คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #211 : Star Fighters : Iceberg
“ถ้าเปรียบนี่เป็นภูเขาน้ำแข็ง ตัวของชั้นคือผู้ที่จะอยู่บนยอดของมัน”
“พี่ขอโทษ...พี่ไม่ได้ตั้งใจจะให้มันเป็นแบบนี้”
“ถ้าเกิดว่าพี่ไม่ได้ทัดเทียมกับเธอ เธอจะอยู่ข้างพี่ไหมนะ...”
ชื่อ-นามสกุล: โซเฟีย วาเลรี่ พาบลิวเซนโก || Zofia Valeri Pavlyuchenko
ชื่อเล่น: โซเฟีย || Zofia , Sophia
อายุ: 24 ปี
ชื่อในวงการ: ไอซ์เบิร์ก || Iceberg
ประเภทฮีโร่: Unpower
เผ่าพันธุ์: มนุษย์
วัน/เดือน เกิด: 27/1
สัญชาติ: รัสเซีย
เชื้อชาติ: รัสเซีย
สังกัด: Tech
สาย: Mule
ระดับ: Master แรงค์: S
ส่วนสูง: 173 เซนติเมตร
น้ำหนัก: 61 กิโลกรัม
เพศ: หญิง
รหัสประจำตัว: F 00000
สถาบันการศึกษา: แอสดราซิล เวิร์ล ฮีโร่ แอนด์ การ์เดี้ยน อคาเดมี่
สถานะ: เรียนอยู่
อุปนิสัย: [เรียบเรียงและเพิ่มเติมบางส่วน]
หน้านิ่ง ไม่เคยเปลี่ยนแปลงสีหน้าเลยแม้แต่ครั้งเดียว ทำให้การที่จะอ่านอารมณ์เธอนั้นยากมากจนแทบจะเรียกว่าเป็นไปไม่ได้เลย
ตัวของโซเฟียมีแต่ความเย็นชาเท่านั้นที่จะมอบให้คนอื่นๆ ราวกับภูเขาน้ำแข็งก้อนใหญ่ที่ตั้งตระหง่าน และไม่เคยมีใครหรืออะไรเจาะผ่านมันไปได้เลย มันทั้งดูงดงาม เข้าถึงยาก และโดดเดี่ยว
ไร้ซึ่งความสงสารหรือเห็นใจ สิ่งที่เธอสนใจก็มีเพียงแค่ตัวเองเท่านั้น ดังนั้นการที่จะไปสงสารคนอื่นมันก็ไม่ใช่เรื่องของเธอ แต่ถ้าเป็นเรื่องของคนอื่นแล้ว เธอนั้นชื่นชอบการมองคนอื่นที่อยู่ต่ำกว่า ไม่ก็สะใจกับความล้มเหลวเท่านั้น แต่ถ้าเกิดว่ากับน้องสาวของเธอแล้ว มันเหมือนจะมีเยื่อใยบางๆ คอยผูกไว้ ทำให้อย่างน้อยร่างนี้ก็พอจะเป็นห่วงยูริบ้าง
เห็นแก่ตัว มั่นใจในตนเองมากเกินไป และอีโก้สูงพอๆ กับยอดเขาน้ำแข็ง ทำอะไรตามใจตัวเองเสมอ ไม่ชอบให้ใครมาสั่งหรือให้คำแนะนำอะไรเพราะเธอนั้นมั่นใจในความสามารถของตนเองมากเกินไป และไม่อยากให้ใครมาทัดเทียมเธอได้ เธอจะต้องเป็นคนที่ยืนอยู่ด้านบนสุดเท่านั้น แม้ว่ามันจะอ้างว้างเพียงใดก็ตาม แต่กระนั้นด้วยนิสัยแบบนี้ทำให้ปั่นง่ายเช่นกัน
รู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควร ที่มันจะเป็นประโยชน์กับเธอ ถ้าเธอรับไม่ไหว ก็ไม่ยุ่ง รู้ลิมิตของตัวเองดีว่ารับได้แค่ไหน หากเกินที่จะต้าน ก็เลือกที่จะไม่ยุ่งด้วยตั้งแต่แรกเสียจะดีกว่า ดังนั้นแล้วการที่เธอจะมีปัญหากับพวกแรงค์ S ด้วยกันนั้นมีน้อยมาก ยกเว้นพวกหน้าใหม่ล่ะนะ
