมพูเริ่มแตกต่างออกไปจากวันแรกที่เจอกัน

    จำได้ว่าเธอมาในมาตรของนักศึกษาฝึกงานตำแหน่งแม่บ้าน

    ตอนนี้ดูแล้วเหมือนเธอจะเป็นผู้เช่าอาศัยอยู่บ้านพักเดียวกับเขานี่เอง

    "คือ.."

    "คะ"

    หญิงสาวละจากสมาร์ทโฟนวางมันลงและจ้องตาของยูฟาริตัส เหมือนเธออยากจะอ่านใจให้ได้

    มันยิ่งทำให้เขาอึดอัดหนักเข้าไปใหญ่

    "มีอะไรก็บอกมาตรงๆ ก็ได้นะ ข้าก็รับปากว่าข้าจะไม่ทำอะไรเจ้า"

    "ทำอะไรหรอคะ"

    ใบหน้าของหญิงสาวส่งยิ้มให้และยังจะมายิงคำถามย้อนกลับ

    คิ้วของยูฟาริตัส ต่อให้โค้งงามเหมือนพระพุทธรูปก็ยังถึงกับกระตุก นัยน์ตาแสดงถึงความไม่พอใจ

    นี่จะมาถามกลับทำไม

    "การมาของเจ้ามันไม่ได้ถูกต้องตั้งแต่แรก"

    ผู้หญิงสาวได้ยินประโยคนี้เธอก็นั่งกอดอกและไขว่ห้าง

    จากนั้นจึงยกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งจึงพูดกับไปคำนึง

    "แล้ว"

    มึงจะกวนตีนกูใช่ไหม

    ในใจของยูหาริตัสคิด

    "ที่นี่เขาไม่รับนักศึกษาฝึกงานและก็แทบจะไม่มีคนมานานหลายปีแล้ว ปกติที่นี่มีหุ่นยนต์ทำแทน ...แล้วอีกอย่างข้าก็กำชับว่าบ้านพักหลังนี้มีเพียงข้าคนเดียวเท่านั้น หากระบบผิดพลาดทุกอย่างต้องแจ้งมาก่อน แล้วข้าก็ส่งแจ้งซ่อมมาหลายครั้งแต่กลับไม่มีการติดต่อ ส่วนกล้อง CCTV ของที่นี่เหมือนจะถูกแฮกเพราะภาพถูกบิดเบือนด้วยอะไรบางอย่าง ทั้งหมดนี่เจ้าทำไปเพื่ออะไร"

    ในใจของหญิงสาวมีตาวูบมาช่วงเสี้ยววินาทีนึงในใจพลันคิดว่า ยูฟาริตัส ผู้นี้ที่กล่าวมา ล้วนเธอเป็นคนทำทั้งนั้น

    "หาคู่"

    นี่คือคำสั้นๆ ที่หญิงสาวตอบ

    บรรยากาศทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบ

    หาคู่

    จากนั้นยูฟาริตัส ก็เหยียดยิ้มนำทองก้อนสุดท้ายที่ตนทำความสะอาดเสร็จมาวางไว้ที่หน้ากับโต๊ะ

    "เจ้ารวยไหม"

    หญิงสาวขมวดคิ้วงุ่นแล้วจากนั้นเธอก็กอดอกยันหลังตัวเองไปพิงกับโซฟา

    "ทำไม"

    "ข้าไม่ใช่พวกกัดก้อนเกลือกิน ไม่ได้แบ่งไข่ต้มต้มครึ่งฟองซึ่งกันและกัน"

    หญิงสาวเงียบไม่ได้พูดอะไร

    "ถึงแม้ว่าหุ่นของเจ้าจะดีหน้าตาเจ้าจะสวย เรื่องสติปัญญาก็สำคัญ แต่สำคัญที่ต้องมีมาด้วยคือทรัพย์สมบัติ "

    ส่วนหญิงสาวก็ยังนิ่งฟัง

    "ทีแรกถ้าคิดว่าจะออกไปแบบเงียบๆ โดยที่ไม่ให้เจ้ารู้ แต่วันนี้ก็บังเอิญนะที่ข้าได้เจอแมงสีตา 6 ขาหากเจ้าไม่ได้มีทรัพย์สมบัติก็เอาทองเหล่านี้ไปเถอะ แล้วไม่ต้องกลับมายุ่งกับข้าอีก"

    หญิงสาวฟังดังนั้นจึงแสยะยิ้ม

    "แล้วถ้าฉันมีล่ะ"

    ฟังดังนั้นยูฟาริตัสหลับตา พอผ่านไปเพียงแค่ครึ่งนาทีเขาก็ลืมตาก้อนทองคำที่อยู่ตรงหน้าก็ค่อยๆ ละลาย และกลายเป็นของเหลว

    "เช่นนั้นเจ้าก็กลืนมันลงไป หากเจ้าพูดความจริงมันก็จะไม่มีผลอะไร แต่หากเมื่อใดที่เจ้าโกหกก็หมายถึงชีวิต"

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×