ความเป็นจริงแล้วนี่ไม่ใช่นิสัยของเธอเลยแม้แต่น้อย ตัวตนจริงๆ ของเธอแล้วอาจจะเรียกได้ว่าเป็น”พี่สาวในอุดมคติ” เสียด้วยซ้ำ ห่วงใยคนอื่น อัธยาศัยดี ยิ้มแย้ม สุภาพเรียบร้อย ช่วยเหลือคนที่ลำบาก รับฟังคนอื่น ให้คำแนะนำดีๆ ได้ตลอด หรือนิสัยดีๆ อื่นๆ จนแทบจะเรียกว่ากลับจากที่พล่ามมาข้างบนแบบหน้ามือเป็นหลังเท้าเลย
การที่นิสัยแย่ๆ ของเธอปรากฏออกมานั้นก็เป็นผลจากการทดลองที่ผิดพลาดตอนเรียนปริญญาโท ที่เธอเลือกที่จะทดลองกับตัวเองโดยไม่ผ่านการทดลองกับสัตว์เลย และผลลัพธ์ก็เป็นเช่นนี้ นิสัยเหล่านี้มันไม่ใช่ตัวของเธอเลย แม้บางครั้งจะเห็นเธอได้สติและนิสัยเก่าๆ กลับมา แต่มันก็แค่ชั่วคราวเท่านั้น แม้จะพยายามต่อต้านมากเพียงใด แต่มันก็ไม่สำเร็จ ก็ได้แต่หวังว่าตัวตนเก่าๆ ของเธอ มันจะกลับมาอีกในสักวันหนึ่ง และนั่นคงเป็นวันที่เธอนั้นมีความสุขที่สุดในชีวิต
สังเกตง่ายๆ ว่าเป็นนิสัยตอนไหนด้วยการแยกแยะน้ำเสียง ลักษณะการพูด และดวงตา ถ้าเป็นโซเฟียหลังการทดลองจะพูดจาห้วนๆ เสียงเรียบๆ นิ่งๆ แต่แฝงไปด้วยการจิกกัดไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม แต่ถ้าเป็นพี่สาวในอุดมคติโซเฟียแล้วล่ะก็ น้ำเสียงจะแตกต่างกันอย่างชัดเจน มันจะอบอุ่นกว่า เป็นมิตรกว่า น่าฟังกว่ามาก คำพูดที่เหมือนจะใส่ใจผู้ฟังเสมอ และตาข้างที่เป็นสีฟ้าจะค่อยๆ กลับมาเป็นสีทอง แต่ว่ามันก็แค่ชั่วคราว เดี๋ยวก็กลายเป็นสีฟ้าเหมือนเดิม
ประวัติ: [เล่าผ่านมุมมองของโซเฟีย]
ตัวฉันเกิดมาเป็นแค่คนธรรมดา ไม่ใช่อัจฉริยะเหมือนกับน้องสาวฉัน
เธอคนนั้นเป็นเหมือนกับสิ่งมีชีวิตอีกรูปแบบที่ไม่ใช่มนุษย์ ไม่ว่าฉันจะพยายามทำยังไงก็ไม่สามารถเข้าถึงเธอได้สักที
วันๆ เธอนั้นก็เอาแต่อยู่กับคณิตศาสตร์และหนังสือของเธอ ไม่เคยห่างเหินจากการเรียนเลยแม้แต่น้อย แม้กระทั้งโจทย์ที่เธอทำบางข้อตัวฉันก็ยังทำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
ราวกับว่าโลกของเธอนั้นมีเพียงแค่คณิตศาสตร์ ฉันพยายามเท่าไหร่ก็ยังหาทางแทรกเข้าไปไม่ได้ จนได้รู้จักกับสิ่งที่เรียกว่าวิทยาศาตร์ และนั่นก็ทำให้ฉันรู้ ว่านี่คือสิ่งที่ฉันถนัด
ฉันพยายามอย่างมากในการที่จะเรียนรู้วิทยาศาสตร์ให้ทัดเทียมกับยูริ โชคเข้าข้างที่ยูริสนใจแต่คณิตศาสตร์และฟิสิกส์นิดหน่อย ทำให้ฉันสามารถตามเธอทันในเรื่องนี้ได้
เป็นไม่กี่ครั้งที่ฉันพยายามจะเข้าไปคุยกับเธอ เราคุยกันเรื่องรูบิคและเธอก็ยังคงคำนวณออกมาได้เร็วและแม่นยำเหมือนกับไม่ใช่มนุษย์ และในที่สุดก็ได้โอกาสที่ฉันจะพูดเรื่องนี้กับเธอ
“มีคนเคยพูดไว้ว่าคณิตศาสตร์คือราชินีของวิทยาศาสตร์ เพราะอย่างนั้น เราช่วยมาเป็นราชินีของพี่ได้ไหมล่ะ” ฉันยิ้มให้กว้างและเป็นมิตรที่สุดเท่าที่จะทำได้ และเหมือนมันสำเร็จ เธอเริ่มเปิดใจกับฉันมากขึ้น จากที่ไม่เคยมาคุย ก็เริ่มเข้าหามากขึ้น มากขึ้น ระยะห่างระหว่างเราลดลงจนเรียกได้ว่าแทบจะไม่มี
แต่นั่นก็ทำให้ฉันพยายามมากขึ้นไปกว่าเดิม การเรียนในห้องอย่างเดียวคงจะไม่พอที่จะไปทัดเทียมยูริที่เป็นอัจฉริยะแต่กำเนิดได้ ดังนั้น ฉันจำเป็นที่จะต้องเรียนให้มันมากขึ้นไปอีก ลึกขึ้นไปอีก ฉันพยายามจะอ่านทุกอย่าง ทำความเข้าใจทุกสิ่ง วันว่างๆ ก็อ่านหนังสือแทนที่จะออกไปเล่น ไม่ก็ไปซิทอินในมหาวิทยาลัย ฟังศาสตราจารย์คนนั้นคนนี้สอน แม้ว่าในโรงเรียนจะทำคะแนนได้เต็มเสมอในวิชาวิทยาศาสตร์ แต่มันยังไม่พอ ถ้าจะอยู่เคียงข้างกับอัจฉริยะคนนั้นได้อย่างภาคภูมิ
นิสัยของยูริเปลี่ยนไปเป็นคนละคนจากการที่ฉันพยายามสอนเธอ จากคนที่หยิ่งยโสในความฉลาดและมองคนอื่นเหมือนชิมแปนซี แต่ในตอนนี้เหมือนเธอจะเรียนรู้ได้ และแทบจะไม่มีคำว่าหยิ่งยโสเหลืออยู่ในความคิดแล้ว เป็นช่วงเวลาที่เราสองคนมีความสุขที่สุด เราได้เข้าเรียนในแอสดราซิล เวิร์ล ฮีโร่ แอนด์ การ์เดี้ยน อคาเดมี่ตั้งแต่มัธยมปลายถึงมหาวิทยาลัย เป็นราชากับราชินีที่เคียงคู่กันเสมอมา
แต่กระนั้น ฉันเองก็ยังไม่สามารถยืนเคียงคู่กับเธอได้อย่างเต็มภูมิอยู่ดี ฉันรู้ตัวว่าไม่อาจไปเทียบกับอัจฉริยะที่ในรอบหลายร้อยปีจะมีสักคนแบบยูริ แต่แล้ววันหนึ่งก็มีคนได้ให้ข้อมูลการทดลองกับฉัน และบอกว่ามันจะทำให้ตัวฉันอยู่เคียงข้างยูริได้ และด้วยอารมณ์ชั่ววูบนั้น ทำให้ฉันตัดสินใจใช้มันกับตัวเองโดยไม่ไตร่ตรองก่อนเลย ทั้งๆ ที่ไม่ได้รู้จักคนที่ให้ข้อมูลด้วยซ้ำ
วันที่ 27 เมษายนซึ่งเป็นวันเกิดของฉัน ฉันได้เริ่มทำการทดลองนั้นภายใต้ชื่อของ “การศึกษาความสามารถในการดูดกลืนความร้อนของร่างกายมนุษย์” และหวังว่าเย็นวันนี้จะกลับไปทันงานเลี้ยงวันเกิด เพื่อที่จะได้เจอกับยูริ และบอกกล่าวเรื่องนี้กับเธอ
แต่มันผิดพลาด...หรือว่าเป็นความตั้งใจแรกก็ไม่อาจรู้ได้ ทุกสิ่งในห้องแลปนั้นถูกย้อมไปด้วยสีขาวของหิมะ ตัวฉันเองก็หมดสติไปจนกระทั่งมีคนมาเจอและนำไปที่ห้องพยาบาล
เมื่อได้สติอีกครั้งก็รู้สึกว่าโลกมันไม่เหมือนเดิม เหมือนกับว่าฉันไม่อาจควบคุมตัวเองได้เลย คำพูดที่ไม่อยากพูดก็พูดออกไป การกระทำที่ไม่อยากทำก็ทำลงไป อารมณ์และความคิดต่างๆ เปลี่ยนไปเหมือนกับถูกควบคุมอยู่ ถึงบางครั้งจะดึงการควบคุมกลับมาได้ก็ตามแต่ก็เป็นเพียงชั่วคราวไม่กี่นาที
แม้ว่าการที่ทำแบบนี้แล้วความสามารถของฉันจะเพิ่มขึ้น มันก็ไร้ค่าหากเป็นแบบนี้ สู้ตายไปเสียจะดีกว่า ฉันพยายามจะฆ่าตัวตายหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ต้องล้มเลิกซะทุกครั้งเมื่อเห็นหน้าของยูริลอยขึ้นมา...ถ้าฉันตายไป เธอคนนั้นจะรู้สึกยังไงนะ ในตอนนี้ฉันล้มเลิกการพยายามฆ่าตัวตายแล้ว และหันมาหาทางดึงการควบคุมร่างกายกลับมาให้ได้แทน
เพี๊ยะ
มือของฉันตบไปที่แก้มของยูริอย่างแรงจนเกิดเสียงดัง แม้ว่าฉันไม่ได้เป็นคนควบคุมมัน แต่ก็อดที่จะเจ็บปวดไม่ได้ที่จะเห็นตัวฉันทำร้ายน้องสาวที่ฉันรักแบบนี้
“ยูริ...พี่ขอโทษ” เสียงอันแผ่วเบาถูกเอ่ยออกมาจากปากของฉัน โดยความตั้งใจของตัวฉันเอง ก่อนจะหันหลังและเดินจากไป เสียงตะโกนของมิยะดังไล่หลังกลับมา เธอคนนั้นคงจะไว้ใจได้ และดูแลน้องสาวของฉันอย่างดีทำให้ฉันเองก็สบายใจไปเปราะหนึ่ง
สิ่งที่ฉันเห็นไปครั้งสุดท้ายก่อนที่จะหันหลังไปนั้นคือแววตาที่เศร้าหมองของยูริ มันแทบจะทำให้หัวใจของฉันแตกสลาย แต่ฉันยังต้องมีชีวิตต่อไป สักวัน ฉันจะเป็นผู้ชนะ และกลับไปหาน้องสาวสุดที่รักของฉันอีกครั้ง
และอยู่เคียงข้างเธอ ด้วยพลังของฉันเอง
ความสามารถ: ความสามารถในวิทยาศาสตร์ทุกแขนง โดยเฉพาะฟิสิกส์ , อยู่ในที่เย็นมากๆ ได้โดยไม่ต้องใส่ชุดป้องกัน
พลัง: ระบบเลเซอร์ทำความเย็นยิ่งยวด - [Cyrogenic Laser System : C.L.S.]
- เป็นเลเซอร์ที่จะลดความเร็วในการเคลื่อนที่ของอะตอมในบริเวณที่ถูกเลเซอร์ และจะทำให้อุณหภูมิในบริเวณนั้นลดลง โดยรุ่นล่าสุดนั้นสามารถทำให้อะตอมแทบจะหยุดนิ่งจนอุณหภูมิไปอยู่ถึงศูนย์สัมบูรณ์ (-273.15 องศาเซลเซียส)
- แต่ตามปกติแล้วทั่วๆ ไปเธอจะใช้อยู่ที่ราวๆ -100 องศาเซลเซียสเท่านั้น เพราะถ้าใช้ศูนย์สัมบูรณ์เลยจะใช้เวลาแช่แข็งนานเกินไป แต่แค่นี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้มนุษย์กลายเป็นประติมากรรมน้ำแข็งได้
- มีทั้งปืนแยกต่างหาก และแบบติดกับชุดเกราะ โดยแบบติดกับชุดเกราะมีฟังก์ชั่นพิเศษคือการเปลี่ยนไอน้ำในอากาศให้กลายเป็นหิมะอย่างรวดเร็วและลดอุณหภูมิของสิ่งแวดล้อมรอบตัว เพื่อสร้างโลกสีขาวอันเป็นสถานที่ที่เธอจะได้เปรียบที่สุด
- โลกสีขาวของเธอคือการที่ทุกอย่างรอบตัวนั้นย้อมไปด้วยสีขาวจากหิมะ และอุณหภูมิลดลงจนมีสภาพคล้ายกับขั้วโลก
- ร่างกายของเธอที่ผ่านการทดลองมานั้นทำให้มีอุณหภูมิเฉลี่ยที่ 10 องศาเซลเซียสเท่านั้น และเธอสามารถดูดความร้อนจากสิ่งที่เธอสัมผัสโดยตรงได้ แต่กระนั้นมันก็ควบคุมแทบจะไม่ได้ และช้ามากจนเอามาใช้ในการต่อสู้ยาก
รูปร่าง/หน้าตา: [เรียบเรียงใหม่]
หญิงสาวผมสีขาวสะอาดราวกับหิมะยาวถึงราวๆ กลางหลัง ดวงตาข้างขวาเป็นสีฟ้าเทอควอยซ์ แต่ข้างซ้ายกับเป็นสีทองอร่าม ใบหน้าสวยแต่กลับไม่มีการเปลี่ยนสีหน้าเลยแม้แต่ครั้งเดียว ผิวกายขาวจัดเหมือนกับไม่เคยต้องแดดมาก่อนในชีวิต ร่างของเธอนั้นจัดว่าสูงอยู่พอสมควร เธอไม่ได้ละทิ้งการออกกำลังทำให้มีกล้ามเนื้ออยู่บ้าง
เพิ่มเติม : [เพิ่มเยอะ]
- วันที่ 27 เดือนมกราคมเป็นวันที่ค้นพบทวีปแอนตาร์กติกาเป็นครั้งแรก โดยนักสำรวจชาวรัสเซีย
- ระวังอย่าสัมผัสตัวเธอนานเกินไป เพราะความร้อนของของร่างกายอาจจะถูกดูดไปได้ แต่ว่าต้องใช้เวลาอย่างน้อยๆ สามสิบนาทีเลยทีเดียวกว่าที่จะไปถึงระดับอันตราย
- การทดลองที่ผิดพลาดนั้นทำให้ตาขวาของเธอเปลี่ยนเป็นสีฟ้า ผิวขาวขึ้นจนน่ากลัว ใบหน้าไม่สามารณแสดงอารมณ์ได้ และอุณหภุมิร่างกายที่คงที่ตลอดเวลา ณ อุณหภูมิ 10 องศาเซลเซียส และเวลาเธอเดินผ่านใครแล้วจะเกิดความรู้สึกเหมือนมีลมหนาวพัดผ่านไป เป็นผลมาจากการที่ร่างกายของเธอดูดความร้อนจากรอบตัวนั่นเอง
- ความจริงแล้วโซเฟียเองก็เป็นอัจฉริยะคนหนึ่ง แต่เธอไม่เคยรู้ตัวเลย เพราะว่าเธออยู่กับยูริมาตั้งแต่เด็กจนคิดว่าเธอเองเป็นคนธรรมดาไปเสียแล้ว
- ไม่สามารถกินของร้อนๆ ได้ ลิ้นบอบบางมากจนอาจจะเป็นแผลได้ง่ายๆ ถ้าถูกอะไรร้อนๆ เข้า ดังนั้นจึงเลือกกินอะไรที่ไม่ต้องใช้ไฟปรุงหรือไม่ก็ทิ้งไว้จนเย็นชืดแล้วค่อยกิน
- ตัวตนจริงๆ ของเธอนั้นส่วนใหญ่จะโผล่มาอย่างมากวันละครั้งสองครั้ง
- ที่แต่งตัวแสบตาแบบนี้เหมือนจะต้องการให้คล้ายๆ กับเวลาภูเขาน้ำแข็งเรืองแสงออกมา
ลักษณะการแต่งกาย
ชุดไปรเวท: [แก้ไขเล็กน้อย]
เธอมักจะสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว ผูกเนคไทสีฟ้าอ่อนและคลุมด้วยเสื้อกาวน์สีเดียวกัน กางเกงชิโน่สีขาวเช่นเดียวกันกับเสื้อ แว่นสายตาสีฟ้าอ่อนๆ กระทั่งรองเท้ายังใส่เป็นบู้ทสีขาว แทบจะเรียกว่ามีแค่สองสีเท่านั้น คือสีขาวและสีฟ้าจนเรียกได้ว่าแสบตาเลยทีเดียว
ชุดปฏิบัติการณ์: ชุดเกราะที่ออกแบบมาเพื่ออยู่ในสภาวะที่อุณหภูมิต่ำแบบสุดขั้ว และยังติดตั้งระบบเลเซอร์ของเธอที่ชะลอการเคลื่อนไหวของอะตอมทำให้อุณหภูมิของวัตถุลดลงได้ โซเฟียมักจะใช้มันทำให้เกิดโลกสีขาว หรือการที่ทุกอย่างนั้นเต็มไปด้วยสีขาวจากไอน้ำในอากาศที่กลายเป็นหิมะ
ระดับชั้น
ชั้น ปริญญาเอก คณะวิทยาศาสตร์ สาขาฟิสิกส์ในสภาวะเย็นยิ่งยวด
ความคิดเห็น